Tuesday, 20 May 2025
Hard News Team

‘สเปน’ ระดมพลครั้งใหญ่!! หลายหมื่นนาย เพื่อกู้ภัยน้ำท่วมครั้งร้ายแรงสุดในประวัติศาสตร์

(3 พ.ย. 67) นายเปโดร ซานเชส นายกรัฐมนตรีสเปน แถลงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในพื้นที่แคว้บบาเลนเซีย โดยระบุว่า รัฐบาลส่งทหารจำนวน 5,000 นาย ไปสนธิกำลังกับตำรวจ และกองกำลังพลเรือน อีกจำนวน 5,000 นาย เพื่อเข้าไปช่วยเหลือด้านการกู้ภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยดังกล่าว ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการที่ทางการสเปนระดมกำลังพลครั้งใหม่ล่าสุด ทำให้ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม มีเจ้าหน้าที่ของทางการเข้าไปช่วยกู้ภัยมีจำนวนมากกว่า 17,000 นายแล้ว ซึ่งถือเป็นการระดมพลด้านความมั่นคงครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงที่ประเทศปลอดสงคราม

ขณะที่ จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมข้างต้น เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 214 รายแล้ว ซึ่งถือเป็นเหตุอุทกภัยที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในรอบ 57 ปีของภูมิภาคยุโรป หลังจากเมื่อปี 1967 (พ.ศ. 2510) เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ที่โปรตุเกส ที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 500 รายด้วยกัน

'พลัฏฐ์' นำทีมคนรุ่นใหม่ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ร่วมงานเทศกาลดิวาลี 2567 สร้างสีสันให้ลิตเติ้ลอินเดีย

(3 พ.ย. 67) นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ อดีตผู้สมัคร สส. กทม. เขต 1 นำทีมคนรุ่นใหม่ พรรครวมไทยสร้างชาติ อาทิ ร.ต.อ.หญิงอัยรดา บำรุงรักษ์ รองผู้อำนวยการและรองโฆษกพรรค, นายอิทธิพัทธ์ เศรษฐยุกานนท์, นายกวิน ชาตะวนิช, นางสาวกาญจนา ภวัครานนท์, นางสาวชนกนันท์ ศุภศิริ, นายฤกษ์อารี นานา และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมงานเทศกาลดิวาลีประจำปี 2567 โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2567 ณ ถนนพาหุรัด คลองโอ่งอ่าง กรุงเทพมหานคร

นายพลัฏฐ์ กล่าวว่า ถนนพาหุรัดเป็นแหล่งชุมชนของคนเชื้อสายอินเดียจำนวนมาก หรือเรียกได้ว่าเป็นลิตเติ้ลอินเดีย การจัด 'งานเทศกาลดิวาลี' หรือเทศกาลแห่งแสงสว่าง นับเป็นงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คนเชื้อสายอินเดีย ซึ่งตามความเชื่อว่าเป็นเทศกาลแห่งการฉลองชัยชนะของแสงสว่างเหนือความมืดมิด และความดีงามเหนือความชั่วร้ายต่างๆ 

ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดง วัฒนธรรม จัดเต็ม แสง สี เสียงสไตล์บอลลีวูดตลอดทั้งวัน, ร้านอาหารจากภัตตาคารอินเดียชื่อดังของประเทศไทย พร้อมทั้งสินค้าสไตล์อินเดียจากร้านค้าชื่อดัง เครื่องประดับ ผ้าส่าหรี ของตกแต่ง และอีกกิจกรรมที่ห้ามพลาด ร่วมสักการะ ‘พระพิฆเนศ’ และ 'พระแม่ลักษมี' เสริมดวงชะตา ความสำเร็จ โชคลาภ ให้กับชีวิต 

‘นิพิฏฐ์’ เผย!! ‘ชูวิทย์’ ตอบไลน์ กำลังจะกลับไทยแล้ว หลังบินไปรักษา ‘โรคมะเร็งตับ’ ระยะที่ 5 กับลูกสาว

(3 พ.ย. 67) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า …

เช้านี้ ผมไลน์หาคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กัลยาณมิตรของผม คุณชูวิทย์ตอบว่า กำลังจะกลับเมืองไทยแล้ว กลับเมื่อไหร่จะแวะไปกราบคุณนิพิฏฐ์ ผมดีใจรอคุณชูวิทย์กลับมา

สำหรับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและจอมแฉชื่อดัง ออกมาเปิดเผยว่าเป็นโรคมะเร็งตับ ระยะที่ 5 อยู่ได้อีก 8 เดือน และประกาศยุติการแฉ ก่อนเดินทางไปรักษาตัวที่ต่างประเทศพร้อมกับลูกสาว เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2566 ที่ผ่านมา

‘ไทย’ คว้าอันดับ 41 บนเวทีนวัตกรรมโลก และเป็นที่ 3 ใน ASEAN ด้านสัดส่วนการลงทุนวิจัย และนวัตกรรมต่อ GDP โดยเอกชน

(3 พ.ย. 67) ผลการจัดอันดับดัชนีนวัตกรรมโลกในปี 2024  นับเป็นอันดับสูงสุดที่ประเทศไทยเคยได้รับในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยประเทศไทยได้ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 41 ของโลกจากทั้งหมด 133 ประเทศ (ขยับดีขึ้น 2 อันดับจากปีก่อนหน้า) และยังคงอยู่อันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นรองประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย

ภาพรวมความสามารถทางนวัตกรรมของประเทศไทย มีพัฒนาการขยับอันดับทั้งปัจจัยทางเข้านวัตกรรม (Innovation input sub-index) และผลผลิตทางนวัตกรรม (Innovation output sub-index) สะท้อนให้เห็นถึงการขับเคลื่อนนวัตกรรมที่มาถูกทาง ปัจจัยชี้วัดความสามารถด้านนวัตกรรมที่ไทยมีความโดดเด่นที่สุดคือกลุ่มปัจจัยด้านระบบธุรกิจ โดยเฉพาะตัวชี้วัดสัดส่วนค่าใช้จ่ายมวลรวมภายในประเทศสำหรับการวิจัยและพัฒนาที่ลงทุนโดยองค์กรธุรกิจ (GERD financed by business, %) ยังคงเป็นปัจจัยที่ประเทศไทยมีความโดดเด่นเป็นอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันมาเป็นปีที่ 5 ซึ่งสะท้อนให้เห็นการลงทุนของภาคเอกชนภายในประเทศที่มุ่งเน้นเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจด้วยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนองค์ประกอบตัวชี้วัดที่ต้องเร่งพัฒนา คือปัจจัยด้านการส่งออกบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อการค้ารวม (ICT services exports, % total trade) สัดส่วนงบประมาณด้านการศึกษาต่อ GDP (Expenditure on education, % GDP) โดยมีปัจจัยอัตราของคุณครูในโรงเรียน (Pupil–teacher ratio, secondary) ซึ่งเป็นปัจจัยที่อยู่ในตัวชี้วัดด้าน Human capital and research ที่ประเทศไทยต้องแก้ไขอย่างจริงจัง และอีกปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาคโรงงานอุตสาหกรรมคือ สัดส่วนการใช้พลังงานที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ (Low-carbon energy use, %) เพราะจะเห็นว่า Climate Tech ในอนาคตกำลังมีบทบาทอย่างมาก 

จากจุดที่เป็นความท้าทายทั้งหมดจะเห็นว่า หลายส่วนต้องเพิ่มการทำงานจากฝั่งภาครัฐ ในบทบาทของการเป็นผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม NIA จึงได้เชื่อมโยงความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อร่วมขับเคลื่อนระบบนวัตกรรมไปด้วยกัน โดยมีประเด็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจะต้องเดินหน้าอย่างไร ตามไปดูกัน!

ประเด็นการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา สกสว. มองว่าต้องเร่งสร้างความร่วมมือระหว่างนักวิจัยกับภาคเอกชนในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้นักวิจัยเข้าใจภาคของตลาด ทั้งยังมองไปถึงความสำคัญในการพัฒนาภาคการศึกษา ทั้งด้านกำลังคนและในเชิงพื้นที่ โดยต้องสร้างการรับรู้ ส่งสัญญาณให้ภาคส่วนต่างๆ เชื่อมั่นในศักยภาพของนวัตกรรมไทยที่พัฒนาขึ้น 

ประเด็นการเร่งให้เกิดการขยายตลาดของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ และการทำแพลตฟอร์ม กระทรวงพาณิชย์ จะส่งเสริมให้เกิดการสร้างความร่วมมือกับเอกชน สร้างความรู้เกี่ยวกับการบริหาร และยังสนับสนุนให้เกิดการใช้ประโยชน์จาก Data ที่มาจากการจดสิทธิบัตรทั่วโลก เพื่อคาดการณ์อนาคตถึงแนวโน้มตลาด นอกจากนั้นยังรวมถึงอีกเทรนด์ที่สำคัญ คือการผลักดันให้เกิดการทำธุรกิจในหลัก ESG ในลักษณะที่ไม่ใช่แค่รายใหญ่เท่านั้น แต่รายเล็กก็ต้องขานรับด้วย 

ประเด็นหลักสำคัญที่มีผลต่อการพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรม โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา เห็นสิ่งจำเป็นตั้งแต่การสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญ และส่งเสริมให้เกิดการจดสิทธิบัตร ซึ่งที่ผ่านมามีกระบวนการอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น การใช้ AI เข้ามาช่วยเพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำ รวมถึงช่วยตอบคำถามเบื้องต้นต่างๆ นอกจากนี้ ยังมี Fast Track ทั้งในเรื่องเครื่องหมายการค้าและสิทธิบัตรต่างๆ โดยมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ การแพทย์และสาธารณสุข และอาหารแห่งอนาคต รวมถึงการปรับแก้กฎหมายเกี่ยวกับระบบสิทธิบัตรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศมากขึ้น 

นอกจากนั้นยังมี ปัจจัยด้านผลผลิตจากความคิดสร้างสรรค์ (Creative outputs) ซึ่งมีตัวชี้วัดจำนวนภาพยนตร์ขนาดยาวปานกลางระดับชาติที่ผลิตในประเทศโดยเฉลี่ยต่อประชากรในช่วงอายุ 15-69 ปี (National feature films/mn pop. 15-69) ที่อันดับมีการขยับขึ้น โดยภาพรวมแม้จะยังไม่สูงมากแต่ก็เป็นสิ่งที่ประเทศมีศักยภาพ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA จึงมองว่าถึงเวลาเร่งเครื่องอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ Soft Power และส่งเสริมการทำงานระหว่างนักออกแบบและนักธุรกิจ ต่อยอดให้เกิดการนำสินทรัพย์ทางนวัตกรรมมาผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ นำอารมณ์ร่วมทางความรู้สึกที่เป็นจุดเด่นในการเล่าเรื่องมาประยุกต์ใช้นวัตกรรมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีจุดขาย 

และส่วนสุดท้ายการจะเดินหน้าระบบนวัตกรรมไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก ต้องมีการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานระดับนานาชาติ เพื่อเชื่อมโยงความร่วมมือให้เกิดการกำหนดทิศทางและวางแผนเชิงนโยบายอย่างตรงจุด รวมไปถึงการเร่งสร้างวิสาหกิจรุ่นใหม่ที่จะสามารถเติบโตไปเป็นยูนิคอร์นได้สำเร็จ 

โครงสร้างการศึกษาของอินเดียและจีน!!

(3 พ.ย. 67) อินเดียกับจีนจำนวนประชากรเท่าๆกัน หากสังเกตุจีนมีกลุ่มการศึกษาแข่งขัน ระหว่าง 60-90% ทำให้การแข่งขันในเวทีโลกได้ดีมาก ส่วนอินเดียกลับมีแค่ 20-40%เท่านั้น...โครงสร้างการศึกษาแบบนี้ยากมาก ที่อินเดียจะตามจีน การมีคณะสังคมมากเกินไปนี่หน่วงนะ

‘หนุ่มรปภ.’ มุมานะ สู้!! จนสอบติด ‘นายสิบ ทบ.’ เผย!! เป็นระดับหัวกะทิ เรียนดี อันดับ 8 ของโรงเรียน

(3 พ.ย. 67) เป็นไวรัลที่มีผู้กดไลค์และเข้าไปคอมเมนต์ในวงกว้าง หลังเฟซบุ๊กกรมทหารราบที่ 3 ได้แชร์เรื่องราวของนักเรียนนายสิบทหารบกรายหนึ่ง ซึ่งมุมานะจากพนักงานรักษาความปลอดภัย สอบจนติดโรงเรียนนายสิบทหารบก ทั้งยังตั้งใจเรียนจนมีผลการเรียนติดอันดับ 8 ของโรงเรียน โดยระบุว่า …

‘จาก รปภ. สู่ นักเรียนนายสิบทหารบก นนส.พิสิษฐ์ อุไรรัตน์ (อาชา) มีผลสอบกลางภาค ได้อันดับ 8 ของโรงเรียน กองทัพบกสร้างโอกาส’

ซึ่งเป็นรายงานข่าวจากเพจ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (TV5HD Online) ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปกดไลค์กว่า 4.4 หมื่นครั้ง แชร์ต่อไปมากกว่า 603 ครั้ง ส่วนมากต่างชื่นชมความตั้งใจ เช่นว่า

– ผมเองก็ จาก รปภ.สู่กรรมกรผสมปูนครับ

– ขอชื่นชม และยินดีด้วยนะคะ

– เก่งมากๆ ค่ะ ยอดเยี่ยมมากๆ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่นั้น

– คนเราแม้ต้นทุนชีวิตจะแย่ แต่มันก็ไม่ได้กำหนดบทบาท ฝันให้ไกลไปให้ถึง เก็บทุกๆ คำดูถูก เอามาเป็นแรงผลักดันครับ แต่บางครั้งโชคชะตาก็เหมือนแกล้ง หากไม่มีโควิด ป่านนี้ผมคงได้สมหวังแล้วครับ จบ ป.6 บ้านนอก จบ ม.3 กศน. ตอนจับใบแดงได้ ใช้วุฒิ ม.3 ต่อ ป.ตรี นิติศาสตรบัณฑิต ครับ

– ลุ้นโควต้าเตรียมทหารต่อเลยได้อันดับ 8

– คำนิยามที่ว่าทุกอาชีพมีเกียรติเท่ากัน แล้วทำไมจะต้องดีใจ และยินดีกับการเป็นนักเรียนนายสิบมากกว่าการเป็น รปภ.

– เป็นโอกาสที่ดีครับ ยิ่งใครมีวุฒิ ตั้งแต่ ม.6 ขึ้นไป ยิ่งง่าย สมัครทหาร แป๊บๆ ก็สอบนายสิบได้เลย

– อันดับ 8 รร.นนส. มีโอกาสเข้าเรียน รร.เตรียมทหาร มุ่งสู่ รร.นายร้อย จปร.ต่อไป

– ทุกอย่างในชีวิต มีโอกาสเป็นไปได้เสมอ..

– ชื่นชมค่ะทุกสิ่งเป็นไปได้ขอเพียงไม่ยอมแพ้

ผู้นำอิหร่าน ให้คำมั่นจะตอบโต้ อิสราเอล-สหรัฐ หากโจมตี!! รุกราน ‘เตหะราน-กลุ่มพันธมิตร’

(3 พ.ย. 67) อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ให้คำมั่นในระหว่างกล่าวกับกลุ่มนักศึกษาในกรุงเตหะรานของอิหร่าน เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนว่า จะตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา ชาติพันธมิตร ที่มุ่งเป้าหมายต่ออิหร่านและกลุ่มพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนอิหร่านในภูมิภาคนี้

คาเมเนอีกล่าวว่าศัตรู ทั้งสหรัฐและระบอบไซออนิสต์ (อิสราเอล) ควรรู้ว่าพวกเขาจะได้รับการตอบโต้ที่ทำลายล้างอย่างแน่นอนต่อสิ่งที่พวกเขากำลังทำกับอิหร่าน ชาติอิหร่านและแนวร่วมต่อต้าน ซึ่งคาเมเนอีหมายถึงกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านให้การสนับสนุนทั้งกลุ่มฮูตีในเยเมน กลุ่มฮามาส กลุ่มติดอาวุธในดินแดนปาเลสไตน์ และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

คาเมเนอียังกล่าวยกย่องทหารอิหร่านที่ถูกสังหารเสียชีวิตจากการโจมตีอิหร่านของอิสราเอลเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ความพยายามของนายทหารเหล่านั้นในการเผชิญหน้ากับอิสราเอลจะไม่มีวันถูกลืมเลือน และว่าอิหร่านกำลังทำทุกอย่างที่ควรทำเพื่อเตรียมพร้อมประเทศไม่ว่าจะในด้านการทหาร อาวุธหรือทางการเมืองในการตอบโต้โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

เป็นการแสดงท่าทีแข็งกร้าวอีกครั้งของผู้นำสูงสุดของอิหร่านอีกครั้งในการเผชิญหน้ากับชาติปรปักษ์สำคัญอย่างอิสราเอลท่ามกลางบรรยากาศที่ทวีความตึงเครียดหนัก หลังอิสราเอลเปิดการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายทางทหารในประเทศอิหร่านเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งเป็นผลให้ทหารอิหร่านเสียชีวิต 4 นาย เป็นการตอบโต้ที่อิหร่านรัวยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

วันเดียวกันมีรายงานด้วยว่ากลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ออกมากล่าวอ้างในเวลาต่อมาว่า ได้ยิงจรวดหลายลูกโจมตีฐานกลีล็อต ฐานที่มั่นของหน่วยข่าวกรองทหาร 8200 ของอิสราเอล ใกล้กับนครเทลอาวีฟ เมื่อเวลา 02.30 น.ของวันที่ 2 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น นอกจากนี้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังระบุด้วยว่าได้ยิงจรวดโจมตีพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอลด้วย โดยเฉพาะที่เมืองซาเฟด ซึ่งเป็นอีกเป้าหมายที่ถูกถล่มซ้ำ โดยมีรายงานจากฝ่ายอิสราเอลว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นในวันนี้ส่งผลให้มีผู้คนในอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ 19 ราย

กองทัพอิสราเอลระบุด้วยว่าวันเดียวกันนี้ยังสามารถสกัดโดรน 3 ลำที่ถูกส่งมาโจมตีในอิสราเอลจากทางตะวันออกของทะเลแดง โดยไม่ได้ระบุเจาะจงว่ามาจากที่ใด อย่างไรก็ดีบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่กลุ่มฮูตีเคลื่อนไหวอยู่

‘ลอรี่’ โพสต์!! พรรคประชาชน ฟ้องประชาชน ทำตามที่ลั่นวาจา!! อย่าพล่ามมาแค่เอาหล่อ

(3 พ.ย. 67) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า…

ขอเอี่ยวสั้นๆ พรรคประชาชน ฟ้องประชาชน ‘ทำตามที่ลั่นวาจา อย่าพล่ามมาแค่เอาหล่อ’

ลอรี่ไม่ได้มีปัญหา กับพรรคการเมืองฟ้องหมิ่นประชาชน ในกรณีป้องกันการกล่าวเท็จให้เสียหาย

ดั่งเช่นสมัยอดีตนายกฯ ประยุทธ์ ที่ถูกบิดเบือนให้เสียหายบ่อยครั้ง ผมเชียร์ให้ทีมงานท่าน ดำเนินคดีเพื่อปกป้องความจริง และให้สังคมรับข้อมูลที่ถูก

ได้ทำการ ‘Slap in the face’ ตบหน้ากองเชียร์, NGO, นักเคลื่อนไหวส้ม อย่าง เพนกวิน, iLAW,ประชาไท ซะเอง ทำเสียงแตกเป็นรังผึ้งเลยทีเดียว

เป็นบทเรียนไป.. ทำตามที่ลั่นวาจา อย่าพล่ามมาแค่เอาหล่อ

แต่กรณีพรรคส้มวันนี้ บอกได้อย่างเดียวคือความย้อนแย้ง กฎหมายฟ้องปิดปากประชาชน ที่ท่านเคยลั่นไว้ บลาๆ หรือที่เรียกว่า SLAPP เมื่อวันก่อน

‘อาร์เนอ’ เปิดใจหลัง ‘ลิเวอร์พูล’ แซงชนะ ‘ไบรตัน’ อวย!! ลูกทีมเต็มที่ ครึ่งแรก-ครึ่งหลัง ‘หนังคนละม้วน’

(3 พ.ย. 67) ‘ลิเวอร์พูล’ โกงความตายอีกแล้ว พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง ไบรตัน ไปก่อน 0-1 จากประตูของ แฟร์ดี คาดิโอกลู ในนาที 14 กลับมายิงสองลูกรวดช่วงครึ่งหลังจาก โคดี กักโป นาที 69 และโมฮาเหม็ด ซาลลาห์ นาที 72 แซงชนะ 2-1 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เมื่อวันที่ 2 พ.ย.

จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ ‘หงส์แดง’ เก็บเพิ่มเป็น 25 คะแนนจาก 10 นัดแซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้งหลังมีแต้มมากว่า ‘เรือใบสีฟ้า’ 2 คะแนนในจำนวนนัดเท่ากัน ส่วน ไบรตัน หยุดอยู่ที่ 16 คะแนนจาก 10 นัดอยู่อันดับ 7 ตาราง

หลังเกม อาร์เนอ ซึ่งทำสถิติเป็นเฮดโค้ชของ ลิเวอร์พูล คนแรกที่พาทีมชนะในลีก 8 จาก 10 นัดแรก กล่าวถึงผลงานของทีม รวมถึงการขึ้นไปครองจ่าฝูงว่า 

“เราต้องการฟอร์มการเล่นในครึ่งหลังอีกครั้ง เพราะเราเล่นได้แย่ในครึ่งแรก พวกเขาเล่นได้ดีขึ้นเมื่อครองบอล เล่นเกมรุกได้ดีขึ้นเมื่อไม่มีบอล จากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในครึ่งหลังเพราะมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง”

“กองหน้าของเรายิงประตูได้ แต่ความแตกต่างหลักคือเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า และได้บอลมากขึ้น เมื่อไม่มีบอล พวกเขาสร้างปัญหาให้เรา แต่ในครึ่งหลังเรายังคงวิ่งต่อไป”

“(เกี่ยวกับตำแหน่งจ่าฝูง) มันสำคัญกว่าหากคุณเล่นกับ อาร์เซนอล ในสนามของพวกเขา และคุณสามารถเสมอได้นอกบ้าน ไบรตัน ก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากเช่นกัน พวกเขาแสดงให้เห็นในฤดูกาลนี้ หากคุณเผชิญหน้ากับทีมแบบนี้ และตามหลังอยู่ 1-0 และสามารถกลับมาชนะ 2-1 ซึ่งในความคิดของผม มันสมควรแล้ว มันทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น และมากกว่าตำแหน่งที่เราอยู่ตอนนี้”

นอกจากนั้นเฮดโค้ชวัย 46 ปียังอัพเดตอาการบาดเจ็บของ อิบราฮิมา โคนาเต กองหลังคนสำคัญซึ่งมีอาการเจ็บที่แขน และค้องถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่งแรกว่า 

“เขาเจ็บมากในช่วงพักครึ่ง ดังนั้นคุณต้องเปลี่ยนตัว สิ่งดีคือเรามีตัวสำรองสองคนซึ่งดีมากคือ โจ โกเมซ และจาเรลล์ ควานซาห์ ผมเลือก โจ ในวันนี้เพราะ จาเรลล์ เหนื่อยมาก และเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ผมคิดถูก เพราะเขาเล่นได้โดดเด่นในครึ่งหลัง”

‘นิด้าโพล’ เผย!! ปชช. ยังเชื่อมั่นใน ‘ทนายความจิตอาสา’ ชี้!! ยังมีอยู่จริงแท้ แค่ไม่มากเท่าไร ยังคงไว้ใจได้อยู่

(3 พ.ย. 67) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ทนายความจิตอาสาจริง ๆ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อทนายความ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ ‘นิด้าโพล’ สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงการมีอยู่จริงของทนายความจิตอาสาที่ช่วยเหลือประชาชนด้วยใจ ไม่สนใจผลประโยชน์หรือการสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 52.44 ระบุว่า มีจริง แต่ไม่มากเท่าไร รองลงมา ร้อยละ 26.56 ระบุว่า ไม่มั่นใจว่ามีจริง ร้อยละ 16.88 ระบุว่า ไม่มีจริง และร้อยละ 4.12 ระบุว่า มีจริง จำนวนมาก

ด้านบุคคลหรือหน่วยงานที่ประชาชนไว้ใจในการขอความช่วยเหลือหากไม่มั่นใจในความยุติธรรมจากคดีความที่ฟ้องร้องผู้อื่นหรือถูกผู้อื่นฟ้องร้อง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 42.06 ระบุว่า ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย รองลงมา ร้อยละ 21.83 ระบุว่า ชมรม สมาคม มูลนิธิ องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ที่เกี่ยวข้อง ร้อยละ 19.16 ระบุว่า สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด ร้อยละ 13.44 ระบุว่า ไม่ไว้ใจใครเลย ร้อยละ 11.68 ระบุว่า ทนายอาสาจากสภาทนายความ ร้อยละ 11.37 ระบุว่า ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ร้อยละ 9.01 ระบุว่า ทนายทั่วไป ร้อยละ 8.17 ระบุว่า ทนายอาสาจากเนติบัณฑิตยสภา ร้อยละ 6.87 ระบุว่า ทนายที่มีชื่อเสียง ร้อยละ 1.60 ระบุว่า นักการเมือง และร้อยละ 4.96 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ สื่อสังคมออนไลน์

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความไว้วางใจของประชาชนต่อความช่วยเหลือที่จะได้รับจากการใช้บริการหรือขอคำปรึกษาจากทนายความ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 42.06 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ รองลงมา ร้อยละ 36.11 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 12.52 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย ร้อยละ 8.78 ระบุว่า ไว้วางใจมาก และร้อยละ 0.53 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.55 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.63 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.86 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.35 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.82 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.79 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก ตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง

ตัวอย่าง ร้อยละ 12.37 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.94 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 18.24 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.64 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 24.81 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 96.64 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.90 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.46 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ

ตัวอย่าง ร้อยละ 33.44 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.89 สมรส และร้อยละ 2.67 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 0.53 ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 18.02 จบการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 36.18 จบการศึกษามัธยมศึกษา หรือเทียบเท่า ร้อยละ 9.47 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 30.99 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.81 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี

ตัวอย่าง ร้อยละ 10.92 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 16.56 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 20.46 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.21 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 15.34 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.85 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 4.66 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

ตัวอย่าง ร้อยละ 20.00 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 4.96 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 13.66 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 30.53 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 12.06 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 4.66 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 2.90 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001-50,000 บาท ร้อยละ 1.99 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001-60,000 บาท ร้อยละ 0.38 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,001-70,000 บาท ร้อยละ 0.08 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 70,001-80,000 บาท ร้อยละ 0.69 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.09 ไม่ระบุรายได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top