Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

‘กรณ์’ ชี้ Evergrande ระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจ สัญญาณวิกฤตการเงินโลกครั้งใหม่ จี้ ทีมเศรษฐกิจไทยจัดทัพรับมือด่วน 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวแสดงความเป็นห่วง ระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจจาก บ.อสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ Evergrande ว่า กำลังจะส่งผลกระทบไม่ใช่แค่กับเศรษฐกิจจีน แต่สะเก็ดระเบิดนี้จะกระจายมาโดนเมืองไทยด้วยเหมือนสมัยวิกฤตแฮมเบอเกอร์ เมื่อสมัยที่ตนเป็นรมว.คลัง 

โดยในช่วงนั้นเราทำงานจับตาเรื่องซับไพรม์ใกล้ชิดตั้งแต่ต้น ทำงานเชิงลึกและทำความเข้าใจตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตจนจัดการได้อยู่ และแก้ไขจนไทยฟื้นตัวไวเป็นอันดับ 2 โลก แต่ครั้งนี้หนักกว่า เพราะความพึ่งพาที่ใกล้ชิดในหลายมิติระหว่างไทย-จีน มากกว่า ไทย-อเมริกา คำถามคือ วันนี้ไทยเตรียมรับมือกับประเด็น Evergrande หรือยัง 

ทั้งนี้ ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไทยเรารับมือกับเรื่องน้ำท่วมเป็นหลัก แต่ประเด็นนี้ต้องคอยจับตาให้ดี สื่อและนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจต่างชาติยังคงเกาะติดไม่หยุดกับประเด็นดังกล่าว

“Evergrande ใช้ยุทธศาสตร์ 3 สูง 1 ต่ำ คือหนี้สูง หนี้ต่อทุนสูง และยอดขายสูง ส่วน 1 ตํ่าคือ ต้นทุนต่ำ ยุทธศาสตร์นี้ทำให้ Evergrande เติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ปี แต่แล้วสุดท้ายการเสพติดหนี้ทำให้บริษัทล่มและสะเทือนไปถึงระบบธนาคารและแม้แต่การเมืองจีน ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนได้พยายามลดความเสี่ยงในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยการประกาศมาตรการ ‘3 เส้นแดง’ ที่ทุกบริษัทต้องปฏิบัติ ซึ่งเป็นการกำหนด 1.) สัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สิน 2.) สัดส่วนหนี้ต่อทุน 3.) สัดส่วนเงินสดต่อหนี้ระยะสั้น” อดีต รมว.คลัง กล่าว

'เต้ มงคลกิตติ์' หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ประกาศเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยหน้า ลั่น!! ตั้งใจมาทำงานการเมืองเพื่อประชาชนอยู่ดีมีสุข ถ้าได้รับการสนับสนุน

จากกรณีที่พรรคการเมืองทั้งพรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ ต่างพาเหรดกันออกมาประกาศแคนดิเดต ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้ากันอย่างคึกคัก ล่าสุดฟากฝั่งของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ออกมาประกาศตัวว่าตนเองก็พร้อมจะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน โดยเจ้าตัวระบุข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า

"พปชร-ภท-ปชป-กก เสนอชื่อชิง นายกรัฐมนตรี เป็นตัวเลือกให้ประชาชน ผมเองตั้งใจมาทำงานการเมืองเพื่อประชาชนอยู่ดีมีสุข ผมก็พร้อมเป็น นายกรัฐมนตรี ถ้าพี่น้องประชาชนสนับสนุนครับ"

'แอมมี่' เผยข้อความ โทรศัพท์สายสุดท้าย พร้อมแซะ 'พรรคการเมือง' ที่เคยสนับสนุน สุดท้ายเททิ้งผู้ชุมนุมไม่เป็นท่า

นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ the bottom blues ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีรายละเอียด ระบุว่า... 

“ขอโทษหว่ะพี่” สายสุดท้ายก่อนเข้าเรือนจำ

ไดโน๊ะ ซาโตะ ทะลุฟ้า 

มันก็น่าน้อยใจนะสหาย พวกเราสู้ และถูกจับเข้าเรือนจำ ไปทีละคนสองคนราวกับว่า เป็นเรื่องธรรมดาชินตาไปเสียแล้ว ประยุทธ์ ยังอยู่ดี ทุกคนก็ดูเต็มที่กับการหาเสียง สังคมไทยเพียงขอแค่กูอยู่รอดไปวันๆ และ นิ่งเฉย กับความอยุติธรรมที่รายล้อม ทอดทิ้งคนที่พวกเค้าเคยเอ่ยว่า “ขอบคุณนะที่ออกมาสู้แทน” ไปแล้วจริงๆ หรือ?”

หลังจากนั้น ได้มีคนที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมของสามนิ้ว เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะโพสต์ในเชิงเหน็บแนม กลุ่มนักการเมือง บางคนยังมองว่าเป็น ยุทธศาสตร์ โดยมีรายละเอียดว่า... 

“มันเป็นที่ยุทธศาสตร์ของกลุ่มที่ต่อสู้เหมือนกันแหละ เพราะเหล็กร้อนไม่ยอมตีแต่กลับไปถอยไฟออกเสีย พอมาปีนี้เขาก็ได้ใจไล่บี้ไล่จับเด้อ คือ เราตอนแรกจุดติด แต่เราไปไม่สุด มวลชนเลยฝ่อ (หรือไม่ไว้ใจเราแล้ว) มันเลยออกมาในแบบที่เห็นนี้แหละ และอีกอย่างเด็กๆ ผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์แนะนำเขา ก็ยากที่จะเชื่อและหาว่ายังอย่างโน่นอย่างนี้บ้างเลยเสียคะแนนไปเยอะมากๆ”

“เป็นผู้แทน ได้เงินเดือนจากภาษีประชาชน แต่เสือกไม่เห็นหัวประชาชน ไม่ฟังเสียงประชาชน”

“เข้าใจอารมณ์ครับ มันหดหู่จริงๆ คนที่มีอำนาจจะสู้ก็นิ่งเฉย ฟันเฟืองเล็กๆ ค่อยๆ ลดหาย”

ราเมศ ไม่ให้ราคา ณัฐวุฒิ ย้อนเจ็บ ถ้าคิดว่า ท้วง4กรม เป็นเรื่องฮา เราก็อย่าถือสาคนบ้าแล้วกัน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊กเรื่องการท้วงติงการรวบ 4 กรม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมองว่าเป็นเรื่องตลกคั่นเวลา ดูเอาฮากันไปนั้นว่า ปัจจุบันไม่มีใครให้ความสนใจ ไม่ให้ราคานายณัฐวุฒิแล้ว เพราะเห็นว่าความพยายามทำตัวออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องเพ้อเจ้อ อยู่เป็นประจำ 

“ประวิตร” เรียกประชุมคณะกรรมการไซเบอร์แห่งชาติ ย้ำต้องเร่งเตรียมพร้อมรับมือภัยไซเบอร์ให้เร็วที่สุด 

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี  ได้เรียกประชุมคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ( กมช.) ครั้งที่ 2/64 ณ ห้องประชุม 301 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนความพร้อมของการบังคับใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ.2562

โดยที่ประชุมรับทราบ การปฏิบัติภารกิจป้องกันรับมือและลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ปฎิบัติการตอบสนองและรับมือกับภัยคุกคาม. ปฎิบัติการตรวจสอบและให้คำแนะนำเพื่อแก้ปัญหา ปฎิบัติการตรวจสอบช่องโหว่ และการแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์  

ต่อจากนั้นได้ให้ความเห็นชอบ แต่งตั้ง รองเลขาธิการและผู้ช่วยเลขาธิการ รวม 3 ตำแหน่ง และได้ร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ กมช. เรื่อง ลักษณะภัยคุกคาม มาตรการป้องกัน รับมือ ประเมิน ปราบปรามและระงับภัยคุกคามทางไซเบอร์แต่ละระดับ พ.ศ…  และ (ร่าง) ระเบียบต่างๆประกอบ พ.ร.บ. เพื่อรองรับการปฏิบัติงานตามกฎหมาย

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความสำคัญยิ่ง ที่ทุกประเทศต้องให้ความสำคัญตื่นตัวและสร้างความตระหนักรู้ร่วมกันเป็นพิเศษ ทั่วโลกมีการโจมตีทางไซเบอร์กันอย่างต่อเนื่องทุกวัน สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะประเทศไทย ได้ปรากฎการโจมตีขึ้นแล้วทั้งภาครัฐและภาคเอกชน  จึงไม่สามารถรอช้าได้ ต้องเตรียมพร้อม ประเมินความเสี่ยงและนำสู่การปฏิบัติร่วมกันอย่างเป็นระบบให้เร็วกว่าที่เป็นอยู่  

“บิ๊กตู่” ติดตามโรงไฟฟ้าลอยน้ำ คาดต.ค.นี้จ่ายไฟเข้าระบบ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นโซลาเซลล์ลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดกำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน มีความคืบหน้ากว่า 99.26% และพร้อมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในเดือนต.ค. นี้ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่มีเป้าหมายขับเคลื่อนพลังงานโดยมุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าแบบไฮบริดนี้ ที่ผ่านมาครม. ได้สนับสนุนงบกลาง วงเงิน 643 ล้านบาท เป็นการดำเนินการร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี มีวงเงินลงทุน 2,265 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 87.53 ล้านหน่วยต่อปี รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในจังหวัดอุบลราชธานี และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เพิ่มขึ้น และทางกฟผ. ยังเดินหน้าโครงการในพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนอื่น ๆ  ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายกำลังผลิตรวมทั้งหมด 2,725 เมกะวัตต์ ภายในปี 80 

อยุธยาวิกฤติ! น้ำท่วมกว่าครึ่งจังหวัด หลายพื้นที่ริมน้ำได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยได้รับผลพวง จากแม่น้ำหลายสาย ทั้งเจ้าพระยา ป่าสัก แม่น้ำลพบุรี แต่เขตอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ยังไม่ได้รับผลกระทบ

วันนี้ (4 ต.ค.) สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังน่าเป็นห่วงหลังจากการระบายน้ำของเขื่อนต่างๆ มีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นสูง เช่น เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำท้ายเขื่อน วันนี้อยู่ที่ 2,771 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำอยู่ที่ 762.19 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

พบว่า แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำป่าสักและแม่น้ำลพบุรี ที่ไหลผ่านในแต่ละพื้นที่ ได้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนริมน้ำ ที่อยู่นอกเขตชลประทาน รวม 9 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอบางไทร อำเภอบางปะหัน อำเภอนครหลวง และ อำเภอท่าเรือ รวม 107 ตำบล 579 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 20,000 หลังคาเรือน และมีวัดริมแม่น้ำลำคลอง ถูกน้ำท่วมไปแล้วประมาณ 20 วัด
 

‘ทักษิณ’ บินเนเธอร์แลนด์ พร้อมแวะร้านอาหารไทย ชิมผัดไทยให้หายอยาก ด้านเจ้าของร้านโพสต์สุดปลื้มได้ซึมซับแนวคิดนักบริหารที่ยังเฉียบคมเสมอ

คุณธามม์ ประวัติตรี เจ้าของเพจ เจ้าของร้านปลาร้าเด้อ และร้าน Pad Thai หนึ่งในคนไทยที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารในประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Tham Prawattree ว่า The leader role is to build a future leader… 

เป็นหนึ่งชั่วโมงที่ได้เรียนรู้ แนวคิด วิสัยทัศน์ อีกทั้ง critical thinking skill, strategic mindset จากท่านอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ดร. ทักษิณ ชินวัตร 

"บิ๊กตู่" เผยเตรียมรับมือพายุลูกใหม่ไว้แล้ว พร้อมดูแลให้เสียหายน้อยที่สุด

ที่โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ ถ.ลาดพร้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมรับมือพายุวันที่ 8-9 ต.ค.นี้ว่า ก็ต้องเตรียมการรับมือ ซึ่งการรับมือเราคงไปเลื่อนฝนหรืออะไรไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งสถานการณ์วันนี้เราก็ได้เตรียมการรับไว้ได้มากพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามถ้าปริมาณมันมากกว่าปกติ ปริมาณไม่ใช่สถานการณ์ปกติ มันก็รับมือได้ระดับหนึ่ง มันต้องมีความเสียหาย แต่จะทำอย่างไรให้เสียหายน้อยที่สุด ใช้เวลาท่วมให้น้อยที่สุด และเร่งการดูแลเยียวยา ตนคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ และมีหลายท่านในพวกนี้ไม่ค่อยเข้าใจ พร้อมชี้มาที่สื่อมวลชน 

ปชป. เตือนความจำ “ณัฐวุฒิ” ตอนเป็น รมช.พาณิชย์ ถือว่าฮาสุดแล้ว เพราะตอบคำถามสื่อมวลชนไม่ได้ ไปไม่เป็น

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวตอบโต้นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ กรณีออกมากล่าวพาดพิงพรรคที่ได้ให้ความเห็นประเด็นที่นายกรัฐมนตรีมอบให้รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ เข้ามาดูแล 4 กรม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งการดูแลงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทำหน้าที่ควบคุมดูแลในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามหลักบริหารราชการแผ่นดินชัดเจนตามสายงาน 

โดยนายณัฐวุฒิ ได้กล่าวถึงพรรคว่าออกมาโวยวายถือเป็นเรื่องตลกคั่นเวลา ดูเอาฮากันไปนั้น ในส่วนของพรรคไม่ถือเป็นเรื่องตลกอย่างที่นายณัฐวุฒิพูดถึง เพราะการทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ทุกฝ่ายควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีปัญหาอะไรก็ต้องพูดคุยกัน การที่พรรคออกมาทวงถามถือเป็นเรื่องปกติ ในกรณีที่มีความสงสัย หรือมีความเห็นที่ไม่เห็นสอดคล้องกันถือเป็นมารยาททางการเมือง

นางดรุณวรรณ กล่าวต่อว่าครั้งหนึ่งนายณัฐวุฒิเคยมีโอกาสเป็นเสนาบดี จากการเป็นแกนนำม็อบที่เชิญชวนคนออกมาทำร้ายบ้านเมืองก็ถือเป็นเรื่องตลกร้ายอยู่แล้ว แต่พอได้ดีเป็นเสนาบดีก็ยังแอบลุ้นว่าจะทำงานได้หรือไม่ ในที่สุดก็พบว่าฮากว่า และเชื่อว่านายณัฐวุฒิคงยังจำได้ดี เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ไม่สามารถตอบคำถามสื่อมวลชนได้กรณีที่ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว จนท้ายที่สุดต้องยิ้มหน้าเจื่อนเพราะขำไม่ออกที่ไม่สามารถชี้แจงข้อมูลได้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top