Sunday, 4 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

73 ปี มทบ.44 จัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนามณฑลทหารบกที่ 44

วันที่ 7 ก.ค. 66 เวลา 07.00 น.  พล.ต.เสนีย์ ศรีหิรัญ ผบ.มทบ.44  ร่วมกับแม่บ้าน ทบ.สาขา มทบ.44, ร.25 พัน.1 , ป.5 พัน.25 และ กำลังพลค่ายเขตอุดมศักดิ์ ได้จัดงานวันสถาปนามณฑลทหารบกที่ 44 ครบรอบปีที่ 73  ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรม  สักการะอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ พระอนุสาวรีย์ฯ กิจกรรมการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการ ณ.บก.มทบ.44 พิธีมอบประกาศเกียรติคุณให้กำลังพลที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น และมอบรางวัลการประกวดสื่อสร้างสรรค์

เวลา 10.00 น  พล.ต.เสนีย์ ศรีหิรัญ ผบ.มทบ.44 เป็นประธาน วันสถาปนา มณฑลทหารบกที่ 44 ครบรอบปีที่ 73 ณ กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โดยหน่วยได้จัดให้มีการประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อเป็นสิริมงคลแก่หน่วยกำลังพลและครอบครัว และเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับกำลังพลผู้เสียชีวิต

‘กัญจนา ศิลปอาชา’ ช่วยปันทุนทรัพย์ พา ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ กลับบ้าน

(3 ก.ค.66) จากเฟซบุ๊ก 'เรารักสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี' ได้โพสต์ข้อความเชิดชู คุณหนูนา-กัญจนา ศิลปอาชา ระบุว่า...

ผู้หญิงคนนี้หัวใจเธอคือที่สุดในเรื่องสัตว์จริงๆ ค่ะ 

สละทรัพย์สินส่วนตัวเยอะมากกกกกก มากกกกก มากกกกกกก เพื่อนำ #พลายศักดิ์สุรินทร์ กลับมาติภูมิ 

แม้จะมีหลากหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือร่วมกัน แต่คีย์แมนคนสำคัญของเรื่องนี้คือ คุณหนูนา กาญจนา ศิลปอาชา จริๆ ค่ะ 

'พลายศักดิ์สุรินทร์' หรือ 'บิลลี่' คืนสู่มาตุภูมิหลังทุกข์ทรมานนานกว่าสองทศวรรษในศรีลังกาจนขาแข้งงอไม่ได้ การขนย้ายใช้เครื่องบินชนิดพิเศษ ใส่กรงพิเศษ ส่งควาญช้างที่เก่งระดับประเทศไปปรับสภาพจิตใจกับช้างที่ศรีลังกา ก่อนนำมาเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ลำปาง

คุณหนูนาออกเงินและทองคำหลายกิโล แลกมาเป็นพุทธบูชา

เธอรักสัตว์มากเหลือเกินค่ะ มีหลายร้อย หลายพันเคสมาก ๆ ที่คุณหนูนาเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว อย่างกรณีเสือโคร่งของกลาง ที่รวมๆ กันอยู่ที่ สวนสัตว์บึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี หลายสิบตัวไปแล้ว 

กินอาหารแต่ละมื้อ แต่ละวันค่าดูแลโหดมาก แต่สวนสัตว์เก็บค่าเข้าคนละ 20 หรือ 50 บาทนี่แหละ -“- ไปเที่ยวกันเยอะๆ นะคะ 😅🙏 

พวกหมาพิการจรจัด ช้างป่า หลายๆ ตัวคุณหนูนาก็อุปถัมภ์ 

ขอบพระคุณนางฟ้าคนสวยนะคะ

‘วันนอร์’ เตรียมชิงตำแหน่งประธานสภา ยุติปัญหาขัดแย้ง ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’

(3 ก.ค. 66) รายงานข่าวจากที่ประชุม 8 พรรคการเมืองเสียงข้างมาก ระบุว่า ในการประชุมหัวหน้า และตัวแทน 8 พรรคการเมืองเสียงข้างมาก เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 66 ที่ทำการพรรคก้าวไกล ได้มีการหยิบยกปัญหาในส่วนของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยต่างต้องการผลักดัน ส.ส.ของตัวเองให้ดำรงตำแหน่ง ขึ้นมาพูดคุยนอกรอบ โดยตัวแทนพรรคอื่นๆ ได้พยายามโน้มน้าวให้ พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ถอยคนละก้าว เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตยสามารถเดินหน้าได้ เพราะเกรงว่าหากปล่อยให้เกิดความไม่ชัดเจนจนมีปัญหาในการลงมติเลือกประธานสภา ซึ่งเป็นการลงคะแนนลับ ย่อมส่งผลถึงการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในส่วนของการเจรจาของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยนั้น ทางคณะเจรจาของ 2 พรรค มีการสื่อสารกันอย่างไม่เป็นทางการตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร เนื่องจากทั้ง 2 พรรคต่างยืนกรานที่จะต้องได้ตำแหน่งประธานสภา โดยไม่สามารถถอยหรือปรับเพดานลงได้ เนื่องจากถือเป็นมติของที่ประชุมพรรคของทั้ง 2 พรรค

อย่างไรก็ดี เพื่อไม่ให้เกิดภาพความขัดแย้ง รวมถึงหาทางลงให้กับทั้ง 2 พรรค จึงมีการเสนอให้คนกลางที่เป็นที่ยอมรับ อย่างนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ที่มีความอาวุโส และมีประสบการณ์เคยเป็นประธานสภา และประธานรัฐสภามาแล้ว เป็นผู้รับตำแหน่งประธานสภา เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยที่ พรรคก้าวไกล จะได้ตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 1 และพรรคเพื่อไทย จะได้ตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 2

เบื้องต้นคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทย ขอนำข้อเสนอดังกล่าวไปเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.ของพรรค ในช่วงสายของวันนี้ ก่อนจะแจ้งผลตอบรับมายัง พรรคก้าวไกล และแถลงข่าวในช่วงเที่ยงของวันเดียวกัน 

‘หลวงปู่ชลอ’ เจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง มรณภาพ หลังอาพาธเนื่องจากชราภาพ สิริอายุ 94 ปี

(30 มิ.ย. 66) มีรายงาน ‘พระพรหมวชิราลังการ’ หรือ ‘หลวงปู่ชลอ’ เจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง จ.เพชรบูรณ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) มรณภาพอย่างสงบ ที่ รพ.วิชัยยุทธ กรุงเทพฯ หลังมีอาการอาพาธเนื่องจากชราภาพ สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74

โดยรายงานเผยว่า วันที่ 30 มิ.ย. 2566 ทางด้านพระโสภณวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ (ธ) เลขานุการเจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง เปิดเผยว่า จากการที่พระพรหมวชิราลังการ เจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวงปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) มีอาการอาพาธเนื่องจากชราภาพ คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ได้นำตัวไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพมหานคร แพทย์และพยาบาลได้ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มความสามารถ แต่เนื่องจากท่านชราภาพมากแล้ว ร่างกายอ่อนแอ ประกอบกับมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด จึงได้ละสังขารด้วยอาการอันสงบ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 เวลา 20.38 น. สิริอายุ 94 พรรษา 74

ซึ่งสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับคณะสงฆ์และชาวจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง สำหรับประวัติ หลวงปู่ชลอ พระโสภณวชิรากร  เจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6 และ 7 (ธ) มีนามเดิมว่า ชลอ เขื่อนเจริญ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2472 ที่บ้านหนองหลวง ตำบลบางลี่ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ขณะอายุ 14 ปี ได้เข้าบรรพชา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 ณ วัดบางลี่ ตำบลบางลี่ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี โดยมี พระอธิการสุข สุขสโร วัดบางลี่ เป็นพระอุปัชฌาย์

ภายหลังบรรพชาใหม่ในคณะธรรมยุติกนิกาย เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2490 ณ วัดสิริจันทนิมิตร ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยมี พระศีลวรคุณ (ลำเจียก สงฺกิจฺโจ) วัดสิริจันทนิมิตร เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 ณ วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมดิลก (ทองดำ จนฺทูปโม) วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระศีลวรคุณ (ลำเจียก สงฺกิจฺโจ) วัดสิริจันทนิมิตร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

การศึกษา
นักธรรมชั้นเอก พ.ศ. 2499 สอบได้ เปรียญธรรม 5 ประโยค

เกียรติคุณ
ได้รับถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

ตำแหน่ง ฝ่ายปกครอง
พ.ศ. 2496 เป็น เลขานุการผู้ช่วยเจ้าคณะภาค 1-2-6 รูปที่ 2
พ.ศ. 2508 เป็น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร
พ.ศ. 2518 เป็น เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์
พ.ศ. 2545 เป็น รองเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ)
พ.ศ. 2549 เป็น เจ้าคณะภาค 4-5-6-7  (ธ)
พ.ศ. 2552 เป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ)
พ.ศ. 2555 เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง
พ.ศ. 2555 เป็น เจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง

สมณศักดิ์
พ.ศ. 2499 เป็น เปรียญธรรม 5 ประโยค
พ.ศ. 2508 เป็น พระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูภัทรสังวรคุณ
5 ธันวาคม พ.ศ. 2516 เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ที่ พระกิตติสารโสภณ วิมลศีลาภรณ์ ธรรมิกคณิสสร
5 ธันวาคม พ.ศ. 2534 เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชพิศาลสุธี ศรีปริยัติคุณาภรณ์ ยติคณิสสร ยวรสังฆาราม คามวาสี
5 ธันวาคม พ.ศ. 2539 เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพรัตนดิลก สาธกธรรมวิจิตร ปสาทกิจธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
12 สิงหาคม พ.ศ. 2547 เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมวราลังการ ศีลาจารวัตรวิมล โกศลวิหารกิจ พิพิธธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวชิราลังการ ปูชนียฐานประยุต วิสุทธิ์ภาวนาโกศล วิมลสีลสมาจารมุนี ตรีปิฎกคุณาภรณ์ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
 

" สตูล ศรชล.ภาค 3 บูรณาการตรวจเรือในทะเลร่วมกับหน่วยงานรัฐในพื้นที่จังหวัดสตูล ”

ที่ สถานีเรือละงู ตำบลแหลมสน อำเภอละงู จังหวัดสตูล พล.ร.ท.อาภากร อยู่คงแก้ว ผอ.ศรชล.ภาค 3 เป็นประธานในพิธีเปิดการปฏิบัติการบูรณาการตรวจเรือในทะเลพื้นที่ จังหวัดสตูลพร้อมด้วย พล.ร.ต.สุชาติ เปรมประเสริฐ รอง ผอ.ศรชล.ภาค 3 และคณะฯ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติการตรวจสอบพื้นที่เพื่อเพิ่มแระสิทธิภาพ พื้นที่ จังหวัดสตูล โดยมีน.อ.ณฐพงศ์  เศวตรักต  ผบ.มว.เรือ ศรชล.ภาค 3 กล่าวรายงานและนายชาตรี  ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รอง ผอ.ศรชล.จว.สตูล (ผบ.หน่วย เฉพาะกิจพื้นที่ด้านใต้)และหัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับพลเรือโท อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้อํานวยการ ศรชล. ภาค 3และคณะ

ทั้งนี้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3ได้จัดชุดตรวจเรือเคลื่อนที่ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานรัฐของ ศรชล.ภาค 3 นั้นกำหนดบูรณาการตรวจเรือในทะเลร่วมกับหน่วยงานรัฐในพื้นที่ จังหวัดสตูลโดยมี พล.ร.ต.สุชาติ เปรมประเสริฐ  รอง ผอ.ศรชล.ภาค 3 เป็นหัวหน้าชุด พร้อมกำลังทางเรือในบัญชีกำลังหมวดเรือเฉพาะกิจ ศรชล.ภาค 3พร้อมกำลังพลประกอบด้วย ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์ , เรือ ต.996 เรือ ต.273  เรือ ตรน.520  เรือตรวจการณ์เจ้าท่า 188 เรือศุลกากร 701 เรือตรวจประมงทะเล 329 และกำลังพลจากศรชล.จังหวัดสตูล, ศคท.จังหวัดสตูล หน่วยงานรัฐพื้นที่ จังหวัดสตูล และชุดสหวิชาชีพ รวมทั้งสิ้นจำนวน 40 นาย

พล.ร.ท.อาภากร อยู่คงแก้ว ผอ.ศรชล.ภาค 3 กล่าวว่าวัตถุประสงค์การบูรณาการในครั้งนี้ เพื่อให้เรือในหมวดเรือเฉพาะกิจ ศรชล.ภาค 3 ในเขตพื้นที่ จังหวัดสตูล มีความพร้อมทั้งในด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจของเรือร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐให้ดียิ่งขึ้น ในการป้องปรามการกระทำความผิดทางทะเล และภัยคุกคามในพื้นที่ทางทะเลของ จังหวัดสตูล

นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

‘อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์’ CEO ปตท. คว้ารางวัลเกียรติยศ ‘THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2023’


เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 66 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รับรางวัลเกียรติยศ ‘THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2023 ประเภทอุตสาหกรรมพลังงาน’ เป็นการเชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีความโดดเด่นในแต่ละอุตสาหกรรม ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘สุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี’ จัดโดยนิตยสาร BUSINESS+ โดย บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายในงานได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี เป็นประธานในพิธี ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

รางวัลดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งรางวัลสำคัญในการเสริมสร้างกำลังใจแก่ผู้บริหารองค์กรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งทุกรางวัลผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างรอบด้าน อาทิ ความสามารถในการบริหารองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ความเป็นผู้นำและสร้างความผูกพันในองค์กร การตอบแทนสังคม ชุมชน และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศไทยต่อไป
 

มนต์เสน่ห์ละครวิทยุ โดย ภูสิต ธวัชวิเชียร | TIME TO LISTENING EP.25

วันนี้ TIME TO LISTENING EP.25 ได้พูดคุยกับครูภูสิต ธวัชวิเชียร
มาร่วมเล่าประสบการณ์การเข้าสู่วงการละครวิทยุ ศาสตร์ที่ต่างกับละครโทรทัศน์ ละครเวที หรือภาพยนตร์ รวมทั้งแชร์เทคนิคการทำเสียงให้ผู้ฟังจินตนาการถึงตัวละครและนิยายออก รวมไปถึงมีความรู้สึกและคล้อยตามไปกับเรื่องที่เสนอ 
.
ดำเนินรายการโดย ไอยรา อัลราวีย์
Content Manager
.
แขกรับเชิญ ภูสิต ธวัชวิเชียร
นักแสดงละครวิทยุ และนักจัดรายการวิทยุ
.
ติดตามได้ใน THE STATES TIMES PODCAST
และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLBnnkZJ5-QgtyID5DqrnG4  
.
🎥 ช่องทางรับชม
Facebook: THE STATES TIMES PODCAST
YouTube: THE STATES TIMES PODCAST
TikTok: THE STATES TIME PODCAST

‘ไพศาล’ ยัน!! ไอทีวีไม่ใช่สื่อ ใช้เรื่องนี้สอย ‘พิธา’ ไม่ได้ เนื่องจากช่องถูกยึดคลื่นสัญญาณ ตั้งแต่เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว!!

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 66 นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องหุ้นสื่อไอทีวี ผ่านเฟซบุ๊ก ‘Paisal Puechmongkol’ โดยมีรายละเอียดว่า “เรื่องหุ้นสื่อไอทีวี ประเด็นชี้ขาดเรื่องหนึ่ง คือ ‘ไอทีวี’ เป็นสื่อและทำธุรกิจสื่อหรือไม่?

1.) ตั้งร้านชื่อรุ่งฟ้าอาภรณ์ แต่ที่ทำคือขายข้าวมันไก่ ร้านนี้เป็นร้านข้าวมันไก่ ทำการขายข้าวมันไก่ จึงไม่ใช่ร้านตัดเสื้อผ้าฉันใด ไอทีวีก็ฉันนั้น

2.) ไอทีวีเป็นสื่อประเภทวิทยุโทรทัศน์ จะทำธุรกิจได้ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญ 2 อย่าง คือใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรทัศน์วิทยุ และคลื่นสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งเป็นของรัฐ ถ้าไม่มีสองสิ่งนี้แล้ว ก็ทำธุรกิจสื่อไม่ได้

3.) ไอทีวีทำสัญญาร่วมการงานกับรัฐฯ คือ สำนักปลัดสำนักนายกทำธุรกิจสื่อวิทยุโทรทัศน์ จึงได้รับอนุญาตให้ทำวิทยุโทรทัศน์ และคลื่นสัญญาณจากทางราชการ

4.) ต่อมาสำนักนายกฯ ได้ยกเลิกสัญญาร่วมการงาน และยึดเอาคลื่นวิทยุสัญญาณ กลับมาเป็นของรัฐทำให้ไอทีวี ทำสื่อไม่ได้ และเลิกทำสื่อตั้งแต่บัดนั้น เรียกว่า ‘ไอทีวี’ จอดำตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา โดยไม่ได้ทำธุรกิจอื่นใดอีก ความเป็นสื่อและการประกอบธุรกิจสื่อจึงสิ้นสุดลง ตั้งแต่เกือบ 20 ปีที่ผ่านมาแล้ว!!!

5.) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไอทีวีก็ไม่ได้ทำธุรกิจสื่อใดๆ อีกเลย จึงไม่ได้เป็นสื่อและไม่ได้ทำธุรกิจสื่อด้วย

6.) ไอทีวีได้ดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายจากสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ จึงยังเลิกบริษัทไม่ได้ เพราะรอรับค่าเสียหาย และชนะคดีตลอดมา ซึ่งศาลฎีกาจะตัดสินคดีในที่สุดในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไอทีวีมีรายได้จากดอกเบี้ยของเงินฝาก และมีค่าเช่า จากการนำเอาอุปกรณ์ให้เช่า ซึ่งไม่ใช่กิจการสื่อ

ดังนั้น ตั้งแต่ 20 ปีที่ผ่านมา ไอทีวีจึงไม่ใช่สื่อ และไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อ และไม่ได้ทำธุรกิจใดๆ 

ดังนั้น หุ้นของไอทีวีจึงไม่ต้องห้ามผู้สมัครรับเลือกตั้งที่จะถือหุ้นดังกล่าว ต่อให้ใครถือหุ้นไอทีวีสักเท่าใดก็ไม่ผิด ไม่ขาดคุณสมบัติในการเลือกตั้ง

เมื่อประเด็นสำคัญนี้ ยุติว่าไอทีวีไม่ใช่สื่อแล้ว ไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อแล้ว ก็สอยนายพิธา ไม่ได้
เงิบๆๆๆ”

33 ผลงานในภาคอีสาน ช่วง 8 ปี 'รัฐบาล'

ตลอดหลายปีมานี้เกิดการพัฒนาด้านต่าง ๆ ขึ้นถ้วนทั่วทุกภาคของไทย โดยหนึ่งในภูมิภาคที่บังเกิดผลงานอันเป็นรูปธรรมและเอื้อประโยชน์มากมายนั้น คือ 'ภาคอีสาน' ผ่านหลากหลายโครงการ ที่จะขอยกตัวอย่างมาให้เห็นคร่าว ๆ ดังนี้...

1. โครงการคนละครึ่ง
2. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
3. มารดาประชารัฐ
4. เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ  
5. โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
6. โครงการชิมช้อปใช้

7. พัฒนาสนามบินในอีสาน เช่น สนามบินอุบลราชธานี และสนามบินขอนแก่น
8. บริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ตามโครงการเพิ่มน้ำต้นทุนโครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี
9. โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธรใหญ่ที่สุดในโลก ที่ จ.อุบลราชธานี
10. ต่อรางสร้างรถไฟฟ้า 9 สาย และโครงการรถไฟทางคู่ อ.หัวหิน, จ.ขอนแก่น, จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี
11. สร้างทางหลวงหมายเลข 12 จ.กาฬสินธุ์ เชื่อมไปประเทศลาว 
12. สร้างอุโมงค์ทางลอดยาวที่สุดในภาคอีสานที่ จ.อุดรธานี

13. สร้างมอเตอร์เวย์สายใหม่ บางปะอิน-นครราชสีมา
14. โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสายแรกของประเทศไทย ที่ จ.นครราชสีมา
15. รถไฟความเร็วสูงไทย - จีน / กรุงเทพฯ – หนองคาย
16. กระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย - ซาอุดีอาระเบียที่ห่างเหินไป 32 ปีให้กลับฟื้นคืนดังเดิม แรงงานไทยจากภาคอีสานสามารถเดินทางไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบียได้สะดวก
17. แก้ไขปัญหาการขายหวยเกินราคา
18. แก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน

ทหารเป็นตัวการปฏิวัติ ล้มราชบัลลังก์จริงหรือ ? | THE STATES TIMES STORY EP.116

ทหารเป็นตัวการปฏิวัติ ล้มราชบัลลังก์ จริงหรือไม่? ลองฟัง THE STATES TIMES STORY เรื่องจริง ฟังเพลิน EP นี้ แล้วคุณจะเข้าใจว่าแท้จริงแล้ว ตัวการปฏิวัติ ล้มราชบัลลังก์ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ไม่ใช่ทหาร แต่เป็นนักการเมือง ติดตามรายละเอียดกันในคลิปนี้ได้เลย

รับชม THE STATES TIMES STORY ตอนอื่นๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLbSZPZIUmXvd6NiToeX5qW

🎥 ช่องทางรับชม
Facebook: THE STATES TIMES PODCAST
YouTube: THE STATES TIMES PODCAST
TikTok: THE STATES TIMES PODCAST


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top