Thursday, 26 June 2025
ค้นหา พบ 49041 ที่เกี่ยวข้อง

‘อิวะโอกะ เรียวตะ’ เด็กชายชาวญี่ปุ่น พบ ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’ 7 ปีก่อน วันนี้ทำตามฝัน ได้เป็นนักฟุตบอล และหวังเล่นกับ ‘โรนัลโด้’ สักครั้ง

คุณยังจำหรือเคยเห็นไวรัลนี้ผ่านตานี้หรือไม่?

ไวรัล 7 ปีที่แล้ว (ปี 2014) ที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้หนึ่งในสุดยอดนักเตะของยุคได้ไปประเทศญี่ปุ่น พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กญี่ปุ่น ๆ พูดคุยกับเขาในแบบตัวต่อตัว

วันนี้ผมจะขอนำเสนอภาคต่อของไวรัลนั้น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ไม่เคยยอมแพ้ มีจิตใจมุ่งมั่นในสิ่งหนึ่งอย่างมั่นคง จนน่าเอาเป็นตัวอย่าง

วันที่ 22 กรกฎาคม ปี 2014 เด็กชายอิวะโอกะ เรียวตะ อายุ 12 ปี ได้มีโอกาสเจอหนึ่งในฮีโร่ของเขาในทางฟุตบอล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในอีเว้นท์ของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมความงาม MTG โดยเป็นหนึ่งในคนนับหมื่นคนที่ได้รับโอกาสนั้น

ก่อนหน้านั้นเด็กชายเรียวตะ เมื่อรู้ว่าตัวเองได้รับเลือกจึงเริ่มฝึกภาษาโปรตุเกสเพื่อจะได้คุยกับฮีโร่ของเขา พร้อมเตรียมสิ่งที่อยากจะพูดกับเขา

ตัดภาพมาในวันงาน เด็กชายเรียวตะ ได้พกกระดาษโน้ตข้อความที่เตรียมมา และอ่านให้ฮีโร่เขาฟัง ทั้งที่ในงานนั้นมีล่ามแปลภาษาอยู่แล้ว โดยมีใจความว่า

"สวัสดีครับ ผมชื่อเรียวตะ ความฝันของผมคือการได้เป็นนักกีฬาฟุตบอล และหวังว่าจะได้มีโอกาสเล่นร่วมกับคุณสักครั้ง เพื่อให้เป้าหมายนั้นสำเร็จ อะไรที่ควรต้องทำบ้างครับ?"

ระหว่างที่เด็กชายเรียวตะพูดภาษาโปรตุเกสด้วยความยากลำบาก ก็มีเสียงหัวเราะของคนในงาน ถึงจะเข้าใจว่าเป็นการหัวเราะเพราะความเอ็นดู ไม่ใช่การดูถูกก็ตามที

เมื่อเด็กชายเรียวตะพูดจบ ฮีโร่ของเขา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถึงกับถามล่ามทุกคนในงานว่า "พวกคุณหัวเราะอะไรกัน? น้องเขาพูดภาษาโปรตุเกสได้ดีเลยนะ สุดยอดเลย เขาพยายามอย่างสุดความสามารถระหว่างที่เขาพูดอยู่ ควรฟังคำพูดของเขานะ"

ใครจะคิดว่าไวรัลนี้จะมีเรื่องราวต่อ

7 ปีต่อมา เด็กหนุ่มชั้นปีที่ 3 ในระดับมัธยมปลาย อิวะโอกะ เรียวตะได้เป็นส่วนหนึ่งของแชมป์ฟุตบอลมัธยมปลายประเทศญี่ปุ่นในปีนี้

นี่อาจเป็นแค่ก้าวแรกของความฝันที่เขาเคยพูดไว้เมื่อ 7 ปีที่แล้วก็เป็นได้ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจด้วยคนนะครับ

แนบลิงค์วีดีโอไวรัลไว้ตามนี้ครับ


Naruphun Chotechuang

รายงาน

ตำรวจไทยจับแก๊งต้มตุ๋นหญิงสาวขายบริการที่บรูไน หลอกว่าได้เงินเดือน 2 แสนบาท ที่ผ่านมามี สาวไทยโดนหลอกติดอยู่ที่บรูไนหลายชีวิต

กลายเป็นข่าวเกรียวกราวที่บรูไน เมื่อสื่อดังของประเทศ Borneo Bulletin รายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ได้ทำการจับกุมชาย 2 คน ที่มีถิ่นฐานอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยทั้งสองคนได้พยายามล่อลวงหญิงสาวให้เดินทางมาขายบริการทางเพศที่ประเทศบรูไน โดยหลอกว่า จะได้เงินเดือนถึง 8,700 เหรียญบรูไน หรือกว่า 200,000 บาท

เบื้องต้นชายทั้ง 2 คนถูกจับกุมตัวไปเรียบร้อย โดยภายหลังมีข้อมูลเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาเคยมีหญิงไทยถูกหลอกมาขายบริการที่บรูไนแล้วถูกจับตัวได้ในช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดอยู่หลายคน สถานการณ์ล่าสุด บรูไนปิดประเทศมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีก่อน ไม่มีเที่ยวบินเข้าออก นอกจากเที่ยวบินพิเศษเพื่อส่งชาวต่างชาติกลับประเทศ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการอคิวนานพอสมควร

แม้วิกฤติโรคระบาดจะยังไม่หายไป แต่นี่คือช่วงเวลาทองของคุณพ่อคุณแม่ ในการเสริมสร้าง พัฒนาการและสายใยความสัมพันธ์กับลูกน้อย ลองมาจัดระเบียบการใช้บ้านเป็นที่ทำงานและ โรงเรียนออนไลน์ของลูกกันดีกว่า

คุณพ่อคุณแม่ต้องสูดยาดมลึกสุดถึงขั้วปอดอีกรอบ เมื่อโควิด-19 ระลอกสอง กลับมาทำให้หายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง และยังทำให้ที่บ้านกลายเป็นที่ทำงานและโรงเรียนไปพร้อม ๆ กัน

หนักสุดคงหนีไม่พ้นบ้านที่ต้อง work from home และมีลูกวัยเล็กอย่างปฐมวัย แค่คิดว่าจะจับลูกใส่กระด้งเรียนออนไลน์ เส้นเลือดที่ขมับก็กระตุกแล้ว

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดของพ่อแม่ที่มีลูกช่วงปฐมวัย เมื่อคุณแอมป์ เจ้าของเพจ ‘Leeway การเรียนรู้ผ่านการเล่น’ แนะนำตรง ๆ ว่า “การเรียนออนไลน์ของเด็กปฐมวัยน่ะไม่เวิร์ค” 

คุณแอมป์บอกว่า การเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยคือการสร้าง EF ซึ่งเกิดจากการได้เล่น ได้จับ ได้ลงมือทำ ฉะนั้นการนั่งเรียนออนไลน์ผ่านหน้าจอไม่ได้ทำให้เด็กวัยนี้เกิดพัฒนาการ หรือพูดอีกอย่างก็คือ การเรียนออนไลน์สำหรับเด็กปฐมวัยนั้นไร้ประโยชน์

อยากให้คุณพ่อแม่ที่มีลูกปฐมวัย สูดยาดมลึก ๆ อีกรอบ เปลี่ยนมุมมองใหม่ แล้วเล็งเห็นโอกาสในวิกฤต นี่คือช่วงเวลาทองของการเสริมสร้างพัฒนาการและสายใยความสัมพันธ์กับลูกน้อยให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจเข้มแข็ง เป็นบุคคลคุณภาพที่รักคุณมาก และยังเป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ได้มีโอกาสสื่อสารกับคุณครูหรือโรงเรียนมากขึ้น เพื่อที่เราจะได้รับทราบว่าลูกเราเรียนอะไร หลักสูตรเป็นยังไง ครูสอนอะไรจากที่โรงเรียน เพียงแค่เรารู้วิธีการจัดการกับสถานการณ์นี้ ก็จะเกิดประโยชน์กับทั้งตัวคุณพ่อคุณแม่และลูก ซึ่งคุณแอมป์ได้แนะแนวทางปฏิบัติที่สามารถประยุกต์ใช้กับบ้านที่มีลูกปฐมวัยเรียนออนไลน์และผู้ใหญ่ต้อง work from home ดังนี้

1.) การจัดตารางเวลาให้เหมือนที่เด็กคุ้นเคย

จัดตารางชีวิตประจำวันของเด็กที่ต้องเรียนออนไลน์ให้ตรงกับตารางเวลาปกติเหมือนยังไปโรงเรียน  เพื่อลดภาวะต้องปรับตัวของเด็ก ช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายและง่ายที่จะเข้าใจต่อผู้ปกครองด้วย

2.) แบ่งโซนทำงานกับโซนเล่นของลูก 

เข้าใจว่าเป็นเรื่องยากที่จะแบ่งโซนทำงานและโซนเล่นของลูก แต่อย่างน้อยให้ลูกได้รับรู้โซนของตัวเอง และที่สำคัญ ลูกต้องเล่นอยู่ในระยะสายตาของผู้ปกครองด้วย

3.) สร้างสิ่งแวดล้อมให้ลูกได้เล่น

ในเมื่อการเรียนออนไลน์นั้นไม่เหมาะกับปฐมวัย เราสามารถสร้างรูปแบบการเล่นเพื่อการเรียนรู้ให้ลูกได้ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ

  • การเล่นอิสระ คือเด็กสามารถเล่นได้ด้วยตนเอง เป็นการเล่นที่ง่ายสุดและเสริมสร้างลูกน้อยได้ดี เช่น การเล่นทราย เล่นดินน้ำมัน ตัวต่อเลโก้ โดยไม่ต้องบอกให้ลูกสร้างหรือปั้นเป็นตัวอะไรเพื่อให้ลูกได้เล่นใช้จินตนาการเสริมสร้าง EF อย่างเต็มที่ และลูกยังได้เสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็กไปด้วย
  • การเล่นที่พ่อแม่จัดหาให้ คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจไปหาวิธีเล่นกับลูกจากแหล่งต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต อย่างนี้ก็ใช้ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้สร้างความสัมพันธ์กับลูกไปด้วย

หากคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่พร้อมจะเล่นกับลูกจริง ๆ คุณแอมป์เข้าใจตรงจุดนี้และได้แนะนำวิธีจัดการที่ง่ายที่สุด คือ Plan Do Review คือการวางแผน ทำ และสะท้อน โดยกำหนดสิ่งที่ลูกจะเล่น ระยะเวลา และมาสะท้อนว่าลูกเล่นแล้วได้อะไร แล้วเริ่มเล่นสิ่งต่อไปเป็นรอบ โดยใช้การวางแผน ทำ และสะท้อนเหมือนเดิม เช่น กำหนดให้ลูกเล่นปั้นดินน้ำมัน 1 ชั่วโมง เมื่อปล่อยให้ลูกเล่นครบกำหนดแล้ว เราก็ไปถามลูกว่าเล่นแล้วเป็นยังไง สนุกไหม ได้ทำอะไรบ้าง หลังจากนั้นกำหนดเวลาอีก 1 ชั่วโมงให้ลูกเล่นระบายสี ครบ 1 ชั่วโมงเราก็เข้าไปถามเพื่อสะท้อนอีกครั้ง โดยทั้งหมดนี้ลูกอยู่ในสายตาเราตลอด

หากคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นห่วงว่าลูกจะอ่านเขียนไม่ทันเพื่อน อยากให้ใจเย็น ๆ เด็กจะอ่านเขียนได้เมื่อเข้าประถมหรือตามพัฒนาการ เขียนได้ช้าไม่ใช่เขียนไม่ได้ ปูพื้นกล้ามเนื้อมัดเล็กให้ลูกจับดินสอแน่น ๆ ด้วยการเล่นดีกว่า เมื่อลูกพร้อม อ่านเขียนสำหรับลูกนั้นไม่ยากเลย

คุณแอมป์แนะนำอีกว่า เด็กวัย 6 - 10 ปีควรอยู่ที่หน้าจอได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน วัย 2-5 ปีไม่เกิน 1 ชั่วโมง และเด็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบครึ่งหรือ 18 เดือน ไม่ควรอยู่หน้าจอเลย

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง หากผู้ใหญ่มีความเครียดเกิดขึ้น การปลดปล่อยความเครียดนั้นไม่ผิด แต่ควรพยายามไม่แสดงอาการรุนแรงให้ลูกเห็นต่อหน้า ความรุนแรงส่งผลต่อภาวะที่ไม่ดีต่อร่างกายลูก ลูกคือคนที่เรารักและเราอยากเห็นเขาพัฒนาอารมณ์ให้ดีที่สุด ผู้ใหญ่ควรหาที่ปลดปล่อยอารมณ์ให้ไกลสายตาเด็ก 


สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก 

หัวข้อ ลูกปฐมวัย เล่น เรียนรู้ อย่างไรดี ในยุค COVID

https://www.facebook.com/watch/live/?v=210791220708868&ref=search

เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย: พิมพ์นารา สุวรรณไตรย์ 

 

รัฐบาล เตรียมหารือความคืบหน้าโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย หลังได้รับหนังสือแจ้งการบอกเลิกสัญญาสัมปทาน แจงต้องมีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ระหว่างไทย เมียนมา และญี่ปุ่น

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยถึงโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายว่า รัฐบาลเตรียมหารือถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการนี้ทั้งหมด หลังจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งการบอกเลิกสัญญาสัมปทานรวม 7 ฉบับ

จากคณะกรรมการบริหารงานพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งเบื้องต้นมีความเห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้ลงทุนในโครงการสนับสนุนไปหลายโครงการแล้ว แต่เมื่อเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นก็ต้องมาดูข้อมูลทั้งหมดก่อนว่าเป็นอย่างไร และต้องมีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ ไทย เมียนมา และญี่ปุ่น

“ตอนนี้ยังไม่ได้เห็นหนังสืออย่างเป็นทางการ ว่าเรื่องรวงทั้งหมดเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาโครงการนี้เงียบไปนาน แต่ตอนนี้ประเทศไทยก็ทำโครงการสนับสนุนคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะการทำถนนมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เพื่อรองรับโครงการนี้ ส่วนถนนจากด่านบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี ไปจนถึงทวายก็มีความร่วมมืออยู่แล้ว

จากนี้จึงต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป โดยต้องมาดูโครงการในทวายด้วยว่า ทำอะไรไปบ้างแล้ว ซึ่งในแง่นโยบายรัฐบาลก็ยังสนับสนุนอยู่ แต่รู้ว่าโครงการนี้ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก เลยอยากดูข้อมูลก่อน เพราะถ้ามีการทำโรงงาน ทำนิคมอุตสาหกรรมขึ้นมา แล้วคนไทยได้ไปทำงานก็เป็นประโยชน์”

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า "สำหรับกรณีการแจ้งการบอกเลิกสัญญาสัมปทานครั้งนี้ จากการดูข้อมูลเบื้องต้นเห็นว่าเอกชนได้ลงทุนไปมากแล้ว และเชื่อว่าการแจ้งยกเลิกสัญญาเอกชนก็ได้รับความคุ้มครองอยู่แล้วตามกฎบัตรอาเซียน แต่เพื่อให้เกิดวามแน่ใจก็ต้องมาหารือกันเกี่ยวกับข้อกฎหมาย และร่างสัญญาทั้งหมด เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับกฎหายระหว่างประเทศ"

คอกระท่อม เตรียมปลูก-กินเสรี หลังพิจารณาปลดล็อคพืชกระท่อมจากบัญชียาเสพติดให้โทษเสร็จสิ้นในชั้นกรรมาธิการแล้ว จะเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม คาดเสร็จสิ้นในสมัยประชุมนี้อย่างแน่นอน

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่...พ.ศ. ....ได้แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่...พ.ศ. ...เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีสาระสำคัญของการยกเลิกพืช กระท่อมออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษดังนี้

1.) ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีหลักการเพื่อยกเลิกพืชกระท่อมจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 และยกเลิกบทกำหนดโทษ และอัตราโทษสำหรับความผิดที่เกี่ยวกับพืชกระท่อม ตลอดจนยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับการประกาศให้ท้องที่ใด เป็นท้องที่ทำการเสพพืชกระท่อมได้โดยไม่ผิดกฎหมาย โดยมีเจตนารมณ์เพื่อให้เปิดกระท่อมไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษต่อไป และประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมได้โดยไม่มีความผิด และไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย เว้นแต่จะนำไปผสมเป็นสารเสพติดชนิดอื่น เช่น นำไปต้มเป็นน้ำกระท่อม 4 × 100

2.) ที่ประชุมได้กำหนดระยะเวลาการประกาศใช้กฎหมายหลังจากประกาศในราชกิจจานุเษกษา จากร่างเดิมที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้ 180 วันลดเหลือ 90 วัน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้พืชกระท่อมได้อย่างเสรีและรวดเร็วที่สุดและในระหว่างที่กฎหมายฉบับนี้รอการบังคับใช้ ก็จะประสานงานขอความอนุเคราะห์ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ได้พิจารณาใช้ดุลพินิจในการจับกุมโดยอนุโลม

3.) การกำหนดเงื่อนไขระยะเวลา 90 อวัน ที่มีผลบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ก็เพื่อรอการจัดทำร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. ...ขึ้นมาอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ตนในฐานะที่เป็นผู้ผลักดันการยกเลิกพืชกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดมาโดยตลอด จะเสนอร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อมขึ้นมาด้วย เพื่อประกบกับร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม ฉบับของรัฐบาลด้วย

สำหรับผลของการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่....พ.ศ....ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้แก้ไขมีผลบังคับใช้ จะก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนใน 3 ประการ คือ

1.) เป็นการลดภาระการใช้จ่ายภาครัฐ จากจำนวนคดีเกี่ยวกับพืชกระท่อมทั้งหมด ที่มีจำนวนประมาณ 76,000 คดี และมีคดีพืชกระท่อม 15,925 คดีต่อปี ถ้ากฎหมายบังคับใช้เร็วขึ้น90วัน จะลดคดีพืชกระท่อมลงได้ 3981 คดี

2.) เป็นการช่วยเหลือประชาชนไม่ต้องถูกจับกุมดำเนินคดี เสียค่าปรับ จำคุก เสียประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด

3.) เป็นการส่งเสริมให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

ขอเรียนให้ทราบว่าร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่...พ.ศ. ได้พิจารณาเสร็จสิ้นในชั้นกรรมาธิการแล้ว จะเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม ซึ่งจากการประสานงานภายในทราบว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมในสัปดาห์หน้า จึงคาดหมายว่าจะ เสร็จสิ้นในสมัยประชุมนี้อย่างแน่นอน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top