Thursday, 10 July 2025
NEWS FEED

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 แถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ 2 คดีพื้นที่ สภ.ห้วยไร่ และพื้นที่ สภ.พาน 

(13 พ.ย. 67) เวลา 11.00 น.  พล.ต.ท.กฤตธาพล  ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงข่าว การจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ  2 คดี คดีที่  1 จับกุมผู้ต้องหา 3  คน รถยนต์  1  คัน ยาบ้า 620,000 เม็ด พื้นที่ สภ.ห้วยไร่  อ.เด่นชัย จ.แพร่  คดีที่ 2 ด่านตรวจปูแกง  สภ.พาน จ.เชียงราย  จับกุมผู้ต้องหา  4 คน พร้อมของกลางไอซ์  360 กก., เคตามีน 570 กก. และ รถยนต์บรรทุก 2  คัน พื้นที่ สภ.พาน จ.เชียงราย  ณ ลานแถลงข่าวอาคารกองบังคับการสืบสวนสอบสวน  ตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 

ตามนโยบายรัฐบาล สั่งการให้หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  โดยการอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  ผบ.ตร, พล.ต.อ.ธนา ชูวงค์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข  ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ  เลขาธิการ ป.ป.ส. และ พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ  มทภ.3 ได้รับบัญชาและข้อสั่งการนำไปสู่การปฏิบัติ

ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร  ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร, พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง  รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ประจำฯ ช่วยราชการ ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต.มานพ เสนากูล  ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร  ผบก.ภ.จว.แพร่ ฝ่ายทหาร นบ.ยส.35โดย พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน  มทน.3/ผบ.นบ.ยส.35 ฝ่ายปกครอง โดย นายโชตินรินทร์ เกิดสม   รอง ปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการ ผวจ.เชียงราย นายชุติเดช มีจันทร์ ผวจ.แพร่ สำนักงาน ปปส.ภาค 5  โดย นายธันวา ผุดผ่อง  ผอ.ปปส.ภาค 5  แถลงผลการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี 1. คดี สภ.ห้วยไร่ จว.แพร่ ผู้ต้องหา 3 คน ของกลางยาบ้า 600,000 เม็ด 2. คดี สภ.พาน จว.เชียงราย ผู้ต้องหา 4 คน ของกลาง ไอซ์ 360 กก. และ เคตามีน 570 กก.

คดีที่ 1 สืบเนื่องจากคดีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมเครือข่ายรถยนต์กระบะดัดแปลงทำช่องลับ ซุกซ่อนเฮโรอีนจำนวน 92 กก. ที่ โกดังในพื้นที่ จว.นนทบุรี จากการขยายผลจับกุม พบว่า ยังมีเครือข่ายลักษณะดังกล่าวอีกที่ยังคงเคลื่อนไหวลักลอบลำเลียง โดยใช้รถยนต์กระบะดัดแปลงเป็นช่องลับซุกซ่อนยาเสพติดจากแนวชายแดนด้าน จว.เชียงราย ลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ 
ตำรวจภูธรภาค 5 ได้บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ส., ฝ่ายทหาร, ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มอบหมายชุดปฏิบัติการสืบสวนวิเคราะห์พฤติการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มรถกระบะดัดแปลงทำช่องลับอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 16.30 น. สืบสวนพบรถกระบะต้องสงสัย ใช้เส้นทางจากพื้นที่ จว.เชียงราย มุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง และมีพฤติการณ์เปลี่ยนป้ายทะเบียน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแพร่ และ ด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ จว.แพร่ ทำการตรวจค้น และนำรถกระบะดังกล่าวเข้าตรวจในเครื่อง X-ray  พบ ยาบ้า 600,000 เม็ด ซุกซ่อนในช่องลับของรถกระบะ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คน คือ นายศริตตรา หรือ ก๊อต อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา อ.อัมพวา จว.สมุทรสาคร, นายกฤษณ์ หรือ ทิต อายุ 40 ปี ภูมิลำเนา อ.ดำเนินสะดวก  จว.ราชบุรี และ น.ส.อารี หรือ นุ่น อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา อ.ปากท่อ จว.ราชบุรี พร้อมด้วยยาเสพติดและรถยนต์ของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจปูแกง สืบสวนทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติด จาก จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยใช้รถยนต์บรรทุกเป็นพาหนะลำเลียงยาเสพติด จึงได้รายงาน ให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ และบรูณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งด่านตรวจบริเวณด่านตรวจปูแกง ต.แม่เย็น อ.พาน จว.เชียงราย  กระทั่งถึงเวลาประมาณ 22.00 น. พบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ตู้ทึบ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว เลขทะเบียน 71 – 2060 ปทุมธานี เข้ามาที่ด่านตรวจ มีนายวัลลพ เป็นผู้ขับ มี นายมานะ และ นายเหม เป็นผู้โดยสาร จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจสอบและขอทำการตรวจค้น ระหว่างทำการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นว่าชายทั้ง 3 มีลักษณะอาการ กระวนกระวาย ให้การวกวนไปมา จึงทำการตรวจค้นตู้ทึบ และพบว่าเป็นการนำแผ่นเหล็กมาปิดดัดแปลงทำเป็นช่องลับขึ้นมาใหม่  จึงได้ทำการเปิดช่องดังกล่าวออกมา พบยาเสพติด ไอซ์ จำนวน 360 กก. และพบเคตามีน จำนวน 570 กก. ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับ จึงได้ควบคุมตัวบุคคลทั้ง 3 คน ตรวจยึดของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 14.00 น. ได้ทำการสืบสวนขยายผลไปจับกุมตัวนายฉลาด พร้อมรถยนต์หัวลาก ยี่ห้อ ฮีโน่ เลขทะเบียน 700-4518 กทม. ซึ่งเป็นรถยนต์นำ/สำรวจเส้นทาง ได้ที่บริเวณ ต.เนินกุ่ม  อ.บางกระทุ่ม จว.พิษณุโลก ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไปในส่วนการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ในห้วงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน ตำรวจภูธรภาค 5 ได้บรูณาการร่วมกับหน่วยเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน จับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ได้ จำนวน 19 คดี ของกลางยาบ้าประมาณ 10 ล้านเม็ด ไอซ์ 1,384 กิโลกรัม, เฮโรอีน 143 กิโลกรัม และ เคตามีน 622 กิโลกรัม

ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายตำรวจ ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้นำบัญชาและข้อสั่งการของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดไม่ให้เข้าไปสู่พื้นที่ตอนในอย่างเข้มข้นและจริงจัง และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

“ยืนยันเป็นสัจจวาจาว่า ไม่รับกระเช้าดอกไม้ ไม่รับการกราบกรานขอโทษ คุณจะคลานจากประตูบ้านพระอาทิตย์ ผมก็ไม่ให้เข้า”

สนธิ ลิ้มทองกุล
กล่าวถึงทนายเดชา กิตติวิทยานันท์
ในรายการ Sondhi Talk เมื่อ 11 พ.ย.67

ไม่รับกราบ ไม่รับกระเช้า บ้านพระอาทิตย์ปิดประตูไม่ต้อนรับ ทนายไร้ราคา

นิตยสาร Travel + Leisure ยกย่อง ธรรมชาติสวย - 4 ภาคเอกลักษณ์เด่น

(13 พ.ย. 67) ไทยคว้ารางวัลจุดหมายปลายทางแห่งปี 2025 จาก Travel + Leisure - ประกาศศักยภาพ Soft Power สู่สายตาชาวโลก

ประเทศไทยได้รับรางวัล “จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวแห่งปี 2025” (Destination of the Year 2025) จากนิตยสาร Travel + Leisure สื่อท่องเที่ยวทรงอิทธิพลระดับโลก โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชี้ว่า นี่เป็นสัญญาณเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวในปีหน้า

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า Travel + Leisure เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกสำหรับปี 2025 ด้วยความครบครันในด้านแหล่งท่องเที่ยว ทั้งความงามตามธรรมชาติอย่างอ่าวพังงา การอนุรักษ์ช้างไทย และเสน่ห์ของกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสีสัน ทั้งด้านวัฒนธรรม อาหารอันเลื่องชื่อ และการเปิดกว้างสำหรับชุมชน LGBTQ+

การได้รับตำแหน่งนี้จาก Travel + Leisure ซึ่งจัดอันดับจุดหมายปลายทางแห่งปีมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลก โดยในอดีตประเทศที่ได้รับรางวัลนี้ เช่น คอสตาริกา อิตาลี และญี่ปุ่น ต่างก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม

นิตยสาร Travel + Leisure ประเมินว่าประเทศไทยโดดเด่นด้วยความผสมผสานของความเป็นไทยและความทันสมัยได้อย่างลงตัว ฌัคกี กิฟฟอร์ด บรรณาธิการใหญ่ของ Travel + Leisure กล่าวว่า “การประกาศให้ไทยเป็นจุดหมายแห่งปี 2025 เป็นความตื่นเต้นสำหรับเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการชิมอาหารในกรุงเทพฯ พักผ่อนบนเกาะงดงามกว่า 1,430 เกาะ หรือสัมผัสการบริการระดับโลก เมืองไทยมีทุกสิ่งให้คนทุกสไตล์ได้ค้นพบ”

นอกจากนี้ แต่ละภูมิภาคของไทยยังมีเอกลักษณ์เฉพาะที่น่าประทับใจ ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และการผจญภัย อย่างกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารชั้นเลิศและชุมชน LGBTQ+ ที่มีชีวิตชีวา ขณะเดียวกัน เกาะสมุยยังเป็นจุดถ่ายทำซีรีส์ดังอย่าง *The White Lotus* ของ HBO ซึ่งต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรีสอร์ตหรูและบรรยากาศอันเงียบสงบ และอ่าวพังงาก็มีทัศนียภาพเขาหินปูนที่งดงามเป็นเอกลักษณ์

ททท. มองว่าการได้รับรางวัลครั้งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งต่อเป้าหมายการท่องเที่ยวในปี 2025 โดยนโยบายภายใต้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้ 3.4 ล้านล้านบาท และยกระดับประเทศไทยให้เป็น “ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬายิ่งใหญ่” (Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025)

ประเทศไทยยังดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า โดยเฉพาะการดูแลช้างไทยที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งสามารถเยี่ยมชมได้ตามศูนย์อนุรักษ์ช้างทั่วประเทศ 

การคว้าตำแหน่งจุดหมายปลายทางแห่งปี 2025 แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ Soft Power ของไทยที่ยังคงตรึงใจนักเดินทางทั่วโลกและตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางที่น่าค้นหาในปีหน้า

แม่ทัพภาคที่ 3 เน้นย้ำป้องกันสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และสิ่งผิดกฏกมายแนวชายแดน จังหวัดตาก

(13 พ.ย. 67) พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพล กองกำลังนเรศวร  ตามฐานปฏิบัติการ พื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก  อำเภอพบพระ อุ้มผาง และแม่สอด รวมทั้งติดตามตรวจเยี่ยมกำลังพล ที่ด่านตรวจร่วมเพื่อความมั่นคงบ้านห้วยหินฝน ถนนหมายเลข 12 แม่สอด -ตาก อำเภอแม่สอด

แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ได้มีการเน้นย้ำการบูรณาการในการทำงานของทุกภาคส่วนร่วมกัน อย่างสามัคคี กลมเกลียว เพื่อให้ประชาชน มีความมั่นใจในข้าราชการของรัฐ เหนือสิ่งอื่นใด ชายแดนต้องมีความสงบสุข ประชาชนมีความอุ่นใจ   ส่วนเรื่องยาเสพติด ช่วงนี้อาจมีการเล็ดรอด เข้ามาด้านนี้  จึงเน้นย้ำกำลังพลเพิ่มการสังเกตุ ตรวจตรา และนำเครื่องมือที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการทำงานที่ด่านตรวจอาจมีผลกระทบต่อประชาชนบ้าง  แต่จะดำเนินการด้วยความสุภาพอ่อนโยน เพื่อความสุขของประชาชนเป็นหลัก

"ในส่วนของสารตั้งต้น จะต้องนำเครื่องมือพิเศษมาใช้โดยได้หารือ กับทาง ป.ป.ส. ไว้แล้ว ซึ่งอาจะต้องใช้อุปกรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวก ให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างสะดวกขึ้น ที่สามารถตรวจสอบ โดยไม่ต้องมีการขนสินค้าการเกษตรขึ้นลง ลงจากรถในอนาคต แต่ตอนนี้ จะเน้นการทำงานด้านการการสังเกตุและการข่าวเป็นหลัก" แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าว

เชียงใหม่-ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สรุปเที่ยวบินเปลี่ยนแปลง-ยกเลิกในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ประจำปี 2567 รวมทั้งสิ้น 170 เที่ยวบิน 

(12 พ.ย.67) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ปรับเวลาให้บริการในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยสายการบินยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินหลังเวลา 19.00 น.เพื่อลดความเสี่ยงจากโคมลอยที่อาจเกิดอันตรายต่ออากาศยาน

นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2567 (ข้อมูล ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567) มีเที่ยวบินที่ยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน รวมทั้งสิ้น 170 เที่ยวบิน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.เที่ยวบินที่ยกเลิก จำนวน 74 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศ 36 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 38 เที่ยวบิน
2.เที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวนทั้งสิ้น 96 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ เที่ยวบิน 68 และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 28 เที่ยวบิน
3.เที่ยวบินพิเศษเพิ่มเติม จำนวน 16 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 8 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 8 เที่ยวบิน       

ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงและยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน เนื่องจากสายการบินได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า เพื่อวางแผนการเดินทางที่เหมาะสมแล้ว พร้อมกันนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการรักษาความปลอดภัย อาทิ เพิ่มวงรอบการตรวจการณ์ ทั้งภายในอาคารผู้โดยสาร และบริเวณพื้นที่รอบท่าอากาศยาน ตั้งจุดสุ่มตรวจยานพาหนะ ที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ท่าอากาศยานเป็นระยะ สุ่มตรวจสัมภาระและผู้โดยสารตามมาตรฐานที่กำหนด สุ่มตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของพนักงานที่ปฏิบัติงานในเขตการบิน 

รวมทั้งห้ามจอดยานพาหนะบริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด เพื่อดูแลความปลอดภัยและป้องปรามกลุ่มผิดกฎหมายที่อาจฉวยโอกาสกระทำการในช่วงผู้โดยสารคับคั่ง อย่างไรก็ตามขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมายังท่าอากาศยานมากกว่าปกติ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีผู้โดยสารคับคั่งแออัดตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจ  ทางวิ่งทางขับจากเดิมวันละ 6 รอบ เป็น 10 รอบ เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตกในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน

สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัด สถานศึกษาและชุมชนที่อยู่ในเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ที่กำหนดว่า ห้ามจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศในเขตปลอดภัยการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 (พื้นที่สีแดง) คือบริเวณแนวขึ้น-ลง สนามบิน ที่อยู่ห่างจากทางขึ้น-ลงของเครื่องบิน ห่างข้างละ 4.6 กิโลเมตร เป็นระยะทางยาว 18.5 กิโลเมตร จากหัวทางวิ่งทั้งสองด้าน นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน และช่องทาง Social Media ต่างๆ ด้วย
    
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในฐานะประตูบานแรกที่เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทง โดยได้ประดับตกแต่งโคมไฟและโคมแขวนภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเป็นรูปแบบกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตามวิธีพุทธและประเพณีเดือนยี่เป็ง รวมทั้งเปิดเพลงบรรเลงท้องถิ่น เพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสบรรยากาศความเป็นล้านนาตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึง และยังกำหนดจัดกิจกรรมแจกกระทงให้แก่ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วย

สมุทรปราการ-พิธีอัญเชิญผ้าศักดิ์สิทธิ์ห่มองค์พระมหาเจดีย์ และพิธีห่มผ้าองค์พระนอนพระพุทธรูปคู่วัดบางพลีใหญ่กลาง

(12 พ.ย.67) คณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ นายอำเภอบางพลี ข้าราชการตำรวจ คณะครู นักเรียน นักศึกษา และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอบางพลี ร่วมประกอบพิธีแห่ผ้าแดงหลังจากที่ได้ประกอบพิธีบวงสรวงเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยได้แห่จากด้านหน้าวิหารพระนอนแล้วเดินแห่มายังบริเวณหน้าองค์พระมหาเจดีย์พิศาลวุฒิกิจมงคลมหาชนบูชิต เพื่อที่จะนำผ้าแดงผืนนี้ขึ้นไปห่มที่บริเวณด้านบนองค์พระมหาเจดีย์ ซึ่งพิธีในช่วงเช้าของวันนี้ โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้ให้ความสำคัญจัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้ง มีการรำถวายที่บริเวณหน้าวิหารพระนอน จากนั้น คณะนักเรียน นักศึกษา จากวงโยธวาทิตบรรเลงเพลงนำขบวนแห่ไปยังพระมหาเจดีย์ นับว่าพิธีดังกล่าวถือเป็นประวัติศาสตร์และเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของทางวัดบางพลีใหญ่กลางอีกด้วย

นอกจากนี้ คณะศิษย์ยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนจำนวนมากยังได้มีโอกาสร่วมในพิธีห่มผ้าองค์พระศากยมุนีศรีสุเมธบพิตร หรือพระนอน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่วัดบางพลีใหญ่กลาง ในโอกาสนี้ ทางคุณทัศนีย์ คงคาสุริฉาย พร้อมด้วย คุณฐานะวัฒน์ ไกรศักดาวัฒน์ ผู้บริหาร บริษัท ทิพย์โฮดิ้ง จำกัด ร่วมเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ หรือพระครูแจ้ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสที่วัดบางพลีใหญ่กลางมีอายุยาวนาน กว่า 200 ปี และปีที่ผ่านมาทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้จัดพิธีสมโภชน์อย่างยิ่งใหญ่ และในปี 2567 นี้ ทางไวยาวัจกร รวมถึงทางคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลางจึงได้จัดพิธีแห่ผ้าห่มองค์พระมหาเจดีย์และจะทำเช่นนี้ต่อไปทุกๆปี เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่อยู่พื้นที่โดยรอบได้มีส่วนร่วมอนุโมทนาบุญกับทางวัด

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวบางพลีได้ร่วมกันทำบุญมากขึ้น และอยากจะดันให้เป็นงานประเพณีสืบไป และในส่วนงานประเพณีลอยกระทงในปีนี้ ทางวัดของเราก็จัดอย่างยิ่งใหญ่มีของรางวัลมากมาย ทั้งสร้อยคอทองคำ ทีวี ตู้เย็น พัดลม และอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเดินทางมาร่วมทำบุญและร่วมกิจกรรมสอยดาวกับทางวัด นอกจากนี้ ยังสามารถนำกระทงมาลอยที่บริเวณสระน้ำภายในวัดบางพลีใหญ่กลางได้อีกด้วย

จากทะเล สู่ดอย ทรภ.1 เยี่ยมพบปะ พี่ น้อง ประมง เตรียมการน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักฯ ประจำปี 2568

(12 พ.ย.67) นาวาเอก กฤษดา จิระไตรพร รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 (เสธ.ทรภ.1) และคณะ เดินทางเยี่ยมพบปะ ประสานงานกับหน่วยงานและสมาคมประมงในพื้นที่จังหวัด ระยอง จันทบุรี และตราด เพื่อเชิญชวนเข้าร่วม 'กิจกรรมน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเล ที่มีสารไอโอดีน โดยเสด็จพระราชกุศล โครงการตามพระราชดำริ ต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน' ระหว่างวันที่ 5 - 7 พ.ย.67 ที่ผ่านมา

ซึ่งในปีนี้ นับเป็นครั้งที่ 29 ของกิจกรรมฯ รวมถึงเรียนเชิญร่วมประชุมเตรียมการจัดกิจกรรมฯ ณ โรงแรมซี พาราไดซ์ สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โดยหน่วยงาน และสมาคมประมงต่าง ๆ ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมฯ อย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้กิจกรรมน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้งฯ เป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในถิ่นทุรกันดาร และชาวไทยภูเขาให้ได้มีโอกาสรับประทานอาหารทะเล เพื่อต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน โดยจะเดินทางไปส่งมอบ ปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเล ที่มีสารไอโอดีน โดยเสด็จพระราชกุศล โครงการตามพระราชดำริ ต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน” ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 6-7 ก.พ.68 ให้กับเด็กนักเรียน พี่น้องประชาชนในถิ่นทุรกันดาร และชาวไทยภูเขา ในพื้นที่ภาคเหนือ ต่อไป

สมุทรปราการ-วัดบางพลีใหญ่กลาง จัดพิธีแห่ผ้าแดงห่มองค์พระมหาเจดีย์ให้ประชาชนโดยรอบได้ร่วมอนุโมทนา

(12 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะศิษย์ยานุศิษย์วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันประกอบพิธีแห่ผ้าแดงซึ่งเป็นผ้าที่จะนำขึ้นไปห่มที่ด้านบนขององค์พระมหาเจดีย์

ซึ่งในวันนี้ได้มีคณะศิษย์ยานุศิษย์ ข้าราชการตำรวจ คณะครู รวมถึงคณะไวยาวัจกรวัดบางพลีใหญ่กลาง ตลอดจนพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ที่เลื่อมใสศรัทธา ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้เดินทางมาร่วมกันประกอบพิธีแห่ผ้าแดงโดยขบวนแห่ผ้าครั้งนี้จะแห่ไปตามเส้นทางถนนเทพารักษ์ อ.เมือง สมุทรปราการ เพื่อให้ประชาชนพื้นที่โดยรอบได้ร่วมกันอนุโมทนาบุญ

ก่อนจะนำผ้าแดงผืนดังกล่าวไปประกอบพิธีบวงสรวง จากนั้นจะมีพิธีอันเชิญขึ้นไปห่มที่ด้านบนพระมหาเจดีย์ซึ่งเป็นเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ของวัดบางพลีใหญ่กลางที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

โดยในวันนี้ ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้โปรยทานเป็นจำนวนเงินนับแสนบาทเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในพิธีแห่ผ้าอันศักดิ์สิทธิ์ของวัดบางพลีใหญ่กลาง ทำให้เกิดความคึกคักและมีประชาชนจำนวนหลายร้อยคนร่วมอนุโมทนาและร่วมในพิธีครั้งนี้

'นบ.ยส.35' เข้มขับเคลื่อน 'ปัญหายาเสพติด' ภาคเหนือร่วมกับ ตชด.ภาค 3

(12 พ.ย.67) ที่ผ่านมา พลโท กิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) ขับเคลื่อนปัญหายาเสพติดร่วมกับ พลตำรวจตรีวรพัฒน์ บุญมา ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 (ผบ.ตชด.ภาค 3) เพื่อบูรณาการหน่วยงานในระดับพื้นที่วางมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดเชิงรุก และเฝ้าระวังพื้นที่ ให้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

ทั้งนี้ สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน ยาเสพติดมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ปริมาณยาเสพติดที่นำเข้า และถูกจับกุมได้ภายในประเทศมีปริมาณมาก เมื่อเปรียบเทียบในห้วงเวลาเดียวกัน กับปีที่ผ่านมา (ห้วง ต.ค. - พ.ย.) ยาบ้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.93 และไอซ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.76 

โดยวางมาตรการในการสกัดกั้นยาเสพติดที่เตรียมจะทะลักเข้ามาในห้วงเทศกาลลอยกระทงถึงปีใหม่ เพื่อสกัดยับยั้งยาเสพติดไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ตอนในให้ได้มากที่สุดต่อไป

สวนนงนุชพัทยา เปิดโรงเรียนนงนุชพัฒนาทักษะอาชีพ เพื่อเป็นอาณาจักรแห่งการเรียนรู้

วันนี้ที่สวนนงนุชพัทยา มีพิธีเปิดโรงเรียนนงนุชพัฒนาทักษะอาชีพ โดยมีนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เป็นประธานในพิธี วัตถุประสงค์ในการเปิดโรงเรียน เป็นโรงเรียนนอกระบบ ไม่ได้มีการเรียนการสอนทุกวัน สอนเฉพาะที่เป็นหมู่คณะโดยจัดหาผู้เชี่ยวชาญมาสอนในแต่ละหลักสตูร

การเรียนการสอนมีลักษณะเหมือนกับซัมเมอร์แคมป์ ซึ่งต้องการให้เรียนรู้ในภาคปฏิบัติ เรียนรู้อย่างสนุกและมีความสุขกับสิ่งที่ได้ลงมือทำ เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันหรือสามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพ ทางโรงเรียนมีหลักสูตรหลากหลาย เช่น หลักสูตรการจัดสวน,จัดดอกไม้และดูแลรักษาต้นไม้, หลักสูตรพัฒนาแม่บ้านมืออาชีพ,หลักสูตรวิชาอาหารไทย,หลักสูตรวิชามวยไทย, หลักสูตรวิชานาฏศิลป์ไทย เป็นต้น

ซึ่งในวันนี้มีผู้ร่วมงานที่เกี่ยวข้องในด้านการศึกษาประกอบไปด้วย นายประภาพันธ์ วิเวก รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี-ระยอง,นายวัชระ นรินทร์นอก ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต 3 และคณะผู้บริหารโรงเรียน ภาครัฐและเอกชน สวนนงนุชพัทยายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านการศึกษา เพื่อเป็นอาณาจักรแห่งการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะอาชีพ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top