“ผบ.ทสส.” หนุนฝึกร่วมเหล่าทัพ เผยยิง "ฮาร์พูน" กลางอันดามันแม่นยำ เสริมความมั่นใจกำลังพล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร. )พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ. )พล.ต.อ สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร. ) พล.อ.ชูชาติ บัวขาว รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ. ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งจอดลอยลำอยู่ในพื้นที่ทะเลอันดามัน บริเวณจังหวัดภูเก็ต เพื่อชมการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นแบบ HARPOON BLOCK 1C โดยเรือหลวงตากสิน และการฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพอากาศ (LINK – E)
จากนั้นคณะได้ออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังบริเวณยังเขาลำปี ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อชมการยิงอาวุธทางยุทธวิธี และยิงเป้าอากาศยาน ของ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.)และ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) นอกจากนั้น ยังมีการปฏิบัติร่วมกับเครื่องบินขับไล่แบบกริพเพ้น
ของกองทัพอากาศ โดยการฝึกสถานการณ์สมมุติภายใต้แผน “ศรีวิชัย2” ของกองทัพเรือ กับแผน “เฉลิมอากาศ” ของกองทัพอากาศ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมระดับเหล่าทัพสนับสนุนแผนป้องกันประเทศของกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นไปตามยุทธศาสตร์ในการดูแลรักษาประโยชน์ของชาติทางทะเล และทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านอันดามันและอ่าวไทย โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งทางด้านยุทธศาสตร์รวมถึงท่าเรือน้ำลึกต่างๆที่ตั้งอยู่ด้วย
หลังเสร็จสิ้นการฝึก พล.อ.เฉลิมพล ได้ยกนิ้วโป้งให้กำลังพล พอใจการฝึกในครั้งนี้ เพราะเป็นการฝึกประจำปีในหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นเรื่องของการปฏิบัติการป้องกันอธิปไตยบนฝั่งในกรณีมีภัยคุกคามทางทะเลเข้ามา ซึ่งเป็นการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างกองทัพเรือ กับ กองทัพอากาศ ที่รับผิดชอบอธิปไตยในน่านฟ้า ในการปฏิบัติภารกิจตามขีดความสามารถของตัวเอง จะทำหน้าที่แจ้งเตือนหากไม่สามารถต้านทานอากาศยานได้บางส่วน ก็จะส่งต่อเป้าหมายมายังกองทัพเรือภาค 3 ที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว ถือว่าเป็นการประสานงานที่สอดคล้อง และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการฝึก ซึ่งการฝึกของทหารเพื่อให้มีความพร้อมปฏิบัติภารกิจรักษาอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และมั่นใจในอาวุธยุทโธปกรณ์ ถือว่าเป็นการฝึกที่ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ต่อกำลังที่จะต้องหมุนเวียนกันในการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นการฝึกจึงมีความจำเป็น
ผบ.ทสส. กล่าวอีกว่า การยิงอาวุธปล่อยนำวิถีฮาร์พูน ถือว่ามีความแม่นยำมาก โดยเป็นการบินในระยะ 55 ไมล์ทะเลหรือ 110 กิโลเมตร นับเป็นการยิงครั้งแรกของกองทัพเรือหลังจากได้รับเรือหลวงตากสินมา ทั้งนี้อาวุธปล่อยนำวิถีฮาร์พูนมีอายุ 35 ปี โดยมีการปฏิบัติบำรุงตามวงรอบ ซึ่งถือว่าเป็นการยิงด้วยกระสุนจริงจากที่ผ่านมาเป็นการยิงด้วยกระสุนฝึกเท่านั้น จึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้หน่วยในการปฏิบัติภารกิจได้เป็นอย่างดี
“แม้จะเป็นการฝึกประจำปีของกองทัพเรือ แต่ในภาพรวมก็เป็นการประสานงานร่วมกันกับกองทัพอากาศด้วย โดยเฉพาะในส่วนที่เชื่อมต่อกับการปฏิบัติ และบางส่วนก็เชื่อมต่อกับกองทัพบก ซึ่งในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ที่จะทำการฝึกภาคสนามที่บ้านจันทเขลม จ.จันทบุรี กองทัพบกจะส่งยานเกราะเข้าร่วมการฝึกด้วย”พล.อ.เฉลิมพล กล่าว