Sunday, 27 April 2025
NEWS

ผู้อำนวยการสวนสัตว์ยืนยัน วิทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin) หนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลสูงสุดในวงการคริปโตฯ ผู้ร่วมก่อตั้งและสร้างเหรียญ Ethereum (ETH) มอบเงิน 10 ล้านบาท จริง 

ตามที่เพจ ‘ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง’ รายงาน ‘วิทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin) หนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลสูงสุดในวงการคริปโตฯ ผู้ร่วมก่อตั้งและสร้างเหรียญ Ethereum (ETH) มอบเงิน 10 ล้านบาท เพื่อสร้างบ้านใหม่ให้หมูเด้ง

“หลังจากครั้งที่เเล้วซื้อผัดกระเพรามาฝาก รอบนี้ คุณ Vitalik Buterrin สนับสนุนเงิน 10,000,000 บาท ในโครงการอุปถัมภ์สัตว์ป่า เพื่อสร้างบ้านใหม่ให้หมูเด้ง เเล้วเจอกันกับบ้านใหม่หมูเด้งเร็วๆ นี้“

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 26 ธันวาคม 2567  ผู้สื่อข่าวได้การเปิดเผยจาก นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กรณี ที่นาย ทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin)ได้มาเยี่ยมชมน้องหมูเด้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่แล้วโดยทางด้านสวนสัตว์เปิดเขาเขียวกับทางด้านนายนาย ทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin)ได้หารือกันเบื้องต้นซึ่งทางด้านทาลิกมีความสนใจที่จะมอบเงินสนับสนุนเพื่อเข้าโครงการอุปถัมภ์สัตว์ป่าของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเพื่อนำมาสร้างบ้านให้กับน้องหมูเด้ง หลังจากนั้นทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียวนั้นได้ไปสอบถามและปรึกษาทางด้านกฎหมายก่อนหน้านี้แล้วจนกระทั่งถึงปัจจุบันทางด้านทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin)ได้มอบเงินสนับสนุนจำนวน 10 ล้านบาท โดยวันนี้ทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียวได้รับเช็คเงินสดมาแล้วจำนวน 5 ล้านบาท และหลังจากนี้ทางด้านสวนก็เปิดเขาเขียวจะออกแผนผังบ้านน้องหมูเด้งและภายในปีหน้าทางด้านนาย ทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin)จะเดินทางมามอบเงินอีก 5 ล้านบาท

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ต้อนรับผู้แทน หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ (27 ธ.ค.67) น.อ.หญิง นงลักษณ์ สิงหโกวินท์ รอง ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ให้การต้อนรับผู้แทนหน่วยรบพิเศษของ กองทัพบก สหรัฐอเมริกา Special Force Readiness Evaluation (SFRE) Team โดยมอบหมายให้ SFC Paul Jedlicka เข้าดูความพร้อมในด้านการแพทย์ และขอเข้าเยี่ยมดูงาน ในหน่วย ER/ ICU/ WARD/ X-RAY/ BLOOD BANK/ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์

โดยมีผู้แทนของหน่วยงานดังกล่าว ร่วมแนะนำขีดความสามารถของหน่วย หน้างานอีกด้วย 

ตำรวจ ขยายผลจับตัวการค้ายาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด พบการเครือข่ายทั้งผู้ซื้อ - ผู้ขาย โดยใช้ออกทริปบังหน้า

อวสาน 'ทริปน้ำไม่อาบ' จับตัวการชักชวน ขยายผลจับยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด พบมีการหาเครือข่ายทั้งผู้ซื้อ ผู้ขายยาเสพติด โดยใช้ออกทริปบังหน้า

(27 ธ.ค. 67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น การแข่งรถ หรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ , พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.ภ.6 ขยายผลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง เครือข่ายทริป “น้ำไม่อาบ” นำไปสู่การจับกุมยาบ้ารวมกว่า 15.6 ล้านเม็ด (เครือข่าย RNC8) พบว่ามีการหาเครือข่ายทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย ใช้ออกทริปบังหน้า

พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดำเนินคดีเด็ดขาดกับกลุ่มออกทริป 'น้ำไม่อาบ' ย้ำ 'ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย' ได้มอบหมาย พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. กำกับดูแลงานป้องกันและปราบปราม ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'เมลาย รัชดา' ชักชวนทำให้มีการรวมกลุ่มของการขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างมาก ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 7 ปี มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตซึ่งเกิดจากกลุ่มผู้ออกทริปเป็นประจำทุกปี คณะทำงานฯ ได้ออกประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนตามเส้นทางให้ขับขี่เคารพกฎจราจร แต่ยังมีการฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหาแข่งรถในทางฯ จากการสอบสวนทราบว่ามาร่วมทริป 'น้ำไม่อาบ' จึงได้สั่งการให้คณะทำงานฯ ดำเนินการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้เชิญชวนส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดดังกล่าวอย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์ ต่อมาได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหา และ นายเมธาฯ หรือ 'เมลาย รัชดา' และภรรยา คือ น.ส.วิริยาฯ เจ้าของเพจ 'เมลาย รัชดา แฟนเพจ' เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานชักชวนให้มีการแข่งรถในทางฯ จากข้อมูลและผลการปฏิบัติดังกล่าว จะได้เป็นแนวทางในการมอบหมายให้ทุกหน่วยทั่วประเทศดำเนินการในการเฝ้าระวัง และสืบสวนติดตามจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร นปส.ขกท.ศปก.ทบ.(สปข.ขกท.ศปก.ทบ.) และ ขกท.ศปก.ทภ.1 ร่วมจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ นายวีรเทพฯ พร้อมของกลาง ยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงกระสอบ จำนวนประมาณ 78 กระสอบ กระสอบละประมาณ 200,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้า ประมาณ 15,600,000 เม็ด ซึ่งจากคำให้การของผู้ต้องหา พบว่าจุดเริ่มต้นที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คือมีคนชักชวนผ่านทางการพนันตามสนามแข่งรถ หรือจัดทริปขับขี่รถจักรยานยนต์ออกเที่ยวตามต่างจังหวัดในสถานที่ต่างๆ โดยแต่ละครั้งที่มีการรวมตัวกัน จะมีบุคคลซึ่งเป็นระดับสั่งการหรือนายทุนมาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งเป็นเหมือนการพบปะ หรือจัดเลี้ยงของกลุ่มขบวนการยาเสพติดไปในตัว โดยใช้การออกทริปหรือไปท่องเที่ยวเป็นกลุ่มด้วยกัน เป็นการสังสรรค์ ประสานงานกัน สั่งการในเรื่องซื้อขายยาเสพติด ซึ่งล่าสุดคือทริป “น้ำไม่อาบ” ที่เพิ่งผ่านมา

พล.ต.ท.สำราญ ย้ำว่า นโยบายของรัฐบาล โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ รวมถึงความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ สามารถแจ้งเบาะแสเหตุได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เชียงใหม่-คณะแพทยศาสตร์ มช. แถลงข่าวสื่อมวลชน โชว์ผลงานเด่นในรอบปี 2567

คณะแพทยศาสตร์ มช. จัดงานแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำปี 2567ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 65 ปี คณะแพทยศาสตร์ มช. ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญที่แสดงถึงบทบาทและความก้าวหน้าของคณะฯ ในการเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการแพทย์ชั้นนำของประเทศไทย โดยมีการนำเสนอข้อมูลและความสำเร็จในด้านต่าง ๆ พร้อมทั้งแนวทางการพัฒนาในอนาคต ภายใต้ความร่วมมือของ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ศูนย์ศรีพัฒน์ และ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์

ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ)นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า “คณะแพทยศาสตร์ มช. มีผลงานเด่นที่สร้างความภาคภูมิใจทั้งในด้านวิชาการ การวิจัย และการให้บริการสุขภาพ และเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์ในภาคเหนือ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาวิชาการ วิจัย การผลิตบุคลากรทางการแพทย์ และการบริการสุขภาพ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนและสังคมในทุกมิติ โดยได้กำหนดทิศทางและแนวทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ผ่านนโยบายหลักที่สำคัญ 

ได้แก่ การพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาโดยเสริมสร้างหลักสูตรแพทยศาสตร์ให้ทันสมัยและตอบสนองความต้องการของสังคมสนับสนุนการเรียนรู้แบบบูรณาการและใช้เทคโนโลยี AI ในการศึกษาการแพทย์ สร้างบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและจริยธรรม ส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ ผลักดันงานวิจัยที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม เพิ่มโอกาสความร่วมมือด้านวิจัยในระดับนานาชาติผ่านศูนย์วิจัยระดับมาตรฐานโลก พัฒนานวัตกรรมที่ตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพของประชาชน ยกระดับคุณภาพการบริการทางการแพทย์ ปรับปรุงโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 

และศูนย์ศรีพัฒน์ ส่งเสริมศูนย์ความเป็นเลิศ (Centers of Excellence) ให้มีความทันสมัย มีนโยบายการรักษาเฉพาะทางที่มีความซับซ้อนสูง และขยายบริการทางการแพทย์ให้เข้าถึงชุมชนในพื้นที่ห่างไกล ด้วยคุณภาพระดับมาตรฐานสากล  ยกระดับชื่อเสียงของคณะแพทยศาสตร์ มช. สู่ระดับโลก พัฒนาความร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ชั้นนำในต่างประเทศ เพื่อต่อยอดพันธกิจหลักทั้งการศึกษา การวิจัย และการบริการ ในปี 2567 คณะแพทยศาสตร์ มช. ได้ขับเคลื่อนโครงการเชิงรุกต่าง ๆ ที่เป็นรูปธรรม ได้แก่ การเปิดตัวเทคโนโลยีขั้นสูงทางการแพทย์ใหม่ในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ความสำเร็จของศูนย์วิจัยที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ การเพิ่มจำนวนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่านโครงการพัฒนาบุคลากร และในปี 2568 จะมีแผนสร้างเครือข่ายด้านสุขภาพระดับภูมิภาคที่มีศูนย์กลางในเชียงใหม่ ผลักดันการวิจัยที่ต่อยอดเชิงพาณิชย์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในระบบสาธารณสุข เพื่อขยายบทบาทของคณะแพทยศาสตร์ มช. ในฐานะผู้นำด้านสุขภาพของประเทศไทย และเดินหน้าสร้างความเป็นเลิศในทุกด้านเพื่อประโยชน์ของสังคมและประเทศชาติต่อไป”

จากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้คณะแพทยศาสตร์ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจและผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์กรต่างๆระดับนานาชาติ ได้แก่ รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ Thailand Quality Class+ (TQC+customer 2024)  The Best Quality Leadership Award 2024 จากองค์กร European Society for Quality Research ,รางวัล Certificate of Merit in Faculty Development 2024 , รางวัลนวัตกรรมการบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ปี 2023และ2024 , Thailand Social Award 2024 , รางวัลสถานศึกษาปลอดภัย ประจำปี 2567 ระดับดีเด่น , การรับรองมาตรฐาน HAIT level 2 ,การรับรองมาตรฐานสากล ด้านความ มั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO/IEC และ Nursing Quality Assessment Award (NQA Award) 2024 โดยการได้รับรางวัลดังกล่าว เป็นหลักฐานสร้างความมั่นใจ ในการเป็นโรงเรียนแพทย์ในดวงใจ ของคณะแพทยศาสตร์ มช. 

รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า “จากจำนวนผู้รับบริการของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ในปี 2567 โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้ปรับปรุงพื้นที่ให้บริการของโรงพยาบาล โดยได้ปรับปรุงอาคารสุจิณฺโณ อาคารผู้ป่วยและอาคารที่เกี่ยวข้องได้แก่ หอผู้ป่วยสามัญ ชั้น 3,4,5,6,7,8,9,11 และหอผู้ป่วยพิเศษ ชั้น 12,13,14 อาคารสุจิณฺโณ , ห้องประชุมชั้น 15 สุจิณฺโณ , พิพิธภัณฑ์หลวงปู่แหวน “สุจิณฺโณ” , โถงชั้น 1 สุจิณฺโณ , ห้อง ICU ออร์โทปิดิกส์ ชั้น 4 , ศูนย์โรคทางเดินอาหาร ชั้น 2 , ห้องพิเศษ Palliative Care ชั้น 3 , ห้องผ่าตัดศัลยกรรมชั้น 2 อาคารผ่าตัด , ห้องผ่าตัดสูตินรีเวช ชั้น 3 , ห้องฉุกเฉิน One Stop Service , ห้องสวนหัวใจและหลอดเลือดและห้องเอ็มอาร์ไอหัวใจ , ปรับปรุงท่อแนวดิ่ง-ส่วนอาคารห้องงานระบบไฟฟ้า ดับเพลิง และห้องเก็บก๊าซทางการแพทย์และท่อลมขนส่ง 105 สถานี ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มุ่งเน้นการเป็นโรงพยาบาลในดวงใจ เพื่อคุณภาพและการให้บริการที่เป็นเลิศระดับมาตรฐานสากล

ด้านศูนย์ศรีพัฒน์ โดย ผศ.นพ. กสิสิน กลั่นกลิ่น รองผู้อำนวยการศูนย์ศรีพัฒน์ ผู้แทน ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ศรีพัฒน์ เปิดเผยว่า “การให้บริการที่เพิ่มขึ้น ของปี 2567 ที่ผ่านมา ได้แก่การเพิ่มบริการคลินิกสูตินรีเวช เพิ่มบริการ O-shot PRP เพื่อฟื้นฟูสุขภาพและความมั่นใจของผู้หญิงด้วยเทคโนโลยี PRP (Platelet Rich Plasma) ,Wound Center เพิ่มบริการรักษาบาดแผลเรื้อรังด้วยเทคโนโลยี Vacuum Dressing ที่ช่วยเร่งกระบวนการหายของบาดแผล , Sleep Clinic เริ่มให้บริการ Home Sleep Test ซึ่งเป็นเครื่องมือตรวจการนอนหลับที่สามารถใช้งานได้ที่บ้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ป่วย 

สำหรับแผนการเพิ่มบริการใหม่ในปี 2568  ห้องผ่าตัด (Operating Room - OR) นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดความเสี่ยงระหว่างการผ่าตัด เช่น ระบบนำทางผ่าตัด (Surgical Navigation) หรือเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูง ,Wellness Center เพิ่มบริการที่ตอบโจทย์การดูแลรูปร่างและสุขภาพ ได้แก่ เทคโนโลยีกระชับสัดส่วน การฟื้นฟูภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ,Resuscitation Unit วางแผนขยายพื้นที่ให้บริการสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน และจัดตั้ง ทีมฉุกเฉินเคลื่อนที่เร็ว เพื่อตอบสนองกรณีฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แผนดังกล่าวมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ป่วยด้วยการใช้เทคโนโลยีและการบริการที่ทันสมัย”

รศ.พญ.อรินทยา พรหมินธิกุล ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ เปิดเผยว่า “ผลงานตลอดการดำเนินงานระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 – 2568 ภายใต้การนำทีมบริหาร โดยการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ 4 ข้อ ได้แก่ ความเป็นเลิศด้านสุขภาพ การวิจัยและนวัตกรรม ความเป็นเลิศด้านบริการวิชาการ และความเป็นเลิศด้านการจัดการทรัพยากรและผลลัพธ์ สำหรับด้านความเป็นเลิศด้านสุขภาพ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการโดยที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเป็นสำคัญ และยกระดับการให้บริการให้มีมาตรฐานตามมาตรฐานสากล ตั้งศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุมีปริมาณผู้รับบริการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการที่ไม่ทั่วถึง มีระยะเวลาการรอตรวจนาน  มีปัญหาตามจุดบริการต่างๆ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์จึงจัดตั้งศูนย์บริการผู้ป่วย หรือ Customer Service Center ขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆแบบครบวงจร ซึ่งภายในศูนย์บริการผู้ป่วยประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่เวชระเบียน เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ และพยาบาลวิชาชีพ โดยจะทำหน้าที่ให้ข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการ ลงทะเบียนตรวจ ออกใบนัดตรวจ รับข้อร้องเรียนการให้บริการ ประสานงานเรื่องในกรณีคนไข้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาโรงพยาบาล เช่น ส่งยาทางไปรษณีย์ เจาะเลือดที่บ้าน (Mobile LAB) และเยี่ยมคนไข้ที่บ้าน (Home visit)  รวมไปถึงคัดกรองอาการของผู้รับบริการเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับการดูแลที่ทั่วถึง สะดวกสบาย รวดเร็วและเข้าถึงการบริการมากยิ่งขึ้น สามารถทำการติดต่อสอบถามได้ทั้งโทรศัพท์ ข้อความเฟสบุ๊ค และแอปพลิเคชันไลน์ ยกระดับการให้บริการให้มีมาตรฐานสากลผ่านการรับรองมาตราฐาน HA ขั้น 3 อาคารเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ,ผ่านการรับรองจาก สรพ. โปรแกรมการดูแลภาวะทางเดินหายใจ การอุดกั้นขณะหลับ (OSA) (ศูนย์วิเคราะห์สุขภาพการนอนหลับ) ,ผ่านการรับรองการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาลเฉพาะโรค หรือเฉพาะระบบคลินิคเบาหวานครบวงจรสําหรับผู้สูงอายุ (PDSC DM)  ,ผ่านการรับรองมาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร SAN Plus “สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน” มาตรฐานสุขาภิบาลอาหารภายใต้วิถีใหม่แบบยกระดับรับรองโดยสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ ,ห้องปฏิบัติการผ่านการรับรองความสามารถตามมาตรฐาน ISO 15190: 2020 และ ISO 15190: 2003จากสำนักมาตรฐาน ห้องปฏิบัติการ กระทรวงสาธารณสุข ,ผ่านการเยี่ยมสำรวจขององค์กรวิชาชีพเภสัชกรรมโรงพยาบาล ระบบยาและงานเภสัชกรรม จากสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย)

คณแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ดำเนินการตามวิสัยทัศน์ในการผลิตบัณฑิตแพทย์ สร้างสรรค์งานวิจัย และดูแลผู้ป่วยด้วยมาตรฐานสากล ตลอด 65 ปี เรามุ่งมั่นในการเป็นโรงเรียนแพทย์ในดวงใจ เพื่อยกระดับสุขภาวะของมวลมนุษยชาติด้วยความเป็นเลิศทั้งการศึกษา การวิจัย และการบริการ ภายใต้เกณฑ์รางวัลคุณภาพระดับมาตรฐานสากล

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีสวนสนามปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ภาคสาธารณศึกษา ผลัดที่ 3/67 ชื่นชมการเปลี่ยนแปลง มีความองอาจ เข้มแข็ง ของน้องเล็กกองทัพเรือ 

“เกียรติยศ แห่งความภาคภูมิใจ น้องเล็กกองทัพเรือ ก้าวสู่สุภาพบุรุษทหารเรือที่องอาจ เข้มแข็ง”

(27 ธ.ค.67) พล.ร.อ.ณัฏฐพล เดี่ยววานิช  ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีสวนสนามปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ภาคสาธารณศึกษา ผลัดที่ 3/67 ณ ลานสวนสนาม ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหาเรือ (ศฝท.ยศ.ทร.) โดยมี พล.ร.ท.อดิศักดิ์ แจงเล็ก เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ พร้อมด้วย น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.และคณะ ให้การต้อนรับ ณ บก.ศฝท.ยศ.ทร. ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การจัดพิธีดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนพลกองประจำการหลักสูตรทหารใหม่ฯ ผลัดที่ 3/67 จำนวนทั้งสิ้น 3,932 นาย จัดเป็นกรมสวนสนาม ประกอบด้วย 4 กองพัน (20 กองร้อย) และ 1 กองร้อยวิ่งสวนสนาม ซึ่งได้แสดงออกถึงความเป็นทหารที่มีความเข้มแข็ง องอาจ พร้อมเพรียง และมีระเบียบวินัย ผ่านการสวนสนามให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ ตลอดจนญาติได้เห็นผลของการฝึกอบรมตลอดระยะเวลาทั้งสิ้น 8 สัปดาห์ สามารถปรับสภาพร่างกาย และจิตใจ จากพลเรือน สู่การเป็นทหาร อีกทั้งยังแสดงถึงความสามัคคี และมีความสง่างาม สมเป็นชายชาติทหารอีกด้วย   

นอกจากการสวนสนามแล้ว ศฝท.ยศ.ทร. ยังมีการอบรมทหารใหม่ ให้มีความรู้ในวิชาการทหารเรือเบื้องต้น การอาวุธ รวมทั้งปลูกฝังให้เกิดความรักในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้การฝึกอบรมได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยมีกำหนดการส่งตัวใน 1 ม.ค.68 เพื่อไปปฏิบัติงานในหน่วยงานต่างๆ ของกองทัพเรือต่อไป   

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการได้กล่าวชื่นชมการแสดงออกของน้องเล็กองทัพเรือว่า “...ปฏิบัติได้อย่างสมศักดิ์ศรี มีความเข้มแข็ง ตั้งใจ ผมมีความภาคภูมิใจ และขอต้อนรับน้องเล็กทุกนายที่จะเดินทางไปรับราชการกับหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ เพื่อปฏิบัติภารกิจปกป้องรักษาอธิปไตย คุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และช่วยเหลือประชาชน ต่อไป...”

จากนั้นผู้บัญชาการกองเรือยุทธการได้ทักทาย และกล่าวขอบคุณญาติที่ให้ลูกหลานมารับใช้ชาติ ช่วยเหลือประชาชน ขอให้ญาติร่วมภาคภูมิใจในสิ่งที่ได้เห็นการแสดงออกถึงความตั้งใจ ลูกหลานของท่านคือ 'น้องเล็กของเรา' ถือเป็นโอกาสให้น้องมาเรียนรู้ เพื่อเป็นพลเมืองที่ดีในอนาคต

‘หนูนา’ มอบของขวัญปีใหม่เป็นหมายศาล จัดหนักเกรียนคีย์บอร์ด ทั้งแพ่งและอาญา

‘หนูนา - กัญจนา ศิลปอาชา’ โพสต์มอบของขวัญปีใหม่ให้เกรียนคีย์บอร์ด เป็นหมายศาล จัดหนักฟ้องทั้งแพ่งและอาญา ซัด ต้องได้รับผลแห่งการกระทำอย่างเต็มที่

(27 ธ.ค. 67) นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ หนูนา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา และอดีต รมช. ศึกษาธิการ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้…คนที่หมิ่นประมาทดิฉัน…ทยอยเริ่มได้ของขวัญปีใหม่เป็นหมายศาลแล้วนะคะ…

ช่วงที่ดิฉันไม่คิดจะดำเนินคดี..พวกคุณมันมือกันมาก..ด่าว่าหยาบคาย (มาก) และถึงบุพการีดิฉันด้วย…

เมื่อดิฉันประกาศดำเนินคดี … พวกคุณรีบลบโพสต์กันหมด..

แต่ดิฉันโชคดี มีกัลยาณมิตรทีมแคปทันไทยแลนด์..เก็บหลักฐานไว้ให้ …

พวกคุณกล้าทำ แต่ไม่กล้ารับ ..

แต่ดิฉันจะทำให้พวกคุณต้องรับผลของการกระทำอย่างเต็มที่…

เคยบอกแล้วว่า..ดิฉันไม่ได้โกรธ เกลียดพวกคุณ…ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยกับคนอย่างพวกคุณ ..

แค่พิจารณาว่า…คนอย่างพวกคุณควรได้รับบทเรียนในการกระทำที่วิญญูชน (คนที่รู้ผิดชอบชั่วดี) เขาไม่ทำกัน ..

ไม่ควรมีใครถูกกระทำอย่างที่ดิฉันถูกกระทำ…

และถ้าจะสู้กับดิฉัน…ก็เตรียมเงินไว้ให้พร้อมนะคะ… ดิฉันฟ้องทั้งอาญาและแพ่ง…

‘เสกสรร - แสงมณี’ โพสต์ข้อความถึง ‘เบิร์ด วันว่าง ๆ’ บอกอยากทำคอนเทนต์ด้วย หลังเห็นแต่ละคลิปแล้วรับไม่ได้

( 27 ธ.ค.67) จากกรณี ‘แบงค์ เลสเตอร์’ หรือชื่อจริง นายธนาคาร คันธี อินฟลูเอนเซอร์สู้ชีวิต ที่เสียชีวิตกะทันหัน ขณะไปร่วมงานเปิดร้านการเกษตรแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยสาเหตุคาดว่าเกิดจากการดื่มสุราในปริมาณมากอย่างรวดเร็ว เพื่อแลกกับเงิน 3 หมื่นบาท 

ล่าสุด เสกสรร อ.ขวัญเมือง นักมวยไทยชื่อดัง ได้ออกมาอัดคลิป พร้อมฝากถึง เบิร์ด วันว่างๆ หนึ่งในคนที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับประเด็นนี้ ว่า ตนอยากจะทำคอนเทนต์ด้วย

เสกสรร กล่าวในคลิปว่า “เบิร์ด วันว่างๆ แต่ละคลิป แต่ละคอนเทนต์ของคุณนี่ ไม่ธรรมดาจริงๆนะครับ ถ้าวันไหนคุณว่าง คุณช่วยมาทำคอนเทนต์กับผมสักวันนะครับ เดี๋ยวผมจัดให้ครับ เชิญนะครับ ฝากด้วยนะครับ เบิร์ด วันว่างๆ โอเคครับรู้เรื่อง”

นอกจากนี้ น้องบอล แสงมณี หรือ พงศกร สิทธิเดช อีกหนึ่งยอดมวยไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ยิ่งเห็นยิ่งสงสาร เบิร์ดแหละตัวดีแบบนี้เขาไม่เรียกคอนเทนต์หรอกแบบนี้เขาเรียกตั้งใจ เอาดิเอากับคนที่เขาสู้หน่อยอย่าเก่งเฉพาะกับคนที่เขาอ่อนแอกว่า

ไทยในฐานะชาติพันธมิตรกลุ่ม BRICS ปีหน้า 68 'บราซิล' เป็นเจ้าภาพจัดประชุม

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยเมื่อ 26 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ประเทศไทยได้รับหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการจากรัสเซียตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งรัสเซียในฐานะเป็นประธานกลุ่ม BRICS ประจำปี 2567 ให้เข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS และในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบว่า ไทยจะมีหนังสือตอบรับการเชิญดังกล่าว โดยในวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เพื่อตอบรับการเข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนกลุ่ม BRICS

กลุ่ม BRICS ได้กำหนดบทบาทของประเทศพันธมิตรไว้ในเอกสาร Modalities of BRICS Partner Country Category โดยในฐานะที่ไทยเป็นชาติหุ้นส่วน มีประเด็นหลักสำคัญที่ต้องมีส่วนร่วม เช่น ประเทศหุ้นส่วนจะต้องเข้าร่วมการหารือระหว่างประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS กับประเทศหุ้นส่วนในระดับต่าง ๆ ได้แก่ (1) การประชุมระดับผู้นำ (2) การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ และ (3) การประชุมรัฐมนตรีรายสาขาที่ได้รับเชิญอย่างแข็งขัน นอกจากนี้ ประเทศหุ้นส่วนยังสามารถให้การสนับสนุนเอกสารผลลัพธ์จากการประชุมผู้นำและรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม BRICS ได้ด้วย

การที่ไทยได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนกลุ่ม BRICS ถือเป็นก้าวสำคัญในการที่ไทยจะสามารถเข้าเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของกลุ่ม BRICS ในอนาคต โดยไทยมีเป้าหมายในการยกระดับความร่วมมือกับกลุ่ม BRICS เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างบทบาทของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาและเสริมสร้างระบบพหุภาคีที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศกำลังพัฒนา

กระทรวงการต่างประเทศมีแผนที่จะหารือเพิ่มเติมกับหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ของไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS ต่อไป โดยในวันที่ 1 มกราคม 2568 บราซิลจะรับตำแหน่งประธานกลุ่ม BRICS ต่อจากรัสเซีย โดยจะใช้หัวข้อหลักในการประชุมคือ “การเสริมสร้างความร่วมมือของประเทศโลกใต้เพื่อธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนขึ้น” (Strengthening Cooperation in the Global South for More Inclusive and Sustainable Governance) ซึ่งไทยเตรียมจะเข้าร่วมการหารือดังกล่าว

ตำรวจ โชว์ 'นายกฯอิ๊งค์' ความพร้อม ผบ.ตร.พร้อมดูแลประชาชนครบวงจร วางกำลัง สายตรวจ ตร- ท่องเที่ยว ทางหลวง ไซเบอร์เสริมเว็บไซต์ 'Cyber check' เช็กเบอร์มือถือ- บัญขีธนาคารป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นางสาว แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เดินทางมา รับฟังแผนการในการดูแลประชาชน ในช่วงเทศกาลตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไปของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 

โดยมึ ทั้งการอำนวยความสะดวก ในการเดินทาง การักษาความปลอดภัยในงานรื่นเริงต่างๆ ทั่วประเทศ 

โดยมี พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจเอก ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก นิรันดร เหลื่อมศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ  ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจ และ หน่วยงานตำรวจที่สำคัญในช่วงเทศกาล อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว ทางหลวง ตำรวจไซเบอร์ และหน่วยงานอื่นๆ  
         
ทั้งนี้ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานว่าได้สั่งการให้ ทุกหน่วยงาน ปฎิบัติภารกิจอย่างาต่อเนื่องในช่วงเทศกาล โดยมีโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ Cyber Check ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี( บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ จัดทำแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ “www.เช็กก่http://xn--q3c3b.com/” 

ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถตรวจเช็คเลขบัญชีธนาคารก่อนทำการโอนเงิน เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโกง และยังมีฟังก์ชันในการแจ้งเกี่ยวกับบัญชีม้า หรือบัญชีที่เคยโกง 

นอกจากนี้ยังมี แอปพลิเคชัน “Cyber Check” ที่สามารถทำการติดตั้งลงบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามา และ SMS ที่แนบลิงก์ที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาแบบอัตโนมัติ รวมทั้งมีฟังก์ชันในการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ และบัญชีธนาคารที่ต้องสงสัยได้อีกด้วย
           
โครงการบูรณาการระบบบริหารรับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยว ผ่าน 1555  ที่รองรับการแจ้งเหตุถึง 8 ภาษา คือ อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น รัสเซีย ภาษาฮินดี เยอรมัน และ ฝรั่งเศส และการพัฒนาแอปพลิเคชันช่วยเหลือนักท่องเที่ยว “Thailand Tourist Police” ที่มีจุดเด่นคือ ระบบปุ่ม SOS และ GPS สามารถแชร์โลเคชันเพื่อแจ้งพิกัดรับการช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงที  และศูนย์ประสานงานการแก้ปัญหานักท่องเที่ยวแบบศูนย์รวม         

สำหรับตำรวจทางหลวงมีโครงการส่วนลดพิเศษสำหรับที่พัก ในการเข้าใช้บริการบ้านพักตากอากาศ ริมทะเล อยู่ที่ The Cop Seminar & Resort อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หรือ ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการตำรวจ มีไว้ให้บริการข้าราชการตำรวจ ครอบครัวตำรวจ และพี่น้องประชาชน
             
นอกจากนั้น ยังมีโครงการห้องพักทั่วไทย จากใจตำรวจทางหลวง 205 แห่งทั่วประเทศ โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบัญชาการสอบสวนกลาง ได้จัดให้หน่วยบริการทางหลวง 205 แห่ง มีที่พักสำหรับประชาชนเข้าพักฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อให้ประชาชนผู้เดินทางในระยะทางไกล ได้พักผ่อนจากการขับรถทางไกลก่อนที่จะเดินทางต่อ ลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน หรือง่วงแล้วขับ ตามโครงการห้องพักสำหรับประชาชนของกองบังคับการตำรวจทางหลวง            

จากนั้นนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เป็นประธานในการเปิดงาน “ของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2568 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มอบให้แก่ประชาชน”   

นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่าให้ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ไซเบอร์เช็ก (Cyber check) เนื่องจากปัจจุบันมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวนมาก เว็บไซต์ไซเบอร์เช็ก จึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์มือถือและหมายเลขบัญชีธนาคารที่มีความเสี่ยงต่ออาชญากรรมได้

อวสาน 'ทริปน้ำไม่อาบ' จับตัวการชักชวน ขยายผลจับยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด พบมีการหาเครือข่ายทั้งผู้ซื้อ ผู้ขายยาเสพติด โดยใช้ออกทริปบังหน้า  

(27 ธ.ค. 67) เวลา 12.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น การแข่งรถ หรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ , พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.ภ.6 ขยายผลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง เครือข่ายทริป “น้ำไม่อาบ” นำไปสู่การจับกุมยาบ้ารวมกว่า 15.6 ล้านเม็ด (เครือข่าย RNC8) พบว่ามีการหาเครือข่ายทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย ใช้ออกทริปบังหน้า  

พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดำเนินคดีเด็ดขาดกับกลุ่มออกทริป 'น้ำไม่อาบ' ย้ำ “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย” ได้มอบหมาย พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. กำกับดูแลงานป้องกันและปราบปราม ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ “เมลาย รัชดา” ชักชวนทำให้มีการรวมกลุ่มของการขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างมาก ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 7 ปี มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตซึ่งเกิดจากกลุ่มผู้ออกทริปเป็นประจำทุกปี คณะทำงานฯ ได้ออกประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนตามเส้นทางให้ขับขี่เคารพกฎจราจร แต่ยังมีการฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหาแข่งรถในทางฯ จากการสอบสวนทราบว่ามาร่วมทริป“น้ำไม่อาบ” จึงได้สั่งการให้คณะทำงานฯ ดำเนินการรวบรวมข้อมูล  เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้เชิญชวนส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดดังกล่าวอย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์ ต่อมาได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหา และ นายเมธาฯ หรือ “เมลาย รัชดา” และภรรยา คือ น.ส.วิริยาฯ  เจ้าของเพจ “เมลาย รัชดา แฟนเพจ” เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานชักชวนให้มีการแข่งรถในทางฯ จากข้อมูลและผลการปฏิบัติดังกล่าว จะได้เป็นแนวทางในการมอบหมายให้ทุกหน่วยทั่วประเทศดำเนินการในการเฝ้าระวัง และสืบสวนติดตามจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6  ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร นปส.ขกท.ศปก.ทบ.(สปข.ขกท.ศปก.ทบ.) และ ขกท.ศปก.ทภ.1 ร่วมจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ นายวีรเทพฯ พร้อมของกลาง ยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงกระสอบ จำนวนประมาณ 78 กระสอบ กระสอบละประมาณ 200,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้า ประมาณ 15,600,000 เม็ด ซึ่งจากคำให้การของผู้ต้องหา พบว่าจุดเริ่มต้นที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คือมีคนชักชวนผ่านทางการพนันตามสนามแข่งรถ หรือจัดทริปขับขี่รถจักรยานยนต์ออกเที่ยวตามต่างจังหวัดในสถานที่ต่างๆ โดยแต่ละครั้งที่มีการรวมตัวกัน จะมีบุคคลซึ่งเป็นระดับสั่งการหรือนายทุนมาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งเป็นเหมือนการพบปะ หรือจัดเลี้ยงของกลุ่มขบวนการยาเสพติดไปในตัว โดยใช้การออกทริปหรือไปท่องเที่ยวเป็นกลุ่มด้วยกัน เป็นการสังสรรค์ ประสานงานกัน สั่งการในเรื่องซื้อขายยาเสพติด ซึ่งล่าสุดคือทริป “น้ำไม่อาบ” ที่เพิ่งผ่านมา

พล.ต.ท.สำราญฯ ย้ำว่า นโยบายของรัฐบาล โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ รวมถึงความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ สามารถแจ้งเบาะแสเหตุได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

'เฉลิมชัย' หนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อพลังงานสะอาด ลดโลกร้อน

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารของ บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบด้วย Mr.Harry Xiao ผู้อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย Mr.Benson Ke ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดและการขาย นายสินชัย ลีธนาเศรษฐ ผู้บริหารงานด้านรัฐกิจสัมพันธ์ และนายประวิทย์ วิจิตรธนกูล ผู้จัดการฝ่ายพาณิชย์ ที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 

ในโอกาสขอเข้าพบเพื่อแนะนำตัวและหารือถึงแนวนโยบายในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อสนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นฐานการผลิตนอกประเทศเป็นที่แรกของ BYD ที่มีการผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยและมีแผนในอนาคตที่จะส่งออกจากไทยประมาณ 40% ในการนี้ ดร.เฉลิมชัย  กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยินดีให้การสนับสนุนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อน (26 ธันวาคม 2567)

ธีรรัตน์ ตรวจด่านโคราช ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ - ฝากความห่วงใยประชาชนช่วงปีใหม่ 2568 พร้อมมาตรการลดอุบัติเหตุ

(27 ธ.ค.67) นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านชุมชนในเขตตำบลหมูสี และตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้การต้อนรับ

การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 รวมถึงแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีปริมาณการเดินทางสูงกว่าปีก่อน

"ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ความเสียสละและความทุ่มเทของท่าน มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเฝ้าระวังอุบัติเหตุ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างปลอดภัยทุกคน"

จากสถิติปี 2567 มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้น 2,288 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2,307 คน และเสียชีวิต 284 คน โดยสาเหตุสำคัญคือการดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด รัฐบาลจึงตั้งเป้าลดอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ 2568 และได้ขยายระยะเวลาการเฝ้าระวังจาก 7 วัน เป็น 10 วัน ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 พร้อมมาตรการลดอุบัติเหตุที่สำคัญ ได้แก่

1. รณรงค์งดดื่มแอลกอฮอล์และขับขี่ยานพาหนะ
ประชาสัมพันธ์สโลแกน “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” พร้อมปลูกจิตสำนึกผู้ขับขี่ให้ตระหนักถึงความปลอดภัย

2. เพิ่มด่านชุมชนและด่านครอบครัว
ขยายการตั้งด่านตรวจในชุมชน โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่

3. ตรวจเข้มปริมาณแอลกอฮอล์
บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนและขยายผลทันที

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า
"ปีใหม่ปีนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย ได้กลับไปพบหน้าครอบครัวคนที่เรารัก เติมพลังใจหลังจากทำงานหนักมาตลอดปี 2567 ขอให้ปี 2568 เป็นปีแห่งความหวังที่เต็มไปด้วยความสุขและสมปรารถนาในทุกสิ่ง" 

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการบริหารราชการแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

(27 ธ.ค.67) เวลา 08.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการบริหารราชการแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจระดับสูง ให้การต้อนรับและร่วมประชุมรับมอบนโยบาย ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีหัวหน้าหน่วยต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมรับมอบนโยบายผ่านทางระบบการประชุมทางไกลพร้อมกันด้วย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม การส่งเสริมความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และการแก้ปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย การปฎิบัติงานต้องมีความโปร่งใสและยึดหลักธรรมภิบาล เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในองค์กรตำรวจ สำหรับปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ตนให้ความสำคัญมีดังนี้

1. การป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติด : การเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง โดยมีการสำรวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของยาเสพติดอย่างจริงจัง นอกจากการจับกุมในระดับผู้ใช้หรือผู้ค้ารายย่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องให้ความสำคัญกับการสืบสวนขยายผลเพื่อเข้าถึงเครือข่ายหรือแก๊งค้ายาเสพติดขนาดใหญ่

2. การแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพล : ปัญหาผู้มีอิทธิพลเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญต่อความสงบสุขในสังคมไทย ปัญหาการทุจริต การข่มขู่ การใช้อำนาจในทางที่ผิด และการกระทำผิดกฎหมายทั้งปวง ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ โดยบูรณาการการปฎิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล

3. การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ : รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวด ให้ปัญหาหนี้นอกระบบลดน้อยลงหรือหมดไป

4. การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและเหมาะสม เพื่อให้ปัญหาต่างๆได้รับการจัดการแก้ไข เช่น การปราบปรามสินค้าเถื่อน หนีภาษี ลักลอบเข้ามาตามบริเวณแนวชายแดน ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหาแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย ต้องติดตามเร่งรัดการดำเนินการเพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ รวมถึงการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด 

5. การเพิ่มประสิทธิภาพในการรับเรื่องร้องทุกข์ โดยเร่งรัดการดำเนินการในคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและส่งผลต่อประชาชนในวงกว้าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

6. สถานีตำรวจนับเป็นด่านหน้าของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นที่พึ่งหลักของประชาชน ขอให้ปฏิบัติงานเชิงรุก หัวหน้าสถานีต้องเป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมปฎิบัติหน้าที่และเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ นายภูมิธรรมฯ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว หรือร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลอง อาจมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ความปลอดภัย และอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีความสำคัญยิ่งเพื่อดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ขอเน้นย้ำการตั้งจุดบริการประชาชนตามเส้นทางหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและการให้ข้อมูลการเดินทาง การช่วยเหลือเหตุฉุกเฉิน และจัดทีมพร้อมชุดปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ การดำเนินงานจะสำเร็จลุล่วงได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน รวมถึงภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในการปฏิบัติงาน โดยจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมายอย่างตรงไปตรงมา “เมื่อตำรวจมีหัวใจคือประชาชน ตำรวจก็จะอยู่ในใจของประชาชน”

'แม่แบงค์ เลสเตอร์' ฝากถึงแก๊งเพื่อน ๆ อินฟลูเอนเซอร์ เหตุใดไม่ห้ามน้อง พร้อมย้ำอย่าทำพฤติกรรมอย่างนี้อีก

เมื่อวันที่ (26 ธ.ค. 67) ที่ผ่านมา นางวนิดา สังข์ฤทธิ์ ได้ทางมาถึงบริเวณห้องเก็บศพ โรงพยาบาลพระปกเกล้า เพื่อติดต่อขอรับร่าง ของแบงค์ เลสเตอร์  โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากมีบรรดาเพื่อนที่เคยร่วมงานกับแบงค์ และเพื่อนของทางฝ่าย เอ็ม เอกชาติ เข้ามาร่วมแสดงความเสียใจรอรับร่างของแบงค์หลายคน 

เบื้องต้นนางวนิดา ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ตนเองไม่ติดใจในการเสียชีวิตของลูกชายในครั้งนี้ แต่อยากจะเตือนเพื่อน ๆ ว่าอย่าทำพฤติกรรมอย่างนี้อีก และเตือนเบิร์ดว่าทำไมไม่ห้ามน้อง .. ขณะที่ เอ็ม เอกชาติ ร้องไห้โดยมีแม่คอยเช็ดน้ำตา พร้อมกับเบิร์ด วันว่าง ๆ  ปล่อยโฮเสียใจ ข้างแม่ของแบงค์

โดยร่างของแบงค์ถูกเคลื่อนออกจากห้องเก็บศพเมื่อเวลา 17:23 น. โดยใช้รถตู้เอกชนสีขาว หมายเลขทะเบียน นข 1951 จันทบุรี แม่ของแบงค์นั่งคู่ไปกับศพของแบงค์ด้วย โดยมุ่งหน้าไปยังวัด ออเงิน กรุงเทพมหานคร … ทางด้านหมอผู้ผ่าชันสูตร ศพของแบงค์ ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ผลชันสูตรยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ แต่เบื้องต้น หลังจากผ่าชันสูตรเสร็จแล้วไม่พบว่ามีอวัยวะใดผิดปกติที่ทำให้เสียชีวิตได้ 

หลังจากที่ได้ทราบประวัติ จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อ ก็คาดว่าอาจเป็นไปได้จาก ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ อย่างที่ทุกคนสงสัย ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการส่งเลือดเข้าไปตรวจ ซึ่งต้องรอผลจากเลือดที่ส่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการก่อนจึงจะสามารถยืนยันการเสียชีวิตได้ 

ทั้งนี้ทางโรงพยาบาล จึงได้มีการตรวจหาสารพิษหรือยาฆ่าแมลงร่วมกันไปด้วย เพื่อป้องกันข้อสงสัยในอนาคต แต่ต้องรอผลตรวจกลับมาก่อน สำหรับแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณมากจนเป็นพิษต่อร่างกายของมนุษย์ ตามทฤษฎีจะมีอยู่ 300 ถึง 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายและสภาวะของบุคคลคนนั้นด้วย

โรงรับจำนำ กทม. ลดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ ทุกวงเงิน 20% เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับคนกรุงเทพมหานคร

นายชนาธิป ล.วีระพรรค ผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร เผยว่า เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2568 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มอบนโยบายให้สำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ส่งมอบความสุขให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ คณะกรรมการบริหารสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร จึงมีมติให้โรงรับจำนำ กทม. ลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ โดยให้จัดทำโครงการ “ของขวัญให้เพื่อน” เพื่อเป็นการช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายสำหรับประชาชนผู้มาใช้บริการที่โรงรับจำนำ กทม. ซึ่งจะลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษให้ผู้ที่มาใช้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2568 รวมระยะเวลา 3 เดือน ดังนี้

1.เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.20 บาท ต่อเดือน โดยจำกัดวงเงินรับจำนำรวมต่อ 1 ราย (บุคคล) ไว้ที่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยนับรวมวงเงินรับจำนำสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานครทุกแห่ง
2.เงินต้น 5,001-15,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.80 บาท ต่อเดือน
3.เงินต้นเกิน 15,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 บาท ต่อเดือน 

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568

ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่ (ต.ค. 67 – ก.ย. 67) มีการรับจำนำ จำนวนทั้งสิ้น 8,700 ล้านบาท จำนวนราย 430,000 ราย มีทรัพย์ที่นำมาจำนำมากที่สุด อันดับ 1 ทองคำ ร้อยละ 89 และอื่นๆอีกมากมาย โดยประชาชนผู้สนใจสามารถติดต่อใช้บริการได้ที่โรงรับจำนำ กทม. ทั้ง 21 แห่ง ทั่วกรุงเทพมหานคร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0 2158 0042 – 4  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top