Saturday, 10 May 2025
POLITICS NEWS

ศรีสุวรรณ จี้ ป.ป.ช. สอบ อธิบดีกรมธนารักษ์ หลังชาวบ้าน ร้อง เอาที่ สาธารณะ ริมคลองเปรมประชากร ให้เอกชนเช่า ปลูกบ้าน ส่อ ทุจริตต่อหน้าที่

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้นำตัวแทนหมู่บ้านต่างๆ ใน ซอยงามวงศ์วาน 59 เขตจตุจักร เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการใช้อำนาจของอธิบดีกรมธนารักษ์ กรณีที่นำพื้นที่ถนนสาธารณะและสวนสาธารณะริมคลองเปรมประชากรไปให้เอกชนเช่าปลูกบ้านอาศัย อันถือได้ว่าเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักระบายน้ำ กทม.ได้เข้ามาก่อสร้างเขื่อนและทางเดินริมคลองเปรมประชากร เพื่อพัฒนาภูมิทัศน์และป้องกันการบุกรุกของชุมชนแออัดอย่างผิดกฎหมาย บริเวณซอยงามวงศ์วาน 59 ริมคลองเปรมประชากร ตามนโยบายของรัฐบาล ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รวมตัวกันเป็นชมรมคนรักคลองเปรม ได้ช่วยกันพัฒนาพื้นที่ริมคลองดังกล่าวตามแนวถนนซอยงามวงศ์วาน 59 ให้สวยงาม ร่วมใจบริจาคเงินมาร่วมกันปลูกต้นไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผักสวนครัว เพื่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงาม

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ปรากฏว่าพื้นที่ถนนสาธารณะและสวนสาธารณะที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันมากว่า 80 ปีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ 21 ตารางวาดังกล่าว ถูกกรมธนารักษ์ นำไปให้เอกชนเช่าในราคาถูกเพื่อสร้างบ้านพักอาศัยแล้ว และขณะนี้กลุ่มผู้เช่าดังกล่าวได้ออกมาแสดงสิทธิ์ในการเช่าโดยการปักป้ายบริเวณสวนหย่อมที่ชาวบ้านร่วมกันพัฒนาขึ้นมาว่า “ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้ามาใช้ประโยชน์ หรือทำให้ทรัพย์สินเสื่อมเสีย เสียหาย หากผู้ใดฝ่าฝืน จะดำเนินคดีตามกฎหมาย” ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นถนนสาธารณะที่ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางสัญจรเข้าออกชุมชนมาอย่างยาวนานก็ตาม

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พื้นที่ริมคลองหรือพื้นที่ริมตลิ่งนั้น ตามป.แพ่งและพาณิชย์ ม.1304(2) บัญญัติให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เพื่อสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งตามพระราชบัญญัต(พ.ร.บ.)ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 ได้บัญญัติไว้ว่า “ที่ราชพัสดุ หมายความว่า อสังหาริมทรัพย์อันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินทุกชนิด เว้นแต่ สาธารณสมบัติของแผ่นดิน คือ  อสังหาริมทรัพย์สําหรับพลเมืองใช้หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ของพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นต้นว่า ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ทางหลวง ทะเลสาบ” ดังนั้น การที่กรมธนารักษ์นำที่ชายตลิ่งริมคลอง ซึ่งเป็นถนนและสวนสาธารณะมาให้เอกชนเช่า ย่อมเป็นการฝ่าฝืนย้อนแย้งกฎหมายของตนเองโดยชัดแจ้ง

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนสอบสวนเอาผิดกรมธนารักษ์และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม พ.ศ.2561 และตาม ป.อ.มาตรา 306 

พล.อ.ประวิตร ช่วยเหลือคนพิการ สนับสนุนกองทุนดิจิทัลฯ ส่งเสริมการศึกษา/การเข้าถึง อนุมัติขยายเวลาโครงการ ช่วยแพทย์/พยาบาล  รับมือโควิด-19 ย้ำทุกโครงการ ต้องโปร่งใส ปชช.ได้ประโยชน์ คุ้มค่า

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 2/2564 โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดศ. เข้าร่วมประชุม  ณ  ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุม ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงาน ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมโดยได้ทำการเปิดรับข้อเสนอโครงการประจำปี 2564 ครั้งที่ 1 ทั้งสิ้น 649 โครงการ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณาโครงการ จะได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลต่อไป

จากนั้น คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบโครงการที่สำคัญ และจำเป็นเร่งด่วน ได้แก่ โครงการศึกษา และพัฒนาทักษะทางสังคม (Soft skills) และทักษะดิจิทัล (Digital Skill) เพื่อรองรับการพัฒนาแห่งอนาคต ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ และโครงการศึกษาแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึง และใช้ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับคนพิการ รวมทั้งเห็นชอบการขอขยายระยะเวลาโครงการ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่

1.)โครงการจัดหาระบบ ICT และ Health Tech เพื่อส่งเสริมการรักษาพยาบาล และเพิ่มศักยภาพการรับมือโควิด-19 จำนวน 90 วัน

2.)โครงการหุ่นยนต์ AI ช่วยแพทย์และพยาบาล ช่วงโควิด-19 ของ รพ.อู่ทอง จำนวน 120 วัน และ

3.) โครงการระบบปรับแรงดันอาการเป็นลบขนาดใหญ่ ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าฯจำนวน 180 วัน

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้คณะอนุกรรมการฯ และคณะทำงาน จะต้องพิจารณากลั่นกรองโครงการ อย่างรอบคอบ และคัดเลือกโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาดิจิทัล อย่างแท้จริง โดยคำนึงถึงความโปร่งใสในทุกขั้นตอนของการพิจารณา การใช้จ่ายงบประมาณจะต้องเป็นไปอย่างคุ้มค่า โปร่งใส และเกิดประโยชน์ต่อประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล

'จตุพร' นำทีมบุกทำเนียบ ประกาศยกระดับขับไล่ ‘บิ๊กตู่’ จากตำแหน่งนายกฯ ลั่น 24 มิ.ย. เจอยุทธการแม่น้ำ 100 สาย แผนพิฆาตฟ้าทลายโจร

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายนิติธร ล้ำเหลือ ตัวแทนกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) พร้อมด้วยสมาชิกคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอให้ลาออกจากตำแหน่ง และให้รัฐสภาเลือกบุคคลอื่นมาทำหน้าที่แทน รวมถึงให้ร่างรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยฉบับใหม่ โดยประชาชนที่เป็นผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ

จากนั้นนายจตุพร ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 24 มิถุนายน สมาชิกคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จะนัดชุมนุมกันที่ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ในเวลา 16.00 น. และจะเคลื่อนขบวนมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ โดยใช้เส้นทางผ่านถนนนครสวรรค์ มาที่ทำเนียบรัฐบาล แต่หากถูกสกัดกั้นก็จะกลับไปรวมกันในจุดเดิม ตนอยากฝากไปถึงผู้ที่บงการอยู่ในทำเนียบรัฐบาลว่า คุณยิ่งใช้อำนาจข่มขู่ประชาชนมากเท่าไหร่ ประชาชนจะมามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการออกมาแสดงพลังในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ เวลา 19.00 น. ที่จะให้ประชาชนที่ต้องการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง โดยตั้งชื่อหัวข้อว่า ประยุทธ์ออกไป

นายจตุพร กล่าวว่า ตนอยากเตือนพี่น้องตำรวจให้มาเป็นมิตรกัน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในอำนาจไม่กี่วัน แต่ประชาชนและประเทศชาติจะอยู่ตลอดไป ส่วนมาตรการต่างๆ ที่จะใช้รับมือกับการชุมนุม พวกตนไม่กังวล เพราะผ่านความตายกันมาหมดแล้ว ต้องโทษประหารชีวิต และติดคุกกันมาหมดแล้วหลายรอบ การออกมาข่มขวัญกันไม่สามารถทำอะไรพวกตนได้ ดังนั้นยุทธการแม่น้ำ 100 สาย แผนพิฆาตฟ้าทลายโจร ในวันที่ 24 มิถุนายนจะบังเกิด ให้พล.อ.ประยุทธ์ไปวิเคราะห์แผนนี้ เพื่อจะได้รับจะได้รับมือประชาชนได้ถูกต้อง

ทั้งนี้ในการต่อสู้ของประชาชนจะใช้แนวทางสันติวิธี เพียงแต่เจ้าหน้าที่จะต้องไม่ใช้ความรุนแรง หากใช้ความรุนแรง ประชาชนจะมาเพิ่มอีกหลายเท่าตัว ขอยืนยันว่าขณะนี้ตนยังไม่ได้ระดมหรือขนคนมาร่วมชุมนุม แต่บอกให้พี่น้องที่ไม่อยากทนกับระบอบประยุทธ์มากันเองอย่างแม่น้ำ 100 สาย และเชื่อว่าไม่มีใครสกัดกั้นประชาชนได้ อย่ากลัวการข่มขู่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ให้กลัวการอดตาย และความหายนะของประเทศชาติ เพราะคุกขังประชาชนไม่เพียงพอแจงมูลเหตุความล้มเหลวของบ้านเมืองและประกาศเจตนารมณ์มายังรัฐบาลให้ทราบโดยทั่วกัน

 

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/107198


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'มงคลกิตติ์' รับ 'ไทยศรีวิไลย์' อาจสูญพันธุ์ ลั่นยึดศักดิ์ศรี ต้านพลังดูดพรรคใหญ่

23 มิถุนายน 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า เผยความคิด อุดมการณ์ ส.ส.เต้ 007# มีเพื่อน ส.ส. และประชาชนจำนวนมากถามผมว่า ถ้าแก้ รธน. เป็นแบบบัตร 2 ใบ พรรคเล็กสูญพันธุ์เหลือแต่พรรคใหญ่เท่านั้น ผมไม่ไปเข้าพรรคใหญ่หรือมีโอกาสรอดเป็น ส.ส. นะ แต่ถ้าทำพรรคเดิม ต้องใช้คะแนนถึง 350,000 คะแนน ถึงจะได้ ส.ส. 1 ที่นั่ง

ผมตอบว่าผมไม่เป็นไร ผมเดินพรรคต่อตามอุดมการณ์เดิมถึงเวลานั้น ถ้าประชาชนเลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ไม่ถึงจำนวนที่กฎหมายกำหนดหรือไม่เลือก ผมก็แค่กลับไปสอนหนังสือ ไปเป็นวิศวกร ไปเป็นประชาชนเท่านั้น

จะให้ผมไปจ้างให้ประชาชนมาเลือกเพื่อให้ได้เป็นผู้แทน (ส.ส.) แบบท่านอื่นๆ ผมไม่ทำ ผมจะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีความเป็นคน และเป็นผู้แทนที่จ้างประชาชนมาเลือก ผมไม่เอาเด็ดขาด ผมต้องการเป็น ผู้แทนของประชาชน ก็ต่อเมื่อประชาชนเลือกผมมาเป็นปากเป็นเสียงแทนพวกเขา สู้เพื่อพวกเขา แก้ปัญหาให้พวกเขา มิใช่จ้างพวกเขามาเลือกให้เราได้เป็นผู้แทนเพื่อมาฟังคำสั่งเจ้าของเงินที่ให้เงินเรามาจ้างประชาชนมาเลือกเด็ดขาด

 

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/107321


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ชวน” เผยไทม์ไลน์ถกแก้ รธน. ยันลงมติแยกแต่ละฉบับ 24 มิ.ย. ตั้งกมธ.เป็นไปตามขั้นตอน

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ก็จะไล่ตามลำดับของพรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา 

เมื่อถามว่าความเป็นไปได้ที่จะรวมทั้ง 13 ญัตติเข้ามาพิจารณาเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการนั้น นายชวน กล่าวว่า ก็คงพิจารณาไปพร้อมกันคือให้เสนอไปทีละฉบับ แต่ว่าจะไปลงมติแยกในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) ซึ่งเวลาลงมติก็จะลงแยก แต่จะมีการถามทีละฉบับ ซึ่งคำนวณเวลาที่ใช้ในการลงมติอาจจะหลายชั่วโมง 

เมื่อถามอีกว่าถ้ามีข้อเสนอในช่วงสุดท้ายให้ตั้ง กมธ. ชุดเดียว เรื่องนี้ต้องแล้วแต่สมาชิกจะเป็นคนเสนอใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นไปตามขั้นตอนต่อไป 

เมื่อถามว่าถ้าจะมีการขยายวันประชุมเป็นวันที่สามจะเป็นไปได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เรากำหนดเวลาไว้ฝ่ายละ 6 ชั่วโมง และลงมติในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเขาก็จะมีการเฉลี่ยกันว่าแต่ละพรรคใช้เวลาเท่าไหร่แล้ว

ครม. ไฟเขียว กระทรวงอุตสาหกรรมฯ กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ยางล้อหล่อดอกซ้ำ ให้สอดคล้องข้อกำหนด UN 

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เนื่องจากปัจจุบันได้มีการนำยางล้อแบบสูบลมของรถบัส รถบรรทุก หรือรถพ่วง ซึ่งเป็นยางเก่าผ่านการใช้งานมานานและดอกยางสึกเสื่อมสภาพ นำกลับมาหล่อดอกยางใหม่แล้ววางขายในท้องตลาดจำนวนมาก และมีราคาถูกกว่ายางใหม่ แต่ยางหล่อดอกซ้ำเหล่านี้ไม่ได้รับการตรวจสอบคุณภาพและผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค ดังนั้น ครม.จึงอนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมหล่อดอกซ้ำ สำหรับยานยนต์เชิงพาณิชย์และส่วนพ่วง ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....  ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ  เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางเทคนิคยานยนต์ของสหประชาชาติ (UN Regulation No. 109)  และส่งเสริมให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานและเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค

ซึ่งร่างกฎกระทรวงมีสาระสำคัญ เป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมหล่อดอกซ้ำ สำหรับยานยนต์เชิงพาณิชย์และส่วนพ่วง ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 2979-2562 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 5471 พ.ศ.2562 โดยจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ายางล้อแบบสูบลมหล่อดอกซ้ำ สำหรับเชิงพาณิชย์และส่วนพ่วง จะต้องได้รับใบอนุญาตผลิตหรือนำเข้า ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 และผู้จำหน่ายจะต้องจำหน่ายสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตและมีการแสดงเครื่องหมายมาตรฐานถูกต้องครบถ้วน

ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้จัดรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ สมอ. (www.tisi.go.th) และแจ้งไปยังกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ร่วมแสดงความคิดเห็นเรียบร้อยแล้ว เช่น  สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย กรมการขนส่งทางบก สถาบันยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง รวม 140 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างกฎกระทรวง

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ประโยชน์ที่จะได้รับ เมื่อร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มีผลบังคับใช้ คือ 1)เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการยางล้อแบบสูบลมหล่อดอกซ้ำในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ และป้องกันการนำยางล้อหล่อดอกซ้ำที่ไม่ได้มาตรฐานเข้ามาจำหน่ายในประเทศ 2)เป็นการสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานรับรอง และคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค

“บิ๊กตู่” ยังยึดมาตรการปูพรมให้เอกชนแจ้งขอวัคซีนให้คนในองค์กรได้ แจง เปิดประเทศคำนึงการระบาดเฉพาะพื้นที่ โยนรัฐ-เอกชน หารือร่วมกันเอง ศบค.ไม่ใช่ผู้กำหนด พร้อมสั่งเร่งทุกจังหวัดเพิ่มเตียงรักษาโควิด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ตอบคำถามแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม กรณีเอกสาร ศูนย์บริการสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) แจ้งให้จัดหาวัคซีนให้กับบริษัทเอกชน และต่อจากนี้บริษัทเอกชนจะยังสามารถทำเอกสารเพื่อขอวัคซีนได้อีกหรือไม่ ว่า ทางกระทรวงมหาดไทยได้ชี้แจงไปแล้วในเบื้องต้น ปัจจุบันมีข้อปฏิบัติที่กำหนดโดยศบค.มท. ให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย ที่มีความประสงค์จะขอรับวัคซีนให้กับบุคลากร สามารถแจ้งความประสงค์ไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ในกรณีที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่และมีบุคลากรอยู่ในหลายจังหวัดหรือองค์กรระหว่างประเทศที่ติดต่อผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ สามารถแจ้งหนังสือมายัง อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอรับวัคซีนฉีดให้กับบุคลากร ซึ่งได้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายกฯ ได้ให้นโยบายตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนว่าจะฉีดแบบปูพรม ดังนั้นจึงมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างชัดเจน

นายอนุชา กล่าวถึงกรณีการแพร่ระบาดคลัสเตอร์ใหม่ในหลายจังหวัดจะทบทวนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หรือไม่ ว่าจากการประชุมศบค.ชุดใหญ่เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้หารือถึงสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรครวมถึงการเปิดประเทศตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเปิดประเทศใน 120 วันหรือเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งที่ประชุมมีมติว่าการพิจารณาเปิดพื้นที่นำร่องเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะที่จ.ภูเก็ต หรือตามเกาะต่างๆในจ.สุราษฎร์ธานี ทั้ง เกาะสมัย เกาะพงัน เกาะเต่า เป็นความตกลงร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ โดยจะคำนึงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่นั้นๆ รวมทั้งจำนวนผู้ได้รับวัคซีนและความพร้อมด้านสาธารณะสุขในพื้นที่ ดังนั้นการดำเนินการและปฏิบัติตามมาตราการด้านสาธารณสุขจะทำอย่างเคร่งครัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นนอกเหนือจาก จ.ภูเก็ตและเกาะต่างๆใน จ.สุราษฎร์ธานี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาเสนอ โดยรัฐและเอกชนจะต้องหาข้อสรุปให้ได้อย่างชัดเจนก่อนเสนอต่อที่ประชุมศบค.ให้พิจารณา และศบค.ไม่ใช่หน่วยงานที่จะกำหนดว่าพื้นที่ใดจะเปิดได้หรือไม่ ส่วนหลักเกณฑ์รับนักท่องเที่ยวยืนยันว่าจะดำเนินการให้เป็นตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก (WHO) 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคณะกรรมการบริหารราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย แสดงความห่วงใยต่อนโยบายเปิดประเทศใน 120 วัน นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ รับฟังโดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นเรื่องข้อกังวลต่างๆแต่ทั้งหมดนายกฯได้ให้นโยบายไว้แล้วว่าจะต้องรักษาสมดุลทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ การดูแลสุขภาพ และการดูแลการแพร่ระบาดจึงเป็นเหตุผลทำให้รัฐบาลต้องเลือกแซนด์บ็อกซ์ เปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะบางพื้นที่เช่นที่ภูเก็ต ซึ่งจะมีการควบคุมในพื้นที่นั้น แต่หากพื้นที่นั้นๆต้องมีการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงก็จะดำเนินการทันที ซึ่งสามารถแก้ไขและปรับเปลี่ยนเรื่องการเปิดประเทศในลักษณะการนำร่องในพื้นที่จังหวัดอื่นๆตามมา ส่วนที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าปัจจุบันผู้ติดเชื่อเพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้เตียงไม่เพียงพอ รวมถึงบางพื้นที่ไม่มีรถพยาบาลไปรับตัวผู้ป่วย ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันเดียวกันนี้ นายกฯได้สั่งการว่าให้แต่ละจังหวัดเพิ่มจำนวนเตียงและปรับให้รักษาผู้ป่วยตามอาการ อีกทั้งได้สั่งการว่าหากหน่วยงานใดมีความจำเป็นต้องเพิ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นเครื่องช่วยหายใจ เครื่องเอกซเรย์ ให้เร่งแจ้งความประสงค์เข้ามา นายกฯพร้อมพิจารณาอนุมัติให้เป็นการเร่งด่วนเพิ่มประสิทธิภาพของโรงพยาบาลในการรักษาผู้ป่วย 

เมื่อถามว่าจะมีการทบทวนการเปิดเรียนหรือไม่เพราะบางจังหวัดมีการแพร่ระบาดโควิดในโรงเรียน นายอนุชา กล่าวว่า หลังจากมีการเปิดภาคเรียนเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. หากโรงเรียนใดมีปัญหาการแพร่ระบาดโควิดก็ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรการสาธารณสุขโดยการปิดเรียนชั่วคราว แต่โรงเรียนใดที่ไม่มีปัญหาก็ดำเนินการตามเดิม เมื่อถามว่าจะเปิดเผยงบประมาณด้านสาธารณสุขให้ประชาชนรับทราบได้หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า นายกฯแจ้งว่าหากพบหรือเกิดข้อสงสัยมีหลักฐานสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษและเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบได้ทุกกรณีไม่มีการยกเว้นใครผู้ที่รับผิดชอบต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบทันที หากพบว่าผิดจริงจะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น เมื่อถามว่าการฉีดวัคซีนในพื้นที่กทม.ฉีดวัคซีนได้เท่าไหร่แล้ว และจะทันกำหนดการที่วางไว้หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ณ วันที่ 22มิ.ย. ฉีดไปแล้ว 2,401,836 โดย ดังนั้นในเดือน ก.ค. จำนวน 5 ล้านโดสจะเป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ 

'บิ๊กตู่' ขู่ใช้กม.ฟันม็อบ 24 มิ.ย. แนะ ปชช.คิดให้ดีก่อนร่วมชุมนุม พร้อมสั่งเข้มดูแลปัญหาทุจริต จากกรณีเสาไฟ บอกปชช.คาใจอะไรต้องทำให้จบ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงการชุมนุมในวันที่ 24 มิถุนายนที่ทำเนียบรัฐบาล ของกลุ่มไทยไม่ทน เพราะยอดติดเชื้อ โควิด-19 ยังสูงอยู่ ว่า 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 หวังว่าประชาชนจะได้พิจารณาว่าการออกมาร่วมชุมนุมอาจจะทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงติดเชื้อ เพราะคลัสเตอร์ต่างๆ ยังมีเกิดขึ้น จึงอยากให้ประชาชนพิจารณาหลีกเลี่ยงการรวมตัว ทั้งนี้หากเกิดการกระทำความผิด ผ่านการชุมนุมลักษณะต่างๆ ก็คงจะต้องใช้กฎหมายที่มีอยู่พิจารณาต่อไป

นอกจากนี้นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ตอบคำถามแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม กรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินพบข้อมูล องค์การบริหารส่วนตำบลในจ.สมุทรสาครแห่งหนึ่ง จัดซื้อกล้อง ซีซีทีวี ในโรงพยาบาลแพงเกินจริง ว่า 

เรื่องนี้ พล.อ.อประยุทธ์ กำชับทุกหน่วยงานดูแลปัญหาการทุจริต หากพบการร้องทุกข์กล่าวโทษให้นำเข้ากระบวนการสอบสวนอย่างเข้มงวด เช่นเดียวกับปัญหาการจัดซื้ดเสาไฟฟ้าปฏิมากรรมพลังงานแสงอาทิตย์ที่แพงเกินจริงต้องดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดจะต้องเข้าสู่กระบวนการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส โครงการใดที่ยังเป็นข้อกังขาประชาชนยังไม่สะบายใจเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างชัดเจนเด็ดขาด

"พรรคกล้า" ร่าง จม.เปิดผนึก ถึง "บิ๊กตู่" หากพบผู้ติดเชื้อ นำตัวแยกจากครอบครัวทันที ป้องกันระบาดแบบทวีคูณ เสนอรัฐจัดยา Favipiravir ให้ผู้ติดเชื้อทันที ไม่ต้องรอได้เตียงก่อน ย้ำต้องรีบรักษา ลดโอกาสอาการหนัก

ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคกล้า และนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายและผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งเขตคลองสามวา พรรคกล้า ร่างข้อเสนอถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 แบบทวีคูณ สนับสนุนการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ว่า ผู้ติดเชื้อวันนี้ยังสูงมากกว่า 4,000 คน ดังนั้นการจะยับยั้งการแพร่ระบาดและนำไปสู่การเปิดประเทศภายใน 120 วัน ต้องมีมาตรการที่รวดเร็ว ชัดเจน 

1.) เมื่อพบผู้ติดเชื้อ ให้รับการรักษาหรือแยกตัวผู้ป่วยออกจากครอบครัวและคนใกล้ชิด และนำผู้ติดเชื้อไปไว้สถานที่กักตัวทันที หากมารับตัวช้า ผู้ป่วยอยู่บ้านร่วมกับครอบครัว ติดเชื้อทีละคนสองคน สุดท้ายติดยกครัว บางบ้านมี 15 ถึง 20 คน สรุปติดเชื้อจาก 1 คน เป็น 20 คน ติดเชื้อทวีคูณ! 

2.) เมื่อทราบว่าติดเชื้อ แต่อยู่ระหว่างกักตัว รอเข้ารับการรักษา ก็ควรได้ยาต้านไวรัส (favipiravir) ทันที โดยใช้หน่วยแพทย์เชิงรุก, อสส., อาสาสมัครอื่นๆ เพื่อลดโอกาสเชื้อลงปอด ลดโอกาสอาการหนัก ลดโอกาสเกิดการสูญเสีย โดยอ้างอิงจากงานวิจัยหลายๆ ฉบับ จะพบว่า ยิ่งผู้ติดเชื้อเข้าถึงยาต้านไวรัสได้ไว ยิ่งลดความรุนแรงของโรคได้ ลดโอกาสแออัดในโรงพยาบาล ลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ 

"ทำทั้งหมดนี้ไม่ง่าย ต้องใช้ทั้งเงิน และบุคลากรจำนวนมาก แต่ก็ต้องทำครับ รัฐบาลต้องเร่งหาสถานที่กักตัวแยกตัวผู้ป่วยออกจากครอบครัว แยกครอบครัวออกจากกัน โดยใช้โรงแรม หรือสถานที่ราชการต่างๆ และโดยประการสำคัญ ให้ยารักษาทันทีที่ทราบผลการติดเชื้อ เพื่อยุติสถานการณ์โดยเร็วที่สุด หากยังปล่อยให้มีการติดเชื้อเป็นทวีคูณแบบนี้แน่นอนครับว่า เป้าหมายเปิดประเทศ 120 วัน ที่เป็นความมุ่งมั่นร่วมกันของคนไทยคงไม่สามารถสำเร็จได้" นายณัฐนันท์ กล่าว

“บิ๊กตู่” มอบรางวัลภาพถ่าย “บันทึกคนไทย หัวใจไม่เคยท้อ” ชื่นชมคนไทยร่วมมือร่วมใจช่วงวิกฤติโควิด-19 “ย้ำ” การเรียนออนไลน์เป็นสถานการณ์ชั่วคราว ขอห่วงใยนักเรียน นักศึกษา ให้มีวินัยในตนเอง

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference  

โดยก่อนการประชุม เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดภาพถ่ายโครงการศิลปินร่วมสมัย สู้ภัยโควิด ด้วยจิตสำนึก #2 ในหัวข้อ “บันทึกคนไทย หัวใจไม่เคยท้อ” โดยนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำผู้ชนะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีเพื่อรับโล่รางวัล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวรายงานว่า เพื่อเก็บรวบรวมเป็นบันทึกประวัติศาสตร์และภาพความทรงจำสำหรับคนไทยทั้งประเทศในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยมีประชาชนส่งภาพเข้าร่วมประกวด 8,012 ภาพ แบ่งออกเป็นรางวัลประเภทนักเรียน/นักศึกษา ประเภทบุคคลทั่วไป และ รางวัลภาพถ่ายดีเด่นประจำภูมิภาค 7 ภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 1,121 รางวัล

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า โครงการนี้มุ่งหวังให้คนได้เห็นมุมมองที่ดี แม้จะมีสถานการณ์ที่ยากลำบากของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนเกิดความรักความสามัคคีการ เพื่อนำพาประเทศชาติต่อไป และ ร่วมมือกับรัฐบาลที่มีความตั้งใจดี หลายเรื่องรัฐบาลทำ หลายคนอาจจะไม่เห็น แต่เชื่อว่าทุกคนตรงนี้เห็น และ เห็นว่าอะไรที่ดีในประเทศไทย มีมากกว่าไม่ดีแน่นอน แต่จะทำอย่างไร ให้สิ่งที่ดี มีมากกว่าสิ่งที่ไม่ดี แม้วันนี้จะมีสถานการณ์โควิด แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจกันแล้ว ในระยะที่ 1 ยังมีระยะที่ 2 และ 3 ก็จะยิ่งร่วมมือให้มากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้สำเร็จ ไม่มีปัญหาใดที่รัฐบาลทำได้เพียงผู้เดียว ต้องทำไปด้วยกันกับทุกคน เดินหน้าไปสู่อนาคต คือ การเปิดประเทศให้ได้ตามนโยบายที่กำหนด จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไร หากตำหนิกันไปมา ก็จะติดหล่มอยู่ที่เดิม อยากให้ทุกคนมองไปข้างหน้า  และ ตระหนักว่า สิ่งที่กำลังทำนั้น ทำให้เราเดินไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น หรือ ช้าลง จึงขอให้ทุกคนคิดอย่างมีวิสัยทัศน์และมีกระบวนการคิด  โดยทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่ก้าวแรก เริ่มตัวเรา จากนั้นก็จะมีก้าวต่อไป

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวทักทายเด็กนักเรียนที่เข้ารับรางวัล พร้อมแสดงความห่วงใยและสอบถามนักเรียน นักศึกษาถึงการเรียนหนังสือออนไลน์ในช่วงนี้ ก่อนกล่าวว่า การเรียนออนไลน์ในช่วงนี้เป็นสถานการณ์ชั่วคราว ขอให้ทุกคนใส่ใจ ที่สำคัญต้องมีวินัยในตนเอง เพราะกระบวนการคิด วิสัยทัศน์ เริ่มจากตัวเราเองแล้วคิดต่อยอดจากหนังสือตำรา รวมทั้งการวางแผนอาชีพในอนาคต นายกรัฐมนตรียังย้ำว่าเยาวชนทุกคนคืออนาคตของชาติที่จะสามารถทำให้ประเทศไทยพัฒนาต่อไปได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top