Friday, 19 April 2024
NEWS FEED

‘ชัยวุฒิ’ โพสต์ถึงลูก อยากให้เป็นเด็กดี และอยู่ร่วมกับทุกคนในสังคม ได้อย่างมีความสุข

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงความรู้สึกที่ได้เห็นลูกสาวฝาแฝดของตน ในชุดเครื่องแบบนักเรียนและมีรอยยิ้มน่ารักสดใสตามวัย โดยระบุว่า ...

มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นลูกใส่ชุดนี้ อยากให้หนูเป็นเด็กดี มีความรู้และสามารถอยู่ร่วมกับทุกคนในสังคมได้อย่างมีความสุข

ปล.ปีนรั้วเข้าโรงเรียนผมไม่ห่วงครับ ผมห่วงเด็กปีนรั้วออกครับ

หลังจากที่ได้มีคนเห็นโพสต์ข้อความนี้แล้ว ก็ได้มีคอมเมนต์ตอบแบบน่ารักๆ ตามมาหลากหลายเช่น 

“เห็นด้วยครับ ลูกผมก็ชอบใส่ชุดนักเรียนไปโรงเรียน เหมือนเพื่อนๆ ชีวิตวัยเรียนก็ปกติ มีความสุขดีครับ”

“เด็กน้อยของพ่อแม่น่ารักเสมอ”

“น่ารักที่สุดค่ะสาวน้อย”

“น่ารักจังเลย”

“มส.15” ติดอาวุธทางปัญญาเด็กเมืองนนท์ ร่วมศึกษา-พัฒนา ”วิสาหกิจชุมชนปากเกร็ด” สู่ความยั่งยืนทางธุรกิจ

วันที่ 16 มิถุนายน พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ ประธานมูลนิธิการจัดการเพื่อความมั่นคง เป็นประธานเปิด โครงการ มส.15 ส่งเสริมเยาวชน สร้างสรรค์ วิสาหกิจชุมชนยั่งยืน ณ โรงเรียนปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมี พล.อ.ดร.มารุต ปิชโชตะสิงห์ ผู้อำนวยการหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง พร้อมคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ และนักศึกษาหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง (มส.) รุ่น 15 รวมทั้ง นายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี ร่วมพิธี

โดย ดร.วรวุฒิ ไชยศร อาจารย์ประจำหลักสูตร มส. กล่าวรายงานสรุปภาพรวมโครงการ CSR สู่ความยั่งยืนว่า หลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง (มส.) รุ่น 15 เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของหลักสูตร ในการสร้างความยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

จึงจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อสร้างเครือข่ายของภาคส่วนที่มีความแข็งแรง ทั้งด้านประสบการณ์ ความรู้ เงินทุน มาส่งเสริม สนับสนุนซึ่งกันและกัน ให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มเยาวชน ที่จะเติบโตในพื้นที่ของชุมชน เป็นผู้มีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลง เกิดความ
รักและหวงแหน และมีจิตสำนึกในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเอง

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกของเด็กและเยาวชนในการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนของตนเอง
เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่นำความรู้ความสามารถที่ได้รับ ไปต่อยอดสู่การพัฒนาชุมชน

สำหรับกิจกรรม เริ่มคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2-5 จากโรงเรียนปากเกร็ด โรงเรียนเตรียมอดุมศึกษาน้อมเกล้านนทบุรี และโรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส ทั้งหมด 45 คน โดยแบ่งเป็นทีม มาช่วยกันออกแบบ "นวัตกรรมสร้างสรรค์วิสาหกิจชุมชน"ในพื้นที่เกาะเกร็ด โดยให้ศึกษาถึงประเด็นปัญหา แนวทางในการต่อยอดเพื่อพัฒนาวิสาหกิจชุมชน โดยมีผู้แทน จาก มส.15 ผู้ทรงคุณวุฒิ และตัวแทนในเขตพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นกรรมการพิจารณาตัดสิน 

ผลคะแนนอันดับที่ 1 วิสาหกิจชุมชนผ้าบาติกและดอกไม้ใยบัว โรงเรียนปากเกร็ด อันดับที่ 2 วิสาหกิจชุมชนจากเส้นพลาสติก โรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส (แสนสวัสดิ์วิทยาคาร) และอันดับที่ 3 วิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรและเบเกอรี่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นนทบุรี 

พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ นับเป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ มีความสาคัญ เพราะเป็ น ความร่วมมือ จากทุกภาคส่วน ที่ส่งเสริมเยาวชนไทยให้มีทักษะการคิดที่สร้างสรรค์ มีอาวุธทางปัญญา ที่ร่วมคิด ร่วมทำ และช่วยพัฒนาให้วิสาหกิจชุมชนของเกาะเกร็ดทั้ง 9 วิสาหกิจ ได้นำผลงานของเยาวชนไปต่อยอด พัฒนาการดำเนินธุรกิจไม่มากก็น้อย 

ด้าน ดร.เภา บุญเยี่ยม ประธาน CSR มส.15 กล่าวว่า โครงการ “ส่งเสริมเยาวชน สร้างสรรค์วิสาหกิจชุมชนยั่งยืน” ที่เกาะเกร็ด นนทบุรี ในวันนี้ มส.15 มีความตั้งใจที่จะให้เยาวชนได้ร่วมคิด ร่วมสร้างและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นตนเอง โดยเก็บข้อมูลจากการลงพื้นที่วิสาหกิจจริงๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ปัญหาและแนวทางการแก้ไข ด้วยเครื่องมือและกระบวนการทางธุรกิจสมัยใหม่ที่เราถ่ายทอดให้ ตอบโจทก์ความต้องการของลูกค้าและนักท่องเที่ยว เป็นการเชื่อมต่อของคนต่างวัยในชุมชน เพื่อสร้างสังคมให้เติบโตเข้มแข็งและส่งต่อความยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น

“ต้องขอขอบคุณ อ.ใหม่ ลัดดาวัลย์ ชูช่วย ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการให้ความรู้กับน้องๆเยาวชน และขอบคุณเจ้าภาพ มส.15 กลุ่มม้ามังกร และกุญชรศึก จัดกิจกรรม CSR เพื่อส่งต่อความยั่งยืนในวันนี้” ประธาน CSR มส.15 กล่าว

‘สดช.’ ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ เชื่อมโยงข้อมูลการแพทย์ ยกระดับการรักษาพยาบาลเพื่อ ปชช.

คณะผู้บริหาร สดช. ลงพื้นที่ม.เชียงใหม่ ติดตามผลการดำเนินงานโครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ สำหรับให้บริการประชาชน (5G District)

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 66 นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการบริหารเทคโนโลยีดิจิทัลและการสื่อสาร พร้อมด้วย นางสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อํานวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคณะผู้บริหาร และข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ สำหรับให้บริการประชาชน (5G District) ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โดยโครงการฯ ดังกล่าว เป็นโครงการของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางและประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยี 5G ในการส่งเสริมการให้บริการการแพทย์ 5G Smart Ambulance สำหรับบริหารจัดการรถพยาบาลแบบรวมศูนย์ และ Telemedicine สำหรับโรงพยาบาลประจำอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ และโรงพยาบาลในจังหวัดใกล้เคียง รวม 20 แห่ง โดยผู้รับทุนกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานดังกล่าวในแผนการดำเนินโครงการ มีแหล่งข้อมูล (Big Data) เพื่อนําไปวิเคราะห์และประมวลผลต่อในด้านการพัฒนาพื้นที่ให้เหมาะสมต่อประชากรในท้องถิ่นระบบเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกลุ่มข้อมูลแบบเรียลไทม์

ปัจจุบันโครงการฯ ดังกล่าว มีระบบที่สามารถเชื่อมข้อมูลได้อย่างน้อย 15 โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ และโรงพยาบาลอื่น ๆ ในภาคเหนือ ซึ่งการทำงานของระบบแบบ Real Time สามารถพูดคุยเพื่อรับการรักษาได้ทันท่วงที ทั้งนี้ ระบบ Telemedicine ได้นำมาใช้เฉพาะเจาะจงในการติดตามรักษาโรคเรื้อรัง เช่น หัวใจขาดเลือด สมองขาดเลือด หัวใจล้มเหลว ไตเรื้อรัง เป็นต้น

‘บุฟเฟต์ทุเรียน’ ที่ปีนัง มาเลเซีย นุ่มลิ้นเหมือนกินคัสตาร์ด มีให้เลือกหลายสายพันธุ์ อิ่มได้ไม่อั้น แค่หัวละ 700 บาท!!

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 66 เพจเฟซบุ๊ก ‘I will travel around the world’ ได้โพสต์ภาพร้อมข้อความเกี่ยว ‘บุฟเฟต์ทุเรียน MusangKing’ ที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยระบุว่า…

#มาเลเซีย
ปาร์ตี้ทุเรียนบุฟเฟต์ ปีนัง ประเทศมาเลเซีย
ร้านแบบนี้ฮิตมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ทุเรียนบ้านเขาจะรอสุกหล่นจากต้นแล้วเก็บเอามาทานทุเรียนบ้าน เม็ดเล็กๆ เนื้อบางๆ ขม บ้านเขาชอบกินทุเรียนเละๆ สุกๆ ซึ่งจะแตกต่างกับบ้านเรา  

บุฟเฟต์ที่นี่ หัวประมาณ 700 บาท กินไม่อั้น มีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งก้านยาว, D24, Musang King ร้านเปิดตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน 

คนที่นี่พาลูกพาหลานมากันทั้งบ้าน ฟีลเหมือนมากินร้านไอติม

สำหรับพันธุ์ Musang King รสชาติค่อนข้างติดขมนิดๆ แต่เนื้อละเอียดเหมือนคัสตาร์ด ในร้านจะมีมังคุดให้ทานปิดท้าย

อิ่มมาก ออกจากป่ามาเจอบุฟเฟต์ทุเรียน 😆

ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ ‘คุณปลื้ม’ พิธีกร และผู้ดำเนินรายการข่าว กล่าวถึงกรณี ‘หยก-ธนลภย์’ เยาวชนอายุ 15 ปี

จากประเด็นถูกไล่ออกจากโรงเรียน หลังจากสวมชุดไปรเวทและย้อมสีผมไปเรียน ผ่านรายการ ‘The Daily Dose Live! ยามเช้า’ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 66 ว่า…

“ผู้ใหญ่คนไหนที่ให้ท้ายคุณ เขาไม่ได้รักคุณ นั่นคือข้อเท็จจริง ผู้ใหญ่คนไหนที่ตักเตือนคุณ ให้มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น เพื่ออยู่ร่วมกับสังคมได้ นั่นคือ คนที่รักคุณจริงๆ”

 

‘ไอซ์’ ย้ำ!! ไม่ควรมีเด็กต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา เพียงเพราะพยายามกะเทาะเปลือกขนบเแบบดิมๆ

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 นางสาวรักชนก ศรีนอก หรือ ‘ไอซ์’ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘รักชนก ศรีนอก - Rukchanok Srinork’  เกี่ยวกับกรณี หยก-ธนลภย์ จากประเด็น ที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียน หลังจากสวมชุดไพรเวตและย้อมสีผมไปเรียน ก่อนทางโรงเรียนชี้แจงว่าเป็นเพราะไม่ได้เซ็นยินยอมมอบตัวในระยะเวลาที่กำหนด 

โดยไอซ์ได้โพสต์ไว้ว่า… 

“กฏระเบียบข้อไหนกันที่บังคับให้ต้องเอาพ่อแม่มาเท่านั้นถึงจะมอบตัวได้ แล้วแบบนี้เด็กกำพร้าที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ไม่ต้องมอบตัวไม่ต้องเรียนหนังสือหรือไง ถ้ากลไกลสภาฯ ยังทำงานอยู่ไอซ์จะร้องเรื่องนี้ให้กรรมาธิการการศึกษาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องตอบคำถามสังคม

ไอซ์ขอยืนยันจุดยืน ไม่ควรมีเด็กคนไหนต้องหลุดออกจากระบบการศึกษาด้วยความไม่สมัครใจ ไม่ว่าด้วยกฏระเบียบข้อบังคับใดก็ตาม

ลองถามใจลึกๆ ดู ว่าควรมีเด็กคนไหนในประเทศนี้ต้องออกจากระบบการศึกษาไป เพราะสังคมบางส่วนรู้สึกว่าน้อง ‘ทำตัวไม่น่ารัก’ หรือเพราะไม่เคารพกฏระเบียบแบบเดิมๆ หรือป่าว เรากำลังต่อสู้กับขนบเดิมๆ กันอยู่ไม่ใช่หรือ”

‘คุณหญิงบุญเลื่อน’ อดีต ผอ.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผู้เอาตำแหน่งเป็นหลักประกัน ช่วยให้ นร.ไม่ต้องปักชื่อที่ชุด

จากกรณี ‘หยก’ เยาวชนหญิงวัย 15 ปี จำเลยคดีมาตรา 112 ที่มีอายุน้อยที่สุด นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ได้แต่งกายด้วยชุดไปรเวทเข้าเรียน และได้ถูกเชิญตัวออกจากโรงเรียน จนเกิดเป็นกระแสดรามาขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 66 เฟซบุ๊กเพจ ‘บูรพาไม่แพ้’ ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องเครื่องแบบชุดนักเรียน ที่กำลังมีประเด็นในสังคมอยู่ ณ ขณะนี้ โดยระบุว่า…

“ทำไม #ชุดนักเรียน ของโรงเรียน #เตรียมอุดมศึกษา จึงไม่มีชื่อโรงเรียน,เลขประจำตัว หรือชื่อนักเรียนปักติดอยู่บนเสื้อ? (เป็นเสื้อสีขาว ติดเข็ม ‘พระเกี้ยวน้อย’ เท่านั้น)

ช่วงปี 2516 กรมสามัญศึกษาได้ออกระเบียบบังคับให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติเหมือนกันหมด คือให้นักเรียนทุกคนต้องปักชื่อย่อของโรงเรียน และชื่อของตนเองหรือเลขประจำตัวบนเสื้อ เพื่อจะทราบได้ว่า เรียนที่ไหน? และเมื่อทำผิดแล้ว จะได้ตามตัวได้ถูกคนถูกตัว

แต่นักเรียนโรงเรียนเตรียมฯ ไม่ต้อง เพราะ ผอ. ขณะนั้น เข้าชี้แจงกับทางกระทรวงว่า นักเรียนของโรงเรียนเตรียมฯ ดี และเรียบร้อยอยู่ในระเบียบทุกคนไม่จำเป็นต้อง มีชื่อโรงเรียนหรือชื่อนักเรียนติดที่อกเสื้อ 

อธิบดีฯ ก็ถามกลับมาทันทีว่า “แล้วคุณหญิงจะเอาอะไรมาเป็นหลักประกัน”
ผอ. ตอบว่า “โต๊ะกับเก้าอี้ตัวหนึ่ง”

อธิบดี ถึงกับอึ้ง 

แล้วโต๊ะกับเก้าอี้ 1 ตัวนั้นสำคัญอย่างไร?

เป็น ‘โต๊ะ’ และ ‘เก้าอี้’ ของผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในขณะนั้น
‘คุณหญิงบุญเลื่อน เครือตราชู’

นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้ ด้วยเกียรติของ ตอ. จึงเป็นโรงเรียนเดียวในประเทศไทย ที่นักเรียนไม่ต้องปักชื่อของโรงเรียน หรือชื่อของตนเองไว้ที่อกเสื้อ โดยมีคำสั่งจากผู้อำนวยการ อาจารย์คุณหญิงบุญเลื่อน เครือตราชู ว่านักเรียนเตรียมฯ ทุกคนจะต้องติดตราสัญลักษณ์พระเกี้ยวน้อยที่อกเสื้อ หากใครถอดพระเกี้ยวออก จะถูกลงโทษ

คุณหญิงบุญเลื่อน เครือตราชู กล่าวว่า “นักเรียนเตรียมฯ แค่เห็นข้างหลังก็รู้ว่าเป็นนักเรียนเตรียมฯ”

คณะพยาบาลศาสตร์ มช. ประชุมทวิภาคีร่วมกับฝ่ายการพยาบาล รพ.มหาราชนครเชียงใหม่  

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของคณะฯ ร่วมประชุมทวิภาคีกับฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ นำโดย คุณวีรชาติ ชูฤทธิ์ หัวหน้าฝ่ายการพยาบาล และทีมบริหารฝ่ายการพยาบาล เป้าหมายเพื่อยกระดับความร่วมมือด้านวิชาการ การวิจัย และบริการวิชาการ รวมทั้งความร่วมมือด้านอื่น ๆ นอกจากนี้ปรึกษาหารือด้านการเรียนการสอน การขึ้นฝึกปฏิบัติของนักศึกษาพยาบาลในแต่ละหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น 

พร้อมกันนี้ คุณวีรชาติ ชูฤทธิ์ หัวหน้าฝ่ายการพยาบาล ได้มอบช่อดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีแด่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ในโอกาสที่คณะฯ ได้รับรางวัลองค์กรที่สนับสนุนการดำเนินงานและทำคุณประโยชน์ต่อชมรมผู้สูงอายุจังหวัดเชียงใหม่ จากชมรมผู้สูงอายุจังหวัดเชียงใหม่ และ มอบดอกไม้ร่วมยินดีแด่ รศ.ดร.จิราภรณ์ เตชะอุดมเดช ผู้ช่วยคณบดี ในโอกาสได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ณ ห้องเรียนศตวรรษที่ 21 อาคาร 2 คณะพยาบาลศาสตร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2566

พัฒนชัย/เชียงใหม่

‘หยก’ เคยเป็น เด็กเรียบร้อย เรียนดี แต่ชีวิตไม่เหมือนเดิม ตั้งแต่เริ่มรู้จัก กับกลุ่มทะลุวัง

15 มิ.ย. 2566 - เพจเฟซบุ๊ก สติค่ะลูกกกก โพสต์ภาพและข้อความว่า หลายคนอาจไม่รู้ หยกสมัยก่อนเคยเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่เคยโดนคดี รักครอบครัว แต่งตัวเรียบร้อย เรียนดี

จุดเปลี่ยนชีวิตตั้งแต่หยกรู้จักกลุ่มทะลุวัง และพรรคก้าวไกล ชีวิตของหยกก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ต่อต้านระบบกฎระเบียบสังคมทุกอย่าง โดนคดีมากมาย สุดท้ายครอบครัวแตกแยก....

คนกลุ่มไหนกันที่สนับสนุนและให้ท้ายเด็กจนมีพฤติกรรมแบบนี้

‘4 รองผู้ว่า กทม.’ เผย ความในใจถึง ‘ผู้ว่าฯ ชัชชาติ’ หลังร่วมงานเพื่อเดินหน้าพัฒนากรุงเทพฯ ครบ 1 ปี

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 66 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แถลงผลงาน ‘365 วัน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ตามนโยบาย 9 ด้าน 9 ดี’ เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี ของการทำงาน

โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้เป็นการแถลงผลงานตนเอง แต่เป็นการแถลงผลงานของทีม กทม. ซึ่งทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ ทั้งข้าราชการ บุคลากร และ ส.ก. โดยหลักการทำงานในปีแรกจะเป็นปีของการนำนโยบายมาทำ Sandbox หรือต้นแบบ โดยเริ่มต้นจากการทำต้นแบบเล็กๆ นำแนวคิดนโยบายมาทดสอบ เมื่อประสบความสำเร็จ จะเป็นการต่อยอด และขยายผลนโยบายไปสู่การปฏิบัติในวงกว้าง

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการแถลง ได้มีการถามความใจในของท่านรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้ง 4 ท่าน กับการทำงานร่วมกับท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา โดยท่านแรก รองศาสตราจารย์วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตอบว่า…

“จริงๆ แล้ว ผมค่อนข้างคุ้นชินกับสไตล์ารทำงานของท่านอาจารย์ชัชชาติอยู่แล้ว เพราะผมเคยช่วยงานท่านมาก่อน หากถามว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา มีเรื่องหงุดหงิดอะไร ก็คงจะเป็นเรื่องของระบบภายในที่มีความล่าช้า และยังไม่รวดเร็วทันใจมากพอ เพราะในหลายๆ เรื่อง ผมคิดว่าเราน่าจะทำได้เร็วกว่านี้ แต่เนื่องจากติดขัดในส่วนของกระบวนการต่างๆ ทำให้การดำเนินการต่างๆ ยังไม่คล่องตัวมากเท่าที่ควรจะเป็น 1 ปีผ่านไปเร็วมากครับ นึกว่าเพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน เพราะท่านผู้ว่าฯ ก็ลงพื้นที่ตลอด และมีโจทย์ใหม่ๆ มาให้ทำ มีปัญหามาให้แก้ไขกันอยู่ทุกวัน คอยตามจัดการสะสางงานที่ได้รับคำสั่งการมาครับ”

ท่านต่อมา รองศาสตราจารย์ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวความในใจว่า…

“เวลาทำงานลงพื้นที่ ท่านผู้ว่าฯ จะชอบถามคำถามว่า “ว่ายังสนุกอยู่หรือเปล่า?” ก็ขอตอบว่า สนุกค่ะ ยังอยากทำอยู่ และยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากทำ ก่อนเข้ามารับตำแหน่ง เคยมีความเชื่อว่าตัวเองมีความรู้เกี่ยวกับ กทม.อยู่พอสมควร แต่เมื่อเข้ามาและเจอนโยบายที่ท่านผู้ว่าฯ อยากให้ทำ มันเหมือนกับว่าเราต้องเรียนรู้ใหม่เกือบทั้งหมดเลย เพราะว่ารายละเอียดต่างๆ มันเยอะมาก และถนนในกรุงเทพฯ ที่เคยคิดว่ามันมีความกว้างเพียงพอ ไม่ได้เล็กอะไร เมื่อลงพื้นที่ อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าถนนหนทางดูเล็กลงไปมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ชอบมาก คือ ผู้ว่าฯ จะลงพื้นที่ไปดูงานให้ เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้บริหารคนไหน คอยลงพื้นที่ติดตามงานให้มาก่อน ตรวจเช็กความเรียบร้อย เป็นเหมือนกระบวนการตรวจสอบให้ด้วย ซึ่งตรงนี้ช่วยให้งานของรองผู้ว่าทั้ง 4 คนนั้น ลดลงไปมากพอสมควร และยังให้คำแนะนำในส่วนที่เรายังมีความบกพร่อง ว่าควรแก้ไขตรงจุดไหนเพิ่มเติม มีความท้าทายใหม่ๆ ทุกวัน ตอน 6 โมงเช้าจะมีงานใหม่ๆ ส่งมาให้ทุกวัน ก็รู้สึกดีค่ะ มีพลังงานในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม”

ท่านต่อมา นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวความในใจว่า…

“นอกจากการทำงานที่เราทุกคนจะมีการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ลักษณะของผู้บริหารที่มาจากการแต่งตั้ง และมาจากการเลือกตั้ง ย่อมมีความแตกต่างกัน ลักษณะการเข้าถึงประชาชน การใกล้ชิดกับประชาชน การยึดโยงประชาชนเป็นส่วนรวม ก็ย่อมมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะฉะนั้น การทำงานก็ย่อมไม่เหมือนกันด้วย การทำงานในตอนนี้ให้ความเป็นอิสระในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น และในขณะเดียวกัน เราทุกคนก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อประชาชนทุกคนที่เลือกตั้งท่านผู้ว่าฯ มา”
.
และต่อมา ท่านสุดท้าย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวความในใจว่า…

“สนุกมากครับ เหมือนเป็นงานในฝันที่เราอยากทำ ทำให้เราอยากตื่นขึ้นมาทำงานทุกวัน และมีความตั้งใจที่อยากจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมากกว่านี้ยิ่งๆ ขึ้นไปในทุกวัน และรู้สึกว่า ถ้าพวกเรามีเวลามากกว่านี้ หรือได้ทำให้ละเอียดมากกว่านี้ ผมเชื่อว่าภาพรวมจะออกมาดีกว่านี้”

นอกจากนี้ ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังได้กล่าวความในใจของตัวเองทิ้งท้ายไว้อีกด้วย “พวกเราทำงานร่วมกันเป็นทีม ผมต้องขอขอบคุณทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่ายที่รวมแรงรวมใจกัน ตั้งแต่ท่านปลัด พี่ๆ เพื่อนๆ ตลอดจนถึงถึงเจ้าหน้าที่ กทม.ทุกท่าน ผมคิดว่าเราไม่มีดีไปกว่าทีมงานของเราได้ ต่อให้นโยบายที่เราคิดกันมาจะดีแค่ไหนก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเปรียบเหมือนโซ่ข้อสุดท้ายที่เชื่อมเรากับประชาชน ถ้าหากเขาไม่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ทุกอย่างๆ ก็คงไม่มีทางออกมาดีได้ และผมต้องขอกราบเรียนตรงนี้เลยว่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ผลงานของชัชชาติ แต่เป็นผลงานของทีม กทม.ทุกคน และงานในหลายๆ เรื่องก็ไม่ใช่งานที่ทำให้สมัยนี้ด้วย เป็นงานที่ต่อเนื่องกันมานานแล้ว จึงขอถือว่าเวลาแถลงก็แถลงในนาม กทม.”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top