Monday, 12 May 2025
Hard News Team

‘โกฐจุฬาลัมพา’ สมุนไพรที่ต้องจับตามอง ล่าสุดผลวิจัยขั้นต้นพบ สามารถต้านเชื้อโควิดได้

กระแสการเลือกใช้ยาสมุนไพรเพื่อช่วยต้านโควิด-19 มีข่าวออกมาให้เห็นกันเรื่อย ๆ จากยาฟ้าทะลายโจร มาจนถึงกระชาย และล่าสุดกับ ‘โกฐจุฬาลัมพา’ ที่ล่าสุดนี้มีข่าวออกมาว่า มีการวิจัยในขั้นต้นว่าสมุนไพรชนิดนี้ช่วยต้านโควิด-19 ได้

โดยทางเพจ BIOTHAI (มูลนิธิชีววิถี) ได้ออกให้ข้อมูลว่า มีคณะนักวิจัยจาก Columbia University และ University of Washington สหรัฐอเมริกา ได้วิจัยพบว่า ‘โกฐจุฬาลัมพา’ สามารถต้านเชื้อโควิดได้ในห้องปฏิบัติการ ผลวิจัยดังกล่าว พบว่าสารสกัดโดยน้ำร้อนของสมุนไพรนี้มีฤทธิ์ยับยั้งโควิดได้ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยก่อนหน้านี้ของนักวิจัยในจีน และการส่งเสริมโดยประธานาธิบดีแห่งมาดากัสการ์

สารสกัดรวมของโกฐจุฬาลัมพา (โดยมีตัวอย่างหนึ่งเป็นใบแห้งมีอายุการเก็บมานานกว่า 10 ปี) มีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งเชื้อโควิด ซึ่งรวมทั้งสายพันธุ์แอฟริกา และอังกฤษ โดยนักวิจัยเชื่อว่าสารที่มีบทบาทสำคัญในการยับยั้งไวรัสมรณะนี้นอกจากสาร artemisinin และองค์ประกอบแล้วน่าจะมาจากการทำงานของสารอื่น ๆ ในโกฐจุฬาลัมพาด้วย

ในบัญชียาจากสมุนไพรที่มีการใช้ตามองค์ความรู้เดิม ตามประกาศของคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) มีปรากฏการใช้สมุนไพรโกฐจุฬาลัมพาในหลายตำรับ ได้แก่ ยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิตหรือยาแก้ลม ซึ่งมีปรากฏในตำรับ ‘ยาหอมเทพจิตร’ และตำรับ ‘ยาหอมนวโกฐ’ ที่มีส่วนประกอบของโกฐจุฬาลัมพาอยู่ในพิกัดโกฐทั้งเก้าร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ อีกในตำรับ

โดยมีสรรพคุณเป็นยาแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืดตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน และแก้ลมจุกแน่นในท้อง และในยาแก้ไข้ก็มีปรากฏในตำรับ ‘ยาจันทน์ลีลา’ และตำรับ ‘ยาแก้ไข้ห้าราก’ ที่มีส่วนประกอบของโกฐจุฬาลัมพาร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ อีกในตำรับ โดยมีสรรพคุณเป็นยาบรรเทาอาการไข้ตัวร้อน ไข้เปลี่ยนฤดู

ทั้งนี้ งานวิจัยเกี่ยวกับโกฐจุฬาลัมพาช่วยต้านโควิด-19 ยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองในห้องปฏิบัติการ การจะเลือกใช้โกฐจุฬาลัมพา เป็นยาสมุนไพรช่วยต้านโควิดจึงต้องตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบ และติดตามผลการทดลองทั้งในไทยและต่างประเทศ

ในเบื้องต้น ทาง BIOTHAI แนะนำข้อควรระวังไว้ว่า ต้นโกฐจุฬาลัมพามีทั้งพันธุ์ดอกสีขาวและดอกสีแดง มีสรรพคุณทางยาเหมือนกัน สามารถนำมาใช้แทนกันได้ นอกจากนี้ ยังมีพันธุ์ดอกสีเหลือง ชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Artemisia princeps Pamp ด้วย แต่พันธุ์นี้จะมีพิษ ถ้าใช้เกินขนาดก็อาจทำให้เสียชีวิตได้

การใช้ยา ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ควรใช้ตามคำแนะนำของหมอพื้นบ้าน และแพทย์แผนไทย เพราะอาจส่งผลกระทบต่อตับไต หญิงตั้งครรภ์ หรือไข้เลือดออก


ที่มา : https://mgronline.com/travel/detail/9640000075833


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เมื่อทำเนียบขาว​ ก็สองมาตรฐานกับเขาเหมือนกัน!! | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

ทำเนียบขาวสีเทา!! 
สะท้อนสองมาตรฐานการเมือง!! ที่คนไทยควรเรียนรู้และเท่าทัน... 
เมื่อรัฐบาลยุค​ 'โจ​ ไบเดน' ปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อ = ‘ไม่ผิด’
แต่ถ้าเป็นยุค 'โดนัลด์​ ทรัมป์'​ ปกปิด = ‘ไม่โปร่งใส’

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

.

.


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
- ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
- รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
- สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
- แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

จุรินทร์ กำชับ ดึงประโยชน์ FTA ช่วยผู้ประกอบการส่งออก ลดต้นทุนการผลิต-การส่งออก นำรายได้เข้าประเทศ เพราะสถานการณ์นี้ประเทศต้องพึ่งพาส่งออกเป็นขาหลัก

วันที่ 3 ส.ค. นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามนโยบายด้านเขตการค้าเสรี หรือ Free Trade Area หรือ FTA ที่ประเทศไทยได้ประโยชน์ทั้งนี้เพื่อประกอบเป็นฐานข้อมูลสำหรับผู้ส่งออกในการหาตลาดที่เป็นประโยชน์และลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนการส่งออกได้นับจากนี้

นางมัลลิกา กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศที่ไทยมี FTA กับ 18 ประเทศ โดยในปี 2563 มีการค้ากับประเทศที่มี FTA รวม 276,005 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8,044,703 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 63 ของการค้าไทยกับทั้งโลก สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 คือระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 การค้าของไทยกับประเทศคู่ FTA มีมูลค่ารวม 167,372 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,297,055 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 เป็นการส่งออกไปประเทศคู่ FTA มีมูลค่ารวม 81,961 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว ร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563

ซึ่งในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมการค้ามีการขยายตัวในประเทศที่มีการทำ FTA โดยเฉลี่ยประมาณ 150-200% ในขณะที่ประเทศที่ไม่มี FTA มีการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 50-100%โดยการใช้สิทธิประโยชน์ผ่าน FTA ในปี 2563 มีมูลค่า 58,077.19 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 76.5 ของการส่งออก ที่ได้รับสิทธิ FTA

"ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 คือ มกราคม-เมษายน 2564 มีการขอใบรับรองเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ในการส่งออกด้วย FTA มูลค่า 23,082.45 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ ร้อยละ 74.91 ของมูลค่าการส่งออกของรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิ FTA เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ร้อยละ 18.09 และประเทศที่ไทยมีมูลค่าการส่งออกภายใต้สิทธิ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินเดีย" นางมัลลิกา กล่าว

อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ กำชับให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลผู้ประกอบการทุกระยะเพื่อได้ใช้ประโยชน์ทางการค้าและเพิ่มตลาดส่งออกที่สำคัญ โดยในช่วงที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเรื่องนี้ในฐานะประธานการประชุมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ Regional Comprehensive Economic Partnership หรือ RCEP ระหว่าง 15 ประเทศ

ประกอบด้วยกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ และบวกอีก 5 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยที่ถือว่าเป็นความตกลงทางหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่า GDP 1 ใน 3 ของโลกและมีประชากรรวมกัน 1 ใน 3 ของโลก ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากในการเปิดการค้าเสรีเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยให้ห่วงโซ่มูลค่าการผลิตโลกเพิ่มสูงขึ้น ในส่วนนี้คาดว่าจะเริ่มต้นได้ในต้นปี 2565 จึงอยากเชิญชวนให้ภาคเอกชนใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP โดยสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าใช้บริการของ RCEP Center ที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ โดยสอบถามข้อมูลผ่าน Call Center ที่หมายเลข 02-507-7555 รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ www.dtn.go.th และเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์ที่ www.moc.go.th


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผย สปป. ลาว ยังไม่มีการพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่คนไทย 7 รายที่เข้าไปเก็บของป่า (เห็ด)

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีคนไทย 7 ราย ถูกจับกุมตัว เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 เนื่องจากรุกล้ำแนวชายแดนไทย-สปป. ลาว เข้าไปเก็บของป่า (เห็ด) ในบริเวณพื้นที่ช่องทางธรรมชาติ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ตรงข้ามกับเมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก สปป. ลาว ว่า หลังคนไทยกลุ่มดังกล่าวถูกจับกุม ทางการ สปป. ลาวได้ประสานงานกับตำรวจชายแดน อ.โขงเจียม เพื่อตรวจสอบชื่อผู้ถูกจับกุมทั้ง 7 ราย

เมื่อทราบเรื่อง สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ซึ่งรับผิดชอบเขตอาณาดังกล่าว ได้ประสานงานกับแขวงจำปาสักเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ถูกจับกุม และได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่า ขณะนี้คนไทยทั้ง 7 คน อยู่ที่ศูนย์กักตัวหลัก 21 ของแขวงจำปาสัก โดยแผนกการต่างประเทศของแขวงจำปาสักได้มีหนังสือแจ้งการจับกุมคนไทยทั้ง 7 รายอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะกักตัวคนไทยทั้ง 7 ราย เป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของ สปป.ลาว ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมาย และส่งตัวกลับประเทศไทยต่อไป

"จากกรณีที่เป็นข่าวว่า สปป. ลาว ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่คนไทยทั้ง 7 รายนั้น จากการตรวจสอบกับฝ่าย สปป. ลาว ปรากฎว่า...ยังไม่มีการพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้คนไทยทั้ง 7 ราย ตามที่ปรากฏแต่อย่างใด ทางกระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ จะประสานงานกับแขวงจำปาสักในการให้ความช่วยเหลือ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้คนไทยทั้ง 7 รายสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้โดยเร็ว" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/112088


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม'​ หนุนภาคเกษตรนครศรีธรรมราช​ เหมาผลไม้ 20 ตัน ช่วยชาวสวน ฝ่าวิกฤต Covid-19

(3 ส.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานพบภายในบ้านใหญ่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้มีรถบรรทุกขนาดใหญ่​ ภายในรถคันดังกล่าวได้บรรจุผลไม้มาเต็มคันรถ คาดว่ามีจำนวนไม่ต่ำกว่า 20 ตัน  หรือ (20,000 กิโลกรัม)

จากการสอบถามทราบว่า ภายในรถบรรทุกนั้น ได้มีการลำเรียงผลไม้มาเป็นจำนวนมากหลายชนิด โดยการสนับสนุนจาก​ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ที่มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรชาวสวนจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ให้การสนับสนุนพี่น้องเกษตรกรชาวสวน โดยการเหมาสวนผลไม้ของพี่น้องชาวสวนจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 20 ตัน หรือ 20,000  กิโลกรัม เพื่อเป็นการช่วยเหลือและให้กำลังใจเกษตรกรชาวสวนทางภาคใต้ฟันฝ่าวิกฤต Covid-19

โดยนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม​ ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ผลไม้ทั้งหมดสั่งตรงมาจากสวนผลไม้ของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนในจังหวัดนครศรีธรรมราช  จำนวน 20 ตัน หรือ 20,000 กิโลกรัม เพื่อเป็นการช่วยเหลือและอุ้มพี่น้องเกษตรกรชาวใต้ ฟันฝ่าวิกฤต Covid-19 โดยผลไม้ทั้งหมดที่ช่วยเกษตรกรอุดหนุนมานั้น จะนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ โรงพยาบาลสนาม รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ และพี่น้องประชาชนในชุมชน 

นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ยังกล่าวต่ออีกว่า “เป็นเวลาที่พวกเรา ต้องช่วยกัน” อีกทั้งได้กล่าวถึงการอุดหนุนผลผลิตต่างๆ เช่น มังคุด, ส้มโอทับทิมสยาม, เงาะโรงเรียน และ ลองกอง  ด้วยการใช้งบประมาณส่วนตัวในการสนับสนุนซื้อผลไม้จากพี่น้องชาวสวน จำนวนกว่า 20,000 กิโลกรัม จากจังหวัดนครศรีธรรมราช

อีกทั้ง ยังเป็นการแสดงออกถึงความรักและความห่วงใยที่มีต่อพี่น้องเกษตรกรชาวใต้  และจะนำผลผลิตทั้งหมดส่งมอบให้กับพี่น้องประชาชนจังหวัดสมุทรปราการ แทนความห่วงใยที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังคงปฎิบัติหน้าที่อย่างเหน็ดเหนื่อย รวมถึงประชาชนที่เดือดร้อนประชาชนที่ขาดรายได้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 

โดยทางด้าน เกษตรกรผู้ปลูกไม้ผล ต่างขอบคุณในความมีน้ำใจที่คุณเอ๋ หรือนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ได้ให้การสนับสนุนผลผลิตของพี่น้องชาวสวนทางภาคใต้ เเละยังเป็นการได้ระบายผลผลิตเพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดสมุทรปราการได้อีกด้วย  ซึ่งถือเป็นการให้ความช่วยเหลือได้อีกหนึ่งทาง

นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ยังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า อย่างไรก็ตาม การให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในจังหวัดสมุทรปราการ ด้วยโครงการวัคซีนชิโนฟาร์ม และโรงพยาบาลสนาม ของทาง อบจ. สมุทรปราการ ที่ประสบความสำเร็จนั้นเป็นเพียงมิติด้านเดียวในการทำงาน แต่ยังมีประชาชนพี่น้องของเราในจังหวัดสมุทรปราการและต่างจังหวัด ที่ยังรอคอยความช่วยเหลืออยู่ตนจึงพยายามผลักดันให้ทุกโครงการที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนนั้น สามารถดำเนินไปแบบควบคู่กันได้ในทุกมิติ

คิว-ข่าวสมุทรปราการ  รายงาน

‘ก้าวไกล’ จี้ พม. เร่งเปิดเผยข้อมูลและแนวทางการให้ความช่วยเหลือ ‘เด็กกำพร้า’ จากสถานการณ์โควิด

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตรายวันจำนวนมาก พบหลายรายเป็นพ่อหรือแม่ เป็นผู้ดูแลเด็ก จนทำให้เด็กกลายเป็น ‘เด็กกำพร้า’ แบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่พบว่ากระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหน่วยงานหลักได้แถลงสถานการณ์และแนวทางการให้ความช่วยเหลือเด็กอย่างเป็นระบบ แถมยังไปขอให้ภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้ากันเอง

“ภาพเด็กหญิงอายุ 7 ปี และ 9 ปี สองพี่น้องที่ต้องสูญเสียแม่เสาหลักเพียงคนเดียวที่ จ.สมุทรปราการ เป็นเพียงหนึ่งภาพสะท้อนที่สร้างความสะเทือนใจแก่สังคม แต่ในฐานะที่ทำงานด้านคุ้มครองเด็กมานาน กลับไม่เห็นการแถลงข่าวของกระทรวง พม. ที่เป็นหน่วยงานหลักตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ว่าได้มอบหมายให้ พมจ. สำรวจว่ามีเด็กกำพร้าหรือได้รับผลกระทบจำนวนเท่าใดกันแน่ แนวทางการให้ความช่วยเหลือทั้งการฟื้นฟูร่างกายจิตใจ การมีผู้ดูแลระยะยาว การศึกษาของเด็ก โดยไม่จำเป็นต้องแยกเด็กมาดูแลในสถานสงเคราะห์จะเป็นอย่างไร มิใช่แต่เพียงการช่วยเฉพาะรายที่เป็นข่าว และอ้างว่าจะใช้เงินจากกองทุนคุ้มครองเด็กที่มีระเบียบยุ่งยากหรือจะตั้งมูลนิธิช่วยเหลือแต่เพียงอย่างเดียว อนาคตของเด็ก ๆ เป็นอนาคตของชาติและสำคัญกว่าจะปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม” นายณัฐวุฒิระบุ

โดยข้อมูลจาก The Lancet Medical Journal วารสารทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียง เปิดเผยรายงานการประเมินนับจากการระบาดของโรคตั้งแต่ 1 มีนาคม 2563 - 30 เมษายน 2564 ว่ามีเด็กอย่างน้อย 1.13 ล้านคน ต้องสูญเสียพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายที่เป็นผู้ดูแลหลักอย่างน้อย 1 คน และมีเด็กไม่น้อยกว่า 1.56 ล้านคน ต้องเผชิญกับการสูญเสียผู้ดูแลหลักหรือผู้ดูแลรอง เช่น เครือญาติในบ้าน อย่างน้อย 1 คน นี่นับเฉพาะข้อมูลจาก 21 ประเทศที่มีการเสียชีวิตสูงสุด

สำหรับในประเทศไทยนั้นมีการประเมินโดย Imperial College London แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คาดการณ์ว่าจะมีเด็กกำพร้าที่พ่อแม่หรือทั้งสองเสียชีวิตอย่างน้อย 160 คน เด็กที่อยู่ในภาวะที่มีผู้ดูแลหลักเสียชีวิตอย่างน้อย 180 คน และอีกมากกว่า 350 คน ที่มีผู้ดูแลหลักหรือผู้ดูแลรองในบ้านเสียชีวิต แม้เด็กจะไม่ได้กำพร้าก็ตาม และตัวเลขนี้เป็นตัวเลขการประเมินก่อนที่จะมีอัตราการเสียชีวิตมากขึ้นในปัจจุบัน

การเสียชีวิตของคนในครอบครัวย่อมส่งผลกระทบ หรือ trauma กับเด็กทั้งทางจิตใจและทางสังคม ที่ต้องได้รับการประเมินจากนักวิชาชีพผู้เกี่ยวข้อง เพราะเด็กแต่ละคนมีต้นทุนไม่เหมือนกัน ยิ่งถ้าเป็นเด็กกำพร้า ยิ่งจะต้องได้รับการประเมินและติดตาม เพราะผลกระทบยิ่งมากกว่าทั้งการขาดผู้ดูแล การเรียนรู้บทบาทในครอบครัว ที่อยู่ เศรษฐานะ โอกาสในการศึกษา โอกาสในอาชีพ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งภายใต้ พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 นั้น ได้กำหนดให้ พม. เป็นกระทรวงหลัก ดำเนินการผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะต้องเร่งในการสำรวจข้อมูลเด็กที่ได้รับผลกระทบ การวางแผนในการช่วยเหลือ และการมอบหมายให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ ทำหน้าที่เป็น case manager ในการติดตาม ซึ่งรวมถึงการประเมินว่าใครจะเป็นผู้ดูแลเด็ก และเด็กจะเติบโตไปในระยะยาวได้อย่างไร และแน่นอนว่าสถานการณ์แบบนี้เป็นการตอกย้ำว่าการมีนโยบาย ‘เงินอุดหนุนเด็กเล็ก’ แบบถ้วนหน้า ยิ่งจำเป็นยิ่งที่ต้องลงทุน มากกว่าการใช้งบประมาณที่ไม่จำเป็นในด้านอื่น ๆ

“ตนชื่นชมคนในสังคมที่ช่วยเหลือเมื่อเห็นเด็กสูญเสียพ่อแม่จากโควิด ทั้งการบริจาค การระดมทุน แม้กระทั้งการหามูลนิธิหรือโรงเรียนประจำให้เด็ก แต่รัฐบาลที่มีหน้าที่โดยตรง โดยเฉพาะกระทรวง พม. ที่ควรวางแผนและแถลงถึงแนวทางรองรับปัญหาที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นกลับไม่ได้ทำ ซึ่งตนจะเสนอให้ กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนฯ เชิญนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบถามถึงแนวทางการช่วยเหลือเด็กกำพร้าและเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโควิดต่อไป หลาย ๆ เรื่องในสังคมไทย อาจเป็นเรื่องที่รอได้ แต่เรื่องเด็กเป็นเรื่องที่รอไม่ได้” นายณัฐวุฒิกล่าวทิ้งท้าย


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สำนักงานข้อมูลรัฐบาลเทศบาลกรุงปักกิ่งรายงานสถานการณ์และแถลงมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด รวม 9 มาตรการ ในกรุงปักกิ่ง

เมื่อ 1 สิงหาคม 2564 สำนักงานข้อมูลรัฐบาลเทศบาลกรุงปักกิ่งรายงานสถานการณ์และแถลงมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด รวม 9 มาตรการ ในกรุงปักกิ่ง ดังนี้...

>> 1.) ลดการเดินทางเข้า-ออก และการเคลื่อนไหวในกรุงปักกิ่ง

(1.1) ขอให้ประชาชนลดการเดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง หรือออกนอกประเทศ ยกเว้นกรณีจำเป็น ลดการเดินทางภายในกรุงปักกิ่ง และหลีกเสี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงสูงและปานกลางในมณฑลหรือเมืองอื่น ๆ

(1.2) ควบคุมบุคคลที่เดินทางอกจากพื้นที่เสี่ยงในกรุงปักกิ่งอย่างเคร่งครัด โดยต้องแสดง Health Kit รหัสสีเขียวและผลตรวจ Nucleic Test ที่เป็นลบภายใน 48 ชม. หากมีความจำเป็นต้องเดินทาง

(1.3) ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงและปานกลางจะถูกจำกัดการเดินทางเข้ามายังกรุงปักกิ่ง สำหรับผู้ที่เข้ามาแล้วจะต้องให้ความร่วมมือในการรายงานเส้นทางเดินทางการตรวจหาเชื้อโควิด และดำเนินการตามมาตรการการเฝ้าระวังในพื้นที่

(1.4) เพิ่มการเฝ้าระวังสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าหรือกลับกรุงปักกิ่ง หากผู้ที่เดินทางเข้ากรุงปักกิ่งพบว่าเป็นผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ และเป็นผู้ใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงต่ำ จะต้องรายงานให้หน่วยงานและชุมชน (หมู่บ้าน) รับทราบและคอยเฝ้าระวัง

>> 2.) คอยเฝ้าระวังและควบคุมการเดินทางของผู้คนจำนวนมากระหว่างช่วงปิดภาคฤดูร้อน

(2.1) จำกัดการท่องเที่ยวเข้า-ออก ในกรุงปักกิ่ง ไม่อนุญาตให้บริษัททัวร์ให้บริการตั๋วเครื่องบินและโรงแรม เพื่อเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงสูงและปานกลาง ห้ามรับผู้ที่เคยเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงสูงและปานกลางภายใน 14 วัน รวมถึงผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้าประเทศจีนน้อยกว่า 21 วัน

(2.2) จำกัดปริมาณผู้เข้าชมสวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยจะจำกัดเหลือเพียง 60% และต้องมีการนัดหมายล่วงหน้า

(2.3) ผู้ที่เข้าพักโรงแรม เกสต์เฮาส์ หรือที่พักต่าง ๆ จะต้องสแกน Health Kit รายงานเส้นทางการเดินทาง และวัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการเสมอ

(2.4 ขยายบริการการแพทย์ออนไลน์ทางไกล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดภายในสถาบันทางการแพทย์ และคัดกรองผู้ที่เข้ามากรุงปักกิ่งเพื่อรับการรักษาพยาบาลอย่างเข้มงวด โดยจะมีการสอบถามประวัติการสัมผัสใกล้ชิดและตรวจ Nucleic Test

(2.5) จำกัดจำนวนและลดขนาดของกิจกรรม การประชุม ชุมนุม การแสดงต่าง ๆ ควบคุมการเคลื่อนไหวของฝูงชน และรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัยตลอดทั้งกิจกรรม

สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้คนไทยทุกคนทราบมา ณ ที่นี้


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=373199764325441&id=107367570908663


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง 28 ตำแหน่งตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้ “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย โยกผู้ว่าฯ หมูป่าคนดัง ย้ายมาเป็นผู้ว่าปทุมฯ ส่วนผู้ว่าปทุมฯ ขึ้นเป็นรองปลัด

วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมฯ มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยจะเสนอชื่อแต่งตั้งข้าราชการ ตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง 28 ตำแหน่ง โดยมีการเสนอชื่อ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งนายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน โดยมีตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดว่างอยู่ 18 จังหวัด และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 1 ตำแหน่ง

ซึ่งการโยกย้ายครั้งนี้จะเป็นการย้ายสลับผู้ว่าฯ มาแทนตำแหน่งที่ว่างลง พร้อมด้วยการโยกย้ายสลับจังหวัด และจะมีการต่ออายุให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ประกอบด้วย นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าฯ ชลบุรี นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าฯ ขอนแก่น นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าฯ พัทลุง ออกไปอีก 1 ปี

เมื่อดูตามลำดับอาวุโสในระดับเดียวกับ นายสุทธิพงษ์ถือว่าอาวุโสสูงสุด ชื่อเล่น “เก่ง” เกิดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2507 อายุ 57 ปี ยังเหลืออายุราชการอีก 3 ปี เป็น “สิงห์ดำ” รุ่นที่ 36 จบรัฐศาสตร์บัณฑิต และรัฐศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาเดียวกัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เติบโตในอาชีพราชการรวดเร็วขึ้นครองซี 10 ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกในปี 2552 ด้วยวัยเพียง 46 ปี ย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยปี 2556 ต่อมากลับไปเป็นผู้ว่าฯ สระบุรี ย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ ชัยนาท ปี 2557 ขึ้นเป็นรองปลัดมหาดไทย ปี 2558 จากนั้นโยกไปนั่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ปี 2560 (สถ.) ตำแหน่งล่าสุดเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เมื่อปี 2562

นอกจากนี้ที้ประชุม ครม.ยังเห็ชอบแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงสังกัดกระทรวงมหาดไทย ดังนี้

นายไชยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย

นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายสำนักงานปลัดกระทรวงเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย

นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

นายพุฒิธิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่

นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ

นายภาสกร บุญญารักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตราด

นายชาธิป รจนเสรี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

นายชยันต์ ศิริมาส ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี

นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นายนิพนธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี

นายวีระชัย นาคมาส ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา

นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร

นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร

นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา

นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง

นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

นายปริญญา โพธิสัตว์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว

นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย

นายพงศิรัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความประเมินสถานการณ์การเมืองช่วงนี้ว่า...

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความประเมินสถานการณ์การเมืองช่วงนี้ ผ่านเฟซบุ๊ก 'Thepmontri Limpaphayorm' ว่า...

ความจริงในเวลานี้...

ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐ...

>> พ่อฟ้าธนาธร (ผีเน่า) ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง

>> ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตย แบบเผด็จการรัฐสภา (สัมภเวสีหนีคดีโกง) ลุงโทนี่

>> ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลุงตู่ (กำลังถูกไล่)

>>×ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข น้าอนุทิน (กำลังถูกไล่)

>>×ส่วนม้านอกสายตา : ชัยเกษม / อภิสิทธิ์ (คู่ขัดแย้งเสื้อแดง)

ประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤติด้วยโรคระบาด โควิด-19...

ประเทศไทยมีม็อบสองเขาสามกีบ ไม่มีความหมาย ไม่มีความสามารถ หรือสติปัญญาเพียงพอที่จะเป็นที่พึ่งหวังได้ แถมเป็นเครื่องมือให้นักการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ ที่อยากจะล้มสถาบัน แนวโน้มแกนนำจะติดคุกกันทั้งหมด

แกนนำระดับตัวพ่อ >> ธนาธร / ปิยบุตร / ช่อ

แกนนำระดับตัวลูก กวิ้น / รุ้ง / ไผ่ / ไมค์ / วีโว้ การศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี และปริญญาโท

เหล่าบรรดาสาวก มีหลากหลายสาขาอาชีพ ปริญญาตรี-ปริญญาเอก แต่หลงเชื่อแนวคิดผู้มีการศึกษาต่ำกว่า ปริญญาตรี

ประเด็นที่ออกมาขับไล่ลุงตู่ 'ยังไม่แหลมคมพอ' เอาแต่ด่า จาบจ้วงเบื้องสูง สะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง ตอบโจทย์สังคมไม่ได้ว่าที่ทำไปทั้งหมดเป็นเรื่องของอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร?

ยิ่งลักษณะที่น่ารังเกียจ คือ การรับเงินบริจาคเป็นรายบุคคล ส่วนสาวกก็เป็นม็อบรับจ้างด้วยแล้ว...

>> ม็อบไร้ความสามารถ เล่นประเด็นผิด ลุงตู่จึงเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=5966356816739729&id=100000964084010


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ประยุทธ์”มอบเงินช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 พร้อมถุงกำลังใจ

ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และถุงยังชีพ (ถุงกำลังใจ) จากเงินบริจาคบัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ไปแล้ว จำนวน 126 ราย เป็นเงินประมาณ 4.5 ล้านบาทเศษ แบ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 86 ราย และเจ้าหน้าที่สนับสนุน 40 ราย  ในวันนี้ คณะกรรมการฯ ให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุน เพิ่มอีกจำนวน 27 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 1,285,000 บาท โดยมี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมพิธี

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งบัญชี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเป็นความร่วมมือของรัฐบาล ภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมนอกจากการช่วยเหลือตามระบบราชการของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว เพื่อเป็นขวัญกำลังแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และครอบครัวที่เสียสละตนเองทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่ รวมถึงการการมอบถุงยังชีพถุงกำลังใจซึ่งบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิต หน้ากากอนามัย และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร สอดคล้องกับการดำเนินงาน Home Isolation  ตามนโยบายของรัฐบาล สิ่งสำคัญ คือ ให้สามารถส่งสิ่งของช่วยเหลือต่าง ๆ และยา ให้ถึงบ้านและถึงมือประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างรวดเร็วขึ้น 

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณคณะรัฐมมนตรี ภาคเอกชน และประชาชน ที่ร่วมกันบริจาคเงินเข้ามา เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียและครอบครัว ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น คุณงามความดีที่บุคคลเหล่านั้นได้กระทำไว้ยังเป็นที่จดจำ รัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมไปถึงการดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มเปราะบางในประเทศไทยด้วย 

โอกาสนี้   นายกรัฐมนตรี มอบเงินช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)  และและถุงยังชีพ (ถุงกำลังใจ) ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แอลกอฮอลล์เจล และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่สนับสนุนสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 18 ราย รวมเป็นเงิน 1,020,000 บาท มีนายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนรับมอบ ,เจ้าหน้าที่สนับสนุนสังกัดกระทรวงหมาดไทย จำนวน 8 ราย รวมเป็นเงิน 250,000 บาท  มีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนรับมอบ ,เจ้าหน้าที่สนับสนุนสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 15,000 บาท มีนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรับมอบ ,และถุงยังชีพช่วยเหลือครอบครัวกลุ่มเปราะบางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 6,796 ชุด รวมเป็นเงิน 6,796,000 บาท มีนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้รับมอบ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top