Sunday, 25 May 2025
SPECIAL

โฆษก ศรชล. ชี้แจงการแก้ปัญหาอวนขนาดใหญ่ คลุมแนวปะการังใต้ทะเลเกิดความเสียหาย

พลเรือตรี ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ชี้แจงกรณีการจัดการแก้ปัญหาการตรวจพบ อวนขนาดใหญ่ ปกคลุมแนวปะการัง บริเวณเกาะโลซิน ดังนี้

1.ตามที่ได้มีนักท่องเที่ยวไปดำน้ำบริเวณแนวปะการัง เกาะโลซิน จว.นราธิวาส ในระหว่าง 11-13 มิ.ย.64 พบเครื่องมือประมง อวนขนาดใหญ่ ปกคลุมแนวปะการัง ทางทิศตะวันตกของเกาะโลซิน ทำให้ปะการังบางส่วนได้รับความเสียหาย ตามที่ปรากฎตามข่าว

2.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 กองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แจ้งแผนการดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าวโดยร่วมกับนักดำน้ำอาสาสมัครจำนวน 30 คน ปฏิบัติการเก็บกู้เครื่องมือประมง อวนขนาดใหญ่ที่ปกคลุมแนวปะการัง และสำรวจประเมินความเสียหาย ผลกระทบ จากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยใช้เรือ Liveaboard จำนวน 1 ลำ เรือบรรทุกเครื่องมือประมงอวน จำนวน 1 ลำ และเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวน 2 ลำ

3.พลเรือโท สำเริง จันทร์โส ผอ.ศรชล.ภาค 2 ได้สั่งการให้ เรือหลวงราวี และเรือ ต.991 รวมทั้งจนท.ปฏิบัติงานใต้น้ำ จำนวน 14 คนพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ ไปปฏิบัติภารกิจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ร่วมกับทางสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 ฯโดยมี นาวาเอกสุวรัฐ รัชยากรณ์ เป็นผู้อำนวยการปฏิบัติการร่วม โดยจะแจ้งผลการปฏิบัติให้ทราบความคืบหน้า ต่อไป


ภาพ/ข่าว สนง.โฆษกกองทัพเรือ / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012

นครพนม - ชาวบ้านตื่น !! พบกรุพระพุทธรูปเก่า 200 ปี ซุกไหโบราณ แห่ส่องเลขเด็ด กว้านซื้อเกลี้ยงแผง

วันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ.วังกระแส หมู่ 10 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ว่ามีผู้ขุดพบกรุพระพุทธรูปสมัยโบราณ ซุกอยู่ในไหขุดพบในที่นาของชาวบ้าน ขอให้มาตรวจสอบด้วยว่าเป็นพระพุทธรูปชนิดใด หลังข่าวแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ มีบรรดาเซียนหวย แห่ไปส่องดูตัวเลขในองค์พระกันเป็นจำนวนมาก

จึงเดินทางไปที่วัดศรีรัตนวราราม พบชาวบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ และคอหวยจำนวนหนึ่ง กำลังส่องดูพระพุทธรูปที่ขุดพบได้  ทางวัดได้นำใส่ในกล่องกระจกแก้วใสสี่เหลี่ยมกว้าง 40 ซ.ม. ยาว 40 ซ.ม. สูง 30 ซ.ม. ชาวบ้านที่ทยอยแห่มามุงดูส่วนใหญ่ ต่างบอกว่าอยากจะมาส่องดูตัวเลขในองค์พระหรือใต้ก้นพระ หวังไปลุ้นหวยซื้อลอตเตอรี่งวดวันที่ 16 มิ.ย. เผื่อจะได้โชคและลาภลอยตามความเชื่อ

นายธีระพงษ์  จันทร อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ.วังกระแส กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ขณะที่นายเศียร วารี วัย 53 ปี ได้ไปไถนาเนื้อที่ 5 ไร่ ห่างจากวัดราว 1 กิโลเมตร ขณะนำจอบไปขุดซ่อมแซมคูคันนา ได้ไปกระทบกับวัตถุสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นไหแตกร้าวกระจาย พบพระพุทธรูปขนาดต่าง ๆ อยู่ภายในไหที่แตกเป็นเสี่ยง 

ด้วยความตื่นกลัวว่าจะเป็นวัตถุโบราณล้ำค่าหรือไม่ นายเศียร เจ้าของที่นา จึงรีบมาแจ้งให้ตนไปตรวจสอบดูว่าเป็นพระพุทธรูปชนิดใดกันแน่ พบว่ามีพระพุทธรูปขนาดสูง 10 ซ.ม. 7 องค์ สูง 7 ซ.ม.ราว 11 องค์ เป็นเนื้อเงินบริสุทธิ์ ใต้ฐานเป็นดินสมัยเก่าอุดแน่นอยู่  และยังพระเนื้อชินองค์เล็กอีก 2 องค์ รวมเป็น 21 องค์ บางส่วนเศียรขาดแตกหัก สภาพเปื้อนโคลนตม เบื้องต้นจึงนำน้ำมาฉีดชะล้าง

ผู้ใหญ่บ้านวัย 53 ปี กล่าวต่อว่า จึงได้ประสานไปที่สำนักงานวัฒนธรรม จ.นครพนม เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าเป็นพระกรุ หรือพระพุทธรูปชนิดใด สร้างในสมัยใด และประเมินมูลค่าได้หรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานดังกล่าวได้ประสานไปยังสำนักศิลปกรที่ 9 อุบลราชธานี  มาตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยล้านช้าง ปางมารวิชัย คาดว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี จึงได้เก็บกู้ไปเก็บรักษาไว้ที่วัดศรีรัตวนารามชั่วคราว

พระฉลอง ทินวโร อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัด กล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่เก็บกู้จากที่นาของนายเศียร จึงได้นำตู้กระจกคล้ายตู้บริจาคเก็บรักษาไว้ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑสถานร้อยเอ็ดมาตรวจสอบอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พระพุทธรูปที่ขุดพบนี้คาดว่าน่าจะเป็นโบราณวัตถุ  ที่จะต้องนำไปเก็บรักษาไว้ในสถานที่อย่างดี หากเก็บไว้ที่วัดคงไม่มีกล้องวงจรปิด และอาจจะมีหัวขโมยมาโจรกรรมไปได้

ด้านนายธนิตศักดิ์ อุ่นตา วัฒนธรรม จ.นครพนม กล่าวว่า ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญจากสำนักศิลปากรที่ 9 แล้ว พบว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยเก่า มีพุทธลักษณะใกล้เคียงกับพระพุทธรูปทองคำที่ขุดพบในพื้นที่ บ.ศรีเวินชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม คาดว่าสมัยก่อนเกิดศึกสงคราม ก่อนมีผู้นำมาซ่อนไว้ในไหและฝังไว้ ที่ชาวบ้านเรียกว่ากรุเงินกรุคำในสมัยโบราณ ที่มักถูกขุดพบบ่อยครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางวัดได้นำพระพุทธรูปที่ขุดพบ 21 องค์ และชิ้นส่วนไหที่แตกมาตั้งไว้หน้ากุฏิเพื่อให้กราบไว้เป็นสิริมงคล โดยชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างทยอยแห่มาดู บางรายนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายซูมส่องดูตัวเลขในองค์พระ บางราย ตรวจนับเศษไหที่แตกได้ 53 ชิ้น นำตัวเลข 53 ซึ่งตรงกับอายุเจ้าอาวาสและผู้ใหญ่บ้านโดยบังเอิญ กว้านหาซื้อลอตเตอรี่ที่มีแม่ค้ามาขายในวัด หวังลุ้นโชควันหวยออกวันที่ 16 มิ.ย. จนเกลี้ยงแผงไปแล้ว  


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม

ยะลา - ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แก่บุคลากรด่านหน้า ทั้ง AstraZeneca และ Sinovac ไร้อาการข้างเคียง

ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ บุคลากรทางการแพทย์ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า อสม. ผู้นำชุมชน ที่มีความเสี่ยงมีทั้ง AstraZeneca และ Sinovac ไร้อาการข้างเคียง

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 ที่ ห้องประชุมภู่พัฒน์ โรงพยาบาลเบตง  จังหวัดยะลา นายแพทย์สวรรค์ กาญจนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง มาคอยให้บริการแก่บุคลากรด่านหน้า ทั้ง บุคลากรทางการแพทย์  ข้าราชการตำรวจ ทหาร  เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า อสม. ผู้นำชุมชน ที่มีความเสี่ยงในการให้บริการแก่ประชาชนมารับวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 2

บรรยากาศเป็นไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีป้ายบอกจุดให้บริการอย่างชัดเจน มีเก้าอี้เว้นระยะห่าง มีน้ำดื่มให้บริการ และมีเจ้าหน้าที่มาคอยให้คำแนะนำทุกจุด ทำให้การฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมี นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง มาเยี่ยมให้กำลังใจบุลากรและผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 ด้วย

นพ.สวรรค์ กาญจนะ ผอ.รพ.เบตง เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งแต่เช้าประชาชนทยอยมาฉีดกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีนมาภายในอาทิตย์นี้ คาดว่าจะฉีดวัคซีนได้ 1,997 คน เป็น AstraZeneca  1,523 คน  Sinovac 475 คน สำหรับวันนี้ เป้าหมายตั้งไว้ 413 คน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่ม และกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 นอนักรักษาตัวอยู่ใน รพ.อยู่ 36 คน ซึ่งทั้งหมด มีอาหารดีขึ้นตามลำดับ และปลอดภัยดี ขณะเดียวกันได้ลงพื้นที่หาผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงใน หมู่บ้านอัยเยอร์เวงไปแล้วทั้งหมด 751 คน ทั้งผู้ป่วยเสี่ยงสูงและความเสี่ยงต่ำ พบทั้งสิ้น 34 รายและได้นำมารักษาพยาบาลที่ รพ เบตงทุกราย เพื่อชาวเบตงปลอดภัยมีภูมิคุ้มกันหมู่ นพ.สวรรค์ กาญจนะ ผอ.รพ.เบตง กล่าว

สำหรับวันนี้ฉีดวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac แก่บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ อสม. ผู้นำชุมชน ที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในพื้นที่ อำเภอเบตง เข็มที่ 2 จำนวน 413 คน และกลุ่มบุคคล อายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 โรคเรื้อรัง สำหรับผู้ที่จองลงทะเบียนผ่าน Line และ App หมอพร้อม และมีการลงนัดเรียบร้อยแล้วจะได้รับการฉีดวัคซีนเป็นชุดแรกตามนโยบายของรัฐบาล และตามคิวการจอง เพื่อให้ได้รับการฉีดวัคซีนเร็วขึ้น

ส่วนผู้ที่จองลงทะเบียนผ่านช่องทางอื่น ๆ จะได้รับนัดกำหนดฉีดวัคซีนเป็นลำดับถัดไป ซึ่งทางทีมสาธารณสุขฯ จะติดต่อแจ้งให้ทราบเป็นลำดับต่อไป หากผู้ที่จองลงทะเบียนผ่าน Line และ App หมอพร้อม แล้วระบบแจ้งยกเลิกนั้น ไม่ต้องไปจองลงทะเบียนใหม่ เพราะข้อมูลของท่านอยู่ที่ทีมสาธารณสุขฯ แล้ว ขอให้รอการรับแจ้งนัดจากทีมสาธารณสุขฯ เพื่อเข้ารับการฉีดวัดซีนในรอบต่อไป


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

แม่ฮ่องสอน - นพค.36 ส่งมอบโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบนำหลักทฤษฎีใหม่ มาประยุกต์สู่ “ โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชนในชุมชน

นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ,นายปฐมพงษ์ จันทร์สว่าง พัฒนาการจังหวัดแม่ฮ่องสอน รับมอบบ่อกักเก็บน้ำโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล" ของนายประเสริฐ จันทร์โอภาส บ้านกลาง หมู่ 7 ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการปรับพื้นที่และขุดบ่อกักเก็บน้ำ สำหรับแปลงพื้นที่ของนายประเสริฐ จันทร์โอภาส เป็นแปลง CLM พื้นที่ขนาด 15 ไร่ ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบฯ กับกรมการพัฒนาชุมชน ดำเนินการปรับพื้นที่โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 และขุดบ่อกักเก็บน้ำจำนวน 5 บ่อ และขุดคลองไส้ไก่เพื่อนำน้ำไปใช้ในพื้นที่ ซึ่งเมื่อได้ดำเนินการปรับพื้นที่แล้วจะได้มีการเอามื้อสามัคคีในการพัฒนาพื้นที่ต่อไป

นายปฐมพงษ์ จันทร์สว่าง พัฒนาการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า โครงการโคก หนอง นา โมเดล โดยพัฒนาชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล เข้าดำเนินการในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้ง 7 อำเภอ  25 ตำบล 103 หมู่บ้าน แบ่งเป็นขนาดพื้นที่ 1 ไร่ 3 ไร่ จำนวน 99 แปลง และพื้นที่ 10 ไร่ขึ้นไป จำนวน 4 แปลง ซึ่งพื้นที่ของหมู่บ้านกลาง ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ที่รับมอบจาก นพค.36 ดังกล่าว เป็นของนายประเสริฐฯ มีพื้นที่จำนวน 15 ไร่ และขุดบ่อเก็บน้ำ 5 บ่อ สำหรับแปลงนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 2 คือการปรับพื้นที่ หลังจากปรับพื้นที่เสร็จก็จะจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ 9 ฐาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดใกล้เคียงในการศึกษาเรียนรู้โครงการ “ โคก หนองนา โมเดล”

หลังจากจัดทำศูนย์เรียนรู้เสร็จ จะนำหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นำศาสตร์พระราชา มาประยุกต์สู่ “โคก หนองนา โมเดล” ในการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนบ่อกักเก็บน้ำที่ขุด จำนวน 5 บ่อ นอกจากจะเลี้ยงปลาแล้ว น้ำในบ่อก็จะใช้ในการทำการเกษตรของโครงการและเกิดความชุ่มชื้นในพื้นที่ มีแปลงนา มีการปลูกป่า 5 ระดับ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ไปจนถึงการปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ เช่น ไก่ เป็น สุกร อย่างเป็นรูปธรรมและสร้างรายได้ให้ประชาชนในชุมชนอย่างยั้งยืน


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาวร อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

กาฬสินธุ์ – ผู้ปกครองและกลุ่มประชาชนทั่วไปในจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวค และแอสตราเซเนกาเข็มแรก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และสร้างความมั่นใจปลอดภัยจากโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 10.30 น.ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ (หลังเก่า) นายแพทย์ประมวล ไทยงามศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เข้าให้กำลังใจผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป ทั้งในส่วนข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคและแอสตราเซเนกา โดยมีบุคลากร แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข คอยอำนวยความสะดวก ทั้งนี้ ทุกคนต่างสวมหน้ากาก 100%  มีการตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่าง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นายแพทย์ประมวล ไทยงามศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของการให้บริการฉีดวัคซีนในวันนี้ เป็นในรอบของกลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งรวมไปถึงข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน โดยเฉพาะผู้ปกครองนักเรียน ที่เริ่มเปิดภาคเรียน ที่ได้ลงทะเบียนขอจองฉีดวัคซีน ตามช่องทางแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม และลงทะเบียนกับโรงพยาบาล สำหรับการฉีดวัคซีนในรอบวันนี้ ได้ให้บริการฉีดวัคซีนทั้งซิโนแวคสำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป  และแอสตราเซเนกา ในกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว 7 โรค จำนวน 500 ราย ซึ่งเป็นเข็มแรกของรอบนี้ อย่างไรก็ตาม นอกจากวันนี้ให้บริการฉีดในภาคเช้าและภาคบ่ายแล้ว ในวันพรุ่งนี้ยังจะจัดให้มีการฉีดวัคซีนอีกกลุ่มเป้าหมายจำนวน 600 คน

นายแพทย์ประมวลกล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ และยังรอการรับการฉีดวัคซีน ขอให้ใจเย็น ๆ รอไปสักระยะ หากได้รับการจัดสรรวัคซีนมาอีก ก็จะแจ้งให้มารับบริการฉีดวัคซีนทันที เพราะวัคซีนยังจะมีมาเรื่อยๆ และผู้ที่ลงทะเบียนไว้ก็จะได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกคน ดังนั้น หากได้รับการแจ้งกำหนดนัดหมาย ขอความร่วมมือมาฉีดโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ป้องกันโควิด-19 ทั้งนี้ ขอให้ความมั่นใจว่าหลังจากการฉีดวัคซีนแล้ว ไม่มีผลข้างเคียงหรือเกิดอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ปกครองที่บุตรหลานเพิ่งเปิดเทอมใหม่ ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีความกังวลอยู่มาก เนื่องจากประชาชนทั่วไป รวมทั้งบุคลากรครู นักเรียน ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนกันเลย  ทำให้รู้สึกว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงตลอด แม้ว่าจะปฏิบัติตนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด แต่การดำเนินชีวิตก็เต็มไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากมีผู้ป่วยได้รับเชื้อเป็นรายวัน ซึ่งหลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีน จึงรู้สึกอบอุ่นและมั่นใจมากขึ้น

สำหรับ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมวัคซีนทั้งหมด 45,160 โดส ฉีดให้บุคลากรการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และผู้ประกอบอาชีพเสี่ยงไปแล้ว 32,785 โด๊ส คิดเป็นร้อยละ 72.59 ของวัคซีนที่ได้รับจัดสรร ส่วนวัคซีนที่เหลืออยู่ระหว่างการนัดหมายและจัดฉีดเพิ่มเติมต่อไป อย่างไรก็ตามประชาชนชาวกาฬสินธุ์ ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในวาระแห่งชาติ "ฉีดวัคซีน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" ผ่านอสม./รพ.สต./โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือผ่าน Platform “กาฬสินธุ์พร้อม” และตรวจสอบคิวนัดหมายและประวัติการได้รับวัคซีนผ่าน Application “หมอพร้อม”

ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ล่าสุดวันนี้ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม โดยมีผู้ติดเชื้อสะสม 136 ราย  รักษาหายป่วยแล้วสะสม 109 ราย ยังคงรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 23 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์  ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

ดีอีเอส ร่วม ตร โชว์ผลจับกุมพนันยูโร 2020 พร้อมรับเรื่องร้องทุกข์กลุ่มผู้เสียหาย ถูกหลอกเล่นเว็บไซต์พนัน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. 64 ที่ห้องประชุม กระทรวง ดีอีเอส ชั้น 9 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อม พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. - รองโฆษก ตร. ร่วมรับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายจากการถูกชักชวนร่วมลงทุนพนันออนไลน์เบื้องต้นมีผู้เสียหาย 39 ราย ทั้งสูญเงิน ถูกหลอกถ่ายคลิป และโพสต์ทวิตเตอร์ประจาน พร้อมแถลงผลการปฏิบัติการปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ฟุตบอลยูโร 2020 โดยกระทรวงดิจิทัลฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้ประสานการปฏิบัติในการปราบปราม เว็บไซต์การพนันออนไลน์ทุกรูปแบบ ภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่ให้มุ่งเน้นการปราบปรามการกระทำความผิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์โดยเฉพาะในช่วงมีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ที่ต้องเฝ้าระวังและเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลผ่านระบบออนไลน์

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ฯ กล่าวว่า ผู้เสียหายกลุ่มนี้ถูกคนร้ายแอดเป็นเฟรนด์กับเหยื่อก่อนจะชักชวนร่วมลงทุนพนันออนไลน์ โดยคนร้ายจะเล่นให้เมื่อได้กำไรก็จะคืนเงินให้ แต่เมื่อเล่นไปถึงจุดหนึ่งผู้เสียหายต้องการถอนเงินคืน คนร้ายบอกต้องเพิ่มเงินเข้าไปตามจำนวนก่อน แต่เหยื่อรายหนึ่งมีเงินไม่พอ คนร้ายจึงขอให้ถอดเสื้อผ้าถ่ายรูป-คลิปเป็นประกัน ก่อนเอามาแบล็คเมลล์ สุดท้ายเอาคลิปไปปล่อยในทวิตเตอร์ประจานผู้เสียหายอีกเบื้องต้นมีผู้เสียหาย 39 ราย ทั้งสูญเงิน มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

กรณีนี้จึงมีความผิด 2 ส่วน คือ เรื่องหลอกลวงลงทุน กับเรื่อง พ.ร.บ.คอมพ์ ม.14(4) ปล่อยภาพลามกอนาจาร และ ป.อาญา ม.309 บังคับขู่เข็ญให้หรือไม่กระทำการใด ๆ (แบล็คเมลล์) ซึ่งผู้เสียหายได้มีการแจ้งความทั้งที่สถานีตำรวจ และ บก.ปอท. โดยรมว.กระทรวง ดีอีเอส ได้กำชับให้ บก.ปอท.ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็วเพื่อไม่ให้เป็นภัยสังคมหลอกเหยื่อต่อไปอีก

อย่างไรก็ตาม ภายใต้นโยบายรัฐบาล ในเรื่องการลักเล่นการพนันทายผลฟุตบอลผ่านระบบออนไลน์นั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ได้กำชับให้ทุกหน่วยในสังกัดเพิ่มความเข้มในการสืบสวนปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน และบ่อนการพนัน ทุกรูปแบบทุกช่องทางอย่างเคร่งครัด และพร้อมบูรณาการประสานการปฏิบัติกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำความผิดหรือพบเบาะแสเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ สามารถแจ้งไปยังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

กระบี่ - เกษตรกระบี่ ลุยตรวจสวนทุเรียน ห้ามตัดทุเรียนอ่อนขาย คาดโทษหนัก จำ-ปรับ

วันที่ 15 มิ.ย.64 นายชูศักดิ์ วณิชวัฒนกุล หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิตสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบการตัดทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ของเกษตรกรในพื้นที่ ต.เขาเขน และปลายพระยา จ.กระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง มากที่สุดของจังหวัด เพื่อแนะนำและให้ความรู้แก่ชาวสวนทุเรียน ในการตัดทุเรียนคุณภาพออกขาย หลังพบว่าชาวสวนทุเรียนเริ่มทะยอยตัดผลทุเรียนออกจำหน่าย เบื้องต้นยังไม่พบผู้กระทำผิด

นายชูศักดิ์ วณิชวัฒนกุล หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิตสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในช่วงนี้จนถึงเดือน ก.ย.จะเป็นช่วงที่ทุเรียนของ จ.กระบี่ ออกสู่ตลาด ประกอบกับกรมส่งเสริการเกษตร ได้สั่งคุมเข้มเรื่องคุณภาพมาตรฐานของทุเรียน ห้ามมีการนำทุเรียนอ่อนมาจำหน่ายโดยเด็ดขาด เนื่องจากชาวสวนบางคน เร่งตัดทุเรียนอ่อนออกขาย เพื่อหวังทำกำไร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาทุเรียนทั้งในและต่างประเทศ เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อทุเรียนไทยในสายตาผู้บริโภค และอาจส่งผลทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเมื่อถูกกดราคาจากผู้รับซื้อ

สำหรับในพื้นที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เป็นพื้นที่ที่มีการปลูกทุเรียนมากที่สุดอยู่ในพื้นที่ ต.เขาเขน และต.ปลายพระยา มีเนื้อที่ปลูกกว่า 1,600 กว่าไร่ ให้ผลผลิต แล้ว 816 ไร่ จำนวน 398 ตัน มูลค่า กว่า 50 ล้านบาทในส่วนผลผลิตทุเรียนทั้งจังหวัดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ มีไม่ต่ำกว่า 1,457 ตัน ให้ผลผลิตแล้ว 3,269ไร่ จากพื้นที่ปลูกทั้งหมด 4,978 ไร่ สำหรับราคาจำหน่ายคาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 2563 โดยราคาขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 – 140 บาท ซึ่งประเทศจีนยังเป็นตลาดส่งออกหลัก มีปริมาณความต้องการมาก คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนราว 204 ล้านบาทเศษ

ขอฝากไปยังผู้บริโภคหากพบเห็นการซื้อขายทุเรียนอ่อนด้อยคุณภาพ สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือศูนย์ดำรงธรรมแต่ละจังหวัด ซึ่งจะมีบทลงโทษผู้กระทำผิด จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่นายสมสมเกียรติ โกฎิกุล อ.58 ปี ประธานแปลงทุเรียน อ.ปลายพระยา กล่าวว่า การตัดทุเรียนอ่อนไปขายเหมือนกับตัดไปทิ้ง เชื่อว่าชาวสวนไม่ทำอย่างแน่นอน แต่ปัญหาที่พบทุเรียนอ่อนขายอยู่ตามท้องตลาด เกิดจากพ่อค้าคนกลางมารับซื้อแล้วฝืนตัดทุเรียนไป เพื่อให้ได้ตามใบสั่ง โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ เมื่อมีการเข้มงวดทำให้ทุเรียนอ่อนไม่สามารถส่งออกได้ ถูกคัดแยกออกมาจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาด และเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ แต่เชื่อว่าจากมาตรการที่เข้มงวดของรัฐก็จะทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง

จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 คดี ผู้ต้องหา 11 คน ไอซ์ 500 กิโลกรัม และยาบ้าจำนวน 4,200,000 เม็ด

วันอังคาร ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2564 เวลา 10.00 น. ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ

ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ตลอดจนการป้องกันและปราบปรามแหล่งชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด และชุมชนที่เชื่อว่าเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดและพื้นที่ล่อแหลม

​ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป), พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 6), พล.อ.วรเกียรต รัตนานนท์ เลขาธิการ กอ.รมน., พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่3/ผอ.ศอ.ปส.ชน., และ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รับบัญชานำข้อสั่งการนำสู่การปฏิบัติ

​กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ลีลาเขตต์ ผบก.ขส., พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.อก.บช.ปส., พล.ต.ต.หญิง วนิดา หาญบุญเศรษฐ ผบก.ประจำ บช.ปส.

สำนักงาน ป.ป.ส. โดย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.,พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส., พ.ต.ท.ไพศิษฎ์  สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส.,นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส.,นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ปปส.ภ.5,นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด,นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.ปป.6 ปปส., นายนพดล นุใหม่ นักสืบสวนฯ ชำนาญการพิเศษ, นางทิพย์ชนก โชติกเสถียร นักสืบสวนฯชำนาญการ, นายเชาวลิต ชูเลื่อน นักสืบสวนฯชำนาญการ, นายปทาน ช่วยเพชร นักสืบสวนฯชำนาญการ, นายศักดิ์วุฒิ ใจสมุทร นักสืบสวนฯชำนาญการ

​กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดย พล.ท.ธนณัฐ ยังเฟื่องมนต์ ผอ.ศปป.2 กอ.รมน., พล.ต.ศุรพงษ์ ชำนิยันต์ รอง ผอ.ศปป.2 กอ.รมน., พล.อ.ต.สมยศ  จุลเสน รอง ผอ.ศปป.2, พ.อ.เสกสรร โพทิพยวงศ์ ผช.ผอ.ศปป.2 กอ.รมน.

ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย โดย พล.ท.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย และ พ.อ.อภิชาติ ชูเกียรติตกุล ผอ.กอง 12

คดีที่ 1

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 ร่วมกับเจ้าที่ตำรวจ บก.ขส., ชุดวิเคราะห์ข่าวฯ บก.ปส.2, ปป.3 สปป.ป.ป.ส., เจ้าหน้าที่ ศรภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 4 คน

ผู้ต้องหา

1. นายพีรพัฒน์ หรือติมอร์ พิรักษา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/102 ม.7 ต.บางจาก อ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ

2. นายสามารถ หรือแก๊ป คุ้มสมุทร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.1 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ 

3. นายพุฒิพงศ์ หรือปอนด์ พวงสมบัติ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ม.4 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ 

4. นายศุภฤกษ์ หรือแครอท  แรงกสิวิทย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/9 ม.11 ต.บางครุ อ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ

พร้อมของกลาง จำนวน 5 รายการ

​1. ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 516 กิโลกรัม

​2. รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน

​3. รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน

​4. อาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 12 นัด

​5. โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 8 เครื่อง

​โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้อนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ใจครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่เกิดเหตุ/จับกุม

​พิสมัยรีสอร์ท ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จว.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 11.00 น.พฤติการณ์แห่งคดี  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ข้อมูลจากการจับกุมเครือข่าย  ยาเสพติดรายสำคัญในห้วงที่ผ่านมารวม 7 คดี สามารถตรวจยึดยาบ้ารวม จำนวนประมาณ 20,000,000 เม็ด, ตรวจยึดไอซ์ รวมจำนวนประมาณ 2,000 กิโลกรัม และยาเสพติดอื่นอีกจำนวนมาก ทำให้พบข้อมูลว่ายังมีเครือข่าย ยาเสพติดที่พยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้วนำไปซุกซ่อนอำพรางในสินค้าต่าง ๆ เพื่อลักลอบส่งออกไปยังต่างประเทศจึงได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 พบข้อมูลว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะขึ้นไปดำเนินการเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชุดจับกุมจึงร่วมบูรณาการออกสืบสวนติดตาม จนพบว่าในเวลาช่วงเช้ามืดของวันที่ 10 มิถุนายน 2564 กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ใช้รถยนต์จำนวน 2 คัน ขับขี่ตามกันเข้าไปในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แล้วขับขี่กลับออกมามุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ตอนในและเข้าพักที่ พิศมัยรีสอร์ท ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จึงเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง  4 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 12 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 516 กก. และสืบสวนขยายผลยึดทรัพย์ เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวต่อไป 

คดีที่ 2

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 00.10 น. ต่อเนื่องวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลา 23.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. ได้จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 4 คน

ผู้ต้องหา

1. นายกมลชัย พูลสวัสดิ์ อายุ 21 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 120 ม. 3 ต. มงคลธรรมนิมิต อ. สามโก้ จว.อ่างทอง

2. น.ส.นภิศ พิกุลขาว อายุ 29 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 59 ม.6 ต.อบทม อ.สามโก้ จว.อ่างทอง

3. นายสาทร  อาหลี อายุ 26 ปี   บ้านเลขที่ 48 ม.4 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จว.สงขลา

4. นายฮารง  ยามา อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 2/9 ม.4 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จว.สงขลา 

พร้อมของกลาง จำนวน 6 รายการ

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด

2. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซูซุ จำนวน 1 คัน

3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซูซุ จำนวน 1 คัน

4. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มิซูบิชิ จำนวน 1 คัน

5. รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน

6. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” 

​สถานที่เกิดเหตุและจับกุม บริเวณด่านตรวจพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ ต่อเนื่อง โรงแรม มิรา รีสอร์ท เลขที่ 173 ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง

​พฤติการณ์แห่งคดี  เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคล มีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากกลุ่มผู้ว่าจ้าง จากพื้นที่ทางภาคเหนือ มาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน จว.เชียงราย มุ่งหน้าไปยัง จว.แพร่ และใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 11 มุ่งหน้าจาก อ.เด่นชัย จว.แพร่ มุ่งหน้าไปยังภาคกลาง จนกระทั่ง วันที่ 10 มิถุนายน 2564 สามารถจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้ที่บริเวณด่านตรวจพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด จับกุมผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่ บริเวณโรงแรมมิรารีสอร์ท เลขที่ 173 ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง และ สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ 4 ได้ที่บริเวณบนถนนเพชรเกษม ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป

คดีที่ 3

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 08.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส.ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 3 คน

ผู้ต้องหา

1. นายศุภโชค สุขสุด อายุ 35 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 55 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จว. พิษณุโลก

2. นายวิชัย อินทรีย์วงศ์ อายุ 40 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 86 ม. 1 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จว. สุพรรณบุรี                             

3. นายประมวล ขันแก้ว. อายุ 36 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 115 ม.1 ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จว.เพชรบูรณ์

พร้อมของกลาง จำนวน 4 รายการ

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 4,000,000 เม็ด

2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน  ยี่ห้อ ISUZU จำนวน 1 คัน

​3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA จำนวน 1 คัน

4. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ MG จำนวน 1 คัน

5. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda จำนวน 1 คัน

6. ทองคำแท่ง น้ำหนักประมาณ 5 บาท

7. ทองรูปพรรณ น้ำหนักประมาณ 3 บาท

8. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” 

สถานที่เกิดเหตุ บริเวณภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ หสน.ธวัชบริการแพร่ เลขที่ 188 หมู่ 4 ต. ทุ่งโฮ้ง อ.เมือง จว.แพร่ ต่อเนื่อง บริเวณภายในลานจอดรถตลาดไท ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี

สถานที่เกิดเหตุและจับกุม 

​สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายศุภโชค สุขสุด ซึ่งมีประวัติเกี่ยวกับ ยาเสพติดให้โทษ ร่วมกับ นายวิชัย อินทรีย์วงศ์ ทั้งสองมีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ และจะนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ทางกลางและปริมณฑล ตามสั่งการของผู้ว่าจ้าง โดยใช้เส้นทาง จว.เชียงราย - พะเยา – ลำปาง - แพร่ - อุตรดิตถ์ - พิษณุโลก - พิจิตร - นครสวรรค์ จนกระทั่งวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 08.30 น.สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 และ 2 ได้ที่บริเวณ บริเวณภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ หสน.ธวัชบริการแพร่ เลขที่ 188 ม. 4 ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมือง จว.แพร่ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 4,000,000 เม็ด และจับผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่บริเวณภายในลานจอดรถตลาดไท ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป

ตำรวจ PCT โชว์ผลงานจับกุม 4 คดีสำคัญในรอบ 2 เดือน

วันนี้ (15 มิ.ย.64) เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ. PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ , พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. แถลงผลการปฏิบัติของศูนย์ PCT ในรอบเดือน พ.ค.- มิ.ย.64 พร้อมเรียกประชุมตำรวจ PCT ทั่วประเทศ กำชับแนวทางการปฏิบัติ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนโยบายให้ตำรวจทุกหน่วยเร่งปราบปรามการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการทายผลฟุตบอลยูโร (Euro 2021)​ ซึ่งในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ศูนย์ PCT มีผลการจับกุมคดีสำคัญทั้งสิ้น 17 คดี ผู้ต้องหา 46 คน  ผู้เสียหาย 2,000 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท เช่น จับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอลยูโร Betclic89 บางเขน, เครือข่าย UFA168SURE นนทบุรี, เครือข่าย Superslot ขอนแก่น, เครือข่าย imi9bet.com นครศรีธรรมราช, เครือข่าย ALLSLOT777.com สมุทรปราการ, เครือข่าย PGSLOT889.com บางยี่ขัน และ ล่าสุด "สำนักใบ้หวยแม่น้ำหนึ่ง" ซึ่งเป็นการแนะนำให้เล่นหวยผ่านเว็บพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียนในบัญชีรวมหลายพันล้านบาท

สำหรับในวันนี้เป็นการแถลงผลการจับกุมคดีสำคัญที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก 4 คดี คือ

>> คดีแรก จับกุมผู้ต้องหา Romance Scam และเงินดำ

เมื่อวันที่ 7 พ.ค.64 ชุดสอบสวนเฉพาะทาง PCT ได้ร่วมกับ สน.ปทุมวัน และตรวจคนเข้าเมือง จับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย คือ Miss NATALYA TERESA SILVA (ลูกสาว) สัญชาติอเมริกัน และ นางโรชินีเปรม เดียลดาส (มารดา) สัญชาติไทย ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย เป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท

ก่อนหน้าผู้เสียหายได้รู้จักกับ นายจิมมี่ จาง (Jimmi Zhang)​ ทาง Facebook ซึ่งใช้ชื่อว่า "MD Wasin"  และได้มีการสนทนากันมาเป็นระยะโดยอ้างว่า เป็นวิศวกรอยู่กลางทะเล ประเทศอิตาลี ระยะหลังเริ่มอ้างว่าอุปกรณ์ทำงานเสีย ต้องสั่งซื้อ แต่กลับไปถอนเงินบนฝั่งไม่ได้ จึงขอให้ผู้เสียหายโอนเข้าบัญชี หลังจากนั้นก็อ้างว่าตนป่วย และต้องใช้เงินวิ่งเต้นเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อโอนเงินคืนให้ ซึ่งผู้เสียหายก็หลงเชื่อ และให้ยืมเงินเรื่อยมา รวม 55 ครั้ง เป็นเงิน 14.5 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะคืนเป็นเงิน 4 ล้านดอลล่าห์ คิดเป็นมูลค่า 21 ล้านบาท

ต่อมากลุ่มผู้ต้องหาวางแผนอ้างเป็นบริษัทพัสดุ ติดต่อให้ผู้เสียหายมารับกระเป๋าที่ส่งมาจากดูไบ แต่ต้องนำเงินมาชำระ 1,500,000 บาท โดยนัดรับส่งกันที่จามจุรีสแควร์ ชั้น 24 จนผู้เสียหายหลงเชื่อ นำเงินมาแลกกับกระเป๋า ทราบภายหลังว่าเป็นเงินปลอม จึงได้มาแจ้งความต่อศูนย์ PCT ทำการสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ พร้อมเงินของกลาง 1,500,000 บาท คืนให้กับผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือจะได้ติดตามมาดำเนินคดีต่อไป

 >> คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหาแชร์ออนไลน์ “บ้านปีใหม่”

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ได้แก่ น.ส.กชมน (สงวนนามสกุล)และนาย วศิน (สงวนนามสกุล) ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 1589/39 หมู่บ้าน เดอะ มิราเคิล พลัส โครงการ 3 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

 ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน, ผู้นั้นจ่ายหรือ โฆษณา ประกาศ แพร่ข่าว หรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้กู้ยืมเงิน ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ย สูงสุด ที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่าย” นําส่ง กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

พฤติการณ์ในคดี เมื่อประมาณต้นปี 2563 เป็นต้นมา กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการโพสต์ข้อความ โฆษณาทางแอพพลิเคชเทนเฟชบุ๊ค ชักชวน ให้ประชาชนทั่วไป ร่วมเล่นแชร์ และออมเงินการันตี ผลตอบแทนสูง ตามรูปแบบและระยะเวลาที่ผู้ต้องหากําหนด เมื่อมีผู้สนใจผู้ต้องหาจะให้เข้าร่วมเล่นแชร์ ผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์กลุ่ม ชื่อ "แชร์บ้านปีใหม่" จากนั้นผู้ต้องหาจะชักชวนให้ลงทุนออมเงินระยะ สั้นต่อ มีการสร้างความน่าเชื่อถือโดยการประกาศในกลุ่มไลน์ว่า ส่งยอดไว ฟรีดูแล ไม่ต้องรอเก็บยอด ครบ มีแจกมีแถมเงินทอง ท้าวมีธุรกิจมั่นคงมีเงินเย็นสํารองไม่มีท้าวหักรับกันตาย ซึ่งจะมีนายวศินฯ สามี ของ น.ส.กชมนฯ เป็นผู้ดูแลกลุ่มไลน์ดังกล่าว เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจะให้โอนเงินไปที่บัญชีของผู้ต้องหา ทั้ง 2 ราย

รูปแบบของการลงทุนเป็นการออมระยะสั้น ราย 30 วัน ราย 20 วัน หรือตามที่ท้าวกําหนด รับ ผลตอบแทนร้อยละ 20 ต่อรอบ โดยกําหนด 1 วงให้ผู้เล่นจะลงทุนกี่มือก็ได้ ซึ่งในช่วงแรกได้รับ ผลตอบแทนจริง ต่อมาภายหลังผู้ต้องหาอ้างว่าบ้านแชร์ล้ม เมื่อผู้เสียหายทวงถามเงินคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยง จึงทําให้มีผู้เสียหายมากกว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท

>> คดีที่ 3  จับกุมผู้ต้องหา แอบอ้างใช้รูปดาราไปสร้างโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ เพื่อการค้าประเวณี

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 64 จับกุม นายศรีสวัสดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ที่บ้านพัก chill pool villa ต.หมูสี อ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดให้เพื่อบุคคล นั้น กระทําการด้วยวิธีใด ค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม ,โฆษณาชักชวน หรือแนะนําด้วย เอกสาร สิ่งพิมพ์ หรือกระทําให้แพร่หลายไปยังสาธารณะที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้องหรือการติดต่อ เพื่อการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น ,เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น” นําส่งสน.ลาดพร้าว และแจ้ง ข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา”

พฤติการณ์ในคดี ผู้ต้องหานํารูปในอินสตราแกรมของ น.ส.เพียววรินทร์ กอศิริวลานนท์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ชื่อบัญชี purewr.g มา ใช้เป็นรูปโปรไฟล์ในทวิสเตอร์ชื่อบัญชี “นางฟ้า SL” เพื่อชักจูงลูกค้า ในการค้าประเวณี จากนั้นใช้ แอปพลิเคชั่นไลน์ชื่อ “น้องไอติม” ติดต่อลูกค้า แจ้งราคา และนัดหมายสถานที่ แล้วแจ้งผู้ค้าประเวณีให้ ทราบ โดยการค้าประเวณีครั้งละ 1,500 บาท ผู้ต้องหาได้ส่วนแบ่งจากการค้าประเวณีเป็นจํานวนเงินครั้ง ละ 500 บาท

>> คดีที่ 4 จับกุมพนันออนไลน์ ฟุตบอลยูโร 4 จุด

จุดที่ 1 บ้านเลขที่ 50/42 หมู่บ้านไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 65 บางเขน จับกุมนายธนวิชญ์ (สงวนนามสกุล) เครือข่ายเว็บไซต์ https://mbc.sunmcsports.com/ และไลน์กอด Berclic89

จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 99/185 ซ.บงกช 42 หมู่บ้านเดอะนอร์ธเทิร์นโนวายาซิมลียา ถ.เลียบคลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับกุม นายสุทธิศักดิ์ หรือ ต้อม (สงวนนามสกุล) และ นายพงศวัชร หรือ พัด (สงวนนามสกุล) เครือข่ายเว็บไซต์ SBOUFABET

จุดที่ 3 บ้านไม่มีเลขที่ บึงหนองโครต ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จับกุม นายอิทธิพล และ น.ส.พรพรรณ (สงวนนามสกุล ) เครือข่าย Superslot

จุดที่ 4 บ้านไม่มีเลขที่ หมู่บ้าน the flex ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จับกุม นายธนวิชญ์ (สงวนนามสกุล) ในข้อหา "ประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์" ยึดของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อ BMW รุ่น 430i coupe m sport สีขาว 1 คัน และ รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด 1 คัน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม ซิมการ์ด 194 ชิ้น บัตร ATM 14 ใบ ยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 50 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจพบทั้งหมดจะทำรายงาน ปปง. มีคำสั่งยึดและอายัดตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป

ก่อนหน้าสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้ทำการเปิดเว็บไซต์ https://mbc.sunmcsports.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์ฟุตบอลยูโร, หวย และการพนันประเภทอื่น ๆ โดยใช้บ้านเลขที่ 50/ 42 หมู่บ้านไลฟ์บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 65 เขตบางบอน กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งเซิฟเวอร์

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ย้ำว่า ช่วงนี้มีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (EURO 2020) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและกำชับมิให้มีการเล่นการพนัน โดยเฉพาะการทายผลการแข่งขันฟุตบอล รวมถึงการทายผลทางออนไลน์ด้วย ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมาย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้กวดขันจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ ศูนย์ PCT ได้พยายามสร้างภูมิกันให้กับประชาชนโดยการผลิตคลิป เตือนภัยในรูปแบบต่าง ๆ ของอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เช่น คลิป "รู้ทัน แชร์ลูกโซ่", "รู้ลึก พนันออนไลน์ ภัยใกล้ตัว กับติ๊ก บิ๊กบราเธอร์", "ลงทุนแค่ 100 ได้เงินเป็น 1,000,000" , "3 กระบวนยุทธ์ สกัดหยุด การโจรกรรมข้อมูลออนไลน์", "ภัยใกล้ตัว ระวัง เงินหายหมดบัญชี" และล่าสุดคลิป "รักแท้ ใครว่าแพ้ระยะทาง" ซึ่งเป็นคลิปเตือนภัยเรื่อง Romance Scam โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ Facebook Page และ Youtube @PCTPOLICE  และจะมีการผลิตคลิปเตือนภัยทุกเดือน  เพื่อให้ทันต่อรูปแบบของอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากพบพฤติการณ์ดังกล่าวสามารถโทรแจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน ตร. 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง ศูนย์ PCT 081-8663000 เฉพาะเวลาราชการ

สตูล - มอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค - บริโภค ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลตำมะลัง กว่า 600 ครัวเรือน

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายก อบจ.สตูล นายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอเมืองสตูล พันจ่าเอกสาคร สิทธิศักดิ์ ท้องถิ่นจังหวัดสตูล นายชัยนันท์ หลงสาม๊ะ นายก อบต.ตำมะลัง ร่วมมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค - บริโภค เพื่อการดำรงชีพต่อครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อน หรือได้รับผลกระทบจากมาตรการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มัสยิดบ้านตำมะลังใต้ และบ้านตำมะลังเหนือ ต.ตำมะลัง อ.เมืองสตูล รวม 673 ครัวเรือน โดยบรรยากาศมีประชาชนมารอรับถุงยังชีพจำนวนมาก ซึ่งด้านหน้ามีการตรวจวัดไข้ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ มีการจัดให้ประชาชนมารอรับถุงยังชีพนั่งกันอย่างเป็นระเบียบตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 อย่างเคร่งครัด

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวพบปะประชาชนที่เข้ารับมอบถุงยังชีพในครั้งนี้ ว่า การมอบถุงยังชีพฯในครั้งนี้เป็นความห่วงใยประชาชนในสถานการณ์โควิด -19 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศและจังหวัดสตูล พบจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวัดสตูลโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้มีคำสั่งให้ปิดสถานที่และห้ามดำเนินกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคติดต่อ ส่งผลให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยได้รับความเดือดร้อน และประสบภาวะยากลำบากในการดำรงชีพ

โดยมติของ ศบค.จังหวัดสตูล ได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ดังนั้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลตำมะลัง ได้ประสานคณะกรรมการชุมชน จัดเก็บข้อมูลและรับรองรายชื่อผู้ประสบปัญหาที่ได้รับผลกระทบรวม 673 ครอบครัว ซึ่งแบ่งเป็นถุงยังชีพที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล จำนวน 336 ชุด และองค์การบริหารส่วนตำบลตำมะลังสนันสนุนอีกจำนวน 337 ชุด ภายในถุงยังชีพประกอบด้วย ข้าวสาร ขนาด 5 กก. จำนวน 1 ถุง , ปลากระป๋อง จำนวน 6 กระป๋อง , น้ำปลา ขนาด 700 ซีซี จำนวน 2 ขวด , น้ำมัน ขนาด 1,000 ซีซี จำนวน 2 ขวด , น้ำตาลทราย ขนาด 1 กก. จำนวน 1 ถุง , และมาม่าอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนในเบื้องต้น


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล / ปชส.สตูล

พังงา – เกิน 100 แล้ว !! คลัสเตอร์แพปลาคุระบุรียังน่าห่วง เตรียมย้ายผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลสนาม และจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มยอดผู้ป่วยรวม 102 ราย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 มิถุนายน 2564 นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย น.อ.อภิชาติ วรรณอมร รอง ผอ.กอ.รมน.พังงา นายชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่โรงเรียนอนุบาลบ้านเด็ก ซึ่งได้จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในคลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี ที่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน โดยจะย้ายผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการเล็กน้อย เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งจะทำการย้ายผู้ป่วยชุดแรกเป็นแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงรวม 18 ราย ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก แบบ Rapid Antigen Test ให้กับประชาชนทุกคนในเขตพื้นที่บ้านหินลาด หมู่ 3 ตำบลคุระ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ได้เข้าดูสถานที่เตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมที่โรงเรียนโชคอำนวยและโรงเรียนบ้านกลางประชาสรรค์ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ถุกยุบแล้วไม่มีการใช้ประโยชน์

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา กล่าวว่า จากสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ในคลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี ได้ส่งสัญญานที่ไม่ดี ในการแพร่ระบาดที่มีเป็นจำนวนมากทั้งกลุ่มลูกเรือและกลุ่มแรงงานบนแพปลา ซึ่งจากการตรวจเชิงรุกยังพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ทางจังหวัดพังงาจึงต้องจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม เพื่อรองรับกับจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่พบทุกวัน ทำให้ทางโรงพยาบาลปกติไม่สามารถรองรับได้ เพราะผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการหรือมีอาการเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้โรงพยาบาลสนามก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะมีระบบการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดีโดยเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมกันนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดพังงาก็ได้วางระบบการจัดการป้องกันเชื้อโควิด-19 ไว้เป็นอย่างดี

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 วันนี้พบผู้ป่วยใหม่ 5 ราย เป็นแรงงานต่างด้าว 4 ราย ชายไทย 1 ราย อยู่ในคลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมในคลัสเตอร์นี้รวม 33 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวในกิจการประมง ส่วนยอดผู้ป่วยสะสมในระลอกใหม่ของจังหวัดพังงารวม 102 ราย  


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี

เชียงราย – นักรบบนหลังม้า หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 นำม้าลาดตระเวนสกัดกั้นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองพร้อมสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน

เมื่อวันที่14 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ตามที่ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้มีนโยบายให้กำลังพล ที่ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ตามแนวชายแดน ได้มีการผ่อนคลายจากการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว

ดังนั้น พลตรี นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง จึงได้สั่งการให้ พันเอก สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 นำม้า เพื่อใช้เป็นพาหนะเพิ่มระยะทางและระยะเวลา ในการปฏิบัติภารกิจการลาดตระเวน ตามแนวชายแดน แทนการเดินเท้า เพื่อให้กำลังพลลดความเหนื่อยล้า และได้ผ่อนคลาย จากการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมงและ ให้มีการผลัดเปลี่ยนกำลังพล ในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายตามแนวชายแดนพร้อม การสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ในพื้นที่ตามแนวชายแดน ของ จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังได้สร้างความสัมพันธ์กับประชาชน ในพื้นที่ ด้วยการแจกหน้ากากอนามัย ให้กับประชาชน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด – 19)

ทั้งนี้ ในห้วงเดือน พฤษภาคม ถึงเดือน มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่3กองกำลังผาเมืองสามารถสกัดกั้นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 4 ครั้ง ผู้ต้องหา จำนวน 14 คน การผลักดัน จำนวน 7 ครั้ง ผู้ต้องหา จำนวน 16 คน และจะยังคงเพิ่มความเข้มข้น ในการปฏิบัติการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวดต่อไป


ภาพ/ข่าว  สันติ วงศ์สุนันท์ / ผู้สื่อข่าวเชียงราย

สงขลา - แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดกิจกรรม "น้ำคือชีวิต (วันคลองภูมี)" ตามโครงการ สร้างจิตสำนึก เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ คืนความอุดมสมบูรณ์ อีกครั้ง

ที่ หาดปากบางภูมี ตำบลรัตภูมิ อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  บินสำรวจตรวจคลองภูมี พร้อมเป็นประธานเปิดกิจกรรม “น้ำคือชีวิต (วันคลองภูมี)” ตามโครงการ สร้างจิตสำนึก เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกของประชาชนให้ตระหนักถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพของคลองภูมี ภายหลังถูกขบวนการดูดทรายเถื่อนลักลอบทำลายอย่างหนักในห้วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้ร่วมปล่อยกุ้ง ปล่อยปลาลงสู่คลองภูมี พร้อมกับ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และพี่น้องประชาชน

โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวชื่นชมกิจกรรมในวันนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งทรัพยากรดิน น้ำ ป่า ความหลากหลายทางชีวภาพ และอื่น ๆ ซึ่งความเสื่อมโทรมส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยคลองภูมีเปรียบเสมือนเส้นเลือดหลักในการดำรงชีพของประชาชนในพื้นที่ เป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค แหล่งอาศัย และที่ทำกิน แต่ในปัจจุบันปัญหาการรุกล้ำพื้นที่คลองภูมี ส่งผลให้ทรัพยากรน้ำเกิดปัญหามากมาย  ขอขอบคุณภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ ที่ได้ร่วมรณรงค์ ให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันอนุรักษ์คลองภูมี สร้างเสริมองค์ความรู้ และจิตสำนึกของประชาชนให้ตระหนักถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพของแม่น้ำลำคลอง ให้เกิดความรัก และหวงแหนมากยิ่งขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันอย่างจริงจัง เอาชนะปัญหาต่าง ๆ ไปได้ ซึ่งหากเราร่วมมือสมัครสมาน สามัคคีกันก็จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้คลองภูมีแห่งนี้ที่เป็นเส้นเลือดหลักในการดำรงชีวิตของประชาชนพื้นที่ต่อไป ทางกองทัพบกพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแล และช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถ กองทัพบกเป็นของพี่น้องประชาชน เป็นกำลังใจให้กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นกำลังใจให้ประชาชนจังหวัดสงขลา เพื่อให้คลองภูมีกลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีภารกิจในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยมีแนวทางการพัฒนา เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนมีส่วนร่วม อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ทั้งด้าน ทรัพยากรป่าไม้ ด้านทรัพยากรน้ำ และทรัพยากรทางทะเล พร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู หวงแหนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ ตลอดจนเฝ้าระวังการทำลาย สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้มีการกำหนดให้ปล่อยพันธุ์ สัตว์น้ำ กุ้งก้ามกราม จำนวน 3 ล้านตัว ลงสู่คลองภูมี เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนและเป็นการ เพิ่มขยายพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่คลองภูมี และทะเลสาบสงขลาต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์  

ปทุมธานี – บิ๊กแจ๊ส เข้าคิวลงทะเบียนจองวัคซีนซีโนฟาร์ม เพื่อคนปทุมธานี

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 07:00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางมาจองวัคซีนตัวเลือกซีโนฟาร์มที่สถาบันราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หลังจากที่สถาบันเปิดให้หน่วยงานต่างได้เปิดจองในวันนี้เป็นวันแรก โดยมีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี หลังจากที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ของสถานับราชวิทยาลัยฯเรียบร้อยแล้ว แต่ที่เดินทางมาด้วยตนเองเพื่อปรึกษา ท่านพลอากาศตรี นายแพทย์ สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อนำข้อมูลกลับไปเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่ฉีดวัคซีนให้ชาวปทุมธานี ส่วนบรรยากาศที่สถาบันราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มีประชาชนมารอเข้าคิวรับการฉีดวัคซีนแอสตราฯเข็มที่สอง

โดยมีคุณบรู๊ค ดนุพร และคุณกบ สุวนันท์ สองดารานักแสดงชื่อดัง ได้มารอคิวรับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองจากสถาบันฯด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากวันนี้ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้เปิดให้หน่วยงานต่างได้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอรับจัดสรรวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ผ่านระบบออนไลน์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผมจึงได้เดินทางมาพร้อมกับท่านรองปลัดของ อบจ.ปทุมธานี และท่านชาตรี ศรีสันต์ หัวหน้าสำนักงานสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย โดยสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทยมีท่านสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ซึ่งวันนี้เราได้เดินทางมาจองในภาพรวมของจังหวัดปทุมธานี โดยอบจ.ปทุมธานีได้จองวัคซีนจำนวน 500,000 โดส พร้อมกับ อบต. เทศบาลต่าง ๆ ที่รวมจองเข้ามาด้วย ในส่วนจอง อบจ.ในจังหวัดอื่น จะมีประธานนายก อบจ. เผยแพร่ข้อมมูลทางไลน์ให้จองพร้อมกัน

เบื้องต้นทราบว่ามีจำนวน 20 จังหวัดแล้ว ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ให้รีบเข้าไลน์จองได้เลยตอนนี้ โดยมีท่านชาตรี ศรีสันต์ หัวหน้าสำนักงานสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย เป็นผู้ประสานงานทั้งหมด ในวันนี้ได้รับความสะดวกจาก พลอากาศตรี นายแพทย์ สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ในส่วนของอบจ.ปทุมธานีจะต้องกลับไปเตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ซึ่งโรงพยาบาลที่จะรับการฉีดวัคซีนต้องเป็นโรงพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานียังไม่ปลอดภัย เป็นพื้นที่สีแดงอยู่ และมีผู้ติดเชื้ออยู่ 1 ใน 7 ของประเทศ รวมถึงมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อง ส่วนยอดผู้ติดเชื้อทั้งประเทศมีจำนวนมากถึง 2,000-3,000 คน รวมถึงก็ยังมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 อยู่ แต่ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนประมาท ได้ฉีดวัคซีนทั้งจากภาครัฐและวัคซีนทางเลือก คาดว่าจะประชาชนจะได้ฉีดอย่างทั่วถึงที่สุด และเราจะผ่านวิกฤติโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน ในส่วนของการจัดสรรในการฉีดวัคซีนนั้น ผมคงจะเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ว่าในเน้นไปที่บุคคลากรทางการศึกษาก่อน จากนั้นเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ผู้ที่ขับรถโดยสารส่งนักเรียน คนขับรถรับส่งสาธารณะ รวมถึงพี่น้อง อสม. ที่เป็นด่านหน้าต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงและเร็ว


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ

อุทัยธานี – นักเรียนเฮ !! เปิดเทอมวันแรก พบไอเดียเจ๋ง ด่านประตูเครื่องวัดอุณภูมิอัตโนมัติ ได้ตัวเดียวครบขั้นตอน เสริมความรู้กับโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนลานสักวิทยา ต.ลานสัก อ.ลานสัก ไปพบกับไอเดียเจ๋งของคุณครู ด้วยตู้เครื่องวัดอุณภูมิอัตโนมัติ ได้ตัวเดียวครบขั้นตอน ด้วยการล้างมือเจลแอลกอฮอล์ และสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยมือถือเพื่อเสริมความรู้ด้านโรคโควิด ได้ทั้งหมดในตัวเดียวกัน และยังช่วยตรวจได้อย่างรวดเร็ด โดยไม่ต้องมีคนมายืนเฝ้าที่เครื่อง โดยโรงเรียนลานสักวิทยา ได้ประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อใช้ในการคัดกรองนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน เพื่อนักเรียน และคณะครู และผู้ที่ผ่านไปผ่านมาอยากจะเข้าพบปะติดต่อกับราชการทางโรงเรียน

โดยนายภาณุพงศ์ มั่นพรม ผู้อำนวยการโรงเรียนลานสักวิทยา พร้อมครูและบุคลากรจำนวน 54 คน รวมนักเรียนจำนวน 779 คน ส่วนบรรยากาศภายในโรงเรียน ได้มีการเปิดภาคเรียนเป็นวันแรก โรงเรียนลานสักวิทยา ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยให้กับนักเรียนและบุคลากรทางโรงเรียน ผู้ปกครอง ก่อนเปิดภาคเรียนทางโรงเรียนก็ได้เตรียมความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครองเพื่อความมั่นใจกับทางโรงเรียน ทั้งนี้ทางโรงเรียนลานสักได้มีรูปแบบการเรียนแบบผสมผสาน 2 รูปแบบ คือการเรียนแบบออนไซต์ และออนไลน์ ในช่วงป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอีกโรงเรียนที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียน โดยผ่านประตูเครื่องวัดอุณภูมิแบบอัตโนมัติ รวมถึงล้างมือเจล และสแกนมือถือยิงคิวอาร์โค้ดแสดงวิธีการปฏิบัติและเพิ่มความรู้ให้กับนักเรียนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 โดยผ่านเครื่องการ์ด ไม่ตก ชกตลอด เครื่องเดียวได้ครบขั้นตอน


ภาพ/ข่าว  ภาวิณี ศรีอนันต์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top