Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

‘พิธา’ บุกเมือง ‘ปากน้ำโพ’ ติดตามปัญหาน้ำท่วม-หนี้ท่วม-ราคาข้าวตกต่ำ แนะ ‘พล.อ.ประยุทธ์’นำแผนที่ GISTDA มาใช้เพื่อเยียวยาประชาชนได้ทันท่วงที

‘พิธา’ บุกเมือง ‘ปากน้ำโพ’ ติดตามปัญหาน้ำท่วม-หนี้ท่วม-ราคาข้าวตกต่ำ ชูนโยบายแก้ปัญหาระยะยาว แนะ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ นำแผนที่ GISTDA มาใช้เพื่อเยียวยาประชาชนได้ทันท่วงที พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 เขต มีทั้งอดีตสถาปนิก-นักธุรกิจ-เกษตรกร มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้า ‘ก้าวไกล’ ปักธงที่ ‘นครสวรรค์’ ได้แน่

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล ร่วมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและปัญหาราคาข้าวตกต่ำในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์

โดย นายพิธา กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเข้ามาเป็น ส.ส. ตนเองเคยเป็นนักธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับน้ำมันรำข้าวจึงมาที่จังหวัดนครสวรรค์บ่อยครั้ง และเข้าใจปัญหาความทุกข์ร้อนของพี่น้องเกษตรกรชาวนาเป็นอย่างดี จึงตั้งใจเข้ามาเป็นนักการเมืองเพื่อมาช่วยผลักดันแก้ไขปัญหาในระดับนโยบายได้อย่างยั่งยืนและมาแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาทั้งระบบของเรื่องข้าว ทั้งเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่ม เรื่องการเอารัดเอาเปรียบพี่น้องชาวนา ซึ่งตนรู้ว่ายี่ปั๊ว ซาปั๊ว บางส่วนใช้กลโกงอะไรในการกดราคาข้าวจากชาวนา และยังทราบด้วยว่าจะทำอย่างไรให้ราคาข้าวสูงขึ้นได้

นายพิธา กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันสิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวนาไทยคือ มีต้นทุนการปลูกข้าวที่สูงมากทั้งราคาปุ๋ยที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นประเทศที่ปุ๋ยแพงกว่าข้าว รวมไปถึงพี่น้องชาวนายังต้องเผชิญกับค่าน้ำมันที่สูงขึ้นมาก มีการเสียค่าน้ำมันเพื่อใช้สูบน้ำเข้านา หรือชาวนาบางคนที่ไม่มีที่ดินทำกินก็ต้องจ่ายเงินค่าเช่าที่ดินด้วย รวมทั้งยังมีต้นทุนราคาเมล็ดพันธุ์ ซึ่งยังไม่นับว่ามีพี่น้องเกษตรกรชาวนาจำนวนมากมีหนี้สินจำนวนมากทำให้มีต้นทุนผ่อนชำระทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น แต่กลายเป็นว่าต้นทุนสูงขึ้น แต่ราคาข้าวกลับราคาตกลงจนอยู่แค่ราคาเฉลี่ยเกวียนละประมาณ 5,000 - 6,000 บาทเท่านั้น

โดย นายพิธา กล่าวว่า การจะแก้ปัญหาทางเกษตรและปัญหาหนี้ให้เกษตรกรและชาวนาได้จำเป็นต้องมีรายได้ ระยะสั้นการประกันรายได้อาจจำเป็นแต่ไม่ยั่งยืน ในอีกระดับหนึ่งก็ต้องมีการก็อุดหนุนต้นทุนให้กับพี่น้องชาวนา และหากจะแก้ไขปัญหาได้ยั่งยืนที่สุดก็จำเป็นต้องยกระดับการผลิต เป็นเกษตรอินทรีย์ เกษตรแปรรูป

“แท้จริงแล้วข้าวไทยมีศักยภาพแน่นอน เป็นทองคำบนดินที่มีราคา สามารถทำให้มีมูลค่าทั้งหมด ทุกส่วนได้ ทั้งปลายข้าว จมูกข้าว รำข้าว และแกลบ ต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการผลิต เพิ่มมูลค่า ที่สำคัญต้องทำให้ความมั่งคั่งนี้ตกไปถึงมือชาวนาด้วย ไม่ใช่ตกอยู่ที่นายทุนเท่านั้น การจะทำเช่นนั้นได้รัฐต้องจัดสรรงบประมาณมาช่วยในการแปรรูป ส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถเป็นผู้ประกอบการได้ด้วย และมีช่องทางการตลาด” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ



หลังจากนั้น ชาวนาในพื้นที่หลายคนได้ร่วมกันสะท้อนปัญหาให้หัวหน้าพรรคก้าวไกลฟังด้วยว่า ตอนนี้ข้าวเหลือราคาแค่เกวียนละ 6,000 บาทเท่านั้น แต่ต้นทุนการปลูกกลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งราคาปุ๋ยที่พุ่งขึ้นสูงไปถึง 900 บาท หรือในกรณีราคาน้ำมันที่ราคาขึ้นไปอยู่ที่ 6,000 กว่าบาท ทั้งๆ ที่จากเดิมซื้อน้ำมัน 4,000 กว่าบาท เท่านั้นยังไม่พอชาวนาแต่ละคนยังมีหนี้นอกระบบ หนี้ ธ.ก.ส. กลายเป็นว่าทำมาเท่าไหร่ ยิ่งข้าวราคาตกแบบนี้ จ่ายได้แค่ดอกเบี้ย พอไม่มีกินก็ต้องไปกู้มาใหม่อีก

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังได้กล่าวด้วยว่า นิรุด เรืองงาม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 อำเภอชุมแสง พรรคก้าวไกลนั้นเป็นชาวนา เป็นเกษตรกรที่เข้าใจปัญหาของพี่น้องเกษตรกร เข้าใจพื้นที่เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่นั้นพรรคก้าวไกลยังมีกลุ่มคนที่หลากหลาย ที่ร่วมเข้ามาเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคทั่วประเทศ มีทั้งที่มาจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม พ่อค้าแม่ค้า ภาคเอกชน ผู้มีความหลากหลายทางเพศ เกษตรกร ชาวนา ผู้พิการ ฯลฯ จึงเป็นความภาคภูมิใจของพรรคก้าวไกล ที่สามารถรวบรวมคนที่หลากหลายเข้ามาช่วยกันคิด ช่วยกันสะท้อนปัญหาของประชาชน เพื่อนำไปสู่การขจัดทุกข์ แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืนได้ในที่สุด จึงอยากฝากให้ประชาชนช่วยกันเลือกพรรคก้าวไกลไปเป็นรัฐบาล บ้านเมืองของเราจะได้เปลี่ยนแปลงไปสู่ประเทศไทยที่คนเท่ากัน เท่าทันโลกเสียที

หลังจากนั้น หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ประกาศเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ทั้ง 3 เขต ประกอบไปด้วย เขต 1 นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี อดีตสถาปนิกและนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รับสร้างบ้านแนวคิดใหม่ ประหยัดพลังงานและรองรับผู้สูงอายุ เขต 2 นายธนา เฉยปัญญา เจ้าของกิจการค้าวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง และเขต 3 นายนิรุด เรืองงาม เกษตรกรชาวนาและค้าขายสินค้าตลาดนัดเปิดท้าย

ต่อมาในช่วงบ่าย หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางต่อไปที่ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อดูสถานการณ์น้ำท่วมและช่วยเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา โดยนายพิธา ได้กล่าวหลังการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ตำบลเกยไชยว่า สิ่งที่ต้องทำเฉพาะหน้าคือ 1.หาอะไหล่ เครื่องสูบน้ำเตรียมไว้เพราะการเดินเครื่องตลอด 24 ชั่วโมงอาจจะเกิดปัญหาเครื่องเสียได้ และทั้งๆ ที่พื้นที่กว้างใหญ่มีเป็นพันไร่ แต่ได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากหน่วยงานกลางมาแค่หนึ่งเครื่องเท่านั้น 2.ต้องจัดหาน้ำมันให้เพียงพอ เพราะทราบมาว่าในแต่ละวันจะใช้นำมัน 200 ลิตรต่อ 10 ชั่วโมงซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีงบประมาณจัดซื้อน้ำมัน เพราะในพื้นที่เกิดรอยต่อช่วงเลือกตั้ง อบต. ทางจังหวัดจึงจำเป็นต้องช่วยสนับสนุนงบประมาณในส่วนนี้ด้วย 3.ข้อมูลการพยากรณ์อากาศเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อที่จะได้วางแผนรับมือว่าจะต้องใช้เครื่องสูบน้ำเพิ่มขึ้นหรือไม่ หรือระดับน้ำในพื้นที่รับน้ำจะเพียงพอหรือไม่ ต้องรับมืออย่างไร

สปน. เริ่มปรับลด WFH เป็น 90-85% ในตค.นี้ เข้ม มาตรการป้องโควิด สั่งตรวจ ATK ทุก 3 วัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้ทุกหน่วยงานปรับแผนการทำงานให้สอดคล้องการสร้างสมดุลภายใต้สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่อย่างเร่งด่วน ดังนั้น เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับวัคซีนจำนวนเกินร้อยละ 75 แล้ว จึงปรับแผนการทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยให้ WFH จากเดิม 95% ปรับเป็น 90% ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม 2564 และปรับเป็น 85% ในช่วงปลายเดือนตุลาคมแต่ต้องให้อยู่ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น คือ กลุ่มที่มาปฏิบัติงานที่สำนักงานฯ ต้องตรวจ ATK ทุก 3 วัน (จันทร์-พุธ-ศุกร์) และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ดังนี้

1. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีติดตามงานตามนโยบายรัฐบาล ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีและประเด็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ผ่านระบบการประชุมทางไกลเป็นหลัก และให้เดินทางลงพื้นที่ติดตามงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลและประสานทุกจังหวัดช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบ

2. การประชุมของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานตามกฎหมายและระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง สามารถมาร่วมประชุมได้ แต่ต้องมีผลตรวจ ATK ยืนยันก่อนประชุม 1 วันว่าปลอดโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตามยังให้ประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกลเป็นหลัก

3. ศูนย์บริการประชาชน 1111 สำนักนายกรัฐมนตรี ยังรับเรื่องราวร้องทุกข์และข้อเสนอแนะผ่าน 4 ช่องทาง คือ โทรสายด่วน 1111 ตู้ ป.ณ.1111 เว็ปไซต์และแอพพลิเคชันไลน์ และติดตามประสานการแก้ไขปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

4. การเพิ่มการติดตามข่าวสารผ่านทุกสื่อเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคให้เข้มข้นขึ้น

โฆษกรัฐยัน ”บิ๊กตู่” ยังอยู่ พปชร.ตามที่พรรคเสนอชื่อเป็นนายกฯ ย้ำ ”บิ๊กป้อม”พูดชัด นายกฯ ยังไม่คิดยุบสภาฯ - ปรับครม. ขอเอาเวลาไปคิดแก้ปัญหาโควิด-19และน้ำท่วมก่อน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)  ตามที่พรรคได้เสนอชื่อจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายกฯ ยังไม่มีแนวคิดเรื่องการจะไปสังกัดพรรคการเมืองไหนทั้งสิ้น เพราะตอนนี้นายกฯ ยังไม่อยากคิดเรื่องการเมืองใดๆ นอกจากการคิดที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะปัญหาโควิด-19 รวมถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย การเยียวยาฟื้นฟูเร่งฟื้นเศรษฐกิจและการพลิกโฉมประเทศเท่านั้น ดังนั้น ไม่อยากให้มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาขยายผล วิพากษ์วิจารณ์ หรือสร้างความสับสนให้กับประชาชน 

'เพลงดุจดั่งสายฟ้า' ยอด Like พุ่ง!! แซง Unlike หลังสามนิ้วแห่แบน 'ตูน-เพลง'

เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น พี่ตูน เฮลั่น “เพลงดุจดั่งสายฟ้า” ยอดไลก์พุ่งกระฉูดในคืนเดียว หลังสามนิ้วแห่แบน!! 

โดยระบุว่า หลังเจอทัวร์ม็อบสามนิ้วลงชุดใหญ่ แล้วฮีโร่กู้ภัย อย่าง “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ออกมาเคลื่อนไหวผ่าน เฟซบุ๊ก “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” และได้โพสต์ข้อความว่า

“ตอนนี้ มีคนไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กำลังปั่นรุมถล่มกด unlike เพลง “ดุจดั่งสายฟ้า” จนยอด unlike เยอะกว่ายอด like เยอะมาก จึงขออนุญาต ขอพลัง “คนรักในแผ่นดินไทย ในสถาบัน อันเป็นที่รักของเรา” เข้าไปกดเพิ่มยอดไลก์ (กดนิ้วโป้ง) สู้หน่อยครับ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อผืนแผ่นดินไทยที่บรรพบุรุษได้รักษามา เพื่อลูกหลานคนไทยครับ"

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการ กองทัพไทย ลงพื้นที่อยุธยา ติดตามสถานการณ์​ พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน

อยุธยา - ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการ กองทัพไทย ลงพื้นที่อยุธยา ติดตามสถานการณ์พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน

(3 ต.ค.64)​ พลเอก จีรัชญ์ บุญชญา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการ กองทัพไทย พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่บริเวณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าโรงงานซ่อมยาง กองโรงงานซ่อมสร้างรถยนต์ทหารกรมสรรพาวุธทหารบก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธนากร ตันติกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา พันเอก(พ)เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดต.สุรินทร์ ผดุงเพียร รองนายกเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ พร้อมนำคณะลงเรือติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและแนวป้องกันโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม พระตำหนักสิริยาลัย วัดกษัตราธิราชวรวิหาร จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบอุทัยพร้อมมอบถุงยังชีพ ข้าวกล่องให้กับประชาชนใน ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามพร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงาน

กระบี่-ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามพร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงาน 

(3 ต.ค.64) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และส่วนเกี่ยวข้องประจำโรงพยาบาลสนามโกเมน โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลสนามให้การต้อนรับ และนำชมการทำงานต่างๆ ภายในโรงพยาบาลสนาม 

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เดินทางไปโรงพยาบาลสนามพลบดี โดยได้ตรวจเยี่ยม ติดตามการปฏิบัติงาน พูดคุย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้เสียสละ ร่วมแรงร่วมใจในปฏิบัติการครั้งนี้

ผู้ว่าฯ กระบี่ ลั่น! อยากเห็นตัวเลขผู้ป่วยลดลงทุกวันมากกว่าคนติดโควิด ย้ำ “กระบี่ต้องกลับมาเหมือนเดิมในเร็ววัน” พร้อมรับฟังและมอบนโยบายดำเนินการสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดกระบี่

นายพุฒิพงศ์  ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ หัวหน้าหน่วยงาน ภาครัฐ  ภาคเอกชนเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพนมเบญจา ชั้น 5  ศาลากลางจังหวัดกระบี่ การประชุมครั้งนี้ เพื่อติดตามรับทราบสถานการณ์การการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในหลายประเด็น โดยเฉพาะสถานการณ์โควิดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นพร้อมแนวทางในการทำงาน

ประกอบด้วย  การเตรียมความพร้อมรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ, การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย การตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด 19  ด้วยวิธี  Antigen test Kit  (Atk)  การเตรียมความพร้อมศูนย์พักคอยชุมชน  มาตรการควบคุมโรค  การสื่อสารประชาสัมพันธ์สถานการณ์โควิด 19 โดยสั่งการให้ดำเนินการภายใต้กลไกของคณะกรรมการหมู่บ้าน เร่งฉีดวัคซีนกับประชาชนกลุ่ม 608 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย

“อลงกรณ์” ชี้ ปชป.เสนอ "จุรินทร์” เป็นแคนดิเดทนายกฯ ไม่มีนัยยะทางการเมือง ไม่ใช่การปลั๊ฟบิ๊กตู่ พร้อมแนะนายกฯ 3ข้อ คลี่คลายปัญหา 4 กรม เปิดใจไม่ถือสา "สิระ”แต่ขอให้สุภาพและรู้จักสัมมาคารวะ

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์วันนี้ว่า กรณีที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้นไม่มีนัยยะใดๆทางการเมืองที่เกี่ยวโยงกับปัญหาการกำกับดูแล4กรมของกระทรวงเกษตรแต่อย่างใด

เป็นเพียงการพูดถึงแนวทางหลักการของพรรคประชาธิปัตย์ยุคปัจจุบันและคุณสมบัติของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่ามีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะเป็นนักบริหารที่มีวิสัยทัศน์ทันสมัยก้าวหน้าทำงานไวมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนโดยเฉพาะความสามารถในการสร้างรายได้ให้กับประเทศจากการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่องแม้ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์โควิด19 ไม่ใช่การบลั๊ฟนายกรัฐมนตรี

ต่อคำถามที่ว่าปัญหาเรื่อง4กรมของกระทรวงเกษตรฯ จะสร้างรอยร้าวถึงขั้นถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้นนายอลงกรณ์ตอบว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น กรณีดังกล่าวไม่ใช่ความขัดแย้งในเชิงนโยบายแต่เป็นปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินในการมอบหมายงานของนายกรัฐมนตรี
ซึ่งเดิมรองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ.แต่มาแก้ไขคำสั่งให้รองนายกรัฐมนตรีอีกท่านมากำกับดูแล 4 กรมแยกออกไปทำให้เกิดความสับสนและทับซ้อนการบริหารของรัฐมนตรีว่าการกับรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวง ซึ่งไม่เคยมีการมอบหมายงานแบบแยกส่วนเช่นนี้มาก่อน และขอย้ำว่าไม่ใช่เรื่องประชาธิปัตย์ทวงคืน4กรมแต่เป็นประเด็นการบริหารกระทรวงและปัญหาการไม่ปรึกษาหารือกันก่อนมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง

'ชัยวุฒิ' ลงเรือตรวจเยี่ยมมอบถุงยังชีพชาวอ่างทอง-สิงห์บุรี พบ สมศักดิ์-ภราดร-กรวีร์พาพบปชช.

'ชัยวุฒิ' เดินสายลงพื้นที่ อ่างทอง สิงห์บุรี  พร้อมลงเรือให้กำลังใจชาวบ้านหลังถูกน้ำท่วม มอบถุงยังชีพ ติดตามเร่งรัดหน่วยงานราชการช่วยเหลือระบุ พบปัญหาให้รีบแจ้งท้องถิ่น

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังค พร้อมคณะ  ลงพื้นที่ อ. ป่าโมก จังหวัดอ่างทอง แจกถุงยังชีพจำนวน 1 พันชุด พร้อม ลงเรือเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม  โดยมีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการราชการจังหวัดอ่างทอง  นายสมศักดิ์  ปริศนานันทกุล  อดีต ส.ส. พร้อมลูกชาย นายภราดร  นายกรวีร์  ปริศนานันทกุล ส.ส พรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับ พาลงเรือไปตรวจพื้นที่บ้านบริเวณริมน้ำที่ประสบอุทกภัยโดยเฉพาะในอำเภอป่าโมก ประสบอุทกภัยถึง 902 ครัวเรือน

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในวันนี้มาในนามตัวแทนรัฐบาล โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้มาติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เพื่อเร่งรัดการช่วยเหลือประชาชน  โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางในจังหวัดอ่างทองและสิงห์บุรี ที่ต้องยอมรับว่าประสบกับน้ำหลากริมแม่น้ำ โดยการมาติดตามครั้งนี้จะนำปัญหาสิ่งที่ยังขาดแคลนเพื่อนำไปผลักดันงบประมาณ มาดำเนินการเร่งรัดเพื่อช่วยเหลือประชาชน  ที่สำคัญฝากผู้ว่าราชการเร่งรัดช่วยเหลือชาวนา โดยขอให้ทุกหน่วยงานส่งข้อมูลเข้ามายังส่วนกลางเพื่อดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ 

จากนั้น นายชัยวุฒิ พร้อมคณะเดินทางเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมและพบปะประชาชน มอบถุงยังชีพ ที่ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรีจังหวัดสิงห์บุรี รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมจากนายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งพบว่ามี4 อำเภอ 15 ตำบล  ประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 53,000 ครัวเรือนได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่ง 

ซึ่งในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ส่วนใหญ่ประสบปัญหาน้ำท่วมล้นตลิ่ง แต่ยังไม่ล้นคันกั้นน้ำออกมา จึงได้เร่งติดตามทางจังหวัดให้ช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน โดยเฉพาะชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะนี้ที่ประสบปัญหาโควิด 19 และปัญหาภัยแล้ง ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ประสบปัญหาด้านเกษตรกรรม และยังมีปัญหาน้ำท่วมเข้ามาทำให้เกษตรกรเกี่ยวข้าวไม่ได้ เพราะน้ำท่วม ส่งผลต่อชาวนาไม่มีรายได้เกิดปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่ จึงได้มีการหารือกับรัฐบาลในการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเกี่ยวข้าวไม่ได้ ส่วนบ้านเรือนประชาชนก็จะเร่งซ่อมแซม เพื่อลดภาระให้กับประชาชนในช่วงสถานการณ์ โควิด-19

“นายกฯ” สั่งกองทัพช่วยจ.ริมเจ้าพระยา เตรียมรับมือระบายน้ำ

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการทุกเหล่าทัพ สนับสนุน จังหวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก รับมือกับมวลน้ำที่ระบายจากพื้นที่ประสบอุทกภัย  เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำสายหลัก ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และย้ำให้ทุกเหล่าทัพช่วยเหลือประชาชนกว่า 229,000 ครอบครัว ในทุกพื้นที่ 31 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องโดยเฉพาะในพื้นที่เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ให้สนับสนุนติดตั้งสะพานทางทหารให้ประชาชนสามารถสัญจรไดให้ประสานงานร่วมกับส่วนราชการ อาสาสมัครจิตอาสาและภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย

พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า ตั้งแต่ 23 ก.ย.ถึงปัจจุบัน กระทรวงกลาโหม หมุนเวียนกำลังพลกว่า 10,000 นาย พร้อมเครื่องจักรและเครื่องมือช่าง เช่น รถขุดตัก เครื่องสูบน้ำ เรือผลักดันนำ้และสะพานเครื่องหนุนมั่น รวมทั้งยานพาหนะกว่า 750 คัน เช่น รถบรรทุกลำเลียง รถบรรทุกน้ำ รถประปาสนาม รถครัวสนาม และเรือท้องแบนกว่า 200 ลำ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ สนับสนุนลงให้การช่วยเหลือเร่งด่วนประชาชนใน 31 จังหวัดทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคกลางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นพื้นที่วงกว้าง ในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างในพื้นที่ ทั้งการแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์ อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ให้การช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top