(10 มี.ค. 66) ที่อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และนายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ นักวิชาการด้านการเกษตรสมัยใหม่ ฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรค พท. ทั้ง 5 เขต ประกอบไปด้วย
1. นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล
2. นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล
3. นายองอาจ วชิรพงศ์
4. นายจิรทัศ ไกรเดชา
และ 5. นายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์
ลงพื้นที่พบปะพี่น้องเกษตรกรชาวนา โดยพี่น้องชาวนาได้สะท้อนปัญหาอยากให้ชีวิตคือกินดีอยู่ดีขึ้น ทั้งเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร และปุ๋ยที่ราคาแพง รวมถึงให้ข้าวมีราคาสูงขึ้นกว่านี้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อกิโลกรัม และปัญหาหนี้สินของเกษตรกรด้วย
นายเศรษฐา กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ลงพื้นที่นี้เป็นจังหวัดแรก เพื่อรับฟังความอัดอันตันใจของชาวนาในการทำไร่ทำนา ตนทราบว่าปัญหาเยอะเหลือเกิน แต่ 8 ปีที่ผ่านมาเราเชื่อว่าเราอยู่ในหลุมดำของกลับดักรายได้ต่ำ ราคา
ข้าวไม่ดีผลผลิตไม่ดี และมีปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งมาโดยตลอด ยืนยันว่าปัญหาน้ำท่วมเรามีแผนงานทำฟลัดเวย์หรือพื้นที่กักน้ำเพื่อแบ่งเบาภาระในช่วงน้ำหลาก เรื่องน้ำแล้งนั้นจะต้องมีการขุดบ่อและนำปั๊มน้ำเข้ามาในพื้นที่ ส่วนปัญหาหนี้สินก็เป็นปัญหาใหญ่ที่พรรค พท. ตระหนักดีอยู่ เนื่องจากราคาข้าวที่ผ่านมารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญหรือเปิดตลาดใหม่ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ทำหน้าที่เซลล์แมนขายของเลย ถ้าพรรค พท. ได้รับความไว้วางใจกรุยทางถนนเข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาล เพื่อช่วยกันค้าขายยกระดับราคาสินค้าเกษตร รวมถึงให้ความสำคัญเรื่องระบบสาธารณสุข ในการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรคด้วย
“เป็นครั้งแรกที่ผมลงพื้นที่รับฟังปัญหาและความอัดอันตันใจของพี่น้องทุกคน ผมก็หนักใจ แต่เรามีความจริงใจเรามีความตั้งใจจริงในการที่จะหาทางแก้และช่วยเหลือพี่น้องอย่างเต็มที่” นายเศรษฐา กล่าว
หลังรับฟังเสียงสะท้อนจากชาวนา นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเฉพาะประเด็นที่ชาวนาสะท้อนคือเรื่องราคาปุ๋ยแพงและ ราคาข้าวตกต่ำ ว่า ราคาเป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง หากราคาแพงต้นทุนก็จะสูง เงินเข้ากระเป๋าก็จะน้อย หน้าที่ของพรรค พท. คือจะต้องเพิ่มเงินสุทธิเข้ากระเป๋าเข้ากระเป๋าให้มากขึ้นอย่างน้อย 3 เท่า ทั้งการลดราคาสินค้าและค่าใช้จ่าย ส่วนปัญหาราคาปุ๋ยแพงนั้นสามารถยอมรับว่าเป็นไปตามกลไกราคาตลาดโลกที่ควบคุมได้ยาก ดังนั้นจึงมี นโยบายสร้างโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในท้องถิ่นเพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งจะทำให้เราสามารถควบคุมราคาปุ๋ยลงได้
เมื่อถามว่า 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ยังไม่ สามารถแก้ไขปัญหาราคาข้าวได้มั่นใจหรือไม่ว่าพรรค พท. จะทำได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า คงไม่สามารถพูดถึง 8 ปีที่ผ่านมาได้ แต่ทราบถึงความอึดอัดตันใจ ไม่มีความสุข ที่ราคาพืชผลตกต่ำ แต่ตนมั่นใจว่าพรรค พท. สามารถทำได้ในหลายมิติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนอยู่ดีกินดี
เมื่อถามถึงพื้นที่อ.ผักไห่ เป็นพื้นที่รับน้ำและที่ผ่านมารับน้ำนานถึง 4 เดือน พรรค พท. มีแนวทางแก้ปัญหาเรื่องน้ำอย่างไรเพื่อให้มีการระบายน้ำในพื้นที่ได้เร็วขึ้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องดูข้อมูลทางภูมิศาสตร์ทั้งระบบ ว่าทำไมถึงเป็นพื้นที่รับน้ำและรับน้ำนานถึง 4 เดือน จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดก่อน แต่แน่นอนว่าพื้นที่ที่เดือดร้อนต้องมีวิธีการบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน