Wednesday, 2 July 2025
Hard News Team

“องอาจ” ฝากผู้ว่าฯ กทม. เร่งลอกท่อระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมขัง กำชับเจ้าหน้าที่ป้องกันน้ำท่วมเต็มที่ แอบแซะอย่าปล่อยให้ลืมกุญแจเปิดปิดประตูระบายน้ำ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมการป้องกันน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานครว่า จากการเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดทางภาคกลาง ทำให้ชาวบ้านใน กทม. เริ่มวิตกกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมใน กทม. หรือไม่ แต่ทางผู้ว่าฯ กทม. ได้ยืนยันว่า กทม. จะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 จึงทำให้คลายความวิตกกังวลลงไปได้บ้าง

แต่ขณะนี้ได้มีชาวบ้านจากหลายพื้นที่ได้ร้องเรียนผ่านตัวแทนของพรรค ทั้งอดีต ส.ส. กทม. และอดีต ส.ก. ผู้สมัคร ส.ก.ในพื้นที่เขตต่างๆ ว่า เมื่อมีฝนตกติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจะเกิดปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ทั้งถนนสายหลัก และตรอกซอกซอยต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้สัญจรไปมาและผู้พักอาศัยตามบ้านเรือนต่างๆ เป็นอย่างมาก 

ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำท่วมขังเป็นเวลานานเมื่อฝนตก นอกจากบางพื้นที่จะมีสภาพเป็นแอ่งกระทะที่น้ำท่วมขังง่ายเป็นกรณีพิเศษแล้ว ยังพบว่าหลายปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการลอกท่อระบายน้ำเท่าที่ควร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน เพราะน้ำไหลไม่สะดวก จึงขอฝากผู้ว่าฯ กทม. ช่วยเร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำเป็นการเร่งด่วน ทำให้การระบายน้ำรวดเร็วขึ้น เพื่อทำให้ความเดือดร้อนของชาวบ้านลดน้อยลง 

ตม.ร่วม ภ.4 รวบ ฝรั่งเมายาบ้า ข่มขืนสาวร้านนวดแผนไทย ใน จ.ขอนแก่น

(2 ต.ค.64) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ข่มขืนพนักงานร้านนวดแผนไทย ในจังหวัดขอนแก่น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ก.ย.64 เกิดเหตุชายสัญชาติอเมริกัน ทำร้ายร่างกายและข่มขืนพนักงานร้านนวดแผนไทย เหตุเกิดที่ร้านนวด ย่าน ถ.รอบเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ระหว่างหลบหนีได้ไปก่อเหตุกระทำอนาจารกับเด็กสาว อายุ 13 ปี อีกรายในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จนป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ความสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากผู้ต้องหากระทำผิดอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ผู้เสียหายเป็นหญิงที่ประกอบอาชีพพนักงานนวด อาจทำให้เพื่อนร่วมอาชีพเกิดความหวาดระแวงต่ออาชญากรรม จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.ภูมิภิภัทฒ์ฯ ผบช.สตม. และ พล.ต.ท.บรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 เร่งสืบสวนติดตามนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่สังคมโดยเร็วที่สุด

ตำรวจ PCT ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์ทั่วกรุง พบเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท

(1 ต.ค.64) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ ,พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น./หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ที่ 4 แถลงผลการทลายเครือยข่ายการพนันออนไลน์ 4 จุด ทั่วกรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาได้ 17 ราย พบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 1,000 ล้านบาทต่อเดือน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ฯ นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายหลังสืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายทำเว็บไซต์พนันออนไลน์ UFA44, UFA8282, UFAsexy, UFA991, UFAcompany, UFA55, UFA968, UFA757, UFAcsi, Jetsadabet, UFAcasino168 และ รวย รวมทั้งหมด 12 เว็บฯ โดยจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และการพนันทายผลฟุตบอลต่างประเทศ ซึ่งมีผู้ร่วมในกลุ่มเว็บไซต์ดังกล่าวจำนวนมากมีเล่นการพนันออนไลน์เกี่ยวกับฟุตบอล, พนันสล็อต, เกมส์ ,เกมส์ยิงปลา เกมส์สล็อต บิงโก หรือ เกมส์อื่นๆ มีการเสนอการฝาก ถอน เงินสดสำหรับเป็นเครดิตในการเล่นพนันผ่านธนาคารพานิชย์ (ในประเทศไทย) และเว็บไซต์มีระบบ ฝาก-ถอน อัตโนมัติ สถานที่ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของกลุ่มบุคคลเครือข่ายที่ทำด้านการตลาด, แอดมิน ,จุดการดำเนินการเรื่องการเงิน รับโอนเข้า-ออก 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นจากศาลอาญาตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดภายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จับกุม นายธเนส สงวนนามสกุล อายุ 25 ปี กับพวกรวมทั้งสิ้น 17 คน และยึดของกลางรถยนต์ BMW จำนวน 1 คัน คอมพิวเตอร์จำนวน 17 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน (พนันออนไลน์ เช่น ฟุตบอล,คาสิโนออนไลน์, สล๊อตออนไลน์ หวยออนไลน์ ไก่ชน มวยสเต็ป อีสปอร์ต ฯลฯ) ในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาต”

ตร.เตือน รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้คนอื่นใช้บัญชี เสี่ยงคุก!

(1 ต.ค.64)​ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้มี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

ในปัจจุบัน ได้มีประชาชนบางส่วน หารายได้จากการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือยินยอมเปิดบัญชีธนาคารในชื่อของตนให้ผู้อื่นใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน โดยจะมอบสมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม หรือซิมโทรศัพท์ที่มีการลงทะเบียน ธนาคารออนไลน์(E-Banking)  มอบให้กับผู้ว่าจ้างให้เปิดบัญชีหรือบุคคลอื่น จากนั้นจะนำบัญชีธนาคารดังกล่าวไปใช้ในทางทุจริต เช่น รับโอนเงินจากการหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่นทุกประเภท หรือ นำไปใช้รับโอนเงินการพนันออนไลน์ ยาเสพติด เป็นต้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอเตือนผู้ที่คิดจะรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือมอบบัญชีธนาคารของตนให้บุคคลอื่นใช้งาน โดยรู้หรือควรรู้ได้ว่าจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด และบัญชีดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง การพนัน ยาเสพติด หรือการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ เจ้าของบัญชีธนาคารอาจถูกดำเนินคดีอาญาได้ในกรณีดังต่อไปนี้... 

ตายมากกว่าตอนรบ!! โควิดทำยอดตาย ‘มะกัน’ ทะลุ 7 แสนราย สูญเสียรวม ‘หนักกว่า’ ยอดตายในสงคราม

ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจาก Covid-19 ในสหรัฐ ณ วันนี้ยังพุ่งไม่หยุด และกำลังจะทะลุ 7 แสนรายในเดือนตุลาคม 2021 นี้ กว่าครึ่งหนึ่งเสียชีวิตในช่วงเวลาเพียง 9 เดือนนับตั้งแต่พบการระบาดของสายพันธุ์เดลตาในสหรัฐอเมริกา

ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากสาเหตุของ Covid-19 ในวันนี้มากกว่า ผู้เสียชีวิตจากทุกสงครามของสหรัฐฯ นับตั้งแต่สงครามปฏิวัติอเมริกาไล่มาจนถึงล่าสุดสงครามอัฟกานิสถานรวมกัน 

ทั้งนี้ สงครามที่มีชาวอเมริกันเสียชีวิตมากที่สุดคือ สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีการบันทึกไว้ที่ 281,557 ราย 

ส่วนเคสผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐฯ เพิ่มกลับมาเฉลี่ยเกิน 120,000 รายต่อวันอีกครั้ง และมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 2,000 รายต่อวัน 

รัฐบาลกลางสหรัฐฯ พยายามที่จะผลักดันให้มีการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 3 ให้กับชาวอเมริกันทุกคนที่รับวัคซีนมาแล้วเกิน 6 เดือน เพียงแต่องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ ยังไม่เห็นชอบ และแนะนำให้ฉีดบูสเตอร์ให้เฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังเท่านั้น 

เนื่องจากปัญหาการระบาดที่สกัดไม่อยู่เสียทีในสหรัฐฯ ไม่ได้เกิดจากการขาดแคลนวัคซีน หรือฉีดแล้วภูมิคุ้มกันลดลง แต่เกิดจากกลุ่มคนที่ไม่ยอมไปฉีดวัคซีนอีกกว่าร้อยล้านคนทั่วประเทศ และความไม่ใส่ใจในความเสี่ยงจากการระบาดของ Covid-19  ของชาวอเมริกันเอง

‘วันชัย สอนศิริ’ ย้อนภาพจำ ย้อนภาพจำ ‘บิ๊กตู่’ โดนไล่ คือกงล้อประวัติศาสตร์กลับมาเหมือนเดิม เช่นนายกรัฐมนตรีในอดีต 

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา หรือส.ว. โพสต์ข้อความแสดงความเห็น กรณีนายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยหลายพื้นที่ แต่กลับถูกประชาชนแสดงออกทางการเมือง บางคนตะโกนขับไล่ต่อหน้า โดย ระบุว่า

“กงกำกงเกวียน บ้านเรานี่แปลก… ผู้มีอำนาจขึ้นมาใหม่ ใครๆ ก็เชียร์ ตามแห่แหน พอปลายๆ ก็จะมีทั้งคนเชียร์และคนขับไล่ คุณทักษิณตอนท้ายๆ ไปไหนมาไหนก็จะมีเสียงตะโกน.. ออกไป..ออกไป..ออกไป! อีกฝ่ายก็บอกว่า.. สู้ๆ..สู้ๆ! คุณสมัคร คุณสมชาย คุณอภิสิทธิ์และคุณยิ่งลักษณ์ก็เป็นเช่นเดียวกัน ถึงกับบางพื้นที่ไม่สามารถจะไปได้ มีแต่คนคอยขับไล่ท่าเดียว แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันชัดเจน เหตุการณ์ที่ว่าหายไป 5-6 ปี ตามด้วยคำที่ว่า… ความสงบจบที่ลุงตู่”

‘โฆษก ทบ.’ เคลียร์!! ปรับผัง ททบ. เป็นเรื่องธุรกิจ ไม่เกี่ยวการเมือง 

(1 ต.ค. 64) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์ปรับผังททบ.5 ว่า…

ช่อง 5 เป็นสถาบันโทรทัศน์หรือสถานีสื่อสารที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบว่ามีพื้นที่นำเสนอข่าวกี่เปอร์เซ็นต์ และเรื่องบันเทิงกี่เปอร์เซ็นต์ ใครมีความประสงค์ซื้อเวลางานต่างๆ หรือประชาสัมพันธ์ ก็มีเงื่อนไขการตกลงเรื่องค่าตอบแทนและเงื่อนเวลา เรารับได้ทั้งหมด ไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นใคร 

ยืนยันว่าเรื่องธุรกิจเป็นไปตามระเบียบไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

ข่าวดี!! เมื่อรัฐ Hessen พร้อมให้การสนับสนุนและบรรจุภาษาไทยเข้าสู่หลักสูตร

ไม่นานมานี้ ทางเพจ ‘พ่อบ้านเยอรมัน’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า...

เป็นผลดีอย่างมากสำหรับผู้ปกครองที่อยู่ในรัฐ Hessen โดยจากที่พ่อบ้านได้พูดคุยโดยตรงกับทาง กลุ่มครูและแม่คนไทยในรัฐ Hessen โดยคุณครูเบญ พบว่า…

“ภาษาไทยจะกลายเป็นอีกหนึ่งภาษาที่เด็กๆ จะได้เรียนและบรรจุในหลักสูตรของรัฐ ในส่วนของหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาแม่หรือภาษาถิ่นกำเนิด (Herkunftssprache)”

โดยโครงการนี้ได้ถูกผลักดันจนได้รับการยอมรับและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมัน น้องๆ ที่เข้าเรียนหลักสูตรนี้ จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และน้องๆ นักเรียนในหลักสูตรภาษาไทยนี้ จะถูกนำไปบันทึกในสมุดพก และตัดเกรดตามหลักสูตรปกติเลยทีเดียว

สำหรับนักเรียนที่มีสิทธิสมัครนั้น จะเป็นนักเรียนที่อยู่ในระดับ Klasse 1-10 ในรัฐ Hessen ซึ่งทางเพจพ่อบ้านเยอรมันมองว่า หลักสูตรนี้จะช่วยให้…

>> น้องๆ ได้พัฒนาความสามารถทางด้านภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม

>> น้องๆ จะสามารถเข้าใจในภาษา, วัฒนธรรม, แนวความคิดของระหว่างสองประเทศมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าจะสามารถใช้ภาษาพูดคุยกับครอบครัวของพ่อหรือแม่ที่เมืองไทยได้อีกด้วย

>> เป็นการเพิ่มโอกาสในอนาคตของน้องๆ เพราะประเทศไทยกับเยอรมนีนั้น มีความสัมพันธ์ทางด้านการค้า, ด้านการทำธุรกิจ หรือมีหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานระหว่างสองประเทศเป็นจำนวนมาก 

>> และแน่นอนว่าภาษาไทยนั้นได้ถูกบรรจุในหลักสูตรปกติ ดังนั้นน้องๆ ก็มีโอกาสที่จะได้รับคะแนนที่ดีและมีเกรดเฉลี่ยที่สูงขึ้นด้วยน้า

'อัษฎางค์’ แนะ 'ทูตนอกแถว' ทูต = ตัวแทนแห่งรัฐ ไม่ใช่กระบอกเสียงนักโทษหนีคดี

(1ต.ค. 64) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…

“ทูตคือผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนแห่งรัฐและพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่เป็นกระบอกเสียงให้กับนักโทษหนีคดีหรือม็อบล้มล้างการปกครอง”

ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองท่านหนึ่ง กล่าวถึงผู้ที่เรียกตัวเองว่า ทูตนอกแถว ว่า…

“...เจ้านี่เคยเป็นทูตได้อย่างไร ประเด็นมิใช่อยู่ที่ว่าได้มีการใช้กระบวนยุติธรรมกลั่นแกล้งทักษิณ รึเปล่า

แต่ประเด็นจะอยู่ที่ว่า คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองที่ตัดสินว่า ทักษิณผิดในหลายคดี นั้น มีการบันทึกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นหลักฐานที่สามารถนำมาตรวจสอบ+ย้อนหลังได้ตลอดเวลาว่า ที่มาของคำพิพากษาเหล่านั้นประกอบด้วยพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือเพียงใด

ข้ออ้างอีกอย่างที่นักวิชาการชาวอเมริกันคนหนึ่งที่อยู่เมืองไทยร่วม 50 ปีและรู้ภาษาไทยเป็นอย่างดี ได้อ่านคำพิพากษาในคดียึดทรัพย์ทักษิณเจ็ดหมื่นกว่าล้านบาท พร้อมสรุปว่า เป็นคำพิพากษาที่สมบูรณ์แบบเป็นอย่างยิ่ง โดยไม่มีข้อสงสัยอย่างที่นักกฎหมายชอบพูดกันเสมอว่า beyond any reasonable doubts หรือปราศจากข้อสงสัยที่พึงมี

แต่นักวิชาการคนนั้นระบุว่า beyond all possible doubts altogether หรือปราศจากข้อสงสัยอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว (ว่าคำพิพากษานั้นถูกต้องและสมเหตุผลอย่างที่สุด)

ดังนั้น ถ้าจะมีผู้ใดสงสัยว่า ทักษิณจะถูกกระบวนยุติธรรมกลั่นแกล้งอย่างที่อดีตทูตคนนี้อ้าง จึงพึงต้องค้นหาจุดอ่อนในคำพิพากษาออกมาตีแผ่ให้เห็นว่า คำพิพากษาทั้งหลายเหล่านั้น บิดเบือนข้อเท็จจริงไปอย่างไร จึงไม่สมควรให้การยอมรับหรือเชื่อถือ

แต่ถ้าไม่สามารถทำได้และออกมาอ้างลอยๆ ดังที่อดีตทูตคนนี้ทำ ว่าทักษิณถูกกระบวนยุติธรรมกลั่นแกล้ง ก็คงจะหลีกเลี่ยงความจริงไปไม่พ้นว่า เป็นการแก้ตัวให้ทักษิณแบบโง่เขลาและไร้เหตุผลที่ไม่ควรออกมาจากปากคนเคยเป็นถึงตัวแทนชาติในฐานะทูตเลย นอกเสียจากเป็นคนที่เคยได้รับประโยชน์จาก รัฐบาลยุคทักษิณหรือน้องสาวเป็นนาย…”

เวลาที่คนทั่วไปเรียกใครว่า “ทูต” ปกติจะหมายถึง “เอกอัครราชทูต”

แต่ความจริง “นักการทูต” มีหลายระดับ เริ่มตั้งแต่นักการทูตปฏิบัติการ นักการทูตชำนาญการ

นักการทูตชำนาญการพิเศษ (อัครราชทูตที่ปรึกษา)

นักบริหารการทูตระดับต้น (อัครราชทูต) ไปจนถึงตำแหน่งสูงสุดอย่างนักบริหารการทูตระดับสูง (เอกอัครราชทูต)

นักการทูต มีบทบาทเป็นตัวแทนที่ดูแลส่งเสริมผลประโยชน์ให้กับประเทศไทยในสนามต่างประเทศ ตั้งแต่ภาพลักษณ์สังคมความเป็นอยู่ของประเทศ ไปจนถึงเป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

นักการทูตมีหน้าที่รวบรวมและรายงานข้อมูลซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติ และนำมารายงานให้กับรัฐบาลไทย เพื่อเสนอแนะแนวทางให้รัฐบาลเพื่อรับมือและแก้ไขปัญหาต่างๆ

นักการทูตมีหน้าที่การถ่ายทอด นำเสนอ ชักจูง นโยบายของรัฐบาลประเทศต้นสังกัดให้แก่รัฐบาลประเทศที่ประจำอยู่ โดยจะต้องมีวิธีโน้มน้าวที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งกับประเทศของเราและประเทศที่เราไปประจำการ

นักการทูตเป็นตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างประเทศ เป็นผู้เจรจาประสานงานนโยบายและเศรษฐกิจ เป็นผู้รับสาร นำเสนอสารต่อรัฐบาลในประเทศและใช้วาทศิลป์และความสามารถในการคิด วางแผน ชักจูงและโน้มน้าวให้อีกประเทศเห็นด้วยตามข้อเสนอของรัฐบาลเรา

นักการทูตทั้งเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของวงจรในกระบวนการนโยบายต่างประเทศ

“มนัญญา” มอบนโยบายหวังขันน็อตพัฒนาสหกรณ์ทั่วประเทศ  

น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบมอบนโยบายการทำงานเพื่อพัฒนาสหกรณ์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ทั้งในเรื่องการทำงานเชิงการพัฒนา การส่งเสริมด้านธุรกิจและกำกับดูแลตรวจการสหกรณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้เน้นย้ำเรื่องการดำเนินงานของสหกรณ์ให้มุ่งเน้นการแบ่งปันกำไรคืนสู่สมาชิก เนื่องจากสหกรณ์เป็นของสมาชิกทุกคน เพราะประโยชน์ที่เกิดจากการดำเนินงานของสหกรณ์ควรจะต้องย้อนกลับไปหาสมาชิกสหกรณ์ให้มากที่สุด และเรื่องการผลิตสินค้าปลอดภัย และมีคุณภาพ และช่วยกันในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐ ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ที่ผ่านมากรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินการในหลายโครงการ เช่น โครงการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจร้านค้าสหกรณ์ในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ซึ่งได้ดำเนินการขับเคลื่อนพัฒนาร้านค้าสหกรณ์ให้เป็นจุดจำหน่ายสินค้าของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีคุณภาพจากจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าสหกรณ์ได้มากขึ้น โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรสมาชิกปลูกพืช/ผัก เพื่อสร้างทางเลือกที่มีศักยภาพและตลาดรองรับ ช่วยสร้างรายได้เสริมเพิ่มเติมจากอาชีพหลัก 

รวมไปถึงโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เพื่อสนับสนุนให้ลูกหลานสมาชิกสหกรณ์หรือบุคคลทั่วไปที่จากบ้านไปประกอบอาชีพ ในกรุงเทพฯ หรือในต่างจังหวัด กลับมาทำการเกษตรที่บ้านเกิด โดยสนับสนุนการรวมกลุ่มกันผลิตสินค้าการเกษตรเพื่อเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว โดยมีสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่คอยเป็นพี่เลี้ยง ตลอดจนการจัดหาตลาดรองรับ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้และให้คำปรึกษา โดยคาดหวังว่าจะทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่ยั่งยืนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top