Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

'ณัฐชา' ชี้!! นายกฯ สั่งกองทัพปลูก 'ผักชีโรยหน้า' แค่หวังเบี่ยงปัญหาเสถียรภาพรัฐบาล

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาพืชผลเกษตร โดยเฉพาะผักชีที่มีราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 400 บาท โดยสั่งการในที่ประชุม ครม. ให้นำพื้นที่ของทหารมาปลูกผักชี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ที่ต้องบริโภคพืชผักสวนครัวนำมาประกอบอาหาร 

โดย นายณัฐชา ระบุว่า ประเทศไทยสิ้นหวังมานานแล้วที่มีผู้นำชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเหตุการณ์มากมายที่ตอกย้ำความสิ้นหวังของพี่น้องประชาชนในประเทศนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้เลี้ยงปลา ตอนที่มีน้ำท่วม หรือช่วงที่ราคามะนาวแพงก็แนะพี่น้องประชาชนให้ปลูกมะนาว มาวันนี้ก็ให้ทหารปลูกผักชี นี่คือวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาสินค้าเกษตร 

กพช.ขยายกรอบกู้เงินโปะกองทุนน้ำมันเป็นไม่เกิน 4 หมื่นล้าน

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยกำหนดสถานะกองทุนให้มีเงินของกองทุนเองรวมกับเงินกู้ต้องไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท หรือจากนี้ไปสามารถกู้เงินได้มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมัน ล่าสุดคณะกรรมการบริหารกองทุน กำลังเสนอหลักเกณฑ์การขอกู้เงินให้ที่ประชุมครม.อนุมัติ ซึ่งเบื้องต้นจะมีการทยอยกู้เงินล็อตแรกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ในช่วงกลางเดือนม.ค. 65 โดยปัจจุบันกองทุนมีเงินอยู่ประมาณ 7,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน โดยปรับลดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันดีเซลหมุนช้า และน้ำมันเตา จากเดิม ในอัตรา 0.10 บาทต่อลิตร เหลือจัดเก็บในอัตรา 0.005 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 1 ปี และอัตรา 0.05 บาทต่อลิตร ระยะเวลา 2 ปี โดยมีผลทันทีหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

‘อังกฤษ’ เจ้าแรก ไฟเขียว!! ‘โมลนูพิราเวียร์’ สู้โควิด หลังพบใช้เร็ว ลดเข้า ‘โรงหมอ-เสียชีวิต’

สหราชอาณาจักร อนุมัติ!! ‘ยาโมลนูพิราเวียร์’ เชื่อ!! ตัวเปลี่ยนเกมต่อสู้โควิด-19

สหราชอาณาจักรกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติ ‘ยาโมลนูพิราเวียร์’ (Molnupiravir) ยาเม็ดรักษาโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัท Merck ร่วมกับ Ridgeback Biootherapeutics หลังพบว่าช่วยลดอัตราการเข้าโรงพยาบาลและการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมาก ทำให้ยาดังกล่าวถูกมองว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของสหราชอาณาจักรต่อจากนี้

ทั้งนี้ สำนักงานควบคุมยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของสหราชอาณาจักร (MHRA) แนะนำให้ใช้ยาดังกล่าวกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยเร็วที่สุดหลังตรวจพบเชื้อ หรือภายในเวลา 5 วัน หลังจากที่เริ่มมีอาการป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ อาทิ เบาหวาน, โรคอ้วน และโรคหัวใจ เป็นต้น

ศาสตราจารย์สตีเฟน พาววิส (Stephen Powis) ผู้อำนวยการด้านการแพทย์แห่งชาติของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ในอังกฤษกล่าวว่าเบื้องต้นยาดังกล่าวจะถูกแจกจ่ายให้แก่ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อน ก่อนที่จะกระจายในวงกว้างหากพบว่าเป็นแนวทางการรักษาที่คุ้มค่า และสามารถลดอัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้

โดยรัฐบาลอังกฤษบรรลุข้อตกลงในการสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ไปแล้วเป็นจำนวน 480,000 ชุด ในขณะที่อังกฤษกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่ท้าทายอย่างยิ่งในการรับมือกับการแพร่ระบาด

ด้านสหรัฐฯ ระบุว่าจะมีการประชุมในวันที่ 30 พ.ย. ที่จะถึงนี้เพื่อทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยา ก่อนที่จะพิจารณาว่าควรอนุมัติยาดังกล่าวหรือไม่ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ ขณะที่ Merck เตรียมถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตยาเม็ดโมลนูพิราเวียร์ให้หลายประเทศทั่วโลก

ต่อเวลาถึงสิ้นเดือนพ.ย. ฉีดเข็มสองนั่ง บขส.ลด 20%

นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส. ได้มีการขยายเวลาจัดโครงการ “บขส.วิถีใหม่ห่างไกล Covid-19 ฉีดวัคซีน 2 เข็ม ลด 20 %” จนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2564 โดยมอบส่วนลด 20 % เฉพาะค่าโดยสาร (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) ให้กับผู้ใช้บริการรถโดยสาร บขส. ที่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็ม โดยมีเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ตามที่บริษัทฯ กำหนด 

อีกทั้ง บขส. ยังได้ร่วมสนับสนุนโครงการคนละครึ่ง โดยผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสาร บขส. ผ่าน แอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้แล้วที่ช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ทั่วประเทศ ทั้งนี้สิทธิ์ดังกล่าวไม่สามารถใช้กับการจองตั๋วล่วงหน้าได้ และไม่สามารถยกเลิก/คืน/เปลี่ยนแปลงตั๋วได้ทุกกรณี นอกจากนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการจองตั๋วออนไลน์ บขส.ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน E-Ticket ด้วย

‘สุชัชวีร์’ กระตุ้นทุกฝ่ายตระหนัก ‘โลกร้อน’ ชี้!! หากทำทองไม่รู้ร้อน กทม. จมน้ำแน่

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (เอ้) อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)  โพสต์เฟซบุ๊กถึงภาวะโลกร้อนที่จะส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ โดยมีเนื้อหาว่า
กทม. จมน้ำแน่ๆ หากเรายังช้า (มากๆ)!!!

เดือนพฤศจิกายน ฝนยังตกในกทม. น้ำยังท่วงขังหลายจังหวัด ท่านคิดว่าปกติ?

พูดกันตรงๆ วิกฤตมาเยือนแล้วครับ แต่เราทุกคนอาจทำนิ่งเฉย ปล่อยผ่านเลยไป?

การประชุมผู้นำโลก COP26 (Climate Change Conference 2021) ที่สกอตแลนด์ ที่ผู้นำทุกชาติออกมาประกาศจุดยืน รวมทั้งประเทศไทย ร่วมต่อสู้กับสภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศโลก ตอกย้ำว่าเรื่องนี้มันซีเรียส!!!

เพราะการศึกษาและวิจัยระดับโลก พูดชัด  ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างน้อย 3 เท่า จากที่เคยพยากรณ์ไว้ในอดีต เพราะความสามารถในการเก็บข้อมูล และการคำนวณด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ปัจจุบันพยากรณ์ได้แม่นยำขึ้นเยอะ

ผบ.ทร. ตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่กรุงเทพและประมณฑล ย้ำกำลังพลทำหน้าที่ด้วยความจงรักภักดี มีความสมัครสมานสามัคคี

พล.ร.อ.สมประสงค์  นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยกองทัพเรือ ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน ถนนอิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

โดยผบ.ทร. ได้ถวายสักการะ พระอนุสาวรีย์ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย และตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ พร้อมทั้งให้โอวาสตอนหนึ่ง ว่า การทำหน้าที่ด้วยความจงรักภักดี มีความสมัครสมานสามัคคี วิริยะอุตสาหะ บริหารงานอย่างมีประสิทธิภาด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มีความซื่อสัตย์สุจริต


 “หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ที่มีที่ตั้ง อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ประกอบด้วยหน่วยต่างๆ ที่อยู่ในส่วนบัญชาการ ส่วนกำลังรบ ส่วนยุทธบริการ และส่วนการศึกษาและวิจัย ซึ่งในแต่ละส่วนมีความสำคัญ ทำให้การปฏิบัติหน้าที่และภารกิจต่างๆ บรรลุตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และกองทัพเรือ สำหรับในปีงบประมาณ 2565 นี้ ผมขอให้ทุกคนตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ดังเช่นที่ผ่านมา ด้วยความจงรักภักดี ความรักสามัคคี มีความวิริยะอุตสาหะ บริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ซื่อสัตย์สุจริต ยุติธรรม ยึดถือประโยชน์ของกองทัพเรือเป็นที่ตั้ง โดยนำนโยบายกองทัพเรือนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2565 และเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกรอบทิศทางหลัก  และแนวทางปฏิบัติงาน เพื่อร่วมกันเสริมสร้าง และพัฒนากองทัพเรืออันเป็นที่รักยิ่งของเราให้มีความเจริญก้าวหน้า และมั่นคง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกองทัพเรือต่อไป”
 
 

พ่อแม่เศร้า! ลูกสาววัย 16 ดับ หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มสอง

ครอบครัวเศร้า! ลูกสาววัย 16 ปี ดับ ติดใจสาเหตุเสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มสอง แพทย์ระบุผลชันสูตรลิ่มเลือดอุดกั้นปอดทั้ง 2 ข้าง ร่วมกับติดเชื้อในกระเเสเลือด

5 พ.ย. 64 - ที่วัดศรีล้อม (แสงเมืองมา) ต.เวียงเหนือ เทศบาลนครลำปาง ภายในศาลาคำมวนประชารังสรรค์ ได้มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพของน้องอุ้ม หรือ น.ส.อรจิรา จรูญโรจน์ ณ อยุธยา วัย 16 ปี นักศึกษาชั้นที่ปี 1 สาขาคอมพิวเตอร์กราฟิก วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง เป็นคืนที่ 2 โดยมีเพื่อน ๆ ในห้องเรียนทยอยมาร่วมงานและช่วยงานรับแขกที่มางาน

โดยนายธนพิชญ์ และนางอังคณา จรูญโรจน์ ณ อยุธยา พ่อกับแม่ของน้องอุ้ม ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า น้องอุ้มจากไปเร็วเกินไปไม่มีลางบอกเหตุใด ๆ ปกติอุ้มจะเป็นเด็กติดแม่ นอนก็นอนด้วยกัน ก่อนนอนก็จะหอมแก้มแม่ นอนกอดแม่ ไปไหนก็จะไปกับแม่ และไม่คิดว่าลูกจะต้องมาเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน Pfizer เข็มที่ 2

นางอังคณา เล่าว่า ก่อนหน้ากลุ่มผู้ปกครองที่อยู่ในกลุ่มไลน์ด้วยกันไม่ค่อยอยากให้ลูกฉีด ตนเองเป็นคนเกลี้ยกล่อมให้ผู้ปกครองยอมให้ลูกฉีด เพราะอยากเห็นลูกไปเรียนที่โรงเรียน ไปเที่ยว เข้าสังคมได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ไม่อยากให้ลูกเป็นแกะดำของสังคม ให้ความร่วมมือกับนโยบายของรัฐบาล แต่ก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะมาเกิดขึ้นกับลูกสาวของตนเอง

น้องอุ้ม เข้ารับการฉีดวัคซีน Pfizer เข็มที่ 1 วันที่ 6 ต.ค. อาการปกติ และ มารับวัคซีน Pfizer เข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 27 ต.ค. โดยมีคุณแม่ไปส่ง ฉีดเสร็จประมาณ 13.32 น. ก็กลับบ้าน ซึ่งตอนแรกอาการของลูกก็ปกติ แต่พอหลังจากนั้น ช่วงสายวันที่ 28 - 29 ต.ค. ลูกเริ่มปวดท้อง ท้องเสียต้องเข้าห้องน้ำ และมีอาการอาเจียนร่วมด้วย แม่คิดว่าลูกน่าจะเกิดอาการอาหารเป็นพิษ จึงไม่ได้คิดอะไร แต่ลูกก็ยังเข้าห้องน้ำ และอาเจียนเป็นน้ำเป็นระยะ ตลอดทั้งคืน จนลูกเริ่มอ่อนเพลีย แม่จึงให้ทานยาพาราเซตามอลทุก 4 ชั่วโมง และให้ทานโจ๊ก เกลือแร่ และซื้อยาแก้อาเจียนมาให้ทาน อาการท้องเสียเริ่มลดลง แต่อาเจียนยังมีเป็นระยะ

วันที่ 30 ต.ค น้องอุ้มเริ่มอ่อนแรง และ เริ่มมีอาการหายใจติดขัด หายใจทางจมูกไม่ได้ต้องหายใจทางปาก และเริ่มมีอาการอ่อนเพลียจนแม่ต้องค่อยประคองเพราะเริ่มลุกไม่ไหว กระทั่งบ่ายสองโมง แม่เห็นอาการน้องอุ้มไม่ดีเพราะหายใจเริ่มไม่ได้ จึง โทรเรียก 1669 ให้มารับตัวไป รพ.ลำปาง เมื่อไปถึงโรงพยาบาล หมอนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ตรวจร่างกาย ระบุสาเหตุว่าน้ำตาลในเลือดสูงถึง 400 (เบาหวาน) และเกิดภาวะเลือดเป็นกรด และด้วยที่เริ่มหายใจเองไม่ได้ต้องเจาะคอใส่ท่อช่วยหายใจ ก่อนจะนำตัวเข้าห้อง ICU

โพลมสธ. เผยคนกรุงฯ ชู ‘จุรินทร์’ นำโด่ง เหมาะนั่งนายกฯ คนต่อไป เหนือ 'ประยุทธ์-สุดารัตน์'

มสธ. โพล เผยผลสำรวจคนกรุงเทพ ยกให้ ‘จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ นำโด่ง เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ระบุมีความเป็นผู้นําเฉพาะตัวเด่นชัด ตามมาด้วย ‘ประยุทธ์’ , ‘สุดารัตน์’

5 พ.ย. 64 - ศาสตราจารย์ ดร.วิทยาธร ท่อแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการสื่อสารการเมืองและสังคม มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) เปิดเผย ผลสํารวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับ ‘ประชาชนในกรุงเทพมหานครต้องการผู้นําที่มีคุณลักษณะแบบใดเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปแลคุณลักษณะพรรคการเมืองแบบใดที่ผู้นําสังกัดหรือได้รับการเสนอชื่อเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป’ ดําเนินการสํารวจ ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2564 กลุ่มตัวอย่าง จํานวน 12,350 คน เป็นชาย 6,820 คน (55.22%) หญิง 5,530 คน (44.78%)

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสํารวจครั้งนี้ ชี้ให้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ผู้นําจากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ที่ประชาชนในกรุงเทพมหานครประเมินว่าเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ในสถานการณ์ช่วงเวลา 4-5 ปี ข้างหน้านี้ เนื่องด้วยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีคุณลักษณะความเป็นผู้นําเฉพาะตัวเด่นชัดและมีคุณลักษณะพรรคการเมืองที่สังกัดเด่นชัด ตามรายละเอียดของผลการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไปนี้

1.) ประชาชนในกรุงเทพมหานครประเมินคุณลักษณะความเป็นผู้นําของผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

1.1) ผลสรุปภาพรวมคุณลักษณะความเป็นผู้นําของผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

จะเห็นได้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีคะแนนโดยภาพรวมสูงสุด (54.24%) และรองลงมา คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (52.99%), คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (38.12%) ตามลําดับ ส่วนนางสาวพินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด (8.87%)

1.2) ผลสรุปคุณลักษณะด้านที่ 1 คือ ความสามารถในการกอบกู้และแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้
จะเห็นได้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีคะแนนสูงสุด (50.30%) รองลงมา คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา(41.31%), นายกรณ์ จาติกวณิช (32.02%) ตามลําดับ และนางสาวพินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด (9.20%)

1.3) ผลสรุปคุณลักษณะด้านที่ 2 คือ คุณลักษณะด้านความสามารถในการแก้ปัญหาปากท้องและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้

เห็นได้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีคะแนนสูงสุด (50.89%) รองลงมา คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (43.44%), นายกรณ์ จาติกวณิช (30.14%) ตามลําดับ ส่วนนางสาวพินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด (7.72%)

1.4) ผลสรุปคุณลักษณะด้านที่ 3 คือ คุณลักษณะด้านการเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การบริหารประเทศ มีผลงานโดดเด่น เป็นที่ประจักษ์มาแล้วทั้งในอดีตและปัจจุบัน

เห็นได้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์มีคะแนนสูงสุด (59.53%) และรองลงมา คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (42.47%), คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (33.40%) ตามลําดับ ส่วนนางสาวพินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด (6.09%)

1.5) ผลสรุปคุณลักษณะด้านที่ 4 คือ คุณลักษณะด้านการเป็นผู้ที่รอบรู้ รอบคอบ ทุ่มเท ขยัน และรู้กลไกการผลักดันงานหรือนโยบายให้สําเร็จได้

เห็นได้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีคะแนนสูงสุด (63.58%) รองลงมา คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (58.72%), คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (42.20%) ตามลําดับ ส่วนนางสาวพินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด
(6.36%)

1.6) ผลสรุปคุณลักษณะด้านที่ 5 คือ คุณลักษณะด้านการเป็นผู้ที่อ่อนน้อม ปรองดอง เข้าถึงง่าย ทํางานกับทุกฝ่ายได้

เห็นได้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์มีคะแนนสูงสุด (55.51%) รองลงมา คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (52.83%), นายอนุทิน ชาญวีรกูล (47.40%) ตามลําดับ ส่วนนางสาวพินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด (12.81%)

1.7) ผลสรุปคุณลักษณะด้านที่ 6 คือ คุณลักษณะด้านการเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เล่นพรรคเล่นพวก

เห็นได้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์มีคะแนนสูงสุด (54.72%) รองลงมา คือ พลตํารวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (58.74%), พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (54.13%) ตามลําดับ ส่วนนางสาวพินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด (9.60%)

1.8) ผลสรุปคุณลักษณะด้านที่ 7 คือ คุณลักษณะด้านการเป็นผู้ที่รักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

เห็นได้ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคะแนนสูงสุด (62.01%) และรองลงมา คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (60.12%), คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (57.96%) ตามลําดับ ส่วนนางสาวพินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด (16.34%)

1.9) ผลสรุปคุณลักษณะด้านที่ 8 คือ คุณลักษณะด้านการเป็นผู้ควบคุมกํากับความมั่นคงทางการทหารและตํารวจ

เห็นได้ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคะแนนสูงสุด (68.99%) และรองลงมา คือ พลตํารวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (40.92%) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (60.12%) ตามลําดับ ส่วนนางสาวพินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด (2.85%)

2.) ประชาชนในกรุงเทพมหานครประเมินคุณลักษณะพรรคการเมืองที่ผู้นําสังกัด หรือ อาจจะเป็นผู้ได้รับเสนอชื่อ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป 

2.1) ผลสรุปภาพรวมคุณลักษณะพรรคการเมืองที่เป็นผู้นําสังกัด หรือ อาจจะเป็นผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

เห็นได้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ผู้นําจากพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนรวมสูงสุด (58.15%) และรองลงมา คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นําจากพรรคพลังประชารัฐ (45.59%), นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้นําจากพรรคภูมิใจไทย, (40.74%) ตามลําดับ ส่วนนางสาวพินทองทา ชินวัตร ผู้นําจากพรรคเพื่อไทย มีคะแนนน้อยที่สุด (31.44%)

2.2) ผลสรุปคุณลักษณะพรรคการเมือง ด้านที่ 1 ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยและระบบรัฐสภา

เห็นได้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ผู้นําจากพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนสูงสุด (62.01%) และรองลงมา คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้นําจากพรรคภูมิใจไทย (54.20%), ตามลําดับ ส่วนนางสาว พินทองทา ชินวัตร ผู้นําจากพรรคเพื่อไทย มีคะแนนน้อยที่สุด (26.28%)

2.3) ผลสรุปคุณลักษณะพรรคการเมือง ด้านที่ 2 มีกลไกการทํางานที่เป็นระบบ เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ไม่เป็นพรรคของใครคนใดคนหนึ่ง หรือ คณะบุคคล หรือ นายทุน

เห็นได้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ผู้นําจากพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนสูงสุด (58.74%) และรองลงมา คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นําจากพรรคพลังประชารัฐ (45.93%), นายกรณ์ จาติกวณิช ผู้นําจากพรรคกล้า (42.63%) ตามลําดับ ส่วนนางสาวพินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด (23.46%)

'นิพิฏฐ์' แนะ 'พระมหาไพรวัลย์' สึกดีกว่า พร้อมชี้ทางรวย ‘ขายสบู่ยาสีฟัน - เล่นหนังตลก’

'นิพิฏฐ์' ชี้ 'พระมหาไพรวัลย์'สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในหมู่อุบาสก - อุบาสิกา แนะทางออกสึกออกมาไปขายสบู่ ยาสีฟัน หรือแสดงหนังตลกดีกว่า อาจจะรวยเละ

05 พ.ย.2564 - นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่องทางออกของ พระมหาไพรวัลย์ มีเนื้อหาดังนี้

-พระมหาไพรวัลย์ นอกจากท่านจะมีปัญหาเรื่องการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในนิกายเถรวาทแล้ว ท่านมักพูดกระทบกระเทียบถึงบุคคลอื่นอยู่เสมอ แม้กับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ท่านก็ไม่เว้น เวลาท่านพูดท่านจะลงท้ายด้วยการฟาดฟันคนอื่น และสร้างศัตรูไปเรื่อยประเภท "แยกพวก" แทนที่ท่านจะทำให้พุทธบริษัท เป็นพวกเดียวกัน แต่ท่านแยกพุทธบริษัทออกเป็นกลุ่ม เป็นพวก เรียบร้อยไปแล้ว ประชาชนแตกแยกกันในทางการเมืองแล้วไม่พอ ท่านกลับทำให้แตกแยกกันในทางศาสนาอีก นับว่า ท่านเป็นพระที่ได้สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้น ในหมู่อุบาสก - อุบาสิกา เรียบร้อยแล้ว แต่จะแตกแยกกันในหมู่สงฆ์ด้วยหรือเปล่าผมไม่รู้ เพราะผมไม่ใช่สงฆ์

“แรมโบ้” เห็นด้วย สำนักวิจัยซูเปอร์โพลเรื่องไม่ต้องการให้นำสถาบันกษัตริย์และการแก้ ม. 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง อัด “เพื่อไทย- ก้าวไกล"หากนำมาชูหาเสียงอย่าหวังชนะถล่มทลาย เพราะประชาชนไม่เอาด้วย

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับผลสำรวจสำนักวิจัยซูเปอร์โพลเรื่อง ม.112 ที่พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 98.5  การมีอยู่ของสถาบันกษัตริย์เป็นส่วนสำคัญของความสัมพันธ์เชิงลึกของคนในชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเชิงประวัติศาสตร์  นอกจากนี้เกือบร้อยละ 99.1 ไม่ต้องการให้นำสถาบันกษัตริย์และการแก้ ม. 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง หาคะแนนเสียงและแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว เพราะจะทำให้สร้างความแตกแยกขัดแย้งในชาติ

จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศรักและศรัทธา และมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และจะไม่ยอมให้ใครนำเรื่องสถาบันไปแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเองหรือทางการเมืองของพรรคการเมือง

นายเสกสกล ยังอยากให้ฝ่ายค้านได้รู้จักคิดและฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศบ้าง ว่าประชาชนมีความต้องการอะไร และการที่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ต้องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นตนเองมั่นใจว่าคนไทยทั้งประเทศไม่ยอมอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันการที่พรรคเพื่อไทย- พรรคก้าวไกล จะชูเรื่อง 112 ในการหาคะแนนนิยมของพรรคนั้นก็เป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้ามั่นใจว่าคงไม่ชนะแบบถล่มทลายอย่างที่คุยไว้แน่นอน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top