Tuesday, 20 May 2025
Hard News Team

2 พฤศจิกายน พ.ศ 2498 ในหลวง ร. 9 พร้อมสมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จฯ เยือน จ.นครราชสีมา เป็นครั้งเเรก

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร และทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ณ จังหวัดนครราชสีมา เป็นครั้งแรก ในระว่างวันที่ 2 - 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 

โดยทรงเสด็จด้วยขบวนรถไฟพระที่นั่งจากสถานีรถไฟจิตรลดา เเละมาถึงสถานีเมืองนครราชสีมา วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 ในเวลา 14.48 น. ซึ่งมีราษฎรเฝ้ารับเสด็จไม่น้อยกว่า 50,000 คน จากนั้นจึงเสด็จดำเนินเยี่ยมราษฎร และทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่ต่างๆของจังหวัดนครราชสีมา จนถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498  

'อินโดนีเซีย' สั่งแบนสมาร์ทโฟน 'Google Pixel' เหตุไม่ใช้ชิ้นส่วนผลิตในประเทศอย่างน้อย 40%

(1 พ.ย. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อินโดนีเซีย ได้สั่งห้ามจำหน่าย 'Google Pixel’ สมาร์ทโฟนที่ผลิตโดยบริษัทกูเกิล ที่เป็นบริษัทลูกของอัลฟาเบต เนื่องจากตามระเบียบแล้วกำหนดให้สมาร์ทโฟนจะต้องใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศอินโดนีเซีย โดยก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน อินโดนีเซียก็เพิ่งสั่งห้ามจำหน่าย 'iPhone 16' ของบริษัทแอปเปิล ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้

อินโดนีเซีย ห้ามจำหน่ายโทรศัพท์ 'Google Pixel’ เนื่องจากทางบริษัทไม่ได้ทำตามระเบียบที่กำหนดให้สมาร์ทโฟนที่จำหน่ายในอินโดนีเซียจะต้องใช้ส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศอินโดนีเซียอย่างน้อยร้อยละ 40

โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่า รัฐบาลผลักดันระเบียบนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่นักลงทุนทุกคนในอินโดนีเซีย ซึ่งผลิตภัณฑ์ของกูเกิลไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ดังนั้น จึงไม่สามารถจำหน่ายในอินโดนีเซียได้

อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคสามารถซื้อ 'Google Pixel’ ในต่างประเทศได้ หากว่าชำระภาษีอย่างถูกต้อง แต่ว่าทางการกำลังพิจารณาปิดการใช้งานโทรศัพท์ที่จำหน่ายอย่างผิดกฎหมาย 

ในขณะเดียวกันกูเกิล ระบุว่า ในขณะนี้ยังไม่มีการจำหน่ายโทรศัพท์ 'Google Pixel’ ในอินโดนีเซีย อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

อินโดนีเซีย สั่งแบนโทรศัพท์ 'Google Pixel’  หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อน อินโดนีเซียสั่งปิดกั้นการจำหน่ายโทรศัพท์ 'iPhone 16' ภายในประเทศมาแล้ว เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามระเบียบเรื่องชิ้นส่วนประกอบของโทรศัพท์ที่ต้องมีส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศ

โพลเผยคนอเมริกันกังขา กว่าครึ่งมองประเทศตัวเอง 'ประชาธิปไตยไม่จริง'

เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส เผยแพร่ผลสำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 20-23 ต.ค. จำนวน 2,516 คน ซึ่งพบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่เชื่อมั่นความสามารถของรัฐบาลในการทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

รายงานระบุว่าผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 45 มองว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ล้มเหลวจะทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และร้อยละ 62 มองว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ทำเพื่อประโยชน์ของตนเองและชนชั้นนำเป็นหลัก โดยความคับข้องหมองใจนี้รวมกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ความแตกแยกทางการเมือง และปัญหาสังคมเรื้อรัง ฉุดความเชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตยสหรัฐฯ

นอกจากนั้นผลสำรวจนี้ยังตอกย้ำความแตกแยกทางการเมืองที่ชัดเจน โดยร้อยละ 60 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งกล่าวโทษโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าทำให้ความแตกแยกทางการเมืองเลวร้ายกว่าเดิม ขณะร้อยละ 37 ชี้ความผิดไปที่กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

แรนดัล พาร์ เกษตรกรวัยเกษียณคนหนึ่ง เผยว่าไม่ใช่พรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลิกัน แต่เป็นพวกชนชั้นนำในรัฐบาลวอชิงตันที่กำกับควบคุมทุกอย่างและมองข้ามความต้องการของประชาชน

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนผิดหวังกับการนิ่งเฉยของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยซาราห์ วอชิงตัน พนักงานชั่วคราวคนหนึ่ง เผยว่าเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนบ่อยครั้ง แต่ยังคงไม่มีการทำงานแก้ไขปัญหานี้ ได้แต่พูดถึงและปล่อยให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจราวหนึ่งในสามกังวลว่าปัญหาของสหรัฐฯ อาจร้ายแรงมากจนถึงขั้นประเทศชาติล้มเหลว ขณะร้อยละ 58 มองว่าต้องปฏิรูประบบการเงินและการเมืองของประเทศครั้งใหญ่หรือไม่ก็ยกเครื่องใหม่ทั้งหมด

Starbucks โตสดใสในจีน ทั้งปีเปิดสาขาใหม่แล้ว 790 แห่ง เจาะตลาดระดับอำเภอ สะท้อนนอกเมืองใหญ่กำลังซื้อสูง

เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.67) สตาร์บัคส์ (Starbucks) เผยแพร่รายงานงบการเงินประจำปีที่ระบุว่าสตาร์บัคส์สร้างสถิติเปิดร้านสาขาใหม่รวม 790 แห่ง และเข้าสู่ตลาดระดับอำเภอใหม่ 166 แห่ง บนแผ่นดินใหญ่ของจีนในปีงบการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 29 ก.ย. 2024 แม้ยอดจำหน่ายของร้านสาขาที่เปรียบเทียบได้ทั่วโลกลดลง

ยอดจำหน่ายของร้านสาขาที่เปรียบเทียบได้ทั่วโลกของสตาร์บัคส์ในไตรมาสสี่ของปีงบการเงินข้างต้นลดลงร้อยละ 7 เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งเป็นผลจากธุรกรรมที่เปรียบเทียบได้ลดลงร้อยละ 8 โดยยอดจำหน่ายของร้านสาขาที่เปรียบเทียบได้ในตลาดจีนลดลงร้อยละ 14 ซึ่งเป็นผลจากยอดซื้อเฉลี่ยต่อใบเสร็จลดลงร้อยละ 8 และธุรกรรมที่เปรียบเทียบได้ลดลงร้อยละ 6

แม้ยอดจำหน่ายของร้านสาขามีแนวโน้มลดลง แต่สตาร์บัคส์เพิ่มร้านสาขาใหม่บนแผ่นดินใหญ่ของจีนในไตรมาสสี่ 290 แห่ง ซึ่งคิดเป็นกว่าร้อยละ 40 ของร้านสาขาเปิดใหม่ทั่วโลก 722 แห่ง โดยตัวเลขนี้ทำให้จำนวนร้านสาขาบนแผ่นดินใหญ่ของจีนรวมอยู่ที่ 7,596 แห่ง ครอบคลุมตลาดระดับอำเภอราวหนึ่งในสามของทั้งหมดในจีน

ทั้งนี้ จำนวนร้านสาขาในสหรัฐฯ และจีนคิดเป็นร้อยละ 61 ของร้านสาขาสตาร์บัคส์ทั่วโลก เมื่อนับถึงสิ้นไตรมาสสี่

จูตานเผิง นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมอาหาร กล่าวว่าตลาดระดับอำเภอกลายเป็น 'น่านน้ำสีน้ำเงิน' (blue ocean) หรือตลาดที่ยังมีคู่แข่งน้อยสำหรับการบริโภคกาแฟในจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสตาร์บัคส์สะท้อนความเชื่อมั่นในตลาดกาแฟของจีน

มอลลี หลิว ซีอีโอของสตาร์บัคส์ ไชน่า เน้นย้ำว่าธุรกิจของสตาร์บัคส์ยังคงแข็งแกร่งและยืดหยุ่น โดยสตาร์บัคส์ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการพัฒนาระยะยาวในตลาดจีนต่อไป

‘ลุงจรูญ’ ยังไว้ใจ ‘ทนายตั้ม’ ทำคดีต่อ ชี้ เป็นปัญหาส่วนตัวไม่ขอก้าวก่าย

‘ลุงจรูญ’ หวย 30 ล้าน เปิดใจยังไว้ใจ ‘ทนายตั้ม’ ทำคดีฟ้องกลับ ยืนยันไม่เคยถูกเรียกเงินเพิ่มเหมือนอย่างที่หลายคนโจมตี พร้อมไม่ขอก้าวก่ายปัญหาส่วนตัว

หลังจากที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ‘ทนายตั้ม’ กำลังถูกคู่กรณีหลายฝ่ายออกมาให้ข้อมูลเชิงลบ ทั้งเรื่องของการโอนเงิน 71 ล้านบาท จากเจ๊อ้อย รวมถึงถูกอดีตคู่กรณีหลายคน ออกมาแฉพฤติกรรมไม่เหมาะสม

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้มีโอกาสพูดคุย กับร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล หรือ ‘ลุงจรูญ’ ที่ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ในคดีหวย 30 ล้านกับทนายตั้มมายาวนานกว่า 7 ปี จนชนะคดีไปแล้ว และยังเหลือคดีฟ้องกลับที่ยังมีการฟ้องร้องกันอยู่นั้น

โดยลุงจรูญ กล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวที่ทนายตั้มโดนโจมตี อยู่ในขณะนี้ ตนเองก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับทนายตั้ม ที่เดินทางมาว่าความให้ตนเองเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งทางทนายตั้มก็ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกเครียดหรือหนักใจอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองก็ได้แต่สอบถามว่ายังไหวหรือไม่ ซึ่งทนายตั้มก็ยืนยันกับตนเองว่าไม่มีปัญหาอะไร ไม่น่าหนักใจอะไร ส่วนเรื่องรายละเอียดนั้นตนเองก็ไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายมาก

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการทำคดีหวย 30 ล้าน ซึ่งทนายตั้มเป็นทนายให้กับลุงจรูญมาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้กว่า 7 ปีแล้วนั้น ลุงจรูญยืนยันว่า การให้ทนายตั้มมาเป็นทนายให้ มีการพูดคุยตกลงราคากันไว้ตั้งแต่เริ่มแรก โดยไม่ได้มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอะไร แต่ทนายตั้มก็ไม่ได้มีการเรียกเงินเพิ่ม หรือคิดเงินส่วนต่างใดๆเพิ่มเติมจากที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก ซึ่งสำหรับตนเองแล้ว ถือว่าทนายตั้มเป็นคนรักษาสัญญาลูกผู้ชาย และตนเองยังยืนยันว่า ในส่วนของคดีที่จะฟ้องกลับคู่กรณี ในคดีหวย 30 ล้าน ทำคดีให้กับตนเองต่อไป ไม่มีความคิดจะเปลี่ยนแปลงทนายความ อย่างแน่นอน

ลูกฮิปโปศรีสะเกษได้ชื่อแล้ว! เรียกหนูว่า ‘น้องหอมแดง’ พร้อมพ่วงชื่อพระราชทาน ‘สาวศรี’ จากทูลกระหม่อมฯ

(1 พ.ย. 67) น้องหอมแดง – ได้ชื่อแล้ว ‘น้องหอมแดง’ หลังเปิดให้ประชาชนร่วมโหวตนามเรียกขานของลูกฮิปโปโปเตมัสเกิดใหม่ แห่งสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศรีสะเกษ ลูกสาวของพ่อสมศรีและแม่เกศริน ที่ความน่ารักเริ่มฉายแสงมากขึ้นทุกวันๆ

โดยเปิดให้โหวตเป็นเวลา 4 วัน ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม จนถึงเวลา 24.00 น. ประกอบด้วย 5 ชื่อ คือ 1.น้องลำดวน ความหมายมาจากชื่อต้นไม้ประจำจังหวัดศรีสะเกษ 2.น้องศรีเกษ ความหมาย มาจากพ่อชื่อสมศรี แม่ชื่อเกษริน และชื่อจังหวัดศรีสะเกษ 3.น้องสาวศรี ความหมาย สาว มาจาก สาวสวย เป็นการกลบเสียงบูลลี่ว่าน้องน่าเกลียด ส่วนคำว่า ศรี คือ ศรีสะเกษ เมืองที่น้องเกิด 4.น้องหอมแดง ความหมาย คือพืชเศรษฐกิจของจังหวัดศรีสะเกษ น้องตัวสีน้ำตาลแดงเหมือนหอมแดง 5.น้องหมูกระเทียม ความหมาย คือ พืชเศรษฐกิจของจังหวัดศรีสะเกษ และหมูกระเทียมอร่อย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน มีรายงานว่า มีประชาชนร่วมโหวตชื่อให้ลูกฮิปโปศรีสะเกษ รวม 4 วัน 83,931 คน โดย น.ส.ชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ชื่อที่มีคนโหวตมากที่สุด อันดับ 1 คือ น้องหอมแดง ซึ่งมียอดการโหวตจากประชาชนทั่วไปถึง 52,045 โหวต

นอกจากนี้ ยังมีชื่อพระราชทานจาก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี คือ ชื่อ สาวศรี ทำให้ น้องฮิปโป มีทั้งหมด 2 ชื่อ คือ หอมแดง ซึ่งมาจากผลการโหวต และสาวศรี ชื่อพระราชทาน

สอดคล้องกับที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ ได้เผยแพร่ข้อความระบุว่า “ชาวศรีสะเกษ ได้ชื่อน้องฮิปโปแล้วนะครับ น้องหอมแดง”

วันเดียวกัน ที่สวนสัตว์ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ น.ส.ชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ แถลงข่าวว่า ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ลูกฮิปโปคลอดออกมานั้น ทำให้ยอดผู้มาเข้าชมสวนสัตว์พระศรีนครินทร์ศรีสะเกษเพิ่มมากขึ้น จากเดิมวันละ 70-80 วัน เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 2,000-3,000 คน ยิ่งช่วงวันหยุดพุ่งขึ้นวันละ 4,000 คนเลยทีเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ทั้งนี้ มีการจับรางวัลให้กับผู้โชคดีที่โหวตชื่อได้อันดับ 1 ซึ่ง 3 คนแรกผู้โชคดี จะได้รางวัลเป็นกระเป๋าสุดพิเศษ นอกจากนี้ยังจับรางวัลอีก 150 รางวัลกับผู้ร่วมโหวต คือเสื้อน้องฮิปโปศรีสะเกษ จำนวน 150 ตัว โดยผู้โชคดีทั้งหมดสามารถมารับได้ที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ หรือ รอรับทางไปรษณีย์ภายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 67

คนแบงก์ชาติไม่ทน!! ร่อนจดหมายค้านการเมืองแทรกแซง ปมตั้งบอร์ดและประธานแบงก์ชาติ

(1 พ.ย. 67) จดหมายเปิดผนึกจากอดีตพนักงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย จรรยาบรรณที่พึงมีสำหรับตำแหน่งประธานและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย

ตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาคัดเลือกประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทยอีก 2 ท่าน ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากคณะศิษย์หลวงตามหาบัว กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ซึ่งรวมถึงอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึง 4 ท่าน ให้คณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีความสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเข้าดำรงตำแหน่ง เพื่อให้ ธปท. สามารถดำเนินพันธกิจของธนาคารกลางตามที่กำหนดไว้ นั้น

พวกเราในฐานะอดีตพนักงาน ธปท. ขอเรียนยืนยันว่า คณะกรรมการ ธปท. มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางกรอบ และกำหนดนโยบายของ ธปท. โดย ธปท. ถือเป็นหน่วยงานของรัฐในรูปแบบองค์กรที่ต้องปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง เพื่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ การเงินที่มีเสถียรภาพต่อเนื่องในระยะยาว และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนและทั่วถึง

แม้ว่าคณะกรรมการ ธปท. จะไม่มีบทบาทหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการเงิน และนโยบายรักษาเสถียรภาพระบบสถาบันการเงินโดยตรง แต่ พ.ร.บ. ธปท. ได้ระบุอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ให้พิจารณาคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน คณะกรรมการระบบการชำระเงิน และแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่งตั้งแต่ผู้ช่วยผู้ว่าการฯ ขึ้นไป และที่สำคัญคือมีหน้าที่ กำหนดหลักเกณฑ์และกำกับดูแลการบริหารจัดการสินทรัพย์ในทุนสำรองระหว่างประเทศ

ด้วยบทบาทหน้าที่ของประธานและกรรมการ ธปท. ข้างต้น บุคคลที่จะดำรงตำแหน่งต้องไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด แต่ต้องปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณขั้นสูงสุดที่เป็นข้อบังคับ ธปท. ว่าด้วยจรรยาบรรณในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของกรรมการในคณะกรรมการ ธปท. พ.ศ. 2553 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ในข้อ 4.5 ที่ไม่กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม ข้อ 4.7 พึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม เป็นกลางทางการเมือง และไม่เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม และ ข้อ 4.11 พึงเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงตน รักษาชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของ ธปท.

พวกเราจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสรรหาฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ใช้วิจารณญาณพิจารณาด้วยความรอบคอบ รอบด้าน และโปร่งใส อย่างเป็นอิสระในการสรรหาประธาน ธปท. และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการ ธปท. เพื่อให้ได้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีประวัติและพฤติกรรมที่ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณที่ระบุไว้ เป็นที่ประจักษ์ในสังคมและไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 80 ปีของการก่อตั้งธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการธนาคาร ผู้บริหาร และพนักงาน ต้องใช้ความพยายาม และความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างสูง เพื่อรักษาอธิปไตยและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการเงินของไทยไว้ โดยป้องกันไม่ให้มีการแทรกแซงทางการเมือง

ผู้ว่าการเล้ง ศรีสมวงศ์ ผู้ว่าการคนแรกที่ทำงานเต็มเวลาที่ ธปท. ได้กล่าวในการเข้าร่วมประชุมกรรมการธนาคารเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2490 ว่า “ในฐานะที่ ธปท. เป็นนายธนาคารกลาง ย่อมไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองและจะดำเนินการอย่างอิสระ ตลอดจนทำหน้าที่ในการเหนี่ยวรั้งรัฐบาลในกิจการที่ธนาคารเห็นว่าจะเกิดความเสียหายแก่ประเทศเป็นส่วนรวม……”

อดีตพนักงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย
 1 พฤศจิกายน 2567

ทั้งนี้ จดหมายฉบับดังกล่าว ยังมีการแนบรายชื่อของ พนักงานธปท. ซึ่งมีชื่อของอดีตผู้บริหาร ระดับรองผู้ว่าการ 4 คน ผู้ช่วยผู้ว่าการขึ้นไป 12 คน ได้แก่ อดีตรองผู้ว่าการ
1.ทองอุไร ลิ้มปิติ
2.รณดล นุ่มนนท์
3.ฤชุกร สิริโยธิน
1.วชิรา อารมย์ดี

และ อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการ
1.กฤช ฟลอเล็ต
2.จันทวรรณ สุจริตกุล
3.นพมาศ มโนลีหกุล
4.นวอร เดชสุวรรณ
5.ผุสดี หมู่พยัคฆ์
6.เพิ่มสุข สุทธินุ่น
7.ศิริชัย สาครรัตนกุล
8.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา
9.สุภาวดี ปุณศรี
10.เสาวณี สุวรรณชีพ
11.อมรา ศรีพยัคฆ์
12.อรุณศรี ติวะกุล

'ลูเวิน' ทีมลีกเบลเยียม ยุติสัญญายืมตัว 'ศุภณัฏฐ์' คืนต้นสังกัด 'บุรีรัมย์' คาดจะถูกส่งลงเล่นถ้วยเอเชียทันที

(1 พ.ย. 67) โอเอช ลูเวน ทีมในลีกสูงสุดของเบลเยียม ประกาศยุติสัญญายืมตัว “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าทีมชาติไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย

ดาวยิง วัย 22 ปี ได้กล่าวอำลาเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอล หลังจากลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ โอเอช ลูเวิน ในเกมเปิดบ้านชนะ อาร์เอฟซี เซแร็ง ในศึกฟุตบอลถ้วย โครกี้ คัพ ที่ คิง เพาเวอร์ แอท เดน ดรีฟ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ศุภณัฏฐ์ ย้ายมาอยู่กับ โอเอช ลูเวน ทีมจูปิแลร์ลีก เบลเยียม เมื่อเดือนกันยายน 2023 ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล ก่อน โอเอช ลูเวิน ยื่นข้อเสนอต่อสัญญายืมตัวอีก 1 ฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2024/25 ศุภณัฏฐ์ ได้รับโอกาสลงสนามในลีกเพียง 61 นาที ก่อนตัดสินใจร่วมกันยกเลิกสัญญาด้วยดีทั้งสองฝ่าย

ศุภณัฏฐ์ ลงสนามให้ ลูเวน ไป 17 เกม ยิงไป 1 ประตู ตลอด 2 ฤดูกาลกับทีม โดยล่าสุดเจ้าตัวถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริง ในฟุตบอลโครกี้ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ที่ชนะ เซแร็ง 2-0 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สำหรับ “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าทีมชาติไทย จะกลับมาเล่นให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกครั้ง และจะสามารถลงเล่นในเกม ACL Elite ได้ทันที

ชาวมาเลย์แห่แบนร้าน Starbucks อาจต้องปิดเกือบ 100 สาขาทั่วประเทศ เหตุบริษัทกาแฟหนุนยิวทำสงครามกาซา

(1 พ.ย.67) มาเลเซียรายงานว่า บริษัท Berjaya Group บริษัทเครือข่ายธุรกิจยักษ์ใหญ่ ผู้ดูแลกิจการ Starbucks ในมาเลเซียได้รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรกของ ปี 2024 พบว่าขาดทุนสุทธิอยู่ถึง 91.5 ล้านริงกิต และมีรายได้ลดลงจากปีก่อนถึง 35% จากเดิม 1.1 พันล้านริงกิต เหลือเพียง 730.3 ล้านริงกิตในปีนี้  

ผลประกอบการที่ลดลงเชื่อว่ามาจากสาเหตุที่แบรนด์ร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ระดับโลกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์สินค้าชาติตะวันตกที่ให้การสนับสนุนอิสราเอลในการโจมตีฉนวนกาซาและชาวปาเลสไตน์ ส่งผลให้ Starbucks กระทบยอดขายกาแฟกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าโดยจำนวนนี้มีความเป็นไปได้ที่อาจต้องปิดสาขาเป็นการถาวรเกือบ 100 สาขา

นอกเหนือจาก Starbucks แล้ว แบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง KFC, McDonald's และ Nestle ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกันในตลาดมาเลเซีย ที่มีจำนวนไม่น้อยเข้าร่วมกระแสการต่อต้านสงครามของอิสราเอล ที่ใช้กำลังทหารรุกรานพื้นที่พลเรือนในเขตฉนวนกาซา และ เลบานอน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว มากกว่า 50,000 ราย

MalaysiaNow ยังได้สำรวจข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของ Starbuck พบว่ามีร้านกาแฟอย่างน้อย 60 สาขา ที่จะต้องถูกปิดในระยะเวลาอันใกล้ แม้บางแห่งจะเป็นการปิดเพื่อปรับปรุง แต่บริษัทก็ยังต้องแบกรับค่าเช่าที่ราคาสูง 

อย่างไรก็ตาม Starbucks มาเลเซียได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องการปิดสาขาเกือบ 100 แห่งแล้ว ยืนยันว่าจะปิดปรับปรุงแค่บางสาขาเท่านั้น

โดยทางแบรนด์ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า 'Starbucks' ไม่เคยอยู่ในเป้าหมายของกระแสการบอยคอตโดยชาติมุสลิมในประเด็นเรื่องสงครามในกาซา นอกจากนี้ยังยืนยันด้วยว่า ผลประกอบการเริ่มกระเตื้องขึ้นแล้วเนื่องจากผู้บริโภคเริ่มตระหนักรู้ว่าข้อกล่าวหาที่ว่าธุรกิจของ Starbucks มีส่วนสนับสนุนกองทัพอิสราเอลนั้น 'ไม่เป็นความจริง'

ก่อนหน้านี้ วินเซนท์ ทาน เจ้าของกิจการ Berjaya Group ผู้ดูแล Starbucks ในมาเลเซีย ได้ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกกระแสคว่ำบาตร Starbucks ที่มองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการคว่ำบาตรกลุ่มนายทุนชาวยิว เพราะจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานของ Starbucks ในมาเลเซียกว่า 5,000 คน

ทั้งนี้ นอกเหนือจากกระแสบอยคอตสินค้าที่สนับสนุนอิสราเอลแล้ว ธุรกิจ Starbucks ในมาเลเซียยังเผชิญแรงดันรูปแบบอื่นเช่นกัน โดยเฉพาะการแข่งขันอย่างดุเดือดของตลาดร้านกาแฟในประเทศต่างหาก ที่ส่งผลต่อยอดขายของ Starbucks โดยตรง ซึ่งตอนนี้ ZUS Coffee ร้านกาแฟสัญชาติมาเลเซีย ได้โค่น Starbucks คว้าตำแหน่งร้านกาแฟยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไปแล้ว

เล็งเปิดซื้อขายไอพีโอในตลาดหุ้นฮ่องกง คาด China Telecom เข้าถือหุ้นใหญ่

(1 พ.ย. 67) Honor แบรนด์โทรศัพท์สมาร์ทโฟนจากจีน ประกาศความพร้อมในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO) โดยได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหม่ที่คาดว่าอาจจะเป็นบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของจีน

รายงานระบุว่า Honor ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของในฐานะบริษัทลูกของ Huawei กระทั่งทั้งสองบริษัทแยกจากกันเมื่อปี 2020 หลังจากที่ Huawei เผชิญการคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯ

Honor ประกาศความตั้งใจในการเปิดตัวซื้อขายในตลาดหุ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา โดยบริษัทระบุว่าจะเริ่มกระบวนการเปิดซื้อขาย IPO ได้หลังจากที่เสร็จสิ้นกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างผู้ถือหุ้นเสร็จสิ้นช่วงไตรมาส 4 ของปี 2024 แต่ไม่ได้ระบุถึงมูลค่าการเปิดขาย IPO ในครั้งนี้ แต่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่เปิดซื้อขาย IPO ต่อสาธารณะเป็นมูลค่ามากที่สุด

รายงานได้อ้างแหล่งข่าวระดับสูงของบริษัทว่า มีความเป็นไปได้ที่ Honor จะเข้าเทรดซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง ต่างจากกระแสข่าวเมื่อปลายปีก่อนที่ระบุว่าอาจเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากว่าตลาดหุ้นฮ่องกงมีข้อบังคับบางประการที่เข้มงวดน้อยกว่าตลาดเซี่ยงไฮ้ สะท้อนจากบรรดาบริษัทเทคโนโลยีใหญ่หลายแห่งของจีนที่นิยมจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง 

รายงานข่าวยังระบุว่า หนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ที่เล็งเข้าซื้อหุ้นคือบริษัท China Telecom ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่รายหนึ่งของประเทศ นอกจากนั้นยังมีกลุ่ม CICC Capital บริษัทบริหารเงินทุนของจีน Cornerstone และ SDG ซึ่งเป็นกองทุนที่เชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น

สำหรับแบรนด์ Honor ถือเป็นผู้ผลิตสามารถโฟนรายใหญ่อันดับ 3 ของจีน โดยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายมือถือไปแล้วกว่า 10.3 ล้านเครื่อง ชิงส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสามที่ 15% รองจากแบรนด์ Vivo และ Huawei 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top