Thursday, 3 July 2025
Hard News Team

‘บิ๊กตู่’ ขอชาวภูเก็ตเข้มทำตามกฎ นำร่องรับนักท่องเที่ยว ก่อนเปิดทั้งประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ ว่า การเปิดจังหวัดภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วให้เข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งเริ่มในวันนี้ (1 ก.ค. 64) ไม่ใช่เป็นเรื่องของจังหวัดภูเก็ตเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งในการนำร่องเพื่อดูความเหมาะสมและประสิทธิภาพของมาตรการและขั้นตอนต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวและเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการเปิดทั้งประเทศใน 120 วันตามที่ผมได้ตั้งไว้

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้การใช้ชีวิตและการทำมาหากินของพี่น้องคนไทย เริ่มกลับมาได้อีกครั้งครับ

แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยง อย่างตอนนี้ ในบางประเทศ ทั้งในประเทศใหญ่ และประเทศที่เป็นประเทศเป้าหมายที่น่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทย ล่าสุดเริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มกลับขึ้นมาอีก แต่เราจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงบ้าง สิ่งสำคัญคือเราต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อะไรที่เห็นว่าควรต้องปรับเปลี่ยน ต้องดำเนินการให้เหมาะสมทันที เพี่อไม่ให้ส่งผลกระทบไปถึงเป้าหมายใหญ่ในการเปิดประเทศใน 120 วัน

“ผมขอให้ชาวภูเก็ตทุกคนร่วมมือกัน ช่วยกันอย่างเต็มที่ ระมัดระวังอย่างที่สุด และขอให้ช่วยกันทำตามกฎกติกาอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการฝ่าฝืนมาตรการต่าง ๆ ไม่ให้มีการพาคนเดินทางเข้าหรือออกจากพื้นที่โดยไม่ถูกขั้นตอน ขอให้ทุกท่านคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประเทศตลอดเวลานะครับ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่ภูเก็ต มีผลต่อทั้งประเทศ ขอให้ชาวภูเก็ตภูมิใจที่ได้ร่วมกันทำภารกิจชาติ ทั้งประเทศดูท่านอยู่ และเป็นกำลังใจให้ท่านครับ”


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"บิ๊กตู่" เปิด"ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" นำร่องโมเดลท่องเที่ยว หากสำเร็จ พร้อมสานต่อทั่วปท.ชี้ ต้อง landscape ประเทศ แก้โควิด-19โยงแก้ศก.ขอเผชิญหน้ากันด้วยความรัก อย่าหลบมาตราการ ศบค.”งง”เจอคำถามผู้เสียชีวิตนิวไฮ แต่ผู้บริหารมารวมตัวที่ภูเก็ต บอกอยู่ที่ไหนก็ทำง

ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ต ซิตี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ว่า จากการรับฟังข้อมูลที่ผ่านมา ตนถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และเป็นกำลังใจให้กับชาวจังหวัดภูเก็ต และมีการรายงานว่ามีเที่ยวบินเริ่มทยอยเข้ามาแล้วโดยเที่ยวแรกมาจากอาบูดาบี และจะมีมาต่อเนื่อง ซึ่ง 14 วันข้างหน้าและไตรมาสต่อไปจะมีเข้ามาเพิ่มเรื่อย ๆ ถ้าเราทำตรงนี้สำเร็จ และไม่ใช่สำเร็จโดยใครแต่เป็นคนไทยทุกคน ทุกคนคือคนไทย สื่อก็คือคนไทย ถ้าทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ก็จะสามารถขยายไปที่อื่นได้ จะนำไปใช้ในทุกสถานที่ท่องเที่ยว โดยจะต้องทำทีละขั้น ทุกอย่างต้องเริ่มต้นนับหนึ่งเสมอ แต่ถ้าทำพร้อมกันจะมีปัญหา วันนี้จำเป็นต้องเร่งรัด ทำพื้นที่ภูเก็ต เพราะมีศักยภาพและเป็นพื้นที่เล็กที่ควบคุมได้ การสัญจรทางบก เรือ อากาศสามารถควบคุมได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ที่อาจจะมีความเดือดร้อนจากการคัดกรอง แต่ท่านต้องรักพื้นที่ รักจังหวัดของท่าน ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไปไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจกว่า 90% เป็นเรื่องของการท่องเที่ยวและบริการ 

"วันนี้จึงอยากจะย้ำว่าการเปิดภูเก็ตไม่ใช่เรื่องของจังหวัดภูเก็ตแต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ที่ทุกจังหวัดจะต้องเริ่มมีการนำร่อง ดูความเหมาสม ให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าใน 120 วัน ตรงไหนเปิดได้ก็ต้องทำ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ต่างประเทศ ว่าทั้งในยุโรปและประเทศเล็กและใหญ่ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นไทยเราจะประมาทไม่ได้ต้องรอบคอบ ทำอะไรก็ตามต้องนึกถึงชีวิตประชาชนเสมอ ต้องเดินอย่างระมัดระวัง ผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องมีมาตรการคือกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายโลกก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นจากสถิติที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทั่วโลกจึงมีมาตรการควบคุมโรคคือเปิดแล้วปิด เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นความเสี่ยง แต่เพื่อให้คนไทยได้ทำมาหากิน คือเราพร้อมสิ่งสำคัญคือเราพร้อมหรือไม่ ถ้าทำได้ก็ทำต่อไปให้เป็นขั้นตอน 

"ผมอยากให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ทำให้สำเร็จ เพื่อเป็นแนวทางไปถึงเป้าหมายใหญ่ของเรา ขอให้ชาวภูเก็ตช่วยกันทำกติกาอย่างเคร่งครัดไม่มีการฝ่าฝืนนำคนเข้าออกจากพื้นที่ โดยไม่ถูกขั้นตอน ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประเทศ ทุกอย่างที่เกิดในภูเก็ตมีผลต่อทั้งประเทศ ขอให้ชาวภูเก็ตทุกคนภูมิใจ เพราะเป็นการทำภารกิจเพื่อชาติ ภูเก็ตกำลังทำหน้าที่เพื่อชาติเพื่อประเทศในการเป็นผู้นำเปิดแซนด์บ็อกซ์ จังหวัดอื่นๆก็ต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต" นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายประเทศไม่เคยมีเที่ยวบินมาประเทศไทย แต่วันนี้เริ่มมาแล้ว แสดงให้เห็นว่ามาตรการภูเก็ตเเซนด์บ็อกซ์ เป็นสิ่งที่รับได้ และยอมปฏิบัติตามกติกากัน ยืนยันว่ารัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนเสมอ โดยเฉพาะตนได้ฝากความห่วงใยผ่านศบค.ผ่านกระทรวงสาธารณสุขและคณะรัฐมนตรี ตนไม่เคยทิ้งประชาชน ไม่เคยทิ้งให้ใครอยู่ข้างหลัง แต่ทุกอย่างต้องค่อยๆแก้ปัญหา วันนี้ไม่ได้แก้ปัญหาโควิด-19 อย่างเดียว แต่ต้อง landscape ประเทศไทยใหม่ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเราต้องช่วยกันพัฒนาตนเอง ต้องมีจิตสำนึกสาธารณะ แบ่งปันเผื่อแผ่ ไม่สนับสนุนให้มีการทุจริตในทุกเรื่อง นี่เป็นมาตรฐานที่ตนต้องการในอนาคต และขอฝากความหวังที่นี่ และทุกคนที่อื่นต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต อย่าไปแปลเจตนาผิด เวลาตนพูดอะไรก็ไปแปลเจตนากันผิดยอมรับว่าตนคิดเยอะ เพราะมีหลายเรื่องให้คิด อย่าทำให้มีอะไรมาดึงขารั้งขา ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นไม่ได้มันช้าไปหมด 

"วันนี้ผมมาภูเก็ตอารมณ์ดี มาตลอดนั่งบนเครื่องก็ถ่ายรูปมาตลอด เมฆ ฟ้า ทะเลสวย ลงพื้นที่ได้รับการต้อนรับดียิ้มแย้มแจ่มใสผมก็มีความสุข" นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าเราเผชิญหน้ากันด้วยความรักความเห็นใจซึ่งกันและกัน  ก็จะเป็นพลังสำคัญ แต่ถ้าทุกคนจะคอยแต่หลบเลี่ยงมาตรการ ก็ไม่มีทางสำเร็จ โดยเฉพาะสถานประกอบการ เห็นอยู่แล้วว่ามีการแพร่ระบาดก็จำเป็นต้องปิด หลายอย่างรัฐบาล และกระทรวงแรงงานดูแลอยู่แล้ว คนที่อยู่นอกระบบประกันสังคม รัฐบาลก็ยังต้องดูแล ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นรัฐบาลและเชื่อหมออย่าเชื่อคนอื่น เพราะทุกคนทำงานอย่างทุ่มเทเสียสละ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนปรบมือเพื่อให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมระบุว่า “การโจมตีซึ่งกันและกันไม่เกิดประโยชน์กับใคร และไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ก็ติดอยู่ที่เดิมขอฝากทุกคนด้วย”

ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ฝากถึงชาวภูเก็ต ให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศ เปิดไฟ มีแสงสีไม่ให้เงียบเหงา เรื่องอื่นๆรัฐบาลจะดูแล และขอบคุณชาวภูเก็ตที่รัก และฝากขอบคุณทุกจังหวัดที่ร่วมมือกัน ในการปฏิบัติตามมาตรการของศบค.ตนเป็นหัวหน้าในการแก้ปัญหา พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกระดับ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองยังไงว่าผู้บริหารมารวมกันอยู่ที่นี่ ขณะที่กรุงเทพฯมีผู้เสียชีวิตจำนวนเพิ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว พร้อมหันหลังเดินออกไป ก่อนกล่าวเพียงสั้นๆว่า" อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้"

อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถิติการใช้ฟ้าทะลายโจรจากเรือนจำเชียงใหม่ถึงกรุงเทพ ที่รัฐบาลควรประกาศออกมาได้แล้วว่า...

อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถิติการใช้ฟ้าทะลายโจรจากเรือนจำเชียงใหม่ถึงกรุงเทพ ที่รัฐบาลควรประกาศออกมาได้แล้วว่า...

เมื่อพิจารณถึงสถานการณ์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6,884 คน และมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 61 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนผู้ป่วย 0.88%

สำหรับการระบาดระลอกสอง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 -31 มีนาคม 2564 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉพาะช่วงนี้ จำนวน 21,979 คน มีผู้เสียชีวิตสะสมช่วงนี้ 33 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนผู้ป่วย 0.15% ซึ่งถือว่าช่วงเวลานี้ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตลดน้อยลงกว่าปี 2563 เพราะแพทย์ในประเทศไทยมีประสบการณ์มากขึ้น ด้วยอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือและบุคคลากรทางการแพทย์มีเพียงพอ

แต่การระบาดระลอกที่สาม ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2564 จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉพาะช่วงนี้จำนวน 207,428 คน มีผู้ป่วยเสียชีวิตเฉพาะช่วงนี้ 1,725 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 0.83% อันสะท้อนให้เห็นว่าอัตราการเสียชีวิตกลับเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564

ช่วงเวลาเดียวกันนี้เองได้เกิดการระบาดโรคที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ ทางกระทรวงยุติธรรมได้ใช้ยาฟ้าทะลายโจรเป็นยาร่วมรักษา ผลปรากฏว่าจำนวนผู้ต้องขัง ถึง ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564 มีนักโทษรวมทั้งสิ้น 6,562 คน ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวมทั้งสิ้น 4,169 คน รักษาหายแล้วถึง 3,980 คน มีผู้เสียชีวิต 3 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 0.072% เท่านั้น ซึ่งน่าอัศจรรย์ว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในประเทศไทยในทุกช่วงเวลา

สรุปสัดส่วนผู้เสียชีวิตกับผู้ติดเชื้อแต่ละช่วงเวลาคือ...

>> ช่วงเวลา 2563 ในประเทศไทย ถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 88 คน

>> ช่วงเวลา 1 มกราคม 2564-31 มีนาคม 2564 ประเทศไทยถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 15 คน

>> ช่วงเวลา 1 เมษายน 2564 -25 มิถุนายน 2564 ประเทศไทยถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 83 คน

>> แต่สำหรับเรือนจำกลางเชียงใหม่ ซึ่งมีการใช้ 'ฟ้าทะลายโจร' ในการลดอาการของผู้ป่วย ช่วงเวลา 1 เมษายน 2564-18 มิถุนายน 2564 ถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 7 คนเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีการรายงานผลของ นายแพทย์เอนก มุ่งอ้อมกลาง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี ซึ่งบรรยายประสบการณ์การนำยาสมุนไพรไทยไปใช้ในสถานการณ์การระบาดเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ในเรือนจำกรุงเทพมหานคร ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขจัดการสัมมนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564

โดย นายแพทย์เอนก มุ่งอ้อมกลาง รายงานการพบว่าเมื่อใช้ 'ผงหยาบ' ฟ้าทะลายโจรในขนาดแคปซูล 400 มิลลิกรัม กิน 4 เม็ดต่อครั้งและ 3 ครั้งต่อวัน หรือประมาณ 4.8 กรัมต่อวันเป็นเวลา 5 วัน ปรากฏว่าผู้ป่วยโควิด-19 ตรวจเชื้อไม่พบเลยในวันที่ 8 ในขณะที่ยาฟาวิพิราเวียร์ต้องใช้เวลา 12 วันที่จะตรวจไม่พบเชื้อเลย

แปลว่าฟ้าทะลายโจรเหนือกว่ายาฟาวิพิราเวียร์ และไม่ต้องสกัดอะไรเหมือนกระชายขาว

ความน่าสนใจคือ ผงหยาบฟ้าทะลายโจร 4.8 กรัมต่อวัน ที่ชนะยาฟาวิพิราเวียร์ได้นั้น เป็นปริมาณใช้น้อยกว่า 'ผงหยาบ' ฟ้าทะลายโจรขั้นต่ำสุดใน 'โรคหวัดธรรมดา' ที่ต้องใช้ผงฟ้าทะลายโจรประมาณ 6 กรัมต่อวันเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นสัญญาณแสดงว่า โรคโควิดจัดการได้ง่ายกว่าและกระจอกว่าโรคหวัดเมื่อใช้ผงหยาบฟ้าทะลายโจรหรือไม่?

และปริมาณผงหยาบฟ้าทะลายโจรที่ใช้ 4.8 กรัมต่อวันนั้น เมื่อตรวจสารแอนโดรกราโฟไลด์นั้นได้เพียง 132 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่ต้องใช้มากถึง 'สารสกัด' จากฟ้าทะลายโจรที่ต้องใช้สารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า 'ผงหยาบ' ฟ้าทะลายเพียงน้อยนิดก็จัดการกับโรคโควิด-19 ได้แล้ว

สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น คือข้อมูลของคุณรสนา โตสิตระกูล มูลนิธิสุขภาพไทย ได้แจกฟ้าทะลายโจรไปในชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นชุมชนแออัด หลายคนนอนห้องเดียวกัน พบว่าผู้ที่ใช้ฟ้าทะลายโจร 4.8 กรัม หรือใช้แคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม จำนวนเพียงแค่ 12 เม็ดต่อวัน

ปรากฏว่ามีหลายบ้านในชุมชนคลองเตย ผู้ที่กินฟ้าทะลายโจรไม่ติดเชื้อ แต่คนที่ไม่ได้กินกลับติดเชื้อ บางคนที่ไม่ได้ใช้ฟ้าทะลายโจรกลับติดเชื้ออยู่คนเดียวในบ้าน ทั้ง ๆ ที่นอนห้องเดียวกันกับคนที่กินฟ้าทะลายโจรด้วยซ้ำไป

ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม News1 ก็มีผู้ติดเชื้อ 2 คน ให้กินฟ้าทะลายโจรทั้งชั้น 'ทุกคน' ครั้งละ 4 แคปซูล วันหนึ่งกิน 4 ครั้ง เมื่อครบ 5 วันก็ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มแม้แต่คนเดียว จึงไม่ลุกลามกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่

และทำให้ต้องคิดกันว่าถึงเวลาที่จะต้องนำ 'ฟ้าทะลายโจร' มาเป็น 'วาระแห่งชาติ' อย่างจริงจังได้แล้ว เตรียมพร้อม 'บำบัดรวมหมู่' ด้วยฟ้าทะลายโจร 'พร้อมกัน' ดังนั้นทุกบ้านทุกที่ดินเตรียมปลูกเสียตั้งแต่วันนี้ให้มากที่สุด

 

 

ที่มา: https://www.facebook.com/123613731031938/posts/4250157078377562/


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ฟันธงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกยูโร 2020 ทีมไหนใครจะผ่านเข้ารอบ?

วันพรุ่งนี้ศึกฟุตบอลยูโร 2020 ⚽ จะกลับมาดวลแข้งกันอีกครั้ง ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย งานนี้มีทีมที่สามารถฝ่าด่านอรหันต์เข้ามาถึงรอบนี้ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์, สเปน, เบลเยียม, อิตาลี, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ยูเครน และอังกฤษ

โดยคืนวันที่ 2 ก.ค. สวิตเซอร์แลนด์จะพบกับสเปน เวลา 5 ทุ่ม และดึกตีสอง จะเป็นการพบกันของเบลเยียมกับอิตาลี ส่วนคืนวันที่ 3 ก.ค. เริ่มต้นด้วยสาธารณรัฐเช็กพบเดนมาร์ก เวลา 5 ทุ่ม และช่วงดึกตีสอง ยูเครนจะพบอังกฤษ

งานนี้ใครมีโอกาสจะคว่ำใคร หรือใครมีดีอะไรกันบ้าง ตามไปดูรายละเอียดที่ THE STATES TIMES นำมาให้ทราบกันได้เลย...


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

องค์การเภสัชกรรม เคาะ! ราคาขายวัคซีนโมเดอร์นา โดสละ 1,100 บาท รพ. เอกชน เริ่มเปิดจอง ก.ค.นี้ ล็อตแรก 3.9 ล้านโดส เข้าไตรมาส 4 ส่วนอีก 1.1 ล้านโดส มาต้นปีหน้า ขณะที่รพ.เอกชน เคาะราคาฉีดเข็มละ 1,700 บาท

นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโมเดอร์นา ว่า องค์การเภสัชกรรม ได้กำหนดราคาขายวัคซีนโมเดอร์นา ให้กับโรงพยาบาลเอกชน ในราคาโดสละ 1,100 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าขนส่ง และค่าประกันภัยรายบุคคล หลังจากนี้ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน จะไปกำหนดราคากลางค่าบริการฉีดที่เป็นอัตราเดียวกันต่อไป

สำหรับการเปิดจอง ทางโรงพยาบาลจะเริ่มประกาศให้ประชาชนสั่งจองหรือยืนยันการจองในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เมื่อได้ยอดจองของแต่ละโรงพยาบาลแล้ว องค์การเภสัชฯ จะได้จัดสรรให้สอดคล้องกับจำนวนที่บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด นำเข้า โดยจะเริ่มทยอยจัดส่งวัคซีนให้ในงวดแรก ในไตรมาส 4/2564 ประมาณ 3.9 ล้านโดส และงวดที่ 2 ในไตรมาสที่ 1/2565 จำนวน 1.1 ล้านโดส

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชน องค์การเภสัชกรรม และบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นา ได้มีความเห็นร่วมกันให้กำหนดอัตราการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา ในราคา 2 เข็ม 3,400 บาท หรือตกเข็มละ 1,700 บาท

โดยค่าบริการดังกล่าวจะเป็นอัตราเดียวกันในทุกโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการ เป็นราคาสุทธิที่รวมค่าวัคซีนโควิด ค่าบริการ และค่าประกันวัคซีนทั้งหมด

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/gpoth.official/photos/a.879647762423872/1648830548838919/


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ประวิตร” เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ย้ำ ให้คุ้มครองเหยื่อ-อย่าเกียร์ว่าง ช่วงโควิดระบาด สั่งฟัน จนท.เอี่ยวค้ามนุษย์ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ครั้งที่2/2564 และการประชุมคณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมีให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ครั้งที่1/ 2564 มีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมประชุม เพื่อขับเคลื่อนแผนและการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่รัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ

โดยที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 เน้นให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน การป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว รวมทั้งเน้นการยกระดับการแก้ปัญหาให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล ในประเด็นการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ และการคุ้มครองผู้เสียหาย

นอกจากนั้นรับทราบผลการดำเนินงานทางวินัยและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ตั้งแต่ปี 2555ถึงปัจจุบัน รวม 77 ราย และได้ปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยให้เพิ่มช่องทางการรับแจ้งเหตุให้สามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และกำหนดความหมายของการค้ามนุษย์ให้ครอบคลุมถึงการนำพาบุคคลเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต  

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าทีทุกระดับที่มุ่งมั่นปฏิบัติงาน พร้อมย้ำเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของรัฐบาลเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ให้เป็นวาระแห่งชาติ ต้องให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนร่วมกันอย่างจริงจังและมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น ต้องไม่ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19เป็นช่องว่างหรือข้อจำกัดของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกระดับในทุกหน่วยงาน พร้อมทั้งย้ำให้เร่งรัดดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเร่งด่วน นอกจากนั้นให้นำผลงานวิจัยและรายงานข้อคิดเห็นที่ตรงกับข้อเท็จจริงไปขับเคลื่อนแก้ปัญหา หากเรื่องใดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทำข้อมูลเสนอผ่าน กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับองค์กรระหว่างประเทศที่เข้าใจคลาดเคลื่อนภายใน 7 วัน ขณะที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ทำงานร่วมกับตำรวจ เพื่อปกป้องและคุ้มครองเหยื่อจากการค้ามนุษย์ทั้งคนไทยและต่างประเทศทันที และแยกระหว่างคดีบังคับใช้แรงงานกับคดีค้ามนุษย์ ให้สืบต้นตอความเชื่อมโยงการค้ามนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทุกกรณี  ส่วนกระทรวงแรงงานต้องผลักดันให้นายจ้างเร่งลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้เข้าในระบบโดยเร็ว โดยต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐหรือการทุจริตโดยเด็ดขาด

‘ดร.สันต์’ นักวิชาการนิด้า เตือน โควิด-19 ระลอก 4 มาแน่ ชี้ 7 วันอันตราย ต้อง "ล็อกดาวน์" ตัวเองอย่างเข้มงวด ทางเดียวที่จะรอด

ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ระบุ Covid-19 : Red Alert Wave#4 ครั้งที่ 2 : การแจ้งเตือนระดับสูงสุด 7 วันอันตราย ยืนยันสถานการณ์ระดับ Exponential ใน กทม. ครับ ขอเตือนพี่น้องชาว กทม. ทุกคนเลยนะครับ วันนี้ กทม. New High ที่ 1,826 ทำให้ยืนยันได้แล้วครับว่า ที่ผ่านมาคือส่วนของหัว Wave#4 แน่ ๆ และจากนี้จะเป็นตัวคลื่นของ Wave#4 ระดับสึนามิ ที่กำลังจะพัดเข้าชายฝั่งครับ ทุกคนใน กทม. และปริมณฑล ต้อง Lockdown (ล็อกดาวน์) ตัวเอง ทำตาม ศบค. อย่างเคร่งครัด ไม่มีทางอื่นสำหรับช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ครับ การ Lockdown อย่างเข้มงวด คือ วิธีเดียวครับที่จะรอด นี่คือช่วง 7 วันอันตรายอย่างยิ่งครับ

ตัวเลขและกราฟใน กทม. :

1.) กราฟ Super Position ของ Wave#4 ยืนยันระดับ % Increase ที่ประมาณ 13% หรือ Doubling Day ที่ประมาณ 6 วัน โดยมีแนวโน้มเป็นแบบนี้มา 2 สัปดาห์แล้วครับ กราฟ Total Case จริงสีแดงเป็น Exponential วิ่งตามเส้นการคำนวณสีส้มประอย่างชัดเจนครับ เรา Lockdown กทม. ปริมณฑล ไปแล้ว กราฟ % Increase ควรจะต้องดีขึ้นภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์ข้างหน้า ถ้าไม่ดีขึ้น เรื่องใหญ่ครับ

2.) กราฟ % Increase ใน กทม. Wave#3 ต่อเนื่อง Wave#4 กำลังยกระดับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. กำลังขึ้นจากระดับ Background ที่ 2% เข้าสู่ 3% และน่าจะไปต่อ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คือช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่เราวิ่งจาก Wave#2 เข้าสู่ Wave#3 ครับ

ตัวเลขและกราฟประเทศไทย :

กราฟ % Increase Wave#3 ต่อเนื่อง Wave#4 หลังจากทรง ๆ อยู่ที่ Background ระดับ 2% ตอนนี้ก็กำลังวิ่งขึ้นเข้าสู่ระดับ 3% และน่าจะไปต่อเช่นกัน ครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์นี้ก็คือช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่เราวิ่งจาก Wave#2 เข้าสู่ Wave#3 เช่นกันครับ

ตัวเลขที่ต้องจับตามองไปข้างหน้า 1 สัปดาห์ :

1.) กทม. ถ้าเข้มงวดกันพอและทำสำเร็จ New High ต่อวันเฉพาะใน กทม. อาจไปแตะระดับ 2,500-3,000 แต่จะหนี Exponential สำเร็จและจะค่อย ๆ ลดลง แต่ถ้าล้มเหลวก็จะได้เห็นระดับ 4 พัน 5 พันต่อวัน

2.) ต่างจังหวัดที่เดิมเป็นสีขาวและเขียว ตัวเลขมีขึ้นเยอะแน่นอน แต่ถ้าจับผึ้งแตกรังได้สำเร็จ ตัวเลขจะไม่ขึ้นไปไหนมาก สัปดาห์หน้าต้องเริ่มนิ่งครับ

คำแนะนำสูงสุด :

1.) กทม. ปริมณฑล และจังหวัดระบาดหนัก ต้อง Lockdown (ล็อกดาวน์) จริงจังที่สุด ออกไปข้างนอกต้องหน้ากาก 2 ชั้น ธุรกิจที่ยังไหว WFH ให้ได้ 80% เดินห้าง เดินตลาด เลี่ยงได้เลี่ยง

2.) ต่างจังหวัดและหัวเมือง จับผึ้งแตกรังทุกตัวให้ได้ และสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้า เฝ้าระวังโรงเรียน ถ้าพื้นที่ไหนมีคนกลับมามากผิดสังเกต และเริ่มมีติดเชื้อ ต้องเรียน Online ทันทีครับ อย่าได้ลังเล

3.) กิจการ ร้านค้าในพื้นที่ระบาดหนักที่ไม่ถูก ศบค. สั่งปิด ผมแนะนำว่า หยุดสัก 1 สัปดาห์ เพราะนี่คือ 7 วันอันตรายจริง ๆ ครับ

4.) คนไทยทุกคน นึกถึงฟอร์มการเล่นแบบแชมป์ที่ตัวเองเคยทำเมื่อปลาย มี.ค. ถึงต้น พ.ค. 63 ปีที่แล้ว ถ้าทำได้แบบนั้น ชนะแน่นอนครับ ขอแค่ทุก ๆ คนที่ยังมีกำลัง ทำแบบที่ตัวเองเคยทำสำเร็จ

5.) บุคคลากรทางการแพทย์มีความสำคัญที่สุด ซึ่งตอนนี้หนักจนไม่รู้จะหนักยังไงแล้ว และกำลังใจที่ดีที่สุดคือ ดูแลตัวเองอย่าให้ติดเชื้อเพิ่ม และถ้าถึงที่สุดแล้วระบบสาธารณสุขล้มลง เราก็ต้องไปช่วยประคองพวกเขา ในฐานะเพื่อน ในฐานะคนในครอบครัว เขาก็เป็นคนธรรมดาเหมือนพวกเรา มีหัวใจ มีความเข้มแข็งได้ อ่อนแอได้ มีทุกข์มีโศก ท้อแท้ สิ้นหวังได้เช่นกัน

6.) ธุรกิจที่กำลังจะล้มหายตายจาก คนที่บ้านกำลังจะโดนยึด ผมอยากให้ธนาคาร นายห้างใหญ่ เจ้าสัวใหญ่ ท่านต้องมีเมตตาจริง ๆ จัง ๆ แล้วครับ ท่านไม่ช่วย เขาไม่รอดครับ

7.) แม่ที่ไม่มีเงินจะซื้อนมให้ลูก ไม่มีอาหารจะตกถึงท้องแล้ว ทุกคนที่กำลังสิ้นหวัง กำลังจะยอมแพ้ ขอให้อย่าได้สิ้นหวัง ขอให้ตะโกนออกมาดัง ๆ ยังมีคนอีกมากที่แข็งแรงและพร้อมจะช่วยเหลือ ผมเชื่อว่าประเทศนี้ยังไม่สิ้นหวัง ยังคงมีความดีงามคงเหลืออยู่อีกมากมายครับ

Wave#4 กลับมาหาพวกเราเร็วมาก เร็วกว่าที่ผมกังวลไว้เสียอีก ทุก Indicator ที่ผมใช้ตรวจจับ Wave รหัสแดงทั้งหมดแล้ว เราไม่ทันแล้ว แต่ก็ต้องสู้ครับ ต่อให้ Wave มันซัดมาแรงแค่ไหน เดี๋ยวมันก็จะต้องผ่านไปครับ ขอให้หลบเข้าที่กำบัง ใช้ชีวิตอย่าได้ประมาท รักษาตัวเองและครอบครัวให้รอด ดูแลสุขภาพ ช่วยเหลือผู้คนให้มากที่สุด รักษาความดีและจิตวิญญาณที่ถูกต้องเอาไว้ให้ได้ และที่สุดแล้วเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไป ผมหวังว่าทุกคนจะยังอยู่ที่ตรงนั้นและจะได้มาร่วมด้วยช่วยกันสร้างประเทศนี้ขึ้นมาใหม่ครับ

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=6056834461023890&id=100000921874426


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“โรม” เปิดหลักฐาน 2 ตำรวจสันติบาลข่มขู่ถึงคอนโด เผยรู้ชื่อ เชื่อเกี่ยวปมอภิปรายตั๋วช้าง

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงความคืบหน้ากรณีที่มีบุคคลไม่ทราบชื่อติดตามคุกคามตนและภรรยามาถึงที่พัก ว่า ขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเข้ามาคุกคามคือหน่วยงานสันติบาล ตนคิดว่าหน่วยงานของรัฐไม่สามารถทำภารกิจแบบนี้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในข้อกฎหมายยังไม่ชัด ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร ทั้งนี้การที่อยู่ๆ มีสันติบาลมาอ้างว่าเป็นเพื่อนของภรรยาของตน จะขอขึ้นไปบนห้อง นั่นไม่ใช่เรื่องปกติ ตนขอสร้างมาตรฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรู้ว่าไม่สามารถใช้อำนาจหน้าที่ซึ่งเป็นตำแหน่งทางราชการมาข่มขู่ประชาชนได้ 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ค ที่ผ่านมา โดยรูปจากกล้องวงจรปิดของอาคารที่พักอาศัยของตนปรากฏเป็นชาย 2 คน สวมหน้ากากอนามัยไม่ปรากฏใบหน้าชัดเจน ซึ่งเมื่อตนได้แจ้งความที่สภ.รัตนาธิเบศร์ มีประชาชนให้เบาะแสทางเฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัวว่าชาย 2 คนที่เข้ามาเป็นใคร ขณะที่สภ.รัตนาธิเบศร์ ก็มีหนังสือมาให้หนึ่งฉบับระบุว่า เป็นสันติบาลจริงๆ นอกจากนี้ยังมีพลเมืองดีได้ระบุว่าสันติบาลที่เข้ามานั้น หนึ่งในนั้น คือ รองสารวัตรกองกำกับการสันติบาล 1    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรังสิมันต์ได้ชี้จุดข้อสังเกตของตำรวจคนดังกล่าว ทั้งการแต่งกายและรองเท้า นาฬิกาที่ตรงกัน เงาในแว่นตาที่สะท้อนรถยนต์ของตำรวจรายดังกล่าว เทียบกับภาพถ่ายของนายตำรวจคนนี้ด้วย

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำอีกว่า ตนไม่เคยมีความโกรธแค้นและไม่ได้รู้จักกับตำรวจนายนี้มาก่อน จึงเป็นไปได้ว่าการมาของตำรวจนายนี้เป็นการมาโดยได้รับคำสั่ง คำถามคือคำสั่งนั้นมาจากใคร เหตุใดตำรวจสันติบาล 2 คนบุกเข้ามาที่คอนโดเพื่อหวังจะเจอภรรยาของตน ภรรยาของตนก็ไม่เคยทำความผิดใด ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การข่มขู่คุกคามแล้วจะเรียกว่าอะไร จากข้อมูลเชิงลึกที่ตนทราบมีความเป็นไปได้ว่ากระทำดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นจากอภิปรายไม่ไว้วางใจตั๋วช้าง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้มีอำนาจจำนวนมากเสียผลประโยชน์ 

เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความผิดปกติในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ความจริงแล้วควรจะปกติ เพราะมีการเลือกตั้งและมีสภาฯ แต่สิ่งที่เห็นมาโดยตลอดคือมีการข่มขู่คุกคามแต่จับมือใครดมไม่ได้ แต่รอบนี้ตนทราบชื่อของตำรวจที่เข้ามาคุกคาม ตนจึงหวังว่าในรอบนี้จะเป็นมาตรฐานว่าจะใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการไปข่มขู่คุกคามใครไม่ได้ แม้ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าจะทำเช่นไรต่อไป แต่ตนอยากเห็นการสร้างมาตรฐานและก็หวังว่าเราจะไม่เห็นสันติบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือใครก็ตามไปข่มขู่คุกคามประชาชนอีก

บอร์ดสับปะรดไฟเขียวแผนดันส่งออก สร้างมูลค่าเพิ่ม

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ เห็นชอบแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานต่างด้าวในอุตสาหกรรมสับปะรด โดยให้กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เร่งรัดการปรับปรุงบันทึกข้อตกลงด้านการจ้างงานแรงงานระยะสั้นในภาคการเกษตรกับประเทศ ลาว กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม และนำกลับมารายงานให้ที่ประชุมทราบ

ทั้งนี้ยังเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านสับปะรด พ.ศ. 2563-2565 ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพและบริหารจัดการผลิต เพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมแปรรูป เพิ่มศักยภาพการส่งออก โดยที่ประชุมเน้นย้ำถึงการใช้นโยบายเศรษฐกิจ BCG (เศรษฐกิจชีวภาพ/Bio เศรษฐกิจหมุนเวียน/Circular และเศรษฐกิจสีเขียว/Green) ของรัฐบาลเป็นแนวทางการดำเนินการของทุกภาคส่วน ส่งเสริมการนำนวัตกรรมมาใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสับปะรด เพื่อเกิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้เตรียมพร้อมการบริหารจัดการผลผลิตสับปะรดช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งคาดว่าจะมีผลผลิตออกมามากในช่วง ต.ค. - ธ.ค. ทั้งนี้ 10 จังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตสับปะรดของประเทศ ได้มีความพร้อมในเรื่องนี้อยู่แล้ว เป็นการดำเนินการของคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) ร่วมกับหลายกระทรวง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ได้จัดคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด ที่จะมาเป็นหลักในการกระจายผลผลิต การเพิ่มช่องทางการขายonline และ offline การส่งเสริมการบริโภค การเชื่อมโยงตลาดล่วงหน้า การทำสัญญาข้อตกลงกับโรงงานแปรรูป การส่งเสริมการแปรรูป

สำหรับการส่งออกสับปะรดรวมทุกผลิตภัณฑ์ ตัวเลขช่วง ม.ค.- เม.ย. 64 มีมูลค่า 6.64 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปี 63 ที่มีมูลค่า 5.83 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.14 % อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มการส่งออกจะดีขึ้น แต่หากเทียบกับช่วงก่อนปี 2562 พบว่ามีมูลค่าลดลง 

“วิษณุ” ชี้ สภาฯล่มไม่ตื่นเต้น แค่ครั้งแรกในสมัยนี้ ระบุโควิดอาจเป็นเหตุหรือแค่เทคนิคทางกฎหมาย ห่วงประชุมร่วมรัฐสภา ล่ม อาจกระทบเรื่องสำคัญ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เหตุสภาล่มในช่วงพิจารณาร่างพ.ร.บ.วัตถุอันตราย (ฉบับที่) พ.ศ. … ว่า ไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่สภาฯล่มเพราะปัญหาส.ส.กลัวโควิด หรือไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากมีหลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรา 6 ของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จึงดึงกันไปมา 

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าหากกฎหมายดังกล่าวผ่านการพิจารณา เกรงว่าสารเคมีอันตราย 3 ชนิดที่ถูกห้ามใช้จะกลับมาใช้ได้ นายวิษณุ กล่าวว่า “นี่ไงคือปัญหาที่ทำให้สภาล่ม ว่าเป็นเพราะโควิด-19 หรือเพราะตัวร่างกฎหมายดังกล่าว” 

เมื่อถามย้ำว่าร่างเดิมของรัฐบาลกำหนดให้ 3 สารเคมีสามารถกลับมาใช้ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอบไม่ถูก และได้ยินมาว่ากระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำงานกันอยู่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์สภาล่มจะกระทบภาพลักษณ์ต่อสายตาประชาชนอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้ล่มบ่อย สมัยประชุมนี้เพิ่งล่มครั้งแรก เราต้องเข้าใจเพราะมีเหตุโควิด แม้สภาฯจะบอกไม่ต้องกลัวเพราะมีมาตรการ แต่ถ้าส.ส.เขากลัวก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร และขอย้ำว่าที่ล่มไม่รู้เป็นเพราะกลัวโควิดหรือเพราะขัดแย้งกันเรื่องกฎหมาย 

เมื่อถามว่าหากเป็นเหตุผลกลัวโควิดจะส่งผลกระทบต่อกฎหมายสำคัญของรัฐบาลหรือไม่รวมถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 65 นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องคอยดูกันต่อไป มีเหตุตรงไหนก็ป้องกันและแก้ไขตรงนั้น เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งไม่มีติดเชื้อเพิ่มคนจะได้วางใจ ส่วนกฎหมายงบประมาณ 65 ยังไม่ต้องกังวลเพราะอีกนาน แต่เราคงไม่รอให้ไปถึงครบ 105 วัน นอกจากนั้นยังมีกฎหมายที่สำคัญกว่านั้นเช่นกฎหมายที่ต้องประชุมร่วมรัฐสภา 

เมื่อถามว่าประธานวิปรัฐบาลอ้างว่าเหตุที่ล่มเป็นเพราะเทคนิคในการคัดค้านกฎหมาย นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เหมือนการประชุมสภาฯเวลาคนไม่เห็นด้วยก็ใช้วิธีวอล์กเอาท์ หรือใช้วิธีเดินออกกันแล้วนับองค์ประชุม เป็นเทคนิคของสภาที่มีเยอะมากมายเท่าที่เห็น อย่าเป็นเรื่องตื่นเต้นอะไร แต่ถ้าเป็นกฎหมายสำคัญแล้วเป็นแบบนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ แต่กรณีนี้อาจจะไม่ใช่กรณีสำคัญมีการถกเถียงมาหลายครั้ง และตนยังนึกในใจว่าแม้จะไม่มีโควิด แต่ถ้ายอมหรือไม่ยอมกันขึ้นมาก็อาจมีการวอล์กเอาท์เกิดขึ้นได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ากฎหมายดังกล่าวถือเป็นกฎหมายการเงินถ้าลงมติแล้วไม่ผ่านกระทบรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะผ่านวาระหนึ่งมาแล้ว ถ้าจะกระทบคือตกไปตั้งแต่วาระหนึ่ง เรื่องนี้ไม่มีกฎหมายบังคับแต่เป็นมารยาทและธรรมเนียมที่ถือมา เหมือนกรณีถ้าสภาฯไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็ต้องหาทางออกเช่นลาออกหรือยุบสภา เหมือนที่ประเทศอังกฤษและประเทศไทยยึดถือ 

เมื่อถามถึงกรณี นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ ออกมาระบุใครอยากรู้รายชื่อส.ส.ไม่เข้าประชุมให้มาดูได้ที่สภาฯเพื่อตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งแต่ไป แบบนี้เห็นด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่อง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top