‘เอเวอรี่ แจ็คสัน’ ขึ้นปกนิตยสารดังระดับโลก ‘แนชันแนล จีโอกราฟิก’ ล่าสุดประกาศ!! ตนเองไม่ใช่ทรานส์ ไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นมากกว่าหนึ่งเพศ
(27 ต.ค. 67) ‘Sompop Pordi’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘เอเวอรี่ แจ็คสัน’ เด็กที่ตกเป็นเหยื่อ ของลัทธิ Woke โดยได้ระบุว่า …
Woke อำมหิต
เด็ก 9 ขวบที่อยู่บนปกนิตยสาร แนชันแนล จีโอกราฟิก ฉบับเดือนมกราคม 2017 หรือ เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ชื่อ เอเวอรี่ แจ็คสัน
ก่อนถ่ายภาพขึ้นปกหนังสือ เอฟเวอรี่เป็นเด็กผู้ชาย ที่ชอบสีชมพู ชอบเล่นตุ๊กตา ชอบแอบเอาเครื่องสำอางค์ของแม่มาเล่น
แม่ของเอเวอรี่ ชื่อ เดบี้ เป็นนักรณรงค์สนับสนุน LGQLEDTV เลยพาเอเวอรี่ไปหาหมอที่ทำงานร่วมกันและเป็นผู้ชำนาญเรื่อง การยืนยันเพศสภาพ หรือ gender affirming care
และหมอที่ว่าก็บอกเอเวอรี่และแม่ว่า อันที่จริงแล้ว เอเวอรี่ไม่ใช่ผู้ชาย แต่เป็นผู้หญิง
ดังนั้น ก่อนถ่ายภาพขึ้นปกนิตยสาร เอเวอรี่จึงได้เข้ากระบวนการเปลี่ยนเพศด้วยการรับ ฮอร์โมนและสารเคมีเพื่อยับยั้งการพัฒนาของร่างกายตามธรรมชาติ หรือ puberty blocker โดยความยินยอมและดีใจของแม่
หลังจากได้ขึ้นปกนิตยสาร เอเวอรี่และแม่ก็โด่งดังมีชื่อเสียงในฐานะตัวแทนของคนข้ามเพศหรือ trans ได้รับเชิญให้ไปพูดในโรงเรียนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กคนอื่นๆที่สงสัยในเพศของตน และตามชุมชนคนข้ามเพศเพื่อร่วมกันเรียกร้องสิทธิของคนข้ามเพศให้เท่าเทียมกับคนทั่วไป
เอเวอรี่กลายเป็น โปสเตอร์ไชลด์ (นางแบบเด็กผู้โด่งดัง) ของ LGQLEDTV ส่วนเดบี้ได้รับการยกย่อง ชื่อเสียงและเงินทองจากกลุ่มคนข้ามเพศอย่างมาก
ปีนี้ 2024 เอเวอรี่ ไม่ได้รู้สึกอยากเป็นผู้หญิงอีกต่อไป ไม่ได้ชอบสีชมพู ไม่ชอบเล่นตุ๊กตา ไม่ชอบใช้เครื่องสำอาง
แล้วเอเวอรี่ก็ประกาศว่าตนเองไม่ใช่ทรานส์ ไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็น นอน-ไบนารี่ หรือ เป็นมากกว่าหนึ่งเพศ
เอเวอรี่เลิกใช้สรรพนาม she/her แล้วเปลี่ยนไปใช้ they/them แทน
แต่ไม่ว่าเอเวอรี่จะอยากเป็นอะไร ต้องการเป็นอะไรก็ตาม เอเวอรี่ก็ไม่สามารถกลับไปเป็นผู้ชายจริงๆตามธรรมชาติ เพราะ puberty blocker ทำลายพัฒนาการของร่างกาย จนเป็นหมัน กุ๊กกู๋ไม่พัฒนาตามวัย ไม่มีสมรรถภาพทางเพศ ไม่มีสเปิร์ม หรือจะผู้หญิงอย่างที่เคยอยากเป็นก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใครเนรมิตให้ได้
เอเวอรี่จะเป็นได้แค่คนที่สับสนทางเพศ จนกว่าจะตายไป
เอเวอรี่เป็นแค่ หนึ่งในเด็กที่ไร้เดียงสาหลายพันรายที่เป็นเหยื่อของลัทธิอำมหิต ลัทธิ Woke เด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว จนยินยอมให้ตนเองถูกทำหมัน ถูกตอน เพื่อไม่ให้สามารถเติบโตมีชีวิตปกติ มีลูกมีหลานสืบต่อไป เพราะ Woke เกลียดมนุษย์ Woke เชื่อว่าประชากรมนุษย์ที่มากเกินไปจะทำลายโลก
เมื่อเด็กเหล่านี้ เติบโตขึ้น พวกเขาเปลี่ยนกลับไปตามธรรมชาติของตน แต่สายเกินไปแล้ว เปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เสียหายแตกหักอย่างถาวรแล้ว
นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ
เป็นเรื่องจริงที่อำมหิต และน่าเศร้ามาก
