Monday, 20 May 2024
THE STATES TIMES TEAM

เบตง ผบ.ฉก.ยะลา มอบบ้านตามโครงการหน่วยเฉพาะกิจยะลา ไม่ทิ้งท่าน

เบตง ผบ.ฉก.ยะลา มอบบ้าน ตามโครงการหน่วยเฉพาะกิจยะลา ไม่ทิ้งท่าน ที่หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่44 ก่อสร้าง ในพื้นที่ ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา

วันที่ 16 พ.ย.66 ที่บ้านเลขที่ 48/5 หมู่4 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา พล.ต.นิติ ติณสูลานนท์ ผบ.ฉก.ยะลา ได้เป็นประธานในพิธีส่งมอบบ้านให้กับ นางแยนะ เปาะมะ อายุ 46 ปี ตามโครงการหน่วยเฉพาะกิจยะลา ไม่ทิ้งท่าน โดยมีนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ โพธิ์ศรีมา ผบ.ฉก.ตชด.44 นายสมัคร นอระพา นายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน เข้าร่วม พร้อมทั้งมอบสิ่งของเครื่องใช้ มอบเครื่องอุปโภค บริโภคให้แก่ครอบครัว นางแยนะ เปาะมะ

พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม รอง ผบ.ฉก.ตชด.44 กล่าวว่า ตามที่ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า มีดำริ ในการดำเนินการสร้างที่อยู่อาศัยสภาพเก่า ชำรุดทรุดโทรม มีฐานะยากจน แต่เป็นบุคคลที่มีจิตอาสา ซึ่งนางแยนะ เปาะมะ เป็นผู้ที่คณะกรรมการหมู่บ้าน จากสภาสันติสุขตำบล พิจารณาแล้วว่า เป็นผู้ที่มีความเหมาะสม ที่จะได้รับการช่วยเหลือตามโครงการดังกล่าว โดยได้รับงบประมาณ ในการดำเนินงาน จากผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ไตสมาสที่3 งบประมาณปี2566 หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่44 จึงได้จัดชุดช่างเข้าเริ่มทำการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 จนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจาก นายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมมือร่วมใจในโครงการดังกล่าวและได้ร่วมกันบริจาคเงินบางส่วนเพื่อสนับสนุนในการก่อสร้าง จนทำให้โครงการดังกล่าว สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ด้านนางนางแยนะ เปาะมะ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ซาบซึ้ง ตื้นตันใจ เป็นอย่างมาก ที่หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่44 มาสร้างบ้านให้ และต้องขอบคุณหน่วยเฉพาะกิจยะลา ที่จัดทำโครงการดีๆแบบนี้ช่วยเหลือชาวบ้าน รวมถึงขอบคุณหน่วยงานต่างๆที่เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตน

นายอำเภอหญิง…นำส่วนราชการ ชาวบ้านลงแขกเกี่ยวข้าว นำไปสร้างปราสาทรวงข้าว หนึ่งเดียวในจังหวัดร้อยเอ็ด

(16 พฤศจิกายน 2566) เวลา 09.00 น. ณ ทุ่งนาเกษตรวัฒนธรรมวัดราชวารีบ้านโคกล่าม อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ร.ต.อ.หญิงอรุณี อินทรมณี นายอำเภอจตุรพักตรพิมาน เปิดกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าวสืบสานวัฒนธรรม พร้อมบวงสรวงแม่โพสพ เพื่อนำไปสร้างปราสาทรวงข้าว หนึ่งเดียวในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ,หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องประชาชน ร่วมกันเกี่ยวข้าว 

เนื่องด้วย วัดราชวารีบ้านโคกล่ามบ้านโคกล่าม จะมีการจัดงานประเพณีเทศกาลบุญประจำปี นมัสการพระธาตุหลวงเมืองพรหม เที่ยวชมปราสาทรวงข้าว ซึ่งที่ได้นำพี่น้องชาวบ้าน ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมดำนา ซึ่งขณะนี้ข้าวที่ปักดำไว้ถึงช่วงฤดูเก็บเกี่ยวสำหรับนำมาสร้างปราสาทรวงข้าว จึงได้มีการจัดงานสืบสาน วัฒนธรรมลงแขกเกี่ยวข้าว พร้อมบวงสรวงแม่โพสพ 

เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวตามประเพณีอีสานให้คงอยู่ ทั้งนี้ นายอำเภอจตุรพักตรพิมาน ได้นำพี่น้องประชาชน ร่วมกันเกี่ยวข้าว ด้วยรอยยิ้มและรำวงอย่างสนุกสนาน ที่เป็นการแสดงออกถึงความรัก ความสามัคคี ระหว่างชุมชนและส่วนราชการ ที่มอบให้กัน และนำข้าวที่ได้ไปสร้างปราสาทรวงข้าว หนึ่งเดียวในจังหวัดร้อยเอ็ดต่อไป 

เลขาฯ ศอ.บต. เผย "ศอ.บต. ขอทำงานเป็นทีมเดียวกับจังหวัด" หลังเดินทางพบหัวหน้าส่วนราชการนราธิวาส ด้าน รองผู้ว่าฯ เสนอ แก้ปัญหาการค้าชายแดน-ทรัพยากรมนุษย์-ว่างงาน ฯลฯ ในพื้นที่

เมื่อวานนี้ (16 พ.ย. 2566) พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พบปะรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายปรีชา นวลน้อย รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ณ ห้องประชุมพระภิศัยสุนทร ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (แห่งที่ 2) เพื่อแลกเปลี่ยนการดำเนินงานพัฒนา จชต. 

เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การพบปะคนทำงานในพื้นที่วันนี้ เพื่อขออนุญาตมาทำงานร่วมกับจังหวัด และทุกส่วนงานใน 5 จชต. เพื่อให้ ศอ.บต. เป็นทีมเดียวกับจังหวัด เป็นหน่วยสนับสนุนภารกิจงานด้านการพัฒนา ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนนราธิวาส และอีกทั้ง 4 จังหวัด ให้ทำงานเป็นแพ็คเป็นทีมเดียวกัน และมองภาพใหญ่ร่วมกัน 

ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาส มีเป้าหมายในการพัฒนานราธิวาสสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาการค้าชายแดน การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน การศึกษา เนื่องจากพบว่า เด็ก ประถมศึกษา 3 ในพื้นที่ ยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ และได้คะแนนสอบ O-NET และ A-NET ศูนย์คะแนนเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังวางแนวทางแก้ไขปัญหาว่างงาน พบว่า แต่ละปีมีเยาวชนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็นจำนวนมาก แต่กลับว่างงาน จึงไม่มีรายรับในการจ่ายหนี้ กยศ. และมุ่งแก้ปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะแม่และเด็ก ทั้งนี้เสนอให้ ศอ.บต. เป็นหน่วยจัดโครงการสร้างสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย โดยรวมผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด และภาคเอกชน ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดี และใช้โอกาสนี้ในการหารือแก้ไขปัญหาด่านชายแดนต่อไป

ทั้งนี้ หัวหน้าส่วนราชการยังมีการเสนอการพัฒนาในมิติต่างๆ เพื่อเป็นหัวข้อในการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่ในอนาคต อาทิ การจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูคนพิการ การดึงภาคเอกชนเป็นผู้ดำเนินงานในโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกับตำบล เป็นต้น

เปิดตัวหลักสูตรการแพทย์เพื่อปวงประชา สำหรับผู้บริหารระดับสูง (พปส. รุ่นที่ 1)

มูลนิธิทุนแพทย์เพื่อปวงประชา ได้เปิดตัวหลักสูตรการแพทย์เพื่อปวงประชา สำหรับผู้บริหารระดับสูง พปส. รุ่นที่ 1 ชวนผู้ที่สนใจดูแลสุขภาพ มาร่วมเป็นกำลังสำคัญในการแบ่งปันและสร้างโอกาสให้บุคลากรทางการแพทย์ โดยได้งานแถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตรเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ

สำหรับหลักสูตรการแพทย์เพื่อปวงประชา สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 (พปส. รุ่นที่ 1) จะจัดการเรียนการสอนเป็นระยะเวลา 4 เดือน ระหว่างวันที่ 17 มกราคม ถึง วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 (เรียนทุกวันพุธ ช่วงบ่าย) ณ โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ   หลักสูตรมีวิทยากรชั้นนำและเนื้อหาในการเรียนการสอนที่มีความพร้อม โดดเด่น ทันสมัย เรียนรู้ในแนวลึกถึงนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวอย่างกิจการที่ประสบผลสำเร็จในการประกอบธุรกิจและการดูแลสุขภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม Health & Wellness ทั้งในประเทศไทยและในทั่วโลก โดยได้รับความร่วมมือจากจากคณะแพทยศาสตร์ที่เป็นพันธมิตรสำคัญของมูลนิธิฯ และจากหน่วยงานสำคัญในประเทศไทย ในการสนับสนุนวิทยากรชั้นนำซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับอย่างมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งได้มีการออกแบบกิจกรรมในหลักสูตรที่นำไปสู่การเรียนรู้แบบรอบด้าน จนสามารถสร้างความเชื่อมั่น มีความสัมพันธ์ที่ดี ในระหว่างผู้เข้ารับการอบรมและจากทีมวิทยากร ทั้งในและจากต่างประเทศ เพื่อต่อยอดและขับเคลื่อนการแพทย์และสาธารณสุขไทย Pay It Forward เรียนดี มีความรู้ สร้างความดี ต่อยอดธุรกิจ สนใจติดต่อได้ที่ 

ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี ประธานหลักสูตร กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดตั้งหลักสูตร และ แกนหลักของหลักสูตร คือ 6 M 6 F อันประกอบด้วย Module 1 Future World รู้จักโลก  Module 2 Future Thailand รู้จักประเทศไทย  Module 3 Future Trend, Innovation and Digitalization รู้จักความก้าวหน้า ความทันสมัย Module 4 Future Firm รู้จักองค์กร  Module 5 Future Me รู้จักเรา Module 6 Future Touch, Study Visit  รู้จักและสัมผัสโลกอนาคต อีกทั้งหลักสูตรนี้ได้รับการสนับสนุนทางวิชาการจากสถาบันชั้นนำทางการแพทย์ อีกทั้งเป็นหลักสูตรที่บูรณาการความรู้ที่หลากหลาย ทำให้ได้ทั้งความรู้ เครือข่าย และ ช่วยเหลือสังคมไปด้วยกัน 

หลังจากนั้นได้มีการเสวนาโดย ดร.สุวิทย์ ธนียวัน รองประธานหลักสูตรได้กล่าวต้อนรับ และ ให้รายละเอียดถึงการดำเนินงานของหลักสูตร ดร.เภสัชกร ชาญณรงค์ เตชะอังกูร กรรมการหลักสูตรกล่าวถึงความพร้อมและวิทยากรในหลักสูตร พล.อ.นพ.บุญลือ วงษ์ท้าว ท่านที่ปรึกษา หลักสูตรกล่าวถึงแนวทางการเรียนการสอน คุณสุวดี ปาจรียางกูร กรรมการหลักสูตร และ เลขาธิการ สมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย ได้เล่าถึงภาพรวมการทำกิจกรรม และ ประโยชน์ที่ผู้เข้าอบรมจะได้รับ

ทั้งนี้ รายได้ที่เกิดขึ้นจากการจัดอบรมซึ่งมาจากค่าบริจาค 150,000 บาทต่อผู้เข้าอบรม เมื่อหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว มูลนิธิฯ มีเจตนารมย์ที่จะนำเงินทั้งหมดไปมอบเป็นทุนการศึกษา เพื่อขยายจำนวนทุนเพิ่มเติมให้กับนักศึกษาแพทย์และคณะแพทยศาสตร์ให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

กระบี่-ทกจ.กระบี่ร่วมกับสำนักทะเบียน และมัคคุเทศก์ เขต 2 ภูเก็ต บริการให้ความรู้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่

นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง "การจดทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์" โดยมีนางบัญญัติ หง้าบุตร นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ กล่าวรายงานฯ และนางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ และบริการต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์

โดยมีการบรรยาย เรื่อง “การจดทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์" โดย นายปาฐกรณ์ แก้วมรกต นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 พร้อมการบริการตรวจสอบเอกสาร และให้คำปรึกษาการจดทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้เขต 2 (ภูเก็ต) 

(ร้อยเอ็ด) นพค.54 ร่วมพิธี Kick Off กิจกรรมกำจัดวัชพืชและผักตบชวา และกิจกรรมจิต อาสาพัฒนา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ”

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566  หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 54 กองบัญชาการกองทัพไทย (หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา) นำโดย  พันเอก เกียรติศักดิ์  พรมตวง ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 54 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อมด้วยจิตอาสา 904 กำลังพลจิตอาสาประจำหน่วยฯ รถยนต์บริการเทท้าย 10 ล้อ จำนวน 2 คัน 

ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนจิตอาสา เข้าร่วมพิธี Kick Off กิจกรรมกำจัดวัชพืชและผักตบชวา และกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ณ คลองเชียงขวัญ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง ตำบลเชียงขวัญ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีฯ 

จังหวัดร้อยเอ็ด แถลงข่าวการจัดประกวดมิสแกรนด์ร้อยเอ็ด 2024

(15 พฤศจิกายน 2566 )เวลา 15.00 น. นายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการแถลงข่าว การจัดประกวดมิสแกรนด์ร้อยเอ็ด 2024 โดยมี เพื่อเฟ้นหาสาวงามที่มีศักยภาพ ทั้ง 20 อำเภอ มาเป็นตัวแทนจังหวัดร้อยเอ็ด ไปแข่งขันต่อบนเวทีระดับประเทศ รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ 

โดยมี ผู้สนับสนุนการประกวด คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน และประชาชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก ที่ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด โดย ได้มีการเปิดตัวมงกุฎเพชร มูลค่ากว่า 300,000 บาท ซึ่งเป็นการนำ เอกลักษณ์ของจังหวัดร้อยเอ็ด มาออกแบบ เช่น บึงพลาญชัย โหวด ข้าวหอมมะลิ ชื่อจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นต้น ซึงมีความอลังการเป็นอย่างมาก 

ส่วนกำหนการดจัดกิจกรรมการทำกิจกรรมการเก็บตัวของนางงามในจังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 21 – 24 ธันวาคม 2566 ส่วนในวันที่ 25 ธันวาคม 2566 ได้จัดให้มีการประกวด “มิสแกรนด์ร้อยเอ็ด” รอบตัดสิน ณ โรงแรม เพชรรัชต์การ์เด้นท์ ตำบลเหนือเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด 

ทั้งนี้ มีกิจกรรมของนางงาม ในการร่วมเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยว และวิสาหกิจชุมชน รวมถึงอาหารพื้นเมือง นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ดียิ่งขึ้น มากกว่าแค่การจัดประกวดหานางงามเพียงอย่างเดียว ยังให้นางงามนำเสนอการท่องเที่ยว การใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของจังหวัด ผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย 

ร้อยเอ็ด…จังหวัดร้อยเอ็ดเปิดตลาดนัดข้าวเปลือก แหล่งกลางซื้อ-ขายข้าวเปลือก อย่างเป็นธรรม

เมื่อวานนี้ ( 15 พฤศจิกายน 2566 )เวลา 09.30 น. นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/2567 เพื่อเป็นแหล่งกลางในการซื้อ-ขายข้าวเปลือก ที่ให้ความเป็นธรรม ทางด้านราคา การชั่งน้ำหนัก และการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ วรวงศ์ พาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย ผู้จัดการสหกรณ์ การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส ร้อยเอ็ด จำกัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอตรวิสัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ที่ ณ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ร้อยเอ็ด จำกัด ตำบลเหล่าหลวง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด

โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ดำเนินโครงการจัด ตลาดนัดข้าวเปลือกช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาด เนื่องจากข้าวเปลือกเข้าสู่ตลาด ปริมาณมาก จะส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกปรับลดลง จึงได้กำหนด จัดตลาดนัดข้าวเปลือก จำนวน 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 วันที่ 15 - 17 พฤศจิกายน 2566 เปิดจุดรับซื้อ ข้าวเปลือก ณ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.ร้อยเอ็ด จำกัด ตำบลเหล่าหลวง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 2 วันที่ 22 - 24 พฤศจิกายน 2566 เปิดจุดรับซื้อ ข้าวเปลือก ณ ตลาดกลางสินค้าเกษตรร้อยเอ็ด ตำบลดงลาน อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด และครั้งที่ 3 วันที่ 29 พฤศจิกายน - 9ธันวาคม 2566 เปิดจุดรับซื้อ ข้าวเปลือก ณ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ร้อยเอ็ด จำกัด ศูนย์ ธุรกิจโพนทอง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด 

ทั้งนี้ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจัดทำตลาดนัดข้าวเปลือก เป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร ในการขายข้าวได้ราคาดี ยังมีบวกราคาข้าวเพิ่มขึ้น จากสหกรณ์ จะทำให้ชาวบ้านจะเกิดความมั่นใจ และมีช่องทางเลือกในการขายสินค้าเกษตรมากขึ้น รวมถึงเกษตรกรจะได้เรียนรู้ระบบการซื้อขายแบบตลาดกลาง ใช้เป็นฐานในการพัฒนาระบบตลาด อีกทั้งเป็นแรงกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาสนใจพัฒนา และปรับปรุงคุณภาพข้าวเปลือกอย่างจริงจัง และให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด ต่อไป

พิจิตร-บิ๊กต่อนิมนต์เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานเข้าวัดยุติความขัดแย้งลืมอดีตมองไปข้างหน้า

เมื่อวานนี้ (15 พฤศจิกายน 2566) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , นาย ภูวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกันลงพื้นที่มาที่ วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร โดยมาถึงเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. จากนั้นได้นิมนต์ พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน พร้อมด้วยกำลังจิตอาสากว่า 200 คน  เดินหน้ามายังประตูวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งปิดประตูอยู่ จากนั้น 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ใช้โทรโข่งเจรจาพูดคุยว่า วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องข้ามความขัดแย้งแล้วหันหน้ามาเจรจาพูดคุยกัน โดยขอให้แกนนำ คือ นางสุภา หรือชื่อเดิม นางประภานันท์ อยู่ยืด ประธานองค์กรชุมชนรักษ์วัดบางคลาน ใช้โทรโข่งบอกกับชาวบ้านที่อยู่ด้านในขอให้เปิดประตู จากนั้นคณะของ “บิ๊กต่อ” ก็ได้เดินเข้าวัดพร้อมกับ พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน เข้าไปภายในวัดและขึ้นไปยังวิหารหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งก็มีคณะกรรมการ 18 คน ที่เป็นทั้งฝ่ายอดีตเจ้าอาวาส และฝ่ายเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ขึ้นไปนมัสการรูปหล่อหลวงพ่อเงินที่ประดิษฐานอยู่บนวิหาร โดยมี พระพรหมโมลี ปธ.9 รักษาการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าคณะภาค 5 เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กทม. เทศน์ให้โอวาทกับผู้ที่มาร่วมกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ครั้งใหญ่ในรอบ 9 ปี หลังจากที่มีปัญหายืดเยื้อมายาวนาน แต่ด้วยการผนึกกำลังเอาจริงของ “บิ๊กต่อ” ผบ.ตร.-ป.ป.ป. –ป.ป.ท. จึงทำให้สถานการณ์วันนี้คลี่คลายลงแล้วและเชื่อมั่นว่าความสงบจะกลับคืนสู่วัดหลวงพ่อเงินบางคลานอีกครั้ง 

จากนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตอนที่เราเข้ามาตั้งเเต่เเรก  เราก็จะเห็นพี่น้องชาวบางคลานเเละก็ในทีมที่เข้ามาเเก้ปัญหา รวมทั้งคณะกรรมการที่เราจัดตั้งไว้ 18 คน หรือเรียกว่า 18 อรหันต์ ทุกคนก็มีความร่วมมือร่วมใจกันจะเห็นได้ว่ายื้มเเย้มเเจ่มใส เห็นบรรยากาศเราก็รู้มันเป็นภาษากายที่สามารถสื่อได้ว่าไม่ได้มีความกังวลอะไรเลย มีความสุข ชาวบ้านเข้ามากอด ผมเชื่อว่าเขาไม่มาเสเเสร้งเเล้วเข้าก็อยากเห็นความสุข สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ดึงความเชื่อมั่นศรัทธาของ  พุทธศาสนิกชนที่จะมากราบขอพรองค์หลวงพ่อเงิน ไม่ใช่เฉพาะชาวบางคลานหรือคนพิจิตรเท่านั้นที่จะดีใจ แต่เชื่อว่าพุทธศาสนิกชนที่เป็นคนไทย หรือจะรวมถึงชาวต่างชาติก็จะดีใจด้วย  

ตอนนี้เรากำลังเปิดบรรยากาศการท่องเที่ยวตามที่รัฐบาลวางนโยบายไว้  ผมก็ถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดี เงินก็จะไหลในระบบในเศรษฐกิจของพี่น้องชาวบางคลานก็จะดีการค้าขายของเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น เราได้ทั้งห่วงโซ่เลยที่มันเป็นวงจร  ผมคิดว่าชาวบ้านก็ต้องรักษาตรงนี้ไว้ ผมว่าคนข้างนอกคนบางคลานต้องช่วยกัน เพราะคนนอกมาช่วยทำให้มันดีขึ้นฉะนั้นคนบางคลานต้องรักษาไว้มันไม่มีอะไรเอาไปได้  เเต่สิ่งศรัทธาพุทธศาสนาเราเป็นการสืบทอดพุทธศาสนามันเเป็นหน้าที่ทุกหลายหน่วยช่วยกันไม่ใช่เฉพาะตำรวจเท่านั้น แต่รวมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด  

“บิ๊กต่อ”กล่าวย้ำว่า หลังจากวันนี้กำลังตำรวจจะยังไม่ถอนตัวออกจากวัด แต่จะวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ส่วนหนึ่งให้ช่วยดูแลความสงบภายในวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จนกว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอีก

“บิ๊กต่อ” ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำโครงการอุปสมบทนาคหมู่ เนื่องในโอกาสปีมหามงคล 72 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในปี 2567 โดยจะนำตำรวจมาบวชที่วัดหลวงพ่อเงินบางคลานแห่งนี้อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทอดทิ้งวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน หรือหนีหายไปไหน? พร้อมทั้งจะดูเเลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการจัดระเบียบภายในวัดให้เรียบร้อยเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมากราบไหว้นมัสการหลวงพ่อเงินวัดบางคลานแห่งนี้ อีกด้วย

นราธิวาส-ติดตามการขับเคลื่อนงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 มุ่งดูแลชายแดนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ที่ห้องรับรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้การต้อนรับ พลโท ณัฐพงษ์  เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร พร้อมคณะฯ ในโอกาสเดินทางมาปฏิบัติภารกิจติดตามการทำงาน พร้อมรับทราบและหารือถึงปัญหาการขับเคลื่อนงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ตลอดจนคณะผู้บังคับบัญชาจากส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ

พลโท ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กล่าวว่า “วันนี้เดินทางมาเนื่องในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ ซึ่งตั้งใจจะมารับฟังว่าอยากให้กรมชายแดนทำอะไรบ้าง และรับฟังคำแนะนำว่าทำอย่างไรให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชายแดนอย่างแท้จริง อย่างแรกที่จะทำในปีนี้ คือนโยบายชายแดนทางด้านมาเลเซีย วางแผนการดำเนินว่าจะทำในด้านเรื่องอะไรบ้าง โดยจะบูรณาการกับกระทรวงต่างๆ ในการทำงาน อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือ ดาต้าเซ็นเตอร์เรื่องชายแดนทั้งหมด ที่จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ เพื่อให้สามารถค้นคว้าหาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น“

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า “ขอขอบคุณท่านเจ้ากรมชายแดนที่แวะมาเยี่ยม และให้ข้อมูลการทำงานต่าง ๆ ในส่วนเรื่องของแนวชายแดนกองทัพภาคที่ 4 จะมีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่ 2 ประเทศ คือ จังหวัดชุมพรและระนอง ที่ติดกับประเทศเมียนมา และจังหวัดสตูล สงขลา ยะลา และนราธิวาส ที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งในปีนี้มีการปรับเปลี่ยนในการควบคุมตามแนวชายแดน ในอดีตกองกำลังเทพสตรีจะดูแลทั้งหมด แต่ปีนี้มีการปรับหน่วยที่ต้องดูแลแนวชายแดนเพิ่มขึ้น เพื่อแบ่งเบาภาระการทำงานของกองกำลังเทพสตรี และเพื่อลดการทำงานซ้ำซ้อน โดยกองกำลังเทพสตรีก็จะรับผิดชอบตามแนวชายแดนฝั่งที่ติดต่อกับประเทศเมียนมาเหมือนเดิม  ตั้งแต่มาจนถึงจังหวัดสตูลและอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ส่วนตั้งแต่จังหวัดยะลาไปจนถึงจังหวัดนราธิวาส เปลี่ยนให้เป็นกองบังคับการควบคุมสุริโยทัยดูแล โดยให้กองพลทหารราบที่ 15 จัดกำลังดูแลป้องกันชายแดน สำหรับปัญหาตามแนวชายแดนของกองทัพภาคที่ 4 ทั้งเรื่องการรุกล้ำอธิปไตย การต่อสู้ตามแนวชายแดน ฝั่งประเทศเมียนมา และประเทศมาเลเซียนั้นแทบจะไม่มีเลย และในด้านการพบปะพัฒนาสัมพันธ์ ก็มีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง อาจจะมีการหยุดไปในช่วงการแพร่ระบาดโควิด 19 บ้าง แต่ปัจจุบันได้กลับมาพัฒนาความสัมพันธ์กันตามปกติ และเป็นไปด้วยดี นอกจากนี้ เรายังมีการลาดตระเวนร่วมกันทั้งทางบกและทางน้ำด้วย“

จากนั้น เวลา 13.00 น. เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ได้เดินทางต่อไปยังด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส และกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย ก่อนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 ในเวลาต่อมา โดยสะพานแห่งนี้ใช้เชื่อมต่อระหว่าง อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส กับ รันเตาปันจัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เป็นโครงการภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ IMT – GT เพื่อก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำอีก 1 สะพาน คู่ขนานกับสะพานเดิม เนื่องจากสะพานข้ามแม่น้ำ โก-ลก แห่งที่ 1 มีความคับแคบไม่สะดวกต่อการตอบสนองการเติบโตทางเศรษฐกิจและการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศที่ในแต่ละวันมีเป็นจำนวนมาก หากดำเนินการก่อสร้างเสร็จก็จะยกระดับการสัญจรผ่านแดนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในการขนส่งการค้าชายแดน และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top