Thursday, 27 March 2025
POLITICS NEWS

"บิ๊กตู่" เปิด"ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" นำร่องโมเดลท่องเที่ยว หากสำเร็จ พร้อมสานต่อทั่วปท.ชี้ ต้อง landscape ประเทศ แก้โควิด-19โยงแก้ศก.ขอเผชิญหน้ากันด้วยความรัก อย่าหลบมาตราการ ศบค.”งง”เจอคำถามผู้เสียชีวิตนิวไฮ แต่ผู้บริหารมารวมตัวที่ภูเก็ต บอกอยู่ที่ไหนก็ทำง

ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ต ซิตี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ว่า จากการรับฟังข้อมูลที่ผ่านมา ตนถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และเป็นกำลังใจให้กับชาวจังหวัดภูเก็ต และมีการรายงานว่ามีเที่ยวบินเริ่มทยอยเข้ามาแล้วโดยเที่ยวแรกมาจากอาบูดาบี และจะมีมาต่อเนื่อง ซึ่ง 14 วันข้างหน้าและไตรมาสต่อไปจะมีเข้ามาเพิ่มเรื่อย ๆ ถ้าเราทำตรงนี้สำเร็จ และไม่ใช่สำเร็จโดยใครแต่เป็นคนไทยทุกคน ทุกคนคือคนไทย สื่อก็คือคนไทย ถ้าทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ก็จะสามารถขยายไปที่อื่นได้ จะนำไปใช้ในทุกสถานที่ท่องเที่ยว โดยจะต้องทำทีละขั้น ทุกอย่างต้องเริ่มต้นนับหนึ่งเสมอ แต่ถ้าทำพร้อมกันจะมีปัญหา วันนี้จำเป็นต้องเร่งรัด ทำพื้นที่ภูเก็ต เพราะมีศักยภาพและเป็นพื้นที่เล็กที่ควบคุมได้ การสัญจรทางบก เรือ อากาศสามารถควบคุมได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ที่อาจจะมีความเดือดร้อนจากการคัดกรอง แต่ท่านต้องรักพื้นที่ รักจังหวัดของท่าน ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไปไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจกว่า 90% เป็นเรื่องของการท่องเที่ยวและบริการ 

"วันนี้จึงอยากจะย้ำว่าการเปิดภูเก็ตไม่ใช่เรื่องของจังหวัดภูเก็ตแต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ที่ทุกจังหวัดจะต้องเริ่มมีการนำร่อง ดูความเหมาสม ให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าใน 120 วัน ตรงไหนเปิดได้ก็ต้องทำ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ต่างประเทศ ว่าทั้งในยุโรปและประเทศเล็กและใหญ่ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นไทยเราจะประมาทไม่ได้ต้องรอบคอบ ทำอะไรก็ตามต้องนึกถึงชีวิตประชาชนเสมอ ต้องเดินอย่างระมัดระวัง ผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องมีมาตรการคือกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายโลกก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นจากสถิติที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทั่วโลกจึงมีมาตรการควบคุมโรคคือเปิดแล้วปิด เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นความเสี่ยง แต่เพื่อให้คนไทยได้ทำมาหากิน คือเราพร้อมสิ่งสำคัญคือเราพร้อมหรือไม่ ถ้าทำได้ก็ทำต่อไปให้เป็นขั้นตอน 

"ผมอยากให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ทำให้สำเร็จ เพื่อเป็นแนวทางไปถึงเป้าหมายใหญ่ของเรา ขอให้ชาวภูเก็ตช่วยกันทำกติกาอย่างเคร่งครัดไม่มีการฝ่าฝืนนำคนเข้าออกจากพื้นที่ โดยไม่ถูกขั้นตอน ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประเทศ ทุกอย่างที่เกิดในภูเก็ตมีผลต่อทั้งประเทศ ขอให้ชาวภูเก็ตทุกคนภูมิใจ เพราะเป็นการทำภารกิจเพื่อชาติ ภูเก็ตกำลังทำหน้าที่เพื่อชาติเพื่อประเทศในการเป็นผู้นำเปิดแซนด์บ็อกซ์ จังหวัดอื่นๆก็ต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต" นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายประเทศไม่เคยมีเที่ยวบินมาประเทศไทย แต่วันนี้เริ่มมาแล้ว แสดงให้เห็นว่ามาตรการภูเก็ตเเซนด์บ็อกซ์ เป็นสิ่งที่รับได้ และยอมปฏิบัติตามกติกากัน ยืนยันว่ารัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนเสมอ โดยเฉพาะตนได้ฝากความห่วงใยผ่านศบค.ผ่านกระทรวงสาธารณสุขและคณะรัฐมนตรี ตนไม่เคยทิ้งประชาชน ไม่เคยทิ้งให้ใครอยู่ข้างหลัง แต่ทุกอย่างต้องค่อยๆแก้ปัญหา วันนี้ไม่ได้แก้ปัญหาโควิด-19 อย่างเดียว แต่ต้อง landscape ประเทศไทยใหม่ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเราต้องช่วยกันพัฒนาตนเอง ต้องมีจิตสำนึกสาธารณะ แบ่งปันเผื่อแผ่ ไม่สนับสนุนให้มีการทุจริตในทุกเรื่อง นี่เป็นมาตรฐานที่ตนต้องการในอนาคต และขอฝากความหวังที่นี่ และทุกคนที่อื่นต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต อย่าไปแปลเจตนาผิด เวลาตนพูดอะไรก็ไปแปลเจตนากันผิดยอมรับว่าตนคิดเยอะ เพราะมีหลายเรื่องให้คิด อย่าทำให้มีอะไรมาดึงขารั้งขา ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นไม่ได้มันช้าไปหมด 

"วันนี้ผมมาภูเก็ตอารมณ์ดี มาตลอดนั่งบนเครื่องก็ถ่ายรูปมาตลอด เมฆ ฟ้า ทะเลสวย ลงพื้นที่ได้รับการต้อนรับดียิ้มแย้มแจ่มใสผมก็มีความสุข" นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าเราเผชิญหน้ากันด้วยความรักความเห็นใจซึ่งกันและกัน  ก็จะเป็นพลังสำคัญ แต่ถ้าทุกคนจะคอยแต่หลบเลี่ยงมาตรการ ก็ไม่มีทางสำเร็จ โดยเฉพาะสถานประกอบการ เห็นอยู่แล้วว่ามีการแพร่ระบาดก็จำเป็นต้องปิด หลายอย่างรัฐบาล และกระทรวงแรงงานดูแลอยู่แล้ว คนที่อยู่นอกระบบประกันสังคม รัฐบาลก็ยังต้องดูแล ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นรัฐบาลและเชื่อหมออย่าเชื่อคนอื่น เพราะทุกคนทำงานอย่างทุ่มเทเสียสละ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนปรบมือเพื่อให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมระบุว่า “การโจมตีซึ่งกันและกันไม่เกิดประโยชน์กับใคร และไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ก็ติดอยู่ที่เดิมขอฝากทุกคนด้วย”

ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ฝากถึงชาวภูเก็ต ให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศ เปิดไฟ มีแสงสีไม่ให้เงียบเหงา เรื่องอื่นๆรัฐบาลจะดูแล และขอบคุณชาวภูเก็ตที่รัก และฝากขอบคุณทุกจังหวัดที่ร่วมมือกัน ในการปฏิบัติตามมาตรการของศบค.ตนเป็นหัวหน้าในการแก้ปัญหา พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกระดับ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองยังไงว่าผู้บริหารมารวมกันอยู่ที่นี่ ขณะที่กรุงเทพฯมีผู้เสียชีวิตจำนวนเพิ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว พร้อมหันหลังเดินออกไป ก่อนกล่าวเพียงสั้นๆว่า" อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้"

“โรม” เปิดหลักฐาน 2 ตำรวจสันติบาลข่มขู่ถึงคอนโด เผยรู้ชื่อ เชื่อเกี่ยวปมอภิปรายตั๋วช้าง

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงความคืบหน้ากรณีที่มีบุคคลไม่ทราบชื่อติดตามคุกคามตนและภรรยามาถึงที่พัก ว่า ขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเข้ามาคุกคามคือหน่วยงานสันติบาล ตนคิดว่าหน่วยงานของรัฐไม่สามารถทำภารกิจแบบนี้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในข้อกฎหมายยังไม่ชัด ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร ทั้งนี้การที่อยู่ๆ มีสันติบาลมาอ้างว่าเป็นเพื่อนของภรรยาของตน จะขอขึ้นไปบนห้อง นั่นไม่ใช่เรื่องปกติ ตนขอสร้างมาตรฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรู้ว่าไม่สามารถใช้อำนาจหน้าที่ซึ่งเป็นตำแหน่งทางราชการมาข่มขู่ประชาชนได้ 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ค ที่ผ่านมา โดยรูปจากกล้องวงจรปิดของอาคารที่พักอาศัยของตนปรากฏเป็นชาย 2 คน สวมหน้ากากอนามัยไม่ปรากฏใบหน้าชัดเจน ซึ่งเมื่อตนได้แจ้งความที่สภ.รัตนาธิเบศร์ มีประชาชนให้เบาะแสทางเฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัวว่าชาย 2 คนที่เข้ามาเป็นใคร ขณะที่สภ.รัตนาธิเบศร์ ก็มีหนังสือมาให้หนึ่งฉบับระบุว่า เป็นสันติบาลจริงๆ นอกจากนี้ยังมีพลเมืองดีได้ระบุว่าสันติบาลที่เข้ามานั้น หนึ่งในนั้น คือ รองสารวัตรกองกำกับการสันติบาล 1    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรังสิมันต์ได้ชี้จุดข้อสังเกตของตำรวจคนดังกล่าว ทั้งการแต่งกายและรองเท้า นาฬิกาที่ตรงกัน เงาในแว่นตาที่สะท้อนรถยนต์ของตำรวจรายดังกล่าว เทียบกับภาพถ่ายของนายตำรวจคนนี้ด้วย

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำอีกว่า ตนไม่เคยมีความโกรธแค้นและไม่ได้รู้จักกับตำรวจนายนี้มาก่อน จึงเป็นไปได้ว่าการมาของตำรวจนายนี้เป็นการมาโดยได้รับคำสั่ง คำถามคือคำสั่งนั้นมาจากใคร เหตุใดตำรวจสันติบาล 2 คนบุกเข้ามาที่คอนโดเพื่อหวังจะเจอภรรยาของตน ภรรยาของตนก็ไม่เคยทำความผิดใด ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การข่มขู่คุกคามแล้วจะเรียกว่าอะไร จากข้อมูลเชิงลึกที่ตนทราบมีความเป็นไปได้ว่ากระทำดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นจากอภิปรายไม่ไว้วางใจตั๋วช้าง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้มีอำนาจจำนวนมากเสียผลประโยชน์ 

เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความผิดปกติในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ความจริงแล้วควรจะปกติ เพราะมีการเลือกตั้งและมีสภาฯ แต่สิ่งที่เห็นมาโดยตลอดคือมีการข่มขู่คุกคามแต่จับมือใครดมไม่ได้ แต่รอบนี้ตนทราบชื่อของตำรวจที่เข้ามาคุกคาม ตนจึงหวังว่าในรอบนี้จะเป็นมาตรฐานว่าจะใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการไปข่มขู่คุกคามใครไม่ได้ แม้ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าจะทำเช่นไรต่อไป แต่ตนอยากเห็นการสร้างมาตรฐานและก็หวังว่าเราจะไม่เห็นสันติบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือใครก็ตามไปข่มขู่คุกคามประชาชนอีก

“วิษณุ” ชี้ สภาฯล่มไม่ตื่นเต้น แค่ครั้งแรกในสมัยนี้ ระบุโควิดอาจเป็นเหตุหรือแค่เทคนิคทางกฎหมาย ห่วงประชุมร่วมรัฐสภา ล่ม อาจกระทบเรื่องสำคัญ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เหตุสภาล่มในช่วงพิจารณาร่างพ.ร.บ.วัตถุอันตราย (ฉบับที่) พ.ศ. … ว่า ไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่สภาฯล่มเพราะปัญหาส.ส.กลัวโควิด หรือไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากมีหลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรา 6 ของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จึงดึงกันไปมา 

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าหากกฎหมายดังกล่าวผ่านการพิจารณา เกรงว่าสารเคมีอันตราย 3 ชนิดที่ถูกห้ามใช้จะกลับมาใช้ได้ นายวิษณุ กล่าวว่า “นี่ไงคือปัญหาที่ทำให้สภาล่ม ว่าเป็นเพราะโควิด-19 หรือเพราะตัวร่างกฎหมายดังกล่าว” 

เมื่อถามย้ำว่าร่างเดิมของรัฐบาลกำหนดให้ 3 สารเคมีสามารถกลับมาใช้ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอบไม่ถูก และได้ยินมาว่ากระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำงานกันอยู่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์สภาล่มจะกระทบภาพลักษณ์ต่อสายตาประชาชนอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้ล่มบ่อย สมัยประชุมนี้เพิ่งล่มครั้งแรก เราต้องเข้าใจเพราะมีเหตุโควิด แม้สภาฯจะบอกไม่ต้องกลัวเพราะมีมาตรการ แต่ถ้าส.ส.เขากลัวก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร และขอย้ำว่าที่ล่มไม่รู้เป็นเพราะกลัวโควิดหรือเพราะขัดแย้งกันเรื่องกฎหมาย 

เมื่อถามว่าหากเป็นเหตุผลกลัวโควิดจะส่งผลกระทบต่อกฎหมายสำคัญของรัฐบาลหรือไม่รวมถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 65 นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องคอยดูกันต่อไป มีเหตุตรงไหนก็ป้องกันและแก้ไขตรงนั้น เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งไม่มีติดเชื้อเพิ่มคนจะได้วางใจ ส่วนกฎหมายงบประมาณ 65 ยังไม่ต้องกังวลเพราะอีกนาน แต่เราคงไม่รอให้ไปถึงครบ 105 วัน นอกจากนั้นยังมีกฎหมายที่สำคัญกว่านั้นเช่นกฎหมายที่ต้องประชุมร่วมรัฐสภา 

เมื่อถามว่าประธานวิปรัฐบาลอ้างว่าเหตุที่ล่มเป็นเพราะเทคนิคในการคัดค้านกฎหมาย นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เหมือนการประชุมสภาฯเวลาคนไม่เห็นด้วยก็ใช้วิธีวอล์กเอาท์ หรือใช้วิธีเดินออกกันแล้วนับองค์ประชุม เป็นเทคนิคของสภาที่มีเยอะมากมายเท่าที่เห็น อย่าเป็นเรื่องตื่นเต้นอะไร แต่ถ้าเป็นกฎหมายสำคัญแล้วเป็นแบบนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ แต่กรณีนี้อาจจะไม่ใช่กรณีสำคัญมีการถกเถียงมาหลายครั้ง และตนยังนึกในใจว่าแม้จะไม่มีโควิด แต่ถ้ายอมหรือไม่ยอมกันขึ้นมาก็อาจมีการวอล์กเอาท์เกิดขึ้นได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ากฎหมายดังกล่าวถือเป็นกฎหมายการเงินถ้าลงมติแล้วไม่ผ่านกระทบรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะผ่านวาระหนึ่งมาแล้ว ถ้าจะกระทบคือตกไปตั้งแต่วาระหนึ่ง เรื่องนี้ไม่มีกฎหมายบังคับแต่เป็นมารยาทและธรรมเนียมที่ถือมา เหมือนกรณีถ้าสภาฯไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็ต้องหาทางออกเช่นลาออกหรือยุบสภา เหมือนที่ประเทศอังกฤษและประเทศไทยยึดถือ 

เมื่อถามถึงกรณี นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ ออกมาระบุใครอยากรู้รายชื่อส.ส.ไม่เข้าประชุมให้มาดูได้ที่สภาฯเพื่อตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งแต่ไป แบบนี้เห็นด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่อง

"นายกฯ ควงทีม สธ." บินภูเก็ต สร้างความมั่นใจเปิดโครงการ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ไม่หวั่นโควิดยังระบาดหนัก

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยคณะ อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายดิตทัต โหรตระกิตย์ เลขาธิการนายกฯ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯสมช.เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต และโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยนายกฯ โดยสารเครื่องบินกองทัพอากาศ Air bus 320 หมายเลข 60205

โดยตามกำหนดการ เวลา 09.45 น.   นายกฯและคณะ ตรวจเยี่ยมการคัดกรองนักท่องเที่ยว เข้า – ออก จังหวัดภูเก็ต ณ ด่านตรวจภูเก็ต  ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จากนั้นเดินทางไปยังโรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตามโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการลงพื้นที่ นายกฯโดยสารรถToyota Alphard ทะเบียน กษ 199 

จากนั้น เวลา 13.45 น.นายกฯเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว “HUG THAIS HUG PHUKET” จัดโดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต และหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัล ภูเก็ต ตำบลวิชิต อำเภอเมือง

ก่อนจะเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตำบลสาคู อำเภอเมือง เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว เยี่ยมชมการฟื้นคืนสภาพของชายหาดและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากนั้น เวลา 17.10 น. นายกฯต้อนรับนักท่องเที่ยว สายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพในเวลา 18.40น.

ศรีสุวรรณ จ่อร้อง ป.ป.ช. สอบจริยธรรมร้ายแรง 277 ส.ส. ที่โดดประชุม ทำสภาล่ม

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่เกิดกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.64 ล่ม อันเนื่องมาจากมี ส.ส.เข้าร่วมประชุมไม่ครบในระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย เมื่อมีการตรวจสอบองค์ประชุมพบว่ามี ส.ส.มาแสดงตนแค่ 206 คน จาก 483 คน โดยมี ส.ส.จำนวน 277 คนไม่แสดงตนนั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การไม่เดินทางมาร่วมประชุมสภาฯ หรือมาประชุมแต่ไม่แสดงตน จนเป็นเหตุให้องค์ประชุมไม่ครบ ไม่สามารถพิจารณาร่างกฎหมายต่อไปได้ ประธานสภาฯจึงต้องสั่งปิดการประชุมไปนั้น ถือว่าเป็นเหตุร้ายแรง ที่สังคมไทยไม่ควรปล่อยให้สมาชิกผู้ทรงเกียรติแต่ชื่อเหล่านี้ กินเงินภาษีของประชาชนโดยไม่ยอมทำงานตามหน้าที่ต่อไปได้ เป็นเหตุให้ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ทำให้สภาฯเสื่อม 

อันเป็นพฤติการณ์ที่ขัดหรือแย้งต่อหน้าที่ของตนตามที่ได้ปฏิญาณตนในที่ประชุมแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.115 จึงถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 อย่างร้ายแรง ประกอบข้อบังคับ ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ 2563 ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.128 และ ม.219 วรรคสอง บัญญัติไว้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำรายชื่อ ส.ส.ทั้ง 277 คน ไปยื่นร้องในวันศุกร์ที่ 2 ก.ค.64 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี  เพื่อให้ ป.ป.ช.ทำการสอบสวนชี้มูลความผิด เพื่อส่งอัยการฟ้องต่อศาลอาญา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

“โฆษก ศบศ.” แจง 4 มาตรการเริ่มใช้สิทธิวันนี้ คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ชี้หวังช่วยประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ เผยมาตรการช่วยแรงงานผู้ประกอบการ 6 จังหวัด ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจกลางคืนและบันเทิงด้วย

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า มติครม. เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วนสำหรับกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ในกิจการ 3 หมวด ประกอบด้วย ก่อสร้าง ที่พักแรม และบริการด้านอาหาร ศิลปะ บันเทิง และนันทนาการ ทั้งที่อยู่ในระบบและนอกระบบประกันสังคม ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 25) ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนที่จะชดเชย เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งรวมถึงข้อร้องเรียนจากสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิง ผับ บาร์ ร้านอาหาร ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งตนได้เป็นผู้แทนของรัฐบาลรับหนังสือร้องเรียน โดยมาตรการดังกล่าว ครอบคลุมข้อร้องเรียนของสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนที่ได้รับความเดือดร้อนถูกสั่งปิดกิจการด้วย

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับมาตรการเร่งด่วน มีดังนี้

1.) กลุ่มแรงงานที่อยู่ในระบบประกันตนตามมาตรา 33 สัญชาติไทย จะได้รับเงินช่วยเหลือ 2,000 บาทต่อคน เพิ่มเติมจากการที่ลูกจ้างได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) ส่วนผู้ประกอบการหรือนายจ้าง จะได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้าง สูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน

2.) ผู้ประกอบการหรือนายจ้างที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้นายจ้างลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนกรกฎาคม 2564 จะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุด ไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน และลูกจ้างที่เป็นสัญชาติไทยจะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 2,000 บาทต่อคน

3.) กรณีที่เป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ผ่านโครงการคนละครึ่ง ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยผู้ประกอบการจะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท

4.) ผู้ประกอบการในหมวดร้านอาหาร เครื่องดื่ม ของโครงการคนละครึ่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม เนื่องจากไม่มีลูกจ้างจะได้รับการช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักดนตรีอิสระ และผู้เดือดร้อนรับค่าจ้างแบบรายวัน รัฐบาลก็จะหามาตรการที่เหมาะสมมาช่วยต่อไป

นายธนกร กล่าวว่า 4 มาตรการนั้นจะเริ่มใช้สิทธิในวันนี้ (1 ก.ค.) ประกอบมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 13.65 ล้านคน รัฐบาลสนับสนุนให้คนละ 200 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 16,380 ล้านบาท มาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 2.5 ล้านคน รัฐบาลสนับสนุนให้คนละ 200 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน เม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 3,000 ล้านบาท โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 31 ล้านคน เปิดให้มีการลงทะเบียนแล้วกว่า 28 ล้านคน โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่ง 150 บาทต่อวันต่อคน ตลอดโครงการ 3,000 บาท ใช้เม็ดเงิน 93,000 ล้านบาท เม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 186,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ท่านนายกฯ เป็นคนต้นคิด และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศผ่านผู้ที่มีกำลังซื้อ ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 4 ล้านคน มีเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 268,000 ล้านบาท ลงทะเบียนแล้วกว่า 400,000 คน

ทั้งนี้ เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยเยียยยาและกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการจับจ่ายใช้สอยในประเทศได้


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กช้าง” สั่งเตรียมมาตรการคัดกรองควบคุมโรคเข้ม เตรียมรับทหารใหม่เข้าหน่วย 1 ก.ค. พร้อมฉีดวัคซีนทุกนาย

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ประชุมร่วมกับ กอ.รมน. หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาโควิด-19 

โดยพล.อ.ชัยชาญ ได้ย้ำถึงข้อสั่งการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมขอขอบคุณทุกเหล่าทัพและ ตำรวจ ที่สนับสนุนรัฐบาลจัดกำลังพลเข้าควบคุมแคมป์คนงานและพื้นที่ชุมชนเสี่ยงสูงที่ผ่านมา รวมทั้งสนับสนุนการจัดตั้งและบริหารจัดการสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐ (SQ) 35 แห่ง และสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (ASQ) 146 แห่ง ต่อเนื่องตั้งแต่ มี.ค. 63 เป็นต้นมา โดยขอให้เตรียมการส่งมอบภารกิจการบริหารจัดการสถานที่กักกันโรคทางเลือก (AQ) ให้ สธ.ดำเนินการต่อตั้งแต่ 1 ก.ค. 64 เป็นต้นไป 

นอกจากนั้น นายกฯ และรมว.กลาโหม ยังได้กำชับให้ หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และทุกเหล่าทัพ เตรียมความพร้อมรับทหารกองประจำการผลัดที่ 1/64 ที่จะทยอยเดินทางเข้าประจำหน่วยทหารทั่วประเทศพร้อมกัน ระหว่าง 1-3 ก.ค.64 โดยให้มีการคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมที่สาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งการจัดเตรียมสถานที่และกระบวนการรับตัวทหาร ตั้งแต่การรายงานตัวในพื้นที่จังหวัดอำเภอ การจัดยานพาหนะและการเคลื่อนย้ายทหารเข้าหน่วย การปรับสภาพและคัดกรองเฝ้าระวังควบคุมโรคใน 14 วันแรก 

โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง รวมทั้งมาตราการควบคุมโรคระหว่างการฝึกและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน หากพบการติดเชื้อให้คัดแยกและส่งเข้ารับการรักษาที่ รพ.สนาม ทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประสานกระทรวงสาธารณสุข ขอรับการสนับสนุนวัคซีนฉีดให้กับทหารที่เข้าประจำการใหม่ทั้งหมดโดยเร็ว เพื่อมิให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในหน่วยทหาร 

พล.อ.ชัยชาญ ยังได้ย้ำให้ทุกเหล่าทัพ ที่จัดกำลังพลเข้าไปเข้าไปควบคุมแคมป์คนงาน หรือพื้นที่ชุมชนแพร่ระบาด ขอให้สร้างความเข้าใจกับแรงงานและเจ้าของสถานประกอบการถึงเหตุผลความจำเป็นในมาตรากรชั่วคราวที่กำหนด พร้อมทั้งเร่งรวบรวมความต้องการวัคซีน เสนอ สธ. เพื่อเร่งฉีดให้กับกำลังพลที่ลงปฏิบัติงานในพื้นที่โดยเร็ว และขอให้พิจารณาจัดตู้ปันสุขในพื้นที่รอบหน่วยทหารและจัดรถครัวสนามสนับสนุนชุมชนในพื้นที่ควบคุมที่มีการแพร่ระบาดโดยทั่วถึง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากมาตรการควบคุมโรคที่กำหนด ในสถานการณ์วิกฤตของการแพร่ระบาดของโรคที่กำลังเกิดขึ้น

เลขาฯ สมช. วอนผู้ประกอบการร้านอาหารหยุดแคมเปญ ‘#กูจะเปิดมึงจะทำไม’ หวั่น ยิ่งทำเชื้อระบาดหนัก ยัน รัฐจ่ายเยียวยาเยอะกว่าทุกรอบ

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ประกอบการร้านอาหารร่วมกันผุดแคมเปญ ‘#กูจะเปิดมึงจะทำไม’ ในสื่อโซเชียล เพื่อแสดงอารยะขัดขืนต่อมาตรการของศบค.ที่ไม่ให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน ว่า ขณะนี้รับทราบแล้ว และขอความร่วมมือให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะถ้าทำอย่างนั้น มีโอกาสเสี่ยงทั้งตัวผู้ประกอบการและผู้บริโภค

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ายังมีการเดินหน้าแคมเปญนี้อยู่ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายไปจัดการหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงต้องดูด้วย แต่ในขั้นต้นอยากขอความร่วมมือก่อน ในบรรยากาศเป็นอย่างนี้ ถ้าไปใช้มาตรการกฎหมายในทันที อาจทำให้ตรึงเครียดมากขึ้น ตอนนี้เราคงเข้าไปพูดคุยขอความร่วมมือว่าถ้าทำอย่างนั้น อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น และที่ผ่านมา จากการสอบสวนโรค พบว่ามาจากลักษณะรวมกลุ่มไปรับประทานอาหารแล้วติดเชื้อกันมา

เมื่อถามว่าช่วงที่มีตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหารมาหารือกับ ศบค. ได้พูดถึงเงื่อนไขที่จะไม่ปฏิบัติตาม บ้างหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่ได้พูด เขาขอให้รัฐบาลดูแลเยียวยา รอบนี้ ศบศ. เยียวยาเยอะ ทั้งผู้ประกอบการและพนักงาน

เมื่อถามย้ำว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเชิญผู้ประกอบการที่ผุดแคมเปญนี้มาหารือกันก่อน เพื่อไม่ให้ไปประท้วงลงถนน พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้ทำความเข้าใจในเรื่องนี้กับทุกคนว่าถ้าทำอย่างนั้น จะทำให้เกิดการติดเชื้อและแพร่ระบาดมากขึ้น รวมถึงสังคมโดยรวมเดือดร้อนไปด้วย จึงต้องขอความร่วมมือและความเห็นใจ ส่วนรัฐบาล และศบค. จะขอดูสถานการณ์เมื่อผ่านไป 15 วัน ถ้าคลี่คลาย ก็จะพิจารณาผ่อนคลายให้ ขอประเมินก่อน และในวันนี้ยังเห็นว่าตัวเลขทรงตัวอยู่ ทั้งที่มีมาตรการออกมาแล้ว

ต่อข้อคำถามว่าผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนและสถานบันเทิงที่ถูกสั่งปิดมาตั้งแต่รอบแรก มองว่ายังไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล เหมือนกับธุรกิจประเภทอื่น กล่าวว่า รอบนี้เขาก็ได้รับการดูแลด้วยตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่อาจไม่เท่ากับที่เขาขอมา

เมื่อถามถึงกรณีที่มีอาจารย์แพทย์จากโรงพยาบาลศิริราชบอกว่าตอนนี้ถือว่าเข้าสู่การระบาดระลอกที่ 4 ในเร็ว ๆ นี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ใช่ เพราะปัจจุบัน สายพันธุ์เดลตาที่มาจากประเทศอินเดีย มีการแพร่ระบาดที่เร็ว อาจารย์แพทย์หลายท่านก็เป็นห่วง จึงได้เสนอมาตรการต่าง ๆ ออกมาด้วยความห่วงใย แต่ก็รับทราบถึงความเดือนร้อนของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการและพนักงาน แม้มีการฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว อย่างเช่น ประเทษอิสราเอลและอังกฤษมีปริมาณการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจำนวนมากพอแล้ว แต่เขาก็ยังย้อนกลับมาล็อกดาวน์อีกรอบ การฉีดวัคซีนไม่ได้รับประกันว่าไม่ติดเชื้อ แต่ยังต้องระวังกันเหมือนเดิม

ต่อข้อถามถึงสถานการณ์ รพ.ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัดปัตตานีที่เริ่มจะรับปริมาณผู้ป่วยไม่ไหวแล้ว พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน

เมื่อถามว่ากรณีที่พบสารละลายลักษณะเจลอยู่ในขวดวัคซีนของบริษัท ซิโนแวค บางล็อต พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขยืนยันแล้วสาเหตุเกิดจากอะไร ให้ฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการฉีดวัคซีนตัวที่มีปัญหาให้กับประชาชน และวัคซีนไม่ได้เกิดปัญหาตั้งแต่ต้น แต่เกิดจากการเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิเย็นเกินไป ไม่ได้เป็นทั้งล็อต เมื่อเขาพบก่อน จึงมีการแจ้งเตือน


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช. สอบน็อตทิพย์ กรมทางหลวง เชื่อไม่ได้มีแค่แห่งเดียว

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้สอบเอาผิดกรมทางหลวง กรณีปล่อยให้ผู้รับเหมาทำน็อตทิพย์เพื่อหลอกตาโดยไม่มีการเชื่อมต่อกับพื้นปูนซีเมนต์จริงบริเวณเสาราวจับบันไดและเสาโครงหลังคากันแดดฝนในโครงการปรับปรุงสะพานลอย บนถนนกาญจนาภิเษกหรือถนนวงแหวนตะวันตก มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำมาเผยแพร่ประจานให้รู้กันทั่ว

กรณีดังกล่าวผู้บริหารของแขวงทางหลวงนนทบุรี และวิศวกรโยธาปฏิบัติการ กรมทางหลวง ได้รีบออกมาแก้ข่าวและอ้างกับสื่อมวลชนว่า เป็นการก่อสร้างเพิ่มเติมช่วงโครงหลังคากันฝน ครอบทับสะพานลอยเก่ามีอยู่แล้ว ผู้รับเหมาจึงเพิ่มเติมเสาขึ้นมาเพื่อยึดติดกับโครงสร้างสะพานลอยของเดิม ซึ่งโครงสร้างสะพานลอยของเดิมนั้นมีเสาพร้อมน็อตติดกับพื้นอยู่ก่อนแล้ว ทางผู้รับเหมาจึงนำแผ่นเหล็กของฐานเสาใหม่มาเชื่อมกับฐานเหล็กเก่าเพื่อต้องการให้แข็งแรงมากขึ้น และแผ่นสแตนเลสที่ทำลอยไว้เป็นการทำโชว์เพื่อความสวยงามของผู้รับเหมา ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีผลกระทบกับโครงสร้างหลักแต่อย่างใด

แต่จากการตรวจสอบพบว่า มีหลายเสาสแตนเลสที่ลอยสูงจากพื้นปูนของตัวสะพานและหรือบันไดสะพานลอยดังกล่าว ไม่มีตัวน็อตที่ขันติดกับพื้นแต่อย่างใด แต่มีบางจุด บางเสาเท่านั้น ที่อาจทำในลักษณะเหมือนเป็นการติดหัวน็อตไว้เพื่อหลอกตาไว้ ซึ่งหากตรวจสอบทุกโครงเสาสแตนเลสทั้งหมดทั้งสองด้านของสะพานลอย และโครงหลังคาก็เชื่อว่า จะมีหลายเสาที่ไม่มีตัวน็อตด้านล่างที่ขันติดกับพื้นปูนหรือพื้นสะพาน เพื่อให้ทุกเสามั่นคง แข็งแรง และสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้สัญจร และใช้ประโยชน์จากสะพานดังกล่าว นอกจากนั้นการเชื่อมโครงหลังคาสะพานลอยที่มีการอ็อคเชื่อมเพียงจุดเล็ก ๆ ไม่มีการเชื่อมรอบเสาแต่อย่างใด

ซึ่งคำชี้แจงของวิศวกรกรมทางหลวงจึงฟังไม่ขึ้น และเชื่อว่ายังมีอีกหลายโครงการสะพานลอยของถนนกาญจนาภิเษก และถนนทางหลวงต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่อาจมีลักษณะเช่นเดียวกัน หรือปล่อยให้ผู้รับเหมาดำเนินการโดยอำเภอใจ เพียงแต่ยังไม่ถูกจับพิรุธขึ้นมาเสียก่อน ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความพร้อมหลักฐานมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อใช้อำนาจตาม พรป.ป.ป.ช.2561 ในการสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่วิศวกร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวง ไปจนถึงอธิบดีกรมทางหลวง ว่าเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือไม่

"แรมโบ้" ซัด "พี่โทนี่" คนไทยไม่ชอบผู้นำพูดมาก-พูดเก่ง-ขี้โกง อย่ามาทำตัวด้อยค่าคนอื่น

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายโทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ร่วมสนทนาในรายการ CARE ClubHouse x CARE Talk วิพากษ์วิจารณ์การออกประกาศของ ศบค.เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และการบริหารจัดการวัคซีน ว่า การออกประกาศนั้นเพราะอยากให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิดคลี่คลายลง เนื่องจากทั้งการรับประทานอาหารในร้านนั้นเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ส่วนแคมป์คนงาน เป็นที่ที่มีการแพร่ระบาดต่อเนื่อง ทั้งนี้มีระยะเวลา 1 เดือน และตลอดทั้งเดือนภาครัฐได้มีการเยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนด้วย 

ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนนายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ ร่วมมือกันทำงานอย่างหนักในการจัดหาวัคซีน และนำมาฉีดให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้มีวัคซีนทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังมีวัคซีนยี่ห้ออื่นๆอีกที่ อย.ได้อนุมัติ และมียี่ห้อที่รอขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ยืนยันว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่รัฐบาลได้วางเอาไว้อย่างแน่นอน 

"นายโทนี่ไม่ต้องทำเป็นห่วงคนไทย ทั้งที่ตัวเองหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ สุขสบาย การที่นายโทนี่อยากจะอาสาจัดหาวัคซีนให้กับประเทศไทย แต่ตนเองมองว่านายโทนี่คงไม่ได้เป็นห่วงจริง เป็นคำพูดเพื่อตัวเองดูดีว่าห่วงใยคนไทย แท้ที่จริงไม่ใช่เช่นนั้น ถ้าห่วงจริงทำไมจึงโดนคดีทุจริตมากมาย อีกทั้งคงไม่มีความจำเป็นที่จะมาช่วยเพราะนายกฯ รัฐบาล สามารถบริหารจัดการเองได้ และถ้านายโทนี่ เก่งกาจ มีความสามารถจริง ก็คงไม่ต้องระเห็ด หนีหัวซุกหัวซุนไปต่างประเทศ แล้วไม่ต้องมาอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งหรือกล่าวหากระบวนการยุติธรรม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนายโทนี่ทำเองทั้งนั้น แค่ให้กลับมาสู้คดีในแผ่นดินเกิดตัวเองยังไม่กล้า นับประสาอะไรจะกล้าอาสามาช่วยโน่นช่วยนี่ ชนักเต็มหลังซะขนาดนั้น

นายเสกสกล กล่าวว่า เข้าใจว่านายโทนี่เป็นนักโทษหนีคดี สถานะคงจะทำอะไรเช่นนี้ไม่ได้ ซึ่งหากอยากจะช่วยประเทศไทย ขอให้ช่วยเคลียร์ตัวเองก่อน กลับมารับโทษที่ประเทศไทย จะสง่างามมากกว่าอยู่ต่างประเทศแล้วออกมาพูดเลอะเทอะ บิดเบือน  ทำให้คนไทยเกิดความสับสน เข้าใจผิด สิ่งที่นายโทนี่จะช่วยประเทศไทยและคนไทยดีกว่าวัคซีน คือหยุดพูดหยุดโจมตีป้ายสีคนอื่น นั่นคือวัคซีนที่ดีที่สุด ที่นายโทนี่ ควรจัดหามาให้

"การพูดให้ดูดีแต่เที่ยวไปด้อยค่าคนอื่น ไม่ใช่วิสัยของผู้นำที่ดี คนไทยสาปแช่งผู้นำที่ดีแต่พูดและคิดแต่โกงกินมากที่สุด ตรงข้ามคนไทยส่วนใหญ่จะชอบผู้นำที่ใจซื่อมือสะอาดไม่คิดโกงบ้านกินเมือง และไม่ต้องเป็นคนพูดเก่งพูดมากและบิดเบือนข้อมมูลให้ประชาชนสับสนเกิดความแตกแยก คนไทยส่วนใหญ่คิดเช่นนั้นหวังว่านายโทนี่คงเข้าใจ" นายเสกสกล กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top