Thursday, 22 May 2025
Hard News Team

‘คริสปี้ฟรอยด์’ สอนภาษา!! ให้ผู้จัดการโรงแรม 5 ดาว ต้องตอบลูกค้าอย่างไร ให้ดู ‘สุภาพ - เหมาะสม - เป็นมิตร’

(27 ต.ค. 67) ‘คริสปี้ฟรอยด์’ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษและภาษาอีสาน ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีดรามา ยาสีฟัน ที่เกิดขึ้นในโรงแรม 5 ดาว โดยมีใจความว่า ...

ดรามาโรงแรม 5 ดาว! 
เมื่อ Manager ตอบกลับรีวิวลูกค้าไม่ระวัง 

หลังจากมีสมาชิกในกลุ่มรีวิว โรงเเรม กลุ่มหนึ่ง
ได้มีการเเชร์ 
ประสบการณ์รีวิวโรงแรม 5 ดาวเเห่งหนึ่ง
ที่หัวหินว่า

ทางโรงเเรมไม่มี 
‘ยาสีฟัน’ ให้ในห้องพัก
(ซึ่งเข้าใจได้ว่า มีอยู่หลายโรงเเรม 
ที่มีการเตรียสชุดเเปรงสีฟัน 
ยาสีฟันเล็กๆไว้ให้ลูกค้า) 

แต่ที่น่าตกใจที่สุดคือ…  
การใช้คำพูดตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษของ Manager โรงแรม แห่งนี้
ที่บอค่อยเหมาะสมทอได๋ เเมะจ้า 
ไม่ว่าจะเป็น

•We do have toothpaste on sale 
in our shop.
เรามียาสีฟันจำหน่ายที่ร้านค้าของเรา
•If you read the room feature, we do not advertise giving free toothpaste.
หากท่านได้อ่านรายละเอียด
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก
“เราไม่ได้ระบุว่ามียาสีฟันให้ฟรีนะ“

ด้วยพอเขียนเเบบนี้เเล้ว
คนอ่านอาจเข้าใจผิดได้ว่า...
เขากำลัง ...ตำหนิลูกค้าว่า...

•ลูกค้าลองไปอ่านข้อมูลสิ 
เราก็ไม่ได้เขียนโฆษณาไว้นะ
ว่ามียาสีฟันฟรี ในห้องพักอ่ะ

คือฉันอ่านเอง... ฉันยังสะดุ้งน่ะสู
เเต่ฉันเตรียมวิธีตอบให้สุภาพขึ้น
มาให้ล่ะจ้า

"We sincerely apologise 
for any inconvenience regarding the toothpaste. 
"เราขออภัยอย่างสูง
สำหรับการที่ไม่มียาสีฟันให้บริการ"
While it's not included 
in our standard room amenities, 
we do have toothpaste available 
for purchase in our hotel shop. 
เนื่องจากยาสีฟันไม่ได้รวมอยู่ในสิ่งอำนวยความสะดวกฟรีภายในห้องพัก 
ทางเรามีจำหน่ายที่ร้านค้าของโรงเเรมค่ะ

ยังบอพอเดะจ้า....
Manager ท่านนี้
ยังได้ตอบกลับ อีกว่า...

"Now let me explain
or educate you a little bit about green hotel."
"ขอชี้แจง" หรือ "ให้ความรู้" 
เกี่ยวกับโครงการโรงแรมสีเขียวสักเล็กน้อย

ซึ่งฉันต้องพูดตรงๆ ว่า..
- คำว่า "ขอชี้แจง" (to explain) 
จะฟังดูสุภาพและเหมาะสม

เเต่ การใช้คำว่า...
“Let me educate you a little bit”
ให้ฉันให้ความรู้คุณสักหน่อยนะ....
อาจทำให้ผู้ฟัง...
รู้สึกเหมือนกำลังถูกสอน 
หรือมองว่าลูกค้าไม่มีความรู้ 
ซึ่งไม่สุภาพและไม่เหมาะสม
สำหรับการสื่อสารกับลูกค้า 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงานบริการ
เเต่ฉันเตรียมประโยคสุภาพมาให้คือเก่าจ้า...

-Allow me to share a bit more about …. 
"เรายินดีที่จะแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ“...
-Please allow me to share 
a bit of background on our ….
ขออนุญาตเล่าความเป็นมาเกี่ยวกับ...... 
ของเรา
เเล้วตามด้วยเหตุผลว่าทำไม..
ทางโรงเเรมถึงไม่มีบริการ
ชุดเเปรงสีฟัน ยาสีฟันให้ฟรี

จะฟังดูสุภาพ เหมาะสม และเป็นมิตร 
เหมาะกับการสื่อสารในงานบริการ
โดยไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า
กำลังถูกสอน หรือ ถูกมองว่าไม่มีความรู้
เดะจ้า 

เเต่... ฉันขออนุญาตเเชร์ให้ฟังก่อนว่า..... 
Green hotel ที่เขากล่าวถึง คือ...
 โครงการโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 
เขากำลังส่งเสริม
•ให้เกิดการใช้ทรัพยากรและพลังงาน
อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
•มีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี
•มีการจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อมที่ดี

ฉันเลย อยากเอาเรื่องราวเหล่านี้
มาเเชร์ให้ฟังว่า...

การสื่อสาร การใช้คำพูดในงานบริการ
ควรจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะ
- ทุกการตอบกลับเป็นภาพลักษณ์ขององค์กร
ดังนั้นการเลือกใช้คำพูด
•ที่สุภาพ เหมาะสม
•เเสดงความเข้าอกเข้าใจ เห็นใจ 
เเละพร้อมรับฟังปัญหา

สำคัญมากเดะจ้า 
เอาส่ำนี้ละเนอะจ้า

หนุ่มใจสู้!! สมัครทหารพราน ‘ชุดสมัคร – ชุดสอบ’ เป็นชุดเดียวกัน วิ่งเข้าอันดับ 1 ทั้งที่ไม่มีรองเท้าวิ่ง เผย!! บ้านจน อยากหาเงินเลี้ยงดูแม่

(27 ต.ค. 67) สมาชิก TikTok @reforearmyback ซึ่งเป็นครูฝึกทหารพราน ได้โพสต์คลิปของหนุ่มคนหนึ่ง มีความตั้งใจจะมาเป็นทหารพราน เพื่อหาเงินดูแลแม่ ที่อึ้งคือในวันทดสอบร่างกาย เจ้าตัวใส่ชุดเดิม ซึ่งเป็นชุดเดียวกับวันที่มาสมัคร โดยระบุข้อความว่า

น้องคนนี้ใส่เสื้อตัวเดิมกางเกงตัวเดิม ตอนมาสมัคร วิ่งเข้าที่ 1 และเวลาดีที่สุดเพื่อจะสอบเป็นทหารพราน มีเงินเลี้ยงแม่ ขอให้ความฝันน้องสำเร็จ ขอชื่นชมคนนี้ ครับ 

จากนั้นก็ได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบให้ดูวันที่มาสมัครวันที่ 24 ก.ย. ซึ่งเจ้าตัวชื่อว่า นายจตุพร สาพิราช อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 16 ต.บัวตม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ชุดในวันนั้นคือเสื้อกีฬา และกางเกงขายาวลายพราง ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่มาทดสอบร่างกายในวันที่ 25 ก.ย. และยังไม่เหมาะกับการใส่ทดสอบร่างกาย เพราะทำให้วิ่งไม่ถนัดแน่น้องคนนี้กลับวิ่งทดสอบร่างกายในระยะทาง 2 กม. และเข้ามาเป็นที่ 1 ด้วย

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และอยากสมทบทุนในการช่วยเหลือ รวมทั้งยังอยากซื้อรองเท้าให้ เพราะรองเท้าที่ใส่วิ่งทดสอบร่างกายนั้นไม่ใช่รองเท้าวิ่ง ขณะเดียวกันทราบว่า ทางบ้านมีฐานะยากจน ที่มาสมัครทหารพราน เพราะอยากหาเงินไปเลี้ยงดูแม่

นอกจากนี้ยังมีคนเข้ามาคอมเมนต์บอกว่า 

“ผมเคยเจอพี่เขาครับ มาสอบที่กรมทหารพราน14 พี่เขามีความพยายามมากครับ เห็นบอกมานอนศาลารอรถเมล์แถวกรมมา 2 วัน สู้ๆ ครับเป็นกำลังใจให้ ขอให้พี่ได้เป็นทหารพรานตามที่หวังนะครับ”

ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้ากฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม

(27 ต.ค. 67) พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นผู้ควบคุม เรือเอกไชยเหินหาว พร้อมด้วยกำลังฝีพายเรือพระราชพิธี หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เข้าร่วมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้ากฐิน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพมหานคร
การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในครั้งนี้ ใช้เรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ จัดขบวนเป็น 5 ริ้ว ความยาว 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือ ในขบวนเรือพระราชพิธี รวมทั้งสิ้น 2,200 นาย  โดย หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นหน่วยรับเรือพระราชพิธี จำนวน 5 ลำ ประกอบด้วย เรือเอกไชยเหินหาว เรือเอกไชยหลาวทอง เรือทองขวานฟ้า เรือทองบ้าบิ่น เรือดั้ง 22 และมีกำลังพลที่เป็นฝีพายเรือราชพิธี รวมทั้งสิ้น 221 นาย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

ขายตรง - แชร์ลูกโซ่ ขายภาพลักษณ์หรู ชีวิตสบาย หายนะ!! เศรษฐกิจไทย มีแต่หนี้ ที่ไร้อนาคต

(27 ต.ค. 67) แชร์ลูกโซ่ ? The ICON Group ที่เหล่าบรรดา บอส-แม่ทีม กำลังถูกจับกุมดำเนินคดี และเป็นกระแสทุกหน้าสื่อในขณะนี้ มูลค่าความเสียหาย ยังสรุปตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ ยอดรวมผู้เสียหายที่เข้ามาให้ปากคำแล้ว 8,137 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2,412 ล้านบาท แต่คาดการณ์ว่าน่าจะแตะหลักหมื่นล้านบาท หรือสูงกว่านี้

ความเสียหายจาก หลอกลวงลงทุนของบริษัท ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ ส่งผลให้มีการขยายผล สืบค้นข้อมูลบริษัทต่างๆ ที่ลักษณะการดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกัน กระทบกับธุรกิจขายตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ธุรกิจขายตรงในปี 2566 มีมูลค่า 60,000 ล้านบาท ยังคงซบเซา ดูได้จากยอดขายของบริษัทส่วนใหญ่ที่ยังคงมียอดขายที่การเติบโตที่ติดลบอยู่ ส่วนกำไรนั้นก็ลดลงจากปีก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเนื่องจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่ยังส่งผลกระทบกับสภาพเศรษฐกิจมาถึงปัจจุบัน 

ธุรกิจที่เน้นขายภาพลักษณ์ หน้าตา ความหรูหรา ผลตอบแทนที่สูง เพื่อชักชวนคนมาร่วมลงทุนธุรกิจ ซึ่งเราแทบไม่รู้จักสินค้าที่บริษัทแห่งนี้นำมาขาย นอกจากการจัดเวทีการแสดง พร้อมเหล่าบรรดา ดารา นักร้อง สลับกันขึ้นเวที บอกเล่า ถึงการใช้ชีวิตสุดหรู ท่องเที่ยวต่างประเทศ อาหารมื้อหลักหมื่น กระเป๋าแบรนด์เนมใบละแสน

ความเสียหายที่เกิดขึ้น กระทบเป็นวงกว้าง ผู้ร่วมลงทุน ย่อมสูญเงินไปกับภาพฝันชีวิตที่แสนสบาย หลายๆราย ทั้งกู้หนี้ ยืมสิน มาลงทุน โดยคาดหวังผลตอบแทนที่จะตามมา ตอนนี้...กลับมาสู่ภาพจริง ที่มองไม่เห็นอนาคต พร้อมแบกภาระหนี้ที่มี การเงินขาดสภาพคล่อง เงินดิจิทัล ก็คงช่วยไม่ได้

สัญญาณหนี้เสีย-หนี้ค้างชำระ ยังคงพุ่งไม่หยุด ฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ภาพรวมของกลุ่มธนาคารใหญ่ในประเทศไทย ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 กำไรสุทธิที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก็ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตไม่ได้ตามที่คาดหวัง 7 ธนาคาร จาก 9 ธนาคารใหญ่ NPL ล้วนปรับเพิ่มขึ้น

ยอดปฏิเสธสินเชื่อบ้าน-รถ เพิ่มขึ้นทุกเซ็กเมนต์ บ้านต่ำ 3 ล้านบาททะลุ 70% บ้านระดับ 5 ล้าน อนุมัติเงินกู้แค่ 50% ขณะที่เช่าซื้อยอดวูบทั้งรถใหม่-รถเก่า ร้องขอมาตรการอสังหาฯ เพื่อช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาการอนุมัติสินเชื่อ เพราะลูกค้ายังคงไม่มีศักยภาพชำระหนี้ 

ผู้ประกอบการรายใหญ่ อาจจะพอเห็นแสงรำไร จากมติ กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ธนาคารทุกแห่งประกาศ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง มีผลตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป คงจะพอช่วยลดภาระดอกเบี้ยได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่รายเล็กๆ ที่ใช้สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต ก็ยังคงต้องแบกดอกเบี้ยกันต่อ

ภาพฝัน งานสบาย รายได้ดี ไม่เคยมีอยู่จริง หากมีช่องทางที่สร้างรายได้ไม่จำกัด ลงทุนได้ผลตอบแทนสูง เขาคงเก็บเงียบไม่มาบอกหรอก เก็บเป็นความลับ สร้างความรวยให้ตัวเอง ไม่ดีกว่าเหรอ? การทำงานหารายได้ ทุกอย่างล้วนต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย หยุดเอาภาพลักษณ์ หน้าตา มาเป็นเครื่องวัดความสำเร็จ กันซะที

‘อินวิเดีย’ แซงหน้า ‘แอปเปิ้ล’ ขึ้นแท่นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก หลังราคาหุ้นอินวิเดีย!! ได้แรงหนุนจาก ดีมานด์ชิปเอไอ

(27 ต.ค. 67) อินวิเดีย (Nvidia) แซงหน้าแอปเปิ้ล (Apple) ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลกในวันศุกร์ (25 ต.ค.) หลังจากราคาหุ้นอินวิเดียทะยานขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยได้แรงหนุนจากความต้องการอย่างต่อเนื่องในชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่

ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า มูลค่าตลาดของอินวิเดียแตะที่ 3.53 ล้านล้านดอลลาร์ชั่วคราว ขณะที่มูลค่าตลาดของแอปเปิ้ลอยู่ที่ 3.52 ล้านล้านดอลลาร์

ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา อินวิเดียเคยขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดของโลกในระยะสั้น ๆ เช่นกัน แต่ไม่นานก็ถูกไมโครซอฟท์ (Microsoft) และแอปเปิ้ลแซงหน้าไปได้ ซึ่งมูลค่าตลาดของทั้ง 3 บริษัทนี้ใกล้เคียงกันมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมูลค่าตลาดของไมโครซอฟท์อยู่ที่ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์

ประเทศที่ร่ำรวย ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ ที่สุดในโลก

(27 ต.ค. 67) สำนักข่าวและเว็บไซต์ยูเอสนิวส์ แอนด์ เวิลด์รีพอร์ต รายงานการจัดอันดับ ‘ประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมที่สุดในโลก’ ซึ่งมีทั้งหมด 89 ประเทศ และในจำนวนนี้ ประเทศไทยติดอยู่ใน 10 อันดับแรก โดยจัดเป็นลำดับที่ 8 อีกทั้งยังเป็นอันดับที่สูงที่สุดของกลุ่มประเทศเอเชีย

สำนักข่าวชี้แจงหลักเกณฑ์การประเมินในประเภทนี้ว่า จะคำนึงถึงวัฒนธรรมและประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศนั้นๆ มากกว่าความสามารถทางเศรษฐกิจหรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และพิจารณาโดยเฉลี่ยจากคุณลักษณะของประเทศทั้ง 5 ประการที่เกี่ยวข้องกับมรดกของประเทศนั้น ๆ ได้แก่ มีวัฒนธรรมที่เข้าถึงได้, มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน, มีอาหารที่ยอดเยี่ยม, มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากมาย และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางภูมิศาสตร์เป็นจำนวนมาก

บางส่วนจากคำบรรยายถึงประเทศไทยในการจัดอันดับนี้ระบุว่า ประเทศไทย ซึ่งแปลว่า ‘ดินแดนแห่งอิสระ’ เป็นเพียงประเทศในภูมิเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศเดียวที่ ‘ไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของประเทศจากทวีปยุโรป’ และบรรยายว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุดในโลก ได้รับฉายาว่าเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม เป็นประเทศที่ผสมผสานระหว่างสถานที่เก่าแก่กับบ้านเมืองที่ทันสมัย พร้อมด้วยหาดทรายสวยงามและวัดวาอารามที่งดงาม รวมถึงมีชื่อเสียงด้านการนวดแผนไทยและอาหารที่มีรสชาติยอดเยี่ยม

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 : ‘ทำไม? ต้องเวียนว่ายตายเกิด’

จากช่องติ๊กต็อก @dhamma_tv ได้เผยแพร่คำสอนเรื่อง ‘ทำไม? ต้องเวียนว่ายตายเกิด’ จากรายการ ‘ธรรมะทำไม’ โดย ‘พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท)’ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดด่านใน

คำถาม : ไม่ได้ใส่บาตรด้วยอาหารหวานคาว แต่ทำบุญด้วยปัจจัยวันละ 20 บาท จะได้บุญหรือไม่

พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์  (หลวงพ่อโกวิท) : ได้บุญอยู่แล้ว เพราะว่าจิตที่ตั้งใจถวายนั้น มาจากจิตที่ดี จิตที่เอื้อเฟื้อเห็นประโยชน์ อย่าไปยึดติดตรงจํานวนให้ถือเอาเจตนาความตั้งใจว่า เพื่อความอนุเคราะห์พระภิกษุ สามเณร

เรื่องนี้ก็มีการถกกันในวงกว้างพอสมควรในเรื่องถวายปัจจัยพระใส่บาตรพระ ว่าเป็นบาปหรือไม่ บางท่านก็บอกว่าเป็นบาป บางท่านก็บอกว่าไม่เป็น ซึ่งเรื่องนี้ก็คงจะต้องถกกันไปอีกนาน แต่อยากให้สังคมรับทราบว่า ผู้ที่มาบวชพระเพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมนั้น ไม่ได้มาจากครอบครัวร่ำรวย แต่มาจากคนชั้นกลางกับคนจน และหลาย ๆ ที่จบการศึกษาในระดับสูง ๆ นั้น ก็ล้วนแต่มาจากพระผู้น้อย-เณรผู้น้อยทั้งนั้น แล้วที่อยู่ได้ก็เพราะโยมใส่บาตร 10 บาท 20 บาท นั่นเอง

และท่านก็ไม่ได้รับมาเพื่อสร้างความร่ำรวย และท่านก็ไม่ได้บวช เพื่อจะบรรลุพระอรหันต์วันนี้พรุ่งนี้ แต่ท่านก็ปฏิบัติธรรมปฏิบัติ รักษาพระวินัย ตามคําสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งท่านก็ได้นำปัจจัยนั้นไปใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นค่าพาหนะ ยารักษาโรคยามเจ็บป่วยเป็นต้น

ฉะนั้น ท่านผู้ฟังทั้งหลายที่มีความเป็นกลางขอให้เข้าใจในบริบทของสังคมว่าเราอยู่กันได้เป็นสังคมเป็นปึกแผ่นมาจากความอุปถัมภ์ของอุบาสกอุบาสิกา ญาติโยมถวายเท่านี้ ก็ถือเป็นบุญของโยมและเป็นสิ่งที่ดีแล้ว

'รมว.เอกนัฏ' สั่งปิด!! โรงงานหลอมโลหะ นิคมบ่อทอง เน้นย้ำ!! อุตสาหกรรมยุคใหม่ ต้องปลอดภัย

(26 ต.ค. 67) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ถึงกรณี จากเหตุระเบิดถังผสมสารเคมี บริษัทเซียงนัน-เฟอรัส เมทัล โรงงานสกัดโลหะ ในนิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง จังหวัดปราจีนบุรี มีผู้เสียชีวิต 2 คน และผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

หลังเกิดเหตุ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม กับคณะทำงานร่วมกันหารือและแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นนายเอกนัฏ มอบหมายผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรม ให้สั่งปิดโรงงาน เพื่อตรวจสอบทันที และพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด

นายเอกนัฏ เน้นย้ำ มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในการนิคมอุตสาหกรรม ต้องเข้มงวด ทั้งการกำกับตามกฎระเบียบ ระบบสาธารณูปโภคภายในโรงงาน โดยเฉพาะโรงงานส่วนที่ประกอบกิจการที่มีวัตถุอันตราย ไว้ครอบครอง ต้องปฏิบัติตาม พรบ.วัตถุอันตราย อย่างเคร่งครัด 

ขอฝากเจ้าหน้าที่การนิคม และข้าราชการกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจตราเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญ ไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้อีก

ส่องคอมเมนต์ต่างชาติ โหวต ‘ที่ฉีดก้นไทย’ กับ ‘ปุ่มส้วมญี่ปุ่น’ ชี้!! ชอบสายฉีดไทย ‘ทรงพลัง – ไม่ยุ่งยาก - ยิงได้แม่นยำกว่า’

(26 ต.ค. 67) เรียกได้ว่าขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมห้องน้ำทั้งสองประเทศ สำหรับ ‘ไทย’ และ ‘ญี่ปุ่น’ ชาวต่างชาติทั้งอึ้งและติดใจไปแล้วหลายราย รวมถึงผู้ใช้เรดดิทรายนี้ ที่ได้ตั้งกระทู้เปิดโหวตศึกห้องน้ำในเอเชีย ให้เลือกระหว่าง ‘สายฉีดชำระ’ ของไทย กับ ‘ปุ่มกดในห้องน้ำ’ ของญี่ปุ่น อะไรจะประทับใจกว่ากัน!?

โดยเจ้าของกระทู้อธิบายว่า ‘สายฉีดชำระ’ เป็นสายฉีดน้ำที่ทรงพลังและไม่ยุ่งยาก เปรียบเสมือนสายดับเพลิงสำหรับด้านหลังของคุณ ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ แต่หลังจากใช้เสร็จอาจจะต้องล้างมือโดยด่วน

ส่วน ‘ปุ่มกดในห้องน้ำ’ ผลงานอันน่าทึ่งของวิศวกรญี่ปุ่น ที่มอบที่นั่งอุ่น ๆ ให้คุณ มีปุ่มกดมากมาย มีฟังก์ชันเพียบและสามารถทำงานได้น่าชื่นชม

สิ่งหนึ่งคือการผจญภัยอันโลดโผนในห้องน้ำ ขณะที่อีกสิ่งคือประสบการณ์สปาสุดหรูสำหรับส่วนล่าง จงโหวตซะ!!

บอกเลยว่างานนี้คอมเมนต์สนั่น ต่างนำเสนอข้อดีและข้อเสียของทั้งสองอย่าง 

“ถ้าตัดสินจากคุณภาพอย่างเดียว ที่ฉีดก้นมีแนวโน้มที่จะพังง่าย แต่ค่าซ่อมก็แค่ไม่กี่ร้อย เทียบกับอีกอันค่าซ่อมเป็นพัน ไม่มีการแข่งขันอะไรทั้งนั้น”

“สายฉีดก้นจะยิงน้ำได้แม่นกว่านะ”

“หลังจากได้ลองใช้ทั้งสองแบบแล้ว ฉันคิดว่าสายฉีดจะสะดวกกว่า เพราะควบคุมได้ดีกว่าของญี่ปุ่นและรู้สึกสะอาด แต่ในคืนอันเหน็บหนาว ฉันก็ไม่ปฏิเสธที่จะนั่งบนที่นั่งอุ่น ๆ นะ”

“ของญี่ปุ่น มีความเสี่ยงเรื่องแบคทีเรียจากอุจจาระกระเด็นติดมือน้อยกว่า ดูใช้ง่ายและมีระเบียบมากกว่า แม้ว่าจะขาดแรงดันน้ำที่ทรงพลังแบบของไทยก็ตาม”

‘ร้านบุฟเฟต์’ ลั่น!! กล้องชัดเป๊ะ ประกาศตามหาลูกค้า สั่งกุ้งเผา เหลือทิ้งเต็มโต๊ะ อาศัยช่วงชุลมุน แอบเผ่นหนี

(26 ต.ค. 67) บุฟเฟต์ เป็นร้านอาหารที่ผู้บริโภคสามารถเลือกอาหารได้หลายๆ ประเภท สามารถรับประทานทีละมาก ๆ ได้ แต่ส่วนใหญ่จะมีกติกาที่ชัดเจน คือ สั่งมาแล้วต้องรับประทานให้หมด เอาเท่าที่ไหว ไม่งั้นจะโดนค่าปรับ

ดรามาที่เกิดจากการเข้าไปใช้บริการประเภทบุฟเฟต์ มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ส่วนมากมักจะเกิดจากผู้บริโภคที่ไม่ทำตามกติกา สั่งมาแล้วทานไม่หมด แต่พยายามจะไม่รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น

ล่าสุด เพจ ‘ร้านป้าบุญล้อม Buffet’ ได้ออกมาโพสต์ภาพบนโต๊ะอาหารของลูกค้า ที่เห็นได้ว่ามีอาหารเหลือค่อนข้างมาก ทั้งกุ้งเผา ปลาทอดเป็นตัว ซึ่งร้านได้โพสต์ไว้ด้วยว่า 

“จักรพงษ์ ติดต่อกลับมาจ่ายค่าปรับด้วย ใจร้ายมาก ทำไมทิ้งแบบนี้ กล้องบ้านป้าชัดมากนะ”

ก่อนจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่า ลูกค้ามาสองคนแต่สั่งของไปจำนวนมาก เรียกร้องให้เสิร์ฟปลาเป็นตัว แต่ก็เห็นได้ว่ากินไม่หมด เป็นเหตุผลให้ต้องเสิร์ฟทีละน้อยๆ แถมที่ร้านยังมีโปรโมชั่นคนที่ 2 ลด 50% อีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top