Thursday, 26 June 2025
ค้นหา พบ 49041 ที่เกี่ยวข้อง

สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดเผยว่าประชาชนผู้ตื่นตระหนกพากันหลบหนีไปยังพื้นที่ปลอดภัย หลังอาคารหลายหลังได้รับความเสียหาย และพังถล่มลงมาบางส่วน จากแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.2 ที่สั่นสะเทือนเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซียในวันศุกร์ (15 ม.ค.)

เบื้องต้น ราดิตยา จาตี โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า "มีผูู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 24 คน" ก่อนต่อมาจะปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเป็นอย่างน้อย 7 คน โดยผู้เสียชีวิต 4 คนและผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 637 คนอยู่เมืองมาเจเน ส่วนที่เมืองมามูจู ที่อยู่ติดกัน พบผู้เสียชีวิต 3 คนและได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน

หน่วยงานกู้ภัยและช่วยเหลือของอินโดนีเซียแห่งนี้ เปิดเผยว่าพวกชาวบ้านหลายพันคนต้องหลบหนีออกจากที่พักอาศัยเพื่อความปลอดภัย หลังเกิดแผ่นดินไหวตอนประมาณ 1.00 น.ของเช้ามืดวันศุกร์ (15 ม.ค.) ก่อความเสียหายแก่บ้านเรือนอย่างน้อย 60 แห่งและอาคารขนาดใหญ่หลายหลัง ในนั้นโรงแรมอย่างน้อย 1 แห่งพังถล่มลงมา

แผ่นดินไหวสามารถสัมผัสได้อย่างรุนแรงเป็นเวลาราวๆ 7 วินาที แต่ไม่ก่อให้เกิดสึนามิแต่อย่างใด

ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองมามูจู เมืองเอกของจังหวัดสุลาเวสีตะวันตก ไปทางใต้ราว 36 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้ดิน 18 กิโลเมตร ตามข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ

ทั้งนี้รายงานจากเมืองมามาจู เผยว่า อาคารบางแห่งได้รับความเสียหายเลวร้าย ในนั้นรวมถึงโรงแรม 2 แห่ง สำนักงานผู้ว่าการและหอประชุมแห่งหนึ่ง และถนนที่มุ่งหน้าสู่เมืองมามาจู อย่างน้อย 1 เส้นทาง ถูกตัดขาด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากเพิ่งเกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.9 ในวันพฤหัสบดี (14 ม.ค.) ในพื้นที่เดียวกันนี้ ก่อความเสียหายแก่อาคารและบ้านเรือนหลายหลัง

สำนงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซียบอกว่าแผ่นดินไหวหลายระลอกในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ก่อดินถล่มอย่างน้อยๆ 3 จุดและกระแสไฟถูกตัดขาดในหลายพื้นที่

อินโดนีเซียต้องเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งแผ่นดินไหวและภูเขาไฟบ่อยครั้ง เนื่องจากตั้งยู่บนวงแหวนไฟแปซิฟิก บริเวณที่ขอบของแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ชนกัน

เมื่อปี 2018 เกิดแผ่นดินไหว 7.5 ตามด้วยสึกนามิ ซัดถล่มเมืองปาลู บนเกาะสุลาเวสี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายมากกว่า 4,300 คน

โศกนาฏกรรมเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2004 แผ่นดินไหวระดับ 9.1 สั่นสะเทือนนอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา โหมกระพือสึนามิขนาดยักษ์ซัดถล่มทั่วภูมิภาค คร่าชีวิตผู้คน 220,000 ราย ในนั้น 170,000 ราย เสียชีวิตในอินโดนีเซีย


ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์

สปป.ลาว เริ่มต้นกระบวนการคัดเลือกผู้บริหารประเทศอีกครั้ง หลังรัฐบาลชุดปัจจุบันหมดวาระ 5 ปี รู้ผลการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดสำคัญภายในวันที่ 15 มกราคมนี้

คอลัมน์ "เบิ่งข้ามโขง"

การประชุมใหญ่ของ ผู้แทนทั่วประเทศของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว จัดเป็นประจำทุก 5 ปี ในระหว่างวันที่ 13-15 มกราคม 2564

โดยเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2564 กองประชุมใหญ่ ได้ทำการลงคะแนน ในการคัดเลือกคณะกรรมการกลางพรรค และคณะกรรมการกรมการเมือง ซึ่งผลการเลือกตั้งจะแถลงอย่างป็นทางการในวันนี้ 15 มกราคม 2564

การเลือกคณะกรรมการกรมการเมืองศูนย์กลางพรรคชุดใหม่ จำนวน 11 คน ซึ่งถือเป็นคณะผู้บริหารสูงสุดของพรรค และ เลือกคณะเลขาธิการศูนย์กลางพรรคชุดใหม่อีก 9 คน รวมถึงผู้ที่จะเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ของพรรค

ซึ่งเมื่อได้รายชื่อคณะกรรมการกรมการเมืองศูนย์กลางพรรคชุดใหม่ ขั้นตอนต่อไป เป็นการคัดเลือกตัวบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการบริหารของประเทศ ประกอบด้วย ประธานประเทศ โดยปกติผู้ที่ถูกเลือกให้เป็นเลขาธิการใหญ่ของพรรค คือ ผู้ที่ได้ดำรงตำแหน่งประธานประเทศด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง

ที่สำคัญ คือ การคัดเลือกบุคคลที่จะเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

การประชุมพรรคนี้ ถือเป็นการสิ้นสุดวาระการทำหน้าที่ของคณะรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่มีอายุครบ 5 ปี

การจัดกองประชุมครั้งนี้ นายบุนโจม อุบนปะเสิด เลขาคณะบริหารงานพรรค กระทรวงการเงิน และหัวหน้าอนุกรรมการงบประมาณ ใช้งบประมาณเบื้องต้น ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมพร้อมของคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ จนถึงวันประชุม เป็นเงิน 70,000 ล้านกีบ หรือ ประมาณ 209 ล้านบาท

มีองค์กรทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ จำนวน 26 แห่ง แสดงเจตจำนงให้การสนับสนุนทั้งในรูปเงินสดและวัตถุปัจจัย เพื่อให้การประชุมประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

มี 8 บริษัทที่ให้สนับสนุนเป็นเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านกีบ (ประมาณ 3 ล้านบาท) ขึ้นไป ซึ่งบริษัทเอสทีและธนาคารเอสที สนับสนุนมากที่สุด 1,200 ล้านกีบ และบริษัทเอสวี กรุ๊ป อีก 100 ล้านกีบ (บริษัททั้งสองอยู่ในกลุ่มเดียวกัน)

รองลงมาเป็น บริษัทลาวโทละคมมะนาคม 1,100 ล้านกีบ ยังมีรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานรัฐ ร่วมมอบเงินสนับสนุน โดยบริษัทเบียร์ลาว ธนาคารการค้าต่างประเทศลาว และธนาคารแห่ง สปป.ลาว (แบงก์ชาติลาว) สนับสนุนหน่วยงานละ 500 ล้านกีบ บริษัทรัฐวิสาหกิจหวยพัฒนา มอบเงินสนับสนุน 300 ล้านกีบ กลุ่มบริษัทดาวเรือง ไม่ได้มอบเป็นเงิน แต่ได้นำผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำดื่ม กาแฟ ชา ผลไม้อบแห้ง มาร่วมสนับสนุนคิดเป็นมูลค่า 120 ล้านกีบ

ผู้สนับสนุนเหล่านี้ ในทางการเมืองบ้านเรา ก็ถือว่า เป็นกลุ่มทุน และย่อมมีบทบาทต่อไป หลังการประชุมครั้งนี้ เสร็จสิ้นลง


หนุ่มโคราชคลุกคลี กับเมืองลาวทั้งด้านธุรกิจเอกชนและภาครัฐมานานหลายปี ยินดีแนะนําภาคเอกชนไทย บุกตลาดอินโดจีน สรรหาเรื่องเล่า วีถีชีวิต วัฒนธรรม เศรษฐกิจ

สีจิ้นผิง ผู้นำจีน ออกโรงสนับสนุนแบรนด์กาแฟ Starbuck พร้อมผลักดันธุรกิจการค้ากับบริษัทสัญชาติอเมริกัน เพื่อก้าวสู่ระบบสังคมที่มีความทันสมัย

สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนสนับสนุนให้ ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) ประธานกิตติคุณของ Starbucks คอร์ปอเรชั่นและบริษัทรักษาบทบาทเชิงบวกในการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าและความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างจีน – สหรัฐต่อไป

ในจดหมายที่สี่จิงผิงเขียนตอบกลับชุดเมื่อวันที่ 6 มกราคม สีเน้นย้ำว่าการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้นำพาชาวจีน 1.4 พันล้านคนฝ่าฟันความทุกข์ยากต่าง ๆ มาอย่างยาวนานเพื่อสร้างสังคมมั่งคั่งระดับปานกลางในทุกด้าน และสร้างระบบสังคมนิยมที่มีความทันสมัย

ประธานาธิบดีจีนได้ย้ำว่า การเดินทางครั้งใหม่ของจีนสู่การสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างเต็มรูปแบบ จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่องค์การต่าง ๆ ทั่วโลกในการเติบโตในจีน ซึ่งรวมถึง Starbucks และบริษัทสัญชาติอเมริกันอื่น ๆ

สีหวังว่า Starbucks จะมุ่งมั่นส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน – สหรัฐ ตลอดจนความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยก่อนหน้านี้จดหมายของชูลท์ซที่ส่งถึงสีจิ้นผิงและแสดงความยินดีต่อประเทศจีนที่กำลังประสบความสำเร็จในการสร้างสังคมมั่งคั่งระดับปานกลางในทุกด้านภายใต้การนำของสีจิ้นผิงพร้อมแสดงตัวว่า ตนให้ความเคารพประชาชนจีนและวัฒนธรรมจีน


ที่มา : https://www.xinhuathai.com/china/168736_20210114

ประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย ‘สุดารัตน์ เกยุราพันธ์’ โพสต์เฟซบุ๊กโต้โลกโซเซี่ยล ยันไม่คิดร่วมตั้ง ‘พรรคทหาร’ ย้ำไม่มีวันก้มหัวให้เผด็จการ และเป็นบันไดสืบทอดอำนาจอย่างเด็ดขาด

ประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย ‘สุดารัตน์ เกยุราพันธ์’ โพสต์เฟซบุ๊กโต้โลกโซเซี่ยล ยันไม่คิดร่วมตั้ง ‘พรรคทหาร’ ย้ำไม่มีวันก้มหัวให้เผด็จการ และเป็นบันไดสืบทอดอำนาจอย่างเด็ดขาด

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย อดีตแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยัน ไม่ได้ไปร่วมตั้งพรรคทหารตามที่มีโซเชี่ยลเผยแพร่ข้อมูล ว่า “ตามที่มีความพยายามในการปล่อยข่าวโดยผู้ไม่ปรารถนาดีว่า ดิฉันจะไปร่วมตั้งพรรคกับทหาร

ขอเรียนยืนยันว่า จากพฤษภาทมิฬ 35 ผ่านมาถึงวันนี้ 29 ปี ตลอดชีวิตทางการเมือง ดิฉันยืนตรงข้ามเผด็จการมาโดยตลอด

ดิฉันยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

"ไม่มีวันก้มหัวให้เผด็จการ และไม่มีวันที่จะยอมเป็นบันไดให้เผด็จการเหยียบยืนขึ้นไปเพื่อสืบอำนาจอย่างเด็ดขาด"

ใครที่ปล่อยข่าวว่าดิฉันจะร่วมมือกับเผด็จการ หันมาร่วมมือกัน #ขับไล่เผด็จการฯ ดีกว่ามั๊ยคะ? “

แม้ทั่วโลกยังกังขา แต่ โรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ออกมาประกาศว่า การจัดซื้อวัคซีน Sinovac จากจีน มีความปลอดภัย ไร้กังวล และเชื่อถือได้

โรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวระหว่างการปราศรัยต่อสาธารณชนเมื่อคืนวันพุธที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ว่า วัคซีนที่ผลิตโดยจีนนั้น มีคุณภาพดีเทียบเท่ากับที่ผลิตโดยบริษัทเภสัชภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกาและยุโรป พร้อมเสริมว่า ชาวจีนผลิตวัคซีนได้ดีพออยู่แล้ว พวกเขาไม่ได้บ้องตื้นหากรู้อยู่แล้วว่า วัคซีนจะไม่ปลอดภัย หรือไม่น่าเชื่อถือ คงไม่เสี่ยงผลิตออกมา

แฮร์รี่ โรกค์ โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เปิดแถลงการณ์ของดูดูแตร์เต ซึ่งระบุว่า ดูแตร์เตพึงพอใจในวัคซีนชนิดเชื้อตายของบริษัทซิโนแวค (Sinovac) และซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ของจีน

วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตายมีความปลอดภัย เนื่องจากเทคโนโลยีถูกใช้กันมานานหลาย 100 ปีแล้ว หากเป็นไปได้ “ผมจะเลือกบริษัทจากบริษัทจีนสองแห่งนี้ เพราะมันเป็นวัคซีนชนิดเนื้อตาย” เขาบรรยายสรุปผ่านทางออนไลน์ในวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา

ด้านลูลู บราโว ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและผู้อำนวยการบริหารของมูลนิธิวัคซีนแห่งฟิลิปปินส์กล่าวระหว่างการบรรยายสรุปออนไลน์เมื่อวันอังคารที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาว่า ซิโนแวคใช้วิธีการดั้งเดิมในการพัฒนาวัคซีน โดยใช้อนุภาคของไวรัสที่ตายแล้วในการทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสัมผัสกับเชื้อ พร้อมเสริมว่า วัคซีนชนิดเนื้อตายเช่นวัคซีนของซิโนแวคนั้น มีความปลอดภัยกว่าวัคซีนชนิดอื่น ๆ อย่างมาก

“วัคซีนชนิดเนื้อตายได้รับการพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่า และมีประวัติด้านความปลอดภัยที่ดีกว่าวัคซีนชนิดเชื้อมีชีวิต” ลูลู บราโวกล่าว

เอ็นริเก โดมิโก้ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของฟิลิปปินส์เผยว่า ซิโนแวคกำลังยื่นขออนุญาตใช้งานวัคซีนโคโรนาในกรณีฉุกเฉินจากสำนักงาน พร้อมเสริมว่า กำลังอยู่ระหว่างการประเมินล่วงหน้า

ทั้งนี้ฟิลิปปินส์ได้จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 25 ล้านโดส โดยที่พัฒนาโดยซิโนแวคไบโอเทค ของจีน โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีน 50,000 โดสแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนวัคซีนที่เหลือจะจัดส่งเป็นงวด ๆ ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงธันวาคม

คาร์ลิโต กัลเวซ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการจัดซื้อวัคซีนกล่าวว่า วัคซีนของซิโนแวค 5 หมื่นโดสแรก จะถูกนำไปฉีดให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและประชาชนกลุ่มสำคัญอื่น ๆ ในมหานครมะนิลา ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่ของประเทศ

ขณะเดียวกันฟิลิปปินส์กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนอย่างน้อย 7 ราย เพื่อจัดซื้อวัคซีนอีกจำนวน 148 ล้าน โดส โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชากร 50 ถึง 70 ล้านคนหรือมากกว่าร้อยละ 60 ของประชากรทั้งหมดในปีนี้เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่

ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมอยู่ที่ 492,700 รายซึ่งรวมผู้เสียชีวิต 9,699 ราย


ที่มา : https://www.xinhuathai.com/high/168781_20210114


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top