Saturday, 10 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ทูตจีนประจำประเทศไทย 'หาน จื้อเฉียง' ซัด สหรัฐฯ ทำตัวเป็นเจ้าโลก เหยียบย่ำอธิปไตยจีน ชี้ เป็นผู้ก่อปัญหาใหญ่สุดในโลก

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม เฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่คำพูดของ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เรื่องสหรัฐเป็นประเทศก่อเรื่อง สร้างวิกฤต และยกระดับสถานการณ์ตึงเครียด โดยระบุว่า

“เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2565 เอกอัครราชทูต หาน จื้อเฉียงได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาไต้หวัน ท่านกล่าวว่า แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ นำคณะผู้แทนเยือนไต้หวันและประกาศต่อสาธารณชนว่าสหรัฐ จะพัฒนาความสัมพันธ์สหรัฐ-ไต้หวันอย่างจริงจัง และปกป้องไต้หวันโดยไม่คำนึงถึงการคัดค้านซ้ำแล้วซ้ำอีกของจีน ไต้หวันเป็นดินแดนของจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ไปจนถึงมติของสหประชาชาติจนถึงความจริงที่ว่า 181 ประเทศทั่วโลกรวมถึงสหรัฐอเมริกายอมรับหลักการ ‘จีนเดียว’ ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของจีน และประเด็นไต้หวันคือกิจการภายในของจีน นี่เป็นข้อเท็จจริงที่มีความชัดเจนมากที่สุด”

“ด้านหนึ่ง สหรัฐยอมรับว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และในทางกลับกัน สหรัฐก็อ้างว่าต้องการปกป้องความมั่นคงของไต้หวัน ซึ่งเป็นตรรกะที่ไร้สาระและเอาแต่ใจตัวเอง โดยพื้นฐานแล้ว สหรัฐกำลังยุยงและสนับสนุนพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของไต้หวันให้แยกตัวออกจากจีนเป็นเอกราช เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ที่ชั่วร้ายในการ ‘ใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือเพื่อสกัดกั้นจีน’ ซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายร้ายแรงต่ออำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน และเป็นการทรยศต่อพันธกรณีระหว่างประเทศของสหรัฐ เองและการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานพื้นฐานที่กำกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้น แน่นอนว่าจีนต้องตอบโต้อย่างแข็งขัน เราดำเนินการฝึกซ้อมทหารในน่านน้ำใกล้ไต้หวันเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายเพื่อต่อต้านการยั่วยุของสหรัฐ และเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน และเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายต่อต้านสหรัฐ ที่เหยียบย่ำอธิปไตยของประเทศอื่นๆ และเป็นการกระทำเพื่อรักษาสันติภาพและความสงบสุขในภูมิภาค สหรัฐ ได้ทำสิ่งที่ไม่ดีไม่งามด้วยตนเอง และตอนนี้โจรกำลังเรียกร้องให้จับโจร

รัฐบาลให้ความมั่นใจ กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไม่กระทบหนี้สาธารณะ สิ้นปีคาด 61.3% ต่อจีดีพี ธนาคารรัฐพร้อมตรึงดอกเบี้ยให้นานที่สุด

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงนโยบายตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และออกมาตราการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19 เพื่อลดผลกระทบแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จาก 0.25% เป็น 0.75% ต่อปี ว่า ธนาคารของรัฐหลายแห่ง ได้ออกประกาศเบื้องต้น ที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด คาดว่าจะถึงสิ้นปี2565  ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตามตลาด เพื่อรักษาสภาพคล่องให้กับธนาคารในการนำเงินไปปล่อยสินเชื่อ แต่ละธนาคารจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป ขณะนี้ ธนาคารออมสิน ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน6 เดือน 0.15% เงินฝากประจำ 12 เดือน 0.20% และเงินฝากประจำ 24 เดือน 36 เดือน  0.30% ช่วยส่งเสริมการออม และให้ประชาชนได้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่กำลังเริ่มกลับมามีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ส่วนบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งมีบทบาทการค้ำประกันสินเชื่อ จะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs โดยขยายมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้บสย.ไปถึงสิ้นปี 2565 เพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แก้หนี้ยั่งยืน ให้ลูกหนี้สามารถประคองกิจการต่อไปได้  โดยให้ชำระหนี้ 3 ระดับ ตามความสามารถในการชำระ คือ 1.ยืดหยุ่น ตัดเงินต้น  20% และตัดดอกเบี้ย 80% ผ่อนชำระ 5 ปี  2.ผ่อนน้อย เบาแรง หนี้ลดหมดแน่นอน เริ่มต้นชำระครั้งแรกเพียง 1% ของยอดหนี้ โดยนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด ส่วนวงเงินที่เหลือ ผ่อนชำระ 5 ปี 3. ดอกเบี้ย 0% ชำระครั้งแรก 10% ซึ่งจะนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด ผ่อนชำระ 7 ปี โดยมีลูกหนี้ลงทะเบียนร่วมโครงการ 6,856 ราย มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว วงเงินกว่า 1,117 ล้านบาท 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ภาพรวมการบริหารหนี้สาธารณะ ที่มีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทำให้ต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลสูงขึ้น แต่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)มีแผนบริหารจัดการความเสี่ยง จึงไม่มีประเด็นที่ต้องกังวล โดยดำเนินการเปลี่ยนการกู้เงินระยะสั้นที่เป็นดอกเบี้ยลอยตัว (Float Rate) มาเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Fix Rate)มากขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 82% ส่วนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนนั้นไม่มี เพราะรัฐบาลมีหนี้ต่างประเทศแค่ 1.8% และได้ทำการปิดความเสี่ยงไปหมดแล้ว ขณะที่ ปีงบประมาณ 2566 แผนการบริหารจัดการต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาล จะเน้นกู้เงินผ่านการออกพันธบัตรระยะยาว จากปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 45% ปรับเพิ่มเป็น 48% การออกตั๋วสัญญาใช้เงินจะอยู่เท่าเดิมที่ 25% ขณะที่การออกตั๋วเงินคลังและการกู้เงินระยะสั้นจากตลาด จะลดลงมาอยู่ที่ 14% จากเดิมที่ 18%

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ ที่ 14 สิงหาคม 2565 : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

คำว่า ‘แม่’ เป็นที่ซาบซึ้งแก่ทุกจิตใจ
ยิ่งกว่าคำใดอื่นทั้งนั้น
และแทบทุกคนจะพูดคำว่า ‘แม่’
ได้เป็นคำแรกของการหัดพูด
จะกล่าวว่าเป็นสัญชาตญาณก็ไม่ผิด
คือ เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของทุกคนว่า ‘แม่’
ดังนั้น พอเปล่งเสียงออกมาเป็นภาษาได้
ก็จะเปล่งออกมาเป็น ‘แม่’ ทันที

นิด้าโพล เผยผลสำรวจความเห็นประชาชน ชี้ ส่วนใหญ่ ไม่เชื่อว่ามีดีลลับ ‘พลังประชารัฐ-เพื่อไทย’ ดันล้มสูตรหาร 500 หวังชู ‘บิ๊กป้อม’ เป็นนายกฯ

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ข้อตกลงทางการเมืองพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย?” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 10-11 สิงหาคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,312 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับข้อตกลงทางการเมืองระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความเชื่อของประชาชนต่อข้อตกลงทางการเมืองระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยในการเปลี่ยนสูตร การคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ จากหาร 500 เป็น หาร 100 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 40.32 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย รองลงมา ร้อยละ 21.80 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 17.91 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 9.38 ระบุว่า เชื่อมาก และร้อยละ 10.59 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความเชื่อของประชาชนต่อข้อตกลงทางการเมืองระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยในการสนับสนุน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 59.76 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย รองลงมา ร้อยละ 17.45 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 13.87 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 7.47 ระบุว่า เชื่อมาก และร้อยละ 1.45 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

คว่ำบาตรล้มเหลว G20 กว่าครึ่งไม่คว่ำบาตรรัสเซีย ตามที่พันธมิตรชาติตะวันตกต้องการ | NEWS GEN TIMES EP.63

✨ คว่ำบาตรล้มเหลว G20 กว่าครึ่งไม่คว่ำบาตรรัสเซีย
ตามที่พันธมิตรชาติตะวันตกต้องการ

✨ ยูเครนไม่พอใจ!! หลัง Amnesty รายงานว่า ยูเครนใช้โรงเรียน-ชุมชนเป็นฐานทัพ ทำให้ประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยงสูง ด้านผู้นำยูเครนอ้าง Amnesty หลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย

✨ คว่ำบาตรล้มเหลว G20 กว่าครึ่งไม่คว่ำบาตรรัสเซีย
ตามที่พันธมิตรชาติตะวันตกต้องการ

✨ หยุดป้อนอาวุธให้ยูเครน!! อดีตผู้นำพรรคฝ่ายซ้ายอังกฤษ ชี้!! ชาติตะวันตกควรหยุดเติมไฟความขัดแย้งเสียที!!

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

'ส.ส.เพื่อไทย' หวั่น!! 'ประยุทธ์' ถลุงงบเอื้อกองทัพ จัดสรรงบเห็นแก่ตัว ไม่เกิดประโยชน์กับปชช.

นางสาว กิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การจัดสรรงบประมาณปี 2566 ที่ผ่านมาพบว่าเป็นการจัดทำงบประมาณแบบเห็นแก่ตัว หลายงบประมาณที่จัดสรรมาไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะงบกระจุก ไปอยู่ในส่วนของกองทัพ งบเพื่อความมั่นคงและงบเอื้อพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลมากกว่าแก้ปัญหาให้ประชาชนและฟื้นฟูประเทศหลังโควิด   

น่าประหลาดใจว่า ปีนี้ พลเอกประยุทธ์ ตั้งงบกลางปี 2566 ไว้ที่ 590,470 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18.5% ของงบประมาณรวมทั้งหมด ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในโครงสร้างงบประมาณ ทั้งนี้เมื่อนำตัวเลขงบกลาง ตลอดอายุของรัฐบาล 'ประยุทธ์ 2' มารวมกัน จะพบว่ามีการตั้งงบ ก้อนนี้เอาไว้สูงถึง 2,311,262.4 ล้านบาท การตั้งงบกลางของรัฐบาลตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องว่าเป็นการตีเช็คเปล่าให้พลเอกประยุทธ์ เพราะไม่ปรากฏรายละเอียดของโครงการ แต่มีเฉพาะหัวข้อกับวงเงินเท่านั้น ไม่มีโอกาสตรวจสอบและกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินงบประมาณก่อน

นางสาว กิตติ์ธัญญา กล่าวด้วยว่า การตั้งงบกลางไว้สูงถึงขนาดนี้ เป็นการแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าจะนำเงินที่มาจากภาษีของประชาชนไปหาประโยชน์ทางการเมืองและเอื้อกับพวกพ้อง ไม่ได้มีไว้เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ไม่เคยมาชี้แจงต่อรัฐสภาว่า มีการนำงบประมาณกลางไปทำอะไรบ้าง เกิดประโยชน์อะไร

States TOON EP.77

เวลากับลมหายใจ!!

ติดตามการ์ตูนอัปเดตได้ทุกสัปดาห์ใน…

สวนนงนุชพัทยา 12 สิงหา พาแม่เที่ยวฟรี!!!

วันแม่แห่งชาติ ตรงกับวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาวไทย เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของ พระพันปีหลวง ซึ่งมีพระชนมพรรษา 90 พรรษา สวนนงนุชพัทยา โดยนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา จึงได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสุด สำหรับในวันแม่ปีนี้ แม่ที่มากับครอบครัว เที่ยวชมสวนนงนุชฟรี!!!!  เพื่อเป็นการร่วมฉลอง วันคล้ายวันพระราชสมภพ

ทั้งนี้โปรโมชั่นแม่เที่ยวฟรี มีเฉพาะวันที่ 12 สิงหาคม2565 ที่มาเป็นครอบครัวเท่านั้น และส่วนของโปรโมชั่นในเดือนสิงหาคม ยังคงมีโปรโมชั่นเดิม เพียงซื้อบัตรผ่านประตู 1ใบแถมฟรี1ใบ เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 140 ซม. เข้าฟรีและผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าชมสวนฟรีทุกวันศุกร์                  
            
 

วันที่ 8 สิงหาคม ของทุกปีถูกกำหนดให้เป็น ‘วันแมวโลก’ โดยถูกกำหนดขึ้นมาในปี พ.ศ.2545 เพื่อกระตุ้นความเข้าใจและการตระหนักรู้เกี่ยวกับแมวโดยเฉพาะ

โดยวัน International Cat Day หรือวันแมวโลกนั้นถูกกำหนดขึ้นมาโดย International Fund for Animal Welfare หรือ กองทุนระหว่างประเทศเพื่อสวัสดิการสัตว์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 เป้าหมายหลักคือเพื่อกระตุ้นความเข้าใจและการตระหนักรู้เกี่ยวกับเจ้าสัตว์ตัวน้อยนี้

เคยมีอยู่ช่วงหนึ่งในยุโรป แมวถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ อีกทั้งถูกมองว่าเป็นพาหะนำโรค จนทำให้แมวจำนวนมากถูกฆ่าตายในยุคนั้น เลยต้องมีการปรับความเข้าใจให้ถูกต้อง

ควันหลง ‘บิ๊กป้อม’ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องชาวหนองคาย พร้อมประกาศลั่นอีสานจะไม่แห้งแล้งอีกต่อไป แถมพวงยุทธศาสตร์ใหม่ เตรียมผุดโครงสร้างพื้นฐาน ดันพื้นที่ภาคอีสานเชื่อมเศรษฐกิจโลก ผ่านนโยบายสุดเก๋ ‘ผ้าขาวม้าเชื่อมโลก’

หากใครได้ติดตามการลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นอกจากพล.อ.ประวิตร จะได้ทักทายพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมกับโชว์ผลงานการบริหารจัดการน้ำ กระทั่งทำให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ภาคอีสานแทบจะไม่มีปัญหาเรื่องน้ำแล้งเลย

แต่สิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือ พล.อ.ประวิตร ได้ประกาศจะทำให้ภาคอีสานเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่จะเชื่อมโยงเศรษฐกิจไปทั่วโลก 

โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวในตอนหนึ่งในช่วงปราศรัยว่า ทุกครั้งที่มาภาคอีสาน คนอีสานจะต้อนรับด้วยความอบอุ่น จากการคาดผ้าขาวม้า ทำให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจทุกครั้ง อยากบอกว่า “ผ้าขาวม้าเชื่อมโลก” เป็นนโยบายที่ต่อไปนี้ภาคอีสานจะเป็นภาคที่เชื่อมโลก พร้อมกับการกระจายสินค้าต่าง ๆ ไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top