Wednesday, 9 July 2025
NEWS FEED

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขานรับนโยบายรัฐบาล แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี พ.ศ.2567

(15 พ.ย.67) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี พ.ศ.2567 ณ ห้องประชุม ศปก.ตร.ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมแถลง

เนื่องด้วยวันนี้ 15 พฤศจิกายน 2567 เป็นวันลอยกระทง ประจำปี พ.ศ.2567 และรัฐบาลกำหนดแนวทางการจัดงาน “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยภาพรวมการจัดงานทั่วประเทศมี 3,592 แห่ง (กรุงเทพมหานคร 121 แห่ง และจังหวัดอื่น ๆ 3,471 แห่ง) แบ่งเป็นพื้นที่การจัดงานขนาดใหญ่จำนวน 74 แห่ง ใช้กำลังตำรวจกว่า 30,000 นาย ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำหนดมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม มาตรการป้องกันและบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิง มาตรการคุ้มครองเด็ก การรักษาความสงบเรียบร้อย การบริหารจัดการพื้นที่ ตรวจตราท่าน้ำ ท่าเรือต่าง ๆ และมาตรการอำนวยความสะดวกการจราจร ในช่วงวันลอยกระทง โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่งต่าง ๆ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย และระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศร่วมกันกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท ในห้วงวันที่ 8-14 พฤศจิกายน 2567 ผลการดำเนินการ ดังนี้

1. อาชญากรรมทั่วไป 
- ความผิดเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด คนเข้าเมือง และสถานบริการ : รวมจับกุม 26,392 คดี ผู้ต้องหา 27,284 คน มูลค่าตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินในคดี 61,466,470 บาท ในส่วนคดียาเสพติด สามารถตรวจยึดของกลาง ยาบ้า 62,895,138 เม็ด , ยาไอซ์ 461,292 กรัม , เคตามีน 570,469 กรัม , เฮโรอีน 115.33 กิโลกรัม , ฝิ่น 135 กรัม , ยาอี 1,663 เม็ด , โคเคน 13 กรัม , กัญชา 4.4 กิโลกรัม และน้ำกระท่อม 144,000 มิลลิลิตร 

- ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน : รวมจับกุม 1,446 คดี ผู้ต้องหา 1,405 คน ของกลางอาวุธปืนสงคราม 2 กระบอก อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 920 กระบอก อาวุธปืนมีทะเบียน 197 กระบอก วัตถุระเบิด 35 ลูก พลุ/ดอกไม้ไฟ 4,174 ดอก เครื่องกระสุนปืน 6,292 นัด รวมมูลค่า 2,442,231 บาท 

2. อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 
- ความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ด้านการเงิน หลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย เผยแพร่ข่าวปลอม ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก และพนันออนไลน์ : รวมจับกุม 2,362 คดี ผู้ต้องหา 2,350 คน มูลค่าตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินในคดี 18,924,237 บาท

- ความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 รวมจับกุม 295 คดี ผู้ต้องหา 277 คน มูลค่าตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินในคดี 3,968,083 บาท 
 
3. จับกุมบุคคลตามหมายจับ รวม 3,080 หมายจับ 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันมีความพร้อมในทุกพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ และการจัดงานเทศกาลลอยกระทง เข้มงวดกวดขัน ปราบปราม แก้ไขปัญหาอาชญากรรมอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวในการป้องกันอาชญากรรมหรืออันตรายที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันลอยกระทง หากต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเบาะแส เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับอาชญากรรมต่าง ๆ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือสายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

'พิพัฒน์' รมว.แรงงาน มอบที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ 'ธนัสถ์' เปิดประชุมนานาชาติ  APOSHO ครั้งที่ 38 หนุนความปลอดภัยอาชีวอนามัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

(15 พ.ย. 67) เวลา 09.00 น.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมนานาชาติ Asia Pacific Occupational Safety & Health Organization (APOSHO) ครั้งที่ 38 โดยมี นายประสพชัย ยูวะเวส นายกสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) ในพระราชูปถัมภ์ กล่าวรายงาน ณ โรงแรมรอยัล ริเวอร์

นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า งานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทุกประเทศ อีกทั้งยังเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของแรงงานและการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย โดยการประชุมนานาชาติ APOSHO ครั้งที่ 38 นี้ เป็นเวทีที่สำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นโอกาสอันดีในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานของภูมิภาคและประเทศไทย

นอกจากนี้ การประชุมครั้งนี้ยังถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในการผลักดันนโยบายและแนวปฏิบัติที่ดี ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อประโยชน์ของลูกจ้างและนายจ้างในทุกภาคส่วน ด้วย

นายธนัสถ์ กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณคณะผู้จัดงาน และผู้แทนจากทุกประเทศที่ได้มีส่วนร่วมในการประชุมครั้งนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลการประชุมครั้งนี้ จะนำมาซึ่งความร่วมมือที่แน่นแฟ้นและแนวทางในการพัฒนาความปลอดภัยและอาชีวอนามัยที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กร คือ สมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) ในพระราชูปถัมภ์ฯ และสมาคมอาชีวอนามัย และความปลอดภัย โดยในปี 2567 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมประจำปีขององค์กร APOSHO เป็นครั้งที่ 3 เพื่อแลกเปลี่ยนและนำเสนอข้อมูลทางวิชาการด้านความปลอดภัย เพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวทางในการพัฒนางานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย ให้กับแรงงานมีความปลอดภัยในการทำงาน 

กมธ.การบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา เข้าร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายอนุทิน ชาญวีรกูล)

เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.67) เวลา 09.30-12.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย โดย พลตำรวจโท ยุทธนา ไทยภักดี ประธานคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา และกรรมาธิการ ได้เดินทางเพื่อประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นดังต่อไปนี้

​1) นโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินส่วนกลางและส่วนภูมิภาค การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เกี่ยวข้องกับอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย รวมทั้งการผังเมือง เพื่อการพัฒนาเมืองและการดำรงรักษาเมืองในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตลอดทั้งการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล
​​2) แนวทางการป้องกันและการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตทางทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนในลักษณะให้คนต่างด้าว กลุ่มชาติพันธุ์ และแรงงานต่างด้าว สวมตัวเป็นคนไทยทำบัตรประจำตัวประชาชน
​3) การดำเนินงานนโยบายการจัดทำสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ที่อาจมีการจัดทำธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย

​​4) การดำเนินงานโครงการถมทะเลสร้างเกาะจำนวน 9 เกาะ เพื่อป้องกันน้ำทะเลท่วมกรุงเทพมหานคร
​5) การดำเนินงานและปัญหาอุปสรรคการออกหลักฐานการถือครอง และการใช้ประโยชน์ที่ดินของประชาชน รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาชาวต่างชาติครอบครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
​6) แนวทางการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและได้มา ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 เพื่อการจัดทำแนวป้องกันปัญหาการเกิดอุทกภัย

​7) แนวทางการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาชาวต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ที่อาจกระทบต่อภาพรวมของประเทศไทยทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น ปัญหาทุนจีนซื้อที่ดินจัดทำบ้านจัดสรร ปัญหาล้งจีน ประกอบธุรกิจการค้าผลไม้ไทย เป็นต้น โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหาร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวข้างต้น

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการได้แสดงความคิดเห็น ปัญหาอุปสรรค และผลกระทบที่เกี่ยวข้องต่อประชาชน รวมทั้งมีข้อเสนอแนะเพื่อผลประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ซึ่งทุกฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและจะดำเนินการตามข้อเสนอแนะในส่วนที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะได้นำข้อมูลและข้อคิดเห็นต่าง ๆ ที่ได้จากการประชุมร่วมกันไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการต่อไป

วุฒิสภา ร่วมรับชมการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปี 2567

เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.67) เวลา 19.00 นาฬิกา ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และสมาชิกวุฒิสภา ร่วมรับชมการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปี 2567 เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน 'พระจักราวตาร' โดยมีนางปัณณิตา สท้านไตรภพ รองเลขาธิการวุฒิสภา รักษาราชการแทนเลขาธิการวุฒิสภา และผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วม โอกาสนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมรับชมการแสดงดังกล่าว 

โดยหลังจากจบการแสดง ประธาน สภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภา ให้เกียรติมอบช่อดอกไม้ แก่ผู้กำกับการแสดง ผู้ประพันธ์บท ครูผู้ฝึกซ้อมการแสดง นักดนตรี นักพากย์ และนักแสดงในชุดการแสดงดังกล่าวด้วย

โขนรามเกียรติ์ ตอน 'พระจักราวตาร' เป็นตอนที่แสดงกฤษฎาภินิหารของพระจักราหรือพระนารายณ์ ที่อวตารลงมาเป็นพระราม โอรสของท้าวทศรถ กษัตริย์แห่งกรุงอโยธยา เพื่อปราบฝ่ายอธรรม เปรียบประดุจพระราชวงศ์จักรีที่ผดุงความสุขความสงบให้กับพสกนิกรชาวไทยตลอดมา มีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน - 8 ธันวาคม 2567 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ที่ทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขน เพื่อสืบทอด ธำรงนาฏศิลป์อันทรงคุณค่าของชาติให้คงอยู่คู่สังคมไทย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำ 'ตะโกน โยน ยื่น ลาก' 4 ขั้นตอนช่วยคนตกน้ำอย่างปลอดภัย

(15 พ.ย.67) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ทั้งจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ตลอดจนอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในวันลอยกระทง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอแนะนำ 'ตะโกน โยน ยื่น ลาก' 4 ขั้นตอนในการช่วยเหลือคนตกน้ำให้ปลอดภัย ทั้งคนช่วยและคนถูกช่วย โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. 'ตะโกน' เมื่อพบคนตกน้ำ ให้ตะโกนขอความช่วยเหลือ ว่ามีคนตกน้ำ และบอกคนที่ตกน้ำให้ตั้งสติ

2. 'โยน' โยนวัสดุหรือสิ่งของที่ลอยน้ำได้ให้เกาะ เช่น ห่วงยาง เสื้อชูชีพ ถังพลาสติก

3. 'ยื่น' ยื่นสิ่งของที่มีความยาว เช่น ท่อพลาสติก เชือก กิ่งไม้ ให้คนที่ตกน้ำจับ

4. 'ลาก' ลากเชือกหรือสิ่งของที่ยื่นให้ เพื่อลากคนที่ตกน้ำกลับเข้าฝั่ง

โดยมีข้อควรระวังในการให้ความช่วยเหลือ คือ
- ไม่ควรกระโดดตัวเปล่าลงไปช่วย หากจำเป็นให้นำสิ่งของที่ลอยน้ำได้ติดตัวไปด้วย
- ไม่ควรเข้าไปช่วยเหลือจากด้านหน้าของคนตกน้ำ เพราะคนที่กำลังตกใจอาจดึงคนที่เข้าไปช่วยจมน้ำไปด้วย

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือในกรณีต่าง ๆ  สามารถโทรศัพท์แจ้งเหตุได้ที่สายด่วนดังต่อไปนี้ เหตุด่วนเหตุร้าย สายด่วน 191 , เจ็บป่วยฉุกเฉิน สายด่วน 1669 และเหตุด่วนทางน้ำ สายด่วนตำรวจน้ำ 1196 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ร.ร.ธรรมภิรักษ์ ประกาศปิดกะทันหัน เปิดดำเนินการปีสุดท้าย เตรียมเปลี่ยนผ่านเป็นโรงเรียนนานาชาติจากสิงคโปร์ปี 69

(14 พ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจเฟซบุ๊ก โรงเรียนธรรมภิรักษ์ (Thampirakschool) เขตบางพลัด แขวงบางบำหรุ โพสต์ข้อความระบุว่า ประกาศ ด่วนที่สุด เรื่อง โรงเรียนธรรมภิรักษ์ เปิดดำเนินการปีสุดท้าย / โรงเรียนอนุบาลธรรมภิรักษ์เทเวศร์ เปิดปกติและเริ่มรับสมัครนักเรียนใหม่ ปีการศึกษา 2568

โดย ผู้บริหารโรงเรียน ขอประกาศแจ้งให้ทราบ ดังนี้

1.โรงเรียนธรรมภิรักษ์ จะเปิดดำเนินการถึงสิ้นปีการศึกษา 2567 (มีนาคม 2568) เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นโรงเรียนนานาชาติ จากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะพร้อมเปิดดำเนินการสอน ในเดือนสิงหาคม 2569 (สิงหาคม 2026)

2.โรงเรียนอนุบาลธรรมภิรักษ์เทเวศร์ เปิดดำเนินการตามปกติ เปิดรับสมัครนักเรียนใหม่ ปีการศึกษา 2568 ชั้นเตรียมอนุบาล-อนุบาล 3 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะเต็ม

ทั้งนี้ นักเรียนอนุบาลจากโรงเรียนธรรมภิรักษ์ ที่ประสงค์จะย้ายไปสาขาเทเวศร์ รับสิทธิ์พิเศษ ส่วนลดค่าเทอม ฯลฯ

หลังจากโพสต์เผยแพร่ออกไป มีผู้ปกครองเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มองว่าทางโรงเรียนแจ้งกะทันหันไปมาก ห่วงว่าจะหาโรงเรียนใหม่ให้ลูกไม่ทัน อยากจะให้เวลามากกว่านี้ รู้สึกใจหาย รวมทั้งยังเป็นกำลังใจให้กับทางโรงเรียน ฯลฯ... 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนลอยกระทงปลอดภัย ต้องใส่ใจส่วนรวม แนะ 6 สิ่งต้องคำนึง ก่อนนึกถึงพระแม่คงคา

(14 พ.ย. 67) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ และเนื่องด้วยวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ที่จะถึงนี้เป็น “วันลอยกระทง” ที่พี่น้องประชาชนร่วมเฉลิมฉลองด้วยการลอยกระทงตามแม่น้ำลำคลอง เพื่อขอขมาพระแม่คงคาและขอให้สิ่งไม่ดีลอยไปกับกระทง รวมไปถึงทางภาคเหนือยังมี “ประเพณียี่เป็ง” โดยเป็นการปล่อยโคมลอยหรือโคมไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อบูชาและขอขมาแม่คงคา เช่นเดียวกัน ซึ่งในช่วงเทศกาลดังกล่าวจะมีพี่น้องประชาชนออกมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น เพื่อให้เทศกาลลอยกระทงเป็นไปอย่างปลอดภัย สนุกสนาน และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอแนะนำ 6 สิ่งที่ต้องคำนึง ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ดังนี้

1. “ความปลอดภัยทางน้ำ” ควรระมัดระวังไม่ลงไปลอยกระทงในน้ำโดยตรง และเด็กเล็กควรอยู่ในสายตาผู้ใหญ่เสมอ โดยผู้ดูแลสถานที่ลอยกระทงควรจัดเตรียมเสื้อชูชีพ หรือห่วงยาง ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

2. “หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด” โดยเฉพาะบริเวณริมตลิ่ง แม่น้ำ และท่าเรือต่าง ๆ เพราะอาจเกิดอันตรายจากการเบียดเสียดกัน หรืออาจมีมิจฉาชีพฉวยโอกาสในการลักทรัพย์ได้

3. “งดเล่นประทัดและดอกไม้ไฟ” เพราะอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ หรือทำให้ตนเองและผู้อื่นบาดเจ็บได้

4. “ลอยโคมในจุดที่กำหนด” โดยห้ามลอยโคมในบริเวณที่ใกล้กับสนามบิน หรือพื้นที่หวงห้าม เพราะโคมอาจลอยไปรบกวนการบิน หรืออาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้

5. “ใช้กระทงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” หลีกเลี่ยงการใช้กระทงที่ทำจากวัสดุย่อยสลายยาก เช่น โฟม พลาสติก และหลีกเลี่ยงการใช้กระทงขนมปัง เพราะอาจทำให้น้ำเน่าเสียได้

6. “ระวังการลอยกระทงออนไลน์” เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพทำเว็บไซต์มาหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันอันตราย

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือในกรณีต่าง ๆ ได้ที่สายด่วนดังต่อไปนี้ เหตุด่วนเหตุร้าย สายด่วน 191 , เจ็บป่วยฉุกเฉิน สายด่วน 1669 , เหตุด่วนทางน้ำ สายด่วน 1196 และเหตุเพลิงไหม้ สายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สมุทรปราการ-เปิดงานยิ่งใหญ่!! มหกรรมผ้าไทยฯ บนพื้นที่สวนสาธารณะ กว่า 20 ไร่ ใจกลางเมืองแพรกษา

(14 พ.ย. 67) เทศบาลตำบลแพรกษา โดยการบริหารของนาง อรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ สมัยที่ 25 ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา จัดงาน “มหกรรมอนุรักษ์ผ้าไทย สุขใจได้ท่องเที่ยว ของดีตำบลแพรกษา ประจำปี 2567

โดยได้รับเกียรติจาก ท่านขจร  ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ประธานในพิธี พร้อมด้วย นายประทีป นทีทวีวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายวัฒนา เจริญจิตร นายอำเภอเมืองสมุทรปราการ นายเมธากุล สุวรรณบุตร สมาชิกสภา อบจ.สมุทรปราการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท S.MILES Group ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ร่วมในพิธีเปิดงาน “มหกรรมอนุรักษ์ผ้าไทย สุขใจได้ท่องเที่ยว ของดีตำบลแพรกษา” ณ สวนสาธารณะเทศบาลตำบลแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง สมุทรปราการ

ภายในงานยังได้มีการประกวดธิดาโรงงาน โดยทางบริษัทต่างๆ รวมถึงบริษัทอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่ตำบลแพรกษาได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประกวดแข่งขันธิดาโรงงานสร้างความคึกคักและสร้างสีสันให้กับงานเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีการเดินแบบชุดผ้าไทยจากนักเรียนโรงเรียนมัธยมแพรกษาวิเทศศึกษา (PWS)

การแสดงจากน้องๆ หนูๆ โรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษา รวมถึงการแสดงจากกลุ่มผู้สูงอายุการแสดงบาสโลป นอกจากนี้ ในคืนวันที่ 13 พฤศจิกายน ทางเทศบาลตำบลแพรกษาได้นำนักร้องและศิลปินชื่อดัง อาทิ น้ำแข็ง ทิพวรรณ และในคืนวันที่ 14 ชมการแสดงคอนเสิร์ตจากวง ลำไย ไหทองคำ และคืนวันที่ 15 นั้น กวาง กมลชนก ชมฟรีตลอดงาน ภายในงานยังมีซุ้มอาหารต่างๆ จำนวนกว่า 50 ร้านค้า ให้เลือกชิม ช้อป รวมถึงมีสระน้ำจำลองขนาดใหญ่ที่ทางเทศบาลตำบลแพรกษาได้จัดเตรียมไว้ให้พี่น้องประชาชนได้มาร่วมลอยกระทงในค่ำคืนของวันที่ 15 พฤศจิกายน อีกด้วย

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา กรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (นายภูมิธรรม เวชยชัย) 

(13 พ.ย. 67) เวลา 14.00 – 16.00 นาฬิกา พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา กรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (นายภูมิธรรม เวชยชัย) และหารือข้อราชการเกี่ยวกับนโยบายด้านกิจการทหารและความมั่นคง รวมทั้งการดูแลกำลังพลและทหารผ่านศึก ณ ศาลาว่าการกลาโหม กระทรวงกลาโหม 

ในการนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงกลาโหม ได้ให้การต้อนรับและหารือในประเด็น ดังนี้ 
1. ผลการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในด้านกิจการทหารและความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหม
2. นโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในด้านกิจการทหารและความมั่นคงในระยะเร่งด่วน
3. แนวความคิดในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและศักดิ์ศรีของทหารผ่านศึก (ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นนายกสภาทหารผ่านศึก)
4. แนวความคิดในการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมความมั่นคงและการป้องกันประเทศสู่สากล (ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศ)
๕. เรื่องอื่น ๆ /ประเด็นสำคัญที่ต้องการให้กรรมาธิการในฐานะสมาชิกวุฒิสภาผลักดันให้ประสบผลสำเร็จ 

โดยที่ประชุมหารือได้มีการพูดคุยและข้อเสนอแนะที่สำคัญทั้งเรื่องการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ กองทัพกับการพัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคง รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชน และการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติ รวมถึงเรื่องกิจการกำลังสำรอง ทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการ เรื่องความมั่นคงแบบองค์รวมที่เกี่ยวข้องกับหลายเรื่องต้องร่วมคิดร่วมขับเคลื่อนให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนสืบไป
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะได้นำข้อมูลและข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะที่ได้หารือร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงกลาโหมไปพิจารณาศึกษาและดำเนินการตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้เป็นรูปธรรมต่อไป 

‘สนธิ’ เปิดหน้าแฉ ทนายดาวไถ ผกก.โจ้ 10 ล้าน ชาวเน็ตห่วง ‘ทนายเดชา’ จบไม่สวยตามรอย ‘ทนายตั้ม’

(14 พ.ย. 67) เดือด ‘สนธิ’ ถาม ‘ทนายเดชา’ พอทราบไหมมีทนายผมหยิก ตัวดำ หน้ากล้อ คอสั้น ฟันเหยิน ตบทรัพย์ ผกก.โจ้ 10 ล้าน สะกิดข้อเท็จจริงสืบไม่ยาก เข้าไปเจออดีตนายตำรวจคงทราบชื่อนักกฎหมายจอมไถ ก่อนอีกฝ่ายโร่ย้ำรายการช่องดัง ถูกใส่ร้ายท้าไปดูสรุปสำนวนที่ สน.

จากกรณีเปิดศึกน้ำลายออกมากล่าวหาไปจนพาดพิงกันนอกรอบ ระหว่างนายสนธิ ลิ้มทองกุล กับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โดยปมเดือดล่าสุดเป็นประเด็นที่เจ้าของและผู้ก่อตั้งนสพ.ผู้จัดการ ได้ปลุกผีคดีผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ซึ่งมีคดีซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยแต่ลดโทษจากประหารเหลือจำคุกตลอดชีวิต

โดยนายสนธิมีการเกริ่นเนื้อหาบางช่วงที่ระบุ “มีทนายผมหยิก ตัวดำ หน้ากล้อ คอสั้น ฟันเหยิน ตบทรัพย์ ผกก.โจ้ 10 ล้าน” ก่อนจะร่ายยาวในรายการ sondhitalk ระบุ ตนไม่ได้ข่มขู่ใครส่วนนายเดชาเคยไปข่มขู่ใครหรือไม่ ตนไม่อาจทราบได้จริง ๆ แต่มีคนเล่าให้ฟังถึงผู้กำกับโจ้ว่ามีทนายคนหนึ่งมีคลิปว่าคนตายนั้นเสียชีวิตจากที่ผกก.โจ้นั้นคลุมถุง ถ้าไม่ให้เปิด ขอ 10 ล้าน แต่ทนายความของนายตำรวจปฏิเสธ คลิปจึงถูกส่งต่อมาที่ทนายตั้ม

“ตนไม่ทราบว่าใคร ใครทราบช่วยแจ้ง คุณเดชาพอทราบหรือไม่”

หลังจากเปิดโปงพฤติกรรมจนชัดเจนในความไม่ชอบมาพากล นายสนธิยังยืนกรานเรื่องนี้ตรวจสอบไม่ยาก เพียงแค่ตนทำเรื่องขอเข้าไปสอบถามผู้กำกับโจ้ในเรือนจำคลองเปรม “โจ้ครับ มีเรื่องนี้จริงไหม ถ้าเขาบอกว่าจริงก็อาจรบกวนให้ช่วยบอกชื่อหน่อยได้หรือไม่“

ขณะที่นายเดชาหลังถูกพาดพิงก็ออกมาชี้แจงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกว่าทุกครั้ง โดยกล่าวในรายการคนดังนั่งเคลียร์ของช่อง 8 ยืนกรานไม่ใช่คนที่ได้คลิปคลุมถุงผกก.โจ้ ก่อนแล้วไปเรียกเงิน พอไม่ได้จึงส่งให้ทนายตั้ม

ทนายเดชาย้ำเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแน่นอน เนื่องจากสรุปสำนวนคดีอยู่ที่ สน.โคกคราม พร้อมกับเตือนไปถึงคนที่พาดพิง ถ้ายังนำมาเป็นประเด็นนี้มาใส่ร้ายก็เตรียมรอหมายศาลได้เลย

“อันนี้ไม่จริงเป็นความเท็จ และผมได้แจ้งความดำเนินคดีกับทนายตั้มไว้ที่ สน.โคกครามแล้วก็พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปพบผกก.โจ้แล้วสอบปากคำเรียบร้อยแล้วว่าทนายเดชาไม่ได้เข้าไปเรียกเงินแต่อย่างใด สามารถไปขอดูหลักฐานดังกล่าวได้ ถ้าใครอยากจะได้ตนก็พาไปได้ เรื่องพวกนี้เป็นข่าวใส่ร้าย อันนี้ 100% ถ้าใครยังพูดอยู่ เดี๋ยวผมก็จะเอาหมายศาลใส่ไปให้ที่บ้าน” นายเดชา ระบุ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top