Thursday, 3 July 2025
ค้นหา พบ 49177 ที่เกี่ยวข้อง

เห็นใจประชาชน แต่เข้าใจคนบริหาร!! ชาวอังกฤษ เซ็งจัด!! กลับจากประเทศ 'บัญชีแดง' เข้า UK เมื่อไร…มีจน!! หลัง นายกฯ UK สั่งกักตัวในโรงแรมที่รัฐจัดให้ แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ‘ออกเอง’

เรียกว่าเป็นอีกมาตรการใหม่ของรัฐบาลอังกฤษที่ค่อนข้างเข้ม หลังจากใครก็ตามที่กลับจากประเทศ 'บัญชีแดง' มาเข้าสหราชอาณาจักร จะต้องกักตัวในโรงแรมที่รัฐจัดให้ โดยที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะต้องจัดการด้วตัวเอง เพื่อหวังป้องกันไม่ให้สายพันธุ์ COVID-19 ที่กลายพันธุ์ใหม่เข้ามายังสหราชอาณาจักร
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เผยว่า ภายใต้กฎการเดินทางออกนอกประเทศของอังกฤษปัจจุบัน “การเดินทางไปต่างประเทศเพื่อการพักผ่อน” ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
เขากล่าวว่ารัฐบาลจะ “บังคับกฎนี้ ณ ท่าเรือ และสนามบินโดยจะมีการสอบถามผู้เดินทางว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องเดินทางและจะให้พวกเขากลับบ้านหากไม่มีเหตุผลที่ถูกต้องในการเดินทาง”
นายจอห์นสัน บอกกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่ารัฐบาลได้สั่งห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศจากประเทศ ที่มีความเสี่ยง จากเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ เช่น จาก แอฟริกาใต้, โปรตุเกส และ ประเทศในอเมริกาใต้
“เพื่อลดความเสี่ยงจากชาวสหราชอาณาจักร และผู้ที่มีถิ่นฐานอยู่ในสหราชอาณาจักร เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ เราจะออกกฎให้ผู้โดยสารขาเข้าดังกล่าวทั้งหมดไม่สามารถปฏิเสธการเข้าพักในโรงแรมกักตัวที่พักที่รัฐบาลจัดให้ เช่น โรงแรมกักตัวเป็นเวลา 10 วันโดยไม่มีข้อยกเว้น” บอริส จอร์สัน นายกรัฐมนตรีกล่าว
“พวกที่เดินทางเข้ามายังสหราชอาณาจักรจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จะถูกรับตัวจากที่สนามบินและถูกส่งเข้าที่พักหรือโรงแรมกักกันโดยตรง”
นายจอห์นสัน กล่าวว่า กรมอนามัยและการดูแลสังคม กำลังดำเนินการ เรื่องสถานที่กักตัว “โดยเร็วที่สุด”
30 ประเทศที่อยู่ใน “รายชื่อสีแดง” รวมถึงประเทศทั้งหมดในอเมริกาใต้ เช่นเดียวกับ ส่วนใหญ่ของ แอฟริกาตอนใต้ และ ประเทศโปรตุเกส
พริติ พาเทล รมต มหาดไทย เผยแผนการกำหนดมาตรการใหม่ต่อสภาฯ โดยแถลงกับ ส.ส. ว่า “มีคนเข้าออกประเทศในขณะนี้มากเกินไปในแต่ละวัน”
เธอกล่าวว่ามาตรการต่อไปมีจุดประสงค์เพื่อลด “การเข้ามาของผู้โดยสาร เพื่อให้มีผู้คนจำนวนน้อยเท่าที่จำเป็นที่ต้องเดินทางเท่านั้น ที่ทำเช่นนั้นเพื่อลดความเสี่ยงในแผนงานการฉีดวัคซีนป้องกันของเรา”
พริติ ยังเสริมต่อว่า “การไปเที่ยวพักผ่อนไม่ใช่เหตุผลที่ถูกต้อง” โดยเพิกเฉยต่อคำสั่งการให้อยู่บ้านในปัจจุบัน
“เราจะแนะนำข้อกำหนดใหม่เพื่อให้ผู้ที่ต้องการเดินทางต้องให้ข้อมูลก่อนว่าทำไมถึงต้องเดินทาง” พริติ กล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
“เหตุผลในการเดินทางนี้จะได้รับการตรวจสอบโดยสายการบินก่อนออกเดินทาง และแนวทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงการตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้าที่มีอยู่แล้วในแบบฟอร์มระบุสถานที่ของผู้โดยสาร”
เป็นที่เข้าใจกันว่าผู้เดินทางจากประเทศ “บัญชีแดง” จะต้องจ่ายเงินเองเพื่อกักตัวในโรงแรมที่จะถูกตรวจสอบโดยมีการตรวจโควิด-19 ระหว่างการเข้าพัก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการคาดการณ์อย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยนักวิจารณ์ระบุว่ารัฐบาลควรดำเนินการที่เข้มงวดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่านี้
พวกเขาได้ชี้ให้เห็นถึงตัวอย่างของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งมีการกักตัวอย่างถูกต้อง ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์แรกของการระบาดและได้กำจัดการแพร่กระจายของไวรัสภายในประเทศได้อย่างดี
รายงานในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีการแสดงความคิดเห็นโต้แย้งกันในรัฐบาลว่าควรมีขอบเขตในการกักตัวที่หลากหลายเพียงใด
มีการเสนอจากรัฐมนตรีบางคนว่าการกักตัวควรบังคับใช้กับผู้โดยสารขาเข้าจากทุกประเทศ ในขณะที่คนอื่นๆ สนับสนุนให้มีการกำหนดเป้าหมายไปยังบางประเทศที่ถือว่ามีความเสี่ยงมากกว่า
Nick Thomas-Symonds รมต เงา กท มหาดไทย พรรคแรงงาน กล่าวว่าแผนการกักตัวในโรงแรมมี “จำกัด เกินไป”
“การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยง ที่จะทำลายประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกัน ซึ่งจะคุกคามชีวิตและความหวัง” เขากล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
“เราไม่สามารถรู้ได้ว่าการกลายพันธุ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นจากที่ใดต่อไปและความจริงก็คือรัฐบาลจะต้องรับมือกับมัน
“พรรคแรงงานเรียกร้องให้มีการกักตัวในโรงแรมอย่างครอบคลุม และบอกว่าการประกาศในวันนี้มีการ จำกัด เกินไปทำให้มีช่องว่างมากในการป้องกันการแพร่เชื้อจากสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นใหม่
“เรารู้ว่าสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ และ บราซิล ได้มาถึงชายฝั่งเหล่านี้แล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่การควบคุมต่างๆ มีความหละหลวมมาก”



ที่มา:
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3776455979060052&id=178210772217942
https://news.sky.com/story/covid-19-uk-to-introduce-mandatory-hotel-quarantine-for-travellers-from-red-list-countries-12200338?fbclid=IwAR3RXbqn4sx9wrcCHghw4VqXsY-0A8Dt5-aHwbAeRV3TZWhtJcDb1n_uhZk

โดนเด็กย้อน!! ‘ธนกร’ แซะ ‘เฉลิม’ หลังอัดรัฐ ‘ตั้งผู้เฒ่าแก้ปัญหาบ่อน ชาติหน้าก็แก้ไม่ได้’ ขุด!! สมัยเพื่อไทยบ่อนเต็มบ้าน ไม่เห็นย้ายใครได้

ธนกร’ ย้อนแรง ‘เฉลิม อยู่บำรุง’ สมัยรัฐเพื่อไทย ‘บ่อนเต็มเมือง’ ไม่เห็นย้ายใครได้ โว ‘บิ๊กตู่’ ย้ายจริงคนทำผิด ชี้ คนเกษียนยังทำงานได้ หากทุกฝ่ายช่วยกัน

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย โจมตีรัฐบาลว่าตั้งคนเกษียณแก้ปัญหาบ่อน ชาติหน้าก็แก้ไม่ได้ ว่า…


“สมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมีบ่อนเต็มไปหมดใช่หรือไม่ แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม แก้ปัญหาบ่อนอย่างเป็นระบบ ลงโทษเด็ดขาด ย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บัญชาการ และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนแนวคิดเปิดบ่อนพนันถูกต้องตามกฎหมายก็มีคณะกรรมการศึกษาข้อดีข้อเสียอยู่ เพราะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย สุดท้ายก็อยู่ที่ประชาชน”


นายธนกร กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม เสมือนคนเกษียณแล้วแต่ยังมีไฟอยู่ ดังนั้นอย่าดูถูกคนเกษียณ เพราะแต่ละคนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถ และเป็นที่ยอมรับของสังคม เชื่อว่าชาตินี้แก้ได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องรอชาติหน้า หากทุกฝ่ายช่วยกัน ส่วนที่บอกว่าคนมีอำนาจใหญ่โตหากินกับบ่อนการพนัน ไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ตนมั่นใจในตัวพล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะจัดการเด็ดขาดโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประชาชนเผชิญสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งต้องคุมเข้ม และหวังว่า ร.ต.อ.เฉลิม คงไม่ใช้มุขเดิมมาตำหนิตนว่าเป็นมวยไม่มีราคา ม้าไม่มีชั้นอีก

ใครสอน ก็ไม่เคยจำ!! ‘ดร.นิว’ เปิดคอร์ส สอนวิทยาศาสตร์พื้นฐานของ ‘วัคซีน’ เน้นป้อนความรู้สู่ ‘ธนาธร’ หวังรู้แม่น ก่อนป้ายสีสถาบันฯ

คนทั่วไปอาจจะไม่เข้าใจว่า ผมเป็นวิศวกรเคมี แต่ไปทำปริญญาเอกด้านการจำลองเชิงกลของโมเลกุลทางเคมีและไปทำวิจัยหลังปริญญาเอกด้านเมมเบรนกับชีวเคมีมาด้วย ผมจึงมีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนอยู่พอสมควร ทั้งในเชิงของชีวเคมี และวิศวกรรมเคมี

ผมได้ฟังธนาธรออกมาพูดเรื่องวัคซีนอย่างใส่ร้ายป้ายสีเพื่อพยายามด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่เคยทำมาสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ที่ไม่น่าประหลาดใจเลยสำหรับผมก็คือการที่ธนาธรพูดเรื่องวัคซีนอย่างปราศจากความเข้าใจวิทยาศาสตร์พื้นฐานเอาเสียเลย ซึ่งก็คงเป็นอย่างที่ธนาธรกล่าวถึงวิชา Thermodynamics ว่าเรียนไม่รู้เรื่องเลย ทำข้อสอบไม่ได้เลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจบปริญญาตรีมาได้อย่างร่อแร่อย่างไรบ้าง

ผมเองก็กลัวคนไทยจะหลงเชื่อคนโง่ที่ไม่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ก็จำเป็นที่จะต้องเขียนอธิบายเรื่องวิทยาศาสตร์พื้นฐานของวัคซีนให้คนที่ดีแต่พูดสร้างความเสียหาย ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองได้หายโง่กันเสียที และให้คนไทยได้รู้เท่าทันธนาธร เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหรือวัคซีนทางปัญญาให้กับประชาชนอีกทางหนึ่ง

การวิจารณ์แบบมั่ว ๆ ตาม ๆ กันของธนาธรและลิ่วล้อ แสดงถึงเจตนาต่ำตมในการบิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยขาดความรู้และสติปัญญา แม้ว่าบริษัท Siam Bioscience จะไม่ได้ผลิตวัคซีนโดยตรง แต่บริษัท Siam Bioscience ผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) ซึ่งสามารถนำไปใช้ทางการแพทย์ได้อย่างกว้างขวาง รวมถึงนำมาใช้เป็นวัคซีนได้อีกด้วย

ยาสำคัญที่บริษัท Siam Bioscience ได้รับการรับรองแล้วผลิตอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ ยาฮอร์โมนอีริโทโพอิติน (Erythropoietin) สำหรับกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง รักษาภาวะโลหิตจางจากไตวายเรื้อรัง และ ยาฟิลกราสทิม (Filgrastim) สำหรับกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดขาวควบคู่กับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) รวมถึงไวรัสเวกเตอร์ (Viral vectors) ที่ถูกนำมาใช้เป็นวัคซีนสำหรับไวรัสโควิดด้วยเช่นกัน

การขาดทุนของบริษัท Siam Bioscience มาจากการลงทุนในเทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) ภายใต้เจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะให้ประชาชนชาวไทยสามารถได้รับยาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงในราคาที่ถูกลง สร้างความมั่นคงทางยา และดูแลรักษาสุขภาพของคนไทย ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่บริษัท Astrazeneca เลือกบริษัท Siam Bioscience เป็นฐานในการผลิตวัคซีนโควิดพร้อมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพิ่มเติมให้อีกด้วย

ดังนั้นการออกมาบิดเบือนให้ร้ายบริษัท Siam Bioscience เพื่อให้กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ในครั้งนี้ เป็นการแพร่เชื้อโรคแห่งความโง่ แทนที่จะช่วยกันสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตให้กับประชาชน แต่คนเหล่านี้กลับปิดกั้นไม่ให้คนไทยเข้าถึงข้อมูลความรู้ทางเทคโนโลยีชั้นสูงที่ทันสมัย ด้วยยัดเยียด การบิดเบือนเรื่องความมั่นคงทางสุขภาพและชีวิตของประชาชนชาวไทยให้กลายเป็นเรื่องล้มเจ้าตามที่พวกเขาต้องการ

...ไวรัสโควิด-19 หน้าตาเป็นอย่างไร?
ไวรัสเป็นอนุภาคชีววัตถุขนาดเล็ก มีโครงสร้างพื้นฐานประกอบด้วยสารพันธุกรรมหรือกรดนิวคลีอิกและโปรตีนห่อหุ้ม ต้องอาศัยอยู่ในสิ่งมีชีวิตในการเพิ่มจำนวน โดยไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้เองในธรรมชาติ

ในกรณีของไวรัสโควิด SARS-CoV-2 มีสารพันธุกรรมชนิด RNA เป็นไวรัสแบบมีเปลือก ซึ่งมีเปลือกไขมันห่อหุ้มแกนกลางที่เป็น RNA กับโปรตีนอีกชั้นหนึ่ง จึงไม่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม สามารถถูกทำลายได้ง่ายด้วยความร้อน แสงแดด ตลอดจนสารละลายไขมัน เช่น แอลกอฮอล์ และน้ำสบู่

นอกจากนี้เปลือกไขมันนี้ยังมีปุ่มโปรตีนยื่นออกมาโดยรอบ เรียกว่า สไปค์ (Spike) ที่เป็นกลไกสำคัญในการเกาะและแทรกซึมเข้าสู่เซลล์ชนิดที่มีโปรตีนตัวรับชื่อว่า ACE2 อยู่บนผนังเซลล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์ในระบบทางเดินหายใจ และรูปร่างของโปรตีนสไปค์นี่เองที่เป็นที่มาของชื่อโคโรนาไวรัสเพราะมีรูปร่างดูคล้ายมงกุฎ

...ภูมิคุ้มกันไวรัสคือวัคซีน
ไวรัสโควิดแพร่ระบาดผ่านทางระบบทางเดินหายใจ เมื่อร่างกายได้รับไวรัสโควิด ร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา หากสามารถผลิตภูมิคุ้มกันได้เพียงพอ ร่างกายก็จะสามารถต้านทานไวรัสโควิดได้ ตลอดจนไม่มีการแสดงอาการใด ๆ

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนติดไวรัสโควิดแล้วไม่แสดงอาการป่วย ในขณะที่บางคนแสดงอาการป่วย

การรับเชื้อไวรัสโควิดโดยตรงแล้วปล่อยให้มีการสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจึงถือเป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพและชีวิต ดังนั้นวัคซีนจึงมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้ร่างการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาโดยไม่จำเป็นต้องได้รับเชื้อไวรัสตามธรรมชาติ และเมื่อมีโอกาสได้รับเชื้อไวรัส ไวรัสก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่เพียงพอแล้ว

...เทคโนโลยีวัคซีนแบบดั้งเดิมในการผลิตวัคซีนโควิด-19
ในปัจจุบันวัคซีนโควิดมีหลายชนิด ตั้งแต่แบบที่เป็นเทคโนโลยีวัคซีนดั้งเดิม เช่น

ประเภทหนึ่ง วัคซีนแบบเชื้อเป็น (Live Attenuated Vaccine)mคือ การนำไวรัสที่อ่อนฤทธิ์จนไม่สามารถก่อโรคได้เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และ

ประเภทสอง วัคซีนแบบเชื้อตาย (Inactivated vaccine) คือ การนำไวรัสที่ตายแล้วมากระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

สำหรับไวรัสโควิดขณะนี้มีแค่เพียงวัคซีนแบบเชื้อตายเท่านั้น เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่และการทำให้ไวรัสอ่อนฤทธิ์มีความยุ่งยากและซับซ้อนกว่า

แม้วัคซีนแบบเชื้อตายจะผลิตขึ้นมาจากเชื้อตายที่ไม่ก่อโรคซึ่งมีความปลอดภัย แต่วัคซีนแบบเชื้อตายมีราคาแพง เพราะอาศัยเชื้อไวรัสที่ยังมีชีวิตจำนวนมากในการผลิต จึงมีความจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีการผลิตที่มีความปลอดภัยสูง ยกตัวอย่างเช่น วัคซีนโควิดของบริษัท Sinovac และ Sinopharm จากประเทศจีน

...พันธุวิศวกรรมกับเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตวัคซีนโควิด-19
แต่เทคโนโลยีชั้นสูงสมัยใหม่ โดยเฉพาะพันธุวิศวกรรม (Genetic engineering) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ทั้งในด้านการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพของวัคซีน จึงไม่จำเป็นต้องใช้อนุภาคของเชื้อไวรัสทั้งอนุภาค หากแต่สามารถนำส่วนหนึ่งส่วนใดของอนุภาคไวรัสมาใช้ผลิตวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้

ยกตัวอย่างเช่น งานวิจัยพบว่าปุ่มโปรตีนที่ยื่นออกมาโดยรอบของไวรัสโควิด หรือ สไปค์ เป็นกลไกสำคัญในการเกาะและแทรกซึมเข้าสู่เซลล์ชนิดที่มีโปรตีนตัวรับชื่อว่า ACE2 อยู่บนผนังเซลล์ จึงจัดได้ว่าเป็นแอนติเจน (Antigen) หรือ สิ่งแปลกปลอมที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี (Antibody) นั่นก็คือ ภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เอง โดยแอนติบอดีสามารถระงับและป้องกันการทำงานของสไปค์เหล่านี้ได้

เมื่อสไปค์ไม่สามารถใช้เกาะและแทรกซึมเข้าสู่เซลล์ดังกล่าว ไวรัสโควิดก็จะไม่สามารถเพิ่มจำนวนและหมดฤทธิ์ไปในที่สุด เป็นไปตามหลักการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์ ดังนั้นส่วนหนึ่งส่วนใดของอนุภาคไวรัสจึงสามารถนำมาทำเป็นวัคซีนเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีได้

...เทคโนโลยีขั้นสูงสมัยใหม่ในการผลิตวัคซีนนี้ แบ่งได้เป็นสามประเภท
ประเภทหนึ่ง วัคซีนแบบใช้โปรตีน (Protein-based Vaccine) คือ การนำโปรตีนของไวรัสโควิดโดยเฉพาะส่วนของสไปค์มาฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน โดยสามารถใช้ยีสต์ แบคทีเรีย หรือพืชบางชนิด เช่น ใบยาสูบ ในการผลิตโปรตีนของไวรัสโควิดได้ วัคซีนชนิดนี้สามารถผลิตได้ง่าย มีความรวดเร็ว ราคาไม่แพง แต่อาจต้องใช้สารเสริมฤทธิ์ (adjuvant) เพื่อช่วยกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น วัคซีนโควิดของบริษัท Novavax จากประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้บริษัท Baiya Phytopharm ของไทยเองก็กำลังวิจัยและพัฒนาวัคซีนแบบใช้โปรตีนด้วยความร่วมมือจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ประเภทสอง วัคซีนแบบใช้สารพันธุกรรมกรดนิวคลีอิก (Nucleic-acid Vaccine) แบ่งออกเป็นสองประเภท คือวัคซีน RNA (RNA Vaccine) และ วัคซีน DNA (DNA Vaccine)


สำหรับไวรัสโควิด วัคซีนที่มีความคืบหน้าจนเริ่มมีการฉีดแล้ว คือ การนำสารพันธุกรรม mRNA (Messenger RNA) ของสไปค์มาฉีดในการสร้างภูมิคุ้มกัน การใช้วัคซีนชนิดนี้เป็นการใช้ครั้งแรกในมนุษย์จึงถือได้ว่าอาจมีความเสี่ยงในระยะยาวเนื่องจากเป็นการฉีดสารพันธุกรรมโดยตรง อีกทั้งยังจำเป็นต้องอาศัยอุณหภูมิที่เย็นจัด -20 องศา ถึง -70 องศา ในขบวนการขนส่ง รวมไปถึงราคาที่ค่อนข้างแพงของวัคซีน แม้จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่สามารถทราบได้ว่าจะมีผลเคียงข้างในอนาคตหรือไม่ จึงนับว่ามีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย และที่ประเทศนอร์เวย์พบผู้เสียชีวิตถึง 29 ราย ยกตัวอย่างเช่น วัคซีนโควิดของบริษัท Pfizer/BioNTech และ Moderna จากประเทศสหรัฐอเมริกา
ประเภทสาม วัคซีนแบบใช้ไวรัสเวคเตอร์ (Viral Vector Vaccine) คือ การใส่สารพันธุกรรมของไวรัสจากสไปค์เฉพาะส่วนที่กระตุ้นภูมิต้านทาน เข้าไปในไวรัสอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ก่อโรคในมนุษย์ แล้วนำมาฉีดเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา โดยวัคซีนประเภทดังกล่าวมีการผลิต และศึกษาวิจัยในมนุษย์แล้ว เช่น วัคซีนอีโบล่า เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น วัคซีนโควิดของบริษัท AstraZeneca จากประเทศอังกฤษ
ประเทศไทยโชคดีที่มีฐานการผลิตวัคซีนโควิดเป็นของตัวเอง เนื่องจากบริษัท AstraZeneca ได้คัดเลือกให้บริษัท Siam Bioscience ของประเทศไทย ที่มีศักยภาพในด้านบุคลากรและกำลังการผลิตที่มากถึง 200 ล้านโดส ตลอดจนความพร้อมในการรองรับเทคโนโลยีในการผลิตชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) ให้ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิด-19 และเป็นฐานการผลิตเพียงแค่บริษัทเดียวในภูมิภาคอาเซียน ทั้งหมดเป็นเพราะการลงทุนมหาศาลของบริษัท Siam Bioscience ในการวางรากฐานของเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูงสำหรับการผลิตชีววัตถุคล้ายคลึง ซึ่งมีความซับซ้อนมากกว่าการผลิตยาสามัญทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ให้คนไทยได้เข้าถึง ยาชีววัตถุ ในราคาถูกและปลอดภัย
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพระราชวิสัยทัศน์อันยาวใกลในพระบาทสมเด็จพระมหาชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ที่ทรงเสี่ยงลงทุนในการผลิตยาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงมาก และทรงยึดถือหลักการขาดทุนคือกำไรเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม และการสืบสานต่อยอดพระราชดำริและงานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงงานพระราชทานนี้ทำให้ไทยเราได้เปรียบหลายประเทศ ทำให้เรารับการถ่ายทอดเทคโนโลยีได้ ทำให้เราพึ่งพาตนเองได้
ภาษิตจีนได้กล่าวไว้ว่า กินน้ำ อย่าลืมคนขุดบ่อ และ ลูกหลานกตัญญู โชคดี เช่นเดียวกับที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้กล่าวไว้ว่า เกิดเป็นคุณ ต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ขอขอบคุณทีมไทยแลนด์และสยามไบโอไซนส์ ที่ทำงานหนัก เสียสละที่ทำงานนี้เพื่อประเทศชาติ และขอกราบสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้



ที่มา:
https://mgronline.com/daily/detail/9640000008646
อ้างอิง:
Ewen Callaway. Nature. (April 28, 2020). The race for coronavirus vaccines: a graphical guide. https://www.nature.com/articles/d41586-020-01221-y
MANUEL CANALES et al. National Geographic. (October 14, 2020). INVASION AND RESPONSE.https://www.nationalgeographic.com/magazine/2020/11/explore-how-coronavirus-attacks-the-body-and-how-the-body-fights-back/
British Embassy Bangkok. GOV.UK. (October 12, 2020). Thailand joins forces with AstraZeneca on COVID-19 vaccine manufacturing.https://www.gov.uk/government/news/thailand-joins-forces-with-astrazeneca-on-covid-19-vaccine-manufacturing--2

รพ.ศิริราชวอนบริจาคด่วน หลังเลือดขาดแคลนหนัก เหตุโควิด-19 กระทบแรง ห่วง 1 ก.พ.นี้ เปิดให้บริการรักษาเต็มรูปแบบ อาจไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยได้

เผยเลือดสำรองจะใช้ได้ไม่เกิน 4-5 วัน ซ้ำเลือดหมู่ A และ O ยังมีน้อยกว่าเลือดสำรองหมู่อื่น สามารถติดต่อบริจาค ศูนย์รับบริจาคเลือดศิริราช อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ชั้น 3 รพ. ศิริราช ทุกวัน เวลา 08.30 - 16.00 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-414-0100 , 0 2-414-0102

รศ.พญ. ปาริชาติ เพิ่มพิกุล หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์การธนาคารเลือด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการบริการรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะการบริจาคเลือดได้เพียงวันละ 60-100 ถุง ขณะที่ความต้องการใช้เลือดของผู้ป่วยวันละประมาณ 120-180 ถุง บางวันสูงถึง 200 ถุง คาดว่าเลือดสำรองจะใช้ได้ไม่เกิน 4-5 วัน ซ้ำเลือดหมู่ A และ O ยังมีน้อยกว่าเลือดสำรองหมู่อื่น และยิ่งหนักใจวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ โรงพยาบาลศิริราชจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ยิ่งลำบากแน่นอน อาจทำให้ไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง

จึงขอเชิญชวนผู้ใจบุญทุกท่านร่วมบริจาคเลือดช่วยผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยที่รอการผ่าตัด รวมถึงผู้ป่วยโรคเลือดที่จำเป็นต้องใช้เลือด หากท่านมีสุขภาพดี และไม่มีความเสี่ยง มาร่วมช่วยชีวิตคนไทยด้วยกัน ซึ่งศูนย์รับบริจาคเลือดศิริราชมีระบบคัดกรองอย่างปลอดภัยและได้มาตรฐาน โดยวัดอุณหภูมิทั้งเจ้าหน้าที่และผู้บริจาค รวมทั้งทำความสะอาดอุปกรณ์และสถานที่อย่างสม่ำเสมอ

สำหรับท่านที่ต้องการบริจาคเลือด ขอให้เตรียมร่างกายให้พร้อม โดยพักผ่อนเพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง น้ำหนัก 48 กิโลกรัมขึ้นไป และต้องไม่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคลมชัก โรคหัวใจหรือเคยเจ็บแน่นหน้าอก เป็นต้น

ทั้งนี้ สามารถรับประทานอาหารและน้ำได้ตามปกติ แต่ขอให้หลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่มีไขมันสูง งดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่เข้าข่ายผู้มีความเสี่ยงติด COVID-19 สามารถติดต่อบริจาคเลือดได้ที่ ศูนย์รับบริจาคเลือดศิริราช อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ชั้น 3 รพ. ศิริราช ทุกวัน เวลา 08.30 - 16.00 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-414-0100 , 02-414-0102



ที่มา: https://www.naewna.com/local/549119

'พี่วัน’ ลั่น!! ไม่เอาเผด็จการ แต่เทิดทูนสถาบันกษัตริย์ชัดเจน!! ย้ำชัดลบคลิปไลฟ์สั่งสอน 'แอมมี่' หลังล้อเลียนเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ‘ไม่ใช่เพราะกลัว’ แต่ห่วงบานปลาย เหตุแฟนคลับ 2 ฝ่าย แรงถึงขั้นนัดไฝว้!!

กลายเป็นภาคต่อที่มันส์หยด หลังจาก นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นว่า ‘วิธีเรียกร้องประชาธิปไตยของพวกคุณคือการแต่งตัวล้อเลียนเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินกันเหรอครับ #ติดคุกอย่ามาร้องก็แล้วกัน’ โดยสะท้อนไปถึงกรณีนายไชยอมร แก้ววิมลพันธุ์ หรือ ‘แอมมี่ บอททอมบลูส์’ แนวร่วมม็อบราษฏร ที่โพสต์ภาพตนเองแต่งกายด้วยชุดสูท นั่งข้างรถกระบะ ใส่ชุดสูท สวมแว่นตา สะพายกล้อง มือถือสมุดอยู่ข้างรถกระบะ จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทางโซเซียลทำให้คนไทยรับไม่ได้เพราะเห็นว่ามีเจตนาล้อเลียนนั้น

ทว่าหลังจาก ‘พี่วัน-ใจถึงพึ่งได้’ โพสต์แสดงความคิดเห็นดังกล่าวออกไป ก็ปรากฏว่า มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะมีฝ่ายแนวร่วมม็อบเข้าไปโพสต์ด่าทอนายวันอย่างดุเดือด ขณะที่แฟนคลับ ‘ใจถึงพึ่งได้’ ของนายวัน ก็ได้พร้อมใจกันออกมาปกป้องเช่นกัน

เรียกว่าเหตุการณ์ร้อนระอุไปทั้งโซเซียล ทำให้นายวัน ตัดสินใจลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งในเวลาต่อมา แต่ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่อง ทำให้เจ้าตัวต้องออกมาโพสต์ว่า “วันนี้ทัวร์ลงทั้งวันเลย 5555 ปล. เห็นต่างแต่อย่าแตกแยกนะครับ”

ล่าสุดนายวัน ไลฟ์สดชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้นว่า หลังจากที่ตนโพสต์ประเด็นดังกล่าวออกไป ก็มีคนเข้ามาคอมเม้นต์ด่าตนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ "คนต่างแดน" เอาทัวร์มาลงในเพจตน ด่าสาดเสียเทเสีย อยากถามว่านี่คือประชาธิปไตยหรือ การเรียกร้องประชาธิอปไตย แต่ไปล้อเลียนเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินมันใช่หรือไม่ ที่ตนเตือนเพราะกลัวว่าบางคนอาจจะต้องติดคุกติดตาราง

“คนต่างแดนเอาทัวร์มาลงด่า มาถล่มผมยิ่งกว่าพายุบุแคมถล่มอ่าวไทยแหลมตะลุมพุกอีก แต่แฟนคลับเขารักผม เขาก็เข้ามาเถียงแทน จนมีการด่าทอท้าทายกันไปมา กลายเป็นแฟนคลับฝ่ายผมทะเลาะกับฝ่ายคนของคุณ มีการท้าตีท้าต่อย นัดจะทำร้ายร่างกายกัน ผมก็บอกว่าอย่าทำ ไม่อยากให้บ้านเมืองบอบช้ำไปมากกว่านี้ จึงตัดสินใจลบโพสต์เพื่อไม่ให้คนทะเลาะกัน ก็เท่านี้เอง ผมไม่ได้ลบโพสต์เพราะกลัวอะไร” นายวัน กล่าว

นายวัน ยังกล่าวว่า สิ่งที่ตนอยากจะบอกก็คือ พวกคุณเห็นต่างจากคนอื่น เห็นต่างจากรัฐบาล แล้วคุณก็เรียกร้องให้คนอื่นยอมรับความเห็นต่างของพวกคุณ ส่วนตนก็เห็นต่างจากความคิดของพวกคุณก็เป็นสิทธิของตน แต่พอตนเห็นต่างจากความคิดเห็นของพวกคุณ ก็มาด่า เรียกทัวร์มาลง ด่าเสียหายต่างๆ นาๆ มีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ซึ่งให้ทนายความเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว ถ้าจะฟ้องก็ต้องติดคุกหลายคน เดือดร้อนแน่นอน แต่ตนไม่อยากจะทำ แต่การที่ตนไม่เห็นด้วยกับพวกคุณแล้วมาด่าแบบนี้ เขาเรียกประชาธิปไตยหรือ
 
“ฟังชัดๆจากปาก ผมชื่อวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ ไม่ชอบรัฐบาลประยุทธ์ อยากแก้ไขรัฐธรรม อยากเลือกตั้งใหม่ และอยากลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่ผมเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ใครไม่รักสถาบันก็เป็นเรื่องของคุณ แต่ผมรักสถาบันก็เป็นสิทธิของผม การที่คุณเข้ามาด่าผมถือว่าไม่ถูกต้อง ผมลบโพสต์เพราะไม่อยากให้ทะเลาะกัน กูยอมถอยถึงขนาดนี้แล้ว พวกมึงยังจะเอาอะไรกับกูอีกว่ะ” นายวัน กล่าว

และขอย้ำว่าการที่ตนยอมถอยขนาดนี้แล้ว ยังจะตามมารังควานในโพสต์อื่นๆ อีก แบบนี้ไม่ยุติธรรม ขอเตือนว่า เบาได้ก็เบา อย่าไปหลอกเด็กให้ออกมาอยู่แนวหน้า จนเด็กต้องติดคุกติดตะรางจนเสียอนาคต บางคนบอกว่า เราเลือกไม่ได้เพราะเด็กมีความรู้มีความคิดของตัวเอง ตนไม่รู้หรอกว่า เด็กถูกหลอกหรือถูกล้างสมอง ขอเตือนไว้ด้วยความหวังดี ส่วนใครจะเลิกเป็นแฟนคลับก็ตามสะดวก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายนายวัน ได้พูดถึงนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และเป็นผู้ลี้ภัยในญี่ปุ่น ได้เข้ามาดูการไลฟ์สดด้วยว่า หลังจากนายปวินเอาทัวร์มาลง ตนจึงได้โทร.ไปหานายปวิน แต่นายปวินไม่ยอมรับสาย ตนอยากรู้ว่าไปทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจ ถึงได้พาพวกมาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรงขนาดนี้

“ผมแค่อยากคุยกับคุณปวินว่า มีปัญหาอะไรกับผม คุณเห็นต่างจากคนอื่นก็เรื่องของคุณ ผมเห็นต่างจากเรื่องของคุณ ก็เรื่องของผมแล้วไม่ต้องกลัวจะไม่มีการเหยียดเพศเพราะเพื่อนข้ามเพศของผมเยอะแยะ ที่ผมโทร.ไป ก็เพื่ออยากรู้เท่านั้นเองว่ามาด่ากันทำไม” นายวัน กล่าว



แหล่งที่มา:
https://siamrath.co.th/n/215966


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top