Sunday, 25 May 2025
SPECIAL

วิชาฟิสิกส์: เรื่อง ความร้อนสำหรับ ม.ต้น

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันอังคารที่ 8 มิถุนายน วิชาฟิสิกส์: เรื่อง ความร้อนสำหรับ ม.ต้น

โดย คุณน้ำหวาน ภิรมณ กำเนิดมณี นักเรียนทุน พสวท. (ฟิสิกส์) ปริญญาตรี-ปริญญาเอก สหรัฐอเมริกา #สอนวิชาฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ เตรียมเข้าม.4

 #DekThaiOnline https://dekthai-online.com/instructor/P'NAMWAN 

.

.

เชียงราย - โรงพยาบาลเม็งรายฯ ฉีดวัคซีนให้ประชาชนที่ลงทะเบียนกับหมอพร้อม ทั้งวัคซีน Sinovac และ Astrazeneca ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะฉีดให้ตามความเหมาะสมของผู้รับวัคซีน

เวลา 09.00 น. วันที่ 8 มิ.ย.64 ที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.มทบ.37 พร้อมคณะได้เดินทางมา เพื่อตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส โควิด - 19 ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนนแอพพิเคชั่นหมอพร้อม ผู้ที่สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี และผู้ป่วยเรื้อรังที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช โดย พ.​อ.นพ.กิติพันธ์ เฮงสนั่นกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายฯ ให้การต้องรับ ซึ่งวันนี้มีประชาชนเดินทางเข้ามารับการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งวัคซีน sinovac และ astrazeneca ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะฉีดให้ตามความเหมาะสมของผู้รับวัคซีน

โดยที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายฯ เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการหมอพร้อม ที่ให้บริการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอพพิเคชั่น โดยเปิดให้ฉีดวัคซีนในวัน อังคาร พฤหัส และวันศุกร์  โดยในวันนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนจำนวน 130 ราย  โดยในจำนวนนี้มี พล.อ.แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช เข้ารับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ด้วย


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

ประจวบคีรีขันธ์ - คิกออฟแห่ฉีดวัคซีนแน่นหัวหิน ร้องเพลงเบิร์ดให้กำลังใจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

วันที่ 8 มิถุนายน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึง สถานการณ์โควิด-19 จ.ประจวบฯ วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45 คน คน เป็นคนไทย 12 คน ชาวพม่า 33 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสม 1,811 คน มีผู้รักษาตัวในโรงพยาบาล 225 คน สำหรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นมากถึง 45 ราย ส่วนหนึ่ง17 ราย เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่มีอาการป่วย 4 รายก่อนหน้านี้ ในโรงงานสับปะรดกระป๋องของบริษัทโดล ไทยแลนด์ จำกัดที่ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมในโรงงานฯ 136 คน นอกจากนั้นพบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ใหม่ที่โรงงานชำแหละไก่ บริษัทสุรชัย โพลทรี่ ฟู้ดส์ จำกัด ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน มีผู้ป่วยใหม่ที่พักร่วมกัน 23 ราย ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อสะสมในโรงงานรวม 73 ราย ขณะที่โรงงานทั้ง 2 แห่งยังเปิดสายการผลิตตามปกติ โดยมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด

ขณะที่ นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีประชาชนได้รับคิวฉีดจำนวน 1,773 คนทยอยเดินทางมาที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยบางรายต้องนั่งรถเข็นโดยให้บุตรหลานและญาติช่วยเหลือ จากนั้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจวบฯ โรงพยาบาลกองบิน 5 และประชาชนจิตอาสาได้ร่วมกันอำนวยความสะดวก มีการจัดระเบียบไม่ให้มีปัญหาความแออัด

นพ.พงษ์พจน์ ธีรานันตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าการให้บริการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ได้จัดจุดฉีด 15 โต๊ะฉีด หลังจากประชาชนได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วจะมีการนัดหมายเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในอีก 16 สัปดาห์ หรือวันที่ 27 กันยายน 2564 ขณะเดียวกันในวันที่ 8 มิถุนายน นี้ จะฉีดวัคซีนเก็บตกในกลุ่มผู้ป่วยโรคไตเพราะเป็นกลุ่มที่มักมีปัญหาเรื่องของความดัน ส่วนผู้ป่วยติดเตียงที่มีปัญหาในการเดินทาง ขณะนี้ทางโรงพยาบาลมีบัญชีรายชื่อแล้วและจะวางแผนการให้บริการเพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงและครอบคลุมมากที่สุด ทั้งนี้ จ.ประจวบฯ ได้จัดจุดบริการฉีดวัคซีนรวม 10 จุดใน 8 อำเภอ คาดว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้จำนวนกว่า 13,000 คน เน้นการฉีดให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 1 จะดำเนินการทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ตลอดเดือนมิถุนายน

ส่วนบรรยากาศวันแรกฉีดวัคซีนที่ห้องประชุม ชั้น 10 อาคารจอดรถ (ตึกส้ม) โรงพยาบาลหัวหิน มีประชาชนที่ได้ลงทะเบียนไว้จำนวนมากเข้ารับการฉัดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนเริ่ม นพ.นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผอ.โรงพยาบาลหัวหิน คณะแพทย์ พยาบาล และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมร้องเพลง "จับมือกันไว้" ของศิลปิน "เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย" เพื่อเป็นกำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มารับวัคซีนได้ก้าวผ่านภาวะวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า การบริการฉีควัคซีนในวันนี้เหตุการณ์ปกติ ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทาง รพ.จะฉีดวัคซีนได้ประมาณชั่วโมงละ 500 คน ยอดทั้งหมด 2,514 คน น่าจะใช้เวลา 5-6 ชม.ก็เสร็จ คิดว่าไม่เป็นปัญหา สิ่งที่เราห่วงมากกว่าคือความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งชุดนี้เป็นชุดผู้สูงอายุกับผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะฉะนั้นเราจะต้องดูภาวะฉุกเฉินและเรื่องของอาการ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนฝากว่าให้รีบมาลงทะเบียนได้เลย ไม่ว่าจะลงทางอินเตอร์เน็ต หรือที่โรงพยาบาลทั้ง 5 แห่ง ที่ห้างบลูพอร์ต ห้างมาร์เก็ตวิลเลจ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้คิว ไม่มีเส้นสายอะไรทั้งนั้น ทุกคนมีสิทธิ์เท่ากันหมด เข้าถึงบริการรับวัคซีนได้หมด เพียงแค่ท่านเสียเวลานิดหนึ่งในการมาลงทะเบียน ขอเน้นย้ำว่าทุกคนเข้าถึงวัคซีนได้เหมือนกันทุกคน

นายวรรธนะ ยอดอุส่าห์ อายุ 66 ปี ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนคนแรกที่ รพ.หัวหิน กล่าวว่า ตนเดินทางจากปราณบุรีมาตั้งแต่ตี 3 ถึงโรงพยาบาลหัวหินประมาณตี 4 ก่อนจะมาฉีดวัคซีนนั้น ตนไม่มีความกังวล เพราะปกติจะออกกำลังกายทุกวัน วิ่งทุกวัน และนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ อีกอย่างคือตนไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่เป็นโรคไตและกำลังฟอกไตรักษาอยู่ อยากฝากถึงคนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนให้รีบมาฉีดเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว

นายแพทย์สุริยะ กล่าวว่า สำหรับการคิกออฟฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้า กว่า 13,000 โดส ในวันแรกยอมรับว่ามีปัญหาอุปสรรคที่โรงพยาบาลหัวหิน และโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอพพ์หมอพร้อมที่มีคิวฉีดเดิมกำหนดไว้วันที่ 9 มิถุนายน 2564 แต่ภายหลังมีการแจ้งเลื่อน แต่ผู้ลงทะเบียนบางรายได้เดินทางมากดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำให้ต้องอธิบายทำความเข้าใจ นอกจากนั้นมีบางรายอ้างว่ารายชื่อที่ลงทะเบียนหลุดหาย เจ้าหน้าที่ต้องขอให้แสดงหลักฐาน และค้นหาในระบบเพื่อป้องกันการแอบอ้าง สำหรับการกำหนดคิวฉีดตามลำดับหมายเลขพบว่าบางโรงพยาบาลมีผู้ที่มีคิวฉีดลำดับที่ 300 ขึ้นไปมารอคิวล่วงหน้าก่อนผู้ที่มีรายชื่อ 1-250 จะฉีดครบ โดยอ้างเหตุผลขอฉีดก่อน หากคิวที่กำหนดยังเดินทางมาไม่ถึง และพบว่ามีผู้ลงทะเบียนจำนวนมากมารอที่โรงพยาบาลทั้งที่ไม่อยู่ในคิวฉีดวันแรก เนื่องจากมีความหวังว่าจะมีผู้ลงทะเบียนไว้แล้วไม่สะดวกเดินทางไปฉีดวัคซีนตามที่นัดหมาย


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

กกล.สุรศักดิ์มนตรี ยึดกัญชาข้ามโขงกว่า 400 กก. พร้อมเคตามีน 1 กิโลกรัม

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน นาเชวงศักดิ์ พลเยี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอหว้านใหญ่ พ.ต.อ.ชัชชัย วงศ์สุนะ รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พ.อ.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.บก.ควบคุม ที่.1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี แถลงข่าวเจ้าหน้าที่ทหารสนธิกำลังตรวจยึดกัญชานำเข้าจากประเทศ สปป.ลาว จำนวน 400.50 กก.

โดยสืบเนื่องจากระหว่างเวลา 18.00 - 23.30 น. ของวันที่ 5 มิถุนายน เจ้าหน้าที่หมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด มาในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณ บ้านป่งขาม หมู่ที่ 1 ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้จัดกำลังออกลาดตระเวนตามพื้นที่ได้รับแจ้งจนกระทั่งเวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่อยู่ได้ทำการสังเกตพบเรือกีบปิดไฟแล่นเข้ามาจอดริมฝั่งแม่น้ำโขงจึงใช้กล้องส่องกลางคืน (Night Vision) พบเห็นกลุ่มคนกำลังดำเนินการขนสิ่งของบางอย่างจากเรือขึ้นมาบนฝั่งคาดว่าจะเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ และตะโกนส่งเสียงออกไปให้หยุด แต่กลุ่มคนดังกล่าวได้แยกย้ายกันวิ่งหนีบางส่วนกระโดดขึ้นเรือกีบขับหลบหนีไปกลับทาง สปป.ลาว และอีก 2 คน บนฝั่งอาศัยความมืด และชำนาญเส้นทางวิ่งหลบหนีเข้าไปบริเวณท้ายหมู่บ้าน

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชาแห้งอัดแท่ง) น้ำหนักประมาณ 400.50 กิโลกรัม ทั้งหมดบรรจุอยู่ในกระสอบสีดำ จำนวน 11 กระสอบ และยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2(เคตามีนชนิดเกล็ด) จำนวน 1 กิโลกรัม ห่อหุ้มด้วยพลาสติกลายการ์ตูนสีขาวบรรจุอยู่ในถุงชาจีนสีเขียวอีกชั้นหนึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระสอบกัญชา จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีต่อไป


ภาพ/ข่าว ชุด ฉก.พญาอินทรีย์ / เดวิท โชคชัย

พิจิตร – ฝนทิ้งช่วง นาข้าวนับหมื่นไร่จ่อเข้าขั้นวิกฤต ชาวนาวิงวอนชลประทานหาทางช่วยด่วน

ชาวนาพิจิตรถามหาคนพูดที่บอกว่าปีนี้จะมีฝนและมีปริมาณน้ำมากสุดในรอบ30 ปีชาวนาเชื่อกระแสข่าวแห่ลงมือทำนา ไถหว่านปลูกข้าว แต่ถึงวันนี้มีประกาศเข้าสู่ฤดูฝนแต่ยังไม่มีฝนตก ล่าสุดพบนาข้าวในพื้นที่ส่งน้ำชลประทานพิจิตร นาข้าวนับหมื่นไร่กำลังจ่อเข้าขั้นวิกฤต ชาวนารวมตัวเรียกร้องวิงวอนชลประทานหาทางช่วยด่วน

วันที่ 9 มิ.ย. 2564  นายสุบิน  ศรีบุศกร  รองนายกอบจ.พิจิตร ได้รับมอบจาก พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร ให้ลงพื้นที่เนื่องจากมีชาวนาในเขต ต.ดงป่าคำ อ.เมืองพิจิตร และในเขต ต.วังหว้า อ.ตะพานหิน ซึ่งเป็นเกษตรกรและนาข้าวในเขตส่งน้ำชลประทานที่รับน้ำจากคลอง C78 รวมนาข้าวนับหมื่นไร่ร้องทุกข์ว่า จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงทำให้นาข้าวขาดน้ำส่อเค้าว่าจะได้รับความเสียหาย จึงลงพื้นที่และได้พบกับ นางเหลา บุญประเสริฐ อายุ 72 ปี เป็นชาวนาอยู่บ้านเลขที่ 78/3 หมู่ 3 ต.ดงกลาง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร เล่าว่า นาข้าวของตนจำนวนหลายสิบไร่ ขณะนี้กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง เหตุจากฝนทิ้งช่วงนาข้าวส่อเค้าว่าจะแห้งตาย ตนจึงต้องไปกู้เงินมา 5 หมื่นบาท เพื่อเตรียมที่จะเจาะบ่อน้ำบาดาลเนื่องจากน้ำในคลองชลประทานที่เคยส่งมาให้ปีนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำมีน้อยจึงไม่สามารถส่งน้ำมาช่วยชาวนาได้ ดังนั้นชาวนาจึงต้องพึ่งตนเอง

จากนั้น นายสุบิน  ศรีบุศกร  รองนายกอบจ.พิจิตร ได้ไปพบกับ นางสาวนงลักษณ์ วิบูลย์ญาณ  รอง ปธ.อบจ.พิจิตร ซึ่งเป็น สจ.ในพื้นที่ ต.ดงป่าคำ ที่กำลังประชุมร่วมกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และชาวนากลุ่มผู้ใช้น้ำจำนวนกว่าร้อยคน ซึ่งประชุมกันที่ ศาลาประชาคม หมู่ 8ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตรโดยมี  นายภะกิต ไม้ตะเภา หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำที่ 1 ท่าบัว ดูแลน้ำและคลองชลประทานตอนบนในเขต อ.เมือง อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.ตะพานหิน  , นายจิรโรจน์ สมบัติใหม่ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำที่ 2 ท่าบัว ดูแลน้ำและคลองชลประทานตอนกลาง อ.ตะพานหิน อ.โพทะเล อ.บางมูลนาก , นายวิทยา วังวิเศษ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำที่ 3 ท่าบัว ดูแลน้ำและคลองตอนล่าง อ.โพทะเล อ.บางมูลนาก  จ.พิจิตร และ อ.ชุมแสง จ.นคนสวรรค์ มาร่วมชี้แจงถึงสถานการณ์น้ำและนโยบายส่งน้ำ

สรุปได้ว่าจังหวัดพิจิตรรับน้ำมาจากโครงการส่งน้ำเขื่อนนเรศวรในปริมาตรน้ำ 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากนั้นก็กระจายน้ำไปยังโครงการส่งน้ำพลายชุมพล 5 ลูกบาศก์เมตร  โครงการส่งน้ำดงเศรษฐี 5 ลูกบาศก์เมตร  โครงการส่งน้ำท่าบัว 5 ลูกบาศก์เมตร ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ทั้ง 3 โครงการ  พื้นที่ประมาณ 5 แสนไร่ แต่เนื่องจากมวลน้ำมีอยู่แค่ก้อนเดียว เจ้าหน้าที่ชลประทานต้องใช้หลักการบริหารจัดการดูแลนาข้าวในพื้นที่รับน้ำเฉพาะโซนนี้คือคลอง C 1 C40  C78  จำนวนนับแสนไร่ จึงทำให้เกิดการแย่งน้ำกันทำนา ซึ่งขณะนี้ก็ได้ออกหลักเกณฑ์ให้ชาวนาสลับแบ่งรอบเวรกันสูบน้ำเข้านา สลับกันเป็นรอบกลางวันและรอบกลางคืน แต่ก็มีชาวนาบางคนไม่เคารพกฏกติกา จึงทำให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปด้วยความยุ่งยาก ส่วนที่ชาวนาร้องขอให้กรมชลประทานเพิ่มปริมาณการจ่ายน้ำให้มากขึ้นนั้นพวกตนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานก็จะได้รายงานไปยังผู้บังคับบัญชาต่อไป

นายสุบิน ศรีบุศกร รองนายกอบจ.พิจิตรกล่าวชี้แจงกับชาวนากลุ่มนี้ว่า อบจ.พิจิตร พร้อมให้การสนับสนุนในทุกภารกิจที่จะทำให้ชาวนามีน้ำทำนาแต่ขอเพียงอยู่ในข้อที่กรอบระเบียบที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้นและจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการบริการจัดการน้ำให้ทั่วถึงเป็นธรรมอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร

กาฬสินธุ์ – ฝนตกสะสมท่วมถนน ติดต่อกัน 3 วัน 3 คืน ทำนาข้าวชาวนาช้ำ

อิทธิพลของฝนต้นฤดูที่ตกลงมาต่อเนื่อง 3 วัน ส่งผลให้เกิดการสะสมของปริมาณน้ำตามแหล่งเก็บน้ำ รวมทั้งคลองระบายน้ำในชุมชน และแปลงนาของเกษตรกร โดยเฉพาะเขตตำบลดอนสมบูรณ์ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์  ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมถนนสายหลักระยะทางยาวกว่า 100 เมตร และนาข้าวที่เพิ่งหว่านจมอยู่ใต้น้ำ ชาวนาต้องหาเครื่องสูบน้ำออกก่อนเน่าเสียหาย

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามผลกระทบ หลังฝนต้นฤดูตกลงมาต่อเนื่อง 3 วัน ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ พบว่าถนนสายหลักของ ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด บริเวณหน้า อบต.ดอนสมบูรณ์ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดอนยานาง ได้เกิดน้ำท่วมขังเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ลึก 30-50 ซม. รถเล็กบางคันผ่านไม่ได้ ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่จึงเลี่ยงไปใช้เส้นทางจราจรสายอื่น ขณะที่บริเวณแปลงนาในเขต ต.ดอนสมบูรณ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวนากำลังหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว พบว่าได้เกิดน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง จึงต้องหาเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออก ก่อนที่เมล็ดพันธุ์ข้าวจะเน่าเสียหาย

นายนาคินทร์ ภูจ่าพล ผู้ใหญ่บ้านดอนยานาง ต.ดอนสมบูรณ์กล่าวว่า ฝนที่ตกติดต่อกัน 3 วัน 3 คืน ถึงแม้จะไม่ตกหนัก แต่ก็ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำฝนเกิดการสะสม โดยตามร่างระบายน้ำในชุมชน และตามคูคลองระบายไม่ทัน จึงทำให้เกิดการเอ่อท่วม และท่วมขังดังกล่าว ทั้งนี้ ได้ประกาศเตือนชาวบ้าน ให้ระมัดระวังอันตรายและอุบัติเหตุ จากภาวะน้ำท่วม เช่น อุบัติเหตุ งูพิษ แมลงมีพิษ รวมทั้งห้ามลงไปแช่น้ำ เนื่องจากอาจจะเหยียบตะปู เศษแก้วหรือวัสดุแหลมคม ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคบาดทะยัก และสารเคมีที่เจือปนอยู่ในน้ำ ที่อาจะซึมเข้าสู่ร่างกายได้รับอันตรายได้

กรุงเทพฯ - "ลุงตู่" เยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กำชับ รมว.แรงงาน ปูพรมฉีดทั่วกรุง สร้างภูมิคุ้มกันหมู่

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง พร้อมกำชับ รมว.แรงงาน ปูพรมฉีด 45 จุด ทั่วกรุง เร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน

ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายสำนักงานประกันสังคม บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงการคลัง โดยธนาคารกรุงไทย และสถานพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้กระจายออกสู่วงกว้างทั้งในโรงงาน และสถานประกอบการ

ในเบื้องต้นได้กำหนดจัดการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 7 - 26 มิ.ย.64 ซึ่งวัคซีนล็อตแรกจำนวน 1 ล้านโดส จะฉีดให้กับผู้ประกันตนที่แจ้งความประสงค์ต้องการรับวัคซีนโควิด-19 กับนายจ้าง และบันทึกลงระบบ e-service ตามที่สำนักงานประกันสังคมได้ทำการสำรวจตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้จัดลำดับคิวการฉีดวัคซีนไว้เรียบร้อยตามลำดับที่นายจ้างได้แจ้งความประสงค์ผ่านระบบ และได้ประสานนายจ้างจัดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จากสถานประกอบการจำนวน  24,568 แห่งทั่วกรุงเทพมหานคร เข้ารับการฉีดวัคซีนตามจุดที่สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดไว้ทั้งสิ้น 45 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร เช่น สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อาคารซันทาวเวอร์ ศูนย์กีฬาบางขุนเทียน

และตามที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสถานประกอบการที่ลูกจ้าง/ผู้ประกันตนทำงานอยู่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-12 ได้จัดเตรียมสถานที่ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร อุปกรณ์ทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม 23 แห่ง โดยมีศักยภาพในการฉีดได้วันละ 50,000 คน ซึ่งทุกศูนย์ให้บริการระหว่างเวลา 08.00 - 17.00 น.

นายสุชาติ กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า ขอให้ผู้ประกันตนทุกคนมั่นใจ กระทรวงแรงงานพร้อมดำเนินงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกันตนเข้าถึงบริการวัคซีนโควิด-19 อย่างแน่นอน สำหรับผู้ประกันตนที่ลงทะเบียนไว้แล้ว  แต่ยังไม่ได้รับการนัดหมายให้เข้ารับการฉีดวัคซีนในล็อตแรก หากสำนักงานประกันสังคมได้รับการจัดสรรวัคซีน จะนัดหมายให้เข้ารับการฉีดในล็อตถัดไป เรียงตามลำดับการลงทะเบียน ทั้งนี้ หากท่านไม่มาตามกำหนดเวลา จะถือว่าสละสิทธิ์ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 รวมถึงการเข้ารับการรักษา ติดต่อสายด่วน 1506 กด 6 และหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ติดต่อสายด่วน 1506 กด 7 เจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

นครนายก - หลวงพี่ต่อ วัดมณีวงศ์ดงละคร มอบอาหารให้บุคลากรทางการแพทย์วันละ 50 ชุด ตลอดทั้งเดือนที่มีการฉีดวัคซีน ณ โรงพยาบาลนครนายก

พระครูปิยะรัตนานุกูล (หรือหลวงพี่ต่อ) วัดมณีวงศ์ ดงละครได้นำอาหารจำนวน 50 ชุด มามอบให้กับผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครนายก เพื่อนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป ณ โรงพยาบาลนครนายก

ที่ตึกจุมภฎ-พันธุ์ทิพย์ โรงพยาบาลนครนายก ตำบลนครนายก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก พระครูปิยรัตนานุกูล (หรือหลวงพี่ต่อ) วัดมณีวงศ์ ดงละคร ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลนครนายก เพื่อมอบอาหารวันละ 50 ชุด ทุกวันจนถึงสิ้นเดือนให้บุคลาทางการแพทย์ ที่ทำการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป โดยมีนายแพทย์ ธีระชัย คงเอี่ยมตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครนายกเป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ต่อไป

จากการให้สัมภาษณ์ ของนายแพทย์ ธีระชัย คงเอี่ยมตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครนายก ว่าวันนี้เป็นวันดีเดย์ที่รัฐบาลได้ให้เริ่มต้นฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ทั่วประเทศ ทางโรงพยาบาลจะทำการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไปทุกวัน โดยในวันนี้ได้มีประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ได้มาฉีดวัคซีนจำนวน 622 ท่าน และในวันนี้พระครูปิยรัตนานุกูล (หรือหลวงพี่ต่อ)วัดมณีวงศ์ ดงละคร ได้นำมาอาหารมามอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ วันละ 50 ชุด ทุกวันเริ่มตั้งแต่ วันที่ 7 มิถุนายน 2564 ตลอดไปจนครบการฉีดวัคซีนของประชาชนที่โรงพยาบาลนครนายก

(สัมภาษณ์ นายแพทย์ ธีรชัย คงเอี่ยมตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครนายก)


ภาพ/ข่าว  สมบัติ เนินใหม่ / รัชชานนท์ เนินใหม่  ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

คอนโดโปรด ตอบโจทย์คนโสดยุคใหม่ Tidy Deluxe สุขุมวิท 34

ช่วงนี้มองไปทางไหนก็มักจะเห็นกระแสฮิตติดแฮชแท็กคนโสดรัวๆ นั่นก็เพราะหนุ่มสาวรุ่นใหม่นิยมอยู่เป็นโสดมากขึ้น สถิติที่ผ่านมา พบว่าคนไทยแต่งงานน้อยลง และหย่าร้างมากขึ้น ทำให้สัดส่วนคนโสดในไทยเพิ่มขึ้นสูง ส่วนใหญ่เป็นคนเจนวาย ที่เกิดระหว่างปี 2525 ถึง 2540 ปัจจุบันมีอายุ 24 ถึง 40 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน ทัศนคติหลักๆ ที่พูดตรงกัน คือ "มีคู่ก็ดี ไม่มีคู่ก็อยู่ได้" ฟังดูก็ท่าจะจริง

แต่ไหนๆ ก็ตั้งเป้าครองตัวเป็นโสด จะให้โสดแบบไร้คุณภาพก็คงไม่ไหว เพราะของแบบนี้ต้องมีการวางแผนชีวิตล่วงหน้าสักหน่อย หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของที่อยู่อาศัย หากไม่มีแผนขยายครอบครัว ซื้อบ้านหลังใหญ่ไปก็คงจะเป็นภาระหนักเกินตัว ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เพราะฉะนั้นก็คงต้องมองหาอะไรง่ายๆ เหมาะสมกับตัวเอง ที่สำคัญราคาจับต้องได้ ทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับวิถีชีวิตของคนโสดวัยทำงานในยุคปัจจุบัน คงหนีไม่พ้น ‘คอนโดมิเนียม’

คอนโดมิเนียม ตอบโจทย์คนโสดยังไงบ้าง? ไปดูกัน

ระบบรักษาความปลอดภัยชั้นเลิศ

เรื่องของความปลอดภัยถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนโสดตัวคนเดียว ถ้าจะให้อยู่บ้าน ก็ต้องคอยมาระวังนั่นระวังนี่ จะออกไปไหนแต่ละทีก็พะวงไม่เป็นอันทำอะไร แต่ถ้าเป็นคอนโดมิเนียม เบาใจเรื่องนี้ไปได้ เพราะระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดสมัยนี้อะเมซิ่งมาก ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง กล้องวงจรปิดทุกจุด ระบบการเข้าออกคอนโด ลิฟต์ หรือแม้กระทั่งลานจอดรถ ก็มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายขั้นตอน หมดกังวล จะไปเที่ยวค้างคืนที่ไหนก็สบ๊าย

พื้นที่ส่วนกลาง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
เพราะคนโสดอย่างเราๆ ก็ต้องมีกิจกรรมและการผ่อนคลายหลากหลายรูปแบบ คอนโดที่มีส่วนกลางตอบโจทย์ในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ซาวน่า คาเฟ่ ร้านอาหาร Working Space เหล่านี้จะช่วยคลายความเหงา พักผ่อนร่างกายและจิตใจครบจบในที่เดียว ไม่ต้องออกไปข้างนอกให้เสียเวลา 

พื้นที่ส่วนตัว ตกแต่งตามใจ ไม่ต้องดูแลเยอะ
เหตุผลที่คนรุ่นใหม่ชอบคอนโดมากกว่าบ้าน ส่วนหนึ่งมาจากการมีพื้นที่ส่วนตัว จะออกแบบตกแต่ง จัดห้องอย่างไรก็สามารถทำได้ในแบบที่เราพอใจ แถมไม่ต้องเสียเวลาในการดูแลมากเท่าบ้าน มีปัญหาตรงไหนก็สามารถโทรเรียกช่างของนิติบุคคลขึ้นมาจัดการ ไม่ต้องตามหาช่างเองให้เสียเวลา เหมาะกับคนโสดที่ไลฟ์สไตล์ไม่อยู่นิ่ง เวลาว่างน้อย ทำให้สามารถจัดสรรเวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่นได้อีกมาก

สะดวกสบายตอบโจทย์วัยทำงาน

ตัวแปรสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัยของคนโสดวัยทำงาน ต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ครอบคลุมทั้งเรื่องของการเดินทาง ความหรูหราสวยงาม การพักผ่อน และทำเล เช่น หากเลือกคอนโดที่ใกล้บีทีเอสจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางบนท้องถนน หรือหากเลือกคอนโดใจกลางเมือง ก็จะถูกรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าคอนโดจะตอบโจทย์หลักที่คนโสดอย่างเราๆ ต้องการแน่นอน

การตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยเป็นบทหนึ่งในการวางแผนชีวิต เป็นการลงทุนระยะยาว ทำให้ต้องคิดให้ถี่ถ้วนถึงปัจจัยความต้องการและความคุ้มค่าที่เหมาะสมกับตนเอง โดยเฉพาะคนโสด หรือคาดว่าจะใช้ชีวิตโสด ต้องวางแผนให้ดี เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการอย่างง่ายดายและมีความสุข

อ้างอิงข้อมูล: https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2019595

**สนใจซื้อ หรือชมคอนโด Tidy Deluxe สุขุมวิท 34 พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษ!! แอดเลย @TheShopsTimes คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

กรุงเทพฯ - รมต.กีฬา เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ให้แก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมี นายโชติ  ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายแพทย์อดินันท์  กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, ดร.ก้องศักด  ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมในพิธี ณ บริเวณด้านหน้าอาคารอินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ภายในประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก ทำให้การจัดกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ ต้องงดหรือมีการเลื่อนจัดการแข่งขันออกไป ทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วน ในการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วไป สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส หรือประมาณ 50 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งการจัดตั้งศูนย์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่ นักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ครั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุข ได้เล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินงานการบริการทางการแพทย์ ให้กับนักกีฬาและบุคลากรกีฬาที่เกี่ยวข้อง โดยการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้น ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งมีการทดสอบระบบการให้บริการฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 1, 2 และ 4 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้รับมอบนโยบายจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำเนินการด้านบริการทางการแพทย์ ให้แก่ นักกีฬา บุคลากรทางการกีฬา ให้ได้รับการเข้าถึงการบริการฉีดวัคซีนเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้นักกีฬา สามารถเดินทางเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในเกมส์ระดับนานาชาติต่าง ๆ อาทิ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 กีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีนักกีฬาทีมชาติไทย ที่ต้องเข้าร่วมการแข่งขันคัดเลือก เพื่อให้ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ พาราลิมปิกเกมส์ และการแข่งขันในระดับนานาชาติอีกหลาย ๆ รายการ รวมถึง นักกีฬาอาชีพ และบุคลากรที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะทำให้เกิดความมั่นคง แข็งแรง ให้แก่ประเทศต่อไป ดังนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้นำนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

โดยการจัดตั้งสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล เพื่อรองรับในการฉีดวัคซีนให้บริการแก่ นักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย และได้ขอรับความอนุเคราะห์วัคซีนจากทางกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 10,000 โดส ในเบื้องต้นได้รับมาแล้ว 2,000 โดส ซึ่งได้เริ่มทดสอบระบบการให้บริการฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 1, 2 และ 4 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา และจะมีการทยอยส่งวัคซีนมาให้อีกในสัปดาห์หน้า ซึ่ง กกท.ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ในการเป็นโรงพยาบาล คู่ปฏิบัติการในการฉีดวัคซีนโควิด -19 ในครั้งนี้  อย่างไรก็ดี หลังจากที่ดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กลุ่มดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว การกีฬาแห่งประเทศไทย มีแผนจะเปิดบริการให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นลำดับถัดไป

ทั้งนี้ มีนักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนแล้ว รวมจำนวน 5,500 คน ในช่วงเข็มแรก โดยสามารถเข้ามารับวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 8-15 มิถุนายน 2564 ในวันจันทร์-ศุกร์  เวลา 8.30-15.30 น. ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ขอนแก่น - ทหารพันธุ์ดี ค่ายสีหราชเดโชไชย รับมอบไก่พันธุ์ประดู่หางดำ และกบพันธุ์ทุ่งกุลา พระราชทานจากกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ นำไปกระจายพันธุ์ แจกจ่าย และช่วยเหลือประชาชน

กองทัพบกได้ดำเนินโครงการทหารพันธุ์ดีมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่หน่วยทหารทั่วประเทศ โดยเป็นศูนย์การเรียนรู้ เป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ และเพาะพันธุ์สัตว์ เพื่อการบริโภคให้กับกำลังพลและครอบครัว ตลอดจนประชาชนรอบค่าย ตามแนวทางพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 64 พ.อ.ณรงค์ วิชญาณวรวุฒิ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8 เป็นประธานพิธีรับมอบไก่พันธุ์ประดู่หางดำ และกบพันธุ์ทุ่งกุลา พระราชทาน เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้กับโครงการเศรษฐกิจพอเพียง และโครงการทหารพันธุ์ดี ณ กองร้อยเครื่องยิงหนัก กรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชไชย ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น

พิธีรับมอบไก่พันธุ์ประดู่หางดำ และกบพันธุ์ทุ่งกุลา พระราชทานฯ ครั้งนี้ ประกอบด้วยไก่พันธุ์ประดู่หางดำ จำนวน 50 ตัว และกบพันธุ์ทุ่งกุลา จำนวน 2,020 ตัว ให้กับโครงการเศรษฐกิจพอเพียง และโครงการทหารพันธุ์ดี กรมทหารราบที่ 8 เพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ให้กับกำลังพล,ครอบครัว และทหารกองประจำการ รวมถึงให้นำไปขยายพันธุ์ และสามารถนำไปเป็นอาหารและจำหน่ายได้ตามแนวเกษตรพอเพียง พอมี พอกิน และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ขยายผลสู่ประชาชนรอบค่าย ในโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง”และส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกร และเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชนที่อยู่รอบค่ายฯ มาศึกษา นำไปปฏิบัติใช้ในชุมชนต่อไป

ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ บูรณาการร่วมกับ ปปส.ภ.3 จังหวัดศรีสะเกษ แถลงผลการการปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 (หน.ปส),  นายณรงค์ วรหาญ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดภาค 3 พลตำรวจตรีสันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญภายใต้ยุทธการ พิฆาตทรชน คนค้ายา อีสานใต้ และยุทธการ 238 พิทักษ์นครลำดวน ในห้วงวันที่ 19 พฤษภาคม – 6 มิถุนายน 2564  โดยมี พันเอก ณัฐพงศ์ จินดาเวช รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายทหาร และพันตำรวจเอก ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ /เลขานุการร่วมศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ นายนพ พงศ์ผลาดิสัย ปลัดจังหวัด /กรรมการและเลขานุการร่วม ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนจังหวัดศรีสะเกษร่วมรับฟังการแถลงข่าวเป็นจำนวนมาก

ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถานีตำรวจภูธรในสังกัด ภ.จว.ศรีสะเกษ รวม 32 สถานี ,กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ , ที่ทำการปกครองจังหวัดศรีสะเกษและที่ทำการปกครองอำเภอ ทุกอำเภอ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดศรีสะเกษ , เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร, สำนักงาน ปปส.ภาค 3 ตำรวจทางหลวง,ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองศรีสะเกษ , เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ , กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ , กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอ ทุกอำเภอ และหน่วยงานในพื้นที่ สามารถจับกุมรวมทั้งสิ้น 465 คดี    ผู้ต้องหา 481 คน

ของกลางเป็นยาบ้า 269,278 เม็ด  กัญชา 41 กรัม ไอซ์  411.8 กรัม กระท่อม 11,680  กรัม อาวุธปืน  31 กระบอก จับกุมตามหมายจับคดียาเสพติด 7 หมาย (ครอบครองเพื่อจำหน่าย 5 เสพ 2 ) ยาบ้า จับกุม 386 คดี ผู้ต้องหา 397 คน ของกลางเป็นยาบ้า 263,272 เม็ด กัญชาทจับกุม 26 คดี ผู้ต้องหา 26 คน ของกลาง กัญชา 41 กรัม  พืชกระท่อม จับกุม 15 คดี  ผู้ต้องหา 20 คนของกลาง กระท่อม 11,680 กรัม  ไอซ์จับกุม 5คดี  ผู้ต้องหา 5 คนของกลาง ไอซ์ 411.8 กรัม และอาวุธปืน จับกุม 31 ราย ผู้ต้องหา 31 คน อาวุธปืนจำนวน 31 กระบอก ได้แก่ ปืนแก๊ปยาว จำนวน 21 กระบอก ปืนไทยประดิษฐ์ 10 กระบอก , กระสุนปืน 16 นัด และจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ห้วง 24 พฤษภาคม – 6 มิถุนายน 2564 จำนวน 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คน ของกลางยาบ้า 47,806 เม็ด และ ไอซ์ 402.96  กรัม ด้วย    

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยประสานข้อมูลการปฏิบัติกับสำนักงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดภาค 3 ในการกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ  การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ตามแนวชายแดนและพื้นที่ชั้นใน ตามนโยบายรัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3พฤศจิกายน 2563 ได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังทั้งระบบ โดยเร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้ความสำคัญกับกระบวนการ มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ปราบปราม แหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ทั้งพื้นที่แนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน โดยให้เป็นการแก้ไขปัญหาภายในของประเทศด้วยกฎหมายไทยและหลักสากล  ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้กำหนดให้วาระที่ 2 ของ 10 วาระเร่งด่วนในการพัฒนาจังหวัด เป็นเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตามแผนยุทธการ พิฆาตทรชน คนค้ายา อีสานใต้ และ ยุทธการ 238 พิทักษ์นครลำดวน

พลตำรวจตรี สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 3 จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน ให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้าโดยแจ้งข้อมูลผ่าน สายด่วนยาเสพติด 1599 , สายด่วน 191  , Application Police I lert U  และ เบอร์สายด่วน 1386 สำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม (https://www.oncb.go.th/)   ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ  สายด่วน 1567 ได้ตลอด 24 ชม.  ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการปราบปราม จับกุม ทำลายเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อลดปัญหายาเสพติด ให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ต่อไป  และขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนตำรวจภูธรภาค 3 ด้วยดีเสมอมา


ข่าว/ภาพ  บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

ด่วน !! คลื่นซัดเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ 2 ลำ เกยตื้นที่เกาะพระทอง

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายฉัตรชัย ทองทวีวิวัฒน์ เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 12 (คุระบุรี พังงา)และเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเลชุมชน 2 คุระบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเรือลากจูงชื่อ วายเคพี มารีน และเรือลำเลียงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชื่อ นำทอง 39 ถูกคลื่นซัดเกยตื้นบริเวณชายหาดด้านทิศตะวันตกของเกาะพระทอง ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา มี MR.EFENDI TAKARENDEHANG สัญชาติ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ควบคุมเรือในขณะเกิดเหตุมีคนประจำเรือประมาณ 8 คน โดยเรือได้บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จากประเทศพม่า เพื่อเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย เมื่อมาถึงฝั่งทะเลอันดามันในประเทศไทยเชือกขนาดใหญ่ได้เข้าไปพันกับใบจักรเรือ จนทำให้เครื่องเรือดับเดินทางต่อไปไม่ได้ จึงถูกคลื่นพัดเข้ามาเกยตื้น แต่ตัวเรือ เครื่องจักร สินค้า ยังไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีการแพร่กระจายของคราบน้ำมันในบริเวณจุดเกิดเหตุ

โดยทางเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 12 (คุระบุรี พังงา)และเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเลชุมชน 2 คุระบุรี ได้เร่งเดินทางไปร่วมช่วยเหลือนำเครื่องดูดน้ำสูบน้ำออกเรือ และตัดเชือกที่พันใบจักรเรือลากจูงดังกล่าว พร้อมได้ให้ทางเจ้าของเรือประสานหน่วยงาน เพื่อร่วมวางแผนในการนำเรือทั้ง 2 ลำ ออกจากจุดเกยตื้น

ว่าที่ร้อยตรีกิตติภูมิ สมัยกลาง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา และเจ้าหน้าที่ ศรชล.ภาค 3 เตรียมการกู้ลากจูงเรือออกจากจุดเกิดเหตุ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการจัดหาเรือช่วยเหลือ (Salvage) เพื่อให้การช่วยเหลือลากจูง เรือลากจูง“วายเคพี มารีน” ออกก่อน และจะใช้เรือลำดังกล่าว ดึงเรือลำเลียง นำทอง 39 ออกมาในภายหลัง โดยทั้งนี้ ต้องปฏิบัติงานกู้ลากจูงเรือ ในช่วงระดับน้ำขึ้นสูงสุด  พร้อมนี้ได้ให้ข้อสังเกตข้อแนะนำกับ เจ้าของเรือ/ผู้ดูแลเรือ เกี่ยวกับการเตรียมการเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าบนเรือลำเลียง ซึ่งบรรทุกสินค้า เป็นไม้ยางพารา (PARA WOODS) ในตู้คอนเทนเนอร์ กรณีอาจต้องจัดเตรียมเรืออื่น พร้อมอุปกรณ์ยกขน เพื่อขนถ่ายสินค้าบางส่วนออกให้เรือเบาขึ้นเพื่อให้สามารถกู้เรือลำเลียงได้โดยง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี

อุทัยธานี – คึกคัก !! ฉีดวัคซีนวันแรก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นให้กำลังใจชาวจังหวัดอุทัยธานี

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 7 มิ.ย. 64 ณ บรรยากาศศูนย์กีฬาเยาวชนเทศบาลเมืองอุทัยธานี สถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน และผู้สูงอายุ ประกอบด้วยโรคทางเดินหายใจ เรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรัง ระยะ 5 โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน โดยการจัดลำดับขั้นตอนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังโดยเริ่มจากการตรวจสอบเอกสารซักประวัติ วัดความดัน รับบัตรคิว ฉีดวัคซีนและรออีก 30 นาที หลังฉีดวัคซีน เพื่อดูอาการก่อนอนุญาตให้ประชาชนกลับบ้าน และรับใบนัดหมายฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ต่อไป

บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อย ผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามขั้นตอนและตามมาตรการอย่างเคร่งคัด เพื่อให้กับประชาชน ทุกคนทุกกลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรครวมทั้งช่วยลดความรุนแรงของโลก โดยแบ่งการฉีดวัคซีนเป็น 3 ระยะ ตามกลุ่มเป้าหมาย ระยะ 1 ปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ ระยะ 2 ป้องกันการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรคในกลุ่มเสี่ยงสูง ระยะ 3 ฟื้นฟูขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมและความมั่นคงของประเทศโดยกำหนด Kick Off การฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วประเทศไทย

ทั้งนี้ภายในงานได้มี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาเป็นประธานการดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมหน่วยข้าราชการ คณะแพทยของจังหวัดอุทัยธานี ได้มาให้กำลังใจกับประชาชนชาวจังหวัดอุทัยธานีในครั้งนี้


ภาพ/ข่าว ภาวิณี ศรีอนันต์

สมุทรปราการ - “พระครูแจ้” เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง จับมือ นายอำเภอบางพลี ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพภายในชุมชนประสานสัมพันธิ์

ภายในชุมชนประสานสัมพันธิ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี  พร้อมด้วย ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง นำข้าราชการตำรวจ สภ.บางพลี  ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนภายในชุมชนประสานสัมพันธิ์ พร้อมทั้งนำถุงยังชีพและเงินสดไปมอบแก่ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ภายในชุมชนแห่งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนที่ขาดรายได้รวมถึงช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง

ด้านท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า ด้วยในวันนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง พร้อมด้วยนาย สมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่อำเภอบางพลีและบริเวณใกล้เคียง ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจึงพร้อมด้วยท่านนายอำเภอบางพลี ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชน โดยได้นำถุงยังชีพพร้อมเงินอีกจำนวนหนึ่งไปมอบให้กับประชาชน และครอบครัวผู้ยากจนภายในชุมชนประสานสัมพันธิ์แห่งนี้

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ยังกล่าวต่ออีกว่า ถุงยังชีพที่นำมามอบให้กับพี่น้องประชาชนนั้น ประกอบไปด้วย ข้าวสารอาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง นม และของใช้ที่จำเป็นเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังได้มอบเงินแก่เด็กที่อยู่ในชุมชนแห่งนี้คนละ 100 บาท และมอบเงินให้ทุกครอบครัวอีกครอบครัวละ 500 บาท เพื่อไว้ใช้จ่ายหรือนำไปซื้อของใช้ที่จำเป็น

จากนั้นได้เดินเท้าเข้าไปภายในชุมชนประสานสัมพันธิ์ นำข้าราชการตำรวจนำถุงยังชีพอีกจำนวนหนึ่งไปมอบให้กับผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ภายในชุมชนแห่งนี้ พร้อมทั้งได้มอบเงินสดอีกจำนวนหนึ่งแก่ผู้ป่วยติดเตียง โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ตลอดจนท่านนายอำเภอบางพลี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางวัดบางพลีใหญ่กลางก็ให้ความอนุเคราะห์เอื้อเฟื้อเผาศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิดให้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วยและนับว่าผู้เสียชีวิตที่ป่วยด้วยโรคโควิดนั้น ทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้สงเคราะห์เผาให้ฟรีเป็นรายที่ 11 แล้ว จึงขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนอย่าประมาทดูแลรักษาสุขภาพ ดูแลบุคคลในครอบครัว เว้นระยะห่าง และลงทะเบียนฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเราเอง


ภาพ/ข่าว  คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top