Monday, 20 May 2024
THE STATES TIMES TEAM

'เชียงราย' รับตัวคนไทยจากพื้นที่ขัดแย้งในเมียนมาจากฝ่ายเมียนมาเพิ่มเติมอีก 24 คนกลับไทย ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 อำเภอแม่สาย

 

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา 11.30 นาฬิกา กองกำลังผาเมือง โดย พันเอก ณฑี ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง/ประธานคณะกรรมการชายแดน ส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย สถานีตำรวจภูธรแม่สาย อำเภอแม่สายด่านศุลกากรแม่สาย ร่วมรับตัวคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบกลับภูมิลำเนา จำนวน 24 คน (ชาย 16 คน, หญิง 8 คน) ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และส่งมอบให้กับ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดกิจกรรมวันเบาหวานโลก ให้กำลังพลกองทัพเรือ รู้เท่าทันโรคเบาหวาน

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.66 พลเรือตรี วีระชัย หลีค้า รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ผู้แทนผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในการจัดกิจกรรมวันเบาหวานโลก ( World Diabetes Day) พร้อมด้วย ดร.ศิวัสสา จันโท ประธานชมรมภริยานาวิกโยธิน พร้อมคณะกรรมการแม่บ้านฯ ข้าราชการ ลูกจ้าง กำลังพลและครอบครัว สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ร่วมกิจกรรมฯ 

โดย พล.ร.ต.ดนัย ปานแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา และคลินิกเบาหวาน กลุ่มงานอายุรเวชกรรมฯ ร่วมกับคณะกรรมการทีมผู้ดูแลผู้ป่วยเบาหวาน คณะกรรมการ Good home Good health รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดทำกิจกรรมวันเบาหวานโลก ชื่อกิจกรรม “รู้ว่าเสี่ยง เราเลี่ยงได้ Know your risk Know your response” ให้แก่ ข้าราชการ และครอบครัว ของกองทัพเรือ เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของโรคเบาหวานในระยะแรกของโรคได้ทันท่วงที ลดภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังที่จะตามมา ให้ความรู้ในการดูแลรักษาตนเอง รวมไปถึงความดันโลหิต น้ำหนักตัว โรคอ้วน และโรคหัวใจ ณ หอประชุม ศูนย์การฝึกนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ค่ายกรมหลวงชุมพร อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี 

ฉะเชิงเทรา-กต.ตร.เมืองแปดริ้ว มอบ 100,000 บาท ร่วมกิจกรรมล้วงไหทองการกุศล วันลอยกระทง รายได้จัดซื้อเครื่องมือแพทย์ รพ.วัดสมานรัตนาราม

วันที่ 24 พ.ย.66 นายประชา คล้ายสิงห์ ที่ปรึกษาตำรวจภูธรภาค2 /ประธาน กต.ตร.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ผู้ใหญ่มานัส โท้เป๋า ประธานที่ปรึกษา กต.ตร. และคณะกต.ตร.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา มอบเงิน 100,000 บาท แด่ เจ้าคุณพระประชาธรรมนาถ เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา (ธ) เจ้าอาวาสวัดสมานรัตนาราม เพื่อร่วมกิจกรรมล้วงไหทองการกุศล วันลอยกระทง วัดสมานรัตนาราม อ.เมืองฉะเชิงเทรา รายได้จัดซื้อเครื่องมือแพทย์ รพ.วัดสมานรัตนาราม

'บิ๊กต่าย' แถลง ตำรวจ ปส. ทลาย 2 เครือข่ายค้ายา ภาคเหนือ และภาคอีสาน ยึดยาบ้ากว่า 14 ล้านเม็ด ปะปนมากับแตงกวา และไอซ์ 100 กก. หวังกระจายในพื้นที่ชั้นใน

ตามนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นการจับกุมทำลายเครือข่ายวงจรยาเสพติด ยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด และเร่งรัดในการทำลายยาเสพติดของกลาง โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี มาดำเนินการ และได้สั่งการให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้รับผิดชอบงานยาเสพติด เข้าไปกำกับดูแลสั่งการ 

ซึ่งวันนี้ 24 พ.ย.66 เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. เป็นประธานการแถลงผลการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 2 เครือข่าย พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส., พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต. ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และ พล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. ด้าน ผบช.ปส. เผยว่า บช.ปส. จะเดินหน้าปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดทุกเครือข่ายอย่างหนัก รวมไปถึงการสืบสวนขยายผล  ใช้เครื่องมือและกฎหมายที่มีอยู่เพื่อเอาผิดกับเครือข่ายและผู้ที่ร่วมกันให้การสนับสนุนเครือข่ายค้ายาเสพติดอย่างเด็ดขาด เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ขณะเดียวกันก็ได้ขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันยาเสพติดควบคู่ไปด้วย ล่าสุด ตำรวจ ปส. สามารถจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ได้แก่ ไอซ์ 100 กก. และ ยาบ้า 13,400,000 เม็ด 

คดีที่ 1 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ร่วมกับตำรวจ บก.ขส. ร่วมกันสืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายที่มีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ กระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวกลุ่มเครือข่ายจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน ด้าน จว.นครพนม ไปส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ตอนในประเทศ โดยใช้รถยนต์ หมายเลขทะเบียน xx 61xx กรุงเทพมหานคร ในการลำเลียงยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงประสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เฝ้าติดตามตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง พบรถเป้าหมายวิ่งไปตามถนนเส้นสกลนคร - อ.สมเด็จ จว.กาฬสินธุ์ ต่อเนื่อง จว.มหาสารคาม  ก่อนจะมาจอดรถติดสัญญาณไฟจราจรที่บริเวณแยกวังยาว ต.เกิ้ง อ.เมือง จว.มหาสารคาม ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมตรวจสอบพบ นายจักรกฤษ อายุ 36 ปี ชาว จว.กาฬสินธุ์ เป็นผู้ขับขี่ ผลการตรวจค้นรถพบไอซ์ ซุกซ่อนในฝากระโปรงท้ายรถยนต์ รวมจำนวน 100 กก. ด้านผู้ต้องหาให้การว่า ประมาณเดือนกันยายน ที่ผ่านมาได้รู้จักและไปทำงาน กับผู้รับเหมาก่อสร้างรายหนึ่งในหมู่บ้านโคกกลาง ต.ลำปาว อ.เมือง จว.กาฬสินธุ์ ที่ตนอาศัยอยู่ เมื่องานเสร็จผู้รับเหมาได้ย้ายไปที่อื่น ตนจึงไม่มีงานทำ ก่อนจะโทรศัพท์ติดต่อเพื่อของานกับผู้รับเหมารายนี้ จึงแนะนำให้ตนขับรถขนยาเสพติดและถูกจับกุมดังกล่าว ซึ่งหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่จะขยายผลหาตัวการใหญ่ในการว่าจ้างลำเลียงยาเสพติดจำนวนนี้ต่อไป เบื้องต้น แจ้งข้อหา “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (สารไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”

คดีที่ 2 ตำรวจ บก.สกส. จับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ นายไตร, นายสมชาย และ เยาวชน 1 ราย หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดเตรียมลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จว.เชียงใหม่ เพื่อไปส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ จว.นครศรีธรรมราช โดยบรรทุกมากับกระบะแบบมีคอก และ มีรถนำเส้นทางอีก 1 คัน กระทั่งวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวของรถเป้าหมายคือ รถกระบะหมายเลขทะเบียน xx 92xx เชียงใหม่ และ รถยนต์หมายเลขทะเบียน xx 5xx เชียงใหม่ กำลังเดินทางลงสู่พื้นที่ภาคใต้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงตรวจสอบพบว่ารถได้ขับผ่านพื้นที่ อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร แต่ไม่พบรถออกนอกพื้นที่ จึงคาดว่าอาจจะหลบพักอยู่ในพื้นที่ กระทั่งพบรถกระบะจอดพักบริเวณรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จว.ชุมพร 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันแรก มีนายไตรภพ เป็นผู้ขับขี่ ให้การว่า ขับรถบรรทุกแตงกวามาเต็มคันรถเพื่อไปส่งลูกค้าที่ จว.นครศรีธรรมราช ส่วนรถคันที่ 2 มีนายสมชาย เป็นผู้ขับขี่ และมีเยาวชน 1 ราย โดยสารมาด้วย เมื่อนายสมชาย เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สารภาพว่าได้ขับรถนำสำรวจเส้นทาง สำรวจด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ ให้กับรถยนต์ที่ซุกซ่อนยาเสพติดมากับแตงกวา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหา และรถทั้งหมดไปตรวจเอ็กซ์เรย์ที่ด่านตรวจยานพาหนะท่าแซะ จว.ชุมพร ของ กก.2 บก.ปส.4 พบยาบ้าถูกซุกซ่อนอยู่รวมจำนวน 13,400,000 เม็ด สอบถามผู้ต้องหา ให้การว่ายาเสพติดของกลาง ดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ซึ่งมีคนว่าจ้างให้ไปรับยาเสพติดในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และเป็นการก่อให้ เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

สำหรับเดือน ตุลาคม 2566 – ปัจจุบัน ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ  34 คดี ผู้ต้องหา 58 คน ของกลาง ยาบ้า 34,601,643 เม็ด, ไอซ์ 872.76 กก. เฮโรอีน 25.99 กก., โคเคน 3.61 กก. และตรวจยึดทรัพย์ ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ 131.62 ล้านบาท

ผบ.ตร.เปิดการอบรมสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล (Stronger Together) ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษเรื่องจิตอาสา และการป้องกันตัวจากเหตุกราดยิง

วันนี้ (24 พ.ย.66) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการอบรมผู้นำประชาชน ตามโครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล (Stronger Together) ของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย  พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมคณะ ณ อาคารกีฬาศูนย์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าอบรมจำนวน 1,900 คน เป็นผู้แทนของประชาชนในพื้นที่ตําบลต่างๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตํารวจในสังกัด 38 สถานี สถานีตํารวจละ 50 คน ใช้เวลาในการอบรมรุ่นละ 1 วัน จํานวน 3 รุ่น ในวันนี้เป็นการอบรม รุ่นที่ 3

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาลในการดำเนินโครงการ “สร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล เพื่อสนับสนุนการป้องกันอาชญากรรม Stronger Together” มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอและแก้ไขปัญหาชุมชน สังคมมีความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ ส่งเสริมวัฒนธรรม
และการท่องเที่ยว เพื่อความผาสุกของประชาชนอย่างยั่งยืน

การอบรมในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้เข้ารับการอบรมทุกท่านคือผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ที่จะสรรค์สร้างประโยชน์ให้แก่สังคม ชุมชน ท้องถิ่นที่ท่านอาศัยอยู่ จึงขอให้ทุกท่านได้ภาคภูมิใจ และร่วมกันขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สร้างชุมชนและสังคมให้เติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน เชื่อมั่นว่าจะสามารถเป็นพลังสำคัญในการแก้ไขความเดือดร้อนของสังคมได้ตรงกับความต้องการ

ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้เรื่องโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ การสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แก่ผู้เข้าร่วมอบรมจากนั้น ผบ.ตร.บรรยายให้ความรู้ในเรื่องการเอาตัวรอดจากเหตุกราดยิง (Active Shooter) หนี ซ่อน สู้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการเอาตัวรอดจากเหตุดังกล่าวด้วย

จากนั้นเป็นการบรรยายพิเศษจาก พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เรื่อง การสร้างเครือข่ายพลังแผ่นดิน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของบ้านเมือง และการมีส่วนร่วมในกิจการตำรวจ (การก่อเกิด การพัฒนา การรักษา การคงอยู่) , และ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ บรรยายในหัวข้อ การปฏิบัติงานของตำรวจในยุคปัจจุบัน รายการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ด้วย

รองผู้บัญชาการทหารเรือติดตามความก้าวหน้างานจัดซื้อจัดจ้างเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพล

กองทัพเรือและครอบครัวในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ภายใต้กรอบงานคณะกรรมการบริหารกองทุนเงินส่วนแบ่งรายได้โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก 

วันที่ 22 พ.ย.66 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองประธานกรรมการบริหารกองทุนเงินส่วนแบ่งรายได้โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (กบรอ.) และคณะ เดินทางตรวจความก้าวหน้างานจัดซื้อจัดจ้างของ กบรอ. (งบประมาณปี ๖๖) โดยรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินการ ณ ห้องประชุมสโมสรสัญญาบัตรกองเรือยุทธการ และติดตามความก้าวหน้าตามแผนงานของหน่วยต่างๆ ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ ในภาพรวมของการดำเนินงานจัดซื้อจัดจ้างฯ มีความก้าวหน้าตามแผนงาน ประกอบด้วย
กองเรือยุทธการ - การซ่อมแซมและปรับปรุงอาคารพักสัญญาบัตร ขนาด ๑๖ ห้อง และปรับปรุงห้องเรียน โรงเรียนสัตหีบ สาขากองเรือยุทธการ
หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน - การปรับปรุงห้องเรียน โรงเรียนโยธินบูรณะ ให้เป็น E - Learning
หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง - การซ่อมแซมอาคารเรือนแถวประทวน จำนวน ๑๐ ครอบครัว
ฐานทัพเรือสัตหีบ - การปรับปรุงห้องเรียน โรงเรียนสัตหีบ สาขาฐานทัพเรือสัตหีบ
กองการบินทหารเรือ - การซ่อมแซมเรือนแถวประทวน จำนวน ๒ แถว
อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ - การซ่อมแซมอาคารพักสัญญาบัตร จำนวน ๑ อาคาร

ในการนี้รองผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำหน่วยต่างๆ ให้เร่งรัดติดตามการดำเนินการให้ถูกต้องตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ตรวจรับพัสดุ ครุภัณฑ์ให้ถูกต้องได้มาตรฐานตามสัญญา ตรวจรับงานซ่อมทำให้เรียบร้อย ได้คุณภาพ  และให้สามารถเบิกจ่ายเป็นไปตามแผนงาน  ซึ่งการใช้งบประมาณในส่วนนี้ถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นอกเหนือจากงบประมาณปกติที่มีอยู่แล้ว ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลกองทัพเรือ และครอบครัว รวมท้ังสถานศึกษาในพื้นที่สัตหีบ ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น 

เป็นไปตามเจตนารมย์ของผู้บัญชาการทหารเรือในการเร่งรัดติดตามการใช้งบประมาณที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของกำลังพลกองทัพเรือ และครอบครัวให้ดีขึ้น บนพื้นฐานของการบริหารจัดการอย่างถูกต้อง และรวดเร็ว

#เทิดทูนสถาบัน_ยึดมั่นระเบียบวินัย_ประชาชนภูมิใจ_ทะเลไทยมั่นคง
#Fitforthefuture

เชียงใหม่-เตรียมจัดงานโครงการหลวง 2566 เฉลิมพระเกียรติ ทศมมหาราชา สืบสานศาสตร์ ชนกาธิเบศรดำริ

มูลนิธิโครงการหลวง แถลงข่าวเตรียมจัดงาน “โครงการหลวง 2566” ที่ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่าง 1-7 ธันวาคม นี้ ภายใต้แนวคิด “เฉลิมพระเกียรติ ทศมราชา สืบสานศาสตร์ ชนกาธิเบศรดำริ จากชุนเขา สู่ ชาวเรา และชาวโลก” เตรียมพบกับการแสดงผลงานของโครงการหลวง และสินค้าคุณภาพกว่า 800 รายการ

เมื่อวันที่22 พ.ย. 66 ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่  พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง  พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร. อานัฐ ตันโช ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ และ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมความพร้อมก่อนการจัดงาน “โครงการหลวง 2566”  ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-7 ธันวาคม 2566 ที่จะถึงนี้ รวม 7 วัน ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวงชนกาธิเบศรดำริ ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ 

พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง กล่าวว่า มูลนิธิโครงการหลวงได้กำหนดจัดงานโครงการหลวงประจำปี 2566 ที่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระชนมพรรษา 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิโครงการหลวง เพื่อพัฒนาพื้นที่สูงย่างเข้าสู่ปีที่ 55  

โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เฉลิมพระเกียรติ ทศมราชา สืบสานศาสตร์ ชนกาธิเบศรดำริ จากชุนเขา สู่ ชาวเรา และชาวโลก”  ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการจัดงานบนพื้นที่ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ แสดงผลสำเร็จเชิงประจักษ์ ที่สร้างความสุข ความเจริญ เกิดแก่ราษฎรบนขุนเขา นำมาสู่การเรียนรู้ เพื่อสร้างประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ ยังมีอาหารจากครัวโครงการหลวงต่าง ๆ และอาหารท้องถิ่นในบรรยากาศกาดหมั้ว มากกว่า 50 รายการ งานครั้งนี้ จึงมากมายไปด้วยผลิตผล และผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่า ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค และดีต่อเกษตรกรชาวเขาผู้ผลิต และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และในวันที่ 5 ธันวาคม 2566 มีกิจกรรมการเสวนาพิเศษจากผู้ที่เคยถวายงาน และนำแนวทางพระราชทานมาใช้ในการดำเนินชีวิต ณ ข่วงกิจกรรมสวนไผ่ พร้อมรำลึกในพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ 9 บทเพลง

ด้าน ดร. อานัฐ ตันโช ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้ มีกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงานมากมาย อาทิ การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ทศมราชา สืบสานศาสตร์ ชนกาธิเบศรดำริ”  ซึ่งเป็นการจัดแสดงผลลัพธ์ของการพัฒนาตามแนวทางพระราชทาน ในการแก้ปัญหาฝิ่น ความยากจน และปัญหาสิ่งแวดล้อม  นอกจากนี้ ยังมีงานวิชาการหลากหลายเรื่องราว ที่ให้ทั้งสาระ ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน

รวมทั้งการแสดงดนตรีในสวน การแสดงของเยาวชนชนเผ่าต่างๆ ในบรรยากาศจำลองชุมชนพื้นที่สูง พันธุ์พืชใหม่ที่นำมาจัดแสดงในปีนี้ อาทิ กุหลาบและเบญจมาศสายพันธุ์ใหม่ ผลิตภัณฑ์กัญชงจากเส้นใยผสม รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ชุดชา 72 เทิดพระเกียรติวันเฉลิมพระชนมพรรษา และการจำหน่ายผลิตผล ผลิตภัณฑ์โครงการหลวง รวมกว่า 800 รายการ

สินค้าใหม่แนะนำในปีนี้ คือ ชุดผลิตภัณฑ์ชาโครงการหลวง เทิดพระเกียรติวันเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา สำหรับเป็นของฝากของขวัญเนื่องในโอกาสต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมี ข้าวโพดหวาน 2 สี พิเศษ ฝักขนาดใหญ่ เมล็ดมีสองสี คือ สีขาวและเหลือง รสชาติมีความหวานและหอมกว่าข้าวโพดทั่วไป มะเขือเทศเชอร์รีเหลืองหวาน สามารถรับประทานสด ผิวมันวาว เนื้อกรอบ รสชาติหวานไม่ฉ่ำน้ำ เมล็ดน้อย ไม่มีกลิ่นฉุนของมะเขือเทศ อุดมไปด้วยวิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ ไลโคปีน แคโรทีนอยด์ และสารเบต้า-แคโรทีน สตรอว์เบอร์รีพระราชทาน 89 ผลขนาดใหญ่ สีแดงเข้ม รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นหอม เนื้อผลแน่น ทนทานต่อการขนส่งฯลฯโดยสามารถติดตามรายละเอียดต่างๆ ได้ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจของมูลนิธิโครงการหลวง

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยว  มาร่วมชมและเลือกซื้อผลผลิตของโครงการหลวง พร้อมเที่ยวชมและสัมผัสกับคุณค่าของงานโครงการหลวงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีกระจายอยู่ในทุกอำเภอ

โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน “โครงการหลวง 2566” สามารถเข้าร่วมงานได้ระหว่างวันที่ 1-7 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวงชนกาธิเบศรดำริ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

สตม. จับกุมชาวลาวแอบแฝงเข้ามา รบเร้า ชักชวน เสนอแนะบริการนำเที่ยว หน้าด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทย – ลาว จ.หนองคาย

ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.สิทธิ์ศิริ กังวานกุล รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.ธียาฌพัตท์ รังสิพราหมณกุล รอง ผกก.ตม.จว.หนองคาย ร่วมแถลงข่าวการจับกุมชาวลาวแอบแฝงเข้ามา รบเร้า ชักชวน เสนอแนะบริการนำเที่ยว หน้าด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทย – ลาว จ.หนองคาย 

วันนี้ (22 พ.ย.66) เวลาประมาณ 09.00 น. ชุดสืบสวน ตม.จว.หนองคาย ออกตรวจสอบคนต่างด้าวเข้ามารบเร้าชักชวนเสนอตัวนำเที่ยวใน สปป.ลาว บริเวณหน้าด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย –ลาว จ.หนองคาย ซึ่งสร้างความรำคาญแก่นักท่องเที่ยว พบ นายวันดี อายุ 60 ปี สัญชาติลาว และนายสวน  อายุ 63 ปี สัญชาติลาว ซึ่งแอบแฝงเข้ามาปะปนกับนักท่องเที่ยวบริเวณหน้าด่านฯ เข้ารบเร้าชักชวนนักท่องเที่ยวจะเดินทางข้ามไป สปป.ลาว ในลักษณะ  ก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่นักท่องเที่ยวและสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดหนองคาย จึงได้ควบคุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหา “ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ฯลฯ ” นำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออก ประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษาเลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

กระบี่-แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจน้องทหารใหม่ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2566 หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ “เน้นย้ำให้ดูแลทหารใหม่ให้เสมือนคนในครอบครัว”

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เดินทางตรวจเยี่ยมให้กำลังใจน้องทหารใหม่ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2566 ของหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยมีพันเอก ธนวัฒน์ สายสกุลรัตน์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 พร้อมด้วยรองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15,ผู้ฝึกทหารใหม่ ตลอดจนส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับและนำตรวจเยี่ยม

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำให้หน่วยฝึกทหารใหม่ยึดถือปฏิบัติตามหลักสูตรการฝึกทหารใหม่ ให้สอดคล้องกับนโยบายของกรมยุทธศึกษาทหารบก สร้างความภาคภูมิใจแก่น้องทหารใหม่และครอบครัว และในโอกาสนี้ได้นำอาหารพิเศษ (ไก่ย่างเนื้อทอง โดนัท น้ำหวานต่างๆ และไอศกรีม) มามอบให้กับน้องทหารใหม่ พร้อมมอบนโยบายการฝึกและมาตรการต่างๆ ให้หน่วยฝึกทหารใหม่ได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด พร้อมเน้นย้ำให้ ผู้ฝึก ผู้ช่วยผู้ฝึก ครูนายสิบ ตลอดจนครูทหารใหม่ดูแลน้องทหารใหม่อย่างใกล้ชิด ใส่ใจในทุกรายละเอียดของน้องทหารใหม่ โดยเฉพาะการติดตั้งมุ้งลวดสำหรับโรงนอน พร้อมกับการติดกล้อง CCTV ภายในโรงนอนให้ครอบคลุมบริเวณจุดต่างๆ รวมถึงความเป็นอยู่ของครอบครัวทางบ้าน จะต้องมีการเข้าไปดูแลครอบครัวของทหารใหม่ที่ทางบ้านประสบปัญหาต่างๆ  รวมถึงให้มีการแนะนำประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเข้าสู่การเป็นนักเรียนนายสิบ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับทหารใหม่ที่จะต่อยอดเข้าสู่การเป็นทหารอาชีพในอนาคต

พร้อมกันนี้ได้ขอให้น้อง ๆ ทหารใหม่ได้เก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ต่างๆ ที่ทางหน่วยฝึกฯ ได้มอบให้มากที่สุด และให้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ รวมถึงมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง จงตั้งใจอดทนจนผ่านการฝึก พร้อมที่จะเป็นสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง

ตำรวจไซเบอร์รวบขบวนการหลอกทำภารกิจ เหยื่ออยากหารายได้ กลายเป็นสูญเงินเฉียดแสน

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ผู้เสียหายต้องการหารายได้พิเศษ จึงได้ค้นหาบนอินเตอร์เน็ต พบเว็บไซต์ชื่อ “หางานพาร์ทไทม์” จึงได้สนใจและสมัครทำงาน ต่อมาเว็บดังกล่าวได้ให้ผู้เสียหาย แอดไลน์ชื่อ “ฝ่ายบริการพลอย” แล้วให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล จากนั้นไลน์ดังกล่าวได้ให้ผู้เสียหายเริ่มทำภารกิจกับบริษัท Asset shop online โดยอ้างว่ามีค่าตอบแทนให้ประมาณวันละ 500 - 3000 บาท โดยการกดจองออเดอร์สินค้าในแพลตฟอร์มชื่อดังต่างๆ เช่น Shopee Lazada และอีกหลายแพลตฟอร์ม

ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้ทดลองทำภารกิจโดยเริ่มต้นจากการโอนเงิน 50 บาท เข้าบัญชีธนาคารคนร้าย ต่อมาปรากฏเป็นภาพบัญชีกระเป๋าตังค์ของผู้เสียหายในเว็บไซต์ของ Asset shop online พบยอดเงินในบัญชี 50 บาท ผู้เสียหายจึงได้กดเข้าไปที่ร้านค้า Shopee ผ่านทางกระเป๋าตังค์และจากนั้นพบว่ามีผลตอบแทนในกระเป๋าตังค์ของผู้เสียหายเพิ่มมาจำนวน 15 บาท แล้วมีการเงินตอบแทนมายังบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย จำนวน 65 บาท ผู้เสียหายจึงมั่นใจว่าเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนจริง จึงโอนเงินเพื่อลงทุนเพิ่มอีกเรื่อยๆ ตั้งแต่ 300 - 500 บาท โดยยังคงได้รับผลตอบแทนกลับมาจริง

ต่อมาผู้เสียหายจึงโอนเงินเพื่อลงทุนเพิ่มอีกเรื่อยๆ อีกหลายครั้ง ตั้งแต่ 800 - 3,500 บาท เมื่อโอนเสร็จผู้เสียหายต้องการถอนเงินแต่ทำไม่ได้ อ้างว่าภารกิจยังไม่สำเร็จ ต้องโอนเงินเพิ่มอีก ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปอีก 12,000 บาท เมื่อทำภารกิจเสร็จ มิจฉาชีพแจ้งว่าผู้เสียหายทำภารกิจผิดพลาด ต้องติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อทำการแก้ไขแผนลงทุน จึงให้โอนเงินเพิ่มอีก 32,520 บาท เมื่อโอนเสร็จยังถอนไม่ได้ ต้องโอนเพิ่มอีก 32,520 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไป แต่คนร้ายแจ้งว่าดำเนินการไม่สำเร็จ ให้โอนเงินเพิ่มอีกจำนวน 99,907 บาท แต่ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกแน่นอน จึงได้แจ้งความกับตำรวจไซเบอร์เพื่อดำเนินคดี โดยผู้เสียหายโดนหลอกโอนเงินไปทั้งสิ้น จำนวน 82,190 บาท 

ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ บก.สอท.3 โดย กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3  ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายบุลากร อายุ 23 ปีชาวบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็น 1 ในกลุ่มขบวนการดังกล่าวที่ถูกออกหมายจับ จึงทำการวางแผนเข้าจับกุม จนสามารถเข้าจับกุมตัวได้ขณะเดินอยู่ริมถนนหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.8 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงแจ้งข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จึงนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.๓,พ.ต.อ.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.๓ สั่งการให้ พ.ต.ท.ภาคภูมิ บุญเจริญพานิช รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.ต.รุ่งเรือง มีสติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, ร.ต.อ.อาณัติ เข็มทอง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, บก.สอท.3 พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันจับกุม


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top