Wednesday, 9 July 2025
NEWS FEED

‘โทนี่’ ฮิปโปแคระเยอรมัน ส่ง!! จดหมาย - ของขวัญ ให้หมูเด้ง ย้ำ!! ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อมิตรภาพที่ดีต่อกัน ตลอดไป

(17 พ.ย. 67) เฟซบุ๊ก ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง ได้โพสต์ข้อความ ...

โทนี่ฮิปโปแคระจากเยอรมัน ส่งจดหมายและของขวัญ ให้หมูเด้ง

แต่อ่านเเล้วน้ำตาจะไหล อ่านไม่ออก 555... 

On behalf of our baby hippo Toni, we are sending you a special gift. We think Toni and Moo Deng are destined to be long distance BFFs! (Best friend forever)
Here’s a special friendship bracelet just for Moo Deng

ต่อมา แอดมินเพจ ได้ แปลเนื้อหาในจดหมาย ความว่า ...

เราส่งของขวัญพิเศษในนามของฮิปโปแคระตัวน้อย ชื่อว่า Toni ของเรา แม้ว่าจะอยู่ไกลกันแต่เราคิดว่าโทนี่กับหมูเด้ง ถูกกำหนดให้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดไป นี่เป็นสร้อยข้อมือมิตรภาพที่ทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ Moo Deng

ทั้งนี้ของขวัญที่ฮิปโป โทนี่ส่งมาเป็นของขวัญให้หมูเด้งก็คือ สร้อยลูกปัด และ โปสการ์ด เป็นรูปลิงกอลิลา และนกฟลามิงโก

โดยมีแฟนเพจได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น เอ็นดู ‘พี่เบนซ์’ พี่เลี้ยงของหมูเด้ง ที่โพสต์ข้อความนี้ พร้อมกับถามว่า

‘หมูเด้ง’ จะส่งอะไรกลับไปให้ ‘โทนี่’

ว่าที่ลูกเขยพี่เบนซ์

อร๊ายยยย ผู้ชายให้สร้อยข้อมือ ใส่ตรงไหนอ่ะทีนี้
4 เดือน ก็มีหนุ่มส่งจดหมายมาหาแล้ว สายฝอนะเรา เด้งเอ้ย
ของหมั้นแน่ๆ ว่าแต่ชื่อเดียวกับพ่อเด้งเลยอ่ะเนอะ

'พลัฏฐ์' นำทีมคนรุ่นใหม่ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ เที่ยว 'งานวัดสระเกศ 2567' สักการะ!! พระบรมสารีริกธาตุ - เก้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ - ร่วมประเพณีห่มผ้าแดง

เมื่อวานนี้ (16 พ.ย. 67) นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ อดีตผู้สมัคร สส. กทม. เขต 1 นำทีมคนรุ่นใหม่ พรรครวมไทยสร้างชาติ อาทิ ร.ต.อ.หญิงอัยรดา บำรุงรักษ์ รองโฆษกพรรคและผู้ช่วยผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ, นางสาวพัชรนันท์ โกศลสมบัตินนท์ เข้าร่วม งานภูเขาทอง 2567 หรือ งานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 8-17 พฤศจิกายน 2567 

นายพลัฏฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่ว่างเว้นการจัดงานไปหลายปี เมื่อสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลง การจัดงานภูเขาทองจึงได้กลับมาอีกครั้ง ตนและทีมคนรุ่นใหม่ พรรครวมไทยสร้างชาติ ดีใจที่ได้มาเที่ยวชมงานในวันนี้ ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และ เก้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประเพณีห่มผ้าแดง นอกจากนี้ยังมีการสืบสาน วัฒนธรรมไทย 4 ภาค พร้อมความสนุกสนานไปกับ เกมส์งานวัด, ชิงช้าสวรรค์, การแสดงดนตรีลูกทุ่งย้อนยุค, แต่งชุดไทย เดินเที่ยวตลาดย้อนยุค, ลอยประทีปเทียนหอมบูชาพระพุทธเจ้าน้อย, การออกร้านค้าชุมชนและอาหารนานาชนิด การประดับไฟตกแต่งกว่า 1 ล้านดวง

"การจัดงานในครั้งนี้ ได้ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สืบทอดประเพณี วัฒนธรรมอันดีงาม กระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้ชุมชนโดยมีประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงร่วมกับชุมชน ออกร้านค้าจำหน่ายสินค้ามากกว่า 100 ร้านค้าตลอด 10 วันคาดว่าจะสร้างเศรษฐกิจชุมชนหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท" นายพลัฏฐ์ กล่าวทิ้งท้าย

‘อุ๊งอิ๊ง’ พูดคุย!! นักเรียนไทยในเปรู ที่มาทำงาน อาสาสมัครเอเปค ยัน!! เตรียมพิจารณาให้ทุนการศึกษา เพื่อเรียนต่อต่างประเทศ

(17 พ.ย. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ในการประชุม APEC CEO Summit และจากการได้พบปะและพูดคุยกับน้องๆ เยาวชนคนไทยที่มาเป็นอาสาสมัครและมาช่วยงานในการประชุมเอเปคครั้งนี้ ทราบว่ามีความต้องการให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนทุนการศึกษา ซึ่งตรงกับนโยบาลรัฐบาลที่อยากให้เด็กไทยมีทุนการศึกษาที่มากขึ้นเพื่อมีโอกาสพัฒนาบุคคล และพัฒนาชาติไปพร้อมๆ กันด้วย 

จะสนับสนุนน้องๆที่อยากจะไปเรียนต่างประเทศ และจะกำหนดนโยบายให้เปลี่ยนไปศึกษาในสาขาวิชา ที่เกี่ยวข้องกับ พวกเทคโนโลยีแห่งอนาคตให้มากขึ้น ซึ่งสาขาการบริหารธุรกิจและการตลาด ที่นิยมมาเรียน น่าจะลดลงเพราะที่ประเทศไทยก็มีดีอยู่แล้วแต่ศาสตร์ด้านเทคโนโลยีล้ำหน้าหรือ AI เป็นตลาดธุรกิจที่ต้องการมาก รัฐบาลจะสนับสนุนตรงนี้ก็จะเป็นประโยชน์กับนักศึกษาและประเทศไทยด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่า "การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเยาวชนกับรัฐบาล ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ขอส่งกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน พร้อมยืนยันว่ากลับไปจะไปพิจารณาเรื่องการให้ทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อในต่างประเทศทันที" นายกรัฐมนตรีกล่าว

‘สาวญี่ปุ่น’ ลอง!! ‘โชยุ – โคชูจัง – น้ำจิ้มซีฟู้ด – เพสโต – ซอสพริก’ กินคู่ ‘กุ้งสด’ ผลปรากฏ น้ำจิ้มซีฟู้ด โดนใจ!! ให้ 10 คะแนนเต็ม ชาวเน็ตคอมเมนต์ ตำเองแซ่บกว่า

(16 พ.ย. 67) กระแสไวรัลในโลกออนไลน์กำลังฮือฮาสนั่น หลังติ๊กต๊อกเกอร์ชาวญี่ปุ่นทำคอนเทนต์เปรียบเทียบซอส 5 ชนิด 5 สัญชาติว่า ซอสและน้ำจิ้มจากประเทศไหนรับประทานคู่กับกุ้งสดอร่อยที่สุด

ผู้ใช้ติ๊กต็อก 神楽ひなこ ทำคอนเทนต์ทานกุ้งสดกับซอสต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ซึ่งให้คะแนนความอร่อยและความเข้ากันตามความชอบส่วนตัวของตนเอง โดยแบ่งออกเป็นโชยุจากญี่ปุ่น, โคชูจังจากเกาหลีใต้, น้ำจิ้มซีฟู้ดจากไทย เพสโตจากอิตาลี และซอสพริกจากเวียดนาม

ภายในคลิปที่สาวฮินาโกะทานก็ได้รีวิวรสชาติด้วยคะแนนเต็ม 10 คะแนนว่า โชยุมีคะแนน 9 คะแนน โคชูจังมีคะแนน 7 คะแนน น้ำจิ้มซีฟู้ด 10 คะแนน เพสโต 4 คะแนน และซอสพริก 8 คะแนน นับตั้งแต่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ก็มีคนเข้ามารับชมถึง 7.8 ล้านวิว

นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์อีกด้วย เช่น

ไม่มีใครปฏิเสธน้ำจิ้มซีฟู้ดได้

โอ้โหน้ำตาจะไหลในที่สุดก็มีคนรีวิวน้ำจิ้มไทยโดยใช้น้ำจิ้มซีฟู้ดแล้ว ช่องอื่นใช้น้ำปลา น้ำปลาร้าจะร้องไห้

ส่วนตัวการกินของทะเลสด กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและโชยุอร่อยที่สุดละ

กว่าจะได้ 10 คะแนน น้ำปลาหมดหลายขวดละ

ต้องตำเองครับ แซ่บกว่าเป็นขวดเยอะ

‘ทนายรณณรงค์’ เข้าให้ปากคำคดี ‘ทนายตั้ม’ ย้ำ!! ห่างกันนานแล้ว ยัน!! ไม่รู้จัก ‘เจ๊อ้อย’

(16 พ.ย. 67) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พนักงานสอบสวนได้เรียก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือ ทนายรณณรงค์ เข้าให้ปากคำเกี่ยวกับคดีของทนายตั้ม ก่อนเข้าให้ปากคำทนายรณรงค์ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ตำรวจสอบสวนกลางเรียกมาสอบพยานคดีทนายตั้ม ยังไม่รู้ว่าจะถามประเด็นอะไรบ้าง แต่น่าจะเป็นคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาจจะปมเงินเรื่องของเงิน 71 ล้านด้วย ตนกับทนายตั้มห่างกันแล้ว ตั้งแต่ทนายตั้มเริ่มรวยขึ้น ก็ไม่ได้กินข้าวด้วยกัน ไม่รู้เป็นโชคดีหรือโชคร้าย

นายรณณรงค์ กล่าวว่า ทนายตั้มได้ชวนตนไปบ้าน ชวนไปกินไวน์และกินข้าว แต่ตนยังไม่เคยได้ไป มีการบอกและเล่าให้เพื่อนฟังว่าบ้านที่ซื้อมาราคาเท่าไหร่ และตกแต่งบ้านไปกี่บาท รู้สึกแปลกใจเรื่องราคาบ้าน แต่ไม่เคยถามว่าเอาเงินมาจากไหนเพื่อซื้อบ้านหลังนี้ เพราะค่าจ้างทนายตั้มมีราคาที่ค่อนข้างแพง

เมื่อถามว่า ผิดปกติกับการทำอาชีพทนายความหรือไม่เพราะร่ำรวยผิดปกติ นายรณณรงค์ ระบุว่า ถึงจะค่าจ้างแพงแต่เงินมันกระโดดไปหน่อย ถ้าทำสำนักงานและมีเรทราคาค่อนข้างสูงและเปิดเป็น10 ปี จะไม่แปลกใจ แต่ถ้าหากเพิ่งเปิดสำนักงานแต่รับเรทขนาดนี้เลย แต่เปิดมาไม่กี่ปีตนก็มองว่ามีความแปลก แต่อยู่ในวิสัยที่ซื้อบ้านได้ในราคานี้ ถ้าหากดูจากค่าจ้างของทนายตั้ม

ถามต่อว่า มีการพูดถึงเรื่องเจ๊อ้อยให้ฟังบ้างหรือไม่ นายรณณรงค์ ย้ำว่า จำไม่ได้ ไม่ได้สำคัญ ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักเจ๊อ้อยมาก่อน มารู้จักพร้อมนักข่าว ถ้าหากตำรวจถามเรื่องอะไรก็จะตอบให้หมดเพราะตนเป็นพลเมืองดี ส่วนที่เข้ามาให้ปากคำในวันนี้อาจจะเป็นไทม์ไลน์ที่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงในคดีที่เกิดขึ้นหรือไม่ ทางทนายรณณรงค์ ระบุว่า ต้องเกี่ยวแหละ ไม่งั้นทางตำรวจคงไม่เรียกมา

ไม่ได้กังวลและไม่แปลกใจที่ต้องมาสอบปากคำในวันนี้ แค่แปลกใจว่าทำไมเพื่อนสนิทคนอื่นไม่โดนบ้าง ผมห่างกับทนายตั้มที่สุดแล้ว

เมื่อถามว่าในกลุ่มเพื่อนมีใครคุยกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ว่า ให้ข้อมูลว่าอย่างไร นายรณณรงค์ บอกว่า ไม่มีใครมีข้อมูล และไม่มีใครรับรู้ด้วย ถ้ารู้คงไม่ได้มายืนในจุดนี้

ส่วนจะมีโอกาสเข้าไปเยี่ยมเพื่อนบ้างหรือไม่ นายรณณรงค์ เผยอีกว่า ยังไม่ใช่ช่วงเวลาแบบนี้ รอให้สถานการณ์นิ่ง ไม่มีนักข่าวมาเฝ้า ให้เป็นเรื่องของอนาคต

ทั้งนี้ นายรณณรงค์ เชื่อว่า ตนเชื่อว่าในวันที่ทนายตั้มถูกจับแล้วอ้างว่าไปปฏิบัติธรรมนั้นเป็นความจริง เพราะเวลาที่มีเรื่องทนายตั้มมักชอบไปปฏิบัติธรรม

เจ้าสาวสุดช้ำ งานวิวาห์แทบไม่มีรูปสวย ขอแรง!! ช่างภาพช่วยรีทัช คนถกสนั่น

(16 พ.ย. 67) เป็นโพสต์ไวรัล ที่มีคนแชร์ออกไปจำนวนไม่น้อย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ลงในกรุ๊ป ว่าที่เจ้าสาว ส่งต่อของแต่งงาน ช่างแต่งหน้า สถานที่จัดงาน แบ่งปันข้อมูล ซึ่งมีสมาชิกกว่า 265,000 คน

โพสต์ดังกล่าว เธอได้โพสต์ภาพงานแต่งในชุดไทย ทั้งภาพกับเพื่อนเจ้าสาว 3 ใบ พร้อมว่า 

มีพี่ช่างภาพหรือพี่คนไหนรับรีทัชภาพ ทำให้ภาพสว่าง สวยขึ้นมาบ้างมั้ยคะ คือจ้างช่างภาพมาแล้วภาพแต่ละภาพที่ได้ออกมาคือเฮ้อออเลยค่ะ แทบจะไม่มีรูปสวยเลย ตัวอย่างภาพค่ะ นี่คือภาพที่ช่างภาพถ่ายให้ค่ะ

ซึ่งมีคนแชร์ออกไปมากกว่า 400 ครั้งด้วยกัน โดยหลายคนก็ได้เข้ามาโพสต์ภาพที่ปรับแสงให้ใหม่แล้ว ขณะที่หลายคนก็เข้ามาคอมเมนต์แนะนำ อาทิ

ขอแสดงความคิดเห็นตรงๆ นะครับ เรื่องที่ช่างภาพแต่งภาพแต่งรูปให้แบบนี้ก็ดูไม่ไหวจริง ๆ ครับ อีกใจนึงก็สงสารช่างภาพ สภาพแสงแบบนี้ต่อให้โคตรเก่งก็ยังลำบากครับ อีกใจนึงก็เอะใจว่าทำไมออร์แกไนซ์ไม่กันแสงให้ มันทำให้ในรูปออกมาไม่สวยครับ

ช่างภาพไม่มีไฟ ไม่มีแฟลชเลยเหรอ 555 ค่าตัวเท่าไหร่ครับ อยากรู้จริง ๆ

เอาจริง ๆ นะครับ ผมสงสารช่างภาพมาก วางแบ๊กดรอปแบบนี้ ต่อให้ช่างภาพเก่งแค่ไหน ก็ลำบากครับ วางไม่ดูแสงเลย แถมยังไม่หาอะไรมาบังแสงให้อีก วางได้แย่มาก แต่ถ้าเอาจริงๆ รูปแบบนี้มันก็พอแต่งได้อยู่ครับ ไม่เกินความสามารถของช่างภาพหรอกครับ เป็นกำลังใจให้บ่าวสาวนะครับ

มองเป็น 2 ประเด็นครับ คือออร์แกไนซ์เห็นว่าแสงเข้าตอนมาทำฉากไหมครับว่าแสงมันล้น และทแยงเข้ามาแบบนี้ ทำให้ถ่ายยากครับ อันที่จริงแบ๊กดรอปควรอยู่ในจุดที่แสงไม่แรงจนเกินไปครับ บอกเลยแสงแบบนี้ยากครับ สิ่งที่จะช่วยได้จากตัวช่างคือแฟลชครับ แต่ต้องยิงแรงมากๆ มู้ดหายหมด อีกอย่างคือยกเต็นท์งานมาบังแดดครับ ปล่อยให้มืดไปเลย แล้วเอาไฟมาตั้งและผมทำมาแล้วครับ (มีเต็นท์ว่างอยู่พอดี) ยอมเสียเวลาดีกว่ามานั่งแก้ไฟล์ครับ แบบนี้เสียหายทั้งช่างและเจ้าภาพ แต่เห็นใจทั้งคู่ครับ ประสบการณ์จะสอนตัวช่างเองครับ

ถ้าขอไฟล์ Raw มาได้แก้ให้ได้ครับสอบถามได้

ช่างภาพใจร้ายมากกกกก

'รัฐมนตรีเฉลิมชัย' เร่งแก้ปัญหาPM 2.5 จับมือ 'ผู้ว่าฯ กทม.-นครบาล-ขนส่งทางบก' ปฏิบัติการเข้มขจัดฝุ่นอันตรายในกทม.

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. นำทีมอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ หารือความร่วมมือควบคุมฝุ่น PM 2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานคร ในปี 2568 ร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร และนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เพื่อวางมาตรการแนวทางกาาปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาฝุ่นละอองจากการจราจรและการก่อสร้างในเขตเมือง ที่ห้อง Co-Working Space กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยสถานการณ์ล่าสุดวันนี้ (16 พ.ย.2567) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 07.00 น.ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 17.3-55 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 6 พื้นที่ คือ

1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 55.0 มคก./ลบ.ม.
2.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 45.6 มคก./ลบ.ม.
3.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 44.0 มคก./ลบ.ม.
4.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.
5.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 39.0 มคก./ลบ.ม.
6.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 38.0 มคก./ลบ.ม.

สมุทรปราการ-ผกก.สภ.บางพลี ปล่อยแถวข้าราชการตำรวจ ดูแลความปลอดภัยบริเวณพื้นที่จัดงานสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

นายขจิตเวช แก้วน้อย นายอำเภอบางพลี พร้อมด้วย พ.ต.อ. ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี เป็นประธานร่วมปล่อยแถวข้าราชการตำรวจ สภ.บางพลี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร 

เพื่อลงพื้นที่คอยดูแลความปลอดภัยบริเวณพื้นที่จัดงานลอยกระทง ประจำปี 2567 อีกทั้ง เพื่อเป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมในงานสืบสานประเพณีลอยกระทงในเขตพื้นที่อำเภอบางพลี

นอกจากนี้ ยังได้มอบโอวาทให้แก่ทางข้าราชการตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ที่ได้เสียสละอุทิศตนดูแลความปลอดภัยรับใช้พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงโดยในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งในเขตพื้นที่และในเขตใกล้เคียงเดินทางมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก 

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้มีการประชุมวางแผนรับมือด้านการจราจร รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่เดินทางมาร่วมในงาน อีกทั้ง เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่นักท่องเที่ยวและป้องกันเหตุอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
       

กองปราบ ยื่นขอหมายจับ!! ‘เจ๊พัช กฤษอนงค์’ ข้อหา 'กรรโชกทรัพย์ - ตัวกลางเรียกรับสินบน'

(16 พ.ย. 67) พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ได้เข้าสอบปากคำ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ ‘บอสพอล’ กับ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสปัน ในเรือนจำ

เพื่อซักถามรายละเอียดทางคดีเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีที่ถูก น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ เรียกเงินเพื่อแลกกับการไม่เปิดโปงธุรกิจดิไอคอน ก่อนนำมาประมวลเรื่องราวควบคู่พยานหลักฐาน

ก่อนที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. จะนำหลักฐานและคำให้การของพยานในคดีทั้งหมด เข้ายื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขออนุมัติการออกหมายจับน.ส.กฤษอนงค์ หรือ เจ๊พัช

ในความผิดฐาน ‘กรรโชกทรัพย์’ และ ‘เป็นตัวกลางเรียกรับสินบน’ จากกรณีแอบอ้างเรียกเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

‘อาจารย์อ๊อด’ ร่วมด้วย!! ช่วยแฉ ชี้!! ทนายกร่าง ทำแสบไว้หลายเรื่อง

(16 พ.ย. 67) อาจารย์อ๊อด หรือ อ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์เคมีชื่อดัง ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ ‘SondhiX’ ซึ่งดำเนินรายการโดย นายนพรัฐ พรวนสุข บรรณาธิการอาวุโส สื่อเครือผู้จัดการ-News1 โดยได้พูดถึงประเด็นที่สังคมไทย กำลังให้ความสนใจ เกี่ยวกับ ทนายชื่อดัง โดยเนื้อหาในการพูดคุยกันนั้น มีดังนี้ ...

ผมก็ประกาศว่าเอาให้สุด ไม่เหมือนคุณอา (นายสนธิ) ส่วนนี้นะ คือสุดซอยของผมนี่คือจนตรอก ตรอกนี่จะเล็กกว่าซอยเอาให้จนตรอกไปเลย ไม่ว่าจะเป็นผมหรือเขานะ

ทำไมถึงแค้นขนาดนั้น?

มันเริ่มจากผมไปนั่งเป็นที่ปรึกษาให้กับ บริษัทของ ‘เสี่ยเปี๊ยก’ ที่เพชรบุรี ผู้รับเหมาก็ฟ้องเสี่ยเปี๊ยก เสี่ยเปี๊ยกก็ฟ้องผู้รับเหมา ก็ฟ้องกันไปฟ้องกันมา แล้วปรากฏว่า ผมก็มีชื่อติดไปด้วย โดนฟ้องเป็นคดีแพ่งนะครับ ไม่ใช่คดีอาญา ซึ่งผมโดนหางเลขเพราะว่าผมก็ขอลาออกไปช่วยผู้รับเหมานะครับ ก็เลยโดนกล่าวหาว่าเห้ยเราไปฮั้วกับผู้รับเหมาอะไรประมาณเนี้ย มันก็เป็นเรื่องของการผิดสัญญาธรรมดา หลังจากนั้นเนี่ยทางเสี่ยเปี๊ยก เค้าก็มีทนายเค้าอยู่ละครับมันก็เป็นเรื่องภายในอะครับ

ปรากฏว่าสํานวนฟ้องมันหลุดไปได้ยังไงไม่รู้นะครับ แล้วก็ไปถึงมือหลายคน ซึ่งมาถึงบางอ้อหลังจากที่อาจารย์อ๊อดได้มีโอกาสไปกินข้าวกับทนายตั้ม ตั้มก็บอกว่าเรื่องพี่อ๊อดน่ะมาที่ผมเยอะมากเลย อ้าวแล้วทําไมตั้มไม่ทํา ตั้มไม่ทําตั้มส่งให้คนอื่นต่อเราก็เลยถึงบางอ้อไงเพราะว่าเรื่องเนี้ยก็ไปโผล่ที่ facebook ของทนายคนนึง

โพสต์เลย อาจารย์ชื่อดังที่มีความเชี่ยวชาญด้านกัญชงกัญชาโกงหลอกนักลงทุนร้อย 150 ล้านโหตรงเป๊ะเลยนะกับคําฟ้อง

จนในที่สุดเขาก็พยายาม สโคปเข้าเรื่อยๆ ให้นึกถึงเป็น ‘อาจารย์อ๊อด วีระชัย’ เนี่ย!!

หลังจากนั้น ช่วงประมาณ 25 ตุลาคม 2565 สื่อก็รุมกันเล่น อาจารย์ก็สู้แหลกเลย ทำให้ต้องทะเลาะกับทุกคนเลย ก็มีที่มาจาก ‘ทนายพม่า’ คนนี้แหละ ‘ดำรัฐฉาน’

ทนายคนนี้ เขาเอาไปเล่นใหญ่เลย อ.อ๊อด โกง 150 ล้าน 

ไม่ได้มีข้อเท็จจริงอะไรเลย จนในที่สุดเสี่ยเปี๊ยก ก็ไปจ้างคนนี้มาเป็นทนาย อ.อ๊อด ก็สู้เลยทีนี้ มาด่าว่าเราโกง สุดท้ายอาจารย์ก็โดนไป 44 คดี 

ส่วนใหญ่เป็นหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา คืออาจารย์อ๊อดพยายามโพสต์อธิบายครับมันก็ต้องพาดพิง แล้วเราไม่รู้ข้อกฎหมาย เราก็พูดชื่อเค้าตรง ๆ เค้าก็ฟ้องเลยแต่ศาลยกฟ้อง ก็ด้วยบอกว่าเรามีส่วนคือเราอธิบายความ ผมก็เพิ่งมารู้ข้อกฎหมายตอนหลัง เราเป็นอาจารย์เคมีไม่รู้เรื่องกฎหมาย 

มันเป็นกลยุทธ์ของเขา เพื่อที่จะหลอกให้เราไปตกหลุมพราง พอเราตอบโต้เขา ก็กลายเป็นหมิ่นประมาท จัดการเล่นเราตรงนั้น เรียกค่าเสียหายคดีละ 3 แสนบาท  วางศาลแค่ พันเดียว แต่เรียกเรา 3 แสน

เท่านั้นยังไม่พอ ใครมีเรื่องกับอ.อ๊อด ก็ไปเรียกเขามารวมกัน จะว่าความให้อีก อ.อ๊อด ก็ได้แต่ตั้งการ์ดรับอย่างเดียวเลย เหมือนนักมวยอ่ะ มาตุ๊บตั๊บ กันเต็มไปหมดเลย

จนในที่สุดผมก็ได้รับคำแนะนำที่ดีจาก ท่านอดีตศาลที่ท่านได้เกษียณไปแล้ว ผมถึงได้โต้กลับแล้วผมก็ชนะ

พฤติกรรมที่ทํากับผม ผมร่างหนังสือร้องสภาทนายความ ผมร่างก็คือขอให้สภาทนายความเนี่ยลบชื่อออกเลยนะ ผมก็เอาจากที่ให้คําสัมภาษณ์สื่อทุกวันเนี่ย ร้องต่อสภาทนายความ

ปรากฏว่าวันดีคืนดี มีหมายศาลครับมาที่บ้านบอกว่าเราไปร้องเรียนที่สภาทนายความเนี่ยร้องเท็จ

จาก ‘ทนายดํารัฐฉาน’ ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท แล้วก็แจ้งเท็จ ร้องเท็จ ร้องเท็จเนี่ยหนักโทษหนักนะครับ ฟ้องที่ศาลแขวงดอนเมือง 

แต่ก่อนที่หมายศาลจะมา มีจดหมายจากสํานักงานทนายเดรัจฉาน มาที่บ้านครับจะเราก็งง เอ๊ะเขามีหน้าที่อะไรส่งหมายศาลมาให้เราก่อน ก่อนที่หมายศาลจริงจะมาส่งจดหมายมาก่อน ว่าคุณถูกฟ้องนะมันเหมือนข่มขู่เราอะแต่เราก็งงมากได้รับมา แต่ว่าเผอิญอาจารย์อ๊อดเนี่ยโดนฟ้องมาเกือบทั้งชีวิต เราก็เลยเฉย ๆ นะ รับมาปุ๊บก็สู้คดีครับสู้ไปจนศาลก็ตัดสินให้เราชนะ ก็ชนะเค้าก็อุทธรณ์ ศาลไม่รับอุทธรณ์ เมื่อไม่รับอุทธรณ์ก็ไม่ถึงฎีกา คดีก็ถึงที่สุดเลย หมายความว่า เราชนะทั้งสามศาล

ทีนี้พอมาเห็นคุณอาสนธิโดนเนี่ย เราก็เลยมองแล้วว่าเอ๊ะมันคล้าย ๆ กัน เขาจะประกาศหาแนวร่วมแล้วเขาก็จะใช้ความรู้ทางกฎหมาย บิดข้อเท็จจริง แล้วเขาก็จะไม่เอ่ยชื่อ ซึ่งลักษณะนี้มันก็จะคล้ายกับของ อ.อ๊อด ไง

อาจารย์อ๊อตเป็นที่ปรึกษา แล้วก็ถูกฟ้องพ่วงไปกับผู้รับเหมาเป็นเรื่องของการผิดสัญญาการก่อสร้าง แต่ไปบอกคนอื่นว่า อาจารย์ชื่อดัง ม.เกษตร หลอกลงทุน จนอาจารย์ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม 

เขาจะถล่มใคร คนๆ นั้นต้องตายภายใน 3 วัน 7 วัน คือไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอะ
เป็นภัยสังคมนะอย่างนี้

เพราะว่าไม่ได้สู้ตามกระบวนการปกติ

ไปด่าคนอื่นว่าใช้ศาลเตี้ย ตัวเองน่ะเป็นศาลเลยเอาโซเชียลตัดสินเขาจนเขาต้องเข้าโรงพยาบาลคือเขาจะผิดจะถูกอะไรต้องให้ศาลตัดสินใช่ไหมครับแล้วที่สําคัญเนี่ยเขาจะยียวนกวนประสาท อาจารย์อ๊อด ต้องตั้งสติ ต้องไม่ตอบโต้เขา แต่ก็ยังงงอยู่ว่าทำไมเขาถึงกร่างได้ แล้วเขาก็ทำแบบนี้กับทุกคน แล้วก็บิดเล็กบิดน้อยทั้งจิตวิทยาทั้งโซเชียลทั้งกฎหมาย

เอาให้สุดซอย และสุดตรอก จนตรอกเลยละกันนะ

คุณอาสนธิบอกว่า ‘คลานเข่า’ มาที่บ้านพระอาทิตย์ ก็ไม่เปิดให้ ของอาจารย์อ๊อดเนี่ย คลานมาหน้า ม.เกษตร อาจารย์ ‘เตะเสย’ เลยนะ!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top