Friday, 4 July 2025
Hard News Team

ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจ พร้อมมอบนโยบาย และกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุด

ที่ประชุมห้องประชุมชัยจินดา สภ.หาดใหญ่  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.อ เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เข้าตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ มอบนโยบายและกำชับในการปฏิบัติหน้าที่

โดยมี​ พล.ต.ท.ดำรัส วิริยะกุล ผทค.พิเศษ ตร.รรท รอง ผบช.ภ.9,​ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลาและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้การต้อนรับ

พล.ต.อ เพิ่มพูน ชิดชอบ เผยว่า การลงพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยมข้าราชการ สภ.หาดใหญ่ ในครั้งนี้ ถือเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วงสถานการณ์โควิด 19 พร้อมทั้งเป็นการติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ซึ่งตนก็ทราบดีว่าตำรวจทุกนายไม่ได้หยุดพัก ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบให้แก่ประชาชน จึงถือโอกาสลงมาเยี่ยมเยือน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนายมีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบบ้านเมือง เพื่อสร้างความมั่นใจ และรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุด

จากนั้น เดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่สถานีตำรวจชุมชนตลาดใหม่ หรือ​ ป้อมโคบัง​ ที่เป็น สภ.ย่อย ของสถานีตำรวจ พร้อมให้โอวาทแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ให้ร่วมแรงร่วมใจ และสามัคคีกันปฏิบัติหน้าที่ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ อย่าได้ย่อท้อต่อเหตุการณ์ต่างๆ และจงยึดมั่นในคุณงามความดี จะต้องให้ความสะดวก และบริการอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งได้มอบของที่ระลึกให้แก่ตำรวจชุมชน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ห้วงสถานการณ์โควิด 19 อีกด้วย

ที่มา: นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

สมบัติ อนันตรัมพร ประธาน บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ฯ Update เทคนิคการใช้งานระบบสายสัญญาณ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์คที่เหมาะกับ Data Center​ ผ่านงานสัมมนา “How to Manage Cabling & Networking for Data Center”

#INTERLINK

เมื่อวันที่​ 26 มิ.ย.2564​ คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธาน บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ฯ (INTERLINK)​ ได้จัดงานสัมมนา “How to Manage Cabling & Networking for Data Center”

โดยกล่าวเปิดงาน ผ่านระบบ Zoom จากหัวหิน พร้อมนำทีมวิทยากรชั้นนำมา Update เทคนิคการใช้งานระบบสายสัญญาณ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์คที่เหมาะกับ Data Center ให้กับผู้บริหารหน่วยงาน ไอที กลุ่มสถาบันการเงินกว่า 50 หน่วยงาน เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเห็นภาพจริง และตอบโจทย์ทุกความต้องการ

สำหรับงานในครั้งได้มีการ​ ???? LIVE จากสนง.ใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ

'ผู้ช่วยฯ รอย'​ เร่งสปีด!! สำรวจความคิดเห็น ปรับปรุงเครื่องแบบสายป้องกันปรามปราบ ผ่านคิวอาร์โค้ด ภายใน 30 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มีนโยบายให้พัฒนาเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปรามปราบ​ (ปป.)​ และนำไปทดลองใช้ที่​ สน.บางยี่ขัน,​ บุคคโล และจักรวรรดิ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา  

หลังจากนั้นได้เก็บข้อมูลความเห็นการใช้งานของผู้สวมใส่ เพื่อนำมาพัฒนาให้มีความเหมาะสม  เข้ากับสภาพการปฏิบัติงานจริง จนออกมาเป็นชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามแบบที่ 2 

ทั้งนี้​ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปรับปรุงเครื่องแบบสายงานป้องกันปราบปรามที่พัฒนาใหม่นี้​ ให้มีความเหมาะสม และเอื้อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ สวมใส่แล้วมีความคล่องตัว เป็นมาตรฐานสากล เข้ากับสภาพปัจจุบันยิ่งขึ้น ทางตำรวจจึงได้ออกแบบสำรวจความคิดเห็นตำรวจ สายงาน ปป.​ ทั่วประเทศ โดยสามารถเข้าไปดาวน์โหลด ตอบแบบสำรวจได้ตาม QR Code ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้

ในขณะเดียวกัน พล.ต.ท.รอย​ ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด เรื่อง สำรวจความคิดเห็นการพัฒนาเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปราม ครั้งที่ 2 ถึง ผบช.น., ภ.1-9 และ ก.​ ให้นำเครื่องแบบสายตรวจใหม่ทดลองใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยทางบช.น ได้ดำเนินการทดลองใช้ที่สน.บางยี่ขัน,​สน.บุคคโล และ สน.จักรวรรดิ ระหว่างวันที่ 3-13 พ.ค.64 เป็นระยะเวลา 10 วัน 

ต่อมาคณะทำงานนโยบายการพัฒนางานป้องกันปราบปราม ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานเครื่องแบบและสำรวจความเห็นจากกลุ่มตัวอย่าง มาทำการวิจัยและพัฒนาออกแบบเป็นชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามแบบที่ 2 เพื่อให้การปรับปรุงเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามมีความคล่องตัวเหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ในสภาพปัจจุบัน และเป็นมาตรฐานสากล 

ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานสูงสุด จึงให้ท่านแจ้งข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สายงานป้องกันปราบปรามในสังกัดกรอกแบบสำรวจความคิดเห็นการพัฒนาเครื่องแบบ สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปราม ให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิ.ย.64 

ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแบบสำรวจฯ ได้ตาม QR code นี้ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., คณะทำงานนโยบายการพัฒนางานป้องกันปราบปราม รวบรวมสรุปข้อมูลผลการสำรวจดังกล่าว เสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผ่าน ผอ.สยศ.ตร.) ภายในวันที่ 3 ก.ค.64 จึงแจ้งมาเพื่อทราบและดำเนินการ 'หนังสือดังกล่าวระบุ'​

'ตำรวจ' เตือนภัย!! ระวังถูกแท็กเฟซบุ๊ก​ พร้อมภาพข่าวอุบัติเหตุหรือภาพลามก อย่ารับแท็กเด็ดขาด อาจถูกแฮกเฟซบุ๊กไม่รู้ตัว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท.ในฐานะ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ช่วงนี้ในเฟซบุ๊กของพี่น้องประชาชน อาจจะมีคนที่เป็นเพื่อนหรือไม่ใช่เพื่อนของเรามาแท็กเฟซบุ๊ก และแท็กพร้อมกับผู้อื่นอีกหลายสิบคน ซึ่งข้อมูลที่ส่งมาประกอบด้วยลิงก์ภาพข่าวอุบัติเหตุ​ หรือภาพข่าวลักษณะลามกอนาจาร จากสำนักข่าวมีชื่อบ้าง ไม่มีชื่อบ้าง หากเรามีความสนใจข่าวที่แท็ก แล้วกดเข้าไปดูจะพบว่ามีหน้าต่างให้เรากรอกอีเมลและ พาสเวิร์ดเข้าเฟซบุ๊กใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก 

เพราะลิงก์ดังกล่าวเป็นลิงก์หลอกลวง ที่แฮกเกอร์สร้างมาเพื่อลวงให้เรากรอกข้อมูล อันได้แก่ อีเมลกับรหัสผ่านเฟซบุ๊ก ทำให้แฮกเกอร์ทราบข้อมูล และเข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กของเราได้ หากใครกรอกข้อมูลไป เฟซบุ๊กอาจถูกแฮก จากนั้นแฮกเกอร์จะเปลี่ยนรหัส​ ทำให้เราไม่สามารถเข้าเฟซบุ๊กของเราได้ สุดท้ายแฮกเกอร์อาจเอาบัญชีเฟซบุ๊กของเราไปกระทำความผิด เช่น หลอกยืมเงินเพื่อนในเฟซบุ๊กของเรา หรือ นำไปหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่น เป็นต้น

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายในการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในการป้องกันตัวเองมิให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรในทุกรูปแบบ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่พบว่าบัญชีเฟซบุ๊กตัวเองถูกแท็กในลักษณะดังกล่าว ไม่ควรกดเข้าไปดู หรือ กรอกอีเมลกับรหัสผ่านอย่างเด็ดขาดเพราะท่านอาจตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์ 

อย่างไรก็ตาม หากท่านถูกแฮกเฟซบุ๊กไปแล้วและไม่สามารถเข้าเฟซบุ๊กตัวเองได้​ ให้ปฏิบัติการ 3 แจ้ง คือ... 

1.​ แจ้ง​ (Report) เฟซบุ๊ก เพื่อให้เฟซบุ๊กกู้คืนบัญชีกลับมาให้เรา
2.​ แจ้งเพื่อนของเราในทุกช่องทางว่าเฟซบุ๊กเราถูกแฮก 
และ​ 3.​ แจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รัฐบาล ยัน "บสย." ช่วยทุกรายเข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟูฯ 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกพ.ร.ก.ให้การช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (พ.ร.ก.ฟื้นฟู) มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกขนาดและในทุกประเภทธุรกิจให้เข้าถึงสภาพคล่อง โดยผู้กู้จะได้รับการคิดอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินไม่เกิน 2% ต่อปี ในช่วง 2 ปีแรก และในช่วง 5 ปีแรกอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต้องไม่เกิน 5% ต่อปี และเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสแก่ผู้ประกอบการในการเข้าถึงสินเชื่อ รวมทั้งเพิ่มความเชื่อมั่นในการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ของสถาบันการเงิน รัฐบาลได้มอบหมายให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ทำหน้าที่ผู้ค้ำประกัน ซึ่งจะค้ำประกันให้กับผู้ได้รับสินเชื่อฟื้นฟูทุกรายเต็มจำนวน ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบการขนาดย่อย (ไมโคร ลูกจ้างไม่เกิน 5 คน) เอสเอ็มอี ขนาดใหญ่ และบุคคลธรรมดา เป็นระยะเวลาสูงสุด 10 ปี

ภายใต้ พ.ร.ก.ฟื้นฟูฯ ตัวเลขจากธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานว่า มียอดสินเชื่อฟื้นฟูที่อนุมัติไปแล้วกว่า 5หมื่นล้านบาท เป็นผู้ประกอบการจำนวน 1.6หมื่นราย ซึ่งสถาบันการเงินจะทยอยส่งให้ บสย. ค้ำประกันทุกราย ทั้งนี้ ณ วันที่ 23 มิ.ย. 64 บสย.ทำการค้ำประกันไปแล้ว จำนวน 1.1 หมื่นราย แยกเป็น ผู้ประกอบการไมโคร  5.5พันราย ขนาดเล็กและกลาง 4.8พันราย ขนาดใหญ่ 700กว่าราย และมากไปกว่าการค้ำประกัน บสย. ยังเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางการเงินด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาทางการเงิน มีทางออกในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและทำแผนธุรกิจประกอบการขอกู้จากธนาคารอย่างมีความน่าเชื่อถือ 

ขณะเดียวกัน บสย. ยังเข้าร่วมสนับสนุนโครงการ “จับคู่กู้เงิน”  เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร ภัตตาคารทั่วประเทศ ให้เข้าถึงมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินจากสถาบันการเงิน ณ วันที่ 22 มิ.ย.64 นี้ มีผู้มาติดต่อขอสินเชื่อแล้ว กว่า 11,185 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 2,440 ล้านบาท เมื่อได้รับการอนุมัติจากสถาบันการเงินแล้ว บสย. จะเข้ามาช่วยค้ำประกันสินเชี่อต่อไป  ทั้งนี้ โครงการ “จับคู่กู้เงิน” ยังประกาศขยายระยะเวลาถึงวันที่ 30 มิ.ย.64 นี้  
 
“ที่ผ่านมาพบว่ามาตรการสินเชื่อซอฟท์โลนเดิม มีปัญหาตรงที่ผู้ประกอบการบางส่วนยังเข้าไม่ถึง  ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี  พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนต้องแก้ไข ครม.จึงได้ออกพ.ร.ก.มาตรการฟื้นฟูฯฉบับใหม่ ที่มีการแก้ไขข้อจำกัดของ พ.ร.ก.ซอฟท์โลนเดิมในหลายประเด็น และล่าสุด นายกฯได้เชิญภาคเอกชน ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตส่าหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ร่วมหารือเพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรค ร่วมกันกำหนดแนวทางให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงสภาพคล่องมากขึ้น จะได้ประคองธุรกิจและกลับมาฟื้นตัวได้หลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย”

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้จัดส่งวัคซีน Moderna ตรงมาลงไต้หวัน ด้วยสายการบิน China Airlines ถึง 2.5 ล้านโดส ซึ่งมากกว่าที่สหรัฐฯ เคยประกาศไว้เมื่อตอนต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่าจะบริจาคให้ไต้หวัน 7.5 แสนโดส

‘นาย เนด ไพรซ์’ โฆษกรัฐบาลสหรัฐได้ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ พร้อมภาพถ่ายยืนยันว่า ได้จัดส่งวัคซีนให้ไต้หวันจริง ซึ่ง ‘นางไช่ อิงเหวิน’ ประธานาธิบดีไต้หวัน ก็ทวิตข้อความตอบขอบคุณมิตรภาพของสหรัฐอเมริกา ที่ส่งวัคซีนมาให้

ก่อนหน้านี้ ทางญี่ปุ่นก็เพิ่งบริจาควัคซีน AstraZeneca ให้ไต้หวันกว่า 1.24 ล้านโดส และจากจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ตอนนี้ ก็ช่วยรัฐบาลไต้หวันหายใจได้ทั่วท้องไปอีกสักช่วงหนึ่ง หลังจากที่โดนกดดันอย่างหนัก เพราะวัคซีนที่สั่งจองไว้ไม่สามารถส่งได้ตามนัด

ขณะที่ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ได้กล่าวหาจีนว่าเข้ามาแทรกแซงคำสั่งซื้อวัคซีน Pfizer ของไต้หวัน และยังออกกฏหมายแบนวัคซีน Covid-19 ที่ผลิตในประเทศจีน จึงทำให้ไม่สามารถนำเข้าวัคซีน Pfizer ที่ผลิตจากโรงงานยาของจีนได้

และรัฐบาลไต้หวันก็ได้สั่งจองวัคซีน Moderna ตรงกับผู้ผลิตในสหรัฐฯ แล้วถึง 5 ล้านโดส แต่เพิ่งจะได้มาเพียง 3.9 แสนโดส ส่วน AstraZeneca ก็จองไปถึง 10 ล้านโดส แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้มาสักโดสเลย

เมื่อวัคซีนที่จองตรงกับบริษัทยา และ ผ่านโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลกมาช้า จึงทำให้โครงการฉีดวัคซีนของไต้หวันช้าตามไปด้วย และคนไต้หวันส่วนใหญ่ก็อยากจะฉีดวัคซีนที่ผลิตจากบริษัทยาของสหรัฐมากกว่า แม้จะมีการระบาดของ Covid-19 รอบใหม่ที่รุนแรงยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

ดังนั้นการได้วัคซีน Moderna ล็อตใหญ่จากสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ นับเป็นความสมหวังในรอบหลายเดือนของรัฐบาลไต้หวัน และเป็นอานิสงค์จากนโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ประกาศจะบริจาควัคซีนทั่วโลกให้ได้ถึง 100 ล้านโดส

แต่ทั้งนี้ วัคซีนบริจาคจากสหรัฐย่อมมีนัยยะการเมืองแอบแฝงอยู่ไม่น้อย เพราะหากมองว่าสหรัฐฯ ยอมเพิ่มยอดบริจาควัคซีนให้ไต้หวันถึง 3 เท่าจากตัวเลขเดิมที่เคยประกาศ และส่งมาในคราวเดียวกัน ไม่ต่างจากการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลปักกิ่งว่า สหรัฐฯ นับไต้หวันเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้น เกินกว่าที่จีนจะแทรกแซงได้

แต่น้ำใจไมตรีของสหรัฐอเมริกานั้น มาช้ากว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่?

หากนับประเทศในแถบทะเลจีนใต้แล้ว ไต้หวันนับเป็นพันธมิตรที่เลือกข้างสหรัฐต่อต้านจีนอย่างแข็งแกร่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะในยุคของรัฐบาลไช่ อิงเหวิน เป็นต้นมา

และไม่ได้เป็นมิตรประเทศกันฟรีๆ ไต้หวันซื้ออาวุธสหรัฐสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2020 ในสมัยของ โดนัลด์ ทรัมป์ ส่วนปีนี้ก็เซ็นดีลอาวุธกันไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปีแล้วที่ 5.2 พันล้านเหรียญ เนื้อหมู เนื้อวัวก็อุดหนุนสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่ไต้หวันก็ผลิตได้ แถมไร้สารเร่งเนื้อแดงปลอดภัยมากกว่า หรือแม้แต่บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลกอย่าง TSMC ก็ยอมไปลงทุนเปิดโรงงานผลิตมูลค่านับหมื่นล้านในสหรัฐ เพื่อป้อนชิพรุ่นใหม่ให้กับสหรัฐฯ โดยเฉพาะ

บวกกับนโยบายแข็งกร้าว ยอมหัก ไม่ยอมงอของรัฐบาลไต้หวัน ที่ไม่ยอมรับไมตรีการทูตวัคซีนจากจีนเลย แม้จีนจะบอกว่าพร้อมส่งวัคซีนมาให้ได้ทันที ขอแค่เอ่ยปาก แต่นอกจากรัฐบาลไต้หวันจะไม่เอาแล้ว ยังแบนอีกต่างหาก

เรียกว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ฝากความหวังทุกอย่างที่สหรัฐฯ เพียงที่เดียว

นาย โก เหวินเจ๋อ นายกเทศมนตรีกรุงไทเป เคยฟาดแรงถึงทูตสหรัฐฯ ประจำไต้หวันว่า ไหนสหรัฐฯ เคยบอกเราไต้หวันเป็นพันธมิตรที่สำคัญ และเรายอมซื้ออาวุธมูลค่ามหาศาล ยอมซื้อเนื้อปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง แต่จนป่านนี้เลยมาเกือบครึ่งปีแล้ว สหรัฐฯ ยังไม่ส่งวัคซีนมาให้เราเลยแม้แต่โดสเดียว มันเป็นไปได้อย่างไร

หรือไต้หวันต้องสถานการณ์หนักเท่ากับอินเดีย ถึงรุนแรงเพียงพอให้สหรัฐฯ หันมามอง

หลังจากทนรอคอยด้วยความอึดอัดมานาน ในที่สุดวันนี้ สหรัฐฯ ก็ส่งวัคซีนมาให้แล้ว มาช้า ดีกว่าไม่มา แต่ถ้าช้ากว่านี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน

และก็มีตัวแทนของไต้หวันไปรับวัคซีนล็อตใหญ่จากสหรัฐฯ ด้วยความซาบซึ้งใจ

สำหรับไต้หวันในยุคนี้ ที่เลือกแล้วที่จะร่วมขบวนพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา โดยไม่หวั่นไหวกับคำพูดที่ว่า "มิตรไกล ศัตรูใกล้" เพราะนี่มันยุค 5G ที่ข้อมูลสื่อสารไปไวกว่าแสง ระยะทางของมิตรไกลไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับไต้หวัน

เพียงแต่มิตรไกลคนนั้นเขาจะพร้อมที่จะคิดถึงไต้หวันเป็นคนแรก หรือต้องคอยเตือนถึงนึกขึ้นได้ หรือใช้ไต้หวันเป็นเพียงลูกประทัดใต้เก้าอี้รัฐบาลปักกิ่ง ที่คอยจุดเชื้อโป้งป้าง ยั่วให้ตกใจเล่นเท่านั้นเอง

 

อ้างอิง:

https://www.aljazeera.com/news/2021/6/19/us-sends-2-5-million-covid-vaccines-to-taiwan

https://time.com/6074433/us-taiwan-covid-19/

https://www.aa.com.tr/en/asia-pacific/taiwan-has-8b-defense-deals-with-us-in-2021-official/2068749

https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4211166


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ฉาว!! อยากได้วัคซีนเพิ่ม​ ต้องซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ​ | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

ชวนคิด!! การทูตวัคซีนสไตล์มะกัน
เมื่อ​ 'ไต้หวัน'​ ได้วัคซีนเพิ่ม 3 เท่า
เพียงแค่สั่งซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย​ อ.ต้อม -​ กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง 

.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวสั้นๆ เกี่ยวกับการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวสั้นๆ ก่อนเข้าหารือกับคณะที่ปรึกษาด้านสาธารณสุข เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประเมินข้อดีข้อเสียของการล็อกดาวน์พื้นที่กรุงเทพมหานครว่า โดยระบุว่า ต้องรอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตัดสินใจ 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า รับมือกับสถานการณ์ไม่ไหวแล้ว นายอนุทิน กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ใจเย็นๆ” เท่านั้น


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

Click on Clear เที่ยงตรง ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2564

Click on Clear เที่ยงตรง ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ประเด็น ร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปัตย์ ผ่านวาระแรก บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

และคุยฟุ้งเรื่องฟุตบอลยูโร 2020 กับ กบร่อน

.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โซเชียลชื่นชม! ทหารพราน 35 พยาบาลวิชาชีพ รพ.นครนายก ช่วยเหลือ 2 เด็กหญิงป่วยโรคหอบเรื้อรัง ก่อนทหารอุ้มเดินเท้า 7 กม. พาขึ้นรถ ส่งรักษา รพ.ท่าสองยาง ปลอดภัย 

หลังจากที่ปรากฏข่าวในสื่อโซเชียล ชาวเน็ตชื่นชม ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพและข้อความทหารพรานและพยาบาลเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงป่วยหนัก ส่งรักษาจนปลอดภัย หลังภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาชื่นชมและประทับใจ ในความเสียสละในยามที่สังคมต้องการความช่วยเหลือแบ่งปันและกำลังใจ 

จากที่ กองร้อยทหารพรานที่ 3506 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 จัดกำลังพลสนับสนุนรถยนต์บรรทุกขนาด 4x4 ของหน่วย "พันธุ์ปลาพระ ราชทานฯ"  จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดให้กับกลุ่มจิตอาสาภายใต้ชื่อ “จิตอาสาใต้ร่มพระปารมี” เครือข่ายพัฒนาชนบท โครงการของขวัญจากก้อนดิน ได้มอบพันธุ์ปลาพระราชทาน จำนวน 1,000 ตัว ให้กับชาวบ้าน โดยมี นางสาว มณิศรา โฮ่บรรเทา พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลนครนายก เป็นผู้รับมอบ ณ บ้านบลาเด หมู่ที่ 17 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก โดยได้ดำเนินการปล่อยพันธุ์ปลาพระราชทาน ประกอบด้วย ปลานิล จำนวน 500 ตัว และ ปลาทับทิม จำนวน 500 ตัว ลงในแหล่งน้ำ พร้อมทั้งดำเนินการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและความดันโลหิตให้กับราษฎรที่มาร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย โดยทีมพยาบาลวิชาชีพจากโรงพยาบาลท่าสองยาง 

ซึ่งในวันที่ 23 มิถุนายน 2564 นั้น กำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 3506 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 เดินทางไปพร้อมกับ นางสาว มณิศรา โฮ่บรรเทา พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลนครนายก และเป็นทีมจิตอาสาใต้ร่มพระบารมี เดินทางขึ้นไปช่วยเหลือ ผู้ป่วยเด็กหญิง เป็นโรคหอบ จำนวน 2 ราย ได้แก่ รายแรก เด็กหญิง พัชราพา ลาภผลพัฒนคีรี อายุ 3 ขวบ มีอาการป่วยเป็นโรคหอบเรื้อรัง และมีภาวะปอดอักเสบ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ออกซิเจน และพ่นยาเพื่อให้การหายใจได้สะดวก ด้วยสภาพอากาศของเด็กตอนนั้นมีภาวะหายใจติดขัดและพ่นยาบรรเทาอาการไปแล้วกว่า 4 ครั้ง แต่อาการยังไม่ปรากฏดีขึ้น พยาบาลวิชาชีพและพี่ๆ ทหารพรานที่ขึ้นไปช่วยเหลือ จึงได้ช่วยอุ้มน้อง แบกถังออกซิเจนขึ้นหลัง เดินเท้ากว่า 7 กิโลเมตร จากบ้านพักของผู้ป่วย ลงมาเพื่อทำการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่ระเมิง เนื่องจากสภาพเส้นทางรถยนต์และยานพาหนะไม่สามารถใช้สัญจรได้ พร้อมนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลท่าสองยาง

จากนั้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 3506 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 พร้อมด้วยรถยนต์บรรทุกของหน่วย เดินทางไปพร้อมกับ นางสาว มณิศรา โฮ่บรรเทา พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลนครนายก เดินทางขึ้นไปช่วยเหลือ ผู้ป่วยเด็กหญิง เป็นโรคหอบ อีก 1 ราย ได้แก่ รายที่ 2 เด็กหญิง พัชราพา ลาภผลพัฒนคีรี  อายุ 3 ขวบ มีอาการป่วยเป็นโรคหอบเรื้อรัง และมีภาวะปอดอักเสบ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ออกซิเจน และพ่นยาเพื่อให้การหายใจได้สะดวก พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลท่าสองยาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้นำตัวเด็กหญิงผู้ป่วยเดินทางขึ้นรถมาทำการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่ระเมิงก่อนส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลท่าสองยาง

ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เป็นเด็กหญิงทั้ง 2 ราย อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน คือ บ้านบลาเด หมู่ที่ 17 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก โดยผู้ป่วยน้องเด็กหญิง ทั้ง 2 รายนี้ ได้เข้ารับการรักษาจนอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งมีพ่อแม่คอยดูแลใกล้ชิด พร้อมทีมแพทย์พยาบาลที่อำนวยความสะดวกทุกอย่างให้ ตลอดห้วงการรักษา ด้วยความห่วงใยที่มีต่อประชาชน 

โดย เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 3506 ได้ดำเนินการปฏิบัติหน้าที่ภารกิจลาดตระเวนหาข่าวความเคลื่อนไหวบุคคลกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน พร้อมป้องปรามการกระทำความผิดการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามเส้นทางระหว่าง  บ้านเคอละเดคี หมู่ที่ 10 - บ้านเบ๊าะโบคี หมู่ที่ 11 บ้านวะโดรโกร - บ้านบาเด  ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก เป็นประจำทุกวัน พร้อมทั้งเยี่ยมเยือนพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อติดตามชีวิตความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top