Saturday, 5 July 2025
Hard News Team

‘คุณหญิงวรรณี คราประยูร’ ภริยาบิ๊กสุ ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา ในวัน 84 ปีที่ รพ.พระมงกุฎฯ ด้านลูกชายเผย สวดพระอภิธรรม 22 - 24 ก.ย. จากนั้นบรรจุศพ 25 ก.ย. ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร 

(21 ก.ย. 64) คุณหญิงวรรณี คราประยูร ภริยาของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร หรือ ‘บิ๊กสุ’ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย และเป็นน้องสาวของ พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี หรือ ‘บิ๊กตุ๋ย’ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และอดีต รมว.มหาดไทย ถึงแก่กรรมแล้วด้วยโรคชราที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 

โดย พล.อ.เจิดวุธ คราประยูร บุตรชายคุณหญิงวรรณี กล่าวยอมรับว่า คุณแม่ท่านได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคชราในวัย 84 ปี ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อเวลา 02.45 น. วันที่ 21 ก.ย.โดยคุณแม่ได้เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมานานแล้ว ทั้งนี้จะมีพิธีรดน้ำศพในเวลา 17.00 น. วันที่ 22 ก.ย. ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร และสวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 22 - 24 ก.ย. จากนั้นบรรจุศพในวันที่ 25 ก.ย. 64 
 

โฆษกรัฐบาล แจงเหตุ 'บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม' ขยันลงพื้นที่ เพื่อช่วยกันทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน

21 ก.ย. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นการลงพื้นที่ตามภารกิจปกติที่กำหนดไว้อยู่แล้ว ขณะที่ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็แบ่งกันตรวจราชการเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอยู่แล้วตามปกติ 

'บิลลี่ โอแกน'​ ซัดขายของยุคเสื่อม เน้นหยาบคาย จากสุภาพสตรีดูกลายเป็นอีลำยอง

'บิลลี่​ โอแกน'​ นักร้อง นักแสดง นักแต่งเพลง ชาวไทยชื่อดัง​ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก​ ว่า... 

ยุคเสื่อมนี้มาถึงเร็วกว่าที่คิดไว้... 

โฆษณาในโซเชียลชิ้นหนึ่งมันเด้งขึ้นมา​ เป็นแอปฯ​ ช้อปปิ้งยี่ห้อ 'ช้อปแป้ก'​

มีนางแบบวัยรุ่นมานั่งคุยกันถึงเรื่องแอปฯ​ นี่แหละ แต่ใช้คำพูด มึงกูตลอดเวลา ดูแล้วใจหาย

หน้าตาดีๆ สวยๆ มานั่งพูด กูมึงๆๆๆๆ ประมาณว่า
เฮ้ยมึง ลองใช้แอพตัวนี้มันลดราคาให้ด้วยนะมึ้ง

'Evergrande' เริ่มทยอยใช้หนี้ ขุดอสังหาฯ ในกรุ ให้นักลงทุนที่สนใจ ด้านธนาคารกลางของจีนอัดฉีดเงินกว่า 4 แสนล้าน

Evergrande: China Evergrande Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีนที่มีปัญหาสภาพคล่อง เริ่มชำระคืนหนี้ให้แก่ผู้ลงทุนในผลิตภัณฑ์บริหารความมั่งคั่งแล้ว โดยชำระคืนเป็นอสังหาริมทรัพย์ หลังมีรายงานว่าธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินกว่า 463,000 ล้านบาท เพื่ออุ้มบริษัท Evergrande ที่กำลังใกล้จะล้มละลาย

Evergrande Group เผยผ่านสื่อออนไลน์ของบริษัทว่า นักลงทุนที่ต้องการแลกผลิตภัณฑ์บริหารความมั่งคั่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ ขอให้ติดต่อที่ปรึกษาด้านการลงทุน หรือติดต่อสำนักงานสาขา 

นักลงทุนสามารถเลือกได้ว่า จะแลกผลิตภัณฑ์บริหารความมั่งคั่งเป็นอพาร์ตเมนต์ สำนักงาน พื้นที่ค้าปลีกหรือพื้นที่จอดรถ ขณะที่เว็บไซต์ข่าวการเงิน caixin รายงานว่า Evergrande Group มีผลิตภัณฑ์บริหารความมั่งคั่งค้างชำระอยู่ราว 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เกือบ 200,000 ล้านบาท) ซึ่งปกติแล้วจะถือครองโดยนักลงทุนรายย่อย

หญิงไทยถูกหลอกที่ดูไบได้กลับบ้านแล้ว หลังนายก สั่งการทีมไทยแลนด์หาทางช่วยเหลือ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือหญิงไทยที่ร้องขอความช่วยเหลือทางโซเชียลมีเดียว่าถูกหลอกให้มาขายบริการและขอความช่วยเหลือกลับไทยนั้น ว่า ทันทีที่ทราบข่าวท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีความห่วงใยถึงความปลอดภัยและสั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพาตัวหญิงไทยรายนี้กลับไทยโดยเร็ว ผมจึงได้สั่งการให้ทูตแรงงานประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี เพื่อให้การช่วยเหลือในทันที ซึ่งจากรายงานของนางปลิดา ร่วมคำ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ระบุว่าล่าสุดเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.64) เวลาประมาณ 17.30 น. ได้ประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ได้เข้าไปช่วยเหลือพาตัวหญิงไทยออกมาได้สำเร็จและปลอดภัยแล้ว โดยมี ท่านวราวุธ ภู่อภิญญา เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาปี ได้สั่งการให้นายชัยรัตน์ ศิริวัฒน์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ เร่งประสานให้หญิงไทยรายนี้ได้เดินทางกลับประเทศไทยจากเมืองดูไบ ไปยังกรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Emirates Airines เที่ยวบินที่ EK384 เวลา 02.50 น. ในวันนี้ (21 ก.ย.64) และจะเดินทางถึงประเทศไทยในเวลา 12.30 ของวันเดียวกัน จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการกักตัวเป็นเวลา 14 วันตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กำหนด

"แรมโบ้"เย้ย"พิชัย"กลัวพท.ถูกเอง หากรัฐบาลทำงานสำเร็จ ถ้าปชช.พ้นทุกข์ 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ ทักท้วงรัฐบาล ถึงปัญหาหนี้สาธารณะที่อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ทำให้รัฐบาลมีปัญหาในการชำระหนี้ และไม่เชื่อว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ว่า ตนไม่อยากถือสาคนคิดลบ ผมบาง เป็นธรรมชาติคนขี้ใจน้อย และอยากเรียกร้องความสนใจเวลานี้ บ้านเมืองมีแต่ความขัดแย้งเดินหน้าไม่ได้มากว่า 10 ปี เพราะนายโทนี่-นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และรัฐบาลพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย ที่ไม่ว่าจะเปลี่ยนกี่ชื่อ แต่นิสัยไม่เคยเปลี่ยน ตนอยากจะถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช่หรือไม่ ที่ยุติความขัดแย้ง แล้วพลิกฟื้นประเทศจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำเตี้ย ให้โตเพิ่มขึ้น 4% ต่อ GDP และแม้จะเจอสงครามการค้าช่วงปี 62 แต่ก็ยังหารายได้เพิ่ม จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เกือบ 40 ล้านคน มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ดึงเงินเข้าประเทศกว่า 1.9 ล้านล้านบาท เสียดายที่ปี 63-64 เกิดวิกฤตโควิดทั่วโลก ทำให้ต้องปรับแผนกันใหม่หมด

นายพิชัย กล่าวว่า ถ้าจะกล่าวหาว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ชอบกู้ ชอบสร้างหนี้สาธารณะ แสดงว่านายพิชัยเจตนาบิดเบือนตาใส ใครก็รู้ว่ายามไม่ปกติแบบนี้ ทั่วโลกก็ต้องกู้เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และพยุงเศรษฐกิจของประเทศทั้งนั้น โดยเฉลี่ยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว มีการกู้เงินทำให้มีสัดส่วนหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 ต่อ GDP ในขณะที่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเพียง 14% ต่อ GDP แต่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนไปแล้ว 2 รอบ รอบแรก 41 ล้านราย และรอบสอง 40.37 ล้านราย ครอบคลุมกลุ่มผู้มีรายได้น้อย อาชีพอิสระ เกษตรกร กลุ่มเปราะบาง แรงงานประกันสังคม ผ่านโครงการเราไม่ทิ้งกัน โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน ที่สำคัญหนี้สาธารณะของไทย เป็นหนี้ในประเทศ 98.2% ของหนี้สาธารณะทั้งหมด เม็ดเงินก็ยังหมุนเวียนในประเทศ

นายเสกสกล กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะมีโควิด แม้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จะมีการกู้เงิน แต่ก็เป็นการกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือลงทุนเพื่ออนาคต ยกระดับคุณภาพชีวิต ให้เกิดการกระจายรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพให้ประชาชนทุกคน ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ลงทุนไปแล้วมากกว่า 2 ล้านล้านบาท ทั้งเขื่อน ทางหลวง มอเตอร์เวย์ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่-ทางสาม ท่าเรือน้ำลึก สนามบิน อินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน  EEC และ SEZ เป็นต้น เคยมีรัฐบาลไหนที่ทำมากมายเท่ารัฐบาลนี้อีกหรือไม่ หากไม่หูหนวกตาบอด ก็คงได้เห็น ได้ยิน ได้ใช้ประโยชน์กันบ้างแล้ว ดีกว่าจำนำข้าวทุกเม็ดที่สร้างแต่หนี้บาป ชดใช้กันเป็น 10 ปี 

และถ้าจะแถต่อว่ารัฐบาลสร้างหนี้จนชนเพดาน นายพิชัยซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย คงมีความรู้บ้างว่าประเทศพัฒนาแล้ว หลายประเทศ ที่มีหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ในระดับเกินกว่า 100% เช่น สหรัฐ อิตาลี สิงคโปร์ ส่วนญี่ปุ่นนั้นเกิน 200% ต่อ GDP มานานแล้ว แต่ประเทศไทย ยังอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ที่ไม่เกิน 60% ของ GDP อย่างไรก็ตาม คิดง่ายๆ ใครจะกู้เงินก็มี 2 เหตุผลหลักๆ อย่างแรกคือลงทุน อีกอย่างคือเจ็บไข้ได้ป่วย-เกิดอุบัติเหตุ ประเทศชาติก็เหมือนกัน ช่วงปี 57-62 เป็นการลงทุนเพื่อให้เกิดรายได้ เกิดกำไรที่มากขึ้น แต่ช่วงปี 63-64 ก็ต้องกู้เพิ่มเพราะวิกฤตโควิด ซึ่งเป็นมาตรการ "ชั่วคราว" เมื่อจบวิกฤตก็กลับมาเหมือนเดิม แต่ถ้าต้องการมีรายได้-กำไรเพิ่มขึ้นอีก ก็ต้องกู้ ก็ต้องมีแผนการลงทุนอีก เหมือนมียุทธศาสตร์ชาติระยะยาว มีโครงการขนาดใหญ่อย่าง EEC มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ตอบสนองโลกอนาคต เป็นโอกาสงานของเยาวชนของเรา ที่กำลังเติบโตขึ้นในอีก 5-10 ปีข้างหน้า แต่รัฐบาลเตรียมพร้อมให้ตั้งแต่วันนี้

บิ๊กป้อม สั่ง กอนช.-กองทัพ-มหาดไทย-กทม. เร่งช่วย เกษตรกร-ประชาชน พื้นที่น้ำท่วม ยืนยัน ลงพื้นที่ อยุธยา พรุ่งนี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนและเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมขัง อันเนื่องมาจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ จึงได้สั่งการ ไปยัง กอนช. ,กองทัพ,มหาดไทย และกทม. เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบ อย่างเร่งด่วน โดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานลงพื้นที่ และให้นำเครื่องมือ เครื่องจักรกลทุกชนิด พร้อมยานพาหนะ เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนย้าย และการระบายน้ำที่ท่วมขัง ออกนอกพื้นที่สัญจร โดยเร็ว

'ท็อปนิวส์' เตือน 3 นิ้ว เสพข่าวอย่างมีสติ หลังโซเชียลปั่น ตัดแต่งภาพดาราโหน 'อากง'

กลายเป็นอีกกระแสปั่นในโลกโซเชียล หลังมีการแห่แชร์ภาพศิลปินดาราช่องดัง ที่เผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี 'Ananda Aof Amataya' (อนันดา ออฟ อมาตยา) โดยพบว่ามีการโพสต์ภาพที่ตัดต่อภาพข้อความ “อากง” บนฝ่ามือ พร้อมด้วยข้อความว่า “ขอบคุณนักแสดงทุกคนที่ออกมาร่วมรณรงค์ในแคมเปญ #ฝ่ามืออากง วันนี้สิบปีไม่สายถ้าจะกลับตัวกลับใจครับ จัมวั๊ย” และมีผู้แชร์ข้อความนี้ไปจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ทางทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้ตรวจสอบ พบว่าภาพดังกล่าวนั้นเป็น เฟกนิวส์ เพราะว่าเป็นภาพสมัยที่กลุ่มดาราของช่อง 7 พร้อมหน้ากัน โพสต์ภาพฝ่ามือที่มีข้อความ #หยุดขายเสียงจุดเปลี่ยนประเทศ ซึ่งแคปชันเป็นข้อความเดียวกันระบุว่า “ช่อง 7HD ปลุกพลังคนไทย!! ไม่ซื้อสิทธิ์! ไม่ขายเสียง! ในการเลือกตั้งทุกระดับ เพราะการซื้อสิทธิ์ คือจุดเริ่มต้นของการทุจริต จบทุกทุจริต ด้วยสิทธิ์ของคุณ “หยุดขายเสียง จุดเปลี่ยนประเทศ” ร่วมแสดงเจตนารมณ์คนรักประชาธิปไตย ร่วมติด #หยุดขายเสียงจุดเปลี่ยนประเทศ”

“เผ่าภูมิ” ซัด รบ.ใช้เงินกู้ 5 แสนล.ทั้งช้า ทั้งชุ่ย ตอกขยายเพดานหนี้ ยิ่งขยายความล้มเหลวซ้ำซาก อัดหนี้ไม่สร้างรายได้ ลงเอยกู้หนี้มาโปะหนี้

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมาธิการตรวจสอบ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทฯ แถลงข่าวความคืบหน้า พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทและการขยับเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ว่า พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ทั้งช้า ทั้งชุ่ย ทั้งนี้ ช้าเพราะไทยเจอการระบาดหนักทั้งระลอก 3 และ 4 เจอการล็อคดาวน์ที่เข้มข้น เจอเคอร์ฟิว เจอธุรกิจล้มละลาย แต่การใช้เงินกู้นี้เพื่อประคองเศรษฐกิจกลับเหมือนอยู่คนละโลก เชื่องช้า อืดอาด เสมือนใช้จ่ายงบประมาณปกติ เม็ดเงินที่ลงสู่ระบบนั้นน้อยนิด ใน 5 แสนล้านนั้นเพียง 5 หมื่นกว่าล้านที่ลงสู่ระบบ หรือเพียงราว 10% เท่านั้น เศรษฐกิจที่เสียหายจากการล็อคดาวน์เข้มข้นเดือนละ 1.5-2.5 แสนล้านบาท ถูกชดเชยด้วยเงินอัดฉีดเข้าระบบจากเงินกู้ก้อนนี้เฉลี่ยเพียงเดือน 1 หมื่นล้านบาท เมื่อเงินที่อัดฉีดเข้าระบบน้อยกว่าเงินที่หายไปถึง 15 เท่า แบบนี้เศรษฐกิจเดินต่อไม่ได้ ด้านสาธารณสุข วงเงิน 30,000 ล้าน เบิกจ่ายเพียง 1,828 ล้าน (หรือ 6%) ประเทศต้องการวัคซีนเร่งด่วน ต้องเร่งฟื้นฟูระบบสาธารณสุขทันที แต่งบปรับปรุงสถานพยาบาลกลับอนุมัติ 0% เบิกจ่าย 0% 

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า ด้านการฟื้นฟูประเทศวงเงิน 170,000 ล้านบาทนั้น อนุมัติ 0% เบิกจ่าย 0% เช่นกัน ไม่มี ไม่ทำ ไม่สร้างโครงการรักษาระดับการจ้างงาน หรือมาตรการคงการจ้างงาน มีแต่ชื่อโครงการ ถึงวันนี้อนุมัติ 0% เบิกจ่าย 0% ต้องรอให้คนตกงานทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วค่อยมาตามแก้อย่างนั้นหรือ การกระตุ้นการลงทุนยังไม่มีการใช้จ่ายเช่นกัน ท้ายสุดจะไปจบที่ “เราเที่ยวด้วยกัน ชิมช้อปใช้ คนละครึ่ง” โครงการชื่อสวย แต่ไร้ประโยชน์เช่นเคย ที่ชุ่ยเพราะในแผนงานเงินกู้ 5 แสนล้านบาทนั้น ทุกโครงการเป็นโครงการจ่ายทิ้ง ใช้แล้วหมดไปทั้งนั้น ไม่มีเงินฟื้นฟูที่เอาไปสร้างอนาคตประเทศ ไม่มีการสร้างโครงสร้างการพัฒนาให้กับประเทศเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีการจัดสรรงบในส่วนนี้ และแรงงานนอกระบบกว่า 20 ล้านคนถูกละทิ้งจากเงินกู้ 5 แสนล้านนี้ พ่อค้าแม่ค้าในตลาด หาบเร่แผงลอย อาชีพกลางคืนที่ถูกเคอร์ฟิว เหล่านี้ถูกมองข้าม ไม่มีโครงการเยียวยากลุ่มนี้ 

นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า ส่วนขยายเพดานหนี้ ขยายความล้มเหลวซ้ำซาก พรรคพท.เข้าใจดีถึงความจำเป็นต้องใช้เงินในการประคองเศรษฐกิจ แต่ต้องเข้าใจเช่นเดียวกันว่าความจำเป็นของการต้องใช้เงินเพิ่มนี้ ทั้งหมดเกิดจากความล้มเหลวของการใช้เงินกู้ 2 ก้อนที่ผ่านมา หากใช้ให้ดีเงินกู้ 2 ก้อนนั้นมีขนาดที่เหลือเฟือ เราจะไม่เดินมาสู่จุดนี้ ความล้มเหลวของเงินกู้ 1 ล้านล้าน ตามด้วย 5 แสนล้าน และวันนี้เปิดช่องให้รัฐบาลกู้เพิ่มได้อีกราว 1.2 ล้านล้านบาท ไม่น่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ตลอด 7 ปีที่ผ่านมารัฐบาลสร้างหนี้ ไม่สร้างรายได้ หนี้โตเร็วกว่ารายได้ประเทศถึงกว่า 2 เท่าต่อปีโดยเฉลี่ย การขยายเพดานครั้งนี้ เป็นการเปิดช่องให้สร้างหนี้ที่ไม่สร้างรายได้อย่างก้าวกระโดด ความอันตรายไม่ได้อยู่ที่ความมั่นคงทางการคลัง แต่กลับอยู่ที่เรากำลังพึงพอใจกับค่านิยมล้มเหลวซ้ำซากเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรากำลังสนับสนุนการกู้ไปเรื่อยๆ แบบไร้จุดหมาย กู้แล้วเจ๊ง ก็กู้ใหม่ กู้อย่างไม่มีขอบเขต เป็นวังวน

“บิ๊กป้อม” สั่งมั่นคงทุกหน่วย ติดตามขบวนการค้าอาวุธชายแดนที่เคลื่อนไหวถี่ขึ้น ย้ำขยายผล ที่เกี่ยวข้องทุกคน

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกคะทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาที่ผ่านมา ส่งผลให้ขบวนการค้าอาวุธสงครามตามแนวชายแดน ไทย - เมียนมา กลับมาเคลื่อนไหวถี่ขึ้น และอาจเป็นปัญหานำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้นหลังสิ้นฤดูฝน

 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับฝ่ายความมั่นคง เพิ่มการคุมเข้มเฝ้าระวังและติดตามขบวนการลักลอบค้าอาวุธสงครามข้ามแดนมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับงานข่าวเชิงลึกเชื่อมโยงกับทุกบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การจัดหา การเคลื่อนย้ายนำส่ง ทั้งจากต้นทางและปลายทาง รวมทั้งเส้นทางการเงินของทั้งขบวนการ  โดยเฉพาะการจับกุมเครือข่ายขบวนการค้าอาวุธใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีที่ผ่านมา ซึ่งพบความเชื่อมโยงกับบุคคลในหลายวงการ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้เร่งสืบสวนขยายผลดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมดไม่มียกเว้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top