Monday, 19 May 2025
Hard News Team

‘ผู้กองเบนซ์’ โพสต์เฟซบุ๊ก ฟาดใส่ ‘ทนายเด’ กับเพื่อนทนาย ไลฟ์สด!! อย่างเมามัน เอาเรื่องเท็จมาใส่ความ ทำให้เสียหาย

เมื่อวานนี้ (8 พ.ย. 67) ผู้กองเบนซ์ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก โดยมีใจความว่า ...

4 ปีก่อน ผมเป็นคนนึงที่ได้รับผลกระทบจาก ‘ทนายเด’ กับทนายอีกคน เอาเรื่องเท็จมาใส่ความผมผ่าน live ของตัวเองอย่างเมามัน จนผมได้รับความเสียหาย ตอนนั้นผมเสียเปรียบทางสังคมอยู่ จึงไม่ได้ตอบโต้อะไร 

ตอนนี้กรรมตามทันมันแล้วครับ

เอวัง

‘มาคาเลียส’ ชี้!! ปีใหม่นี้ ‘ภาคเหนือ-อีสาน’ สุดปัง นักท่องเที่ยวเตรียมแห่!! รับลมหนาว ยาวไปถึงปีหน้า

(9 พ.ย. 67) นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส (MAKALIUS) ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ แหล่งรวม อี-วอเชอร์ ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว กล่าวว่า จากการสำรวจกลุ่มผู้บริโภคในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี พบว่า ลูกค้ากว่า 80% ได้ทำการสั่งซื้อและสั่งจองที่พักในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ได้แก่จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ขอนแก่น อุดรธานี  ตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมกราคม 2568 เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ โดยมีปัจจัยหลักมาจากสภาพภูมิอากาศที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว รวมถึงนโยบายการสนับสนุนการท่องเที่ยวจากภาครัฐ นอกจากนี้ในส่วนพื้นที่ภาคตะวันออก อย่าง พัทยา ตราด จันทบุรี และระยอง ก็ยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าไม่แพ้กัน

ดังนั้น ผู้ประกอบการทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว ต้องเตรียมรับมือเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาใช้บริการในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ในส่วนของ มาคาเลียส ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ที่มีจำนวนสมาชิกรวมกว่า 800,000 คน ได้เตรียมดึงกลยุทธ์ที่ Live Streaming มาปรับใช้ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้าและช่วยแก้เพนพ้อยความวิตกกังวลให้แก่ลูกค้าในเรื่องสถานที่พักไม่ตรงปก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการในยุคปัจจุบัน รองจากความกังวลเรื่องการโดนหลอกและการโกงเงิน

สำหรับแนวทางการสื่อสารโดยรูปแบบ Live Streaming ของมาคาเลียส จะเป็นการผสมผสานระหว่างการไลฟ์สดและการรีวิวซึ่งถือเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะของมาคาเลียส โดยจะทำการไลฟ์จากสถานที่จริง ทั้ง สถานที่ท่องเที่ยว หรือโรงแรมที่พัก ด้วยการพาชมแบบเรียลไทม์ ให้ลูกค้าได้เห็นของจริงก่อนการตัดสินใจทำการจองหรือการซื้อเวาเชอร์ ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้จะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าจะได้รับคุณภาพจากบริการตามที่ได้เห็น และจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความมีตัวตนของแบรนด์ นอกจากนี้การไลฟ์สดยังทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การซักถามข้อสงสัยที่สามารถตอบให้กับลูกค้าได้อย่างทันที เช่น ราคาดังกล่าวนี้ รวมบริการอะไรบ้าง เด็กอายุ 12 ปี มีค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือไม่ ถ้าต้องการเตียงเสริมต้องชำระเพิ่มเท่าไหร่ เป็นต้น 

นอกจากการ Live Streaming แล้ว มาคาเลียส ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรจัดโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ มากมายสำหรับกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่มีแพลนการท่องเที่ยวในประเทศช่วงสิ้นปีโดยเฉพาะ อาทิ เชียงใหม่ น่าน และ โซนภาคตะวันออก (พัทยา ระยอง ศรีราชา) ที่ลูกค้าสามารถกดจองผ่านทางช่องทางเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของมาคาเลียสได้อีกด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาแพ็กเกจโรงแรมที่พักแบบส่วนตัว พร้อมกิจกรรมต่าง ๆ และโปรโมชันสุดพิเศษ สามารถแวะมาชมได้ที่ https://www.makalius.co.th/ หรือ ดาวน์โหลด application: makalius สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Line Official @makalius

เลขาอารีฯ พบเครือข่าย จป.ภาคใต้ รวมพลังสร้างความปลอดภัย ลดการประสบอันตรายในการทำงาน 

เมื่อวานนี้ (8 พ.ย.67) เวลา 15.00 น.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีปิดโครงการรวมพลังเครือข่าย เสริมสร้างศักยภาพให้ จป.กิจกรรม 'เครือข่าย จป. รวมใจ สร้างความปลอดภัย (วัน จป.)' โดยมี ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมความปลออดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยภูมิภาค (ภาคใต้) หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสงขลา ประธานชมรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานภาคใต้ (ตอนล่าง)

นายกสมาคมความปลอดภัยภาคใต้ คณะกรรมการชมรมฯ คณะกรรมการสมาคมฯ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงแรมเซาท์เทอร์นแอร์พอร์ท อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

นายอารี กล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีปิดกิจกรรม 'เครือข่าย จป. รวมใจ สร้างความปลอดภัย (วัน จป.)' ภายใต้โครงการรวมพลังเครือข่าย เสริมสร้างศักยภาพให้ จป. ในวันนี้ ซึ่งจากการกล่าวรายงานของผู้จัดกิจกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ได้เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการในประเทศไทย มาเป็นระยะเวลา 39 ปีแล้ว และถึงแม้ว่าจะมีบุคลากรผู้ดูแล รับผิดชอบในเรื่องความปลอดภัยในการทำงานโดยตรง แต่ต้องยอมรับว่าอุบัติเหตุก็ยังเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน 

ซึ่งสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ เกิดจากระบบการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยที่ยังขาดประสิทธิภาพ บุคลากรขาดความรู้เกี่ยวกับมาตรการในการป้องกันแก้ไข การประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุ ดังนั้น การดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยของประเทศไทย (Safety Thailand) เป็นสิ่งสำคัญอันยิ่งใหญ่ของการพัฒนางานด้านความปลอดภัยในการทำงานให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืนการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีพฤติกรรมหรือจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในเชิงป้องกัน ให้ตระหนักรู้ถึงความปลอดภัยตลอดทุกการกระทำและทุกสภาพแวดล้อมที่ดำรงอยู่ เพื่อก่อให้เกิดความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของคนในชาติ อันเป็นกำลังสำคัญ สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของประเทศ ซึ่งความสำเร็จนี้ต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชนอย่างจริงจัง

นายอารี กล่าวต่อว่า ผมขอขอบคุณ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นรวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา ศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 9 สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสงขลา ชมรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานภาคใต้ (ตอนล่าง) สมาคมความปลอดภัยภาคใต้ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 12 สงขลา นายจ้าง ผู้บริหาร เจ้าของสถานประกอบกิจการ บุคลากรด้านความปลอดภัย เครือข่ายความปลอดภัย และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

‘ลุงป้อม’ ไฟเขียวกดปุ่มลุยยกเลิก MOU 44 สั่งลูกพรรคชักธงรบรักษาผลประโยชน์ชาติ

บ่ายวันที่ 5 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา ประมุขบ้านป่ารอยต่อ..พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ที่กำลังถูกพลพรรคเพื่อไทยตีโต้เรื่อง..MOU 2544 สั่งให้ลูกน้องโทรหาแกนนำพรรค และคณะที่ขับเคลื่อนเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก MOU 2544 ประชุมด่วนตอนสายวันที่ 6พ.ย.

เป็นการนัดประชุมด่วน ณ สถานการณ์ที่พล.อ.ประวิตรและพรรคพปชร.กำลังถูกบดขยี้ว่า...สมัยรัฐบาลลุงตู่ ลุงป้อมเคยรับบทเป็นหัวหน้าคณะเจรจาด้านเทคนิคหรือ JTC ตามกรอบของ MOU ดังนั้นถ้าไม่หิวแสงหรือเมาหมัดแล้วไฉนทำไมจึงปล่อยให้ลูกพรรคออกมาก่อการเรื่องนี้

สายข่าวแจ้งว่าหลายคนที่ถูกเรียก โดยเฉพาะธีรชัย ภูวนารถนรานุบาล, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, ดร.มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ออกอาการสะดุ้ง..เดาว่าลุงป้อมเรียกไปสั่งให้เพลาๆ ลงหน่อย...แต่ของจริงการณ์กลับเป็นตรงกันข้าม เพราะเมื่อเริ่มประชุม  ลุงป้อมถามว่า..เอาไงต่อวะ...

พูดคุยกันนานสองนาน...บทสรุปของประมุขบ้านในป่าคือ..ลุยต่อ เอาให้จบภารกิจ...

ภารกิจที่ว่าคือ..กระทำทุกวิถีทางโดนสันติ มีเหตุผลและหลักการให้รัฐบาลยกเลิก MOU2544 หรือชื่อเต็ม ‘บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปซับซ้อน ค.ศ.2001’ ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลทักษิณเมื่อปีพ.ศ.2544

ไม่มีการขีดเส้นไทม์ไลน์ว่าจะจบภารกิจวันไหน..แต่ความหมายของ ‘ลุงป้อม’ คือทำต่อไปเรื่อย ๆ ทำให้เต็มที่...ซึ่งการชักธงรบเรื่องนี้ต่อไปทำให้วงประชุมหัวใจพองโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ.ธีระชัยกับ ‘หม่อมกร’ ที่กำลังเดินสายออกทีวีช่องต่างๆ ด้วยข้อมูลที่สามารถประดาบกับอีกฝ่ายได้สูสีหรือโชว์เหนือในบางครั้ง...

อีกประมาณสองสัปดาห์ฝ่ายรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการ JTC ขึ้นมา ซึ่งคาดว่า ‘รองอ้วน’ ภูมิธรรม เวชยชัย เจ้าของวลี ‘อย่าคลั่งชาติ’ อันลือลั่นจะเป็นประธาน..และโครงสร้างกรรมการก็คงมีตัวบุคคล/รัฐมนตรีที่ดูน่าเชื่อถือมาผสมโรง..แต่ก็นั่นล่ะJTCที่ว่าก็เน้นการเจรจาเรื่องเขตแดน...ในขณะที่ในMOUข้อ2 กำหนดไว้ชัดเจนว่า การเจรจาจะต้องทำสองเรื่องพร้อมกันคือเรื่องเขตแดนและการพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียมในพื้นที่ทับซ้อน...

‘พื้นที่ทับซ้อน’อันเกิดจากกัมพูชาลากเส้น(ไหล่ทวีป)นักเลงผ่าเกาะกูด เมื่อปี 2515 โดยไม่มีกฎหมายรองรับ ส่วนไทยลากเส้นเมื่อปี 2516 มีกฎหมายระหว่างประเทศรองรับ..

ดังนั้นต่อให้ตั้งJTCอีก10 ชุดก็ยังจะเดินหน้าเจรจาต่อไปไม่ได้...พรรคพปชร.ก็เคยเสนอให้รัฐบาลบอกกล่าวกัมพูชาว่าไทยจะขอยกเลิก MOU2544แล้วให้กัมพูชาลากเส้นไหล่ทวีปใหม่ให้ถูกต้องแล้วมาทำMOU2568 ร่วมกัน จะได้เอาขุมทรัพย์พลังงานมาใช้...

พปชร.ก็คงจะรู้ว่าข้อเสนอทำนองนี้ออกจะ ‘โลกสวย’ ไปไม่น้อย แต่ไม่มีทางเลือกอื่น..และถ้าไม่ยกเลิกMOU2544 แผนที่แนบท้ายMOU ที่แสดงพื้นที่ทับซ้อน 26,000 ตร.กม.ก็จะบาดตาบาดใจคนไทยไปอีกนานแสนนาน..

รายการนี้จะจบลงอย่างไร ยากจะคาดเดา..หากจะบอกว่า ‘ลุงป้อม’ และพลพรรคบ้านในป่ามาถูกทาง สู้ด้วยข้อมูลเหตุผลและจุดยืนที่สร้างสรรค์ ไม่ได้นั่งท่องคาถา ‘เกาะกูด’ เป็นของไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ อันนั้นรู้ๆ กันอยู่แล้ว แต่ที่คนไทยเป็นห่วงคือเราจะสูญเสียอธิปไตยทางทะเล ที่อาจจะนำไปสู่การสูญเสียเกาะกูดจริงๆ ในอนาคตหากยังคิดกันในกรอบแคบ ๆ..

ก็น่าจะกล่าวได้..ใช่หรือไม่?

จีนโชว์ J-35A เครื่องบิน stealth หวังสู้เทคโนโลยี F-35 ของสหรัฐฯ

(8 พ.ย.67) เครื่องบินขับไล่สเตลท์รุ่น J-35A ของจีน ซึ่งมีคุณสมบัติล่องหนและสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับจากเรดาร์ของศัตรูได้ ถูกเปิดตัวครั้งแรกต่อสาธารณชนในงานนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติจีน ครั้งที่ 15 หรือ China International Aviation & Aerospace Exhibition ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ระหว่างวันที่ 12-17 พฤศจิกายน 2567

เจ้าหน้าที่จากหน่วยอุปกรณ์ของกองทัพอากาศจีนเผยว่า เครื่องบิน J-35A ไม่เพียงแต่มีเทคโนโลยีการอำพรางตัว แต่ยังสามารถบรรทุกขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศรุ่น HQ-19 และจะมีการเปิดตัวอากาศยานไร้คนขับใหม่ที่ใช้สำหรับภารกิจลาดตระเวนและโจมตีในงานนี้ด้วย

นิทรรศการการบินและอวกาศครั้งนี้ถือเป็นงานแสดงอากาศยานของพลเรือนและทหารที่ใหญ่ที่สุดในจีน ซึ่งจะมีการจัดแสดงเครื่องบินหลายรุ่น รวมถึง J-20, J-16 และเครื่องบินเติมน้ำมัน YY-20A ขณะเดียวกันก็จะมีการเปิดให้เข้าชมห้องบรรทุกของเครื่องบินขนส่งหนัก Y-20 อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการแสดงบินผาดโผนที่ดึงดูดความสนใจจากผู้ชมจำนวนมาก

อเมริกันหาทางย้ายประเทศ!!! หลังทรัมป์คัมแบ็กทำเนียบขาว หาข้อมูล 'แคนาดา-ออสเตรเลีย' พุ่ง

(8 พ.ย.67) หลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาออกมาชัดเจนว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในสมัยที่ 2 ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากเริ่มมองหาทางเลือกในการย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

ข้อมูลจากบริษัทกูเกิลเผยว่า การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการย้ายไปแคนาดาเพิ่มขึ้นถึง 1,270 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 24 ชั่วโมงหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ขณะเดียวกัน การค้นหาคำว่า 'ย้ายไปนิวซีแลนด์' เพิ่มขึ้นเกือบ 2,000 เปอร์เซ็นต์ และ 'ย้ายไปออสเตรเลีย' เพิ่มขึ้น 820 เปอร์เซ็นต์

เจ้าหน้าที่กูเกิลระบุว่า ในช่วงค่ำของวันพุธ การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการย้ายไปทั้ง 3 ประเทศนี้ทำสถิติสูงสุด ขณะที่เว็บไซต์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์พบว่า มีผู้ใช้งานใหม่เข้าล็อกอินจำนวน 25,000 คนในวันที่ 7 พฤศจิกายน เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 1,500 คนในช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ทนายความด้านการเข้าเมืองยังเผยว่าได้รับคำถามเกี่ยวกับการย้ายประเทศมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ความสนใจในการย้ายประเทศนี้มีลักษณะคล้ายกับเมื่อครั้งที่นายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 โดยชาวอเมริกันหลายคนกังวลเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ เช่น ความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ สิทธิในเรื่องเพศ และการศึกษาของเด็ก ๆ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียเสรีภาพที่อาจเกิดขึ้นในสมัยที่เขากลับมาเป็นผู้นำอีกครั้ง

สมคิด - ไตรรงค์ – เจิมศักดิ์ - ศิริกัญญา ติดโผศิษย์เก่าดีเด่นเศรษฐศาสตร์ มธ. ครบรอบ 75 ปี

(8 พ.ย.67) คณะเศรษฐศาสตร์ มธ.เชิดชูเกียรติศิษย์เก่า ในวาระครบรอบ 75 ปี คนดังทั้งนักการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ ได้รับเลือกเป็นศิษย์เก่าดีเด่นเพียบ

คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย ผศ.ดร.ศุภชัย ศรีสุชาติ รักษาการแทนในตำแหน่งคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ นางเกศรา มัญชุศรี นายกสมาคมฯ ประกาศผลการคัดเลือกศิษย์เก่าเกียรติยศฯ ศิษย์เก่าดีเด่น และผู้ทำคุณประโยชน์ เพื่อเชิดชูเกียรติในวาระครบรอบ 75 ปี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สำหรับ ศิษย์เก่าเกียรติยศ ในวาระครบรอบ 75 ปี คณะเศรษฐศาสตร์ 7 ท่าน ประกอบด้วย 1. ชนินท์ ว่องกุศลกิจ, 2. ประกิต อภิสารธนรักษ์, ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล, มนู เลียวไพโรจน์, สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, อรัญ ธรรมโน และ คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ

นอกจากนี้ยังมีชื่อ นักการเมือง – วิชาการ- นักธุรกิจดัง ได้รับคัดเลือกเป็นศิษย์เก่าดีเด่น นครั้งนี้อีก 75 ท่าน เช่น ไตรรงค์ สุวรรณคีรี, เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, วิโรจน์ ณ ระนอง, วิรไท สันติประภพ, สมชัย จิตสุชน, สมภพ มานะรังสรรค์, เกรียงไกร เธียรนุกูล, ศิริกัญญา ตันสกุล, ศิริพล ยอดเมืองเจริญ และสันติสุข มะโรงศรี เป็นต้น 

ไทย เบอร์ 2 ในอาเซียน เงินเดือนสูงสุดเฉลี่ย100,000 ต่อเดือน เป็นรองแค่เพียงสิงคโปร์

(8 พ.ย.67) สิงคโปร์ครองแชมป์ประเทศเงินเดือนสูงสุดในอาเซียน ไทยอันดับ 2 เริ่มต้นที่ 20,000 บาทสูงสุดเฉลี่ย 100,000 บาท จากการสำรวจโดยเว็บไซต์ TEMPO.CO ในจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Time Doctor เผยให้เห็นอันดับเงินเดือนเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยพบว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุด ขณะที่ไทยครองอันดับ 2

อันดับที่ 1 ตกเป็นของสิงคโปร์ ด้วยเงินเดือนเฉลี่ยประมาณ 6,332 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงค่าครองชีพและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค เงินเดือนเริ่มต้นในประเทศนี้อยู่ในระดับสูงสุดของอาเซียน

อันดับที่ 2 คือประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของแรงงานในอาเซียน โดยเงินเดือนเฉลี่ยสำหรับพนักงานเริ่มต้นอยู่ที่ 20,000-25,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ตำแหน่งระดับกลางถึงสูงอาจได้รับเงินเดือนสูงสุดถึง 100,000 บาทต่อเดือน

อันดับที่ 3 ได้แก่ บรูไน ดารุสซาลาม ซึ่งแม้จะมีประชากรน้อย แต่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ โดยเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 3,230 ดอลลาร์บรูไน หรือประมาณ 83,000 บาท

ในอันดับที่ 4 เป็นของมาเลเซีย โดยเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 6,610 ริงกิต หรือประมาณ 52,000 บาทต่อเดือน ส่วนอันดับที่ 5 คือฟิลิปปินส์ ตามด้วยอินโดนีเซีย เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา โดยเมียนมามีเงินเดือนต่ำที่สุดในอาเซียนที่ 311,000 จ๊าต หรือประมาณ 5,100 บาท

ปตท. คว้าคะแนน CGR ระดับ 'ดีเลิศ' ต่อเนื่อง 16 ปีซ้อน

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับดีเลิศ (Excellent CG Scoring) หรือ 5 ตราสัญลักษณ์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 และติดหนึ่งใน TOP QUARTILE ของบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางการตลาดไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies: CGR) ประจำปี 2567 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ภายใต้การสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

นับเป็นอีกหนึ่งปีของความภาคภูมิใจ ที่ ปตท. ได้รับการประเมินในระดับดีเลิศ ซึ่งได้สะท้อนถึงมาตรฐานและการยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างสมดุล รวมถึงครอบคลุมในด้าน ESG (Environmental, Social and Governance) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทยและเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

‘การบินไทย’ กำไรไตรมาส 3 พุ่งกว่า 700% หนุน 9 เดือนแรก โกยกำไรแตะ 1.5 หมื่นล้าน

(8 พ.ย.67) ‘การบินไทย’ ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 เผยมีรายได้รวม 4.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% ดันกำไรสุทธิ 1.24 หมื่นล้านบาท เติบโตพุ่ง 707% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนกำไร 9 เดือนแรกแตะ 1.5 หมื่นล้านบาท

รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 45,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,820 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 37,008 ล้านบาท หรือ 23.8% โดยมีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 3.94 ล้านคน มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ปรับตัวลดลงจาก 77.3% ในงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 76.1%

บริษัทและบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 38,636 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนซึ่งมีค่าใช้จ่าย 29,289 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น เป็นค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง 13,550 ล้านบาท คิดเป็น 35.1% ของค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 7,192 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาส 3 ของปี 2566 ซึ่งมีกำไร 7,719 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 4,829 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 10,119 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 12,483 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนกำไร 1,546 ล้านบาท

โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 6,655 ล้านบาท

สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 135,810 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 115,897 ล้านบาท คิดเป็น 17.2% ในขณะเดียวกันมีค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 111,617 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวม 86,567 ล้านบาท คิดเป็น 28.9%

และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 24,193 ล้านบาท ต่ำกว่างวดเดียวกันของปี 2566 ที่กำไร 29,330 ล้านบาท คิดเป็น 17.5% โดยบริษัทและบริษัทย่อยมีต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 14,233 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้รวม 5,273 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากปรับปรุงรายได้บัตรโดยสารที่หมดอายุ กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม พบว่ามีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าเครื่องบินแบบแอร์บัส A380-800 ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 15,221 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนมีกำไร 16,342 ล้านบาท มี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 25,056 ล้านบาท

อนึ่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 263,743 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวน 24,752 ล้านบาท หรือ 10.4% หนี้สินรวมจำนวน 291,684 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวน 9,551 ล้านบาท หรือ 3.4%

ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทและบริษัทย่อยติดลบจำนวน 27,941 ล้านบาท ติดลบลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวน 15,201 ล้านบาท และจากผลประกอบการที่เป็นบวก บริษัทมีเงินสด ตั๋วเงินฝาก เงินฝากประจำที่มีระยะเวลาที่ครบกำหนดชำระมากกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี และหุ้นกู้ที่ครบกำหนดภายใน 1 ปี 82,587 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2567

ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทได้ชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการไปแล้วรวมทั้งสิ้น 3,531 ล้านบาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top