Thursday, 3 July 2025
Hard News Team

"นายกฯ ควงทีม สธ." บินภูเก็ต สร้างความมั่นใจเปิดโครงการ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ไม่หวั่นโควิดยังระบาดหนัก

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยคณะ อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายดิตทัต โหรตระกิตย์ เลขาธิการนายกฯ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯสมช.เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต และโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยนายกฯ โดยสารเครื่องบินกองทัพอากาศ Air bus 320 หมายเลข 60205

โดยตามกำหนดการ เวลา 09.45 น.   นายกฯและคณะ ตรวจเยี่ยมการคัดกรองนักท่องเที่ยว เข้า – ออก จังหวัดภูเก็ต ณ ด่านตรวจภูเก็ต  ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จากนั้นเดินทางไปยังโรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตามโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการลงพื้นที่ นายกฯโดยสารรถToyota Alphard ทะเบียน กษ 199 

จากนั้น เวลา 13.45 น.นายกฯเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว “HUG THAIS HUG PHUKET” จัดโดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต และหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัล ภูเก็ต ตำบลวิชิต อำเภอเมือง

ก่อนจะเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตำบลสาคู อำเภอเมือง เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว เยี่ยมชมการฟื้นคืนสภาพของชายหาดและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากนั้น เวลา 17.10 น. นายกฯต้อนรับนักท่องเที่ยว สายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพในเวลา 18.40น.

ศรีสุวรรณ จ่อร้อง ป.ป.ช. สอบจริยธรรมร้ายแรง 277 ส.ส. ที่โดดประชุม ทำสภาล่ม

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่เกิดกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.64 ล่ม อันเนื่องมาจากมี ส.ส.เข้าร่วมประชุมไม่ครบในระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย เมื่อมีการตรวจสอบองค์ประชุมพบว่ามี ส.ส.มาแสดงตนแค่ 206 คน จาก 483 คน โดยมี ส.ส.จำนวน 277 คนไม่แสดงตนนั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การไม่เดินทางมาร่วมประชุมสภาฯ หรือมาประชุมแต่ไม่แสดงตน จนเป็นเหตุให้องค์ประชุมไม่ครบ ไม่สามารถพิจารณาร่างกฎหมายต่อไปได้ ประธานสภาฯจึงต้องสั่งปิดการประชุมไปนั้น ถือว่าเป็นเหตุร้ายแรง ที่สังคมไทยไม่ควรปล่อยให้สมาชิกผู้ทรงเกียรติแต่ชื่อเหล่านี้ กินเงินภาษีของประชาชนโดยไม่ยอมทำงานตามหน้าที่ต่อไปได้ เป็นเหตุให้ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ทำให้สภาฯเสื่อม 

อันเป็นพฤติการณ์ที่ขัดหรือแย้งต่อหน้าที่ของตนตามที่ได้ปฏิญาณตนในที่ประชุมแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.115 จึงถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 อย่างร้ายแรง ประกอบข้อบังคับ ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ 2563 ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.128 และ ม.219 วรรคสอง บัญญัติไว้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำรายชื่อ ส.ส.ทั้ง 277 คน ไปยื่นร้องในวันศุกร์ที่ 2 ก.ค.64 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี  เพื่อให้ ป.ป.ช.ทำการสอบสวนชี้มูลความผิด เพื่อส่งอัยการฟ้องต่อศาลอาญา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

“โฆษก ศบศ.” แจง 4 มาตรการเริ่มใช้สิทธิวันนี้ คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ชี้หวังช่วยประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ เผยมาตรการช่วยแรงงานผู้ประกอบการ 6 จังหวัด ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจกลางคืนและบันเทิงด้วย

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า มติครม. เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วนสำหรับกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ในกิจการ 3 หมวด ประกอบด้วย ก่อสร้าง ที่พักแรม และบริการด้านอาหาร ศิลปะ บันเทิง และนันทนาการ ทั้งที่อยู่ในระบบและนอกระบบประกันสังคม ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 25) ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนที่จะชดเชย เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งรวมถึงข้อร้องเรียนจากสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิง ผับ บาร์ ร้านอาหาร ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งตนได้เป็นผู้แทนของรัฐบาลรับหนังสือร้องเรียน โดยมาตรการดังกล่าว ครอบคลุมข้อร้องเรียนของสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนที่ได้รับความเดือดร้อนถูกสั่งปิดกิจการด้วย

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับมาตรการเร่งด่วน มีดังนี้

1.) กลุ่มแรงงานที่อยู่ในระบบประกันตนตามมาตรา 33 สัญชาติไทย จะได้รับเงินช่วยเหลือ 2,000 บาทต่อคน เพิ่มเติมจากการที่ลูกจ้างได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) ส่วนผู้ประกอบการหรือนายจ้าง จะได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้าง สูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน

2.) ผู้ประกอบการหรือนายจ้างที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้นายจ้างลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนกรกฎาคม 2564 จะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุด ไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน และลูกจ้างที่เป็นสัญชาติไทยจะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 2,000 บาทต่อคน

3.) กรณีที่เป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ผ่านโครงการคนละครึ่ง ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยผู้ประกอบการจะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท

4.) ผู้ประกอบการในหมวดร้านอาหาร เครื่องดื่ม ของโครงการคนละครึ่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม เนื่องจากไม่มีลูกจ้างจะได้รับการช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักดนตรีอิสระ และผู้เดือดร้อนรับค่าจ้างแบบรายวัน รัฐบาลก็จะหามาตรการที่เหมาะสมมาช่วยต่อไป

นายธนกร กล่าวว่า 4 มาตรการนั้นจะเริ่มใช้สิทธิในวันนี้ (1 ก.ค.) ประกอบมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 13.65 ล้านคน รัฐบาลสนับสนุนให้คนละ 200 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 16,380 ล้านบาท มาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 2.5 ล้านคน รัฐบาลสนับสนุนให้คนละ 200 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน เม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 3,000 ล้านบาท โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 31 ล้านคน เปิดให้มีการลงทะเบียนแล้วกว่า 28 ล้านคน โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่ง 150 บาทต่อวันต่อคน ตลอดโครงการ 3,000 บาท ใช้เม็ดเงิน 93,000 ล้านบาท เม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 186,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ท่านนายกฯ เป็นคนต้นคิด และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศผ่านผู้ที่มีกำลังซื้อ ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 4 ล้านคน มีเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 268,000 ล้านบาท ลงทะเบียนแล้วกว่า 400,000 คน

ทั้งนี้ เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยเยียยยาและกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการจับจ่ายใช้สอยในประเทศได้


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

Meet THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน | ประจำวันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 2564

ติดตามประเด็นร้อน กับรายการ Meet THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

#54 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

???? #เฟส54ช่วยต่อไม่รอแล้ว

‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

.


.

ทบ. มอบม้าทหารให้ชาวลำปาง ร่วมสืบสานเอกลักษณ์รถม้าคู่เมือง 

ร้อยเอกหญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ความสำคัญในการสืบสานเอกลักษณ์วัฒนธรรมของประเทศไทย โดยเฉพาะเอกลักษณ์อันสำคัญของชาวลำปาง เมืองแห่งรถม้าที่มีความผูกพันกับประชาชนในพื้นที่มายาวนานร่วม 100 ปี และนับเป็นจังหวัดเดียวที่ยังคงมีการใช้ม้าเป็นพาหนะให้บริการประชาชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 

โดยผู้บัญชาการทหารบกได้มีดำริให้มณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมกับกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 3 กรมการสัตว์ทหารบก พิจารณาสนับสนุนม้าของกองทัพบกที่มีสุขภาพแข็งแรง ผ่านการดูแลฝึกฝนจนสามารถเสริมภารกิจด้านต่างๆ ทั้งงานพระราชพิธีและปฏิบัติการทางทหาร อาทิ การลาดตระเวนเฝ้าระวัง สกัดกั้นแนวชายแดนหรือพื้นที่ที่มีข้อจำกัดต่อการเข้าถึง และการช่วยขนย้ายบรรทุกสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนการช่วยเหลือประชาชนผ่านโครงการอาชาบำบัด, โรงเรียนสอนขี่ม้าและส่งเสริมด้านการกีฬาเพื่อสนับสนุนการแข่งขันของเยาวชนในระดับประเทศและนานาชาติ

โดยได้ร่วมกับส่วนราชการจังหวัดและชมรมขี่ม้า จ.ลำปาง สำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และดำเนินการส่งมอบม้าจำนวนทั้งสิ้น 12 ตัว พร้อมอาหารและเวชภัณฑ์ ณ โพนี่แคมป์ อ.เมือง จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ภายใต้รูปแบบกิจกรรมสอดคล้องตามมาตรการ ศบค. เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และลดภาระประชาชนในการจัดหาม้าตัวใหม่ที่มาราคาค่อนข้างสูง ทดแทนตัวเดิมที่มีอายุและการใช้งานระยะเวลานาน 

ขณะเดียวกันทางหน่วยจะมีการติดตามข่าวสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างส่วนราชการในพื้นที่และประชาชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลอนุรักษ์ม้า ส่งเสริมการประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้ชุมชนผ่านรถม้าบริการท่องเที่ยว และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยวจังหวัด เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวหากสถานการณ์คลี่คลายในอนาคต ตลอดจนร่วมสืบสานเอกลักษณ์รถม้าคู่เมืองให้คงอยู่สืบไป 

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นหนึ่งในภารกิจการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะในช่วงที่เผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ซึ่งกองทัพบกยืนยันจะดำรงการใช้ศักยภาพของทรัพยากรที่มีอยู่ในทุกมิติให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดเพื่อดูแลเคียงข้างประชาชน และร่วมฟื้นฟูบรรเทาทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบให้สามารถข้ามผ่านวิกฤตการณ์ กลับมาดำเนินตามสภาวะปกติสุขได้โดยเร็ว

รอเลยพรุ่งนี้เงินเข้าแล้ว “คนละครึ่ง” 1,500 บาท

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ซึ่งจะเริ่มโอนเงินให้ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ ว่า กระทรวงการคลังพร้อมโอนเงินโครงการคนละครึ่ง เข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง ให้ผู้มีสิทธิ 25.5 ล้านคน ได้เริ่มใช้วันแรก 1 ก.ค. นี้ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ในการโอนเงินลงไปให้นั้น ในรอบแรกจะโอนก่อน 1,500 บาท เพื่อใช้จ่ายระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย. 64 และรอบที่ 2 โอนวันที่ 1 ต.ค. อีก 1,500 บาท เพื่อใช้เดือน ต.ค.-ธ.ค. 64

ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้จะเริ่มใช้จ่ายได้ 1 ก.ค. นี้ เช่นกัน โดยมีผู้ผ่านสิทธิแล้ว 4.2 แสนคน และคลังยังได้ปรับเงื่อนไขให้สามารถใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 10,000 บาท ซึ่งจะเสนอ ครม. เพื่อให้เริ่มทันวันที่ 15 ก.ค. นี้ เพื่อจูงใจให้คนเข้ามาร่วมโครงการมากขึ้น

ทั้งนี้ คลังขอย้ำว่าสำหรับประชาชนที่ได้รับเอสเอ็มเอส ระบุข้อความลงทะเบียนสำเร็จ โปรดใช้สิทธิผ่านแอปเป๋าตัง เริ่มวันที่ 1 ก.ค. 64 หากเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง แล้วขึ้นข้อความว่าไม่พบข้อมูลการลงทะเบียน หรือระบบกำลังดำเนินการตรวจสอบ ขอให้อัปเดตแอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนเข้าใช้งาน เมื่ออัปเดตแอปพลิเคชันเป๋าตังเป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันแล้ว จะได้รับข้อความ โครงการคนละครึ่ง สามารถใช้ได้ 1 ก.ค. 64


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ศักดิ์สยาม’ รับนโยบาย ‘บิ๊กตู่’ เร่งจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ลดการพึ่งพาเรือต่างชาติ เพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพบริการขนส่งทางทะเล

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564 ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) ด้วยระบบ Zoom Cloud Meetings โดยมีนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) อธิบดีกรมเจ้าท่า ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมประชุม โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ทำหน้าที่ ฝ่ายเลขานุการ 

นายศักดิ์สยามฯ กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคม จัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ เพื่อพัฒนาการขนส่งทางทะเลของไทยให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้น กระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายที่จะให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติขึ้นมาใหม่ เนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน กองเรือพาณิชย์ของไทยที่ทำการขนส่งสินค้าทางทะเล มีขนาดเล็ก มีระวางบรรทุกน้อย ไม่สามารถขนส่งระยะไกล เรือสินค้าไทยมีสัดส่วนในการขนส่งสินค้าเข้า-ออกจากประเทศเพียงร้อยละ 9 และไทยต้องพึ่งพาเรือสินค้าต่างชาติถึงร้อยละ 91 ทำให้ไทยขาดดุลค่าระวางขนส่งสินค้าสูงถึงประมาณร้อยละ 90 คิดเป็นเงินประมาณ 1.33 ล้านล้านบาทต่อปี 

เมื่อกระทรวงคมนาคมมีแผนการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาค ตำแหน่งที่ตั้งของประเทศ ความเป็นศูนย์กลาง การเป็นทางผ่านของการขนส่งระหว่างภูมิภาคของโลก ย่อมเป็นความได้เปรียบและเป็นโอกาส ในขณะที่กระทรวงคมนาคม ได้เร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมาอย่างต่อเนื่อง การผลักดันการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ จะช่วยให้ไทยลดการพึ่งพาเรือต่างชาติ ลดต้นทุนการขนส่ง ลดการขาดดุลค่าระวาง และเสริมศักยภาพ การแข่งขันให้กับเรือไทย ตลอดจนช่วยให้มีการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งให้คุ้มค่า การขนส่งสินค้านำเข้าส่งออกทางทะเลจะมั่นคงและมีเสถียรภาพมากขึ้น

ดังนั้น กระทรวงคมนาคม จึงแต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติขึ้น และได้กำหนดให้มีการประชุม ครั้งที่ 1 ในวันนี้ เพื่อให้คณะกรรมการ เป็นกลไกเร่งรัดการดำเนินงาน และการขับเคลื่อนเพื่อจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติให้สำเร็จโดยเร็วต่อไป 

นายศักดิ์สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในวันนี้ ได้พิจารณากรอบแนวทางในการดำเนินงานจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ และทางเลือกรูปแบบการดำเนินงาน รวมทั้งเห็นชอบแผนการดำเนินงาน (Action Plan) เพื่อเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งได้มอบหมายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมในการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ และนำเสนอผลการศึกษาให้คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งบริษัท สายการเดินเรือแห่งชาติ จำกัด โดยมีนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะทำงาน เพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล แนวทางและรูปแบบการจัดตั้งบริษัท สายการเดินเรือแห่งชาติ จำกัด ที่มีความเหมาะสม รวมทั้งประเด็นข้อกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยบข้อง เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติต่อไป

ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ได้มีข้อสั่งการให้นำเสนอความก้าวหน้าของการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ภายใน 1 เดือน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ 

1.) มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย และกรมเจ้าท่า เชิญสถาบันการศึกษา เพื่อหารือเกี่ยวกับความพร้อมในการจัดเตรียมบุคลากรด้านพาณิชย์นาวี สำหรับรองรับ จัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ 

2.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร จัดตั้งคณะอนุกรรมการในแต่ละด้านเพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติต่อไป 

3.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบ การลงทุนและการถือหุ้นของบริษัทเดินเรือในประเทศต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นแนวทางและรูปแบบการจัดตั้ง สายการเดินเรือแห่งชาติต่อไป 

4.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ศึกษาแนวทางการกำหนดสิทธิประโยชน์ และการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนและจดทะเบียนเรือในประเทศไทย

5.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในรูปแบบการดำเนินงานของ บริษัท สายการเดินเรือแห่งชาติ จำกัด ในกรณีที่รัฐบาลถือหุ้นบุริมสิทธิ เพื่อให้มีความคล่องตัว ในการดำเนินงานและมีอำนาจในการตัดสินใจ 

“บิ๊กช้าง” สั่งเตรียมมาตรการคัดกรองควบคุมโรคเข้ม เตรียมรับทหารใหม่เข้าหน่วย 1 ก.ค. พร้อมฉีดวัคซีนทุกนาย

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ประชุมร่วมกับ กอ.รมน. หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาโควิด-19 

โดยพล.อ.ชัยชาญ ได้ย้ำถึงข้อสั่งการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมขอขอบคุณทุกเหล่าทัพและ ตำรวจ ที่สนับสนุนรัฐบาลจัดกำลังพลเข้าควบคุมแคมป์คนงานและพื้นที่ชุมชนเสี่ยงสูงที่ผ่านมา รวมทั้งสนับสนุนการจัดตั้งและบริหารจัดการสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐ (SQ) 35 แห่ง และสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (ASQ) 146 แห่ง ต่อเนื่องตั้งแต่ มี.ค. 63 เป็นต้นมา โดยขอให้เตรียมการส่งมอบภารกิจการบริหารจัดการสถานที่กักกันโรคทางเลือก (AQ) ให้ สธ.ดำเนินการต่อตั้งแต่ 1 ก.ค. 64 เป็นต้นไป 

นอกจากนั้น นายกฯ และรมว.กลาโหม ยังได้กำชับให้ หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และทุกเหล่าทัพ เตรียมความพร้อมรับทหารกองประจำการผลัดที่ 1/64 ที่จะทยอยเดินทางเข้าประจำหน่วยทหารทั่วประเทศพร้อมกัน ระหว่าง 1-3 ก.ค.64 โดยให้มีการคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมที่สาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งการจัดเตรียมสถานที่และกระบวนการรับตัวทหาร ตั้งแต่การรายงานตัวในพื้นที่จังหวัดอำเภอ การจัดยานพาหนะและการเคลื่อนย้ายทหารเข้าหน่วย การปรับสภาพและคัดกรองเฝ้าระวังควบคุมโรคใน 14 วันแรก 

โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง รวมทั้งมาตราการควบคุมโรคระหว่างการฝึกและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน หากพบการติดเชื้อให้คัดแยกและส่งเข้ารับการรักษาที่ รพ.สนาม ทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประสานกระทรวงสาธารณสุข ขอรับการสนับสนุนวัคซีนฉีดให้กับทหารที่เข้าประจำการใหม่ทั้งหมดโดยเร็ว เพื่อมิให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในหน่วยทหาร 

พล.อ.ชัยชาญ ยังได้ย้ำให้ทุกเหล่าทัพ ที่จัดกำลังพลเข้าไปเข้าไปควบคุมแคมป์คนงาน หรือพื้นที่ชุมชนแพร่ระบาด ขอให้สร้างความเข้าใจกับแรงงานและเจ้าของสถานประกอบการถึงเหตุผลความจำเป็นในมาตรากรชั่วคราวที่กำหนด พร้อมทั้งเร่งรวบรวมความต้องการวัคซีน เสนอ สธ. เพื่อเร่งฉีดให้กับกำลังพลที่ลงปฏิบัติงานในพื้นที่โดยเร็ว และขอให้พิจารณาจัดตู้ปันสุขในพื้นที่รอบหน่วยทหารและจัดรถครัวสนามสนับสนุนชุมชนในพื้นที่ควบคุมที่มีการแพร่ระบาดโดยทั่วถึง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากมาตรการควบคุมโรคที่กำหนด ในสถานการณ์วิกฤตของการแพร่ระบาดของโรคที่กำลังเกิดขึ้น

"บิ๊กตู่" ห่วงเฟกนิวส์คนป่วยโควิดภูเก็ต ทำลายบรรยากาศเปิดประเทศ วอนตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเดินทางไปดูความเรียบร้อยในวันแรกที่จะเปิด "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" ซึ่งนายกฯ มีความกังวลเรื่องเฟกนิวส์ที่ออกมาล่าสุดว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด 5 ราย ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ได้ชี้แจงแล้วว่า ผู้ติดเชื้อดังกล่าวไม่ใช่ผู้ที่อยู่ใน จังหวัดภูเก็ต แต่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากกทม. และผ่านการคัดกรองตามระเบียบของจังหวัด ขณะนี้ผู้ป่วยทั้ง 5 รายที่ติดเชื้อก็ดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว

นายอนุชา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขอให้มีการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพื่อไม่ทำลายบรรยากาศการเตรียมความพร้อมเปิดประเทศ เพื่อให้เข้าใจตรงกันทุกอย่าง และดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการ เพื่อให้สามารถเปิดประเทศนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตได้ จึงเป็นเรื่องที่นายกฯ อยากให้สื่อสารให้ประชาชนทุกคนได้เข้าใจ


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top