Sunday, 11 May 2025
NEWS FEED

จเรตำรวจแห่งชาติประชุมผู้แทนทูตนานาประเทศ ขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ 

(26 มี.ค.68) เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการ ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศปอส.ตร./ผอ.ศตคม.ตร.) เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ (International Coordination Center for the Anti-Cyber Crime and Human Trafficking Task Force) โดยมีผู้แทนผู้ช่วยทูตตำรวจ และนายตำรวจประสานงานจากนานาชาติที่ประจำอยู่ในประเทศไทย จาก 14 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บังกลาเทศ แทนซาเนีย อิตาลี เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ลาว เคนยา จีน อินเดีย รัสเซีย มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้าร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

การประชุมครั้งนี้เพื่อติดตามภาพรวมสถานการณ์ กำหนดช่องทางการประสานงานในการป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ตลอดจนติดตามขยายผลการสืบสวนสอบสวนจากนานาชาติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยหารือในเรื่องกลไกการดำเนินงานร่วมกัน การทบทวนและปรับปรุงกลไกการส่งตัวผู้กระทำความผิดกลับประเทศให้เหมาะสม โดยเน้นที่การต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์และการค้ามนุษย์ การแบ่งปันข้อมูล และการวางแผนเชิงกลยุทธ์

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไทยมีการยกระดับมาตรการเข้มงวดชายแดนไทย-ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันมิจฉาชีพใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่านเข้า-ออกประเทศเพื่อนบ้าน ไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือจากสถานทูตประเทศต่าง ๆ ในการแจ้งประกาศคำเตือนจากรัฐบาลไทย รวมถึงให้บริการล่ามเมื่อได้รับการร้องขอ ที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือการประสานข้อมูลผลจากการสอบสวนผู้ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ เพื่อประโยชน์ในการคัดแยกเหยื่อและผู้กระทำความผิด รวมทั้งการแบ่งปันข้อมูลจากประเทศต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจหลบหนีกบดานในไทย และหากมีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขอให้ประสานข้อมูลให้ทราบ เพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะทำการสอบสวนและดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2568

(26 มี.ค. 68) ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2568 ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตในประเด็นที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงนั้น พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า การออกพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ที่มีผลใช้บังคับแทนพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่ใช้มาก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งฉบับใหม่ ยังคงหลักการและอัตราเงินประจำตำแหน่งไว้เช่นเดิม ไม่มีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนแต่อย่างใด โดยมีเพียงการแก้ไขรายละเอียดให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมายตำรวจฉบับใหม่ เช่น การปรับชื่อตำแหน่งให้ตรงตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย การเพิ่มสายงานวิชาชีพด้านสาธารณสุขให้ครอบคลุมวิชาชีพเฉพาะด้าน เช่น กายอุปกรณ์ แพทย์แผนไทย เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ตลอดจนการปรับลักษณะงานของตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญให้สอดคล้องกับการจัดกลุ่มสายงานในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดสิทธิในการได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทบริหารให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งในสถาบันการศึกษาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จัดการศึกษาระดับปริญญา โดยไม่ตัดสิทธิการได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เช่นเดียวกับที่ใช้กับข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาและข้าราชการทหาร

การออกพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้จึงมิใช่การปรับเพิ่มเงินประจำตำแหน่งให้แก่ผู้บริหารระดับสูงตามที่บางกระแสเข้าใจ แต่เป็นการออกกฎหมายลำดับรองเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้

พล.ต.ท.อาชยน ฯ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับปฏิบัติการอย่างแท้จริง และมีนโยบายในการดูแลสวัสดิการของตำรวจทุกระดับ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและความเป็นธรรมเป็นหลัก พร้อมกล่าวย้ำว่า “สำนักงานตำรวจแห่งชาติมุ่งมั่นในการบริหารงานอย่างโปร่งใส และพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การทำงานของตำรวจตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชนได้อย่างดีที่สุด”

‘ติ๊ก ชีโร่’ ประกาศขายที่ดินทำเลดีใกล้ห้างดังเมืองโคราช หวังนำเงินมาเชื่อมต่อในส่วนวิกฤติของชีวิต

(25 มี.ค. 68) ‘ติ๊ก ชีโร่’ เดินหน้าฝ่าวิกฤติชีวิต หลังต้องหาเงินจ่ายคู่กรณีคดีรถชน ล่าสุดประกาศขายที่ดินใกล้ห้างดังในโคราช 

หลังจากเกิดการแชร์กันสนั่นโซเชียล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กรณี ‘ติ๊ก ชีโร่’ ศิลปินชื่อดัง ได้โพสต์รูปภาพปืน พร้อมระบุแคปชั่นว่า "โปรดติดตาม…ตอนต่อไป ว่าใจ จะไปได้ไกลแค่ไหน ภายในไม่กี่วันนี้ มีคำตอบให้ครับ ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณที่สนับสนุนครับ" จนหลายคนต่างเป็นห่วง

กระทั่งเมื่อวานนี้ได้ออกมาโพสต์ภาพยกมือไหว้ต่อหน้าพระ พร้อมระบุข้อความขอโทษทุกคนที่ทำให้เป็นห่วง "ผมยังเข้มแข็งอยู่นะครับ และยังเดินหน้าต่อไปเพื่อจัดการกับชีวิต ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง ขอโทษที่ทำให้ตกใจ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นะครับ"

ล่าสุด ติ๊ก ชีโร่ ได้ออกมาเคลื่อนไหว โพสต์ขายที่ดินทำเลดีในตัวเมืองโคราช โดยระบุว่า 
"สวัสดีครับทุกๆท่านผมได้เดินทางไปโคราชในซอย 30 กันยาแยก 18 ตรงกันข้ามกับสนามกีฬากลางใกล้ ห้างเซ็นทรัล Central ใกล้ Mega home ติดกับ วิทยาลัย ชพน. (ซอยนี้เรียกว่าซอยบ้านเช่า) ผมต้องการขายที่ตรงนี้ พื้นที่ 194 ตารางวา เพื่อที่จะนำเงินมาเชื่อมต่อในส่วนวิกฤติของชีวิตใครสนใจอยากได้ ผมยินดีขายให้ขอบคุณมากๆนะครับ"

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ร่วมกิจกรรมจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ เนื่องในวันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ 

(25 มี.ค.68) รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ มอบหมายให้ น.อ.หญิง ปภัสร์พิมพ์ ชังเทศ หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศและเวชระเบียนฯ ผู้แทน ผอ.รพ.ฯ พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสา เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ เนื่องในวันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า (วันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี)

โดยร่วมกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาด และปรับปรุงภูมิทัศน์ ณ โดม 62 เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 

ตร.ร่วมภาคี แถลงผลการส่งคลิปกล้องหน้ารถ โครงการ “อาสาตาจราจร” เผยศาลลงโทษหนักคดีชนคนบนทางม้าลาย 

(25 มี.ค. 68) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา 
ผู้ช่วย ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์  ผู้บัญชาการศึกษา/หัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร  พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ แจ้งอริยวงศ์ รอง ผบช.สยศ.ตร. พล.ต.ต.สหัสสชัย  โลจายะ ผบก.ผค. พ.ต.อ.ฐิรวิทย์ บุษบัน รอง ผบก.จร. และ พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล. พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ คุณ กานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน) สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการขับเคลื่อนโครงการ อาสาตาจราจร ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 4โดยยังคงมอบเงินรางวัลให้กับเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี หรือเป็นคลิปที่เป็นอุทาหรณ์สำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนเกิดการตระหนักรู้ในการขับขี่ตามกฎจราจร โดยงานวันนี้ มีการมอบรางวัล ให้กับคลิปที่ได้รับการคัดเลือก ประจำเดือน ธ.ค.67 และ ม.ค.68 รวม 20 รางวัล เป็นเงินทั้งสิ้น จำนวนทั้งสิ้น 100,000 บาท  โดยบริษัท วิริยะประกันภัย เป็นผู้สนับสนุน

พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า คลิปจากประชาชนถือเป็นหลักฐานสำคัญในการติดตามผู้กระทำผิด รวมถึงสามารถนำไปใช้เป็นพยานในชั้นศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่มีคลิปเหล่านี้ การจะชี้ว่าฝ่ายไหนเป็นผู้ทำผิดกฎจราจรอาจจะพิสูจน์ลำบาก แต่คลิปที่ประชาชนส่งมาทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าผู้ใดเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร เช่น คลิปจักรยานยนต์ที่เฉี่ยวชนคนเดินข้ามถนน บริเวณโรงพยาบาลสถาบันโรคไต ภูมิราชนครินทร์ ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุและนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานให้กับทาง สน.พญาไท ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ ฟ้องศาลในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยศาลวางข้อกำหนดให้ชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 240,500 บาท  หรือคลิปจักรยานยนต์ฝ่าฝืนมาขับขี่ในช่องทางด่วนบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เฉี่ยวชนกับรถยนต์ที่แซงช่องทางด้านซ้ายโดยผิดกฎหมาย  ซึ่งคลิปนี้เป็นตัวอย่างของการฝ่าฝืนกฎจราจรทั้งสองฝ่ายจนเกิดอุบัติเหตุ  
สำหรับโครงการนี้มุ่งหวังให้ประชาชนช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัย สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งคลิปมายังช่องทาง เพจอาสาตาจราจร เพจตำรวจทางหลวง เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ได้แก่เพจมูลนิธิเมาไม่ขับ, สวพ.91 และ จส.100  คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจผ่านการคัดเลือก นอกจากได้รับเงินรางวัลแล้วยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน

ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันนอกจากการบังคับใช้กฎหมายแล้ว มาตรการ Social Sanction เป็นอีกมาตรการหนึ่ง ที่ช่วยสร้างการตระหนักให้ผู้ใช้ทางปฏิบัติตามกฎจราจร เพราะหากฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อไร จะมีตาจราจรคอยบันทึกเหตุการณ์ นอกจากส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว ยังอาจมีคลิปปรากฏในสื่อโซเชียลได้อีก ดังนั้นจะทำให้เกิดความยับยั้งชั่งไม่ทำผิดกฎจราจร และยืนยันพร้อมขับเคลื่อนโครงการนี้ต่อไปเป็นปีที่ 4 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ที่จะช่วยกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน ขอให้ปฏิบัติตามกฎจราจรโดยเคร่งครัด  โดยเฉพาะข้อหาความผิดเน้นหนัก ได้แก่ ดื่มแล้วต้องไม่ขับ รัดเข็มขัด และสวมหมวกนิรภัย ปฏิบัติตาม สัญญาณไฟ และขับรถตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัย บนท้องถนน ร่วมกัน   

การอบรมหลักสูตรอาชีพเพื่อเลื่อนฐานะ ชั้นจ่าเอก พรรคนาวิน เหล่าทหารขนส่ง กรมการขนส่งทหารเรือ

(22 มี.ค. 68) กรมการขนส่งทหารเรือ โดย นาวาเอก เทพกร อินทร ผู้อำนวยการกองวิทยาการกรมการขนส่งทหารเรือ พร้อมคณะครู ได้นำนักเรียนหลักสูตรอาชีพเพื่อเลื่อนฐานะชั้นจ่าเอก พรรคนาวิน เหล่าทหารขนส่ง จำนวน 33 นาย เข้าศึกษาดูงานการผลิตรถยนต์โดยสาร ณ บริษัท อู่เชิดชัยอุตสาหกรรม จำกัด อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

ซึ่งการศึกษาและดูงานนอกหน่วยในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ให้กับผู้เข้ารับการอบรมได้ทราบถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ในสายวิทยาการขนส่ง และได้รับความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตยานยนต์  ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ในด้านงานส่งกำลังบำรุง เพื่อมาประยุกต์ใช้ในสายวิชาชีพต่อไป

#กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ
#เทิดทูนสถาบัน_ป้องกันรัฐ_พัฒนาชาติ_ราษฎร์ศรัทธา
#กรมการขนส่งทหารเรือ

เชียงใหม่-กองบิน 41 จัดพิธีส่งข้าราชการและทหารกองประจำการไปปฏิบัติราชการสนาม

(24 มี.ค. 68) นาวาอากาศเอก ปรธร จีนะวัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน 41 เป็นประธานในพิธีส่งข้าราชการและทหารกองประจำการไปปฏิบัติราชการสนาม พร้อมทั้งให้โอวาทเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลในการเดินทางไปราชการสนาม โดยมีหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองบิน 41 ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ หอประชุมเดชะตุงคะ กองบิน 41
     
ทั้งนี้ ได้มีข้าราชการและทหารกองประจำการในสังกัดกองบิน 41 ที่ไปปฏิบัติราชการสนาม ณ ฝูงบิน 416 (เชียงราย) และสถานีรายงานดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ในวาระ 1 เมษายน 2568 รวมจำนวนทั้งสิ้น 38 คน โดยในพิธี ได้ทำการนิมนต์พระสงฆ์ มาประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการและทหารกองประจำการที่ไปปฏิบัติราชการสนามในครั้งนี้

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนสมาคมแม่บ้านตำรวจ เยี่ยมบำรุงขวัญตำรวจฮีโร่ บาดเจ็บจากการเตะวัตถุระเบิดที่ถูกผู้ไม่หวังดีโยนเข้ามาในกองร้อยควบคุมฝูงชน เพื่อปกป้องประชาชนและเพื่อนตำรวจ

(25 มี.ค.68) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ระดับ ตร./ประธานที่ปรึกษาโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” (ด้านตำรวจทุพพลภาพ) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 , ผศ.ดร.สุเนตร สุวรรณละออง รองประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 รักษาราชการแทนประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 , พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี , พล.ต.ต.ประเสริฐ วิจิตรทัศนา ผู้บังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 2 และคณะแม่บ้านชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมเดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจ ร.ต.อ.ธีระเดช เล็กภู่ รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรแสนสุข ณ บ้านพัก อ.เมือง จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ ร.ต.อ.ธีระเดช เล็กภู่ ฮีโร่ผู้กล้าหาญที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน โดยการเตะวัตถุระเบิดจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่โยนเข้ามาในกองร้อยควบคุมฝูงชนที่ตั้งด่านอยู่ในพื้นที่สะพานผ่านฟ้า กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2557 เหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเสียสละและความกล้าหาญของ ร.ต.อ.ธีระเดชฯ ที่พร้อมปกป้องประชาชนและเพื่อนข้าราชการตำรวจ และรักษาความสงบเรียบร้อย แม้ต้องเผชิญกับอันตรายถึงชีวิต

ในการเยี่ยมครั้งนี้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ และ คุณนภัสนันท์ฯ ได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภค และเงินช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ , สมาคมแม่บ้านตำรวจ , ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และเงินช่วยเหลือส่วนตัว เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ ร.ต.อ.ธีระเดชฯ และครอบครัว พร้อมทั้งชื่นชมในความเสียสละและทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ กล่าวว่า ร.ต.อ.ธีระเดชฯ เป็นตัวอย่างของตำรวจที่กล้าหาญและเสียสละ สำนักงานตำรวจแห่งชาติชื่นชมในความกล้าหาญ และขอเป็นกำลังใจให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว

คุณนภัสนันท์ฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้เห็นถึงความเสี่ยงและความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ แต่พวกเขาก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะปกป้องประชาชนและรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม สมาคมแม่บ้านตำรวจพร้อมให้การสนับสนุนและดูแลครอบครัวของตำรวจที่เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ โดยจะอยู่เคียงข้างเสมอ

ปิด โครงการ 'แด่น้องผู้มีความหวัง' ปีที่ 32 

เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.68) น.อ.หญิง อัญชลี  ลี้พูลทรัพย์ หน.กลุ่มงานรังสีวิทยา ผู้แทน ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พร. ร่วมพิธีปิด โครงการ “แด่น้องผู้มีความหวัง” ปีที่ 32

โดยมี พล.ร.ต.นิรัตน์ ทากุดเรือ รอง ผบ.นย. เป็นประธาน ณ อาคารมะรีนฮอลล์ ศฝ.นย. ค่ายกรมหลวงชุมพร อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี 

ผบช.ภ.2 ยกย่อง 'ฮีโร่' ตำรวจสายตรวจ สภ.บ้านบึง ปั๊มหัวใจช่วยฟื้นชีวิต ด.ญ.จมน้ำ  ชื่นชมมีทักษะ ช่วยประชาชนอย่างสุดความสามารถ

(25 มี.ค.68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2)  เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สภ.บ้านบึง จังหวัดชลบุรี ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา ร.ต.ต.ประวัฒน์ สิงห์ผดุงศักดิ์ รอง สวป. สภ.บ้านบึง ตำรวจสายตรวจ สภ.บ้านบึง ได้ช่วยเหลือทำการ CPR ช่วยปั๊มหัวใจเด็กหญิงวัย 12 ปีที่จมน้ำ จนสามารถฟื้นคืนชีพกลับมามีลมหายใจ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ร.ต.ต.ประวัฒน์ ที่มีทักษะความรู้ด้านการช่วยชีวิตและเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ถูกวิธี มีสติ และมีความพยายามในการช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ จนสามารถช่วยชีวิตเด็กหญิงได้

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 เวลา 15.10 น. ตำรวจ สภ.บ้านบึง รับแจ้งเหตุมีเด็กจมน้ำในพื้นที่สระน้ำส่วนบุคคล ตำรวจสายตรวจมาบไผ่ สังกัด สภ.บ้านบึง กับอาสาสมัครกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง  จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พบเด็กหญิงวัย 12 ปี ถูกช่วยขึ้นมาจากสระน้ำอยู่ในอาการหมดสติ จึงเข้าไปช่วยทำ CPR ปั๊มหัวใจ จนเด็กหญิงมีสัญญาณชีพฟื้นคืนมา กระทั่งรถกู้ชีพ รพ.บ้านบึง ไปถึงที่เกิดเหตุนำตัวเด็กหญิงขึ้นรถนำตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาล ขณะนี้ทราบว่าอยู่ในการดูแลของแพทย์และอาการดีขึ้นตามลำดับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของผู้ปกครองที่เฝ้าลุ้นระทึกหวังให้ลูกหลานของตัวเองปลอดภัย โดยได้แสดงความดีใจ และขอบคุณตำรวจบ้านบึงที่เป็นเหมือนฮีโร่ให้การช่วยเหลือช่วยชีวิตเด็กหญิงในครั้งนี้

“ต้องชื่นชม ร.ต.ต.ประวัฒน์ ที่ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ เป็นแบบอย่างที่ดีของตำรวจในการทำหน้าที่ช่วยเหลือดูแลประชาชนให้พ้นภัย และที่สำคัญมีทักษะความรู้ด้านการทำ CPR กู้ชีพซึ่งเป็นทักษะ ความรู้ที่ตำรวจทุกนายต้องมี เพื่อสามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างถูกวิธี” ผบช.ภ.2 กล่าว 

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวด้วยว่า ฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่านช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน เด็กมักเที่ยวเล่นน้ำ คลายร้อน และพบว่าช่วงเวลานี้ของทุกปี มีสถิติเด็กจมน้ำจำนวนมาก จึงขอให้ผู้ปกครองดูแลใส่ใจกวดขันเด็กในการดูแลของท่านเป็นพิเศษ มิให้ไปเล่นน้ำในพื้นที่เสี่ยงอันตราย น้ำลึก เชี่ยว ควรมีอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ห่วงยาง เสื้อชูชีพ เพื่อความปลอดภัย และอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่อยู่เสมอ ทั้งนี้หากมีเหตุฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลือให้โทรหาตำรวจได้ที่ โทร.191 ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมดูแล ประชาชนด้วยความเต็มใจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top