Wednesday, 14 May 2025
Hard News Team

‘ก้าวไกล’ จี้ พม. เร่งเปิดเผยข้อมูลและแนวทางการให้ความช่วยเหลือ ‘เด็กกำพร้า’ จากสถานการณ์โควิด

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตรายวันจำนวนมาก พบหลายรายเป็นพ่อหรือแม่ เป็นผู้ดูแลเด็ก จนทำให้เด็กกลายเป็น ‘เด็กกำพร้า’ แบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่พบว่ากระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหน่วยงานหลักได้แถลงสถานการณ์และแนวทางการให้ความช่วยเหลือเด็กอย่างเป็นระบบ แถมยังไปขอให้ภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้ากันเอง

“ภาพเด็กหญิงอายุ 7 ปี และ 9 ปี สองพี่น้องที่ต้องสูญเสียแม่เสาหลักเพียงคนเดียวที่ จ.สมุทรปราการ เป็นเพียงหนึ่งภาพสะท้อนที่สร้างความสะเทือนใจแก่สังคม แต่ในฐานะที่ทำงานด้านคุ้มครองเด็กมานาน กลับไม่เห็นการแถลงข่าวของกระทรวง พม. ที่เป็นหน่วยงานหลักตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ว่าได้มอบหมายให้ พมจ. สำรวจว่ามีเด็กกำพร้าหรือได้รับผลกระทบจำนวนเท่าใดกันแน่ แนวทางการให้ความช่วยเหลือทั้งการฟื้นฟูร่างกายจิตใจ การมีผู้ดูแลระยะยาว การศึกษาของเด็ก โดยไม่จำเป็นต้องแยกเด็กมาดูแลในสถานสงเคราะห์จะเป็นอย่างไร มิใช่แต่เพียงการช่วยเฉพาะรายที่เป็นข่าว และอ้างว่าจะใช้เงินจากกองทุนคุ้มครองเด็กที่มีระเบียบยุ่งยากหรือจะตั้งมูลนิธิช่วยเหลือแต่เพียงอย่างเดียว อนาคตของเด็ก ๆ เป็นอนาคตของชาติและสำคัญกว่าจะปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม” นายณัฐวุฒิระบุ

โดยข้อมูลจาก The Lancet Medical Journal วารสารทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียง เปิดเผยรายงานการประเมินนับจากการระบาดของโรคตั้งแต่ 1 มีนาคม 2563 - 30 เมษายน 2564 ว่ามีเด็กอย่างน้อย 1.13 ล้านคน ต้องสูญเสียพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายที่เป็นผู้ดูแลหลักอย่างน้อย 1 คน และมีเด็กไม่น้อยกว่า 1.56 ล้านคน ต้องเผชิญกับการสูญเสียผู้ดูแลหลักหรือผู้ดูแลรอง เช่น เครือญาติในบ้าน อย่างน้อย 1 คน นี่นับเฉพาะข้อมูลจาก 21 ประเทศที่มีการเสียชีวิตสูงสุด

สำหรับในประเทศไทยนั้นมีการประเมินโดย Imperial College London แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คาดการณ์ว่าจะมีเด็กกำพร้าที่พ่อแม่หรือทั้งสองเสียชีวิตอย่างน้อย 160 คน เด็กที่อยู่ในภาวะที่มีผู้ดูแลหลักเสียชีวิตอย่างน้อย 180 คน และอีกมากกว่า 350 คน ที่มีผู้ดูแลหลักหรือผู้ดูแลรองในบ้านเสียชีวิต แม้เด็กจะไม่ได้กำพร้าก็ตาม และตัวเลขนี้เป็นตัวเลขการประเมินก่อนที่จะมีอัตราการเสียชีวิตมากขึ้นในปัจจุบัน

การเสียชีวิตของคนในครอบครัวย่อมส่งผลกระทบ หรือ trauma กับเด็กทั้งทางจิตใจและทางสังคม ที่ต้องได้รับการประเมินจากนักวิชาชีพผู้เกี่ยวข้อง เพราะเด็กแต่ละคนมีต้นทุนไม่เหมือนกัน ยิ่งถ้าเป็นเด็กกำพร้า ยิ่งจะต้องได้รับการประเมินและติดตาม เพราะผลกระทบยิ่งมากกว่าทั้งการขาดผู้ดูแล การเรียนรู้บทบาทในครอบครัว ที่อยู่ เศรษฐานะ โอกาสในการศึกษา โอกาสในอาชีพ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งภายใต้ พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 นั้น ได้กำหนดให้ พม. เป็นกระทรวงหลัก ดำเนินการผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะต้องเร่งในการสำรวจข้อมูลเด็กที่ได้รับผลกระทบ การวางแผนในการช่วยเหลือ และการมอบหมายให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ ทำหน้าที่เป็น case manager ในการติดตาม ซึ่งรวมถึงการประเมินว่าใครจะเป็นผู้ดูแลเด็ก และเด็กจะเติบโตไปในระยะยาวได้อย่างไร และแน่นอนว่าสถานการณ์แบบนี้เป็นการตอกย้ำว่าการมีนโยบาย ‘เงินอุดหนุนเด็กเล็ก’ แบบถ้วนหน้า ยิ่งจำเป็นยิ่งที่ต้องลงทุน มากกว่าการใช้งบประมาณที่ไม่จำเป็นในด้านอื่น ๆ

“ตนชื่นชมคนในสังคมที่ช่วยเหลือเมื่อเห็นเด็กสูญเสียพ่อแม่จากโควิด ทั้งการบริจาค การระดมทุน แม้กระทั้งการหามูลนิธิหรือโรงเรียนประจำให้เด็ก แต่รัฐบาลที่มีหน้าที่โดยตรง โดยเฉพาะกระทรวง พม. ที่ควรวางแผนและแถลงถึงแนวทางรองรับปัญหาที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นกลับไม่ได้ทำ ซึ่งตนจะเสนอให้ กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนฯ เชิญนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบถามถึงแนวทางการช่วยเหลือเด็กกำพร้าและเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโควิดต่อไป หลาย ๆ เรื่องในสังคมไทย อาจเป็นเรื่องที่รอได้ แต่เรื่องเด็กเป็นเรื่องที่รอไม่ได้” นายณัฐวุฒิกล่าวทิ้งท้าย


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สำนักงานข้อมูลรัฐบาลเทศบาลกรุงปักกิ่งรายงานสถานการณ์และแถลงมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด รวม 9 มาตรการ ในกรุงปักกิ่ง

เมื่อ 1 สิงหาคม 2564 สำนักงานข้อมูลรัฐบาลเทศบาลกรุงปักกิ่งรายงานสถานการณ์และแถลงมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด รวม 9 มาตรการ ในกรุงปักกิ่ง ดังนี้...

>> 1.) ลดการเดินทางเข้า-ออก และการเคลื่อนไหวในกรุงปักกิ่ง

(1.1) ขอให้ประชาชนลดการเดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง หรือออกนอกประเทศ ยกเว้นกรณีจำเป็น ลดการเดินทางภายในกรุงปักกิ่ง และหลีกเสี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงสูงและปานกลางในมณฑลหรือเมืองอื่น ๆ

(1.2) ควบคุมบุคคลที่เดินทางอกจากพื้นที่เสี่ยงในกรุงปักกิ่งอย่างเคร่งครัด โดยต้องแสดง Health Kit รหัสสีเขียวและผลตรวจ Nucleic Test ที่เป็นลบภายใน 48 ชม. หากมีความจำเป็นต้องเดินทาง

(1.3) ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงและปานกลางจะถูกจำกัดการเดินทางเข้ามายังกรุงปักกิ่ง สำหรับผู้ที่เข้ามาแล้วจะต้องให้ความร่วมมือในการรายงานเส้นทางเดินทางการตรวจหาเชื้อโควิด และดำเนินการตามมาตรการการเฝ้าระวังในพื้นที่

(1.4) เพิ่มการเฝ้าระวังสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าหรือกลับกรุงปักกิ่ง หากผู้ที่เดินทางเข้ากรุงปักกิ่งพบว่าเป็นผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ และเป็นผู้ใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงต่ำ จะต้องรายงานให้หน่วยงานและชุมชน (หมู่บ้าน) รับทราบและคอยเฝ้าระวัง

>> 2.) คอยเฝ้าระวังและควบคุมการเดินทางของผู้คนจำนวนมากระหว่างช่วงปิดภาคฤดูร้อน

(2.1) จำกัดการท่องเที่ยวเข้า-ออก ในกรุงปักกิ่ง ไม่อนุญาตให้บริษัททัวร์ให้บริการตั๋วเครื่องบินและโรงแรม เพื่อเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงสูงและปานกลาง ห้ามรับผู้ที่เคยเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงสูงและปานกลางภายใน 14 วัน รวมถึงผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้าประเทศจีนน้อยกว่า 21 วัน

(2.2) จำกัดปริมาณผู้เข้าชมสวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยจะจำกัดเหลือเพียง 60% และต้องมีการนัดหมายล่วงหน้า

(2.3) ผู้ที่เข้าพักโรงแรม เกสต์เฮาส์ หรือที่พักต่าง ๆ จะต้องสแกน Health Kit รายงานเส้นทางการเดินทาง และวัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการเสมอ

(2.4 ขยายบริการการแพทย์ออนไลน์ทางไกล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดภายในสถาบันทางการแพทย์ และคัดกรองผู้ที่เข้ามากรุงปักกิ่งเพื่อรับการรักษาพยาบาลอย่างเข้มงวด โดยจะมีการสอบถามประวัติการสัมผัสใกล้ชิดและตรวจ Nucleic Test

(2.5) จำกัดจำนวนและลดขนาดของกิจกรรม การประชุม ชุมนุม การแสดงต่าง ๆ ควบคุมการเคลื่อนไหวของฝูงชน และรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัยตลอดทั้งกิจกรรม

สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้คนไทยทุกคนทราบมา ณ ที่นี้


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=373199764325441&id=107367570908663


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง 28 ตำแหน่งตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้ “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย โยกผู้ว่าฯ หมูป่าคนดัง ย้ายมาเป็นผู้ว่าปทุมฯ ส่วนผู้ว่าปทุมฯ ขึ้นเป็นรองปลัด

วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมฯ มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยจะเสนอชื่อแต่งตั้งข้าราชการ ตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง 28 ตำแหน่ง โดยมีการเสนอชื่อ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งนายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน โดยมีตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดว่างอยู่ 18 จังหวัด และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 1 ตำแหน่ง

ซึ่งการโยกย้ายครั้งนี้จะเป็นการย้ายสลับผู้ว่าฯ มาแทนตำแหน่งที่ว่างลง พร้อมด้วยการโยกย้ายสลับจังหวัด และจะมีการต่ออายุให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ประกอบด้วย นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าฯ ชลบุรี นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าฯ ขอนแก่น นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าฯ พัทลุง ออกไปอีก 1 ปี

เมื่อดูตามลำดับอาวุโสในระดับเดียวกับ นายสุทธิพงษ์ถือว่าอาวุโสสูงสุด ชื่อเล่น “เก่ง” เกิดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2507 อายุ 57 ปี ยังเหลืออายุราชการอีก 3 ปี เป็น “สิงห์ดำ” รุ่นที่ 36 จบรัฐศาสตร์บัณฑิต และรัฐศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาเดียวกัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เติบโตในอาชีพราชการรวดเร็วขึ้นครองซี 10 ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกในปี 2552 ด้วยวัยเพียง 46 ปี ย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยปี 2556 ต่อมากลับไปเป็นผู้ว่าฯ สระบุรี ย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ ชัยนาท ปี 2557 ขึ้นเป็นรองปลัดมหาดไทย ปี 2558 จากนั้นโยกไปนั่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ปี 2560 (สถ.) ตำแหน่งล่าสุดเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เมื่อปี 2562

นอกจากนี้ที้ประชุม ครม.ยังเห็ชอบแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงสังกัดกระทรวงมหาดไทย ดังนี้

นายไชยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย

นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายสำนักงานปลัดกระทรวงเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย

นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

นายพุฒิธิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่

นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ

นายภาสกร บุญญารักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตราด

นายชาธิป รจนเสรี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

นายชยันต์ ศิริมาส ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี

นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นายนิพนธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี

นายวีระชัย นาคมาส ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา

นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร

นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร

นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา

นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง

นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

นายปริญญา โพธิสัตว์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว

นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย

นายพงศิรัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความประเมินสถานการณ์การเมืองช่วงนี้ว่า...

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความประเมินสถานการณ์การเมืองช่วงนี้ ผ่านเฟซบุ๊ก 'Thepmontri Limpaphayorm' ว่า...

ความจริงในเวลานี้...

ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐ...

>> พ่อฟ้าธนาธร (ผีเน่า) ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง

>> ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตย แบบเผด็จการรัฐสภา (สัมภเวสีหนีคดีโกง) ลุงโทนี่

>> ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลุงตู่ (กำลังถูกไล่)

>>×ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข น้าอนุทิน (กำลังถูกไล่)

>>×ส่วนม้านอกสายตา : ชัยเกษม / อภิสิทธิ์ (คู่ขัดแย้งเสื้อแดง)

ประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤติด้วยโรคระบาด โควิด-19...

ประเทศไทยมีม็อบสองเขาสามกีบ ไม่มีความหมาย ไม่มีความสามารถ หรือสติปัญญาเพียงพอที่จะเป็นที่พึ่งหวังได้ แถมเป็นเครื่องมือให้นักการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ ที่อยากจะล้มสถาบัน แนวโน้มแกนนำจะติดคุกกันทั้งหมด

แกนนำระดับตัวพ่อ >> ธนาธร / ปิยบุตร / ช่อ

แกนนำระดับตัวลูก กวิ้น / รุ้ง / ไผ่ / ไมค์ / วีโว้ การศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี และปริญญาโท

เหล่าบรรดาสาวก มีหลากหลายสาขาอาชีพ ปริญญาตรี-ปริญญาเอก แต่หลงเชื่อแนวคิดผู้มีการศึกษาต่ำกว่า ปริญญาตรี

ประเด็นที่ออกมาขับไล่ลุงตู่ 'ยังไม่แหลมคมพอ' เอาแต่ด่า จาบจ้วงเบื้องสูง สะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง ตอบโจทย์สังคมไม่ได้ว่าที่ทำไปทั้งหมดเป็นเรื่องของอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร?

ยิ่งลักษณะที่น่ารังเกียจ คือ การรับเงินบริจาคเป็นรายบุคคล ส่วนสาวกก็เป็นม็อบรับจ้างด้วยแล้ว...

>> ม็อบไร้ความสามารถ เล่นประเด็นผิด ลุงตู่จึงเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=5966356816739729&id=100000964084010


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ประยุทธ์”มอบเงินช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 พร้อมถุงกำลังใจ

ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และถุงยังชีพ (ถุงกำลังใจ) จากเงินบริจาคบัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ไปแล้ว จำนวน 126 ราย เป็นเงินประมาณ 4.5 ล้านบาทเศษ แบ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 86 ราย และเจ้าหน้าที่สนับสนุน 40 ราย  ในวันนี้ คณะกรรมการฯ ให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุน เพิ่มอีกจำนวน 27 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 1,285,000 บาท โดยมี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมพิธี

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งบัญชี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเป็นความร่วมมือของรัฐบาล ภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมนอกจากการช่วยเหลือตามระบบราชการของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว เพื่อเป็นขวัญกำลังแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และครอบครัวที่เสียสละตนเองทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่ รวมถึงการการมอบถุงยังชีพถุงกำลังใจซึ่งบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิต หน้ากากอนามัย และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร สอดคล้องกับการดำเนินงาน Home Isolation  ตามนโยบายของรัฐบาล สิ่งสำคัญ คือ ให้สามารถส่งสิ่งของช่วยเหลือต่าง ๆ และยา ให้ถึงบ้านและถึงมือประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างรวดเร็วขึ้น 

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณคณะรัฐมมนตรี ภาคเอกชน และประชาชน ที่ร่วมกันบริจาคเงินเข้ามา เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียและครอบครัว ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น คุณงามความดีที่บุคคลเหล่านั้นได้กระทำไว้ยังเป็นที่จดจำ รัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมไปถึงการดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มเปราะบางในประเทศไทยด้วย 

โอกาสนี้   นายกรัฐมนตรี มอบเงินช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)  และและถุงยังชีพ (ถุงกำลังใจ) ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แอลกอฮอลล์เจล และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่สนับสนุนสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 18 ราย รวมเป็นเงิน 1,020,000 บาท มีนายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนรับมอบ ,เจ้าหน้าที่สนับสนุนสังกัดกระทรวงหมาดไทย จำนวน 8 ราย รวมเป็นเงิน 250,000 บาท  มีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนรับมอบ ,เจ้าหน้าที่สนับสนุนสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 15,000 บาท มีนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรับมอบ ,และถุงยังชีพช่วยเหลือครอบครัวกลุ่มเปราะบางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 6,796 ชุด รวมเป็นเงิน 6,796,000 บาท มีนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้รับมอบ

แพทย์จุฬาฯ เผยผลวิจัยจากจีน ชี้ ฉีดซิโนฟาร์มช่วงเช้าได้ผลดีกว่าช่วงบ่าย

ไม่นานมานี้ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้โพสต์ความคืบหน้างานวิจัยวัคซีนซิโนฟาร์มของจีน ว่า...

ช่วงเวลาของวันในการฉีดวัคซีน กับระดับภูมิคุ้มกัน!!

Zhang H และคณะ เผยแพร่ผลวิจัยในจดหมายถึงบรรณาธิการ วารสาร Cell Research ศึกษาว่าช่วงเวลาของวันในการฉีดวัคซีน มีผลต่อระดับภูมิคุ้มกันมากน้อยเพียงใดทำในอาสาสมัคร 63 คนที่มหาวิทยาลัย ซุนยัดเซ็น ประเทศจีน เปรียบเทียบการฉีดวัคซีน Sinopharm (BBIBP-CorV, Sinopharm, Beijing) ช่วงเช้า (09.00 - 11.00 น.) และช่วงเย็น (15.00 - 17.00 น.) จำนวน 2 เข็มห่างกัน 28 วัน และเจาะเลือดวัดระดับภูมิคุ้มกัน ณ วันที่ 0, 14, 21, 28 และ 56

น่าสนใจที่พบว่า กลุ่มที่ฉีด 'ช่วงเช้า' มีระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า 'ช่วงเย็น' อย่างมีนัยสำคัญ โดยประเมินจากระดับ Neutralizing antibody ทั้งนี้เค้าเชื่อว่า Circadian rhythm นั้นมีอิทธิพลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้นหากฉีดวัคซีนโดยหวังผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนอง การพิจารณาเรื่องช่วงเวลาของวันในการฉีดก็อาจเกิดประโยชน์

อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อดูว่าจะได้ผลยืนยันเช่นเดียวกับที่ทีมวิจัยนี้ทำหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กลุ่มตัวอย่างที่มากขึ้น การใช้วัคซีนชนิดอื่น ๆ เพื่อประเมินผลที่ได้ว่าแตกต่างกันหรือไม่ รวมถึงระยะเวลาที่ใช้ในการประเมินผลลัพธ์ที่ต้องการที่ยาวขึ้น ทั้งภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดและภูมิคุ้มกันระดับเซลล์

โดยปกติแล้วเวลาเราอ่านงานวิจัยต่าง ๆ จำเป็นต้องประเมินเรื่องระเบียบวิธีวิจัย ก่อนที่จะนำผลวิจัยนั้นไปใช้ประกอบการตัดสินใจประพฤติปฏิบัติ

อัปเดตความรู้ไปเรื่อย ๆ จะช่วยให้รู้เท่าทันสถานการณ์ และมีโอกาสนำไปพัฒนาต่อยอดเพื่อจัดการปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต

อ้างอิง : Zhang, H., Liu, Y., Liu, D. et al. Time of day influences immune response to an inactivated vaccine against SARS-CoV-2. Cell Res (2021)


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/112022


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ไฮโซลูกนัท โพสต์ข้อความประกาศนัดหมายกิจกรรม "คาร์ม็อบสลิ่มกลับใจ" 8 สิงหาคมนี้

วันที่ 3 ส.ค. นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ประกาศนัดหมายกิจกรรม "คาร์ม็อบสลิ่มกลับใจ" ในวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป พร้อมระบุข้อความว่า... จะทนกันต่อทำไมหละเพื่อน ๆ! ติดสัญลักษณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือมาก ๆ มาย ๆ แล้วแต่สะดวก เราจะมาชู 3 นิ้ว อย่างปลอดภัยกัน


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ทบ. เพิ่มเฮลิคอปเตอร์MI-17 เสริมภารกิจส่งผู้ป่วยCOVID19 กลับบ้าน บินวันนี้เที่ยวแรก กทม.- ตาก - พิษณุโลก  

กองทัพบกยังช่วยการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิด (กลุ่มสีเขียว) กลับภูมิลำเนาต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ 29 ก.ค. ถึง3 สค.64 กองทัพบกได้ใช้เครื่องบินลำเลียงแบบ C295 บินส่งผู้ป่วยโควิดกลับภูมิลำเนาไปแล้วจำนวน4 เที่ยวบิน รวม 84 คน ปลายทางที่ จ.น่าน และ นครพนม ทั้งนี้ยังคงมีประชาชนแจ้งขอให้พากลับบ้านผ่าน ศูนย์ประสานงานภัยโควิดกองทัพบก โทร 0-2092-7766 ต่อเนื่อง และจากนโยบายของกองทัพบกที่พร้อมนำยุทโธปกรณ์ทุกประเภทมาใช้ดูแล ประชาชนในสถานการณ์COVID - 19 ล่าสุด พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้นำเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ17 (ฮ.ท.17)ที่ประจำการอยู่ในกองทัพบกในขณะนี้ มาใช้เป็นพาหนะเสริมการส่งป่วยทางอากาศอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งศูนย์การบินทหารบก ได้ทำการปรับพื้นที่ภายในเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวให้เหมาะกับการส่งป่วย มีระบบการดูแลผู้ป่วยเช่นเดียวกับ เครื่องบินลำเลียงแบบC295 ประกอบด้วยการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ การดูแลผู้ป่วยด้วยทีมแพทย์เวชศาสตร์การบิน ทั้งนี้ได้มีการนำ ฮ.ท.17 ทดสอบการบินส่งผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความพร้อมในทุกด้านเรียบร้อยแล้ว 

โดยกองทัพบกจัดเที่ยวบินส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาด้วย ฮ.ท.17 เป็นเที่ยวบินแรกใน2 เส้นทางบินโดยออกเดินทางจาก กทม.ปลายทาง จ.ตาก และรับผู้ป่วยโควิดจาก จ.ตากไปส่งต่อที่ จ.พิษณุโลก รวมทั้งหมด 11 คน ภายใต้การประสานการปฏิบัติร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 ในการรับผู้ป่วยส่งต่อเข้าสู่การรักษาของสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกและตาก นอกจากนี้ ในวันนี้กองทัพบกยังได้จัดรถยนต์ นำผู้ป่วยโควิด(สีเขียว)กลับภูมิลำเนาอีก 2 จังหวัด คือ พิษณุโลก12 คนและพิจิตรอีก 14 คน

สำหรับ ฮ.ท.17 เป็นอากาศยานที่กองทัพบกจัดหาเข้าประจำการตั้งแต่ปี 2554 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติให้กับประชาชน ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ กองพันบินที่ 41 กรมบิน ศูนย์การบินทหารบก  โดยตั้งแต่เข้าประจำการ กองทัพบกได้นำ ฮ.ท.17 ออกปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในการบรรเทาสาธารณภัย ทั้งส่งมอบอาหาร ยาและสิ่งของจำเป็นแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วม ปฏิบัติการดับไฟป่าโดยติดตั้งตะกร้าบรรจุน้ำดับเพลิง การช่วยประชาชนจากเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน เช่น ปฏิบัติการกู้ภัย13หมูป่าที่ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย รวมถึงการใช้งานในภารกิจหลักทางทหารคือ การลำเลียงพลทางอากาศ เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์  การฝึกศึกษา เช่น หลักสูตรส่งทางอากาศ,การกระโดดร่ม  การฝึกร่วม/ผสมระหว่างเหล่าทัพและมิตรประเทศ ซึ่งภารกิจบินส่ง ผู้ป่วยโควิดในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการนำอากาศยาย ที่ประจำการมาใช้งานอย่างคุ้มค่า ภายใต้บุคลากรและการบริหารจัดการของกองทัพบก

ผู้ป่วยที่มีความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือในการเดินทางกลับภูมิลำเนา สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด-19 กองทัพบก โทร 02-092-7766 ตลอด 24 ชม.

ไฟเขียวเยียวยาลูกจ้าง-นายจ้าง 29 จังหวัด ช่วยแท็กซี่-วินจยย.

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. ได้เห็นชอบให้ขยายขอบเขตมาตรการบรรเทาผลกระทบอันเนื่องมาจากข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30) เพื่อช่วยเหลือลูกจ้าง และนายจ้างที่ได้รับผลกระทบจากประกาศฉบับนี้ เพิ่มเติมอีก 16 จังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมเป็น 29 จังหวัด โดยแรงงานกลุ่มเดิม 13 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากประกาศไปแล้วห่อนหน้านี้จะได้รับการช่วยเหลือเพิ่มอีก 1 เดือน ในเดือนส.ค.นี้ พร้อม ๆ กับอีก 16 จังหวัดที่เพิ่มเข้ามาด้วย โดยวงเงินที่ใช้ในการเยียวยาครั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ขยายกรอบวงเงินเพิ่มขึ้นจากเดิม 3 หมื่นล้านบาท เป็น 6 หมื่นล้านบาท 

สำหรับการช่วยเหลือเยียวยา ลูกจ้างและนายจ้าง ในระบบประกันสังคมครั้งนี้จะครอบคลุม 9 กลุ่มอาชีพ โดยจะได้รับเงินเยียวยาจากทางรัฐบาลในลักษณะเดียวกับ 13 จังหวัดก่อนหน้านี้ แบ่งเป็นแรงงาน ตามมาตรา 33 จะได้รับเงินเยียวยารายละ 2,500 บาท ขณะที่นายจ้างจะได้รับชดเชยตามจำนวนลูกจ้างคิดเป็นรายหัวหัวละ 3,000 บาท แต่ไม่เกิน 200 คน หรือไดรับเงินเยียวยาสูงสุดไม่เกิน 6 แสนบาท ส่วนแรงงาน ตามมาตรา 39 และมาตรา 40 จะได้รับเยียวยารายละ 5,000 บาท

พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังยังเห็นชอบให้ช่วยเหลือผู้ขับรถแท็กซี่ และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่มีอายุเกิน 65 ปี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ 29 จังหวัด แต่สมัครเข้ามาเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพื่อรับการเยียวยาไม่ได้ ก็ให้สามารถเข้ามารับการเยียวยาตามมาตรการนี้ได้ด้วย ซึ่งในรายละเอียดทางกระทรวงคมนาคมจะไปจัดทำข้อเสนอโครงการ โดยพิจารณาจากฐานข้อมูลการจดทะเบียนที่ถูกต้อง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปตามความเหมาะสม สามารถยืนยันตัวตนและตรวจสอบได้

นายกรัฐมนตรี อุดหนุนผลไม้ในโครงการ ‘เกษตรกรHappy’ จำนวน 1 ตัน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และไปรษณีย์ไทย ที่จัดโครงการ ‘เกษตรกรHappy’ เพื่อส่งเสริมการขายผลไม้ไทย โดยเช้านี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งซื้อมังคุด เงาะ ลำไยกับสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส. ผ่านเพจไปรษณีย์ไทย จำนวน 1 ตัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และให้จัดส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปมอบต่อเจ้าหน้าที่และจิตอาสาด่านหน้า พร้อมเชิญชวนคณะรัฐมนตรีร่วมอุดหนุน ช่วยเกษตรกรชวนสวนผลไม้ด้วย

นางสาวรัชดา ยังเปิดเผยว่า ในที่ประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีชื่นชมการจัดทำการส่งเสริมการขายผลไม้ไทย โครงการ ‘เกษตรกรHappy’ ซึ่งเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำในขณะนี้ สาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้การกระจายผลไม้ทำได้ยากขึ้น ขาดแรงงาน รวมทั้งการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ เช่น จีน ก็ติดขัดจากการตรวจเข้มและปัญหาการข้ามแดน

ดังนั้น กระทรวงพาณิชน์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และไปรษณีย์ไทย ได้จัดโครงการส่งเสริมการขายสินค้าเกษตรออนไลน์บนแพลตฟอร์มของไปรษณีย์ไทย ทาง facebook : Thailandpostmart และเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย www.Thailandpostmart.com ได้แก่ มังคุด จ.นครศรีธรรมราช เงาะ จ.สุราษฎร์ธานี และลำไย จ.พะเยา ด้วยการการตลาดแบบใหม่ใช้ช่องทาง Line My Shop และ QR Code ให้ผู้ซื้อ/ลูกค้า ทราบข้อมูลเกี่ยวกับผลไม้และราคาที่นำมาขายและสามารถสแกนซื้อที่ QR Code ของโครงการได้เลย โดยกระทรวงพาณิชย์ จะสนับสนุนค่าขนส่งและค่ากล่องให้กับประชาชนที่สั่งซื้อผลไม้ออนไลน์ผ่าน Thailandpostmart ของไปรษณีย์ ซึ่งไปรษณีย์ไทยจัดส่งให้ฟรีทั่วไทยด้วย

โครงการ 'เกษตรกรHappy’ ยังเป็นการเดินหน้าตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรไทยเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากการค้าออนไลน์สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยทั้งผู้จำหน่ายและผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดด้วย


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top