Saturday, 10 May 2025
SPECIAL

‘หน่วย AITF’ ผนึกกำลัง ‘ไต้หวัน’ ยึดไอซ์ซุกใน ‘ขันโตก’ พร้อมจับกุมผู้รับชาวไต้หวัน 1 ราย เร่งขยายผลหาเครือข่าย

(17 มี.ค. 66) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เผยถึง ความร่วมมือระหว่างหน่วย AITF ประเทศไทย และกระทรวงยุติธรรมไต้หวัน MJIB (Ministry of Justice Investigation Bureau) ในการขยายผลจากการจับกุมไอซ์ 5,060 กรัม ที่ประเทศไทย ก่อนประสานงานขยายผลจนสามารถจับกุมไอซ์ 3,320 กรัม พร้อมผู้รับพัสดุ ที่สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 หน่วยสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดทางท่าอากาศยานสากล (Airport Interdictoin Task Force : AITF) ประเทศไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือของ สำนักงาน ป.ป.ส., กรมศุลกากร, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัย ได้ตรวจยึดไอซ์ น้ำหนัก 5,060 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในขันโตกบรรจุกล่องกระดาษ 2 กล่อง ก่อนถูกส่งไปยังสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เหตุเกิดที่คลังสินค้าขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

หลังจากกทราบข้อมูลการจับกุมดังกล่าว ตนได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งประสานงาน กระทรวงยุติธรรมไต้หวัน (MJIB) โดยเร็วที่สุด เนื่องจากทราบข้อมูลว่าเครือข่ายยาเสพติดนี้ได้มีการส่งยาเสพติดซุกซ่อนในรูปแบบเดียวกันไปยังไต้หวัน

'เศรษฐา' โชว์ฟิตขึ้นรถแห่ทักทาย ปชช.ครั้งแรก วอนเลือก ‘เพื่อไทย’ ยกเข่ง ทั้งคนทั้งพรรค

‘เศรษฐา’ นำ ‘เพื่อไทย’ เดินตลาดโกสุมรวมใจ เขตดอนเมือง บรรยากาศสุดคึกคัก เจ้าตัวชูเข่งปลาทูบอกขอเลือก พท.ยกเข่ง ทั้งคนทั้งพรรค ก่อนขึ้นรถแห่ทักทาย ปชช. เป็นครั้งแรก

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 16 มีนาคม 2566 แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายวราวุธ ยันต์เจริญ กรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสุธนพจน์ กิจธนาภิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินตลาดโกสุมรวมใจ เขตดอนเมือง กทม.เพื่อพบปะพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของในตลาด โดยระหว่างเดินผ่านแผงขายปลาทู พ่อค้าปลาทูได้ยกเข่งปลาทูให้นายเศรษฐาดู ทำให้ นายเศรษฐา กล่าวว่า "เลือกเพื่อไทยยกเข่ง ทั้งคน ทั้งพรรคนะครับ"

‘บิ๊กป้อม’ นำทีมเศรษฐกิจ พปชร.เยือนหอการค้าไทย-จีน รับฟัง-แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สู่การพัฒนา ศก.อย่างยั่งยืน

(16 มี.ค. 66) ที่หอประชุมใหญ่ ชั้น 9 หอการค้าไทย-จีน ถนนสาทรใต้ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เลขาธิการพรรค, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เหรัญญิกพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานยุทธศาสตร์การเมือง, นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายอภิชัย เตชะอุบล และ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน ร่วมพบปะหอการค้าไทย-จีน เพื่อร่วมหารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-จีน ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนการท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ระหว่างสองประเทศ

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีนให้การต้อนรับและกล่าวขอบคุณคณะของ พล.อ.ประวิตร ที่ให้เกียรติมาเยี่ยมเยียนหอการค้าไทย-จีน ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไทยและจีน และอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ให้แก่นักธุรกิจจีนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และสานต่อภารกิจส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนในทุกมิติ หอการค้าไทย-จีน มีหน้าที่สร้างเวทีใหม่ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของนักธุรกิจชาวจีนทั่วโลกหลังยุคโควิด ร่วมกันค้นหาโอกาสใหม่ภายใต้วิกฤต และหารือเกี่ยวกับความร่วมมือแบบพหุภาคีและหลากหลายรูปแบบของความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อเปิดยุคใหม่ในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ ในโลกในยุคใหม่

‘จุรินทร์’ นำทัพ ปชป. ปราศรัยใหญ่สกลนคร คนร่วมกว่า 3 หมื่น เสียงเชียร์นั่งนายกฯ กระหึ่ม

อีสานสะเทือน!!! ‘จุรินทร์’ นำทัพ ปชป. ปราศรัยใหญ่สกลนคร คนกว่า 3 หมื่นเข้าร่วม อ้อนขอโอกาสให้พรรคการเมืองที่มีนโยบายตอบโจทย์คนอีสานและซื่อสัตย์สุจริต

(16 มี.ค. 66) เวลา 15.00 น.ที่สนามข้างศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สกลนคร อ.พังโคน จ.สกลนคร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำทัพผู้สมัครจังหวัดสกลนคร ทั้ง 7 เขต พร้อมกับแกนนำพรรค ตั้งแต่ นายไชยยศ จิรเมธากร ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน ตั้งแต่ หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ เลย อำนาจเจริญ ชัยภูมิ เดินทางมาร่วมขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่อย่างคับคั่ง ที่สนามข้างศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ สกลนคร อำเภอพังโคน จ.สกลนคร 

ในช่วงที่นายจุรินทร์และคณะพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึงเวทีปราศรัย มีพี่น้องประชาชนมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และผูกผ้าขาวม้าให้กับนายจุรินทร์อย่างใกล้ชิด พร้อมเข้ามากอดนายจุรินทร์ และพูดว่า "รูปหล่อจังเลย ท่านนายก" และส่งเสียงเรียก "จุรินทร์เป็นนายก" “อยากให้นายก ชื่อจุรินทร์” “ท่านคือนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย” ดังกระหึ่ม ทำให้บรรยากาศการปราศรัยซึ่งมีพี่น้องประชาชนมาร่วมฟังในวันนี้กว่า 30,000 คน อย่างมืดฟ้ามัวดิน มีความคึกคักเป็นพิเศษ 

นอกจากนี้บนเวทีปราศรัยมีการจัดเซอร์ไพร์สให้กับนายจุรินทร์ ด้วยการนำเค้ก และช่อดอกไม้มามอบให้ พร้อมกับให้พี่น้องประชาชนที่มาฟังการปราศรัยร่วมกันอวยพรวันเกิดย้อนหลังให้กับนายจุรินทร์ พร้อมกับส่งเสียงเชียร์ให้ นายจุรินทร์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป 

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ได้ปราศรัยแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. จังหวัด สกลนคร ทั้ง 7 คน ประกอบด้วย เขต 1 นายณปภัช เสโนฤทธิ์ (เฟิร์ส) เขต 2 นายชาตรี หล้าพรหม เขต 3 ดร.อภิลักษณ์ เคนไขยวงศ์ เขต 4 นายสาคร พรหมภักดี อดีตรองโฆษกรัฐบาล อดีต ส.ส. 5 สมัย เขต 5 นายพงษ์ศักดิ์ สุทธิคีรี เขต 6 นายวีรศักดิ์ พรหมภักดี เขต 7 นางยุพาวรรณ จักรพิมพ์

ผบ.ตร. รับใช้กระสุนจริงคุมสถานการณ์ ยัน 'สารวัตรคลั่ง' ไม่ได้เครียดจากเรื่องงาน

ผบ.ตร.ยอมรับ ชุดปฏิบัติการใช้กระสุนจริงระงับเหตุ “สว.กานต์” คลุ้มคลั่ง เนื่องจากมีการตอบโต้ด้วยกระสุนจริง ลั่น ยืนยันปฏิบัติตามแผนยุทธวิธี ยืนยันไม่ได้เครียดจากเรื่องงานคาดเป็นสภาวะทางจิตที่ผิดปกติ

(16 มี.ค. 66) พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการเข้าควบคุมสถานการณ์พันตำรวจโทกิตติกานต์ แสงบุญ ที่คลุ้มคลั่งในบ้านพักย่านซอยสายไหม 46 และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลภูมิพล เมื่อวานที่ผ่านมา พร้อมแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิต และยืนยันว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยากต่อการเจรจา ตำรวจได้พยายามทุกวิถีทางในการระงับเหตุแล้ว แต่ทางพันตำรวจโทกิตติกานต์ ไม่มีท่าทีสงบ และไม่ยอมวางอาวุธ ชุดปฏิบัติการจึงตัดสินใจเข้าจับกุม

พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ ยอมรับว่าชุดอรินทราช 26 ได้มีการใช้กระสุนจริงในการปฏิบัติการ เนื่องจากพันตำรวจโทกิตติกานต์ มีอาวุธที่เป็นกระสุนจริงอยู่ด้วย และมีการโต้ตอบเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ทำให้ชุดปฏิบัติการจำเป็นต้องมีอาวุธที่เท่าเทียมกับผู้ก่อเหตุ แต่ก็มีทั้งกระสุนยาง และปืนไฟไฟ้ ใช้ร่วมปฏิบัติด้วย โดยขั้นตอนการปฏิบัติตามแผนกรกฎ ได้มอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา

ส่วนกรณีที่พบว่ามีรอยกระสุน 6 จุด ตามร่างกาย ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างให้แพทย์ชันสูตรศพให้ละเอียดก่อนว่าเป็นการเสียชีวิตจากสาเหตุใด

‘ไทยสร้างไทย’ เปิดตัว ‘ไข่มุก’ นักร้องวงพริกไทย ลงสมัคร ส.ส. เจ้าตัว เผย ชอบนโยบาย ลั่น!! ขอโอกาสใช้ความรู้ทำเพื่อ ปชช.

(16 มี.ค. 66) หลังจากที่ นางสาวปัณณรัตน์ สิรินันท์ หรือ ‘ไข่มุก’ นักร้องนำคนล่าสุดของวงดนตรีระดับตำนานอย่าง ‘วงพริกไทย’ ได้หวนกลับมาเป็นนักร้องนำอย่างเต็มตัว หลังจากห่างหายไปถึง 2 ปี กลับมาคราวนี้ ขอทุ่มสุดตัว ทั้งด้านวงการบันเทิง และขอลงสนามสมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ กับพรรคไทยสร้างไทย เป็นครั้งแรกอีกด้วย

โดยน้องไข่มุก เปิดใจถึงความสนใจการเมืองอยากทำงานการเมืองว่า ตนขอกราบขอบพระคุณ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ หรือที่ทุกคนเรียกว่า ‘คุณแม่’ ที่มอบโอกาสให้ตนได้เข้ามาทำงานทางการเมือง และอีกบุคคลที่ตนจะลืมไม่ได้คือ คุณต้น กุณฑล ประจวบเหมาะ ที่สนับสนุนและดูแลตนมาตั้งแต่แรก รวมทั้งคุณอุดมเดช และคุณสุธา รวมถึงผู้ใหญ่อีกหลายคนที่คอยช่วยเหลือ แนะนำสิ่งดี ๆ ให้ตนมาตลอด ตนคิดว่า การเมืองเป็นเรื่องของคนไทยทุก ๆ คน เพราะการเมืองมีผลต่อการดำเนินชีวิตของพวกเรามาตลอด อีกทั้งประชาชนไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียง มีอำนาจ แค่ในวันเลือกตั้งเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว พวกเราควรมีสิทธิ์และควรได้รับสิทธิ์ภายใต้กฎหมายทุก ๆ วัน ตลอดเวลา

ดังนั้น ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักประชาธิปไตย ตนจึงตัดสินใจที่จะใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่เคยช่วยเหลือคนด้อยโอกาส และคลุกคลีกับกลุ่มคนรากหญ้า จึงพอที่จะรู้ปัญหาของคนกลุ่มนี้ ว่าพวกเขาต้องการอะไร และเรามีวิธีที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างไร ซึ่งตนอยากเห็นประเทศไทย เป็นรัฐสวัสดิการเพื่อประชาชนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์

“ประชาชนทุก ๆ คนควรต้องได้รับสวัสดิการที่ดีของภาครัฐ ไว้ว่าจะเป็นหน่วยงานประกันสังคม สวัสดิการรักษาแบบยกระดับเทียบเท่าผู้ที่ทำประกันชีวิต เช่นได้รับยาที่มีคุณภาพ มีหมอเฉพาะทางคอยให้การรักษา การลดขั้นตอนของหน่วยงานรัฐ รวมทั้งการกระจายอำนาจออกจากส่วนกลางไปชนบท โดยมองค์กรที่มีประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบได้ตามกฎหมาย ไม่ใช่เสือกระดาษ น้องมุกอยากเห็นการเก็บภาษีที่เป็นธรรมต่อประชาชน และประชาชนทุกคนควรเสียภาษี ถ้ารายได้เข้าเกณฑ์นะคะ คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 150,000 บาท/ปี ไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดา” น้องไข่มุก กล่าว

‘อรรถวิชช์’ ร้องศาลปกครอง เพิกถอนแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ชี้ วิธีแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หวั่น ทำประชาชนสับสน

(16 มี.ค. 66) ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ของกรุงเทพมหานครว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 27 (1) กำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งเขตให้ ‘รวมอำเภอต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง’ ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีอำเภอหลักอยู่ในเขตเลือกตั้ง แต่ปรากฎว่าการแบ่งเขตที่ออกมา มีการรวมเฉพาะแขวงโดยไม่มีเขต (อำเภอ) หลัก มาเป็นเขตเลือกตั้งใหม่

ตัวอย่างเช่น เขตเลือกตั้งที่ 8 ประกอบด้วย แขวงทุ่งสองห้องของเขตหลักสี่ และแขวงลาดยาว แขวงจตุจักร แขวงจอมพล ของเขตจตุจักร, เขตเลือกตั้งที่ 9 ประกอบด้วย แขวงอนุสาวรีย์ของเขตบางเขน และแขวงจันทรเกษม แขวงเสนานิคม ของเขตจตุจักร และแขวงตลาดบางเขนของเขตหลักสี่ และยังมีเขตเลือกตั้งอื่น ๆ ที่เป็นการรวมเฉพาะแขวง โดยไม่มีเขตหลักถึง 13 เขตเลือกตั้ง ได้แก่เขตเลือกตั้งที่ 8, 9, 12, 13, 17, 18, 19, 21, 26, 27, 28, 29 และ 30 ซึ่งเป็นการรวมแขวงต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง ไม่ได้รวมอำเภอต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง ขัดต่อหลักเกณฑ์ตามมาตรา 27 (1)

‘ศรัณย์วุฒิ’ ชัดเจน!! ย้ายซบ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ยก 3 จุดเด่น ‘บิ๊กตู่’ มั่นใจ!! นั่งนายกฯ อีกสมัย

(16 มี.ค. 66) ที่รัฐสภา นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ แถลงว่า วันนี้เป็นการตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญของตน ที่เตรียมจะย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งสมัยตนอยู่พรรคเพื่อไทย (พท.) ก็ไปด้วยกันไม่ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ให้ตนอภิปราย และไม่ให้แตะต้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตนจึงแตกหักกับพรรคเพื่อไทย เมื่อไปอยู่กับพรรคเพื่อชาติก็แตกหัก และอยู่ด้วยกันไม่ได้ จากนั้นตนไปอยู่กับพรรคเสรีรวมไทยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็มีความคิดเห็นไม่ตรงกันบางอย่างที่ต้องสงวนเอาไว้ รวมถึงที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เคยประกาศว่าสามารถร่วมงานกับ พล.อ.ประวิตร ได้ ก็ทำให้ตนอึดอัดใจ

นายศรัณย์วุฒิ กล่าวต่อว่า ตนสู้เต็มร้อย ตนถูกฟ้องหลายคดีและไม่มีใครช่วยตน ตนเป็นนักรบผู้ต้องการประชาธิปไตยตัวจริง จึงอยู่พรรคไหนไม่ได้ เพราะพรรคที่มีอยู่ก็เป็นประชาธิปไตยจอมปลอม หลอกลวงประชาชน คนไทยทั้งแผ่นดินต้องหูตาสว่าง อย่าให้ใครมาหลอกเรา ตนจึงเลือกได้ 2 ทางคือ ด้วยความสามารถและการต่อสู้เพื่อประชาชน วันนี้จึงไม่สนใจขั้วประชาธิปไตยจอมปลอมที่ผสมพันธุ์กันไปหมดแล้ว และทำพรรคเพื่อบริษัทหนึ่งตระกูลหนึ่ง ตนหมายถึงพรรคไหนคนก็รู้ ส่วนอีกพรรคหนึ่งก็สุดโต่งจนประชาชนหวั่นไหวกันหมด อีกทางเลือกหนึ่งคือการทำงานกับพรรคที่ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน

นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า พรรคการเมืองปัจจุบันคือพวกประชาธิปไตยจอมปลอม และหลอกลวงประชาชน โดยใช้ประชาธิปไตยบังหน้า แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีจุดเด่น 3 ข้อ คือ 1. เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับพวกประชาธิปไตยปล้นชาติ 2. มีความจงรักภักดี และ3. ประชาชนรากหญ้าได้รับประโยชน์มากมายจากรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อเปรียบเทียบรัฐบาลอื่นๆ ที่ผ่านมาพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้รับอะไรเลยมิหนำซ้ำชาวบ้านยังบอกกับตนว่าชื่นชอบพล.อ.ประยุทธ์ เพราะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และแม่ค้าก็บอกว่าชอบโครงการคนละครึ่ง

‘พปชร.’ ย้ำจุดยืน!! ‘ก้าวข้ามความขัดแย้ง’ โว!! พปชร.เวอร์ชันใหม่ เก๋าแต่ไม่เก่า

(16 มี.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พร้อมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังจัดเวที ‘ปลดล็อก ทลาย Gen ร่วมคิด ระดมทำ’ ที่มีการเชิญตัวแทนภาคประชาชนทุกช่วงวัย ระดมความเห็น 
.
นางนฤมล กล่าวว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หลายคนให้ความสำคัญกับเรื่องอุดมการณ์ทางการเมือง จุดยืนของพรรคพปชร. เกี่ยวกับเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งสโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้งของพรรคนั้น เป็นการก้าวข้ามไปสู่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้น ทั้งมิติการเมือง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ให้ทุกเรื่องจบในสภา ถ้ายังมีความขัดแย้งอยู่จะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ 
.
นางนฤมล กล่าวว่า สิ่งที่เรารับฟังจากการทำกิจกรรมครั้งนี้ จะนำไปเสนอเป็นนโยบายของพรรค และนโยบายรายเขตในกทม. เป็นความตั้งใจของเราที่จะทำให้ชาว กทม. โดยในวันที่ 23 มี.ค. เราจะทำกิจกรรมลักษณะนี้อีก โดยจะมาขยายความเรื่องเศรษฐกิจชุมชนในแต่ละเขตว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางที่จะเสนอให้พรรค และหากเราได้เป็นรัฐบาลจะผลักดันให้เกิดขึ้นจริง หรือว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ได้เป็น ส.ส.จะผลักดันในสภา 

‘เพื่อไทย’ โวย ‘กกต.’ แบ่งเขตไม่เป็นธรรม-ส่อผิด กม. หวั่น เลือกตั้งเป็นโมฆะ ถาม กกต.รับผิดชอบไหวหรือ?

(16 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.เขตลาดกระบัง พร้อมด้วย นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ พรรค พท.ร่วมแถลงข่าวคัดค้านแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ของ กกต.กทม.

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ได้เห็นประกาศจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึง กกต. กทม.ว่าจะมีการเลือกใช้การแบ่งเขตการเลือกตั้งของ กกต.แบบที่ 1 ซึ่งเป็นแบบที่พรรค พท. กังวลใจว่า ส่อขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ที่ผ่านมามีความหวังว่า กกต.จะได้ยินเสียงการทักท้วงของพรรค พท. จึงไม่ลดละความพยายามที่จะแถลงข่าวให้เสียงดังขึ้น แต่สุดท้ายมีประกาศออกมาเลือกแบบที่ 1 จึงจำเป็นต้องส่งเสียงอีกครั้ง เพราะถือเป็นการแบ่งเขตการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม เรียกว่า Gerrymandering ที่ผู้มีอำนาจจงใจเปลี่ยนแปลงเส้นเขตเลือกตั้ง เพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ผู้ที่รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุด คือภาคประชาชน คืนวานนี้ ประชาชนร้องเรียนมาว่า ได้รับผลกระทบจากการแบ่งเขต เพราะพวกเขาได้หมายมั่นปั้นมือว่าจะเลือก ส.ส.คนนี้ให้ไปเป็นผู้แทน ให้ได้มาทำงานต่อ เพราะเคยร่วมงานใกล้ชิดกันมาก่อน

ทั้งนี้ หาก กกต.ยืนยันที่จะใช้การแบ่งเขตแบบที่ 1 ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ท้ายที่สุดอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะทั้งประเทศ กกต.ต้องกำหนดเขตเลือกตั้งและจำนวน ส.ส.แต่ละเขตเลือกตั้งกันใหม่ แล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ รวมไปถึงจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคง ความมีเสถียรภาพของประเทศชาติ ความขัดแย้งทางการเมือง และงบประมาณแผ่นดิน

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า หากการเลือกตั้งเป็นโมฆะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรักษาการนายกฯ ต่อไปจนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จ ซึ่งนานเท่าใดก็ไม่มีใครรู้ หมายความว่าผู้มีอำนาจนำประเทศชาติ และประชาชนเป็นตัวประกันให้กับความเสียหายนี้ใช่หรือไม่ หาก กกต.ไม่ดูดีดูดาย พิจารณาคำท้วงติงของพรรค พท. หากเกิดอันตรายเสียหายขึ้น กกต.จะรับผิดชอบไหวหรือ ถ้าหากการเลือกตั้งเป็นโมฆะ

ทั้งนี้ พรรค พท.พร้อมสู้ทุกกติกาที่มีความยุติธรรมหรือที่ถูกกำหนดขึ้น พรรค พท.จะเดินหน้าต่อเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งให้ได้ ให้พี่น้องประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง นำประชาธิปไตยกลับมา และทำให้ประชาชนเห็นว่าพรรคการเมืองที่พวกเขาสนับสนุนได้ใช้พลังประชาชน ไม่โอนอ่อนผ่อนตาม ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจที่ไม่เป็นธรรมเหล่านั้น

‘ชุดปฏิบัติการ SITF’ ตรวจยึดเฮโรอีน 18 กก. ซุกพัสดุ เตรียมส่งออสเตรเลีย เร่งขยายผลหาผู้อยู่เบื้องหลัง

(16 มี.ค. 66) ​นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า "ชุดปฏิบัติการ SITF ตามโครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force : SITF) ประกอบด้วย ป.ป.ส, บช.ปส., ศุลกากร และ ศอ.ปส.ทร. ตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศ จำนวน 3 กล่อง ภายในบรรจุเครื่องชั่งน้ำหนักขนาดใหญ่ ซุกซ่อนเฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 18 กิโลกรัม เตรียมส่งไปออสเตรเลีย เหตุเกิดที่ บริษัทขนส่งสินค้าแห่งหนึ่ง เขตวังทองหลาง กทม.

จากการสืบสวนทราบว่า เส้นทางพัสดุซุกซ่อนเฮโรอีน ถูกลำเลียงมาจากพื้นที่ชายแดนด้าน จ.หนองคาย โดยใช้บริการบริษัทขนส่งเอกชน - บริษัทขนส่งเอกชน เขตวังทองหลาง กทม. - เตรียมส่งไปประเทศออสเตรเลีย ผ่านการขนส่งทางเรือ"

‘ธนเดช’ ชม ‘ทอ.’ เปิดพื้นที่ให้ทุกพรรคหาเสียง ชี้!! นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี พากองทัพเป็นกลางทางการเมือง

(16 มี.ค. 66) ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว พรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีที่ พล.อ.อ. อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เตรียมเปิดพื้นที่สโมสรกองทัพอากาศ สนามกีฬากองทัพอากาศ และหอประชุมกองทัพอากาศ ให้พรรคการเมืองสามารถเข้ามาหาเสียงกับกำลังพลได้ ว่า ในกรณีนี้เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมที่กองทัพอากาศออก มานำร่องก่อนเหล่าทัพอื่น ในการให้พื้นที่แก่พรรคการเมือง เป็นการแสดงบทบาทวางตัวอย่างเหมาะสมและเป็นกลาง

ร.ท.ธนเดช กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวยังเป็นนโยบายสำหรับเพียงกองทัพอากาศเท่านั้น ยังไม่ได้ครอบคลุมถึงเหล่าทัพอื่น ๆ ทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ ซึ่งหากพูดถึงแต่เฉพาะกองทัพบก เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้เพิ่งมีนโยบายออกมาจากผู้บัญชาการทหารบก ไม่ให้แม้กระทั่งใช้พื้นที่ของกองทัพเป็นหน่วยเลือกตั้งด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะเป็นสิ่งที่ย้อนแย้งกับคำกำชับของผู้บัญชาการทหารบกเอง ที่บอกว่ากองทัพต้องเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งสำหรับตนแล้ว ไม่มีอะไรที่จะแสดงออกถึงความเป็นกลางของกองทัพได้ดีไปกว่าการเปิดพื้นที่ให้ทุกพรรคการเมืองได้เข้าไปแสดงออกรณรงค์

‘พปชร.’ พร้อมปราศรัย ลานคนเมือง กทม. 18 มี.ค.นี้ มั่นใจ!! ปชช. 5 พันคน รอฟังนโยบายแก้ปากท้อง-การจราจร

(16 มี.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรค พปชร. กล่าวถึงการจัดเวทีปราศรัยของพรรค พปชร. ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ ว่า มีความพร้อมหมดแล้ว ขณะนี้เตรียมประชุมเกี่ยวกับการวางตัว และดูแลเรื่องแสง สี เสียง สำหรับการจัดตัวผู้สมัคร ส.ส.มีครบ และเกินด้วยซ้ำ จึงรอการแบ่งเขตของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ชัดเจนและจัดคนลงได้ทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่า จัดขุนพลปราศรัยบนเวทีอย่างไร นายสกลธี กล่าวว่า จัดขุนพลสำคัญไว้หมดแล้ว และเตรียมเก้าอี้ไว้รับผู้ปราศรัยประมาณ 3 พันคน ถ้ารวมประชาชนที่ยืนน่าจะมีประมาณ 5 พันคน

เมื่อถามถึงนโยบายเฉพาะในพื้นที่ กทม. นายสกลธี กล่าวว่า มีแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ขนส่งสาธารณะ จากที่ทำโพลพบว่าปัญหาอันดับ 1 ใน กทม. คือ ปัญหาด้านการจราจร รถติด ที่ต้องอาศัยความร่วมมือหลายฝ่าย

กก.วิเคราะห์ข่าวฯ สอท.3 รวบแก๊งแอบอ้าง เป็นตำรวจ หลอกติดตั้งแอพ 'DSI ปลอดภัย' ดูดเงินเกลี้ยงบัญชี

ตามสั่งการของผู้บังคับบัญชา กองบังคับการตำรวจ สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.3) กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ให้ระดมกวาดล้างผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดี ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคม และเกิดผลความเสียหายที่กระทบต่อประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ สอท.3 ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว น.ส.ปณิตาหรือมิ้น บุญประสงค์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 1 ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลอาญา ที่ 496/2566 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 โดยกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ,ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ,ร่วมกันเป็นซ่องโจร ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ,โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และร่วมกันฟอกเงิน ”

‘ภูมิธรรม’ เชียร์ ปชช. กาเพื่อไทย ทะลุ 310 เสียง ยัน!! เพื่อไทยพร้อมทลาย ‘ระบบประยุทธ์’ ให้สูญสิ้น

(16 มี.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ ‘การเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์เพื่อไม่ให้คะแนนสูญเปล่า : หยุดระบอบประยุทธ์’ มีเนื้อหาดังนี้…

การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของพี่น้องประชาชนที่ต้องการหลีกให้พ้นจากความบอบช้ำในการบริหารประเทศของระบอบประยุทธ์

เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการใช้อำนาจของประชาชนเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงหยุดระบอบประยุทธ์ซึ่งกัดเซาะ บั่นทำลาย ความหวังของประชาชน ด้วยการเลือกพรรคการเมือง อย่างพรรคเพื่อไทยให้เกิน 310 เสียง

ทำไมต้องเลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อหยุดระบอบประยุทธ์

เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับ 1 ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งนับตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย เป็นเวลาเกือบ 20 ปี

เพราะพรรคเพื่อไทย และ ทีมของเพื่อไทย มีประสบการณ์เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ แก้ไขปัญหา ให้พี่น้องประชาชน ได้ฝากผลงานเชิงประจักษ์มาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย อย่างเช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเปลี่ยนโครงสร้างของระบบสาธารณสุขครั้งใหญ่ของประเทศ นโยบายกองทุนหมู่บ้านที่ใช้หลักการกระจายอำนาจอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการกระจายเงินและการตัดสินใจโดยตรงไปที่ประชาชนในทุกหมู่บ้าน เป็นต้น

เพราะพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมของบุคลากรทางการเมืองทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซึ่งมีความพร้อมที่จะเข้ามาบริหารจัดการปัญหาทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชน และเชื่อมประสานได้กับทุกภาคส่วน /มีผู้สมัคร ส.ส แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีทั้งผู้มีประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ และคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ / โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีตัวแทนผู้สมัคร ส.ส เขต ที่ถือเป็นด่านหน้าที่สำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมประสานระหว่างพรรคกับพี่น้องประชาชนในแต่ละเขตพื้นที่ ซึ่งพรรคให้ความสำคัญและพิถีพิถันในการคัดเลือกคนที่ใช่ที่สุดในการเป็นผู้แทนเข้าไปทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top