Friday, 27 June 2025
NEWS FEED

ผบ.ศูนย์ฝึกทหารใหม่ฯ รับเจ้ากรมข่าวทหารเรือ และ 15 ผู้ช่วยทูตทหาร เยี่ยมชมหน่วย 

ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ต้อนรับคณะ เจ้ากรมข่าวทหารเรือ พร้อมด้วยคณะผู้ช่วยทูตทหาร 15 ประเทศ ในโอกาสเยี่ยมชมหน่วย เพื่อสร้างการรับรู้การบริหารจัดการในการฝึกทหารกองประจำการ น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) ต้อนรับ พล.ร.ท.พิบูลย์ พีรชัยเดโช เจ้ากรมข่าวทหารเรือ และคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ/กรุงเทพฯ ที่มีถิ่นพำนักในต่างประเทศ ในการเข้าเยี่ยมชมหน่วย ณ ศูนย์การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โดย กรมข่าวทหารเรือ กำหนดจัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือ กับผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศฯ ประจำปี งบประมาณ 2568 (MAC-T Tour 2025) ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.68 - 1 พ.ค.68 ในพื้นที่ภาคตะวันออก (จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง) โอกาสนี้ เพื่อให้การสร้างการรับรู้ภารกิจในการฝึกทหารกองประจำการของ กองทัพเรือ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเรื่องที่คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศฯ ให้ความสนใจ 

เจ้ากรมข่าวทหารเรือ จึงได้นำคณะฯ เข้าเยี่ยมชมศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของกองทัพเรือ ที่มีภารกิจดำเนินการฝึกอบรม ให้การศึกษาและปกครองบังคับบัญชา ทหารกองประจำการ ปีงบประมาณละ 4 ผลัด ผลัดละ 3,000 นาย โดยมีระยะเวลาในการฝึกอบรม 8 สัปดาห์ต่อผลัด เพื่อเปลี่ยนแปลงทหารใหม่ จากพลเรือนให้มีลักษณะทางทหารและฝึกอบรมความรู้ที่สำคัญประกอบด้วย วิชาทหารราบ ตามคู่มือแบบฝึกพระราชทาน โรงเรียนทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (รร.ทม.รอ.) , วิชาชีพทหารเรือทั่วไป เช่น การอาวุธ , การผูกเชือก , การตีกระเชียงเรือ และการฝึกป้องกันความเสียหาย เพื่อสร้างความเป็นทหาร ความเป็นชาวเรือ 

นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรมด้านอาชีพเพิ่มเติม เช่น ศูนย์การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตลอดจน การแนะแนวการมีอาชีพจากคณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการ กองทัพเรือ เพื่อเป็นแนวทางในการอบรมอาชีพที่ทหารใหม่สนใจ ก่อนปลดประจำการ

การเยี่ยมชมครั้งนี้ เป็นไปตาม นโยบาย ผบ.ทร. ประจำปี งป.68 นโยบายหลัก ด้านยุทธการและการฝึก เสริมสร้างความร่วมมือและริเริ่มการสร้างกลไกการประสานงานร่วมกัน ระหว่างกองทัพเรือและหน่วยงานความมั่นคงทางทะเล และ ภาคเอกชน

ขอเชิญผู้ประกอบการ เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร จังหวัดแพร่

(1 พ.ค. 68) เชิญชวนผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงลึก ภายใต้โครงการ “ส่งเสริมการสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์จากอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ตลาดยุคใหม่ (Local Wisdom to Global)” ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดแพร่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

🌾คุณสมบัติ
: เป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรม SME / วิสาหกิจชุมชน / กลุ่มเกษตรกรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร

  .....ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ
กิจกรรมมีดังนี้ :
: กิจกรรมศึกษาดูงาน ที่จังหวัดชลบุรีและกรุงเทพมหานคร จำนวน 3 วัน
: กิจกรรมให้คำปรึกษา ณ สถานประกอบการ จำนวน 15 วัน
: กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ และเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ จำนวน 1 วัน

📅 สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ : วันที่ 1 พฤษภาคม 2568  – 15 พฤษภาคม 2568

สมัครออนไลน์ได้ที่   https://forms.gle/ntToXEQydYLvaUSi8

📍 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : 
คุณเพียงพิมพ์ 088-8097536
คุณปวิตรา 063-1982000
สำนักงานอุตสาหกรรม จ.แพร่ 054-649-731 ต่อ 101

‘อ.ตฤณห์’ วิเคราะห์!! ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ไลฟ์อาบน้ำ ใช้ร่างกาย เป็นทุนทางสังคม ลั่น!! เตือนมาเป็นปีแล้ว ควรไปทำจิตบำบัด เจ้าตัวภูมิใจ!! ได้เงิน 1 แสน ใน 1 วัน

(1 พ.ค. 68) เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก สำหรับการไลฟ์สดโชว์เรือนร่างอาบน้ำ ของ 'เบียร์ เดอะวอยซ์' หรือ 'เบียร์ ภัสรนันท์ อัษฎมงคล' ที่ถึงแม้ไม่ได้เปลือยหมดจดก่อนที่วันนี้เจ้าตัวจะออกมาเผยอย่างภูมิใจว่ารู้สึกแฮปปี้เพราะตื่นเช้ามาพร้อมมีเงินเข้า 1 แสนใน 1 วัน บอกคอนเทนต์ที่ทำก็ไม่ได้สร้างความเกลียดชังให้ใคร

ล่าสุด 'อ.ตฤณห์ โพธิ์รักษา' นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมอาชญากร อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ม.มหิดล ได้ออกมาวิเคราะห์เรื่องการไลฟ์อาบน้ำ โดยมีหลายประเด็นน่าสนใจ ระบุว่า …

Live อาบน้ำ!!
การใช้ร่างกายเป็น 'ทุนทางสังคม' (Social Capital)

1. บุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง (Narcissistic Traits)
อยากเป็นจุดสนใจ : บุคคลอาจมีความต้องการให้ผู้อื่นสนใจหรือชื่นชมตนเองสูง
การใช้รูปร่างเป็นเครื่องมือ : มักใช้ร่างกายหรือภาพลักษณ์ทางเพศเพื่อแลกกับการได้รับการยอมรับ
ประเมินคุณค่าในตนเองจากสายตาคนอื่น : การได้รับยอดไลก์หรือคอมเมนต์อาจเป็นสิ่งที่ใช้ยืนยันตัวตน

2. บุคลิกภาพแบบแสดงออกแรง (Histrionic Personality Traits)
ชอบเรียกร้องความสนใจอย่างสุดโต่ง : บุคคลแบบนี้มักแสดงพฤติกรรมที่เกินจริงหรือยั่วยวนเพื่อให้ได้รับความสนใจ
มีอารมณ์แปรปรวนเร็ว : และมักตัดสินใจโดยใช้อารมณ์มากกว่าตรรกะ
การแสดงตัวเองผ่านเพศ : อาจสื่อสารความต้องการควบคุมหรือมีอิทธิพลต่อผู้อื่นผ่านภาพลักษณ์ทางเพศ

3. การขาดขอบเขตระหว่าง ‘พื้นที่ส่วนตัว’ กับ ‘พื้นที่สาธารณะ’
“อาจสะท้อนถึง พัฒนาการทางจิตใจไม่สมบูรณ์ หรือ การไม่เห็นคุณค่าของความเป็นส่วนตัว”

4. แรงจูงใจทางเศรษฐกิจหรือสื่อสังคม
-ในบางกรณี อาจไม่เกี่ยวกับบุคลิกภาพโดยตรง แต่เกี่ยวกับ พฤติกรรมที่ได้รับแรงจูงใจจากรายได้หรือยอดผู้ติดตาม
-ถือเป็นการใช้ร่างกายเป็น 'ทุนทางสังคม' (Social Capital)

5. ทัศนคติแบบเสรีทางร่างกาย (Body Positivity หรือ Exhibitionist)
-บางคนอาจเชื่อว่าการแสดงออกเช่นนี้คือ 'สิทธิ' และ 'อิสระ' ในการแสดงออกของร่างกาย
-กรณีนี้อาจต้องวิเคราะห์ร่วมกับเจตนาเชิงอุดมการณ์ ไม่ใช่แค่พฤติกรรมทางเพศหรือ

คำเตือนเชิงจิตวิทยาและสังคม
-พฤติกรรมนี้อาจทำให้บุคคล ตกอยู่ในความเสี่ยง เช่น การคุกคามทางเพศ การถูกบูลลี่ หรือถูกเอารูปไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
-อาจสะท้อนถึง ความขัดแย้งภายในจิตใจ หรือความเหงา ที่ถูกแสดงออกในลักษณะยั่วยวน

นอกจากนี้ อ.ตฤณห์ ได้แชร์ข่าวที่เคยวิเคราะห์ว่าเบียร์น่าเป็นห่วง เพราะไม่ได้รู้สึกผิด และอนาคตอาจเลวร้ายกว่านี้ พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “เฮ้อ เตือนมาเป็นปีแล้วว่าควรไปทำจิตบำบัด”

'ทราย สก็อต' ยกพระราชดำรัส ร.9 เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานเพื่อสังคม

ยึดมั่นในคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ 9 ‘ทราย สก๊อต’ หนุ่มนักอนุรักษ์!! ผู้รักท้องทะเลยิ่งชีพ ได้ให้สัมภาษณ์ช่อง News 1 เกี่ยวกับแนวทาง คำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9

สื่อจีน ยกย่อง!! พระอัจฉริยภาพ ‘ในหลวง - พระราชินี’ ทรงขับเครื่องบิน เสด็จเยือนภูฏาน ด้วยพระองค์เอง

(1 พ.ค. 68) สื่อ Shanghai Daily ของจีนรายงานผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี ได้เสด็จเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 4 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2568 นับเป็นการเสด็จเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรัชกาลนี้

ที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์คือ ทั้งสองพระองค์ ทรงขับเครื่องบินพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทำหน้าที่นักบิน และสมเด็จพระราชินีทรงเป็นผู้ช่วยนักบิน ในการนำเครื่องลงจอดที่สนามบินนานาชาติปาโร ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีความยากที่สุดในโลก

การเสด็จเยือนครั้งนี้มีขึ้นตามคำกราบบังคมทูลเชิญของ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และ สมเด็จพระราชินีเจตซุน เปมา แห่งภูฏาน โดยมีพิธีต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชน พร้อมการแสดงวัฒนธรรมและพิธีกรรมทางศาสนา

นอกจากนี้ทั้งสองพระองค์ยังได้ เสด็จไปยัง พระพุทธรูปโดร์เดนมา (Buddha Dordenma) เพื่อทรงร่วมพิธีสวดมนต์ถวายพระพร โดยมีพระสงฆ์ไทยและภูฏานจำนวน 74 รูปร่วมพิธี

นอกจากนี้ ยังเสด็จเยือน โครงการหลวงที่เมืองเดเชนโชลิง เพื่อทอดพระเนตรความร่วมมือระหว่างโครงการหลวงของไทยกับหน่วยงานในภูฏาน รวมถึงเยี่ยมชม ตลาดกลางในกรุงทิมพู และทรงร่วมกิจกรรมวัฒนธรรมต่าง ๆ กับประชาชน

การเสด็จเยือนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างราชอาณาจักรไทยและภูฏาน ซึ่งมีรากฐานร่วมกันทางวัฒนธรรมและพระพุทธศาสนา

ทั้งสองพระองค์เสด็จกลับประเทศไทยในวันที่ 28 เมษายน โดยทรงขับเครื่องบินพระที่นั่งกลับด้วยพระองค์เองอีกครั้ง

สมาคมรัฐศาสตร์แห่งอเมริกา ออกแถลงการณ์!! แสดงความกังวล กรณี ‘พอล แชมเบอร์ส’ ถูกจับในข้อหา ‘หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ’

(1 พ.ค. 68) สมาคมรัฐศาสตร์แห่งอเมริกา (APSA) ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการจับกุมและควบคุมตัว ดร.พอล แชมเบอร์ส นักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกัน ประจำมหาวิทยาลัยนเรศวร ประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2025 ภายใต้ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของไทย

แม้ว่าปัจจุบัน ดร.แชมเบอร์สจะได้รับการประกันตัวแล้ว แต่เขายังคงถูกเพิกถอนวีซ่า ถูกยึดพาสปอร์ต และถูกยึดคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป ซึ่งสมาคมฯ เห็นว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพในการทำงานด้านวิชาการอย่างรุนแรง

สมาคมรัฐศาสตร์แห่งอเมริกา จึงเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพทางวิชาการตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญไทย รวมถึงพันธกรณีระหว่างประเทศ พร้อมทั้งขอให้มีการยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดต่อ ดร.แชมเบอร์ส เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของไทยในการสนับสนุนเสรีภาพทางวิชาการและเสรีภาพในการแสวงหาความรู้

จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ ถูกส่งถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้แก่ ทอม โคล, แฟรงค์ ลูคัส, เควิน เฮิร์น, สเตฟานี ไบซ์ และจอช เบรคีน รวมถึงวุฒิสมาชิก เจมส์ แลงค์ฟอร์ด และ มาร์ควีน มัลลิน รวมทั้ง เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โรเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก และอัยการสูงสุดของไทย คุณไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ

สำหรับสมาคมรัฐศาสตร์แห่งอเมริกา (APSA) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1903 ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 11,000 คนจากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยมีบทบาทสำคัญในการจัดประชุมสัมมนาวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ตีพิมพ์วารสารวิชาการชั้นนำ ส่งเสริมการวิจัยและการเรียนการสอนด้านสังคมศาสตร์ รวมถึงการปกป้องสิทธิและเสรีภาพของนักวิชาการที่ถูกคุกคามจากรัฐ

ตุ๊กตาถักไหมพรม 2 ตัว จาก คุณยุ้ย 'ศิริลักษณ์ ใจชื่น' เจ้าหน้าที่กงสุลไทยประจำราชอาณาจักรภูฏาน สะท้อนความอบอุ่น สายสัมพันธ์แน่นแฟ้น ระหว่างสองแผ่นดิน

(1 พ.ค. 68) ภาพตุ๊กตาถักไหมพรม 2 ตัวที่อยู่ในพระหัตถ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตุ๊กตาคู่นี้ มาจาก คุณยุ้ย–ศิริลักษณ์ ใจชื่น เจ้าหน้าที่กงสุลไทยประจำราชอาณาจักรภูฏาน

คุณยุ้ยได้ตั้งใจนำมาติดเข็ม แล้วทูลเกล้าฯ ถวายเป็นของที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีในโอกาสการเสด็จเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยความภักดีและหัวใจไทยที่สะท้อนความอบอุ่นและสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างสองแผ่นดิน

‘มูลนิธิอินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ’ ตอกย้ำปณิธาน!! พัฒนาการศึกษาไทย จัดโครงการพัฒนาครู มุ่งสู่การเรียนรู้ เพื่ออนาคต รุ่นที่ 4

(1 พ.ค. 68) มูลนิธิอินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ จัดโครงการฯ ยิ่งใหญ่ประจำปี พร้อมมอบสิ่งดี ๆ ให้คุณครู มุ่งยกระดับครูทั่วทุกภูมิภาค พัฒนาไปพร้อมการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน ผ่าน 'โครงการพัฒนาครู มุ่งสู่การเรียนรู้ เพื่ออนาคต' รุ่นที่ 4 พร้อมปรับการสอนเชิงสร้างสรรค์ เพื่อกระตุ้นผู้เรียน พัฒนาผู้สอน ให้มีศักยภาพทางด้านการศึกษา ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีและดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เน้นให้เกิดประสิทธิภาพ และก่อประสิทธิผล

โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีของโครงการพัฒนาครูจนถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกับโครงการพี่สอนน้อง 'ปลูกปัญญา...พร้อมมอบความอบอุ่น' มูลนิธิฯ ยังคงมุ่งมั่น ตั้งใจ และลงมือทำ เพื่อผลักดันให้มีโครงการดี ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการพัฒนาครู เป็นโครงการที่ได้เห็นถึงคุณค่าของ 'ครู' ที่นับว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อการศึกษาของเด็ก และเยาวชน จากการมีครูที่ดี 1 คน สามารถสร้างนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่ดีได้อีกหลายคน

ดังนั้น หากจะพัฒนาการศึกษาไทยให้เกิดประสิทธิภาพ 'ครู' จึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกส่วนหนึ่ง ที่ต้องปรับตัว พร้อมพัฒนาองค์ความรู้ของตน ควบคู่ไปกับนักเรียน ส่งผลทำให้เกิดเป็นโครงการพัฒนาครู มุ่งสู่การเรียนรู้ เพื่ออนาคต โดยจัดขึ้นเป็นรุ่นที่ 4 นับเป็นการส่งเสริมต่อยอดองค์ความรู้ให้แก่ครูผู้สอน ที่เป็นผู้อบรมสั่งสอนนักเรียนได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น

อีกทั้งเนื่องจากปัจจุบัน เป็นยุคแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลง พร้อมกับมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และก้าวกระโดด ทำให้บทบาทในฐานะแม่พิมพ์ หรือ ครูผู้สอน จึงต้องเสริมสร้าง พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนเชิงสร้างสรรค์ (Creative Learning) หรือ แนวทาง Active Learning - Beyond the Future เพื่อสอดรับการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างสร้างสรรค์ พร้อมส่งต่อความรู้สู่นักเรียนได้อย่างเท่าทัน และหนุนนำให้นักเรียนเติบโตในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป

สำหรับการอบรมในปีนี้ จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา เพราะมูลนิธิอินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ ได้เปิดโอกาสให้โรงเรียนภาครัฐ และบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมมีจำนวนรวมกว่า 250 โรงเรียน จัดขึ้นทั้งในรูปแบบ Onsite และ Online เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ณ อาคารอินเตอร์ลิ้งค์ (สำนักงานใหญ่) ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ 

บรรยากาศภายในงาน ได้รับเกียรติจากประธานมูลนิธิอินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ ดร.ชลิดา อนันตรัมพร ร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมรับบทบาทเป็นวิทยากรในครั้งนี้ บรรยายในหัวข้อ “ครูพันธุ์ดี ยุค 5G” ปั้นคน ปรับตัว เปิดใจ เปลี่ยนแปลง ในยุคที่ต้องปรับตัวให้ทันเทคโนโลยี ยกระดับการศึกษาไทยแนวใหม่

รวมทั้ง ยังได้เชิญ ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ มาร่วมเป็นวิทยากร และบรรยายหัวข้อ 'กระบวนการแนวคิด Active Learning' เทคนิคการสอนที่ทำให้ผู้เรียน มีความสุข รับความรู้ คิดอย่างสร้างสรรค์ พร้อมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนแบบสร้างสรรค์อีกท่าน นางสาวจิตปภา สุพันธะ มาร่วมบรรยายและจัดกิจกรรม Workshop ในหัวข้อ 'การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน Creativity-based Learning (CBL)' พร้อมสอนเทคนิคการสร้างสื่ออย่างสร้างสรรค์ด้วย AI ซึ่งทำให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจและสามารถนำไปปรับใช้ในรูปแบบของการสอน พร้อมพัฒนาตนเองและผู้เรียน ได้นำไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง ซึ่งนับว่าเป็นหัวข้อสุดท้ายที่ทำให้การอบรมในครั้งนี้จบลงอย่างสวยงาม

“นับเป็นความตั้งใจที่มูลนิธิอินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนโครงการฯดี ๆ นี้ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งมั่นไว้ รวมถึงเป็นการพัฒนาเพิ่มพูนความรู้ด้านการสอนของครูให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยสร้างเสริมครูผู้สอนให้มีแรงบันดาลใจ รักและภูมิใจในอาชีพครู เพื่อเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ให้แก่ครูสู่นักเรียน เท่าทันการเติบโตในโลกอนาคตได้อย่างมีคุณภาพ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเสียสละเวลาส่วนตัว ทำเพื่อส่วนรวมโดยจะนำความรู้ที่ได้จากการอบรมในครั้งนี้ ไปต่อยอดพัฒนาลูกศิษย์ของตน ถือเป็นเรื่องที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทยมีบุคคลที่เสียสละทั้งใจ ทั้งกาย ในอาชีพครู โดยในพัฒนาครูฯ ในรุ่นที่ 4 คุณครูให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม เข้าร่วมรับฟังการอบรม รับความรู้ที่อัดแน่นไปด้วยเทคนิคการสอนอันเต็มเปี่ยม เพื่อก้าวให้ทันสู่การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันที่พร้อมจะนำไปพัฒนาตนเองให้ก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และมีประสิทธิภาพ พร้อมกับปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สามารถนำไปต่อยอด ส่งต่อความรู้ที่ได้รับ นำไปประยุกต์สู่การเรียนการสอนในรูปแบบสร้างสรรค์ให้แก่นักเรียนในประเทศของเรา พัฒนาได้เทียบเท่าเด็กในระดับนานาชาติต่อไปในอนาคตได้อีกด้วยค่ะ” ดร.ชลิดา กล่าวเสริมตอนท้าย

กรมการขนส่งทหารเรือ จัดกิจกรรม 'Naval Transportation Department Safety 2025' 

กรมการขนส่งทหารเรือ จัดกิจกรรม 'Naval Transportation Department Safety 2025' ณ ห้องศรีศิริ กรมการขนส่งทหารเรือ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับกำลังพลในการป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย ของผู้บัญชาการทหารเรือ (NAVY-SAFETY 2025) อีกทั้งยังเป็นไปตามขอบเขตการจัดการความรู้ ของกองทัพเรือ ในปีงบประมาณ 2568 โดยมี พลเรือตรี ศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรม การจัดกิจกรรม Naval Transportation Department Safety 2025 

กองทัพเรือได้ตระหนักและให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของกำลังพลทและยุทโธปกรณ์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นทรัพยากรอันทรงคุณค่า โดยผู้บัญชาการทหารเรือได้มีนโยบายประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ต้องการให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยของกองทัพเรือ มุ่งเน้นให้การปฏิบัติภารกิจด้านต่าง ๆ มีความปลอดภัย จึงเกิดเป็นกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้น โดยความรู้ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม จะนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อให้กำลังพลและยานพาหนะมีความปลอดภัยมากยิ่งขี้น ในปีนี้ กรมการขนส่งทหารเรือ ตั้งเป้าหมายไว้ว่า 365 วันอุบัติเหตุต้องเป็น 0

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย การเสวนาจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีประสบการด้านความปลอดภัยในการใช้ยานพาหนะ อาทิ มูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ สำนักสวัสดิภาพ กรมการขนส่งทางบก ฯลฯ ในหัวข้อ “ความปลอดภัยด้านการขนส่งของกองทัพเรือ” และการบรรยายจากกรมแพทย์ทหารเรือ ในหัวข้อ 'การควบคุมสภาวะทางอารมณ์' โดยมีข้าราชการ พลขับรถ นายท้าย เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการโรงงาน รวมทั้งหน่วยวิทยาการ สายขนส่ง ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล เข้ารับฟังการเสวนา และการจัดนิทรรศการความปลอดภัยด้านการขนส่งต่าง ๆ

‘คอลัมนิสต์ดัง’ ชี้ทางออกถ้าถูกสหรัฐฯแซงก์ชันกรณี ‘พอล แชมเบอร์ส’ แนะตามรอยรัสเซีย ‘พึ่งพาจีน – มุ่งสู่ BRICS - หันหามิตรนอกตะวันตก’

เมื่อวันที่ (30 เม.ย. 68) นายนิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย คอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีการดำเนินคดีกับ ดร. พอล แชมเบอร์ส เกี่ยวกับมาตรา 112 ว่า ...

ถาม อาจารย์หมูครับ การจับ ดร.พอล แชมเบอร์ส จะถูกนำเข้าไปในสภาคองเกรสไหมครับ เราจะโดนแซงก์ชันไหมครับ ถ้าโดนแล้วจะเป็นยังไง?

ก่อนตอบคำถาม ผมขอบอกก่อนครับว่า พ่อสอนผมกราบพื้น 5 ครั้งทุกวัน กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ครูอาจารย์ และเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์ 

ผมเป็นบุคคลที่ถวายความเชื่อมั่นในพระบารมีแห่งพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ รวมทั้งพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

คุณจะได้ทราบว่า จิตใจและสิ่งที่อยู่ใต้ความคิดของผมว่าเป็นอย่างไร

เอาละที่นี้มาดูคำตอบ…
ผมคิดว่าเรื่อง ดร. แชมเบอร์ส ไม่น่าจะแรงขนาดเข้าสภาคองเกรส ไม่มั่นใจว่าจะไปไกลถึงขนาดนั้น 

ยกเว้น สหรัฐฯ จะบ้าพิจารณาว่า ดร.แชมเบอร์ส เป็น 1.นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน หรือ 2.มีสถานะทางด้านความมั่นคง

ถ้าพิจารณาแบบอยากหาเรื่อง ก็อาจจะมีคนเอาเข้าสภาคองเกรส สหรัฐฯ และอาจออกมาตรการแซงก์ชันไทย

ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยนั้น
ขึ้นอยู่กับการแซงก์ชันว่าอยู่ระดับใด

ถ้าเป็น Targeted Sanctions หรือแซงก์ชันแบบจำกัดบุคคล กระทบน้อย แต่ส่งสัญญาณทางการเมืองแรง อาจจะมีการแช่แข็งทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ไทยบางรายในสหรัฐฯ จำกัดการเดินทางหรือห้ามเข้าสหรัฐฯ ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผลต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมยังจำกัด แต่จะกระทบภาพลักษณ์ไทยในสายตาตะวันตกมากกว่า นักลงทุนบางกลุ่มอาจชะลอการลงทุน

แย่ขึ้นมานิดก็เป็น Secondary Sanctions คือเป็นแซงก์ชันทางการค้าและการเงินระดับกลาง อันนี้นี่แหละครับ ที่อาจจะเริ่มกระทบเศรษฐกิจจริงจัง อาจมีผลต่อสถาบันการเงินของไทย ธุรกิจส่งออกที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ อาจถูกตรวจสอบเข้มงวดหรือชะลอ ความกังวลของนักลงทุนจะกระทบตลาดหุ้นไทย เงินบาทอาจอ่อนค่าชั่วคราว 

แต่ถ้าสหรัฐฯ สติแตกมากๆ ก็อาจจะออก Comprehensive Sanctions ผมหมายถึง แซงก์ชันทางเศรษฐกิจแบบกว้าง สิ่งที่จะค่อยๆ ตามมาคือ สิทธิพิเศษทางภาษี หรือ GSP ที่สหรัฐฯ ยังให้เราบางส่วนอาจจะถูกระงับ ถ้าโดนแรงแบบที่รัสเซียโดน สหรัฐฯ อาจจะบล็อกการเข้าถึงระบบการเงินสหรัฐ เช่น SWIFT หรือการโอนเงินดอลลาร์ เราส่งสินค้าไปขายที่สหรัฐฯ ประมาณร้อยละ 15 อันนี้อาจจะส่งไปขายไม่ได้ กระทบต่อ FDI การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และตลาดหุ้น ที่ตามมาก็คือ พวกคอหอยลูกกระเดือกของสหรัฐฯ อย่างสหภาพยุโรป อาจจะเล่นงานไทยตามสหรัฐฯ ความสัมพันธ์กรอบการค้าเสรีอย่าง CPTPP หรือ IPEF อาจถูกทบทวน

ท่านจะพบว่า…

ตั้งแต่ ค.ศ.2014-2025 รัสเซียโดนแซงก์ชั่นแรงทั้ง  Targeted Sanctions, Secondary Sanctions และ Comprehensive Sanctions รัสเซียแก้ไขโดย…
1.พึ่งพาจีนมากขึ้น
2.ทุ่มเทกับ BRICS
3.หันไปหาพันธมิตรนอกตะวันตก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top