Thursday, 15 May 2025
Hard News Team

Skoda รถสัญชาติเช็ก โผล่วิ่งทดสอบในไทย หลังโรงงานในเวียดนามเริ่มผลิต เล็งเจาะขายอาเซียน

(26 พ.ย. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้โพสต์ภาพและข้อความในกลุ่ม EV Club Thailand Group หลังพบรถยนต์แบรนด์ใหม่ไม่คุ้นเคย ติดป้ายทะเบียนรถทดสอบ กำลังวิ่งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ มีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ระบุว่ารถยนต์ดังกล่าวคือ Skoda แบรนด์รถยนต์จากสาธารณรัฐเช็ก รุ่นที่กำลังทดสอบคือ Skoda Superb รถเก๋ง 4 ประตู D-segment ที่มีขนาดใกล้เคียงกับ Toyota Camry หรือ Honda Accord  

หาก Skoda เข้าสู่ตลาดไทยจริง คาดว่าจะดำเนินการผ่านตัวแทนจำหน่ายของ Audi ซึ่งอยู่ในเครือ Volkswagen Group  

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจากสื่อเวียดนามว่า Skoda Auto เตรียมเปิดโรงงานผลิตแห่งแรกในเวียดนาม เพื่อรองรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรงงานตั้งอยู่ในจังหวัดกวางนิญทางภาคเหนือของเวียดนาม ซึ่งสร้างเสร็จแล้ว 90% และเริ่มทดลองใช้งานบางส่วนในเดือนพฤษภาคม คาดว่าโรงงานขนาด 36.5 เฮกตาร์แห่งนี้จะมีกำลังการผลิตสูงถึง 120,000 คันต่อปี โดยการประกอบรถยนต์จะเริ่มในช่วงปลายปี 2024 และวางจำหน่ายในปี 2025  

ในช่วงแรก โรงงานจะผลิตรถซีดานและ SUV ระดับ B ก่อนขยายสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อรุกตลาดอาเซียน Skoda เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเวียดนามเมื่อกันยายน 2023 และตั้งเป้าขยายตัวแทนจำหน่ายเป็น 20 รายภายในปี 2025 และ 30 รายภายในปี 2028 พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีละ 40,000 คันในปี 2030 โดยมองว่าเวียดนามเป็นประตูสำคัญสู่ภูมิภาคอาเซียน

อนึ่ง ก่อนหน้า Skoda เคยทำตลาดในไทยโดยมีดีลเลอร์ผู้จัดจำหน่ายคือ ยนตรกิจ เมื่อหลายสิบปีก่อนจะออกจากตลาดประเทศไทยไป

สภาสหรัฐฯ โบ้ยจีนเปลี่ยนฮ่องกง จากฮับการเงินสู่แหล่งอาชญากรรมโลก

(26 พ.ย. 67) รอยเตอร์รายงานว่า คณะกรรมาธิการด้านจีนแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ยื่นหนังสือถึง เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่า ฮ่องกงได้เปลี่ยนบทบาทจากศูนย์กลางการเงินโลกที่เชื่อถือได้ ไปเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมทางการเงิน เนื่องจากการปกครองที่เข้มงวดขึ้นของจีน  

หนังสือฉบับนี้ ลงนามโดย จอห์น มูเลนาร์ ประธานคณะกรรมาธิการจากพรรครีพับลิกัน และ ราจา กฤษณะมูรตี จากสังกัดพรรคเดโมแครต โดยระบุว่า หลังการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 ฮ่องกงมีบทบาทสำคัญในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน อิหร่าน รัสเซีย และเกาหลีเหนือ  มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อกล่าวหาต่อฮ่องกง อาทิ ช่วยรัสเซียเข้าถึงเทคโนโลยีตะวันตกที่ถูกจำกัด, จัดตั้งบริษัทบังหน้าสำหรับการซื้อน้ำมันอิหร่านที่ถูกคว่ำบาตร, สนับสนุนการค้าทองคำจากรัสเซีย, ใช้เรือขนส่งสินค้าในการค้าผิดกฎหมายกับเกาหลีเหนือ  

หนังสือยังอ้างข้อมูลวิจัยว่า 40% ของสินค้าส่งออกจากฮ่องกงไปยังรัสเซียในปี 2023 เป็นสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งจำเป็นต่อการทำสงครามของรัสเซียต่อยูเครน  

คณะกรรมาธิการตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของนโยบายสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกง โดยเฉพาะในภาคการเงินและการธนาคาร ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สหรัฐชี้ว่าการปราบปรามผู้เห็นต่างในฮ่องกงได้บ่อนทำลายหลักนิติธรรมและสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ที่เสื่อมถอยระหว่างสหรัฐและฮ่องกง  

เปิดตัว 'หมูมะนาว' ว่าที่เจ้าสาว 'หมูตุ๋น' เริ่มโปรเจกต์ขยายเผ่าพันธุ์ฮิปโปแคระ

(26 พ.ย. 67) เพจขาหมู แอนเดอะแก๊งค์ ของพี่เบนซ์ อรรถพล หนุนดี เจ้าหน้าที่ผู้ดูแล "หมูเด้ง"  แห่งสวนสัตว์เปิดเขียว เปิดเผยว่าทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียวได้ปิดดีลเป็นที่เรียบร้อย สำหรับโปรเจกต์ขยายเผ่าพันธุ์ฮิปโปแคระ โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และ สวนสัตว์โคราช ซึ่งทางเพจ ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง การจับมืร่วมกัน และเปิดตัว หมูมะนาว ว่าที่เจ้าสาวของ หมูตุ๋น สะใภ้ตัวใหม่ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว 

พี่เบนซ์ ผู้ดูแลเพจขาหมู แอนเดอะแก๊งค์ โพสต์ว่า “มาดูตัวว่าที่เจ้าสาวของหมูตุ๋น น้องหมูมะนาว สวนสัตว์โคราช ปิดดิล หมูมะนาวไปอยู่กับหมูตุ๋นที่เขาเขียว ส่วนใครจะมาโคราชยังไม่บอก โปรเจกต์ขยายเผ่าพันธุ์ฮิปโปแคระ เริ่ม”

สำหรับหมูตุ๋นเพิ่งจะฉลองวันเกิดครบ 5 ขวบ ไปเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่วนฝ่ายเจ้าสาว 'น้องหมูมะนาว' อายุมากกว่าเจ้าบ่าวปัจจุบันนี้มีอายุ 8 ปี  พ่อของหมูมะนาวตายไปเมื่อประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา คงเหลือน้องหมูมะนาวที่เริ่มจะเป็นสาว อยู่กับแม่โคล่า ซึ่งปัจจุบันอายุประมาณ  47 ปี ถือเป็นฮิปโปแคระที่อายุเยอะที่สุดในไทย

"คุณสนธิบอกว่าการเมืองใกล้สุกงอม ผมก็หวังว่าสังคมไทยจะสุกงอมทางความคิดด้วยเช่นกัน ว่าการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทย ล้วนนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงโดยอำนาจนอกระบบ ซึ่งเกิดความเสียหายร้ายแรงจนถึงปัจจุบัน"

(26 พ.ย. 67) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตร พยายามนำประเด็นเรื่องเอ็มโอยู 44 มาปลุกระดมมวลชนลงถนน และจะมายื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ว่า มีคนถามว่ากำลังจะมีการชุมนุมบนท้องถนนหรือไม่ และรัฐบาลเตรียมการรับมืออย่างไร

คุณสนธิ ลิ้มทองกุล กับพวก มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ และมีศักยภาพในการเคลื่อนไหวมวลชน แต่ผมคิดว่าการประกาศลงถนนคงไม่ใช่เร็วๆนี้ เพราะยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าการชุมนุมขนาดใหญ่แบบหลายๆปีก่อนจะเกิดขึ้นง่ายๆ

การปลุกประเด็นเรื่องชาตินิยมแม้จะมีผลกับคนส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ใช่วาระของคนส่วนใหญ่ เพราะขั้นตอนการเจรจาใดๆกับประเทศเพื่อนบ้านยังไม่เริ่ม และหากมีการดำเนินการรัฐบาลก็จะทำอย่างชัดเจนโปร่งใส โดยมีทรัพยากรปิโตรเลียมกว่า 10 ล้านล้านบาท ที่จะนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศเป็นเป้าหมาย

คุณสนธิบอกว่าการเมืองใกล้สุกงอม ผมก็หวังว่าสังคมไทยจะสุกงอมทางความคิดด้วยเช่นกัน ว่าการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทย ล้วนนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงโดยอำนาจนอกระบบ ซึ่งเกิดความเสียหายร้ายแรงจนถึงปัจจุบัน

ในมุมของรัฐบาลย่อมไม่ประสงค์การเผชิญหน้า ไม่ปรามาส ไม่ท้าทายกลุ่มใดๆ การทำงานยังเป็นช่วงเริ่มต้น นายกรัฐมนตรีกำลังจะแถลงผลงาน 90 วันแรก และประกาศนโยบายด้านเศรษฐกิจอีกหลายเรื่องเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ยังตั้งความหวังกับการทำงานของพรรคเพื่อไทย

การส่งสัญญาณเคลื่อนไหวครั้งนี้ แม้จะมาจากคนกลุ่มเดิม ด้วยประเด็นและวิธีการแบบเดิม แต่บริบททางการเมืองต่างออกไป นี่คือรูปธรรมหนึ่งของการเมือง 3 ก๊กที่ผมเคยตั้งข้อสังเกตุไว้ 

พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน เป็นการร่วมกันด้วยกลไกอำนาจ กติกา และสถานการณ์ ไม่ใช่การหลอมรวมทางอุดมการณ์ ความสัมพันธ์ของทั้ง 3 ก๊กจึงมีทั้งส่วนที่เผชิญหน้า และประสานประโยชน์กัน

ที่กำลังเคลื่อนไหวเรื่องการชุมนุมอยู่นี้คือก๊กอนุรักษ์นิยม (ยังไม่มีพรรคไหนเป็นตัวแทนชัดเจน)

แม้พลังของก๊กนี้จะเลือกพรรคการเมืองที่กำลังร่วมรัฐบาลกับก๊กเพื่อไทย แต่ไม่ยอมรับการนำของเพื่อไทย และยังมีความรู้สึกเป็นฝ่ายตรงข้ามเหมือน 20 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบนเวทีนอกจากวิจารณ์เพื่อไทย ยังโจมตีก๊กพรรคประชาชนด้วย เพราะไม่เอาก๊กนี้เช่นกัน

หากมีการเคลื่อนไหวมวลชนต้านรัฐบาลเพื่อไทย อาจเป็นได้ที่จะมีกองเชียร์ก๊กพรรคประชาชนบางส่วนเข้าด้วย เพราะเคยร่วมก๊กอนุรักษ์นิยมมาก่อน 

โดยลักษณะทางมวลชน ที่ออกจากก๊กเพื่อไทยส่วนใหญ่เข้าก๊กพรรคประชาชน ส่วนจากก๊กอนุรักษ์นิยมจะไม่เข้าก๊กเพื่อไทย แต่ไหลเข้าก๊กพรรคประชาชนด้วย และอาจไหลกลับก๊กอนุรักษ์นิยมอีกได้ ถ้าสถานการณ์มาถึง  

ผมไม่คิดว่าจะมีม๊อบใหญ่ ที่ควรจะเป็นคือแต่ละก๊กสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ เพราะยังมีประชาชนอีกมากที่ไม่ได้ยึดติดผูกพันกับก๊กไหน แล้ววัดกันในสนามเลือกตั้ง ผลงานจะเป็นตัวชี้ขาดชัยชนะ

แต่อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเกิดสถานการณ์ชุมนุมต้านรัฐบาลนี้ โดยคนกลุ่มเดิมวิธีการเดิมเมื่อ 20 ปีก่อน ปรากฏการณ์ทางมวลชนแต่ละก๊กจะเป็นเช่นไร

เอสยูวีเจนใหม่ ชาร์จเร็ว 180 kW เอาใจขาลุย ก่อนเปิดราคางาน Motor Expo 2024 คาดไม่เกิด 1.09 ล้าน

(26 พ.ย. 67) AION V รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด เตรียมเผยโฉมอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2024 ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวแบบ Cyber พร้อมภายในหรูหราระดับพรีเมียม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการทั้งเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย

ตู้เย็นอัจฉริยะ 3 โหมด ตู้เย็นในตัวที่ปรับอุณหภูมิได้ทั้ง อุ่นร้อน (-15°C ถึง 50°C) และ แช่เย็น/แช่แข็ง ควบคุมได้ผ่านหน้าจอ, แอปพลิเคชัน, ระบบเสียง หรือแผงควบคุม ใช้งานง่ายและเหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์

เบาะนวดไฟฟ้าพร้อมระบายอากาศ AION V มีเบาะหน้ามีระบบนวด 5 โหมด พร้อมปรับน้ำหนักการนวด 3 ระดับ และระบบระบายอากาศ มอบความสบายทั้งในวันร้อนหรือหนาว

เบาะหลังปรับเอน 137° พร้อมโต๊ะอเนกประสงค์ AION V ยังสามารถปรับเบาะหลังเอนได้สูงสุด 137° พร้อมโต๊ะรับน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการเดินทางที่ต้องการความผ่อนคลาย

โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ Magazine Battery 2.0 วิ่งได้ไกลถึง 602 กม. ต่อการชาร์จเต็ม โครงสร้างปลอดภัย ลดความเสี่ยงไฟลุกจากการชน มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 180 kW สามารถชาร์จจาก 30% ถึง 80% ใน 15 นาที รองรับชีวิตเร่งรีบ พร้อมออกเดินทางได้ทันที

โปรโมชันพิเศษ AION V จองเพียง 99 บาท รับส่วนลด 10,000 บาท พร้อมของรางวัลพิเศษและบัตรเข้างาน Motor Expo 2024

AION V เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ที่ Motor Expo 2024 พร้อมเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง ลูกค้าสามารถทดลองขับได้ที่ศูนย์บริการ AION ทั่วประเทศ

ไทยรับอานิสงส์ Ricoh ย้ายฐานผลิตพริ้นเตอร์จากจีน เลี่ยงรบ.ทรัมป์ขึ้นภาษี 60% หากผลิตจากจีน

(26 พ.ย. 67) ริโก้ (Ricoh) บริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์สำนักงานจากญี่ปุ่น เตรียมย้ายการผลิตเครื่องพริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชันจากโรงงานในเซี่ยงไฮ้และตงกวน ประเทศจีน มายังประเทศไทย เพื่อลดผลกระทบจากนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำหนดอัตราภาษีใหม่สูงถึง 60%  

ปัจจุบัน สินค้าภายใต้แบรนด์ริโก้ที่จำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ คิดเป็น 20% ของยอดขายทั่วโลก โดยริโก้มีโรงงานผลิตในไทยตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งเป็นยุคแรกที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งก่อน  

ริโก้ยังวางแผนกระจายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นในอาเซียน เพื่อสนับสนุนความร่วมมือกับโตชิบา เทค  

ก่อนหน้านั้นช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ริโก้ประกาศแผนปลดพนักงานกว่า 2,000 คนทั่วโลก หรือราว 3% ของพนักงานทั้งหมด โดยในจำนวนนี้ 1,000 คนจะถูกปลดในญี่ปุ่น การปลดพนักงานครั้งนี้เน้นสายงานฝ่ายขายและซ่อมบำรุง คาดว่าจะเริ่มทยอยตั้งแต่วันนี้จนถึงมีนาคม 2025  

การปรับลดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยลดขนาดธุรกิจเครื่องใช้สำนักงาน และมุ่งเน้นธุรกิจบริการดิจิทัล แม้จะมีค่าใช้จ่ายครั้งเดียว 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่คาดว่าจะช่วยให้ริโก้ทำกำไรเพิ่มขึ้น 9,000 ล้านเยนภายในปี 2026  

ตลาดเครื่องพิมพ์ยังเผชิญกับการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง จากการลดการใช้กระดาษขององค์กร และการทำงานแบบยืดหยุ่น โดยยอดจัดส่งเครื่องพิมพ์และถ่ายเอกสารในปี 2023 อยู่ที่ 3.59 ล้านเครื่อง ลดลงถึง 26% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19  

‘พีระพันธุ์’ เผย กพช. เคาะอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนอนุรักษ์ฯ ฝั่งน้ำมันเก็บ 0.05 บาท/ลิตร ส่วนก๊าซหุงต้มเก็บ 0 บาท/กก. เริ่ม 1 ธ.ค.67

(26 พ.ย. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่ประชุมได้พิจารณาการกำหนดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำในราชอาณาจักร และน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร และก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ใช้เป็นก๊าซหุงต้มหรือก๊าซไฮโดรคาร์บอนเหลว พ.ศ. 2567 

เนื่องจาก ประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำในราชอาณาจักร และน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร พ.ศ. 2564 เดิมจะครบกำหนดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 นี้ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ อัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำในราชอาณาจักร และน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร ในอัตรา 0.0500 บาทต่อลิตร และก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ใช้เป็นก๊าซหุงต้มหรือก๊าซไฮโดรคาร์บอนเหลว ในอัตรา 0.0000 บาทต่อกิโลกรัม โดยเริ่มใช้ 1 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำในราชอาณาจักร และน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักรและก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ใช้เป็นก๊าซหุงต้มหรือก๊าซไฮโดรคาร์บอนเหลว พ.ศ. .... และมอบหมายให้ สนพ. นำเสนอประธานกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติลงนามต่อไป

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบข้อเสนอที่ให้กระทรวงพลังงานเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2544 ที่เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2544 (ครั้งที่ 87) เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2544 ในประเด็นเรื่องการปรับองค์กรในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม จาก “ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2546 เป็นต้นไป ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลัก รับผิดชอบดูแลงานด้านการกำหนดนโยบายและมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมแทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และรับไปดำเนินการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยให้ยุติการนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปใช้จ่ายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2546 ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังประสานงานกับสำนักงบประมาณในการจัดสรรงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ 2546 เป็นต้นไป” เป็น “ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลัก รับผิดชอบดูแลงานด้านการกำหนดนโยบายและมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม และให้หน่วยงานที่มีความประสงค์ขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมดำเนินการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณโดยตรงตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป”

นอกจากนี้ ที่ประชุม ยังได้มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 3 ฉบับ (3 ผลิตภัณฑ์) ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องอัดอากาศแบบเกลียว และกระจก และมอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน นำร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 3 ฉบับ(3 ผลิตภัณฑ์) เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างต่อไป

ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ชี้ศาลอาญาโลก แค่ออกหมายจับนายกฯ อิสราเอลไม่พอ

(26 พ.ย. 67) อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ออกมาแสดงความเห็นเมื่อวันจันทร์ (25 พ.ย.) โดยระบุว่าการที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และนายโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหม ยังไม่เพียงพอ พร้อมเรียกร้องให้ศาลสั่งโทษประหารชีวิตผู้นำเหล่านี้จากข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในฉนวนกาซา

“การออกหมายจับไม่เพียงพอ ผู้นำอาชญากรเหล่านี้สมควรถูกประหารชีวิต” คาเมเนอี กล่าว

คำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง ICC ออกหมายจับผู้นำอิสราเอลเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน โดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีอย่างรุนแรงต่อพลเรือนในฉนวนกาซา รวมถึงการสังหาร การประหัตประหาร และการทำให้ประชาชนอดอยาก ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมสงครามในรูปแบบการโจมตีอย่างเป็นระบบ

อิหร่าน ซึ่งให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ในการต่อสู้กับอิสราเอล แสดงท่าทีแข็งกร้าวในเรื่องนี้ ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธอำนาจของ ICC และยืนยันว่ายังไม่ได้ก่ออาชญากรรมสงคราม

นอกจากนี้ ICC ยังออกหมายจับนายอิบราฮิม อัล-มาสรี ผู้นำฮามาสที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล โดยกล่าวหาเขาในคดีฆาตกรรมหมู่ การข่มขืน และการจับตัวประกันจากเหตุโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566

‘ออกแบบ ชุติมณฑน์’ คว้ารางวัล Emmy Awards นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากซีรีส์ ‘Hunger คนหิว เกมกระหาย’

(26 พ.ย. 67) วงการบันเทิงไทยสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เมื่อ "ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง" คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Performance by an Actress) จากเวที International Emmy Awards ครั้งที่ 52 ประจำปี 2024 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กลายเป็นนักแสดงไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้  

ชุติมณฑน์ได้รับรางวัลจากบทบาท "ออย" เชฟสาวผู้มุ่งมั่นในซีรีส์ "Hunger คนหิว เกมกระหาย" ผลงานจาก Netflix ซึ่งเคยสร้างปรากฏการณ์ขึ้นอันดับ 1 ใน 88 ประเทศทั่วโลก และยังเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ติดอันดับ Global Top 10 Films ที่ไม่ใช่เสียงภาษาอังกฤษ  

ออกแบบเริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงตั้งแต่ปี 2556 เธอเกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 ที่จังหวัดนนทบุรี สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสตรีวิทยา และคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลงานแรกของเธอคือภาพยนตร์สั้น "Thankyou For Sharing" กำกับโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ก่อนจะมีชื่อเสียงจากบท "ลิน" ในภาพยนตร์ "ฉลาดเกมส์โกง" ที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในระดับสากล  

‘วีระศักดิ์ โควสุรัตน์’ บรรยายพิเศษ หนุนใช้ข้อมูลขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน

เมื่อวันที่ (23 พ.ย. 67) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สมาชิกวุฒิสภา เป็นวิทยากร บรรยายและตอบข้อซักถาม และเป็นกรรมการวิจารณ์โครงสร้างโครงการ Data Driven Tourism Strategy for Sustainability  ที่พัฒนาขึ้นโดยคณะผู้บริหารระดับสูงที่เข้ารับการอบรมในหลักสูตร  Leadership Program on Trade & Development Strategies จัดโดยสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (SASIN) ร่วมกับ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) องค์การมหาชน ที่อาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top