Friday, 16 May 2025
Hard News Team

‘พีระพันธุ์’ แจ้งข่าวดี!! ผลิตชุดโซลาร์รูฟติดบ้านราคาถูกสำเร็จ ตั้งเป้าวางขายปีหน้า หวังช่วยประชาชนพ้นบ่วงค่าไฟแพง

‘พีระพันธุ์’ แจ้งข่าวดี!! ก.พลังงาน สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ผลิตต้นแบบอุปกรณ์ระบบโซลาร์ราคาถูกสำเร็จ ตั้งเป้าวางจำหน่ายปีหน้า ปลดภาระค่าไฟประชาชน 

เมื่อวันที่ (20 พ.ย. 67) ที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เดินทางไปตรวจราชการ ณ  ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี  เพื่อเยี่ยมชมการทดสอบเครื่อง Inverter ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักของระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์  ที่เป็นผลงานการออกแบบของ นายทวีชัย ไกรดวง หรือ ครูน้อย พร้อมเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการทดสอบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMC) และห้องปฏิบัติการทดสอบแบตเตอรี่ โดยมีคณะผู้บริหาร สวทช.ให้การต้อนรับ

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า การมาตรวจราชการครั้งนี้เกี่ยวเนื่องกับการลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนตามที่ตนได้เคยกล่าวไว้ 2 เรื่อง  นั่นคือ การปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์ รูฟ ให้ทำได้สะดวกรวดเร็วขึ้น  และการจัดหาอุปกรณ์สำหรับผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ประชาชนในราคาถูก  เพราะถึงแม้กระทรวงพลังงานจะพยายามตรึงค่าไฟไว้ที่ระดับ 4.18 บาท โดยไม่ได้ขยับขึ้นมาตลอด แต่ตนเข้าใจว่าปัญหาค่าไฟก็ยังเป็นภาระของพี่น้องประชาชนอยู่ ดังนั้น สิ่งที่จะลดปัญหาตรงนี้ได้อย่างยั่งยืน ก็คือ การปรับปรุงกฎหมาย และการจัดหาอุปกรณ์ระบบโซลาร์ราคาถูก ซึ่งเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่สามารถประหยัดค่าไฟไปได้มาก

“ปัจจุบัน อุปกรณ์เกี่ยวกับระบบโซลาร์ในท้องตลาดมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น สิ่งที่ผมจะทำต่อเนื่องจากการปรับปรุงกฎหมาย ก็คือ การผลิตอุปกรณ์ระบบโซลาร์เซลล์ ที่เรียกกันว่า โซล่า รูฟ  ออกจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาถูก และถือเป็นครั้งแรกของกระทรวงพลังงานที่มีนโยบายในแนวทางนี้  โดยล่าสุด คณะทำงานของกระทรวงพลังงานได้ผลิตต้นแบบของเครื่องอินเวอร์เตอร์ (Inverter)  ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้สำเร็จแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพ ความเสถียร และความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยเราตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถผลิตอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างครบชุดเพื่อจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนได้ในปี 2568 ที่จะถึงนี้” นายพีระพันธุ์กล่าว

สำหรับอุปกรณ์ต้นแบบที่นำมาทดสอบครั้งนี้ เป็นผลงานการออกแบบของ นายทวีชัย ไกรดวง หรือ ครูน้อย  ซึ่งเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์หลายอย่างเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชน และเป็นหนึ่งในคณะทำงานของกระทรวงพลังงาน  โดยเครื่อง Inverter ต้นแบบนี้สามารถผลิตเพื่อจำหน่ายได้ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานมีนโยบายที่จะส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ และมีแผนที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับพี่น้องประชาชนในราคาถูกในปี  2568 เพื่อช่วยลดภาระจากปัญหาค่าไฟแพงอีกทางหนึ่ง

"สิ่งที่ผมได้พูดไป  ผมทำจริงทุกเรื่อง กระทรวงพลังงานภายใต้การดำเนินนโยบายตามแนวทาง รื้อ-ลด-ปลด-สร้าง ของผม พูดจริง ทำจริงทุกเรื่อง และพร้อมทำให้เห็น ผมมั่นใจว่า เมื่อกฎหมายมี อุปกรณ์มี  พี่น้องประชาชนจะสามารถหลุดพ้นจากปัญหาภาระค่าไฟที่เป็นอยู่ได้อย่างแน่นอน “ นายพีระพันธุ์ กล่าว

โซเชียลญี่ปุ่นวิจารณ์นายกฯ ไม่ลุกขึ้นขณะทักทายผู้นำชาติอื่น

(21 พ.ย.67) นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่นถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับ 'มารยาทที่ไม่เหมาะสม' หลังจากมีคลิปวิดีโอจากการประชุมสุดยอด APEC ที่เปรู เผยให้เห็นว่าเขาทักทายผู้นำประเทศอื่นในขณะที่ยังคงนั่งอยู่ 

ในคลิปดังกล่าว อิชิบะกำลังนั่งใช้สมาร์ทโฟน ในขณะที่ผู้นำประเทศอื่น อาทิ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา และนายอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เดินเข้ามาทักทายนายกฯ ญี่ปุ่นคนใหม่ แต่นายอิชิบะเพียงแค่เงยหน้าจากโทรศัพท์และจับมือกับผู้นำเหล่านั้น แต่ไม่ได้ลุกขึ้นยืน 

นอกจากนี้ ยังปรากฏภาพเขายังคงนั่งขณะจับมือกับประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ผู้นำเจ้าภาพของเปรู  

"น่าอายจริงๆ" ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่งโพสต์เป็นภาษาญี่ปุ่น ขณะที่อีกคนกล่าวว่า "ไม่ใช่แค่เรื่องที่เขาเป็นนายกฯ แต่นี่เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อสำหรับผู้ใหญ่คนหนึ่ง"

นอกจากนี้ อิชิบะยังถูกวิจารณ์ว่ามีท่าทีไม่สุภาพ หลังจากมีคลิปวิดีโออีกชุดที่แสดงให้เห็นว่าเขานั่งกอดอกระหว่างชมการแสดงเต้นรำในพิธีต้อนรับการประชุม APEC  

อิชิบะเพิ่งเปิดตัวในเวทีการทูตในฐานะผู้นำญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้ว ในการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ที่ประเทศลาว

นายกอังกฤษไม่ขอวิจารณ์จีน หลังฮ่องกงจำคุก แก๊งโจชัว หว่อง หวั่นกระทบเศรษฐกิจ

(21 พ.ย. 67) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ปฏิเสธที่จะกล่าววิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินจำคุกนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย 45 คนในฮ่องกง ที่ศาลฮ่องกงมีคำตัดสินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยผู้นำอังกฤษให้เหตุผลว่าการแสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาควรเกิดขึ้นในที่ส่วนตัว เพื่อไม่ให้กระทบต่อเป้าหมายการสร้าง "ความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิด" กับจีน  

รายงานระบุว่าสตาร์เมอร์ อยู่ระหว่างการร่วมประชุม G20 ที่ประเทศบราซิล และได้มีโอกาสหารือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง โดยนายกอังกฤษยอมรับว่า เขาได้พูดคุยอย่างตรงไปตรงมากับผู้นำจีน เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง อย่างไรก็ตาม เขาเลือกที่จะไม่กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวต่อสาธารณะ

ในระหว่างการแถลงข่าว เมื่อถูกถามโดย Financial Times ว่าจะประณามการกวาดล้างผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำ "การล้มล้าง" ในหมู่นักวิชาการ นักข่าว และนักการเมืองในฮ่องกงหรือไม่ สตาร์เมอร์ปฏิเสธและกล่าวว่า

"ในประเด็นที่เรามีความเห็นต่าง เราได้พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เช่นเดียวกับที่เราทำเมื่อวานเกี่ยวกับฮ่องกง สิ่งงที่ผมไม่ทำคือสูญเสียโอกาสสำหรับเศรษฐกิจของเราในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าที่ดีขึ้น ผมต้องการความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพราะจีนเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่พูดถึงความแตกต่างเหล่านั้นอย่างตรงไปตรงมา นั่นคือแนวทางที่ผมใช้ และจะใช้ต่อไป"  

การประชุมแบบตัวต่อตัวระหว่างสตาร์เมอร์และสีในริโอเดจาเนโรเมื่อวันจันทร์ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำอังกฤษได้พบกับประธานาธิบดีจีนอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีของอังกฤษที่เปิดกว้างมากขึ้นต่อปักกิ่ง  

ความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับจีนเย็นชาลง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ พบกับสีในปี 2018 ต่อมาภายใต้การนำของริชี ซูนัค ความสัมพันธ์ยังคงตึงเครียด โดยสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นดำเนินนโยบายที่แข็งกร้าวต่อจีน 

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่พรรคแรงงานเข้ามาบริหารในเดือนกรกฎาคม รัฐบาลใหม่ได้มุ่งเน้นความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับจีนมากขึ้น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ เดวิด แลมมี ได้เดินทางเยือนจีนแล้ว และมีแผนที่ทั้งสตาร์เมอร์และรัฐมนตรีการคลังราเชล รีฟส์ จะเดินทางไปในปีหน้า    

สตาร์เมอร์ยังเน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและจีนควรปราศจาก "ความคลางแคลงใจ" และกล่าวถึงการเปิด "บทสนทนาใหม่" กับปักกิ่งในเรื่องอื่นที่ท้าทายร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม เซอร์เอียน ดันแคน สมิธ อดีตหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ได้วิจารณ์ท่าทีของสตาร์เมอร์ที่ไม่แสดงจุดยืนวิพากษ์วิจารณ์จีนในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยระบุว่า "เขาและรัฐบาลของเขาหมกมุ่นกับการค้าเสียจนพร้อมจะมองข้ามความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น"

ททท. ผนึก EVA Air ขยายความร่วมมือต่อเนื่อง หนุนไทยสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลก

'ศศิกานต์' เผย 'ททท. ร่วมกับ EVA Air ขยายความร่วมมือ 4 ปี' เดินหน้าผลักดันไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลก

เมื่อวานนี้ (20 พ.ย.67) น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้ายกระดับเสริมมาตรการขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ EVA Air ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent: LOI) ขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 ปี กระตุ้นตลาดหลัก ทั้งระยะใกล้และระยะไกล ผ่านเครือข่ายเส้นทางการบินของ EVA Air และร่วมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลก

น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า การขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่าง ททท. และ EVA Air ครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือครั้งก่อนในปี พ.ศ.2566 ด้วยศักยภาพของพันธมิตรสายการบิน EVA Air ที่มีเครือข่ายและบริการที่ครอบคลุมกลุ่มตลาดเป้าหมายทั่วโลก ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออก อเมริกาเหนือและยุโรป สามารถอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมายังประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบายและเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ไม่เพียงเท่านั้น ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องนี้ จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถนำเสนอเสน่ห์ไทย วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม และมิตรไมตรีอันอบอุ่นของคนไทยไปทั่วโลก รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจด้านการท่องเที่ยว ขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก

“ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของ EVA Air และ ททท. จะนำมาซึ่งประโยชน์แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ทั้งสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและยกระดับประสบการณ์การเดินทาง ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งในการสะท้อนศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวแก่กลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดคุณภาพและกลุ่มตลาดใหม่” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว

รัฐมนตรีอิ่ม มอบแนวทางการขับเคลื่อนและพัฒนากองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพิ่มศักยภาพ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้สมาชิกกองทุนฯ ใช้เทคโนโลยีแฟลตฟอร์มดิจิทัล สนับสนุนให้สมาชิกกองทุนฯ

(21 พ.ย. 67) “นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (คกส.) ครั้งที่ 11/2567 และคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร  (อกส.กทม.) มอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีนายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ยินดีทีมีส่วนร่วมสานต่อนโยบายพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสตรี โดยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเท่าเทียมในการประกอบอาชีพของสตรีให้เกิดขึ้น รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเงินทุนหมุนเวียนให้สมาชิกสตรีที่ตั้งใจพัฒนาสินค้า บริการ สามารถเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดกิจการของกลุ่ม พร้อมๆ กับการเสริมสร้างวินัยทางการเงินของกลุ่มสมาชิกกองทุน จะทำงานร่วมกับคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกรมการพัฒนาชุมชน ในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั้งปัญหาด้านโครงสร้างบุคลากร ปัญหาการไม่ได้รับสนับสนุนงบประมาณเงินอุดหนุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เนื่องจากในช่วงพิจารณางบประมาณปี 2568 ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ก่อนมาสู่รัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งมีความตั้งใจสนับสนุนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้เป็นกองทุนที่ดีกว่าเดิม มุ่งหวังที่จะเพิ่มเงินทุนให้กับลูกหนี้ชั้นดี เพิ่มโอกาสให้กลุ่มสมาชิกสตรีรายใหม่ๆ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มมากขึ้น สะดวกขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลสมาชิก/การยื่นความประสงค์กู้ยืมเงินกองทุนกับแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เป็นต้น

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญกุศลและรับฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือ เนื่องในวันกองทัพเรือ

(20 พ.ย. 67) กองเรือยุทธการ จัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันกองทัพเรือ โดยมี พลเรือโท กรวิทย์ ฉายะรถี รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ พลเรือโท อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้นำกำลังพลจากหน่วยในสังกัดร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตร ณ กองบัญชาการกองเรือยุทธการ เวลา 07.00 น. และร่วมพิธีทำบุญเลี้ยงพระ ณ พุทธสถานกองเรือยุทธการ เวลา 10.00 น. โดยในเวลา 08.30 น. กำลังพลจากหน่วยงานในสังกัดทัพเรือภาคที่ 1 ได้แก่ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1, เรือในกองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1, ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด และศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง ได้ตั้งแถวรับฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือโดยพร้อมเพรียง ณ ที่ตั้งหน่วย นอกจาก กิจกรรมทางศาสนาและการรับฟังสารแล้ว ทัพเรือภาคที่ 1 ยังจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาทำความสะอาดบริเวณอุโบสถวัดทรงเมตตา เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสร้างความสามัคคีในหมู่กำลังพล อีกด้วย ความสำคัญของวันกองทัพเรือ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญที่ระลึกถึงการก่อตั้งโรงเรียนนายเรืออย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2449 โดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาสำหรับทหารเรือ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการปกป้องประเทศ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาทหารเรือยังประเทศอังกฤษ และกลับมาก่อตั้งโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม ตั้งแต่นั้นมา กองทัพเรือได้ยึดถือวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น “วันกองทัพเรือ” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ไทยที่ทรงวางรากฐานกิจการทหารเรือ ให้มั่นคงจนถึงปัจจุบัน

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ หารือผู้บริหาร Nokia ชวนร่วมพัฒนา 5G Application - จัดตั้ง Nokia Innovation Center ส่งเสริมทักษะแรงงานดิจิทัลในไทย 

เมื่อวันที่ (19 พ.ย.67) ตามเวลาสาธารณรัฐฟินแลนด์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงดีอี และ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองอำนวยการใหญ่ พร้อมคณะทำงานเข้าเยี่ยมชม Nokia Executive Experience Center ศูนย์แสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม 5G/6G, IoT, Private Wireless, Cloud, Network Automation ณ เมืองเฮลซิงกิ โดยมี Mr. Karol Mattila, Head of Government Relations, Nokia ให้การต้อนรับ

โดย นายประเสริฐ พร้อมคณะได้รับฟังการบรรยายภารกิจการดำเนินงานของ Nokia Executive Experience Center และรับชม Tech Showcases ต่าง ๆ โดย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ได้เชิญชวน Nokia ร่วมพัฒนา หรือมีส่วนในการร่วมลงทุน 5G Application ในไทย และจัดตั้ง Nokia Innovation Center ในพื้นที่ Thailand Digital Valley อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อร่วมส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่แรงงานและนักศึกษา พร้อมระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และมีนโยบาย Go Cloud First ที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและรัฐสามารถเข้าถึงคลาวด์ มีการมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ใช้ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจัดทำหลักสูตรที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเทคโนโลยี และมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับทักษะดิจิทัลแก่กำลังคนและบุคลากรของประเทศ

จากนั้นนายประเสริฐ พร้อมด้วย นางสาวชวนาถ ทั่งสัมพันธ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐฟินแลนด์ และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เข้าเยี่ยมคารวะ Mr. Ville Tavio, Minister for Foreign Trade and Development ณ Ministry for Foreign Affairs of Finland พร้อมหารือแนวทางการสานต่อความร่วมมือการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัล และการสนับสนุนการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศไทย

ทั้งนี้มีการหารือประเด็นการพิจารณาต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่ลงนามไว้ระหว่าง กระทรวงดีอี กับ The Ministry of Transport and Communications ฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561 และมีการต่ออายุเมื่อปี 2565 แต่ปัจจุบัน MOU ดังกล่าวหมดอายุไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเนื้อหาเดิมให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการพัฒนาทักษะดิจิทัล การแบ่งปันข้อมูล และการลงทุนด้านเทคโนโลยี ซึ่งประเทศไทยมีความประสงค์ให้เกิดการต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว และจะเพิ่มเติมเนื้อหาด้านจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติของไทย อาทิ การสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การยกระดับระบบนิเวศดิจิทัลสตาร์ทอัพ และการเชิญชวนให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของฟินแลนด์เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

โดยกรณีดังกล่าว Mr. Tavio เห็นด้วยและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือต่อเนื่อง พร้อมแสดงความเห็นในประเด็นการสนับสนุนการลงทุนว่า นอกเหนือจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของฟินแลนด์อย่าง Nokia ที่มีการลงทุนและดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยแล้ว ยังมีการลงทุนอื่น เช่น การตั้งฐานการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของ Salo Tech (Thailand) Ltd. บริษัทโซลาร์เซลล์สัญชาติฟินแลนด์ที่เข้ามาลงทุนและดำเนินกิจการในจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างไทยและฟินแลนด์ โดยความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่การพัฒนาด้านพลังงานสะอาด และเมืองอัจฉริยะ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังแสดงความมุ่งมั่นที่จะผลักดันความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (Thai – EU FTA) ในด้านเศรษฐกิจและการค้าดิจิทัล ซึ่งจะช่วยรองรับและผลักดันนโยบายการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของกระทรวงอีกด้วย

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง นำกำลังพลแถวฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือเนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี 2567

(20 พ.ย.67) พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมผู้บังคับบัญชาหน่วย นำกำลังพลแถวฟังสารจาก ผู้บัญชาการทหารเรือ เนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี 2567 ทางวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ ณ กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกาธน พุทธศักราช 2458 พระบาทสมเด็จพระจุสจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม ธนบุรี กองทัพเรือ จึงได้ถือเอาวันมหามงคลนี้เป็น 'วันกองทัพเรือ' ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญในการปกป้องอธิปไตยของชาติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตลอดจนความมั่นคงของประเทศ และเหนือสิ่งอื่นใดคือการพิทักษ์รักษา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริ การสนับสนุนนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชน 

ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการขับเคลื่อนและพัฒนากองทัพเรือ ให้เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการตามวิสัยทัศน์ที่กองทัพเรือตั้งไว้

21 พฤศจิกายน พ.ศ.2410 หนังสือแสดงกิจจานุกิจ ตีพิมพ์เล่มแรก ต้นแบบหนังสือไทยทันสมัย แสดงความรู้หลากแขนงสู่นานาชาติ

“หนังสือแสดงกิจจานุกิจ” ถือเป็นหนังสือไทยเล่มแรกที่รวบรวมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และศาสนาอย่างทันสมัย จัดพิมพ์โดย เจ้าพระยาทิพากรวงษ์มหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) ข้าราชการในสมัยรัชกาลที่ 4 ผู้ซึ่งเล็งเห็นว่าตำราไทยในยุคนั้นขาดสาระสำคัญ ไม่สามารถกระตุ้นความคิดหรือให้ความรู้ที่ล้ำสมัย ท่านจึงรวบรวมข้อมูลใหม่ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในสังคมไทยมาจัดทำเป็นหนังสือเล่มนี้  

นอกจากการนำเสนอความรู้ในด้านต่างๆ แล้ว หนังสือเล่มนี้ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อตอบโต้กระแสการโจมตีพุทธศาสนาจากหมอสอนศาสนาที่พยายามเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในไทย “หนังสือแสดงกิจจานุกิจ” ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในไทยและต่างประเทศ และบางส่วนของเนื้อหายังได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ ตีพิมพ์ในกรุงลอนดอน เมื่อปี พ.ศ. 2413 (ค.ศ. 1870) ในชื่อ The Modern Buddhist (เดอะ โมเดิน บุดดิสท์) 

หนังสือเล่มนี้ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นงานเขียนสำคัญที่ให้ความรู้ด้านพระพุทธศาสนา และยังถือว่าเป็นหนึ่งในหนังสือไทยเล่มแรกที่ได้รับการแปลและจัดจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเผยแพร่ภูมิปัญญาไทยสู่เวทีโลก

‘พีระพันธุ์’ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา รับฟังปัญหาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ

‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ รองนายกรัฐมนตรีและรมว. พลังงาน พร้อม ‘เจือ ราชสีห์’ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา รับฟังปัญหากำจัดและแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า

เมื่อวันที่ (18 พ.ย. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายศาสตรา ศรีปาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา นายสมโภชน์ โชติชูช่วง นายปรีชา สุขเกษม และคณะได้เดินทางมารับฟังและดูโรงงานกำจัดและแปรรูปขยะเป็นไฟฟ้า บริษัท จีเดค จำกัด ซึ่งได้สัมปทานจากเทศบาลนครหาดใหญ่ และตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานสั่งหยุดดำเนินงานเมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดปัญหามาอย่างต่อเนื่อง 

“ทางออกของปัญหาเรื่องนี้คือการให้เทศบาลนครหาดใหญ่สั่งเลิกสัญญากับทางบริษัท จีเดด จำกัดซึ่งเป็นคู่สัญญาที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามสัญญาเพื่อที่จะให้รายใหม่เข้ามาดำเนินการจัดการขยะร่วมกับเทศบาลต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top