Friday, 27 June 2025
NEWS FEED

ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ต้อนรับคณะเจ้ากรมข่าวทหารเรือ พร้อมด้วยคณะผู้ช่วยทูตทหาร 15 ประเทศ ในโอกาสเยี่ยมชมหน่วยเพื่อสร้างการรับรู้การบริหารจัดการในการฝึกทหารกองประจำการ

เมื่อวานนี้ (29 เม.ย.68) น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) ต้อนรับ พล.ร.ท.พิบูลย์ พีรชัยเดโช เจ้ากรมข่าวทหารเรือ และคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ/กรุงเทพฯ ที่มีถิ่นพำนักในต่างประเทศ ในการเข้าเยี่ยมชมหน่วย ณ ศูนย์การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี

กรมข่าวทหารเรือ กำหนดจัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือกับผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศฯ ประจำปีงบประมาณ 2568 (MAC-T Tour 2025) ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.68 - 1 พ.ค.68 ในพื้นที่ภาคตะวันออก (จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง) โอกาสนี้เพื่อให้การสร้างการรับรู้ภารกิจในการฝึกทหารกองประจำการของกองทัพเรือถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเรืองที่คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศฯ ให้ความสนใจ เจ้ากรมข่าวทหารเรือ จึงได้นำคณะฯ เข้าเยี่ยมชมศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ 

โดยศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เป็นหน่วยงานหลักของกองทัพเรือที่มีภารกิจดำเนินการฝึกอบรม ให้การศึกษา และปกครองบังคับบัญชาทหารกองประจำการ ปีงบประมาณละ 4 ผลัด ผลัดละ 3,000 นาย โดยมีระยะเวลาในการฝึกอบรม 8 สัปดาห์ต่อผลัด เพื่อเปลี่ยนแปลงทหารใหม่จากพลเรือนให้มีลักษณะทางทหารและฝึกอบรมความรู้ที่สำคัญประกอบด้วย วิชาทหารราบ ตามคู่มือแบบฝึกพระราชทาน โรงเรียนทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (รร.ทม.รอ.), วิชาชีพทหารเรือทั่วไป เช่น การอาวุธ, การผูกเชือก, การตีกระเชียงเรือ และการฝึกป้องกันความเสียหาย เพื่อสร้างความเป็นทหาร ความเป็นชาวเรือ 

นอกจากนี้แล้วยังมีการฝึกอบรมด้านอาชีพเพิ่มเติม เช่น ศูนย์การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตลอดจนการแนะแนวการมีอาชีพจากคณะกรรมการพัฒนาอาชีพกองประจำการ กองทัพเรือ เพื่อเป็นแนวทางในการอบรมอาชีพที่ทหารใหม่สนใจก่อนปลดประจำการต่อไป

การเยี่ยมชมครั้งนี้เป็นไปตาม นโยบาย ผบ.ทร.ประจำปี งป.68 นโยบายหลัก ด้านยุทธการและการฝึก เสริมสร้างความร่วมมือและริเริ่มการสร้างกลไกการประสานงานร่วมกัน ระหว่าง กองทัพเรือและหน่วยงานความมั่นคงทางทะเล และ ภาคเอกชน/On Tuesday 29 April 2025, Capt. Tiwa Onlaor, Commanding Officer, Recruit Training Centre, Naval Education Department, greeted Vice Adm. Pibul Peerachaidecho, Director General, Naval Intelligence Department, and Defence Attaches who reside aboard in an occasion of an official visit at the New Theory Learning Centre, Recruit Training Centre, Naval Education Department, Sub District of Bangsarey, District of Sattahip, Chonburi Province.

Naval Intelligence Department hosted a relationship-enhancing activity between the Royal Thai Navy and International Defence Attaches 2025 (MAC-T Tour 2025). The activity will take place during 29 April 2025-1 May 2025 in the eastern part of Thailand (provinces of Chonburi and Rayong). The tour aims to enhance International Defence Attaches’ understanding of Royal Thai Navy Recruit Trainings. Royal Thai Navy Recruit Training Program is considered as one of the various interesting topics in International Defence Attaches’ attention. Thus, the Director General of Naval Intelligence led the International Defence Attaches in this official visit to Recruit Training Centre, Naval Education Department.

The Recruit Training Center, Naval Education Naval Department, is the main institution that is responsible for training, instructing, and administering enlisted soldiers each fiscal year. The Royal Thai Navy receives approximately 12,000 recruits yearly, through 4 intakes of 3,000 each. Recruits will go through an 8-week course which aims to transform them into sailors. The recruits training course encompasses a number of subjects  which includes basic infantry instruction as outlined by the King’s Royal Guard School, and basic naval training such as weapons, knot tying, boat safety and rescue, and damage control trainings. Moreover, the center also provides recruits with multiple apprenticeship training and guidance courses like the Agricultural Learning Center and the Navy’s Board of Apprenticeship Development, which are designed to help recruits find work after completing their national service.

The tour is in accordance with the principal policy of the Commander-in-Chief, Royal Thai Navy 2025 in an aspect of operations and trainings. The policy aims to enhance cooperation and initiate building collaboration mechanism among the Royal Thai Navy, Maritime Security Agencies, and Private Sector

'อดีตข้าราชการ กต.' เผยเหตุ 'ในหลวง-พระราชินี' ทรงขับเครื่องบินเยือน ‘ภูฏาน’ ด้วยพระองค์เอง

(29 เม.ย. 68) นายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล อดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ผลิตสารคดีเทิดพระเกียรติ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก "Boonpachakasem Sermwatanarkul" ระบุว่า Why not? คำถามซ่อนความนัย ทำไมถึงต้องทรงขับเครื่องบินด้วยพระองค์เองล่ะ?

ทำไมไม่ให้นักบินประจำเครื่องบินพระที่นั่งขับเครื่องบินถวายเพื่อพระองค์ท่านจะได้พักพระวรกายก่อนทรงงานตามหมายเสด็จพระราชดำเนินเต็มทั้งวันและทุกวันในการเสด็จเยือน?

ทำไม ทำไม และทำไม ที่ไม่อาจนำคำถามสารพันและสารเลวมาโพสให้ย่ำยีหัวใจคนไทยที่กำลังเปี่ยมสุขและเต็มปิติในการเสด็จเยือนต่างประเทศเป็นทางการ หรือ State Visit เป็นครั้งแรกแห่งรัชสมัยที่ 10

ก่อนจะตอบตามความเข้าใจของข้าพเจ้าที่เฝ้าติดตามอ่าน รับฟังและรับชมข่าวพระราชสำนักผ่านหนังสือพิมพ์ ฟังประกาศทางวิทยุทรานซิสเตอร์ ผ่านหน้าจอทีวีขาวดำเลยจนมาเป็นทีวีสี ผ่านสื่อมวลชนทั้งหมดเหล่านี้คือรวมเวลาประสบการณ์ในการเป็นผู้รับข่าวสารราชสำนักมามากกว่า #ครึ่งศตวรรษ แล้วยิ่งได้ใช้เวลาร่ำเรียนฝึกปรืองานพิธีทางการทูตไทย #เกือบ2ทศวรรษ กับการทำงานในกระทรวงการต่างประเทศ และ #กว่า1ทศวรรษ ในการตระเวนตะลุยเกือบทุกจังหวัดในทุกภูมิภาคและคนไทยในต่างประเทศเพื่อถ่ายทำถ่ายทอดหัวใจคนไทยทุกหมู่เหล่าผ่านสารคดีเฉลิมพระเกียรติ เพื่อจะแสดงยืนยันถึง #สัญญะของการตั้งใจมุ่งมั่น หรือ #มีเจตนาอย่างแน่วแน่ ที่จะมอบสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อแสดงความหมายที่ถ่องแท้ของคำว่า #มิตรภาพอันยิ่งใหญ่ ให้กับใครสักคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่ง

การทรงขับเครื่องบินเพื่อลงจอดหรือขึ้นบินบนสนามบินที่ได้ชื่อว่า เป็น #สนามบินที่หินที่สุดและยากที่สุดอันดับต้นของโลก แค่มีรับสั่งอย่างฉับพลันทันใดแล้วก็ทรงประทับที่นั่งและทรงขับเครื่องบินได้ทันทีกระนั้นหรือ

เปล่าเลย..ไปถามนักบินทุกคนไม่ว่านักบินไทยหรือต่างชาติ การจะบินลงสนามบินที่ภูฏานคงต้องซ้อมบินในห้องนักบินจำลองไม่รู้กี่สิบหรือร้อยชั่วโมงบิน ถึงจะชำนาญและมั่นใจพร้อมจะทำการบินได้จริง

พระองค์ท่านล่ะ..ก็คงต้องทรงงานไม่ต่างจากนักบินคนอื่นๆ คงทรงตระเตรียมเส้นทางการบิน ทรงซ้อมบิน ทรงวางแผนการบินมาอย่างดี ด้วยพระประสงค์ประการเดียว คือ ทรงให้การตั้งพระราชหฤทัยมุ่งมั่นในการบินของพระองค์ครั้งนี้เป็นเสมือน #ของขวัญพิเศษ เป็นประจักษ์หลักฐานแห่งมิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศ ระหว่างทั้งสองพระราชวงศ์และสัมพันธภาพของประชาชนชาวภูฏานและชาวไทย

#สัญญะ คือ #ความตั้งพระทัย ในครั้งนี้ ทุกคนทุกฝ่ายทุกดวงใจประจักษ์ตรงกันเที่ยงแท้แน่นอนว่า ทรงมุ่งมั่น ทรงกล้าหาญ และทรงตั้งพระทัยพระราชทานมอบความกล้าหาญของทั้งสองพระองค์นี้ฝากไว้บนดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัย บนแผ่นดินราชอาณาจักรภูฏานไปจนตราบนานแสนนาน

#ที่เราเห็นอาจเป็นเพียงเสี้ยว
#ที่เราไม่เห็นยังมีอื่นๆอีกมากมาย
#สิ่งสำคัญคือมิตรภาพงดงามตราบนาน

ขอพระราชทานพระราชานุญาต กราบถวายบังคมแทบเบื้องพระยุคลบาทของทั้งสองบดินทร์ เพื่อปักปิ่นมิตรภาพไทยและภูฏานให้แน่นแฟ้น และเพื่อเป็นเช่นปิ่นหทัยบนกลางดวงใจพสกนิกรทั้งสองแผ่นดิน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ข้าพระพุทธเจ้า นายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล (ผู้ร้อยเรียงเรื่องราวแห่งสัญญะอันสง่างาม) 

'มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง' มุ่งสู่จังหวัดที่ 20 ของภาคอีสาน สร้างโอกาส สร้างชีวิต แก่ชาวยโสธร มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี

(29 เม..ย.68) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ และนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดยโสธร (จังหวัดที่ 20 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน  จำนวน 31 ครัวเรือน และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวยโสธรในครั้งนี้ทั้งสิ้น 802,240 บาท (แปดแสนสองพันสองร้อยสี่สิบบาทถ้วน) 

นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ผู้แทนอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อดีตอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิรวมสามัคคียโสธร เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี พร้อมด้วย อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายนพดล ทรงแสง (จิ้ม ชวนชื่น) นายสวิช เพชรวิเศษศิริ (บี๋) ร่วมในพิธี และสร้างสีสันภายในงาน โดยมี ประชาชน เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ หอประชุมจังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยในกลุ่มเป้าหมายแรกดำเนินการในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ต่อมา ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะได้พิจารณาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร ศรีสะเกษ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ สกลนคร เลย หนองคาย และ นครพนม

ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

‘อ.เจษฎ์’ ยังข้องใจปม ‘สี จิ้นผิง’ เมินเยือนไทย หลัง ‘สถานทูตจีน’ แจงแค่ประเทศอื่นสำคัญกับจีน

จากกรณีที่ ประธานาธิบดีจีน ‘สี จิ้นผิง’ เดินทางเยือน 3 ประเทศในอาเซียน ประกอบด้วย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา โดยไม่แวะประเทศไทย เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ล่าสุด ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ยังข้องใจเหตุใดผู้นำจีน จึงไม่มาเยือนไทย หลังได้อ่านคำอธิบายจาก ‘สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย’ โดยระบุว่า อ่านจนจบ ก็ไม่เห็นมีคำอธิบายเลยว่า ทำไมถึงไม่มาเยือนไทย (มีแต่อธิบายว่าทำไมไปประเทศอื่น ๆ สำคัญกับจีนมากอย่างไร)

สถานทูตจีนย้ำ!! จีน-ไทย มิตรภาพยั่งยืน พร้อมหนุนสินค้าไทยบุกตลาดใหญ่จีน

(29 เม.ย. 68) เมื่อเร็ว ๆ นี้ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการเยือนเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชาอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในปีนี้ โดยเน้นแนวคิดการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างจีนกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเยือนครั้งนี้สร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่น จีนและเวียดนามตกลงเร่งสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเชิงยุทธศาสตร์ พร้อมเริ่มต้นความร่วมมือทางรถไฟจีน-เวียดนาม ด้านมาเลเซียและกัมพูชายกระดับความสัมพันธ์สู่ประชาคมเชิงยุทธศาสตร์ โดยลงนามข้อตกลงสำคัญหลายฉบับ ส่งเสริมความร่วมมือเชิงลึกทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง

ในบริบทของความตึงเครียดทางการค้าจากนโยบายกีดกันของสหรัฐฯ การเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเน้นย้ำความร่วมมือพหุภาคี การเปิดกว้าง และการไม่แบ่งแยก พร้อมเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน โดยจีนพร้อมเปิดตลาดขนาดใหญ่เพื่อต้อนรับสินค้าคุณภาพจากภูมิภาคนี้

ผู้นำทั้งสามประเทศ ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ต่างแสดงการสนับสนุนข้อเสนอของจีนในการปกป้องระบบการค้าเสรีและร่วมกันต่อต้านลัทธิฝ่ายเดียว พร้อมยืนยันการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับจีนเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค

ด้านความร่วมมือเศรษฐกิจ จีนมุ่งกระชับการค้าทวิภาคีและการลงทุนกับทั้งสามประเทศ ส่งเสริมการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ อาทิ โครงการรถไฟจีน-เวียดนามและระเบียงพัฒนาอุตสาหกรรมในกัมพูชา

โฆษกฯ ระบุว่า ความสำเร็จในการเยือนครั้งนี้มีนัยสำคัญต่อความสัมพันธ์จีน-ไทย ซึ่งมีพื้นฐานที่แน่นแฟ้นและลึกซึ้ง จีนพร้อมร่วมมือกับไทยในการปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน ร่วมรับมือกับความท้าทายระหว่างประเทศ และส่งเสริมการค้าเสรีที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน

จีนยืนยันความมุ่งมั่นที่จะเปิดประเทศกว้างยิ่งขึ้น แบ่งปันโอกาสการพัฒนากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะไทย ซึ่งจีนพร้อมสนับสนุนการนำเข้าสินค้าไทยคุณภาพดี และสานต่อความสัมพันธ์ “จีน-ไทยพี่น้องกัน” เพื่อก้าวสู่อนาคตร่วมกันที่สดใสยิ่งขึ้น

รอง ผบ.ตร. ประชุมคณะกรรมการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา และกรณีเครื่องบินตก เพื่อติดตามเร่งรัดเรื่องสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ 

(28 เม.ย. 68) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา และกรณีเครื่องบินตก ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามเร่งรัดเรื่องการขอรับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ อันเป็นการติดตามช่วยเหลือดูแลข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ตลอดจนบำรุงและเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจที่ได้อุทิศตนเสียสละในการปฎิบัติหน้าที่ ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ด้านสวัสดิการ ที่ให้มีการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ข้าราชการตำรวจพึงได้รับให้มากที่สุด

ในการประชุมมี พล.ต.ท.สมพร สัจพจน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ รอง ผบช.สกพ., พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช รอง ผบช.สกพ., พล.ต.ต.บริสุทธิ์ นุศรีวอ ผบก.ทพ., พล.ต.ต.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผบก.สก., พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.บ.ตร., และ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) โดยมี พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ รอง ผบช.7, พล.ต.ต.ธเนศ แก้วละเอียด รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด, พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง, พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา, พล.ต.ต.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผบก.อก.ผบช.น. ร่วมประชุม

พล.ต.อ.กรไชยฯ ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและสำรวจข้อมูลข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต หรือ บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมเร่งรัดดำเนินการเสนอเรื่องขอรับสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ หรือสิทธิบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดโดยเร็ว พร้อมสำรวจข้อมูลข้าราชการตำรวจที่พิการ หรือทุพพลภาพ หรือไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งกรณีที่เกิดขึ้นเนื่องจากการปฎิบัติหน้าที่ หรือเหตุใดๆ ก็ตาม ให้ครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน

นอกจากนี้ กำชับหน่วยที่เกี่ยวข้องดูแลการดำเนินการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพแก่ข้าราชการตำรวจ กองบินตำรวจ ทั้ง 6 นาย จากเหตุเครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม ในพื้นที่ทะเล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมเกียรติแก่ผู้วายชนม์และครอบครัว

พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้มีการจัดทำคู่มือการเสนอขอรับสิทธิแจกจ่ายให้หน่วย เพื่อนำไปเป็นแนวทางการเร่งรัดการดำเนินการปูนบำเหน็จความชอบให้แก่ข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ สร้างกลไกการรายงานเหตุ และหนังสือแจ้งสิทธิประโยชน์เบื้องต้นให้หน่วยต้นสังกัด ตลอดจนการลดขั้นตอนและกำหนดแนวทางเพิ่มเติมในส่วนของกระบวนการพิจารณาและบรรจุทายาท เพื่อให้สามารถดำเนินการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว สมบูรณ์

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.ต.อ.กรไชยฯ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์อากาศยาน กองบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม ในพื้นที่ทะเล อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ โดยทราบจากรายงานว่านักบินพยายามบังคับเครื่องไม่ให้ตกในชุมชน นับว่าเป็นความเสียสละ กล้าหาญและมีจิตวิญญาณของความเป็นตำรวจ ที่จะต้องนึกถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก จึงขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของข้าราชการตำรวจ พร้อมนำผู้ร่วมประชุมยืนไว้อาลัยในเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเวลา 1 นาที

เซี่ยงไฮ้ครองใจนักท่องเที่ยวไทย ไตรมาสแรกปี 68 ทะลุ 1 แสนคน โตพรวด 242.8% ดันขึ้นอันดับ 3 นักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด

(28 เม.ย. 68) สำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเมืองเซี่ยงไฮ้เผยว่า ในไตรมาสแรกของปี 2568 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปยังเซี่ยงไฮ้ถึง 109,000 คน เพิ่มขึ้นถึง 242.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโตเร็วที่สุด และติดอันดับ 3 รองจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่น สะท้อนเสน่ห์ของเซี่ยงไฮ้ที่ยังคงดึงดูดใจชาวไทยได้อย่างต่อเนื่อง

โดยรวมแล้ว เซี่ยงไฮ้มีนักท่องเที่ยวขาเข้ารวมกว่า 1.74 ล้านคนในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 37.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติเกือบ 1.26 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 61.9% ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการเติบโต ได้แก่ นโยบายฟรีวีซ่า ระบบชำระเงินที่สะดวก การสื่อสารภาษาต่างประเทศที่ง่ายขึ้น และการคมนาคมที่เป็นมิตร

สำหรับ 3 อันดับประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเยือนเซี่ยงไฮ้มากที่สุดในช่วงต้นปี ได้แก่ เกาหลีใต้กว่า 200,000 คน (เพิ่มขึ้น 142.4%) ญี่ปุ่น 142,000 คน (เพิ่มขึ้น 60%) และไทย 109,000 คน (เพิ่มขึ้น 242.8%) ขณะที่มาเลเซียตามมาในอันดับ 4 ด้วย 85,000 คน นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ รัสเซีย และออสเตรเลียก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน

ความสำเร็จนี้ตอกย้ำบทบาทของเซี่ยงไฮ้ในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งยังคงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายตลาดในภูมิภาคและเสริมสร้างความเชื่อมโยงกับนักเดินทางทั่วโลก

‘ภูมิกิตติ์ - เอมาอร’ แชมป์สวิง “บางจาก แชมเปี้ยนชิพ 2025” คว้าตั๋วลุยญี่ปุ่นรายการ “Yonex Junior Golf Championship”

(28 เม.ย. 68) นายดาว์ปกรณ์ รัตนสุวรรณ ประธานจัดการแข่งขัน “ช้าง-เจ็นซ์ กอล์ฟ ทัวร์” มอบรางวัลและร่วมแสดงความยินดีกับ ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ และเอมาอร มณีฤทธิ์ นักกอล์ฟเยาวชนที่คว้าแชมป์รุ่น Super GENZ พร้อมคว้าตั๋วแข่งที่ญี่ปุ่น ในการแข่งขันรายการ “บางจาก แชมเปี้ยนชิพ 2025” ที่สนามกบินทร์บุรี สปอร์ต คลับ จ.ปราจีนบุรี  เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา

“บริษัท เดอะ เจ็นซ์ จำกัด”  ร่วมกับ “บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” จัดแมทช์แข่งกอล์ฟเยาวชน “บางจาก แชมเปี้ยนชิพ 2025” ทำการแข่งขัน 3 วัน (54 หลุม) แข่งขันระหว่างวันที่ 18-20 เมษายน 2568 ที่สนามกบินทร์บุรี สปอร์ต คลับ จ.ปราจีนบุรี  รายการนี้เป็นรายการที่รับรองโดย WAGR (World Amateur Golf Ranking) เก็บคะแนนสะสมเพื่อจัดอันดับนักกอล์ฟเยาวชนโลก และเก็บคะแนนสะสมของ JGS (Junior Golf Scoreboard)  โดยในสนามนี้จะทำการคัดเลือก นักกอล์ฟเยาวชนที่ทำสกอร์ดีที่สุด (Best Score) จากรุ่น Super Genz (15-18 ปี) และ Junior Genz (11-14 ปี) ชาย 1 คน และหญิง 1 คน ที่จะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันกอล์ฟที่ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ Yonex Junior Golf Championship 2025

หลังจากการแข่งขันในรอบสุดท้ายจบลง ผลปรากฏว่า ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ ในรุ่น Super GENZ (ชาย) แชมป์เก่าสนามนี้ในปีที่แล้ว ในรอบสุดท้ายฟอร์มยังคงร้อนแรง กดเพิ่มอีก 7 อันเดอร์ จบสามวันที่ 12 อันเดอร์พาร์  ส่วนในรุ่น Super GENZ (หญิง) รอบสุดท้ายเบียดกันมาแบบสูสี สู้กันสนุกจบหลุม 18 สกอร์รวมเท่ากันที่ 3 อันเดอร์พาร์ 213 ถึง 3 คน คือ วิชญาดา แรมเมือง, จิรัชยา ปรีชาสุชาติ  และเอมาอร มณีฤทธิ์ ต้องตัดสินกันด้วยการเพลย์ออฟถึง 3 รอบ โดยการเพลย์ออฟรอบสุดท้ายที่หลุม 12 พาร์ 5 เป็น เอมาอร มณีฤทธิ์ ตีช็อต 2 ลงหลุมไป ได้อีเกิ้ล คว้าแชมป์รุ่นนี้ไปครอง พร้อมคว้าตั๋วแข่งญี่ปุ่น ในรายการ Yonex Junior Golf Championship 2025

รายการต่อไปเป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมรายการที่ 3 “บางจาก มาเตอร์ส 2025” ซึ่งเป็นรายการที่เก็บคะแนนสะสมของ Junior Golf Scoreboard (JGS) แข่งขันระหว่างวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2568 สนามปัตตาเวีย เซ็นจูรี่ กอล์ฟ คลับ จ.ชลบุรี สำหรับผู้ปกครองและนักกอล์ฟที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Official Line : @genzgolf  หรือโทร. 065 696 2229

ทุนเรียน ตปท. ระยะสั้น ‘ODOS Summer camp’ หนุนเด็กไทย ‘1 อำเภอ 1 ทุน’ มุ่งสู่การเรียนรู้ต่างประเทศ ฟรี!

(28 เม.ย. 68) โอกาสดี ๆ ของนักเรียน นักศึกษาไทยเรา ที่อายุไม่เกิน 19 ปี สัญชาติไทย
กับโครงการทุนการศึกษาระยะสั้นในต่างประเทศช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2568
โดยทุนนี้จะได้รับอำเภอละ 1 ทุน (คน)
น้อง ๆ ที่สนใจสามารถสมัครผ่านแอปทางรัฐด้วยตนเอง จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นี้

โครงการทุนการศึกษา “หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน”
โครงการทุนการศึกษา 1 อำเภอ 1 ทุน (One District One Scholarship : ODOS) เป็นโครงการริเริ่มโดยรัฐบาลไทย มีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนไทยจาก ทุกอำเภอทั่วประเทศ รวมถึง 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ได้มีโอกาสไปศึกษาต่อในต่างประเทศ โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้สามารถนำ ความรู้และประสบการณ์กลับมาพัฒนาชาติอย่างยั่งยืน

ODOS Summer Camp คือกิจกรรมพิเศษที่เปิดรับเยาวชนไทยจากทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น
นักเรียนระดับมัธยมศึกษา
นักศึกษาระดับอาชีวศึกษา
นิสิต/นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
รวมทั้งสิ้น 928 คนต่อปี จาก 878 อำเภอ และ 50 เขตในกรุงเทพฯ
ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพในหลากหลายด้านกับ มหาวิทยาลัยชั้นนำ ของประเทศ เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์

สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
ทุนการศึกษาครอบคลุม ค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่าครองชีพ และค่าเดินทาง ตลอดระยะเวลาศึกษาในต่างประเทศ
ไม่มี ค่าใช้จ่ายในการสมัคร เข้าร่วมโครงการ
ได้รับการสนับสนุนด้านการเตรียมความพร้อม ทั้งภาษา ทักษะดิจิทัล และกิจกรรมพัฒนา Soft Skills
โอกาสในการเข้าร่วม เครือข่ายเยาวชนคุณภาพระดับประเทศ
มีระบบ ติดตามผลและให้คำปรึกษา ตลอดเส้นทางการศึกษา

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://odos.thaigov.go.th/
https://www.gcc.go.th/2025/04/11/odos-summer-camp-2025/

‘ธีระชัย’ ชี้การกู้เงิน 5 แสนล้านเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ยั่งยืน เตือนรัฐบาลหยุดแจกเงินหมื่นเฟส 3 หันปรับโครงสร้างเศรษฐกิจระยะยาว

(28 เม.ย. 68) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตือนรัฐบาลเกี่ยวกับแผนการกู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่อ้างว่าเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจจากการหั่นคาดการณ์จีดีพีของไทยโดย IMF โดยเตือนว่าการกู้เงินครั้งนี้จะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจาก 64.21% ของจีดีพี ไปอีกประมาณ 3% ซึ่งจะสร้างภาระให้กับประชาชนที่ต้องรับผิดชอบหนี้สาธารณะจำนวนมาก

นายธีระชัยกล่าวว่า หนี้ที่รัฐบาลกู้ไปก่อนหน้านี้ทำให้แต่ละคนต้องแบกรับภาระกว่า 160,000 บาทแล้ว จึงแนะนำให้ประชาชนคัดค้านการกู้เงินเพิ่มถ้าหากไม่สามารถสร้างผลประโยชน์ที่แท้จริงได้ โดยแนะนำให้รัฐบาลหยุดแจกเงินหมื่นเฟส 3 และเริ่มเก็บกระสุนการคลังเพื่อใช้ในยามจำเป็น เนื่องจากสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน

พร้อมเสนอว่า รัฐบาลควรลดการกู้เงินเพื่อแจกอุดหนุนอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชั่วคราวและไม่มีผลต่อการเพิ่มรายได้ในอนาคต รวมทั้งแนะนำให้รัฐบาลเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพของประเทศในระยะยาว โดยเน้นการพัฒนาการศึกษาและทักษะของแรงงาน

สุดท้าย นายธีระชัยแนะนำให้รัฐบาลยกเลิกการแจกเงินหมื่นเฟส 3 และให้ความสำคัญในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เพื่อเตรียมรับมือกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งระบุว่าประชาชนควรจับตาดูการกระทำของรัฐบาลในช่วงวิกฤตนี้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศหรือไม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top