Sunday, 18 May 2025
NEWS

‘ไป่ ทาคน’ สุดหล่อแห่งเมียนมาเยือนไทยในรอบ 3 ปี  รับ!! เมืองไทยเหมือนบ้านหลังที่ 2 พร้อมลุยละคร 3 เรื่อง 

‘ไป่ ทาคน’ เยือนประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 บอกคิดถึงเหมือนบ้านหลังที่สอง จากนี้ก็จะมีงานออกมาเรื่อยๆ ทั้งที่ไทย จีนและกัมพูชา เผยตอนนี้ยังอยู่ที่พม่า มีหลายเรื่องที่พูดไม่ได้ หลายเรื่องที่ทำให้รู้สึกน้อยใจ แต่ก็จะตั้งใจทำงานต่อไป พร้อมกับจะฝึกพูดภาษาไทยและจีนให้มากขึ้นด้วย

กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งในรอบ 3 ปี สำหรับนายแบบหนุ่มหล่อจากฝั่งพม่า ‘ไป่ ทาคน’ หลังจากเกิดสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ และทำให้เจ้าตัวต้องถูกดำเนินคดี ล่าสุดหนุ่ม ไป่ ทาคน ได้มาเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังจากที่ได้รับรางวัลหนุ่มหล่อที่สุดในโลก ประจำปี 2021 The 100 Most Handsome Faces of 2021 ที่จัดทำขึ้นโดย TC Candler ณ โรงแรมธีธารา งามวงศ์วาน-เกษตรนวมินทร์ โดยเผยว่าคิดถึงประเทศไทยมาก เพราะรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง

ไป่ ทาคน กล่าวว่า “ครั้งนี้เป็นการมารอบที่ 2 ครับ ประเทศไทยเหมือนบ้านหลังที่สอง ประทับใจและคิดถึงมาก ครั้งนี้ก็ตั้งใจมาเพื่อพักผ่อนด้วย และมีงานที่ค้างไว้คราวก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด ก็กลับมาทำงานที่ค้างเอาไว้ และงานใหม่ก็มีรับไว้เช่นกันครับ ตอนนี้ผมก็ยังมีงานละครที่พม่า มีงานถ่ายโฆษณาต่อเนื่อง แล้วก็มีซีรีส์ที่กัมพูชา เซ็นสัญญาแล้ว วันที่ 18 นี้จะบินไปถ่ายหนังที่กัมพูชา ก็ต้องฟิตหุ่นมากกว่านี้ครับ เน้นการเล่นกล้าม และที่ประทับใจอีกอย่างคือได้เซ็นสัญญาที่ประเทศจีนด้วย ก็จะบินไปเดือนกันยายนนี้ เป็นงานซีรีส์ครับ จากนี้ก็จะรับงานไปเรื่อยๆ มีเรื่องนึงต้องเล่นเป็นพระด้วย กำลังคุยกันอยู่ว่าจะไว้ผมยาวหรือโกนผม

“สำหรับที่ไทยก็มีงานละครติดต่อมา 3 เรื่อง น่าจะได้เริ่มต้นประมาณตุลาคม-พฤศจิกายนในปีนี้ ก็จะพยายามในการศึกษาภาษาไทยเพิ่มครับ แต่ส่วนมากจะเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ในการแสดง ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่านางเอกเป็นใคร แต่ถ้าทราบจะรีบบอก ก็พยายามจะเรียนรู้ภาษาไทย ที่ผ่านมาก็ได้เรียนรู้ก่อนโควิด แต่พอโควิดก็ห่างๆ กันไป ที่พูดได้ก็คือ สวัสดีครับ ผมรักประเทศไทยมากๆ (ยกมือไหว้) ก็ขอบคุณที่สนับสนุนผมครับ จากนี้ก็จะเริ่มเรียนรู้ภาษาไทยกับภาษาจีนไปพร้อมๆ กัน

ไป่ ทาคน กล่าวอีกว่า “3 ปีที่ห่างหายไป ก็ยังมีงานค้างครับ ครั้งนี้ตั้งใจว่าจะมาเที่ยวพัทยา เพราะผมยังไม่เคยไปเลย ส่วนอาหารไทยที่อยากกินว่าคือน้ำพริกกะปิครับ ผมชอบมาก

“แล้วก็มีผัดไทย, ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก เป็นอาหารโปรดเลย ซึ่งมาไทยรอบนี้ก็น่าจะอยู่ประเทศไทย 6 วันก่อนที่จะไปถ่ายละครที่กัมพูชา 18 กุมภาพันธ์นี้ ครับ ก็อยากบอกแฟนคลับชาวไทยว่า ตอนนี้ผมก็พยายามอยู่ในประเทศผมนะครับ แต่หลายๆ เรื่องในประเทศก็พูดไม่ได้ หลายๆ อย่างที่น้อยใจก็มีบ้าง ก็อยากขอบคุณแฟนคลับชาวไทยทุกคน มาครั้งนี้ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ อาจจะไม่ค่อยสะดวก ก็ขอโทษแฟนคลับด้วย อาจจะไม่ค่อยมีชีวิตชีวา เพราะว่าพักผ่อนไม่เพียงพอเท่าไหร่ครับ” ไป่ ทาคน ทิ้งท้าย

ผู้ว่าฯสั่ง! เตรียมพร้อม แก้สถานการณ์ภัยแล้ง

ผู้ว่าฯขอนแก่น สั่งการ นำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้านชุมชน ของกรมโยธาฯมาแก้ปัญหาภัยแล้ง แบบบูรณาการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงาน การเตรียมความพร้อมแก้สถานการณ์ภัยแล้งเนื่องจากฝนทิ้งช่วง นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของจังหวัดขอนแก่นแบบบูรณาการ โดยการนำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo-social Map) ของกรมโยธาธิการและผังเมือง มาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการระบุพื้นที่ที่เกิดปัญหาภัยแล้ง กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา จัดทำแผนงาน/โครงการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาพื้นที่ขาดแคลนน้ำในระยะสั้น และเร่งกักเก็บน้ำเพื่อให้ทันในฤดูฝน พ.ศ. 2566 

อาทิ การจัดหาแหล่งน้ำดิบเพื่อใช้ในการผลิตประปาหมู่บ้าน การขยายเขตประปาของการประปาส่วนภูมิภาค การผันน้ำชลประทาน เพื่อบรรเทาภัยแล้งให้โครงการเกษตรแปลงใหญ่ การขุดบ่อบาดาล การต่อท่อสูบน้ำจากแหล่งน้ำข้างเคียง การกำหนดแหล่งน้ำนอกเขตชลประทานที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำ และการขุดลอกแหล่งน้ำเพื่อเป็นแก้มลิงในฤดูฝน เป็นต้น โดยข้อมูลดังกล่าวจะใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของจังหวัดขอนแก่นแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2566 – 2570 ซึ่งเป็นแผนในระยะยาวต่อไป 

เมื่อ 'เด็กรุ่นใหม่' ไม่ได้ต้องการ 'ความมั่นคง-งานประจำ' แต่สังคมล้างสมองด้วยคำนี้ ทั้งที่เด็กๆ อยาก 'เสี่ยง-ท้าทาย'

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้งานติ๊กต็อกชื่อ ‘ckfastwork’ โพสต์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับพฤติกรรมของวัยรุ่นยุคใหม่ ที่ชอบความท้าทาย และมองข้ามคำว่าความมั่นคง โดยระบุว่า…

ปัจจุบันเด็กไม่อยากได้ความมั่นคง ผมบอกตรงๆ นะครับ คำว่าความมั่นคงมันเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ต้องการ แต่มันเป็นสิ่งที่สัมคมบอกว่าเราต้องการ เด็กทุกคนที่บอกว่าอยากได้ความมั่นคง เขาบอกว่าอยากได้ความมั่นคงเพราะพ่อแม่ ไม่ได้เพราะตัวเอง เด็กทุกคนไม่มีใครโตมาบอกว่า เราอยากได้ความั่นคง ไม่มีครับ ไม่มีในประวัติศาสตร์ของเด็ก ไม่มีใครบอกว่าเด็กอยากได้ความมั่นคง ไม่มี 

แต่ทุกคนเกิดมาทุกคนอยากลองเสี่ยง มันเป็นเหตุผลที่เราอยากเล่นเกม เราอยากจะสตรีม เราอยากที่จะสร้างแบรนด์ มันก็เลยเป็นเหตุผลที่เด็กนำเรื่องเกมมาก เด็กนำเรื่องติ๊กต็อกมาก เพราะเด็กชอบที่จะหาความเสี่ยง 

เราจะเห็น มหาเศรษฐีที่สร้างธุรกิจนะ เป็นเด็กทั้งนั้นเลย ไม่ค่อยมีผู้ใหญ่ เพราะเด็กชอบที่จะเสี่ยง แต่คำว่าความั่นคงมันเป็นสิ่งที่สังคม ผู้ใหญ่ล้างสมองเด็กตั้งแต่เด็ก บอกว่าคุณต้องการความมั่นคง รับงานราชการ คุณต้องรับงาน บ้านจะได้สบาย มันเป็นสิ่งที่ล้างสมองมาตลอด ผมถึงไม่ชอบสังคมไทยมาก เพราะมุมนี้ 

เพราะเราพยายามล้างสมองเด็ก ทั้งที่เด็กไม่มีความต้องการในเรื่องความมั่นคงเลย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่บอกว่าคนต้องการ จริง ๆ ไม่มีจริง มันเป็นสิ่งที่เราโดนล้างสมอง มันเป็นสิ่งที่สังคมบอกว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ผมเข้าใจนะครับว่าทำไมสังคมถึงบอกว่าสำคัญ เพราะว่ามนุษย์เงินเดือนจะเป็นคนที่จ่ายภาษีมากที่สุด อันนี้เป็นทั่วโลกนะครับ ไม่ใช่เฉพาะที่ประเทศไทย 

เพราะว่ามนุษย์เงินเดือนเป็นคนที่จ่ายภาษีมากที่สุดในสังคม ยกตัวอย่างนะ ตอนอีลอน มัสก์บอกว่าเขาจะย้ายไปที่รัฐไหนสักรัฐในอเมริกา ทุกรัฐมีสิทธิประโยชน์ให้อีลอน มัสก์ เพราะว่าถ้าอีลอน มัสก์ไปรัฐนั้น เขาสามารถจ้างคนตรงนั้น แล้วคนตรงนั้นก็จะจ่ายภาษีให้กับรัฐ 

มนุษย์เงินเดือนเป็นคนที่จ่ายภาษีมากที่สุด มันก็สมเหตุสมผลที่หลาย ๆ คนบอกว่า ความมั่นคงสำคัญ งานประจำสำคัญ เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่มีงานประจำ ภาษีของรัฐก็จะได้น้อยลง

ตำรวจท่องเที่ยวจัดอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว 2,273 คน

วันนี้ (11 พ.ค. 66) พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค. 66 ตำรวจท่องเที่ยวได้จัดให้มีการอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวขึ้น ซึ่งผู้มาสมัครทำหน้าที่อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวในปีนี้ถึง 2,273 คน แบ่งเป็นคนไทย 2,092 คน และคนต่างชาติ 181 คน 

พล.ต.ต.อภิชาติฯ ในฐานะเป็นวิทยากรอบรมในโปรแกรมนี้ด้วยเปิดเผยว่า ทางตำรวจท่องเที่ยวได้เชิญผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวจากทุกสาขามาให้ความรู้กับอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวทุกคน โดยการอบรมเป็นลักษณะออนไลน์ซึ่งสอดคล้องกับบริบทปัจจุบันและเป็นการประหยัดงบประมาณด้วย 

หลังจากเสร็จสิ้นการอบรม กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะได้อาสาสมัครที่พร้อมเป็นผู้ช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยวมากกว่า 2,000 คน ซี่งจะกระจายไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งอาสาสมัครเหล่านี้ไม่เพียงทราบประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวดีเท่านั้น ในส่วนของอาสาสมัครชาวต่างชาติ ยังสามารถสื่อสารกับนักท่องเที่ยวด้วยภาษาต่างประเทศได้อีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกและเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีไทยมากยิ่งขึ้น 

โฆษกกองบัญชาการตำรวจยังกล่าวอีกว่า การท่องเที่ยวไทยกำลังเดินทางไปได้สวยงามและสร้างรายได้ให้ประเทศได้อย่างดี คนไทยทุกคนโชคดีที่เราที่เราได้รักษาและรังสรรค์ประเทศของเราจากรุ่นสู่รุ่น จนประเทศของเราเป็นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทุกชาติทุกภาษา รวมไปถึงวัฒนธรรมประเพณีที่มีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใครทำให้ประเทศไทยมีเสน่ห์อย่างไม่รู้ลืมที่ไม่ว่านักท่องเที่ยวจากที่ไหนเดินทางมา ก็ต้องกลับมาเที่ยวอีก จึงขอเรียนคนไทยทุกคนให้เกิดความภาคภูมิใจในประเทศและดินแดนของเรา

‘พัดลมน้ำแข็ง’ อุปกรณ์คลายร้อนที่ไม่เหมาะกับอากาศในไทย แม้ช่วยลดความร้อนได้ แต่อาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค ‘บัคเตรี’

(11 พ.ค. 66) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์’ สถาปนิกชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องการใช้ ‘พัดลมน้ำแข็ง’ ในสภาวะอากาศร้อน-ชื้น โดยระบุว่า…

อย่าใช้ ‘พัดลมน้ำแข็ง’ ในห้องนะครับ (แต่การเปิดพัดลมปกติเป็นเรื่องดีมาก ๆ ครั้ง ทั้งในห้องปกติ ห้องร้อน ๆ หรือห้องแอร์ครับ) เหตุผลก็คือ

เพราะ ‘พัดลมน้ำแข็ง’ คือพัดลมที่ใส่น้ำแข็งลงไปด้านหลัง แล้วให้น้ำแข็งละลายเป็นน้ำเย็น และพัดลมก็จะเป่าน้ำเย็นเป็นละอองออกมา เพื่อลดอุณหภูมิ 

แต่เพราะเมืองไทยเราเป็นเมือง ‘ร้อน - ชื้น’ ที่ไม่ต้องการความชื้นเพิ่ม หากใช้พัดลมน้ำแข็งจะเป็นการเพิ่มความชื้น แม้จะได้ความเย็นมา ลดความร้อนได้ แต่จะทำให้เราไม่สบายตัวเมื่อเวลาผ่านไป เพราะความชื้นจะไปอุดต่อมเหงื่อ จนความชื้นในตัวเราระบายไม่ออก และเหล่าความชื้นจะสะสมในห้อง เป็นการเพาะเชื้อโรค ‘บัคเตรี’ นะครับ 

‘สภาวะน่าสบาย’ เป็นสิ่งที่ทำให้เราสบายครับ ศัพท์เทคนิคภาษาฝรั่งเรียกว่า Comfort Zone นั้น จะเกี่ยวข้องกับ อุณหภูมิ - ความชื้น - แรงลม ที่จะต้องมีความพอดีกัน จะมากไป จะน้อยไปก็ไม่ดีครับ

พัดลมจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่ง ที่สร้างสภาวะน่าสบายให้กับเราครับ (โดยการเพิ่มแรงลม ในขณะที่อุณหภูมิไม่ลดครับ) แต่ ‘ความชื้น’ จาก ‘พัดลมน้ำแข็ง’ จะทำให้เรารู้สึกแย่ เพราะ ‘สภาวะน่าสบาย’ จะลดลงครับ

พัดลมน้ำแข็งใช้ได้ในประเทศแถบทะเลทราย ที่เป็นอากาศที่ ‘ร้อน - แห้ง’ จะดีมากเลยครับ แต่อย่าใช้ในบ้านเราดีกว่าครับ

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือพร้อมคณะผู้บังคับบัญชาของกองทัพเรือ และคู่สมรส ร่วมงานเลี้ยงรับรองเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลที่ 3

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 66 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาของกองทัพเรือ และคู่สมรส ร่วมงานเลี้ยงรับรองเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลที่ 3 ตามคำเชิญของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย โดยมี นาย Mark Gooding OBE เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย และ ดร.Christopher McComick คู่สมรส เป็นเจ้าภาพ ณ ห้อง Grand Ballroom Four Seasons Hotel Bangkok 

“อลงกรณ์”โชว์ผลงานชิ้นโบว์แดงทุเรียนไทยยืน1ตลาดจีนทำนิวไฮท์ปี2566ส่งออกทะลุแสนล้านภายใน120ยึดส่วนแบ่งตลาดจีนกว่า90% 

เดินหน้าโครงการ”จันทบุรี-มหานครผลไม้”มั่นใจทั้งปีส่งออกผลไม้กว่า4ล้านตันทำเงินกว่า 2 แสนล้านถือเป็นปีทองของผลไม้ไทยภายใต้การบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board-ฟรุ้ทบอร์ด) แถลงวันนี้(11 พ.ค.)ว่า ภายใต้แผนบริหารจัดการผลไม้ปี 2566 และ23 มาตรการเชิงรุก ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกผลไม้สดและแปรรูปไว้ที่ 4.44 ล้านตันคิดเป็นมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท โดยเฉพาะการส่งออกทุเรียน ตั้งเป้า100,000 ล้านบาท

ล่าสุด ปรากฎผลการดำเนินการส่งออกเกินเป้าหมายทำนิวไฮท์ได้ราคาสูงขายทุเรียนไปจีนทะลุแสนล้านบาทภายใน 120 วัน (เดือน กุมภาพันธ์- พฤษภาคมป) ทำให้ทุเรียนไทยครองสัดส่วนตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ในจีนได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดกว่า 90 %และบรรลุเป้าหมายนโยบาย”ขายน้อยได้มาก”คือการเพิ่มราคาเพิ่มมูลค่าทุเรียนไทยได้สำเร็จ กล่าวคือในปี2564 ส่งออกทุเรียนไปจีนปริมาณกว่า 8 แสนตันทำเงินเข้าประเทศทะลุ 100,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่ปีนี้เราสามารถส่งออกทุเรียนทำเงินทะลุแสนล้านภายใน 120 วันเท่านั้น โดยส่งออก 4.5 แสนตันแต่ได้เงิน1แสนล้าน

ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกล่วงหน้าแนวใหม่ของฟรุ้ทบอร์ดที่มี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ.และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานจับมือทำงานกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีพาณิชย์และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้ยุทธศาสตร์”ตลาดนำการผลิต เกษตรผลิต-พาณิชย์ตลาด”โดยบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกษตรกร ล้ง สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย สมาคมผู้ส่งออกทุเรียน สมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ (MAFTA) สมาคมการค้าธุรกิจเกษตรไทย-จีน สมาคมทุเรียนไทย (TDA)
โดยเฉพาะนโยบายการรักษามาตรฐานคุณภาพการผลิต การแปรรูป การส่งออกผลไม้ ตามมาตรฐาน GAP GMP และCovid Freeรวมทั้งการป้องกันและปราบปรามไม่ให้มีทุเรียนอ่อนทุเรียนสวมสิทธิ์เป็นอันขาดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผลไม้ไทย ,นโยบายการสร้างแบรนด์เพิ่มมูลค่า นโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์ เช่นรถไฟจีน-ลาว เป็นต้น 

“เราจะเดินหน้าต่อแบบนันสต็อปรุกรบครบทุกแนวทางโดยเฉพาะการจัดตั้ง”มหานครผลไม้”ที่จันทบุรีในภาคตะวันออกในปีนี้เพื่อยกระดับการบริหารจัดการผลไม้มิติใหม่ โดยมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถส่งออกผลไม้เศรษฐกิจเช่นทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง มะม่วง มะพร้าวฯลฯได้ตามเป้าหมายคือ 4.44 ล้านตันสร้างเงินให้ประเทศและเกษตรกรกว่า 2 แสนล้านบาทถือเป็นปีทองของผลไม้ไทยภายใต้การบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ทำได้ไวทำได้จริง “นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด

‘อาทิตย์ ริว’ อดีตพระเอกยุค 90 หมดสติอยู่ท้ายตลาด เจ้าหน้าที่รุดเข้าช่วย ล่าสุดถูกหามส่งโรงพยาบาลแล้ว

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 66 แฟนคลับตกใจหลังมีภาพอดีตพระเอก ยุค 90’s อย่าง ‘อาทิตย์ ริว’ ซึ่งเพิ่งออกมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตพลิกผัน ทั้งเรื่องครอบครัวความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไป จนต้องไปขายของที่ตลาดนัดเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพนั้น พบว่าวูบหลายชั่วโมงก่อนมีคนมาพบแจ้งเจ้าหน้าที่รุดเข้าช่วย

โดยล่าสุดพบว่ามีภาพ อาทิตย์ ริว วูบหมดสตินอนอยู่ท้ายตลาดเขต 71 ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยรุดเข้าช่วย และถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลด่วน จากนั้นเผยภาพอดีตพระเอกอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ภูมิพล โดยระบุว่า ตอนนี้พี่ริวป่วยอยู่รพ. นอนรพ. ขณะที่แฟนๆ ต่างเข้าไปให้กำลังใจจำนวนมาก

‘เอส กันตพงศ์’ ถูกหามส่ง รพ. หลังวูบหมดสติกลางงานอีเวนต์ ชี้ อาการยังน่าเป็นห่วง ด้านภรรยาโพสต์ขอทุกคนช่วยอธิษฐานให้สามี

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 66 เป็นข่าวที่สร้างความตกใจให้แฟนคลับจำนวนมาก หลังมีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ‘เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์’ พระเอกชื่อดังแห่งวิก 7 สี เกิดวูบ หมดสติ ระหว่างที่ออกอีเวนต์ของช่อง ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ล่าสุดนั้น คริสติน่า ภรรยาสาวของ เอส กันตพงศ์ ออกมาโพสต์ไอจีสตอรี่ ว่า “Please keep us in your prayers! We can fight this teerak. You are strong”

เบื้องต้นทราบว่า เอส กันตพงศ์ เป็นคนที่แข็งแรง ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่มีโรคประจำตัวอะไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจให้กับครอบครัวและแฟนคลับอย่างมาก และแพทย์ที่ดูแลนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ว่าอาการของเอสจะดีขึ้นเมื่อไหร่

นอกจากนี้ ‘วินน์ วาทิต โสภา’ นักร้องและนักแสดงชายชาวไทย โพสต์ไอจีสตอรี่ ระบุว่า “สู้ๆนะพี่ชาย”, “ขอให้บุญที่ผมได้สร้างสมมาส่งผลให้พี่ชายผมกลับมาแข็งแรงนะครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานอีเวนต์ของช่อง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น เป็นดีเบตประชันวิสัยทัศน์ของผู้สมัคร จาก 7 พรรคการเมือง ซึ่งผู้ที่ไปงานนี้และอยู่ในเหตุการณ์ที่ เอส กันตพงศ์ ล้มนั้น ได้แชร์ไอจีสตอรี่ ระบุว่า “ขอให้อาการปลอดภัยนะคะ เมื่อวานน่าสงสารพี่เอสมาก ช็อตฟีล คือ แกล้มกระแทกแรงมาก แล้วอากาศร้อนมากจริงเมื่อวาน ขออย่าให้เป็นอะไรมากนะคะ ”

‘น้องชายใบเตย’ ประกาศ!! ครอบครัวยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ พร้อมยืนยันไม่เคยให้สัมภาษณ์สื่อใด รบกวนไม่แอบอ้างชื่อ

จากกรณีอัยการได้มีคำสั่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหาคดีแชร์ลูกโซ่ Forex 3D ใน 3 ข้อหา และได้มีการนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดสั่งฟ้องต่อศาลอาญา ล่าสุด นายพัฒนพล กุญชร หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือทวีสิน หรือใบเตย พร้อมพวกรวม 6 ราย มาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ในคดีร่วมกันฉ้อโกงแชร์ Forex-3D และศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนั้น

เมื่อวันที่ 10 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ‘ลุกซ์ ชาญวิทย์’ น้องชายของสาวใบเตย ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว ‘luxx.c.t_’ ระบุว่า…

“ลุกซ์และครอบครัว (ทั้ง 2 ครอบครัว) ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์สื่อใดๆในตอนนี้นะคะ
ขอความกรุณาพี่ๆสื่อมวลชน ทุกสื่อทุกสำนักงดติดต่อไปยังคุณพ่อ คุณแม่ ของพี่เตยและพี่แมน นะคะ

ลุกซ์ขอชี้แจ้งว่าทั้งตัวลุกซ์เองและคุณแม่ป้อง พิมพ์แข ไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไหนทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นรบกวนพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่าน ไม่แอบอ้างชื่อของลุกซ์และแม่ป้องไปใช้ ในการนำเสนอข่าวโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตค่ะ

สุดท้ายนี้ลุกซ์ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ”

‘เจ๊จุกคลองสาม’ เปิดคลิปนาที ‘กลุ่ม 3 นิ้ว’ สาดเลือดลบหลู่ศาลพระภูมิ ชี้!! ทำแบบนี้ไม่ถูก มาลบหลู่สิ่งที่คนอื่นเคารพนับถือแบบนี้ไม่ได้

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 66 จากกรณีกลุ่ม ‘เพื่อนหยก’ อาทิ กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ทะลุวัง และทะลุแก๊ซ ได้เดินทางไปรวมตัวทำกิจกรรมที่ สน.สำราญราษฏร์ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัว ‘หยก’ และชี้แจงการพยายามแจ้งข้อหาเพิ่มเติม มีการสาดสีแดงคล้ายเลือดบริเวณบันได และศาลพระภูมิ จนเลอะเทอะเสียหาย ล่าสุดผู้ชุมนุมถูกจับกุมเบื้องต้น 9 ราย

ล่าสุดทวิตเตอร์ ‘เจ๊จุก คลองสาม’ ได้โพสต์คลิปย่ำยีความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ สน.สำราญราษฏร์ ขณะกลุ่มผู้ชุมนุมนำเลือดหมูไปสาดใส่ศาลพระภูมิ โดยระบุข้อความว่า “พวก...จะไม่เคารพสิ่งสิทธิ์ ศาสนา ครูบาอาจารย์ พ่อแม่ ก็เรื่องของ...ค่ะ แต่...จะไปลบหลู่สิ่งที่คนอื่นเคารพนับถือแบบนี้ไม่ได้ พ่อแม่ไม่เคยสั่งสอนเหรอคะ  ...รู้ไหมว่า ตำรวจใน สน. เขากราบไหว้นับถือ ขอพรตอนออกทำงาน ให้รอดพ้นปลอดภัย พวก...เป็นใครมาจากไหน ถึงกล้าทำแบบนี้”

นอกจากนี้นำคลิปอีกมุมหนึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ชุมนุม พร้อมกับโพสต์ข้อความชี้แจงในทำนองว่า มันเป็นใคร ทำไมชั่งหน้าด้านหน้าทน กล้าตะโกนว่า #ตำรวจทำร้ายประชาชน อีก ดูสิคะทุกคน ฟาดเอาๆไม่ยั้ง โกหกตอแหล ตั้งแต่ศาสดายันสาวก เหมือนก็อป DNA กันมา ควรจะเลิกหลอกหลวงประชาชนกันได้รึยัง คิดว่าคนไทยโง่และพร้อมที่จะเชื่อทุกอย่างที่มึงพูด รึไงคะ

เผาแล้ว ‘ก้อย’ เหยื่อแอม พร้อม ‘4 ครอบครัวเหยื่อ’ ร่วมไว้อาลัย ด้าน ‘น้องข้าวหอม’ ลูกสาว 9 ขวบ ขอให้คนที่ฆ่าแม่ได้รับผลกรรมไว ๆ

(10 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณวัดสิงห์ไพบูลย์ประชา หมู่ 2 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี ครอบครัวของน.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย อายุ 32 ปี ได้ร่วมกันประกอบพิธีฌาปนกิจศพ เพื่อส่งดวงวิญญาณของก้อยขึ้นสู่สรวงสวรรค์ หลังจากเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย ริมแม่น้ำแม่กลอง ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ต่อมามีการจับกุม นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี หรือ แอม ไซยาไนด์ เพื่อนผู้ตายที่มาด้วยกันแต่ไม่ยอมช่วยเหลือกลับเดินหนี ดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เหตุเกิดวันเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566

โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า ทางครอบครัวของก้อยได้ร่วมกันนำโลงศพของก้อยที่ตั้งอยู่บนศาลาการเปรียญ เคลื่อนมายังเมรุเผาศพ โดยมีพี่สาวของก้อย และลูกสาว ร่วมเดินนำโลงศพเข้าสู่เมรุเผาศพ ซึ่งบริเวณเมรุเผาศพ ได้มีการนำจดหมายที่น้องข้าวหอม ลูกสาวของก้อยเขียนถึงแม่ ขึ้นป้ายไวนิลมาติดที่บริเวณหน้าเมรุเผาศพ รวมทั้งขึ้นป้ายไวนิลรูปเหยื่อผู้เสียชีวิตจำนวน 13 ราย มาติดไว้ด้วย เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเหยื่อของ แอม ไซยาไนด์ ด้วย ขณะที่ครอบครัวของเหยื่อ 4 ราย ได้นำภาพถ่ายของผู้เสียชีวิต มาร่วมส่งดวงวิญญาณของก้อยสู่สรวงสวรรค์ในครั้งนี้ด้วย

โดยก่อนพิธีฌาปนกิจศพก้อย ญาติได้ร้องเพลง อยู่ตรงนี้-ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ฉันจะมีเธออยู่-สิงโต นำโชค ทำได้เพียง-25hours ทำให้บรรยากาศเศร้าโศก เพื่อนๆของก้อย ถึงกับกลั่นน้ำตาไม่อยู่ จากนั้นนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอม พร้อมเพื่อนร่วมงานของก้อย ได้ยืนหน้าศพ พร้อมกล่าวขอให้ดวงวิญญาณ ก้อย รับทราบว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกคนจะดูแลครอบครัวก้อยให้ และขอให้ก้อยไปเป็นนางฟ้า มีแต่รอยยิ้มตลอดไป ขณะที่ครอบครัวของก้อยได้อ่านจดหมายของน้องข้าวหอม ลูกสาวของก้อยเขียนถึงผู้เป็นแม่ ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

สำหรับการฌาปนกิจศพก้อย ได้มีเพื่อนๆ รวมถึง พล.ต.ศรชัย มนตริวัต หรือ เสธ.นิด อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ พระจากวัดต่างๆ ไปร่วมงานประมาณ 500 คน รวมถึง อ๊อด โฟร์เอส ก็ไปร่วมงานด้วย เนื่องจากก้อยเป็นที่รักของชาวบ้าน ชอบช่วยเหลือเพื่อนบ้านตลอด รวมถึงชอบไปทำบุญตามวัดต่างๆ ในช่วงที่มีชีวิตอยู่ ไม่เคยขาด

และเมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานพิธีฌาปนกิจศพ ก้อย จากนั้นทาง พล.ต.ท.อาชยน ได้เป็นตัวแทนผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบเงินช่วยเหลือให้กับแม่ของก้อย โดยแม่ได้ฝากขอบคุณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยเหลือ ก้อย จนได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้ด้วย

น้องข้าวหอม อายุ 9 ปี ลูกสาวของก้อย กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ก็ยังอยากถามน.ส.แอมที่เป็นคนลงมือวางยาคุณแม่ของตนจนเสียชีวิตว่า เหตุใดจึงต้องมาฆ่าแม่ เพราะชีวิตตนตอนนี้ก็ไม่เหลือใคร พ่อกับแม่ก็แยกทางกันอยู่ ตนอาศัยอยู่กับแม่มาตลอด เมื่อแม่มาเสียชีวิตไป ตนก็คล้ายกับต้องอยู่ตัวคนเดียว แต่ก็อยากจะบอกแม่ว่า ขอให้ดวงวิญญาณของแม่ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ และขอให้คนที่ฆ่าแม่ได้รับผลกรรมที่ทำอย่างถึงที่สุด

ขณะที่ แม่ของก้อย กล่าวว่า หลังจากที่เห็นการทำงานของตำรวจที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียด ทางครอบครัวก็วางใจลง และค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดกับแอมได้ จึงได้จัดพิธีฌาปนกิจศพในวันนี้ขึ้น เพื่อหวังให้ดวงวิญญาณของก้อยไปสู่สรวงสวรรค์ ส่วนตัวแอมที่เป็นผู้ก่อเหตุ ก็อยากขอให้ได้รับโทษอย่างถึงที่สุด ให้ติดคุกไปนานๆ ไม่ต้องออกมาอีก จะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร

แม่ของทราย 1 ในเหยื่อของแอม เปิดเผยว่า วันนี้มาส่งน้องก้อย ซึ่งลูกสาวตนก็เสียชีวิตในลักษณะเดียวกับน้องก้อย ซึ่งแอมเป็นคนสุดท้ายที่ไปส่งลูกสาวตน แต่ตอนนั้นไม่ได้สงสัยการเสียชีวิตของลูก แต่น้องก้อยทำให้รู้ว่าแอมเป็นคนทำ ตอนนี้รู้สึกดีใจมากที่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าลูกสาวเรา เพราะมั่นใจ และเสียใจกับครอบครัวของก้อยด้วย วันนี้จึงเดินทางมาส่งน้องก้อยให้ไปภพภูมิที่ดี โดยตนได้บอกลูกสาวว่าแม่จะทำให้ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้เรื่องราวก็กระจ่างขึ้นแล้ว เพราะตำรวจไทยเก่งมาก และต้องขอขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ตำรวจ สน.ทองหล่อ และทีมงานทั้งหมด ที่ทำให้ลูกสาวของตนได้รับความยุติธรรม

ด้าน นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ในส่วนของครอบครัวผู้เสียชีวิตสามารถไปติดต่อที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด เพื่อขอรับเงินเยียวยารายละไม่เกิน 1.5 แสนบาท โดยทาง ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้กำชับให้เร่งรัดดูแลครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่

‘ผบ.ตร.’ ส่งหน่วยงานฯ ประชุมที่จีน ถกปัญหา-พร้อมหาแนวทาง กวาดล้าง ‘คนจีน’ เข้ามาสร้างเรื่อง โดยใช้ไทยเป็นแหล่งก่อเหตุ

(10 พ.ค 66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการผ่าน พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์   สัจจพันธ์ุ ผบช.สตม. ให้หาแนวทางมาตรการในการแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์ปัจจุบัน มีเหตุชาวจีนเข้ามากระทำความผิด ต่อชาวจีนด้วยกันในประเทศไทย แล้วหลบหนีออกนอกประเทศ รวมถึงมีบางส่วนเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อหลบหนีการกระทำความผิดมาจากประเทศจีน รวมถึงประเทศต่างๆ เข้ามาในประเทศไทย อีกทั้งบางส่วนมีพฤติกรรมเข้ามาก่อตั้งรกรากและประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย

มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. และคณะ เดินทางไปประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน ระหว่างวันที่ 5-11 พฤษภาคม 2566 เพื่อประชุม แสวงหาความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูล กับเจ้าหน้าที่ตำรวจมณฑลต่างๆที่สำคัญในประเทศจีน เพื่อหาแนวทางในการสกัดกั้น และป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีประวัติในการกระทำความผิด หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยผ่านตามช่องทางสนามบินและช่องทางด่านต่างๆทั่วประเทศ รวมถึงติดตามจับกุมผู้ที่มีหมายจับของประเทศจีน

ผลการประชุมหารือได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมณฑลต่างๆ เป็นอย่างดี โดยทางตำรวจจีนได้ส่งข้อมูลผู้ต้องหาที่มีหมายจับที่สำคัญและมีข้อมูลว่าหลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทยให้ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยช่วยติดตามจับกุมให้ จำนวนหลายเป้าหมายและมีการประสานงานร่วมกันผ่าน contact person เพื่อส่งข้อมูลผู้ต้องหาที่มีหมายจับในจีนเพื่อให้ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไทยลงข้อมูลในระบบเพื่อแจ้งเตือน เมื่อพบว่าผู้ต้องหาเหล่านี้เข้ามายังพรมแดนประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าจะเกิดประโยชน์ในการสกัดกั้นไม่ให้คนจีนเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย ในลักษณะดังกล่าวได้

นอกจากนี้ทาง ตำรวจจีนได้ขอบคุณในความร่วมมือเป็นอย่างดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย รวมถึงสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในอดีตที่ผ่านมาที่ได้ช่วยจับกุมผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดีสำคัญสำคัญในจีนมาดำเนินคดีได้เป็นจำนวนมาก 

ตำรวจไซเบอร์รวบเอเย่นต์ซื้อขายบัญชีม้าส่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปปอยเปต เดือนละกว่า 100 บัญชี

สืบเนื่องจาก ปฏิบัติการ Shutdown Fake Loan เครือข่ายแก๊งเงินกู้ทิพย์ออนไลน์ ที่มีผู้เสียหายกว่า 400 ราย เชื่อมโยง 448 Case ID มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 7 ล้าน เมื่อปลายเดือนเมษายน 66 ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.๕ กล่าวว่าจากปฏิบัติการนี้ ยังสืบทราบว่ามีความเชื่อมโยงหลายท้องที่และมีความสลับซับซ้อนทางคดี โดยเฉพาะการร่วมขบวนการ รวบรวมบัญชีม้าส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน 
จึงได้สั่งการให้มีการเร่งรัดขยายผลจับกุมผู้ต้องหาโดยด่วน
อีกทั้งก่อนหน้ายังปรากฏผู้เสียหายมาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคนร้าย ส่งลิงค์ข้อความบริษัท ซีทีบีซี แบงค์ คอมปานี ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นแหล่งเงินกู้ ส่งข้อความมาทางแอพพลิเคชั่นไลน์

อีกทั้งผู้เสียหายมีความเดือนร้อนต้องการหาแหล่งเงินกู้ยืมเพื่อมาใช้ดำเนินกิจการของตนอยู่ก่อนแล้วจึงเริ่มตกลงทำธุรกรรมผ่านลิ้งค์ดังกล่าว โดยเริ่มทำสัญญากู้เงินกับคนร้าย จำนวน 3 ล้านบาทซึ่งต่อมาคนร้ายอ้างว่าต้องจ่ายค่าดำเนินการต่าง ๆ เพื่อเป็นการค้ำประกัน ผู้เสียหายหลงเชื่อโดนเงินค่าดำเนินการไปให้คนร้ายจำนวนกว่า 4 แสนบาท แต่มาไม่ได้รับเงิน

กก.1 บก.สอท.5 จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาล และร่วมกันจับกุม นายธนากร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ ๓๐ ปี ชาวพื้นที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมได้ที่บริเวณพื้นที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 66
 ด้านผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการหลอกลวงดังกล่าว มีหน้าที่รับซื้อบัญชีธนาคารบัญชีละ 500 บาท โดยได้ค่าจัดหาบัญชีละ 1,000 บาท จากนั้นรวบรวมบัญชีม้าส่งขายออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรวมแล้วกว่า 100 บัญชี ได้เงินกว่า 1 แสนบาทต่อเดือน

ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติม : ร.ต.อ.ขวัญชัย ปานคง รอง สว.กก.1 บก.สอท.5 โทร. 08 5791 6105

‘บัวขาว’ เปลี่ยนใจไม่ได้เดินทางไปพร้อมกับทีมลุยศึกซีเกมส์ครั้งนี้ เผย กังวลความปลอดภัย จากเหตุชาวกัมพูชาตั้งใจก่อความวุ่นวาย

(10 พ.ค.66)  ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ผู้จัดการทีม และอุปนายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เปลี่ยนใจกะทันหันไม่เดินทางไปพร้อมนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งชุดซีเกมส์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งมีกระแสข่าวว่า ชาวกัมพูชาบางส่วนตั้งใจจะก่อความวุ่นวายสร้างปัญหาให้กับบัวขาวและทีมงาน

ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่าทางกัมพูชา โดยสมเด็จ พล.เอก เตีย บันห์ รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ประสานมายังกองบัญชาการกองทัพบกเพื่อแจ้งว่า อาจจะมีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นจากแฟนกีฬาชาวกัมพูชาที่มีการเตรียมการบางอย่างไว้แล้ว และบัวขาวอาจจะได้รับอันตราย ก่อนที่กองบัญชาการกองทัพไทยจะแจ้งข่าวมายังบัวขาวทันที

บัวขาวกังวลใจว่า ถ้าเดินทางไปครั้งนี้จะเป็นเหตุให้ผู้ไม่หวังดีก่อความวุ่นวาย เกิดภาพความรุนแรงจากการแข่งขัน และอาจบานปลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศได้ จึงตัดสินใจยกเลิกการเดินทางไปพร้อมกับนักกีฬาเมื่อเช้านี้

สำหรับซีเกมส์ครั้งนี้ทางสมาคมส่งนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งเข้าชิงชัยทั้งหมด 17 รุ่น โดยมีความหวัง 6 เหรียญทอง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top