Wednesday, 15 May 2024
SPECIAL

ยังไม่พร้อม!! ‘เมฆ รามา’ สามี ‘หยาดทิพย์’ เลื่อนให้ปากคำ ‘ดีเอสไอ’ ในฐานะพยาน ปมซื้อเพนท์เฮ้าส์หรู เพื่อฟอกเงิน

‘เมฆ รามา’ สามี หยาดทิพย์ ขอเลื่อนให้การกับ ดีเอสไอ ในฐานะพยาน ปมซื้อเพนท์เฮ้าส์หรูย่านสุขุมวิทของ ‘อภิรักษ์’ ซีอีโอ ฟอเร็กซ์3ดี

(9 มี.ค.66) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายหลังจากมีกระแสข่าวว่า นายรามา รัศมีรามา หรือ เมฆ สามีของนางเอกสาว หยาดทิพย์ ราชปาล จะเดินทางเข้าให้การกับดีเอสไอในฐานะพยาน จากมูลฐานคดีฟอกเงิน เพื่อชี้แจงปมรับซื้อเพนท์เฮ้าส์หรูย่านสุขุมวิท ซึ่งอดีตเป็นทรัพย์สินของ นายอภิรักษ์ โกฎธิ ซีอีโอ ฟอเร็กซ์ 3 ดี

ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า นายรามาได้ส่งทนายความส่วนตัว ออกหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ ขอเลื่อนเข้าให้ปากคำในฐานะพยานไปก่อน โดยไม่ได้ระบุวันเวลาในการเข้าให้ปากคำว่าจะเข้าให้ปากคำในช่วงเวลาใด

ที่คุยไว้ทำได้แน่!! ‘เศรษฐา’ นำ พท. ลงพื้นที่หาเสียงคลองเตยครั้งแรก โวลั่น ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาททำได้แน่

วันที่ 8 มีนาคม 66 ที่มูลนิธิดวงประทีป แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดยนาย เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการลงพื้นที่กทม. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตคลองเตย พรรคเพื่อไทย น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตบางคอแหลม-ยานนาวา และนายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบางนา-พระขโนง พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เยี่ยมชมมูลนิธิครูประทีป พร้อมรับฟังปัญหาในพื้นที่
.
โดยครูประทีป อึ้งทรงธรรม ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป ระบุว่า พรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคแรกที่เข้ามารับฟังปัญหาของชาวคลองเตยอย่างจริงจัง ที่ดินแห่งนี้เป็นที่ดินของการท่าเรือมาก่อน ซึ่งเมื่อมีการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างท่าเรือ ทำให้ต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการขนถ่ายสินค้าทำให้ชุมชนขยายตัวอย่างรวดเร็ว สลัมคลองเตยจึงเติบโตขึ้นอย่างไร้ระบบ ไร้การพัฒนา มีความเหลื่อมล้ำสูงนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ว่าที่นายกฯในอนาคตได้เดินทางมารับฟังปัญหาของคนยากคนจนที่นี่ด้วยตัวเอง
.
จากนั้น ตัวแทนชุมชนคลองเตยได้ผลัดกันลุกขึ้นสะท้อนปัญหาต่างๆในพื้นที่ ประกอบด้วย

 

1.ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยจากการเวนคืนที่ดินของการท่าเรือ ประชาชนในชุมชนขอที่ดินสักแปลงจากการท่าเรือซึ่งมีที่ดินกว่า 2000 ไร่ ขอให้คนในชุมชนเอามาจัดการตัวเอง โดยขอให้ทางการท่าเรือเปิดเวทีทำความเข้าใจกับคนในชุมชน แทนการสำรวจได้หรือไม่ ทั้งนี้ คนในชุมชนยินดีพัฒนาที่ดินแห่งนี้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ แต่ช่วยให้ประชาชนชาวคลองเตยมีที่อยู่อาศัย ให้มีทางเลือกที่ไปได้ เพราะคนในชุมชนเป็นเพียงคนหาเช้ากินค่ำเท่านั้น ทุกคนรักคลองเตย และอยากให้ที่ดินผืนนี้ดีขึ้นเช่นกัน

2.ปัญหาด้านเศรษฐกิจ วันนี้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ไม่เพียงพอแล้วต่อครอบครัว ครอบครัวหนึ่งรัฐบาลที่แล้วขายฝันว่าจะขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาท แต่ก็ทำไม่ได้ หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะสามารถขึ้นค่าแรงเป็น 600 บาทได้จริงคนคลองเตยก็รู้สึกยินดี นอกจากนี้ วันนี้คนคลองเตยต้องการการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และต้องการการสร้างรายได้ให้คนในชุมชน เช่น ทำตลาดน้ำ ทำถนนคนเดิน ส่วนหาบเร่แผงลอยก็ขอให้ขายได้อย่างเป็นระเบียบ

 

3.เรื่องปัญหาสุขภาพ วันนี้คนคลองเตยถูกตัดสิทธิหลายอย่าง ล่าสุด ก็มีการยกเลิกการให้บริการสิทธิบัตรทอง 9 โรงพยาบาลรอบชุมชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเดินทางไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลไกลจากที่อยู่มาก ขอให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาในเรื่องนี้ และขอให้มีนโยบายออกมาดูเรื่องสิทธิประกันสังคมที่ไม่ครอบคลุม และกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรมกับผู้มีสิทธิประกันสังคมด้วย
.
4.เรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของคนคลองเตย โดยพื้นที่คลองเตยมีปัญหาเรื่องอัคคีภัยสูงมาก แต่ชุมชน และผู้ปฏิบัติงานอาสาสมัครยังขาดอุปกรณ์ช่วยเหลือไม่ว่าชุด รองเท้า รถ ไปจนถึงงบประมาณในการรักษาพยาบาลเมื่อออกไปช่วยเหลือชาวบ้านแล้วประสบอุบัติเหตุ จึงฝากให้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในส่วนนี้

5.เรื่องการศึกษา เชื่อว่าการศึกษาจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น ก่อนหน้านี้รัฐบาลพรรคไทยรักไทยมีโครงการ 1 ชุมชน 1 ทุน แต่ในปัจจุบันไม่มีแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้การศึกษาของคนในชุมชนถดถอย เด็กด้อยโอกาส และคนชายขอบไม่มีสิทธิเข้าถึงการศึกษา ทำอย่างไรที่จะทำให้เขาสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ทั่วถึง ได้เดินไปโรงเรียนได้อย่างมีความสุข และได้เรียนอย่างมีคุณภาพ เพราะเด็กในชุมชนไม่มีโรงเรียนใกล้บ้านที่มีคุณภาพทัดเทียมกับที่อื่น ฝากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในอนาคต ทำให้เด็กได้เข้าถึงการศึกษาและมีอาชีพที่ดีทำในอนาคตด้วย
.
 

คนไทยเท่าเทียมกัน!! ‘ก้าวไกล’ เปิด 10 นโยบายความเท่าเทียมทางเพศ สานต่ออุดมการณ์ 'อนาคตใหม่' สร้างสังคมคนเท่ากัน

‘ก้าวไกล’ เปิดนโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ เนื่องในวันสตรีสากล ชู คำนำหน้านามตามความสมัครใจ - ผ้าอนามัยไม่เก็บ VAT แจกฟรีในโรงเรียน - ตำรวจหญิงทุกสถานี - สมรสเท่าเทียม - ยุติตั้งครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ รับยาฟรี ทุก รพ.สต. - ศูนย์เลี้ยงเด็กใกล้บ้าน ห้องปั๊มนมในที่ทำงาน ด้าน ‘พรรณิการ์’ ชี้ภารกิจสร้างคนเท่ากันของอนาคตใหม่ยังไม่จบ หวัง ‘ก้าวไกล’ สานต่อสำเร็จ

(8 มี.ค. 66) พรรคก้าวไกล ร่วมกับ ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) จัดกิจกรรม “กาก้าวไกล เพศไหนก็คนเท่ากัน” เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคมของทุกปี โดยปีนี้ เครือข่าย International Women’s Day ได้กำหนดรูปแบบการจัดงานที่มีชื่อว่า ‘การโอบรับอย่างเท่าเทียม’ (Embrace Equity)

กิจกรรมเริ่มต้น โดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดตัวนโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ ยืนยันพร้อมสานต่อภารกิจของพรรคอนาคตใหม่ ในการสร้างประเทศไทยที่ ‘คนไทยเท่าเทียมกัน ประเทศไทยเท่าทันโลก’ โดย 10 นโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศของพรรคก้าวไกล ซึ่งเรียงตามช่วงอายุของคนคนหนึ่งตั้งแต่เกิดจนแก่ ประกอบด้วย

1. ผ้าอนามัยไม่เก็บ VAT แจกฟรีในโรงเรียน

ด้วยการยกเลิกการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในสินค้าหมวดหมู่ผ้าอนามัยและของใช้สิ้นเปลืองสำหรับวัยเจริญพันธุ์ และแจกผ้าอนามัยฟรีในสถานศึกษาและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนผ้าอนามัยและความจนประจำเดือน (Period Poverty) โดยเฉพาะสำหรับผู้มีประจำเดือนในวัย 10-25 ปี

2. ปฏิรูปการสอนเพศศึกษา ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ

ด้วยการออกแบบหลักสูตรใหม่ ให้การสอนเรื่องเพศศึกษา (Sex education) ให้ความสำคัญกับค่านิยมต่างๆ เช่น ความเข้าใจเรื่องความยินยอม (consent) ความหลากหลายทางเพศ และสอนเรื่องทางกายภาพอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เยาวชนเข้าใจความสำคัญของการป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ประสงค์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

3. ตำรวจหญิงทุกสถานี

ด้วยการเพิ่มจำนวนตำรวจหญิง เพื่อให้อย่างน้อยมีเพียงพอต่อการมีพนักงานสอบสวนหญิงประจำทุกสถานีตำรวจ เช่น เพิ่มจำนวนรับให้สูงขึ้น เปิดรับจากบุคคลภายนอกมากขึ้น พิจารณากลับมาเปิดรับนักเรียนนายร้อยหญิง เนื่องจากสถิติของกระทรวงยุติธรรม พบว่าไม่ต่ำกว่า 75% ของผู้หญิงไทยที่เคยถูกคุกคามทางเพศ เลือกที่จะไม่แจ้งความ เหตุผลส่วนหนึ่งคือความไม่สบายใจ เพราะผู้เสียหายสะดวกใจกับพนักงานสอบสวนที่เป็นผู้หญิงมากกว่า นอกจากนี้ ต้องออกแบบกระบวนการอบรมและประเมินตำรวจทุกคนไม่ว่าเพศใด ที่รับผิดชอบคดีคุกคามทางเพศ ให้สามารถดำเนินการด้วยวิธีการและบรรยากาศที่เข้าใจถึงความละเอียดอ่อนของคดีและสนับสนุนให้เหยื่อรู้สึกปลอดภัยในการให้ข้อมูลในกระบวนการยุติธรรมด้วย

4. ปรับปรุงกฎหมายต่อต้านความรุนแรงทางเพศ

ด้วยการแก้ประมวลกฎหมายอาญา และกฎ ก.พ. เพื่อกำหนดนิยามใหม่ของการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ การกระทำอนาจาร และการกระทำชำเราเสียใหม่ เพื่ออุดช่องว่างของกฎหมายให้ครอบคลุมปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมมากขึ้น
 

บทบาทใหม่!! ‘ก้อง-อายุน้อยร้อยล้าน’ ขอนำความรู้ พัฒนาชีวิตคนไทย เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรคเพื่อไทย

(8 มี.ค.66) นายอรรฆรัตน์ นิติพน หรือ ‘พี่ก้อง’ ผู้ก่อตั้งและผู้ดำเนินรายการ ‘อายุน้อยร้อยล้าน’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในแฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘อายุน้อยร้อยล้าน’ ระบุว่า...
.
“ผมก้อง อรรฆรัตน์ นิติพน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย วันนี้ได้รับโอกาสจากพรรคเพื่อไทย ที่อยากให้พี่ก้องได้นำความรู้ และประสบการณ์ที่มีมาช่วยพัฒนาชีวิตคนไทย จึงขอฝากให้ทุกคนติดตาม และสนับสนุนพี่ก้องในบทบาทการทำงานครั้งใหม่นี้ด้วย
.
ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพบผู้คนทำมาหากิน พบประชาชนคนไทย ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ครั้งนี้เป็นโอกาสไม่ใช่แค่เพียงการนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ แต่อาจเป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงในระดับที่กว้างขึ้น ที่ผ่านมา ผมอาจจะใหม่ในวงการการเมือง ใหม่ของการที่เข้ามาเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร

ตัดทางนายทุน!! ‘ธนาธร’ รุด ‘ลำพูน’ เดินสายช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียง ชู!! เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด จำกัด 50 ไร่ต่อสิทธิ์

ธนาธร’ เดินสายช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงที่ลำพูน เปิดเวทีแนะนำนโยบายและรับฟังปัญหา ส.ป.ก. หวังประชาชนเลือกก้าวไกลเป็นรัฐบาล ชื่นชมเตรียมพร้อมร่างกฎหมายดันผ่านสภาฯ หลังเลือกตั้ง

(8 มี.ค.66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ออกเดินสายหาเสียงสนับสนุนผู้สมัครของพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้ร่วมเปิดเวทีรับฟังปัญหาจากประชาชนที่บ้านสบเมย ตำบลทาขุมเงิน อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ร่วมกับ นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน พรรคก้าวไกล ทั้ง 2 คน คือ นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก และนายชัชพีร์ วรรณาพิรัชย์

โดย ต.ทาขุนเงิน เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประเด็นปัญหาการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งนายธนาธรระบุว่า เป็นหนึ่งในเรื่องที่มีความสำคัญ ตนเห็นว่า พรรคก้าวไกลได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เช่นเดียวกับประเด็นข้อพิพาทที่ดินอื่น ๆ เพราะปัญหาที่ดินเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนนับล้าน และนั่นทำให้พรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกล มุ่งมีบทบาทในคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มาโดยตลอด

จากที่ตนติดตามการทำงานของพรรคก้าวไกล เห็นว่าพรรคได้ไปรับฟังประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมาตลอด 4 ปีในหลากหลายพื้นที่ ทำให้พรรคก้าวไกลวันนี้ ได้ข้อสรุปการแก้ไขปัญหาเป็นชุดร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดินตามที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงร่างกฎหมายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด อันเป็นผลมาจากการตกผลึกร่วมกันว่า ทางแก้ปัญหาไม่ใช่การออก ส.ป.ก. เพิ่ม แต่คือการทำให้ ส.ป.ก. เป็นโฉนด แก่ประชาชนที่ควรต้องได้รับสิทธิ์นั้น ในกรณีที่ตามเอกสารยังเป็นชื่อผู้ใช้ประโยชน์เดิมหรือทายาทที่ได้รับสิทธิ์โดยชอบธรรม และจำกัดไม่ให้เปลี่ยนเกิน 50 ไร่ต่อเจ้าของสิทธิ์ เพื่อไม่ให้นายทุนฉวยโอกาส

ตายทิพย์!! ‘2 แม่ลูก’ แจ้งความ ถูกญาติฝั่งพ่อหลอกว่า ‘พ่อเสียชีวิต’ หวังลวงเอาค่าทำศพ ตร. เร่งสอบปากคำผู้ร่วมขบวนการ

(8 มี.ค. 66) ทีมข่าวลงพื้นที่วัดบ้านร่อม ต.บ้านร่อม อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พูดคุยกับนางสุกัญญา สิงห์ทอง อายุ 47 ปี เมียหลวงของหนุ่มตายทิพย์ และนางสาวอภิชญาดาร์ สิงห์ทอง อายุ 22 ปี ลูกสาว เล่าว่าเมื่อ 28 ปีที่แล้วนางสุกัญญาได้อยู่กินกับนายวิรัตน์ ได้ 6 ปีจนมีลูกสาว 1 คน โดยทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จากนั้นได้แยกกันอยู่แต่ไม่ได้ทำการหย่า โดยฝ่ายชายมีเมียน้อย เลิกไป 3 คน เหลือ 2 คน คนที่อยู่ปัจจุบันชื่อติ๋ม มีลูกชายชื่อเต้ อายุประมาณ 13 ปี อาศัยกันอยู่ที่ อ.บ้านหมอ ต.ตลาดน้อย จ.สระบุรี ฝ่ายชายประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัท แห่งหนึ่ง ตั้งแต่เลิกกันมา 22 ปี ฝ่ายชายเคยส่งเสียเงินมาแค่ 1 หมื่นบาท จากนั้นประมาณเดือนเมษายน ปี 2564 ได้เคยมาขอหย่ากับนางสุกัญญา แต่ทางนี้ไม่ได้ไปหย่า และเดือนธันวาคม ปี 2565 ได้ส่งหลานสาวมาเจรจาขอหย่าอีกครั้ง โดยเสนอเงินค่าหย่าให้ 6 แสนบาท โดยนัดเจอที่อำเภอท่าเรือในวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมาแต่ไม่มา จากนั้นได้มีการเจราขอหย่าอีกครั้งในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้

นางสาวอภิชญาดาร์ สิงห์ทอง ลูกสาว เล่าว่าวันที่ 4 มีนาคม เวลา 4 โมงเย็น เหลนของฝ่ายชายชื่อบอลโทร มาบอกกับตน ว่า พ่อของเธอถูกรถพ่วงชนเสียชีวิตที่ถนนเส้นสี่แยกบ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ซึ่งตนก็ได้ถามย้ำไปว่าเป็นเรื่องจริงใช่ไหม ก็ได้รับการยืนยันว่าจริงจากนั้นตัวลูกสาวก็ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลพระพุทธบาท เมื่อเจอพยาบาลก็ได้สอบถาม และยืนยันว่าพ่อตัวเองเสียชีวิตแล้วแต่ถูกส่งต่อไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต จ.ปทุมธานี โดยศพได้ออกไปก่อนหน้าที่เธอมาประมาณ 15 นาที ตนเองจึงตัดสินใจกลับบ้านและมาพูดคุยกันเรื่องการจัดเตรียมงานศพของพ่อ โดยได้พูดคุยกับญาติฝ่ายพ่อซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อชื่อป้าอร เกี่ยวกับเรื่องเงินประกันต่างๆโดยมีการบอกว่า ให้ฝั่งของเธอนั้นรอเอกสารและเรื่องงานศพพ่อนั้นก็จะให้ทางฝั่งของเธอเป็นคนจัดเตรียมงาน

จากนั้นเช้าวันที่ 5 มี.ค.ให้มีการนัดกันที่วัดโคกงามซึ่งอยู่ใกล้บ้านพ่อ เพื่อจะนัดพูดคุยกันเรื่องค่าประกันต่างๆที่พอจะได้จากการเสียชีวิตประมาณ รวมๆกันได้ประมาณ 1,000,000 กว่าบาท แต่เมื่อถึงเวลาทางญาติของพ่อได้อ้างว่า พ่อได้บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาลจึงไม่มีศพกลับมาให้ได้ โดยจะให้ตนเองไปเอาผมกับเล็บของพ่อเท่านั้น และมีการยืนยันอีกครั้งว่าให้ทั้งแม่ของตนเองจัดงานศพได้เลย โดยเส้นผมและเล็บของพ่อนั้น คนชื่อบอลซึ่งเป็นเหลนของพ่อก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์เอามาให้ถึงหน้าบ้านของตน ส่วนเอกสารใบมรณะบัตรต่างๆก็บอกว่าจะเอามาให้ตอนเย็นของวันที่ 5 มี.ค.
.
และได้บอกว่าพ่อของตนเองนั้นได้ทำการเปลี่ยนชื่อจากวิรัตน์หรือนายตั้ม สิงห์ทอง เป็นชื่อใหม่คือนายนิวัฒน์ สิงห์ทอง ซึ่งตนเองก็ได้ถามหาถึงเอกสารการเปลี่ยนชื่อของพ่อ ซึ่งทางฝั่งญาติของพ่อก็บ่ายเบี่ยง ที่จะเอามาให้โดยญาติของฝั่งของพ่อนั้น ก็ไม่มีใครเดินทางมางานศพเลย ซึ่งในวันที่ 5 มี.ค. นั้นตนก็ได้โทรเช็กทางโรงพยาบาลพระพุทธบาท ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า พ่อของตนนั้นเสียชีวิตจริงๆหรือไม่ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท และสถานีตำรวจภูธรบ้านหมอ และได้ติดต่อสอบถามกู้ภัยต่างๆ ก็ไม่พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่จึงรู้ว่าตน และครอบครัวโดนหลอกจริงๆ
.
ด้านนายสรรพสิทธิ์ ช่างกลึง อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน ป.ผ้าสวยดอกไม้ ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านหมอ จ.สระบุรี เล่าว่า ได้ถูกว่าจ้างจากนางสาวอภิชญาดาร์(พลอย) สิงห์ทอง อายุ 22 ปี ลูกสาวมาให้จัดดอกไม้และโลงศพภายในงาน จนนางสาวอภิชญาดาร์ ได้โทรมาปรึกษาว่า เกิดการผิดพลาดด้านเอกสาร ตนให้นางสาวอภิชญาดาร์ ไปตามเอกสารที่บ้านของญาติพ่อในเขตอำเภอบ้านหมอ จนนางสาวอภิชญาดาร์ ยอมรับกับตนว่าพ่อของตนยังไม่ได้ตาย โดยว่าจ้างดอกไม้และโลงศพในราคา 4 หมื่นกว่าบาท ตนจึงพาน้องพลอยไปสืบหาตามโรงพักๆว่ามีอุบัติเหตุจริงหรือไม ได้รับคำตอบว่าไม่มีการเกิดอุบัติเหตุขึ้น ตนและน้องพลอยจึงรู้ว่าโดนหลอก ซึ่งตนเองก็ยังไม่รู้ว่าจะได้รับเงินค่าจ้างหรือไม่ โดยมีการสวดพระอภิธรรมไปแล้ว 1 คืน เมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา ภายในโลงมีเพียงเส้นผมเท่านั้น มีแขกมาร่วมงานประมาณ 20 กว่าคนเท่านั้น แขกมาร่วมงานก็ไม่รู้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าตายจริงหรือไม่จริง

ด้านนางสุกัญญา อดีตเมียอยากให้ฝั่งสามีมารับผิดชอบ เพราะว่าตนเองก็ไม่มีเงินไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าทำศพ ซึ่งตนก็ต้องอับอาย ถ้าความจริงเป็นแบบนี้ตนจะยังไม่ยอมหย่า ตายเมื่อไหร่ค่อยเจอกันและเงินประกันที่ได้ตนเองก็จะไม่ให้ญาติพี่น้องของอดีตสามีเลยสักบาท ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าทั้งหมดทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรโดยตัวเองนั้นก็ไม่มีเงินซ้ำ ตอนนี้ก็ยังมาเป็นหนี้ค่าจัดงานศพอีก ซึ่งตนเองที่จัดงานก็หวังว่าจะได้เงินประกันจากบริษัทจำนวน 200,000 บาท เอามาใช้จ่ายในงานศพของอดีตสามี ที่ผ่านมาเลิกกันฝ่ายสามีก็ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงลูก มีเงินเท่าไหร่ก็ให้แต่เมียใหม่ ตนก็ไม่เคยไปเรียกร้องอะไร ซึ่งตนยืนยันว่าถ้าอดีตสามีตายจริงๆตนเองจะไม่ทำศพอดีตสามี

ฟื้นคืน ศก.ยุคทอง!! ‘สุวัจน์’ เปิดนโยบาย ‘โคราชโนมิกส์’ พัฒนาภาคอีสาน มั่นใจ!! สร้างความมั่งคั่ง-ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

(8 มี.ค. 66) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ตามที่พรรคชาติพัฒนากล้าได้เปิดตัว นโยบายภาพรวมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ 12 เรื่องไปแล้ว ภายใต้แนวคิด ‘มีงาน มีเงิน ของไม่แพง’ และได้รับการตอบรับอย่างดีพร้อมข้อเสนอแนะเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ นโยบายโดนใจพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะนโยบายลดภาษี นโยบายในการสร้างเศรษฐกิจใหม่ นโยบายเพิ่มนักท่องเที่ยว 2 เท่า นโยบายมอเตอร์เวย์ทั่วไทย และนโยบายซ่อมบ้านให้ผู้สูงอายุ

เนื่องจากพรรคชาติพัฒนากล้า มีฐานการเมืองอยู่ที่ภาคอีสานที่จังหวัดนครราชสีมา จึงได้ออกแบบแนวคิดนโยบายเป็นการเฉพาะ ในการสร้างความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสาน จึงได้เตรียมการจัดงานเปิดตัวนโยบาย ‘Koratnomics’ (โคราชโนมิกส์) ในการพัฒนาอีสานและโคราช ที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 11 มีนาคมนี้ เวลา 9.00 น ถึง 12.00 น. ที่โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

เพิ่มพลังสตรีไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พปชร. ร่วมหารือเนื่องในวันสตรีสากล มุ่งสร้างพื้นที่-ขยายโอกาสสตรี-มอบสิทธิพื้นฐานเท่าเทียม

(8 มี.ค.66) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) กล่าวว่า พรรคพปชร. ได้ระดมความคิดเห็นของกลุ่มสตรีพรรคพลังประชารัฐ ‘พลังประชารัฐ เพิ่มพลังสตรีไทย’ เนื่องในวันสตรีสากล 8 มี.ค. ระดมความเห็นและรับฟังเสียงสะท้อนให้แก้ไขปัญหา และข้อเสนอของเครือข่ายองค์กรสตรี เพื่อลดช่องว่าง ความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้กับกลุ่มสตรี และเยาวชน ได้รับสิทธิเท่าเทียมในทุกมิติ โดยมีนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ ที่ปรึกษาด้านสิทธิสตรี และว่าที่ผู้สมัครพปชร. อาทิ น.ส.ชญาภา ปรีภาพาก นางนฤมล รัตนาภิบาล น.ส.ณิรินทร์ เงินยวง น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ และ น.ส.สุชาดา เวสารัชตระกูล รวมถึงนายศันสนะ สุริยะโยธิน นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา ร่วมระดมความคิดเห็นของที่ผู้สมัครจากการลงพื้นที่ เช่น แก้ไขปัญหาความรุนแรงทุกรูปแบบ จัดตั้งศูนย์สุขภาพจิตในชุมชนเพื่อคนทุกช่วงวัย เพิ่มโอกาสการเข้าถึงสิทธิการรักษาและป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม การจัดสวัสดิการเพื่อการดูแลคุณภาพชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยว และยกระดับศูนย์รับเลี้ยงเด็กเล็กก่อนวัยเรียนในชุมชนเป็นต้น ให้สอดรับกับบริบทการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

หนีไม่รอด!! บุกรวบ!! พ่อค้าลอบเลี้ยง ‘ลูกหมีควาย’  2 ตัว คาดฆ่าแม่หมีทิ้ง แล้วจับลูก เตรียมส่งขาย

เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม พ่อค้าลักลอบเลี้ยง ลูกหมีควาย 2 ตัว อ้างได้มาขณะหาของป่า คาดอาจฆ่าแม่หมีไปแล้ว โชคดีรวบทัน ก่อนถูกส่งขายต่อ

(8 มี.ค.66) นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานจากนายเกียรติศักดิ์ วังวล หน.อช. ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ว่าได้ร่วมกับทหารร้อย ร.713 และฝ่ายปกครองอำเภอหมีเมืองแม่ฮ่องสอน ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาลักลอบเลี้ยง ลูกควาย เพศผู้และเพศเมีย อายุประมาณ 1 เดือน จำนวน 2 ตัว

อย่ารังแกกันเลย!! ‘ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. รทสช.’ โอด ป้ายหาเสียงถูกกรีด-ทำลาย ลั่น!! ไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร ขอให้แข่งกันที่นโยบาย

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หญิงรวมไทยสร้างชาติ ช้ำ ถูกมือมืดทำลายป้ายแนะนำตัว แจ้งความถึง 2 สน.แต่ไม่มีความคืบหน้า โอดไม่เคยเป็นศัตรูกับใครอย่ารังแกกันเลย วอนแข่งกันด้วยนโยบาย

(8 มี.ค.66) น.ส.อรัญญา มณีแจ่ม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ป้ายแนะนำตัวที่นำไปติดตั้งไว้ในหลายจุดของเขตจตุจักรถูกมือมืดทำลายเสียหายหลายจุด บางป้ายก็ถูกพรรคการเมืองคู่แข่งนำป้ายไปติดตั้งทับ ตนเองเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ขอร้องอย่ารังแกเลย ต้องการเข้ามาสู่สนามการเมืองต้องการเข้ามาขายความคิดของคนรุ่นใหม่เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ ซึ่งตนเองไม่มีความขัดแย้งกับใครลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงอย่างเดียว

น.ส.อรัญญายอมรับว่า ตกใจอยู่เหมือนกัน ที่ถูกทำลายป้ายแนะนำตัว ขอฝากถึงพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่าทำแบบนี้ อยากให้เล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ นำเสนอนโยบายขาวความคิดให้ประชาชนเลือกดีกว่า เคยไปแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร และ สน.บางซื่อ แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าหรือจับมือใครดมได้ ตำรวจก็ไม่ได้แจ้งความคืบหน้าในคดีหรือจับผู้กระทำความผิด ส่วนตัวไม่เคยมีศัตรูกับใคร จึงไม่คิดว่าเขาทำลายป้ายด้วยเหตุผลทางการเมือง เท่าที่คุยกับว่าที่ผู้สมัครคนอื่นเขตอื่นยังไม่เคยมีใครพูดว่าป้ายถูกทำลายเหมือนเขตจตุจักร ส่วนใหญ่พูดว่า เสียงตอบรับพรรครวมไทยสร้างชาติในพื้นที่ดีวันดีคืน

เติมเต็มเมืองหลวง ‘พุทธิพงษ์’ ดันนโยบาย ‘กรุงเทพฯ เมืองอัจฉริยะ’ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างเมืองให้ทันสมัย-น่าอยู่

(8 มี.ค. 66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม. พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงนโยบาย ‘กรุงเทพฯ เมืองอัจฉริยะ’ ของพรรคภูมิใจไทย ว่า วันนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญในเรื่องของการนำ Technology Digital มาใช้ผลักดัน และสร้างเมืองให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ เราเคยได้ยินคำว่า ‘Smart City’ เรื่องนี้ไม่ได้ยาก และเชื่ออย่างยิ่งว่าการเอา Technology Digital การใช้ข้อมูลที่ทันสมัย การนำเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทันสมัยมาเติมเต็ม แวะมาเติมให้กับคนกรุงเทพฯ ได้สะดวกสบายมากขึ้น คิดว่า วันนี้เราพร้อมจริง ๆ

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนลองมองในมิติหนึ่งซึ่งคิดว่าวันนี้ทั่วโลก กำลังผลักดันเรื่องนี้ให้ความสำคัญในการเอา Technology Digital มาใช้ผลักดันและสร้างเมืองให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ เราเคยได้ยินคำว่า ‘Smart City’ เมืองอัจฉริยะบ้าง, เมืองแห่งอนาคตบ้าง, เมืองแห่งความสุข, เมืองแห่งความทันสมัย เรื่องนี้ไม่ได้ยาก กรุงเทพมหานครต้องยอมรับว่า วันนี้กรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นเมืองหลวงของประเทศไทยเท่านั้น แต่กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่คนทั่วโลกคลั่งไคล้ อยากจะมาอยู่ อยากจะมาเที่ยว อยากที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ จนพูดได้ว่า จริง ๆ แล้วกรุงเทพฯ ไม่ต้องแข่งกับใครเลย แค่เสน่ห์ของกรุงเทพฯ ที่มีอยู่แล้ว ทั้งบุคคล สถานที่ท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพฯ เรามีพร้อมทุกอย่าง สิ่งที่เราต้องติดปีกและเติมเข้าไปให้กับเมืองกรุงเทพฯ คือ ความทันสมัย นำเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดเวลา ช่วยอำนวยความสะดวก และช่วยทำให้ทุก ๆ ท่าน มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นมาใช้ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เราต้องทำให้ดีที่สุดคือ เรื่องเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ การใช้ที่เราเรียกว่าโครงสร้าง Network ต่าง ๆ เอามาผลักดันให้ทุกอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น 

นายพุทธิพงษ์ ระบุว่า อย่างเครือข่าย 5G เราใช้เวลาแค่ไม่ถึงปีสามารถผลักดันให้ 5G ได้รับการปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งถ้าถามว่า ระบบ 5G ที่เกิดขึ้นมันจะดีอย่างไรกับประเทศไทยและมันจะดีอย่างไรกับคนกรุงเทพฯ 5G ไม่ใช่แค่สัญญาณโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ระบบ 5G จะไปดูแลในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่จะไปผลักดันในเรื่อง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ หรือในเรื่องเกี่ยวกับการใช้ Robotic หรือหุ่นยนต์ เรามีการดาวน์โหลดฐานข้อมูลที่กว้าง เราดูหนังฟังเพลงระบบ 5G จะไปอยู่เบื้องหลังในการผลักดันสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น ให้เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ 

พลิกโฉมสุพรรณ!! ‘เพื่อไทย’ หวังชิงเก้าอี้ ส.ส. ‘สุพรรณฯ’ ชูนโยบายพัฒนาเกษตร มั่นใจ!! ปชช.ได้ประโยชน์

(7 มี.ค. 66) ดร.กุลธิดา เหมาเพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.สุพรรณบุรี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่มีความมั่นใจ เนื่องจากกระแสและนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ว่านโยบายทำได้ทำเป็น ที่จะนำสู่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี ตนจึงถือว่าเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ที่จะนำนโยบายมาถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี

 

ดร.กุลธิดา กล่าวว่า ในส่วนของผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ทั้ง 5 เขต เราทราบบริบททางการเมืองของความเป็นชาติไทยพัฒนาในสุพรรณบุรีอยู่แล้ว แต่ข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่มานั้น ทำให้ทราบข้อมูลจากพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพรรคชาติไทยพัฒนาก็คงจะปฏิเสธข้อมูลจากพี่น้องประชาชนไม่ได้ว่า ท่านบรรหาร ศิลปอาชา ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นบริบททางการเมืองสุพรรณบุรี ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน กับวันเวลาที่ผ่านไปด้วย

 

“ข้อมูลตรงนี้ทำให้เราทราบว่าความเป็นเพื่อไทย และนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ลงสู่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี จะนำพามาได้อย่างไร ในระหว่างที่กระแสความรุนแรงในสุพรรณบุรีมีเกิดขึ้น กระแสเปลี่ยนมีเกิดขึ้นแน่นอนแต่ว่าจะเปลี่ยนไปได้มากน้อยแค่ไหน ก็คงต้องใช้ระยะเวลาจนกระทั่งเลือกตั้งเสร็จ ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นว่ามีกระแสเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งภาพรวมของความเป็นพรรคเพื่อไทยพรรคใหญ่ จะส่งผลต่อจังหวัดสุพรรณบุรีแน่นอน โดยเฉพาะนโยบายทางด้านการเกษตรที่เป็นนโยบายเบอร์ต้นๆของพรรคเพื่อไทย ที่ชาวสุพรรณบุรี จะได้รับประโยชน์จากนโยบายด้านนี้แน่นอน” ดร.กุลธิดา กล่าว

 

‘อรรถวิชช์’ ชูนโยบาย ‘ALL Service Center-ยกเลิกแบล็กลิสต์’ เน้น ‘สะดวก-รวดเร็ว-เท่าเทียม-เป็นธรรม’ เปิดโอกาสให้คนทำกิน

(7 มี.ค.66) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวบทเวทีเสวนาเครือเนชั่น เปิดนโยบายพรรคการเมืองที่จะผลักดัน ‘นวัตกรรมนำไทย เชื่อมโลก’ ว่า พรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคใหม่ มีแนวคิดแบบเสรีนิยมประชาธิปไตย เน้นเรื่องการแข่งขัน สร้างโอกาส พรรคอื่นส่วนใหญ่มีแนวคิดเน้นเรื่องรัฐสวัสดิการเท่าเทียม แต่พรรคชาติพัฒนากล้า เน้นเรื่องโอกาสที่เสมอภาค ไม่ว่าจะรวยหรือจน สามารถเข้าถึงโอกาสในการแข่งขันได้ จึงนำเสนอ ‘นวัตกรรมสร้างโอกาส’ 2 เรื่องสำคัญ เรื่องแรกคือ ALL Service Center ราชการ 1 คำขอ จบครั้งเดียว เพราะทุกวันนี้เราใช้ระบบ One Stop Service แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเวลาไปยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการหรือทำธุรกรรมกับรัฐ เกิดปัญหาล่าช้า ไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน ประชาชนต้องวิ่งไปยื่นเรื่องตามหน่วยงานต่าง ๆ เอง จะเริ่มประกอบธุรกิจขอใบอนุญาตก็ยากลำบาก 

เราจึงเสนอนวัตกรรมนโยบาย ‘ALL Service Center ราชการ 1 คำขอ จบครั้งเดียว’ ยื่นเรื่องครั้งเดียววิ่งไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถติดตามเรื่องได้เหมือน แอปพลิเคชันส่งของ นวัตกรรมนี้จะช่วยเสริมให้การบริการภาครัฐสะดวกรวดเร็วขึ้น สร้างโอกาสให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพได้มากขึ้น สร้างการลงทุนกับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้น

"สมมุติอยากจะเปิดโรงแรมโฮมสเตย์สปาเล็กๆ สักหนึ่งที่ ถ้าเป็นระบบเดิม ผู้ประกอบการจะต้องวิ่งไปหลายหน่วยงานเพื่อขอใบอนุญาต เช่น ขอใบอนุญาตประกอบโรงแรม ขอใบอนุญาตประกอบกิจการขายอาหาร ขอใบอนุญาตขายสุรา ใบอนุญาตประกอบกิจการสปา แต่ถ้าเป็นระบบ All Service Center ราชการ 1 คำขอ จบครั้งเดียว ยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องครั้งเดียว ระบบจะสามารถส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาได้ทันที สมรรถนะของรัฐมีความพร้อม ทั้งเรื่องกฎหมาย ความเข้าใจของประชาชน เทคโนโลยีที่ทั่วถึง สามารถทำให้นโยบายเกิดขึ้นได้จริง สร้างโอกาสให้คนประกอบธุรกิจได้สะดวกขึ้น" นายอรรถวิชช์ กล่าว

‘เพื่อไทย’ ระดมสมอง ประชุมทีม ศก.นัดแรก หารือนโยบาย กำหนดทิศทางประเทศ ลุยงานเชิงรุก

(7 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค พท. ฐานะกรรมการเลขานุการและโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรค พท. กล่าวว่า วันนี้ได้มีการประชุมคณะกรรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรค พท. นำโดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานกรรมการ พร้อมด้วยนายเศรษฐา ทวีสิน, นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา

โดยที่ประชุมได้หารือถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรค พท.ที่ใช้สำหรับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท, นโยบายเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, นโยบายด้านการบริหารจัดการหนี้ของประชาชน, นโยบายด้านเศรษฐกิจดิจิทัล, นโยบายเขตธุรกิจใหม่, นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพ ซอฟท์ พาวเวอร์ และนโยบายด้านการเกษตรแบบครบวงจร เป็นต้น

นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้หารือกรอบสำคัญในการกำหนดทิศทางประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ทิศทางการสร้างงาน การค้าระหว่างประเทศ รวมถึงจุดยืนด้านข้อตกลงทางการค้า ภาคการเกษตรเพื่อความมั่งคั่งของเกษตรกร ภาคบริการด้านสุขภาพเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ ความมั่นคงทางการคลัง การดึงดูดแรงงานทักษะสูง และการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ เป็นต้น

‘ศุภณัฐ’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล ลงพื้นที่จตุจักร ชูนโยบายพัฒนา ‘คมนาคม-การศึกษา-ปากท้อง’

‘แบงค์’ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ป้ายแดง ฟิตจัด ลงพื้นที่ทันทีหลังเปิดตัว ขึ้นรถปราศรัยทั่วเขตจตุจักร ประชาชนตอบรับคึกคัก

ภายหลังจากที่ แบงค์ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ เปิดตัวสวมเสื้อก้าวไกล ประกาศชิงชัย ส.ส.กทม. เขตจตุจักรไปเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา วันนี้ 7 มี.ค. 66 แบงค์ ศุภณัฐ พร้อมด้วย พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ได้ลงพื้นที่เขตจตุจักรต่อทันที เพื่อแนะนำตัวให้ประชาชนรู้จักให้มากที่สุดก่อนที่จะเข้าสู่โหมดเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

โดยศุภณัฐ ได้ขึ้นรถแห่ปราศรัยแนะนำตัวเองว่า ตนขอโอกาสมารับใช้พี่น้องประชาชนทุกคนในการเปลี่ยนแปลงประเทศแทนประชาชนทุกคะแนนเสียง ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่พี่น้องประชาชนมอบให้

แบงค์ กล่าวว่า ตนทำธุรกิจมาประมาณ 5-6 ปี ด้านอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง-การขนส่ง แต่วันนี้รู้สึกทนไม่ไหวแล้วที่ประเทศเราไม่มีการเปลี่ยนแปลงสักที ที่มีรัฐบาลบริหารจัดการไม่ได้เรื่อง นี่เป็นเหตุผลให้ตัดสินใจสมัครเข้ามาทำงานกับพรรคก้าวไกล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top