Saturday, 5 July 2025
Hard News Team

'ราเมศ' ย้ำ พรรคลงพื้นที่ตามปกติ ไม่มีสัญญาณใดเรื่องยุบสภา

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงมีกระแสข่าวว่าจะมีการยุบสภา ผูกโยงความเคลื่อนไหวการลงพื้นที่ของพรรคว่า พรรคไม่เคยคุยกันเรื่องยุบสภา การลงพื้นที่ของรัฐมนตรีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆของพรรคไม่ได้มีนัยยะสำคัญเชื่อมโยงถึงกระแสข่าวที่คิดกันว่าจะมีการยุบสภาเพราะเป็นการลงพื้นที่ตามปกติทั่วไปซึ่งบุคลากรของพรรคทุกคนได้ทำเป็นประจำอยู่แล้ว 

ยิ่งในช่วงปิดสมัยประชุมสภาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็จะใช้โอกาสนี้ในการลงพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ สิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดก็คือการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ได้ผ่านความเห็นชอบในวาระที่สามของรัฐสภาแล้วขั้นตอนต่อจากนี้มีการกำหนดไว้ชัดเจน ท้ายที่สุดเมื่อรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ก็มีขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องมีการร่างกฏหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่ากระบวนการต่างๆเหล่านี้โอกาสที่จะมีการยุบสภายากมาก

นายราเมศ กล่าวในตอนท้ายว่า ในส่วนของพรรคสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะต้องดำเนินการคือเร่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดประจำเขตเลือกตั้งและสาขาให้มีจำนวนครบถ้วนในทุกเขต หากร่างแก้ไขเพิ่มเติมมีผลบังคับใช้  แน่นอนว่าจำนวนเขตเลือกตั้งที่เพิ่มมาถึง 400 เขต ก็จะต้องมีการเตรียมการในการตั้งตัวแทนพรรคในแต่ละเขตที่เพิ่มขึ้นอีก 50 เขต ให้ครบถ้วนเพื่อให้สมาชิกพรรคได้มีส่วนร่วมตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบันการจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละเขตจะต้องมีตัวแทนพรรคประจำจังหวัดประจำเขตเลือกตั้งหรือสาขา

'ก้าวไกล' ซัด!! เปิดทางต่างชาติซื้อบ้าน ไม่ช่วยเศรษฐกิจไทย ซ้ำถ่างความเหลื่อมล้ำ ชี้!! ประเทศไทยไม่ขาดเงินลงทุน แต่นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในพื้นฐานเศรษฐกิจไทย

ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีอนุมัติการจัดทำ ‘วีซ่าระยะยาว’ ให้ชาวต่างชาติ 4 กลุ่มเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา รวมถึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาสิทธิประโยชน์ของวีซ่า ซึ่งรวมถึงการถือครองห้องชุดและบ้านจัดสรร โดยศิริกัญญา มองว่า มาตรการเหล่านี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อยมาก และเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด

ศิริกัญญา ระบุว่า โครงการเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาก็มีความพยายามจะออกวีซ่านักลงทุน และบัตร Thailand Elite Privilege Card เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาอาศัย ท่องเที่ยวและลงทุนในไทยมากขึ้น และต่างประเทศ ก็มีนโยบายคล้าย กัน เช่น Golden Visa ของยุโรปดึงดูดชาวต่างชาติที่มีมูลค่าสูงเข้าไป 

แต่งานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารวิชาการ Journal of Ethnic and Migration Studies ระบุว่า หลายประเทศมักออกวีซ่าประเภทนี้ช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โดยวีซ่าเหล่านี้กลับมีผลต่อจีดีพีไม่เกิน 0.3% เท่านั้น อีกทั้งยังไม่มากพอจะสร้างความเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นเพียงไม่ถึง 5% ของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดเท่านั้น

ปัจจุบัน กฎหมายไทยก็อนุญาตให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ในอาคารชุดได้ 49% อยู่แล้ว หากจะแก้ไขกฎหมายเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 70-80% ซึ่งก็สามารถทำได้ แต่ควรเป็นโครงการระยะสั้นเพื่อแก้ปัญหาซัพพลายคอนโดที่ล้นเกิน ในช่วงแค่ 3-5 ปีเท่านั้น เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ในไทยก็มีปัญหามาตั้งแต่ก่อนโควิด-19 ระบาด มีการสร้างคอนโดขึ้นมามาก จนเริ่มขายไม่ออก มีการประเมินว่ายังเหลืออสังหาริมทรัพย์ที่สร้างมาแล้วยังขายไม่ออกอยู่ราว 2 แสนยูนิต หากมีการเปิดทางให้ชาวต่างชาติซื้อได้มากขึ้น ก็จะช่วยระบายสต็อกออกไปได้ในส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์สำหรับลูกค้าระดับบน จากนั้นก็ควรยุติโครงการดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังต้องดูรายละเอียดว่าจะแก้กฎหมายอย่างไร เช่น ให้ต่างชาติซื้อบ้านในหมู่บ้านได้กี่เปอร์เซ็นต์ ถือกรรมสิทธิ์ได้กี่เปอร์เซ็นต์ กำหนดระยะเวลาการถือครองว่าต้องถือกี่ปีก่อนจะขายต่อ และกำหนดว่าการขายต่อจะต้องขายคืนให้พลเมืองไทยเท่านั้นหรือไม่

ว่าที่ผู้สมัครสก. ก้าวไกล ล้ำยุค เปิดตัวเว็บไซต์ ‘กรุงเทพก้าวไกล’ รายงานพิกัดน้ำท่วม เน้นปชช.มีส่วนร่วม ย้ำชัด กทม.ก้าวใหม่ ด้วยก้าวไกล ทันสมัย ยกระดับชีวิตคนเมือง แก้ไขปัญหาน้ำท่วมคนกรุง 

นิธิกร บุญยกุลเจริญ (ปาล์ม) ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางบอน พรรคก้าวไกล โพสผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์แพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยใช้ชื่อว่า ‘กรุงเทพก้าวไกล’ 

นิธิกร กล่าวว่า ในช่วงฤดูกาลที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ปัญหาที่คนกรุงของเราต้องเจออยู่บ่อยครั้ง ก็คือการเกิด ‘น้ำท่วม’ ในหลายพื้นที่ โดยทีมกรุงเทพก้าวไกลคิดว่าน่าจะดี หากเราสามารถรวบรวมข้อมูลพิกัดการเกิดน้ำท่วม และประชาชนมีส่วนร่วมได้ ซึ่งประชาชนทุกท่านสามารถรายงานข้อมูล ผ่านเว็บไซต์ https://bkkflood.moveforwardparty.org/ ที่พวกเราทีมกรุงเทพก้าวไกล ร่วมกันพัฒนาขึ้นมาเองแบบเฉพาะกิจ ไม่กี่วันที่ผ่านมา และถ้าข้อมูลเหล่านี้รวมกันมากขึ้น เราก็จะสามารถหาแนวทางการแก้ไขต่อไปได้ ทั้งแบบภาพเล็กในแต่ละพื้นที่ และภาพใหญ่ที่จะต้องมีการจัดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบอีกด้วย

ศาลสูงอังกฤษสั่ง ปิดลับ ‘พินัยกรรมเจ้าชายฟิลิป’ นาน 90 ปี ปกป้องพระเกียรติ ‘ควีนเอลิซาเบธ’

นายแอนดรูว์ แม็คฟาร์เลน ประธานศาลแผนกครอบครัวแห่งศาลสูงของอังกฤษในกรุงลอนดอน มีคำพิพากษาให้ “ปิดผนึก” พินัยกรรมของเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ พระสวามีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ขณะพระชนมายุ 99 พรรษาเป็นความลับนาน 90 ปีจึงสามารถเปิดผนึกพินัยกรรมดูกันภายในสมาชิกราชวงศ์ และพิจารณาว่าควรจะเผยแพร่หรือไม่

ทั้งนี้โดยทั่วไปในสหราชอาณาจักร พินัยกรรมมักเป็นเอกสารสาธารณะ แต่เป็นเวลาเกือบ 100 ปีมาแล้วที่พินัยกรรมของสมาชิกราชวงศ์ระดับสูงจะถูกปิดผนึกเป็นความลับตามคำสั่งของศาลสูง และครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่ผู้พิพากษาแม็คฟาร์เลน ระบุว่าเพื่อปกป้องพระเกียรติของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ทรงเป็นองค์ประมุขของประเทศ

ครม. เห็นชอบ ปรับเกณฑ์สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ของ SME D Bank ขยายเวลากู้สูงสุด 10 ปี ช่วยผู้ประกอบการช่วงโควิด

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบ ปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ภายใต้มาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อน SMEs สู่ยุค 4.0 (มาตรการด้านการเงิน) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) (SME D Bank) เป็นหน่วยงานดำเนินการหลัก สำหรับหลักเกณฑ์ที่ขอปรับปรุง ได้แก่ 

1.) ปรับระยะเวลากู้ยืมเป็นสูงสุดไม่เกิน 10 ปี และระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น สูงสุดไม่เกิน 2 ปี  จากเดิมกำหนดระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 7 ปี และระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน 

2.) อัตราดอกเบี้ยคงเดิม แต่ปรับระยะเวลาให้เป็นไปตามที่ขยายถึง 10 ปี กรณีผู้กู้เป็นบุคคลธรรมดา ปีที่ 1 - 3 คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ MLR - 1.875 ต่อปี ปีที่ 4 - 10 ให้เป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ ธพว. กำหนด กรณีผู้กู้เป็นนิติบุคคล ปีที่ 1 - 3 คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ MLR – 3.875 ต่อปี ปีที่ 4 - 10 ให้เป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ ธพว. กำหนด และ 3.หลักประกัน ปรับให้ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน หรือ ใช้หลักประกันตามที่ธนาคารกำหนดได้

'จีน' เงื้อดาบปราบ ‘เบี้ยวภาษี’ ระลอกสอง เตือนดารา เน็ตไอดอล 'ใครผิดให้รีบสารภาพ'

รัฐบาลจีนประกาศมาตรการคุมเข้มการตรวจสอบภาษีครอบคลุมทั้งดารานักแสดงไปจนถึงเหล่าเน็ตไอดอล ออกบทลงโทษสถานหนักสำหรับผู้กระทำผิด พร้อมจัดการวงการบันเทิงและวัฒนธรรมแฟนคลับที่ทำกำไรมหาศาลสร้างความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในสังคม

สรรพากรจีนกล่าวว่า ดาราที่ออกมาสารภาพการหลีกเลี่ยงภาษีด้วยตัวเองอาจได้รับโทษเบาลงหรือการยกเว้นโทษ

ค่ายสื่อจีนและสื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่าสำนักบริหารกิจการภาษีแห่งชาติจีน (State Administration of Taxation) แถลงเมื่อวันเสาร์ (18 ก.ย.) ว่าการตรวจสอบบัญชีภาษีจะใช้วิธี “สุ่มสองชั้น” (Double random) โดยผู้ตรวจบัญชีจะทำงานกับผู้ถูกตรวจสอบโดยใช้วิธีสุ่ม รายละเอียดและผลจากการตรวจสอบจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างโปร่งใสโดยทันที

สำนักบริหารกิจการภาษีฯ กล่าวเสริมว่า ดาราที่มีรายได้สูงควรทบทวนการรายงานและแก้ไขความผิดพลาดที่เกี่ยวเนื่องกับภาษีของตัวเองภายในสิ้นปีนี้ ดาราคนใดที่ให้ความร่วมมืออาจมีการลดโทษหรือยกเว้นโทษ ในขณะที่ใครไม่ปฏิบัติตามจะได้รับโทษอย่างถึงที่สุดจากทางการและสมาคมบันเทิงจีน

“คนที่มีความผิดทางภาษีร้ายแรงจะถูกสอบสวนและลงโทษสถานหนักตามกฎหมาย” กรมภาษีย้ำ

กฎหมายจีนระบุว่าบุคคลใดที่ไม่จ่ายภาษีหรือค่าปรับภายในเวลาที่กำหนดจะมีความผิดทางอาญา

สำนักบริหารกิจการภาษีฯ ออกข้อกำหนดดังกล่าวเพื่อตอบสนองนโยบายจัดระเบียบวงการบันเทิงของพรรคคอมมิวนิสต์หลังจากมีข่าวฉาวออกมาไม่เว้นแต่ละวัน หนึ่งในนั้นคือกรณีการหลีกเลี่ยงภาษีของ ‘เจิ้งส่วง’ (郑爽)

ครม.ปรับลดเป้า “คนละครึ่ง-ยิ่งใช้ยิ่งได้” 4 ต.ค.นี้ใช้ร่วม แกรป-ไลน์แมน ได้ 

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ โดย โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิจากเดิม 31 ล้านสิทธิ เป็น 28 ล้านสิทธิ และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิจากเดิม 1.4 ล้านสิทธิเป็น 1 ล้านสิทธิ

ทั้งนี้ จะทำให้มีสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 คงเหลือประมาณ 1 ล้านสิทธิ และสิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้คงเหลือประมาณ 5 แสนสิทธิ ซึ่งจากข้อมูล ณ วันที่ 20 ก.ย. 2564 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 24.22 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 66,366.5 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 33,761.7 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 32,604.9 ล้านบาท ในส่วนของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 75,582 ราย โดยเป็นยอดการใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสมรวม 2,182 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายส่วน e – Voucher สะสม 90.7 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังจะเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิซื้ออาหารและเครื่องดื่มจากร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. 2564 โดยรัฐจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหารและ/หรือเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมถึงค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด ซึ่งขณะนี้มีผู้ให้บริการที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ แล้ว 2 ราย และอยู่ระหว่างเชื่อมโยงระบบกับโครงการฯ ได้แก่ 

1. Grab โดยจะเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งการขาย จากร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการฯ ไม่เกิน 20% และลดค่าจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มให้แก่ประชาชน 25 บาท เมื่อสั่งซื้อขั้นต่ำ 150 บาท สำหรับการสั่งซื้ออื่น ๆ ที่ไม่ใช่จากโครงการฯ และ 2. LINEMAN โดยจะเก็บ GP จากร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการฯ ไม่เกิน 20% และสนับสนุนค่าจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มในโครงการฯ ให้แก่ประชาชน 35-50 บาทต่อครั้ง หรือไม่เกิน 2,000 บาทตลอดระยะเวลาโครงการฯ พร้อมสื่อส่งเสริมการตลาดและส่วนลดสำหรับลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านค้า

ครม.เคาะงบกลาง 2.7 หมื่นล.ใส่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. อนุมัติงบกลาง ปี 64 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 27,005.66 ล้านบาท ให้กับกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งการขยายมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา พร้อมกับสนับสนุนค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การเพิ่มเบี้ยความพิการ และดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ 

ทั้งนี้ในวงเงินนี้ได้แยกเป็น 4 เรื่อง คือ 1.ขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำ/ค่าไฟ วงเงิน 2,018 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 – ก.ย. 2565 แยกเป็น กรณีใช้ไฟฟ้าครอบคลุม ผู้มีบัตรฯ 1.9 ล้านครัวเรือน ส่วนกรณีสนับสนุนค่าน้ำประปา ครอบคลุมผู้มีบัตรฯประมาณ 186,625 ครัวเรือน 2. สนับสนุนค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และการเพิ่มเบี้ยความพิการ ให้ผู้มีบัตร 13.65 ล้านคน วงเงิน 18,815 ล้านบาท 

ส่วนแรก เป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สำหรับค่าซื้อสินค้าอุปโภค/บริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านอื่นๆ โดยผู้มีสิทธิที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี ได้รับ 200 บาท/คน/เดือน ในส่วนผู้มีสิทธิที่มีรายได้ ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ได้รับ 300 บาท/คน/เดือน และได้รับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 55บาท/คน/3 เดือน ส่วนที่ 2 คือ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาทิ ค่าโดยสาร ขสมก. ระบบอี-ทิคเก็ต/รถไฟฟ้า บขส. รถไฟ อย่างละ 500 บาท/คน/เดือน และส่วนที่ 3 คือเบี้ยความพิการ จำนวน 1,000 บาท/คน/เดือน

ครม.ไฟเขียว แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกัน-ปราบปรามการฟอกเงิน เพิ่ม “ลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานตามกม.ว่าด้วยคนเข้าเมือง เป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน”ครม.ไฟเขียว แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกัน-ปราบปรามการฟอกเงิน เพิ่ม “ลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานตามกม.ว่าด้วยคนเข้าเม

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่...) พ.ศ... ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาและรับความเห็นกระทรวงยุติธรรมที่มีความเห็นว่าให้ดำเนินการให้เกิดความสอดคล้องระหว่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบการฟอกเงินและกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง จากนั้นส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรตามขั้นตอนต่อไป  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มเติมบทนิยามของความผิดมูลฐาน โดยกำหนดให้ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองเป็นความผิดมูลฐานในการกระทำผิดฐานฟอกเงินด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  การแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ จะทำให้กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของไทยมีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากลตามที่คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน(Financial Action Task Force :FATF) แนะนำให้แต่ละประเทศปฏิบัติ ลดช่องว่างทางกฎหมายในการประสานงานความร่วมมือระหว่างประเทศ ทำให้การปราบปรามการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

'นิวซีแลนด์' ผ่านกฎหมายฉบับใหม่ สนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปดูด ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ แทน

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเผย รัฐบาลนิวซีแลนด์ออกกฎหมายฉบับใหม่ สนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการควบคุมซึ่งรวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมให้ติดป้ายที่ร้านค้าและช่องทางออนไลน์ จูงใจให้คนมาเวปแทนการใช้บุหรี่ หวังช่วยบรรลุเป้าหมายประเทศปลอดบุหรี่ในปี 2568

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากลุ่มลาขาดควันยาสูบ และแอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน เปิดเผยว่า “รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ผ่านกฎหมายสิ่งแวดล้อมปลอดควันฉบับใหม่ที่จะช่วยชีวิตผู้สูบบุหรี่ของนิวซีแลนด์จำนวนมาก โดยสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้ทางเลือกที่อันตรายน้อยกว่าบุหรี่ซิกาแรตซึ่งรวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าและยาสูบแบบใช้ความร้อน โดยความตั้งใจของกฎหมายนี้คือการให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือก และควบคุมบุหรี่แบบดั้งเดิมให้เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศไทยที่แบนทางเลือกดังกล่าว แถมประโคมข่าวในแง่ลบเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าตลอดเวลาจนทำให้สังคมเข้าใจผิดมาตลอด”

รายงานข่าวจากนิวซีแลนด์ระบุว่า รัฐมนตรีสาธารณสุขนิวซีแลนด์ เจนนี ซัลเลซา ให้ความเห็นว่า “กฎหมายฉบับนี้มุ่งทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการช่วยผู้สูบบุหรี่ให้เลิกสูบโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือก ขณะที่พยายามไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้ามาริเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น”

ท่าทีของรัฐบาลนิวซีแลนด์นั้นได้พิจารณาเห็นว่าผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าหรือผลิตภัณฑ์ไร้ควันมีศักยภาพที่จะช่วยให้นิวซีแลนด์บรรลุเป้าหมายสังคมปลอดบุหรี่ภายในปี 2568 ได้ โดยในกฎหมายฉบับใหม่นี้กำหนดให้ร้านค้าและช่องทางจำหน่ายออนไลน์แสดงข้อความว่า “การแทนที่บุหรี่ด้วยการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยลดอันตรายต่อสุขภาพของคุณ” และ “ถ้าคุณสูบบุหรี่ การเปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทนจะเป็นทางเลือกที่อันตรายน้อยกว่ามาก”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top