Friday, 16 May 2025
Hard News Team

นายกอังกฤษไม่ขอวิจารณ์จีน หลังฮ่องกงจำคุก แก๊งโจชัว หว่อง หวั่นกระทบเศรษฐกิจ

(21 พ.ย. 67) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ปฏิเสธที่จะกล่าววิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินจำคุกนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย 45 คนในฮ่องกง ที่ศาลฮ่องกงมีคำตัดสินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยผู้นำอังกฤษให้เหตุผลว่าการแสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาควรเกิดขึ้นในที่ส่วนตัว เพื่อไม่ให้กระทบต่อเป้าหมายการสร้าง "ความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิด" กับจีน  

รายงานระบุว่าสตาร์เมอร์ อยู่ระหว่างการร่วมประชุม G20 ที่ประเทศบราซิล และได้มีโอกาสหารือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง โดยนายกอังกฤษยอมรับว่า เขาได้พูดคุยอย่างตรงไปตรงมากับผู้นำจีน เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง อย่างไรก็ตาม เขาเลือกที่จะไม่กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวต่อสาธารณะ

ในระหว่างการแถลงข่าว เมื่อถูกถามโดย Financial Times ว่าจะประณามการกวาดล้างผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำ "การล้มล้าง" ในหมู่นักวิชาการ นักข่าว และนักการเมืองในฮ่องกงหรือไม่ สตาร์เมอร์ปฏิเสธและกล่าวว่า

"ในประเด็นที่เรามีความเห็นต่าง เราได้พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เช่นเดียวกับที่เราทำเมื่อวานเกี่ยวกับฮ่องกง สิ่งงที่ผมไม่ทำคือสูญเสียโอกาสสำหรับเศรษฐกิจของเราในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าที่ดีขึ้น ผมต้องการความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพราะจีนเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่พูดถึงความแตกต่างเหล่านั้นอย่างตรงไปตรงมา นั่นคือแนวทางที่ผมใช้ และจะใช้ต่อไป"  

การประชุมแบบตัวต่อตัวระหว่างสตาร์เมอร์และสีในริโอเดจาเนโรเมื่อวันจันทร์ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำอังกฤษได้พบกับประธานาธิบดีจีนอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีของอังกฤษที่เปิดกว้างมากขึ้นต่อปักกิ่ง  

ความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับจีนเย็นชาลง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ พบกับสีในปี 2018 ต่อมาภายใต้การนำของริชี ซูนัค ความสัมพันธ์ยังคงตึงเครียด โดยสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นดำเนินนโยบายที่แข็งกร้าวต่อจีน 

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่พรรคแรงงานเข้ามาบริหารในเดือนกรกฎาคม รัฐบาลใหม่ได้มุ่งเน้นความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับจีนมากขึ้น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ เดวิด แลมมี ได้เดินทางเยือนจีนแล้ว และมีแผนที่ทั้งสตาร์เมอร์และรัฐมนตรีการคลังราเชล รีฟส์ จะเดินทางไปในปีหน้า    

สตาร์เมอร์ยังเน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและจีนควรปราศจาก "ความคลางแคลงใจ" และกล่าวถึงการเปิด "บทสนทนาใหม่" กับปักกิ่งในเรื่องอื่นที่ท้าทายร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม เซอร์เอียน ดันแคน สมิธ อดีตหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ได้วิจารณ์ท่าทีของสตาร์เมอร์ที่ไม่แสดงจุดยืนวิพากษ์วิจารณ์จีนในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยระบุว่า "เขาและรัฐบาลของเขาหมกมุ่นกับการค้าเสียจนพร้อมจะมองข้ามความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น"

ททท. ผนึก EVA Air ขยายความร่วมมือต่อเนื่อง หนุนไทยสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลก

'ศศิกานต์' เผย 'ททท. ร่วมกับ EVA Air ขยายความร่วมมือ 4 ปี' เดินหน้าผลักดันไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลก

เมื่อวานนี้ (20 พ.ย.67) น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้ายกระดับเสริมมาตรการขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ EVA Air ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent: LOI) ขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 ปี กระตุ้นตลาดหลัก ทั้งระยะใกล้และระยะไกล ผ่านเครือข่ายเส้นทางการบินของ EVA Air และร่วมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลก

น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า การขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่าง ททท. และ EVA Air ครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือครั้งก่อนในปี พ.ศ.2566 ด้วยศักยภาพของพันธมิตรสายการบิน EVA Air ที่มีเครือข่ายและบริการที่ครอบคลุมกลุ่มตลาดเป้าหมายทั่วโลก ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออก อเมริกาเหนือและยุโรป สามารถอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมายังประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบายและเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ไม่เพียงเท่านั้น ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องนี้ จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถนำเสนอเสน่ห์ไทย วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม และมิตรไมตรีอันอบอุ่นของคนไทยไปทั่วโลก รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจด้านการท่องเที่ยว ขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก

“ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของ EVA Air และ ททท. จะนำมาซึ่งประโยชน์แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ทั้งสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและยกระดับประสบการณ์การเดินทาง ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งในการสะท้อนศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวแก่กลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดคุณภาพและกลุ่มตลาดใหม่” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว

รัฐมนตรีอิ่ม มอบแนวทางการขับเคลื่อนและพัฒนากองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพิ่มศักยภาพ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้สมาชิกกองทุนฯ ใช้เทคโนโลยีแฟลตฟอร์มดิจิทัล สนับสนุนให้สมาชิกกองทุนฯ

(21 พ.ย. 67) “นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (คกส.) ครั้งที่ 11/2567 และคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร  (อกส.กทม.) มอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีนายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ยินดีทีมีส่วนร่วมสานต่อนโยบายพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสตรี โดยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเท่าเทียมในการประกอบอาชีพของสตรีให้เกิดขึ้น รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเงินทุนหมุนเวียนให้สมาชิกสตรีที่ตั้งใจพัฒนาสินค้า บริการ สามารถเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดกิจการของกลุ่ม พร้อมๆ กับการเสริมสร้างวินัยทางการเงินของกลุ่มสมาชิกกองทุน จะทำงานร่วมกับคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกรมการพัฒนาชุมชน ในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั้งปัญหาด้านโครงสร้างบุคลากร ปัญหาการไม่ได้รับสนับสนุนงบประมาณเงินอุดหนุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เนื่องจากในช่วงพิจารณางบประมาณปี 2568 ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ก่อนมาสู่รัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งมีความตั้งใจสนับสนุนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้เป็นกองทุนที่ดีกว่าเดิม มุ่งหวังที่จะเพิ่มเงินทุนให้กับลูกหนี้ชั้นดี เพิ่มโอกาสให้กลุ่มสมาชิกสตรีรายใหม่ๆ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มมากขึ้น สะดวกขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลสมาชิก/การยื่นความประสงค์กู้ยืมเงินกองทุนกับแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เป็นต้น

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญกุศลและรับฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือ เนื่องในวันกองทัพเรือ

(20 พ.ย. 67) กองเรือยุทธการ จัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันกองทัพเรือ โดยมี พลเรือโท กรวิทย์ ฉายะรถี รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ พลเรือโท อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้นำกำลังพลจากหน่วยในสังกัดร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตร ณ กองบัญชาการกองเรือยุทธการ เวลา 07.00 น. และร่วมพิธีทำบุญเลี้ยงพระ ณ พุทธสถานกองเรือยุทธการ เวลา 10.00 น. โดยในเวลา 08.30 น. กำลังพลจากหน่วยงานในสังกัดทัพเรือภาคที่ 1 ได้แก่ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1, เรือในกองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1, ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด และศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง ได้ตั้งแถวรับฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือโดยพร้อมเพรียง ณ ที่ตั้งหน่วย นอกจาก กิจกรรมทางศาสนาและการรับฟังสารแล้ว ทัพเรือภาคที่ 1 ยังจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาทำความสะอาดบริเวณอุโบสถวัดทรงเมตตา เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสร้างความสามัคคีในหมู่กำลังพล อีกด้วย ความสำคัญของวันกองทัพเรือ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญที่ระลึกถึงการก่อตั้งโรงเรียนนายเรืออย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2449 โดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาสำหรับทหารเรือ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการปกป้องประเทศ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาทหารเรือยังประเทศอังกฤษ และกลับมาก่อตั้งโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม ตั้งแต่นั้นมา กองทัพเรือได้ยึดถือวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น “วันกองทัพเรือ” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ไทยที่ทรงวางรากฐานกิจการทหารเรือ ให้มั่นคงจนถึงปัจจุบัน

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ หารือผู้บริหาร Nokia ชวนร่วมพัฒนา 5G Application - จัดตั้ง Nokia Innovation Center ส่งเสริมทักษะแรงงานดิจิทัลในไทย 

เมื่อวันที่ (19 พ.ย.67) ตามเวลาสาธารณรัฐฟินแลนด์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงดีอี และ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองอำนวยการใหญ่ พร้อมคณะทำงานเข้าเยี่ยมชม Nokia Executive Experience Center ศูนย์แสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม 5G/6G, IoT, Private Wireless, Cloud, Network Automation ณ เมืองเฮลซิงกิ โดยมี Mr. Karol Mattila, Head of Government Relations, Nokia ให้การต้อนรับ

โดย นายประเสริฐ พร้อมคณะได้รับฟังการบรรยายภารกิจการดำเนินงานของ Nokia Executive Experience Center และรับชม Tech Showcases ต่าง ๆ โดย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ได้เชิญชวน Nokia ร่วมพัฒนา หรือมีส่วนในการร่วมลงทุน 5G Application ในไทย และจัดตั้ง Nokia Innovation Center ในพื้นที่ Thailand Digital Valley อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อร่วมส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่แรงงานและนักศึกษา พร้อมระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และมีนโยบาย Go Cloud First ที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและรัฐสามารถเข้าถึงคลาวด์ มีการมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ใช้ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจัดทำหลักสูตรที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเทคโนโลยี และมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับทักษะดิจิทัลแก่กำลังคนและบุคลากรของประเทศ

จากนั้นนายประเสริฐ พร้อมด้วย นางสาวชวนาถ ทั่งสัมพันธ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐฟินแลนด์ และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เข้าเยี่ยมคารวะ Mr. Ville Tavio, Minister for Foreign Trade and Development ณ Ministry for Foreign Affairs of Finland พร้อมหารือแนวทางการสานต่อความร่วมมือการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัล และการสนับสนุนการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศไทย

ทั้งนี้มีการหารือประเด็นการพิจารณาต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่ลงนามไว้ระหว่าง กระทรวงดีอี กับ The Ministry of Transport and Communications ฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561 และมีการต่ออายุเมื่อปี 2565 แต่ปัจจุบัน MOU ดังกล่าวหมดอายุไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเนื้อหาเดิมให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการพัฒนาทักษะดิจิทัล การแบ่งปันข้อมูล และการลงทุนด้านเทคโนโลยี ซึ่งประเทศไทยมีความประสงค์ให้เกิดการต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว และจะเพิ่มเติมเนื้อหาด้านจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติของไทย อาทิ การสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การยกระดับระบบนิเวศดิจิทัลสตาร์ทอัพ และการเชิญชวนให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของฟินแลนด์เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

โดยกรณีดังกล่าว Mr. Tavio เห็นด้วยและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือต่อเนื่อง พร้อมแสดงความเห็นในประเด็นการสนับสนุนการลงทุนว่า นอกเหนือจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของฟินแลนด์อย่าง Nokia ที่มีการลงทุนและดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยแล้ว ยังมีการลงทุนอื่น เช่น การตั้งฐานการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของ Salo Tech (Thailand) Ltd. บริษัทโซลาร์เซลล์สัญชาติฟินแลนด์ที่เข้ามาลงทุนและดำเนินกิจการในจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างไทยและฟินแลนด์ โดยความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่การพัฒนาด้านพลังงานสะอาด และเมืองอัจฉริยะ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังแสดงความมุ่งมั่นที่จะผลักดันความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (Thai – EU FTA) ในด้านเศรษฐกิจและการค้าดิจิทัล ซึ่งจะช่วยรองรับและผลักดันนโยบายการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของกระทรวงอีกด้วย

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง นำกำลังพลแถวฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือเนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี 2567

(20 พ.ย.67) พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมผู้บังคับบัญชาหน่วย นำกำลังพลแถวฟังสารจาก ผู้บัญชาการทหารเรือ เนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี 2567 ทางวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ ณ กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกาธน พุทธศักราช 2458 พระบาทสมเด็จพระจุสจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม ธนบุรี กองทัพเรือ จึงได้ถือเอาวันมหามงคลนี้เป็น 'วันกองทัพเรือ' ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญในการปกป้องอธิปไตยของชาติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตลอดจนความมั่นคงของประเทศ และเหนือสิ่งอื่นใดคือการพิทักษ์รักษา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริ การสนับสนุนนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชน 

ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการขับเคลื่อนและพัฒนากองทัพเรือ ให้เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการตามวิสัยทัศน์ที่กองทัพเรือตั้งไว้

21 พฤศจิกายน พ.ศ.2410 หนังสือแสดงกิจจานุกิจ ตีพิมพ์เล่มแรก ต้นแบบหนังสือไทยทันสมัย แสดงความรู้หลากแขนงสู่นานาชาติ

“หนังสือแสดงกิจจานุกิจ” ถือเป็นหนังสือไทยเล่มแรกที่รวบรวมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และศาสนาอย่างทันสมัย จัดพิมพ์โดย เจ้าพระยาทิพากรวงษ์มหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) ข้าราชการในสมัยรัชกาลที่ 4 ผู้ซึ่งเล็งเห็นว่าตำราไทยในยุคนั้นขาดสาระสำคัญ ไม่สามารถกระตุ้นความคิดหรือให้ความรู้ที่ล้ำสมัย ท่านจึงรวบรวมข้อมูลใหม่ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในสังคมไทยมาจัดทำเป็นหนังสือเล่มนี้  

นอกจากการนำเสนอความรู้ในด้านต่างๆ แล้ว หนังสือเล่มนี้ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อตอบโต้กระแสการโจมตีพุทธศาสนาจากหมอสอนศาสนาที่พยายามเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในไทย “หนังสือแสดงกิจจานุกิจ” ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในไทยและต่างประเทศ และบางส่วนของเนื้อหายังได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ ตีพิมพ์ในกรุงลอนดอน เมื่อปี พ.ศ. 2413 (ค.ศ. 1870) ในชื่อ The Modern Buddhist (เดอะ โมเดิน บุดดิสท์) 

หนังสือเล่มนี้ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นงานเขียนสำคัญที่ให้ความรู้ด้านพระพุทธศาสนา และยังถือว่าเป็นหนึ่งในหนังสือไทยเล่มแรกที่ได้รับการแปลและจัดจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเผยแพร่ภูมิปัญญาไทยสู่เวทีโลก

‘พีระพันธุ์’ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา รับฟังปัญหาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ

‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ รองนายกรัฐมนตรีและรมว. พลังงาน พร้อม ‘เจือ ราชสีห์’ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา รับฟังปัญหากำจัดและแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า

เมื่อวันที่ (18 พ.ย. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายศาสตรา ศรีปาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา นายสมโภชน์ โชติชูช่วง นายปรีชา สุขเกษม และคณะได้เดินทางมารับฟังและดูโรงงานกำจัดและแปรรูปขยะเป็นไฟฟ้า บริษัท จีเดค จำกัด ซึ่งได้สัมปทานจากเทศบาลนครหาดใหญ่ และตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานสั่งหยุดดำเนินงานเมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดปัญหามาอย่างต่อเนื่อง 

“ทางออกของปัญหาเรื่องนี้คือการให้เทศบาลนครหาดใหญ่สั่งเลิกสัญญากับทางบริษัท จีเดด จำกัดซึ่งเป็นคู่สัญญาที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามสัญญาเพื่อที่จะให้รายใหม่เข้ามาดำเนินการจัดการขยะร่วมกับเทศบาลต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว

ปักกิ่งเผย 'เผิงต้าซุ่น' ผู้นำโกก้าง อยู่ในจีน แต่มารักษาอาการป่วย

(20 พ.ย.67) จีนเปิดเผยว่า นายเผิง ต้าซุ่น ผู้นำกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) หรือกองกำลังโกก้าง หนึ่งในกลุ่มกบฏสำคัญในเมียนมา ได้เดินทางมายังประเทศจีนเพื่อรับการรักษาทางการแพทย์ หลังจากมีรายงานข่าวจากเมียนมาว่า เขาถูกทางการจีนจับกุมตัวแล้ว

โดยระหว่างการแถลงข่าวประจำวัน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน นายหลิน เจียน ได้ถูกถามถึงรายงานการจับกุมตัวนายเผิง โดยเขาตอบว่า ก่อนหน้านี้นายเผิงได้ยื่นคำร้องขอเดินทางมาจีนเพื่อรับการรักษา และตอนนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวและฟื้นฟูสุขภาพ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาการหรือที่อยู่ของนายเผิง

สำหรับ MNDAA ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2532 โดยกลุ่มชนกลุ่มน้อยโกก้างในรัฐฉาน และเคยเป็นหนึ่งในกลุ่มแรก ๆ ที่ทำข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวดำเนินมานานเกือบ 20 ปี ก่อนที่การปะทะในโกก้างเมื่อปี 2552 จะทำให้ข้อตกลงหยุดยิงพังทลาย

ในการปะทะครั้งนั้น MNDAA ถูกผลักดันออกจากเมืองเล่าก์ก่าย และทำให้ มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารในปัจจุบันได้รับชื่อเสียงในฐานะผู้บัญชาการส่วนภูมิภาค แต่ในเดือนมกราคมปีที่แล้ว MNDAA สามารถกลับบมายึดเมืองเล่าก์ก่ายกลับคืนมาได้สำเร็จ หลังจากทหารรัฐบาลมากกว่า 2,000 นายยอมจำนน

หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน กองทัพ MNDAA ยังสามารถยึดเมืองล่าเสี้ยวได้สำเร็จ ซึ่งห่างจากเขตปกครองตนเองโกก้างประมาณ 100 กม. แต่การยึดเมืองล่าเสี้ยวนี้กลับทำให้จีนเริ่มแสดงความกังวล เนื่องจากมีความกลัวว่าอิทธิพลจากชาติทิศตะวันตกอาจแทรกซึมเข้ามาเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมา และการต่อสู้ที่รุนแรงขึ้นอาจนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลทหาร

หลังจากเหตุการณ์การยึดเมืองล่าเสี้ยว จีนได้ตัดการให้บริการน้ำและอินเทอร์เน็ตแก่เขตปกครองตนเองโกก้าง ซึ่งติดกับมณฑลยูนนานของจีน

ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวจับกุม นายเจสัน ทาวเวอร์ จากสถาบันสันติภาพในสหรัฐฯ ระบุว่า การที่จีนจับกุมตัวนายเผิงอาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะรักษาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับฝ่ายต่อต้าน โดยจีนหวังว่าจะสามารถเจรจาให้ MNDAA สละเมืองล่าเสี้ยวเพื่อยุติความขัดแย้ง

กรมธุรกิจพลังงาน ลงนามร่วม กพพ. -กฟน.-กฟภ. ผสานกำลังกำกับดูแลสถานีชาร์จไฟฟ้ารถอีวี

กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) จับมือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกันกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของการประกอบกิจการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า

(20 พ.ย. 67) นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน พร้อมด้วยนายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน นางสาวภัทรา สุวรรณเดช รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้านครหลวง และนายประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่าการธุรกิจและการตลาด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Understanding : MOU) เรื่อง การกำหนดกรอบระยะเวลาในการปฏิบัติงานการอนุมัติอนุญาต และจัดทำมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าของสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ภายในเขตสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ณ ห้องประชุม 9 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารบี ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

นายสราวุธ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอนุมัติ อนุญาต ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมธุรกิจพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมีวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของการประกอบกิจการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ที่ติดตั้งภายในเขตสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟฟ้าของยานยนต์ไฟฟ้า และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน 

ภายใต้ความร่วมมือนี้ ทางหน่วยงานทั้ง 4 จะทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ที่เกี่ยวกับการขออนุมัติอนุญาต และจัดทำมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฯ เพื่อใช้เป็นข้อกำหนดในการอนุมัติ อนุญาต ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และมุ่งหวังให้ประชาชนสามารถใช้งานสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ที่ติดตั้งภายในเขตสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ได้อย่างมั่นใจ มีความปลอดภัย และยังเป็นการดำเนินการตามนโยบาย 30@30 ตามมติคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ในการส่งเสริมให้เกิดการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ในปี 2573 (ค.ศ. 2030) ให้ได้ร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top