Tuesday, 14 May 2024
POLITICS NEWS

“ราเมศ” แจงหลังพบถูกสวมทวิตเตอร์ พร้อมเอาผิดให้ถึงที่สุด

1 เมษายน 2564 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้แอบอ้างด้วยการนำชื่อและรูปของตนไปใช้ในทางที่ก่อให้เกิดความเสียหายในโซเชียล โดยล่าสุดพบผู้ใช้ทวิตเตอร์แอคเคาท์ @thisisrealmynx มีการใช้ชื่อ และใช้รูปโปรไฟล์เป็นรูปของตน อีกทั้งทวีตข้อความบิดเบือน ซึ่งรายนี้ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด 

พร้อมกับฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังในการโพสต์หรือแชร์ข่าวต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดียว่า หากมีการโพสต์ข้อความเพียงเพื่อความสนุก และบิดเบือน หลอกลวง จะเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนมาตรา 14 (2) ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนมาตรา 14 (5) ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวข้างต้น 

ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 16 ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี

‘บิ๊กตู่’ ส่งสารวันข้าราชการพลเรือน ‘ย้ำ’ข้าราชการตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ของตัวเอง

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สารเนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี พ.ศ. 2564 ว่า ข้าราชการ คือ ผู้ปฏิบัติงานราชการโดยคำนึงถึงความผาสุกของประชาชนและผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ จึงต้องตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ของการเป็นข้าราชการที่ดี ซึ่งต้องเสียสละ อุทิศตน และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน โดยนำความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ มาใช้ในการจัดทำและให้บริการสาธารณะ สามารถบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อตอบสนองความต้องการและแก้ขปัญหาของประชาชน ตลอดจนสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ประเทศชาติ

เนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน  1 เมษายน 2564 ขอแสดงความยินดีกับข้าราซการพลเรือนทุกคนที่ได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2563 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะดำรงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีของข้าราชการ และประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นข้าราชการที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต และยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อให้เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของประชาชน และเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ข้าราชการรุ่นใหม่ต่อไป ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณเพื่อนข้าราชการพลเรือนทุกคนที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกภาคส่วน 

เพื่อช่วยให้ประเทศชาติฟันฝ่าอุปสรรคและช่วงเวลาอันยากลำบากจากการระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 และขอให้ทุกท่านพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้มีความพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลและวิถีการทำงานแบบปกติใหม่ (New Normal) ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานราชการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ประชาชนมีความสุข
และประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนตลอดไป

ในโอกาสนี้ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล อีกทั้งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชีนี ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้ข้าราชการพลเรือนทุกท่าน พร้อมทั้งครอบครัว ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีกำลังกาย กำลังใจที่เข้มแข็ง และสัมฤทธิผลในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ เพื่อร่วมกันเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนสืบไป

รายงานข่าวจากทำเนียบ ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019​ (โควิด-19) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม​ได้เห็นชอบตามที่​ ศบค.ชุดเล็กเสนอเรื่องการตรวจค้นหาเชื้อชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย

กรณีแรกเป็นกลุ่มกักตัว 7 วัน หากเป็นชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาจะต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และยืนยันไม่มีรายงานการติดเชื้อคือเป็นลบ จึงสามารถเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งกลุ่มนี้จะตรวจผลโควิด-19 ครั้งที่หนึ่งในวันที่ 5 - 6 แต่สำหรับกรณีคนไทยที่เดินทางกลับบ้าน โดยไม่ได้มีการตรวจโควิด-19 ก่อนเดินทาง จะมีการตรวจหาโควิดแบบสวอปตั้งแต่วันแรกที่เดินทางถึงประเทศไทยและตรวจอีกครั้งในวันที่ 5 - 6 นี่คือกลุ่มกักตัว 7 วัน

ส่วนกลุ่มที่มีการกักตัว 10 วันจะมีการตรวจโควิดสองครั้ง ครั้งแรกคือวันที่ 3 - 5 และตรวจอีกครั้งวันที่ 9 - 10

ส่วนกลุ่มสุดท้ายที่มีการกักตัว 14 วัน จะมีการตรวจหาโควิดโดยวิธีการสวอปสามครั้ง ครั้งที่หนึ่งคือวันที่เดินทางถึงประเทศไทยในวันแรก ครั้งที่สองในวันที่ 6 - 7 และครั้งที่สามคือวันที่ 12 - 13 ทั้งนี้ ทุกกลุ่มยังมีกำหนดด้วยว่าจะต้องอนุญาตให้มีระบบติดตามตัวจนครบ 14 วันถึงแม้ว่าจะออกจากสถานกักกันไปแล้ว

ทั้งนี้​ มาตรดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย. 2564 เป็นต้นไป


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

“เทพไท" เกาะติด เงินค่าตอบแทน อสม.เสนอรัฐบาลตั้งเป็นงบประมาณ จ่ายเดือนละ1,500 บาท ทุกเดือน

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มีมติเห็นชอบโครงการค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชยและเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในชุมชน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (เมษายน -  มิถุนายน 2564) กรอบวงเงินรวมไม่เกิน 1,575.4590 ล้านบาท นั้นว่า ต้องขอขอบคุณคณะรัฐมนตรี ที่เห็นความสำคัญในการทำงานของ กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เป็นด่านหน้าในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชนบท 

แต่สิ่งที่พี่น้อง อสม.อยากได้มากที่สุด นั่นก็คือการปรับเพิ่มค่าตอบแทนให้กับ อสม.เดือนละ 1500 บาท โดยรัฐบาลตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีของทุกปี ซึ่งตนได้เคยเสนอเรื่องนี้ต่อรัฐบาลในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว และเห็นว่าการเพิ่มค่าตอบแทนให้กับ อสม.อีกเดือนละ 500 บาท จะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเพียงเดือนละ 500 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับโครงการประชานิยม หรือการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโควิดของรัฐบาลอีก และจะไม่เป็นภาระด้านงบประมาณของรัฐบาลแต่อย่างใด 

จึงขอเสนอให้รัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายที่ชัดเจน ในการปรับเพิ่มค่าตอบแทนให้กับ อสม.อีกเดือนละ 500 บาทต่อคน รวมเป็นค่าตอบแทนเดือนละ 1,500 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดีกว่ารัฐบาลจะชดเชยเยียวยาให้กับ อสม.เป็นครั้งคราว หรือคราวละ 3 เดือนบ้าง 5 เดือนบ้าง หรือ 12 เดือนบ้าง ซึ่งไม่มีความแน่นอน ไม่ได้เป็นการสร้างหลักประกัน และสร้างขวัญกำลังใจให้กับ อสม.แต่อย่างใด

สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยและอาเซียน ประจำวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2564

สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยและอาเซียน ประจำวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2564


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

"อนุทิน" ลุยยกระดับสิทธิ์ "บัตรทอง" พัฒนางานบริการประชาชน

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ที่สำนักพิมพ์ มติชน ในงานเสวนาพิเศษ "ร่วมทางเดียวกัน จาก 30 บาทรักษาทุกโรค สูตร 30 บาทรักษาทุกที่" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเปิดตัวหนังสือ “ระหว่างบรรทัด" นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโครงการบัตรทอง โดยระบุว่า  ในอดีตสิ่งที่ตนเกลียดมากคือคำว่าผู้ป่วยอนาถา เป็นผู้ป่วย เป็นคนไทยที่มีสิทธิ์ในชีวิต น้อยกว่า แต่โครงการบัตรทองได้เข้ามาทำลายภาพดังกล่าวจนหมด ทำให้คนไทยมีสิทธิ์ ในการรักษาพยาบาล เป็นสิทธิ์ที่จะได้รับการบริการจากภาครัฐ ในฐานะคนไทย

เมื่อย้อนกลับไป ในวันที่เดินหน้าโครงการ ไม่เคยกังวลเรื่องโรงพยาบาลจะล้มละลาย เพราะรัฐดูแลอยู่แล้ว ที่สำคัญยังเป็น Pilot Project ที่ทุกฝ่ายช่วยกันผลักดัน และต้องทำให้สำเร็จ 20 ปีที่ผ่านมามีการปรับปรุงพัฒนาระบบของโครงการ จึงเป็นที่มาของคำว่า 30 บาทรักษาทุกที่เพราะรักษาทุกโรคอย่างเดียวไม่พอ ต้องรักษาทุกที่ งานสาธารณสุข ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โครงการนี้ มีความขลัง ผู้บริหารที่เข้ามาดูแลกระทรวงฯ ต้องสานต่อ ส่วนตัว เมื่อได้เข้ามาทำงาน ก็พยายามทำให้ดีขึ้นและได้สื่อสารเสมอว่า ให้ใช้งานตนอย่างเต็มที่ เพราะเป็นรัฐมนตรี ที่มาจากหัวหน้าพรรค ในรัฐบาลผสม อย่างไรเสียคณะรัฐบาลก็ต้องฟังกัน กระทรวงสาธารณสุข มีอิสระในการทำงาน 

"ผมห้อยหลวงพ่อเลี๊ยบ ตอนที่รู้ตัวว่าต้องเข้ามาเป็นรัฐมนตรีฯ ซึ่งจริง ๆ  ผมตั้งเข็มมาทางนี้ไม่มีทางเลือกอื่นเลย เมื่อทราบผลการเลือกตั้งคนแรกที่ผมติดต่อคืออาจารย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะความตั้งใจแรกคือการดูแลยกระดับโครงการบัตรทอง ก็ต้องหวังพึ่งพาคนมีประสบการณ์ มีความสามารถ"

สำหรับ สปสช. สิ่งที่ขอคือการทำงานต้องต่อเนื่อง ไม่ขาดช่วง จะมีบางช่วงเวลาที่ สปสช.ไม่มีเลขาฯ บางคนทำงานได้ไม่นานก็ไป องค์กรที่ไม่มั่นคง ย่อมเดินหน้าลำบาก จากนี้ เหตุการณ์ข้างต้นต้องไม่เกิดขึ้น คนเก่าไป คนใหม่ต้องทำงานทันที เพราะนี่คืองานที่เกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน จะสะดุดหยุดลงไม่ได้ ตอนแรกโครงการรักษาทุกโรค ก็ยังรักษาได้บางโรค แต่วันนี้ พัฒนา มาจนรักษาได้ทุกโรค โรคหายาก ก็ยังรักษา

ยิ่งกว่านั้น มะเร็ง ก็รักษาทุกที่ได้เช่นกัน มะเร็งเป็นโรคที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากที่สุด ปีนี้ไทยเพิ่มเครื่องฉายรังสี 7 เครื่อง กระจายอยู่ทั่วประเทศ ดังนั้นศูนย์มะเร็งต่างๆทั่วประเทศไทยจะสามารถรับผู้ป่วยได้มากขึ้น ทำให้ประชาชนไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องรอคิวนาน ประชาชนได้รับความสะดวก จากนี้จะพัฒนาสถานที่ให้บริการ ต้องจอดรถได้มากขึ้น ในสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นทุกๆ ด้าน งานสุขภาพเป็นงานที่ต้องพัฒนา หยุดไม่ได้

ขนส่งยืดเวลาทำใบขับขี่ได้ก่อนนาน 6 เดือน

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกเปิดเผยว่า กรมฯ ได้ขยายระยะเวลาการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) ส่วนบุคคลและใบขับขี่รถสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ทุกประเภท ให้สามารถยื่นคำขอต่ออายุใบขับขี่ได้ก่อนใบขับขี่สิ้นอายุไม่เกิน 6 เดือน จากเดิมกำหนดไว้เพียง 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป 

เนื่องจากปัจจุบันจำนวนผู้ครอบครองใบขับขี่รถส่วนบุคคลและใบขับขี่รถสาธารณะมีจำนวนมากขึ้น ขณะที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งได้เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการให้บริการประชาชน รวมถึงได้นำระบบอบรมออนไลน์ e-Learning เข้ามาช่วยลดขั้นตอนแล้ว แต่ยังไม่สามารถรองรับความต้องการใช้บริการของประชาชนได้ทั้งหมด ดังนั้นจึงแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มระยะเวลาดำเนินการให้มากขึ้น จาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน

ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการเพิ่มประโยชน์และขยายโอกาสให้ผู้ได้รับใบขับขี่มีเวลาในการดำเนินการขอต่ออายุใบขับขี่มากขึ้น พร้อมขยายระยะเวลารับรองผลการอบรมออนไลน์ผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ http://www.dlt-elearning.com จากเดิมมีอายุรับรอง 90 วัน เป็น 6 เดือนนับแต่วันที่ผ่านการอบรมให้สอดคล้องกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ได้รับใบขับขี่สามารถดำเนินการต่ออายุใบขับขี่ได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด

นอกจากนี้ยังได้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ต้องการต่อใบขับขี่ สามารถเลือกอบรม e-Learning ทางเว็บไซต์ http://www.dlt-elearning.com ผ่านเว็บไซต์ได้ด้วยตนเองจากสถานที่ใดก็ได้ตลอด 24 ชม. โดยมีการอบรมทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ การอบรมต่ออายุใบขับขี่รถส่วนบุคคล การอบรมต่ออายุใบขับขี่รถขนส่ง การอบรมต่ออายุใบขับขี่รถสาธารณะ และการอบรมต่ออายุใบขับขี่รถส่วนบุคคล ที่สิ้นอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป

เพื่อไทยติง “ประยุทธ์” ต้องมีมารยาทก่อนสั่งคนอื่น เย้ย! ใครกันแน่ที่มีปัญหา

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ตำหนินักข่าวนั่งไขว่ห้างระหว่างฟังการแถลงผลการประชุม ครม.ว่า ตามอารมณ์และวิธีคิดของพล.อ.ประยุทธ์ไม่ถูกจริง ๆ ก่อนหน้านี้นึกจะโยนเปลือกกล้วยใส่นักข่าวก็โยน นึกจะไล่ฉีดแอลกอฮอล์ใส่นักข่าวก็ฉีด แม้จะอธิบายว่าล้อเล่น ต้องการสร้างความเป็นกันเองกับนักข่าว แต่สังคมประเมินได้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวพึงกระทำหรือไม่ บทจะโมโหโทโสฉุนเฉียวเจ้ายศเจ้าอย่าง แสดงอำนาจบาตรใหญ่ขึ้นมา สั่งนักข่าวห้ามนั่งไขว่ห้างก็สั่ง ทั้งที่หากว่ากันตามจริงบุคลิกภาพและภาษากายของ พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะมีปัญหามาโดยตลอด 

ไม่ว่าจะในเวทีระดับประเทศหรือการปรากฏตัวในเวทีระหว่างประเทศ ประชาชนต้องอดทนมาโดยตลอด บุคลิกภาพสีหน้าแววตาภาษากายการควบคุมอารมณ์ที่แสดงออกของบุคคลระดับผู้นำประเทศ น่าจะต้องมีมาตรฐานที่สูงกว่านี้ “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จะไปห้ามปรามหรือสั่งการใครให้มีมารยาท ต้องเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน เพราะตราบที่การสั่งการสวนทางกับสภาพที่แท้จริงที่ตัวพล.อ.ประยุทธ์แสดงออกต่อบุคคลอื่น คำสั่งการนั้นย่อมไม่เป็นผล” นายอนุสรณ์ กล่าว

ผบ.ทร. ตรวจเยี่ยมการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2564

พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์ การฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ในการฝึกภาคทะเล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2564 ณ หาดบ้านทอน ค่ายจุฬาภรณ์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โดยมี พล.ร.ท.สมัย ใจอินทร์ รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนผู้บัญชาการกองเรือยุทธการพล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 พล.ร.ต.สรไกร สิริกรรณะ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ผู้แทนผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และ นาวาเอก อมร ซื่อตรง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน / ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ให้การต้อนรับการฝึกภาคทะเล นั้น เป็นการฝึกของกำลังทางเรือในการควบคุมทะเล และขยายอำนาจจากทะเลสู่ฝั่ง ตามแนวทางการใช้กำลังของกองทัพเรือ และแผนป้องกันประเทศในแต่ละด้าน 

โดยจัดตั้งกองเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการระยะไกล ซึ่งเป็นกำลังเชิงรุก มีกำลังสำคัญ ประกอบด้วย หมวดเรือเฉพาะกิจโจมตีหมวดเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก และหมวดเรือสนับสนุน โดยหมวดเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ที่จัดให้มีการยกพลขึ้นยกในวันนี้ จัดกำลังประกอบด้วย หมู่เรือลำเลียง ได้แก่ เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงสีชัง และเรือหลวงสุรินทร์ หมู่บินลาดตระเวนและลำเลียง ได้แก่ เครื่องบินตรวจการณ์ชายฝั่ง เครื่องบินลาดตระเวน เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง และ เฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ผิวน้ำ กำลังรบยกพลขึ้นยก ได้แก่ ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ยานเกราะล้อยาง (BRT) รถฮัมวี่ (HMMWV) ปืนใหญ่ ขนาด 105 มม. พร้อมกำลังทหารนาวิกโยธิน จำนวน 700 นาย นอกจากนั้น ยังมีกำลังในส่วนอื่น ๆ อาทิ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ชุดปฏิบัติการชายหาด และชุดแพทย์โรงพยาบาลสนาม

สำหรับ การฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก มีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบการปฏิบัติตามหลักนิยมในการปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก พ.ศ. 2564 ทดสอบแนวทางการใช้กำลังของกองทัพเรือ พ.ศ. 2563 และทดสอบความพร้อมกำลังทางเรือและกำลังรบยกพลขึ้นบกนาวิกโยธิน ในการปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบกโดยในการปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก จำเป็นจะต้องได้มาซึ่งการควบคุมทะเลและครองอากาศในพื้นที่ปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ซึ่งห้วงเวลาที่กำหนดการค้นหาและลิดรอนทำลายกำลังทางเรือของข้าศึกทั้งเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำไม่ให้เป็นภัยคุกคามเป็นภารกิจหนึ่งในการควบคุมทะเล โดยการปฏิบัติการในวันนี้เริ่มด้วย

เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ทำการค้นหาและกำหนดตำบลที่เรือดำน้ำ เพื่อใช้อาวุธในการโจมตีทำลาย ในขณะเดียวกันเครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้าได้บินตรวจการณ์ และชี้เป้าหมายเรือข้าศึกเพื่อให้กำลังทางเรือใช้อาวุธทำลายจนได้การควบคุมทะเล และเมื่อได้การควบคุมทะเลในพื้นที่ปฏิบัติการแล้ว กองเรือเฉพาะกิจสะเทินน้ำสะเทินบก จะขอรับการสนับสนุนการกำหนดช่องทางเข้า - ออกเรือเล็ก จากชุดต่อต้านทุ่นระเบิดเคลื่อนที่ เพื่อทำลายทุ่นระเบิดที่ฝ่ายข้าศึกได้วางไว้ป้องกันพื้นที่ยกพล เมื่อชุดลาดตระเวนแทรกซึมเข้าพื้นที่ยืนยันพิกัดกำลังของฝ่ายข้าศึกได้แล้ว จะร้องขอการทำลายที่หมายด้วยปืนใหญ่เรือ เพื่อให้ข้าศึกหมดขีดความสามารถในการต่อต้านกำลังรบยกพลขึ้นบกที่จะขึ้นมาดำเนินกลยุทธ์บนฝั่ง

เมื่อพื้นที่บนบกกำลังต่อต้านถูกทำลายแล้ว ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) คลื่นแรก ได้เข้าปิดระยะ และขึ้นเกยหาด ตามด้วยยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) คลื่นที่สอง โดยทำการโจมตีเป้าหมายบนฝั่งอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเรือระบายพลแบบ LCVP จำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นคลื่นที่ 3 ได้เคลื่อนที่เข้าเกยหาดเพื่อทำการส่งกำลังรบดำเนินกลยุทธ์ ในขณะเดียวกันกำลังรบยกพลขึ้นบกที่บรรทุกมาบนเรือระบายพลขนาดเล็ก ได้เคลื่อนออกจากเรือ เพื่อเข้าทำลายข้าศึกบนหาด ต่อมา กำลังรบคลื่นที่ 4 ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์แบบต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ประกอบด้วย แบบ EZ แบบ ซูเปอร์ ลิงค์ และ แบบ เบลล์ 212 ทำการลำเลียงกำลังพลและยุทธโปกรณ์ สนับสนุนดำเนินกลยุทธ์บนฝั่ง ตามด้วยกองร้อยยานเกราะล้อยาง ที่ลำเลียงมาจากเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ที่แล่นมาเกยหาด ได้เคลื่อนจากเรือขึ้นฝั่งเพื่อสนับสนุนกำลังรบยกพลขึ้นบก ตามด้วยการส่งกลับสายแพทย์ กรณีมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ อันเป็นการเสร็จสิ้นการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบกในวันนี้

นอกจากการฝึกภาคสนามและภาคทะเลที่จัดให้มีขึ้นในวันนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา กองทัพเรือ ได้จัดให้มีการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้น แบบ HARPOON BLOCK 1C โดยเรือหลวงตากสิน การฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพอากาศ (LINK – E) และยิงอาวุธทางยุทธวิธี และยิงเป้าอากาศยาน ในพื้นที่ทะเลอันดามัน โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ร่วมสังเกตการณ์ โดยการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้น แบบ HARPOON BLOCK 1C ในครั้งนี้ ได้ทำการยิงอาวุธปล่อยต่อเป้าที่ระยะ 55 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 100 กิโลเมตร 

นับเป็นการยิงไกลสุดที่เคยทำการยิงมาในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้หัวระเบิดจริงซึ่งกองทัพเรือดำเนินการเองโดยไม่พึ่งพาประเทศเจ้าของอาวุธปล่อย หรือต่างชาติแต่อย่างใด โดยอาวุธปล่อยสามารถวิ่งชนเป้าได้อย่างแม่นยำ นับเป็นความสำเร็จของกองทัพเรือไทย อีกทั้งเป็นการสร้างความชำนาญ และเพิ่มองค์ความรู้ทางยุทธการให้มีความต่อเนื่องเป็นหลักประกันของชาติทางทะเลได้อย่างคุ้มค่า เพราะอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ Harpoon ถือได้ว่าเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ป้องปรามและในวันที่ 9 เมษายน 2564 กองทัพเรือ จะจัดให้มีการฝึกสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง บริเวณสนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี 

โดยได้เชิญกองทัพบก และกองทัพอากาศ จัดกำลังเข้าร่วมการฝึกตามรายการต่าง ๆ ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินการต่อเนื่องและได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกเหล่าทัพในทุกครั้ง ซึ่งจะทำให้ทราบถึงคุณลักษณะและขีดความสามารถของกำลังรบจากเหล่าทัพต่าง ๆ อันจะนำไปสู่การวางแผนการใช้กำลังทางทหารและการปฏิบัติการรบร่วมที่มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลในการป้องกันประเทศในอนาคตตามวิสัยทัศน์กองทัพไทยที่เป็นกองทัพชั้นนำในภูมิภาค มีนวัตกรรมทันสมัย ปฏิบัติการร่วมอย่างมีประสิทธิภาพทุกมิติ” และสร้างความสมัครสมานสามัคคี อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของกองทัพไทยในภาพรวม ตามคำขวัญของกองทัพเรือที่ว่า “พลังสามัคคี พลังราชนาวี”

ทบ. แจ้ง นศ. ติดสอบแจ้งเลื่อนตรวจเลือกทหารปีนี้ได้ที่สัสดีอำเภอ ระหว่าง 21 เม.ย. - 15 พ.ค. 64

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ. หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่ กองทัพบกกำหนดดำเนินการตรวจเลือกทหารกองประจำการประจำปี2564 ในระหว่างวันที่ 1 ถึง 20 เมษายน 2564 (เว้นวันที่ 6 เมษายน และวันที่ 12 - 15 เมษายน 2564) แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้สถาบันอุดมศึกษาได้มีการปรับเลื่อน การเรียน การสอนและห้วงเวลาการสอบ โดยเฉพาะการจัดทดสอบวิชาสามัญในระบบการคัดเลือกกลางระหว่าง 3 - 4 เมษายน 2564  ส่งผลให้กำหนดวันสอบของนักศึกษาตรงกับห้วงเวลาที่นักศึกษาบางคนจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร

พ.อ.หญิงซิริจันทร์ กล่าวอีกว่า กองทัพบกจึงได้อำนวยความสะดวก ให้กับนักศึกษาที่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัยที่ไม่สามารถเข้ารับการตรวจเลือกทหารตามข้อจำกัดข้างต้น โดยขอแจ้งให้นักศึกษาที่มีวันสอบตรงกับวันที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารในปีนี้  ให้ไปรายงานตัวและแจ้งเหตุจำเป็นสุดวิสัยต่อสัสดีอำเภอ/เขต ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขต พร้อมแสดงหลักฐาน อาทิ หนังสือรับรองจากสถานศึกษา , กำหนดการสอบ , หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร ( สด.35 ) เป็นต้น ตั้งแต่ วันที่ 21 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2564 และจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารในปีถัดไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top