Monday, 23 June 2025
Hard News Team

ติดปีกนวัตกรรมไทย EA ส่ง ‘กรีน เทคโนโลยี รีเสิร์ช’ เซ็น MOU สอวช. ร่วมปั้นนวัตกรรมล้ำตอบโจทย์อุตสาหกรรม BCG

EA ส่ง บ.ย่อย ‘กรีน เทคโนโลยี รีเสิร์ช’ เซ็น MOU กับ สอวช. ‘โครงการ บพข. - GTR’ ร่วมวิจัยพัฒนา ‘ปาล์มน้ำมัน’ สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยเทคโนโลยีเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมสอดรับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม Bio-Circular-Green Economy (BCG) ของไทย

บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ส่ง บจก.กรีน เทคโนโลยี รีเสิร์ช จำกัด (GTR) หรือบริษัทย่อย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมมือโครงการ บพข. - GTR เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรม ภายใต้การนำองค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดรับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม Bio-Circular-Green Economy ของประเทศไทย

เจ้าของผลงานฟ้อนต์ ‘ไทยแลนด์’ สุดงง! หลังฟ้อนต์โผล่บนเสื้อปันจักสีลัตไทย ทั้งที่ไม่ได้ขอ

เจ้าของผลงานแบบฟ้อนต์ ‘ไทยแลนด์’ ที่อ่านได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โพสต์ประจานปันจักสีลัตทีมชาติไทย นำแบบอักษรไปใช้โดยไม่ขออนุญาต ชี้ เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างร้ายแรง

ปันจักสีลัตทีมชาติไทยที่เพิ่งคว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพนักกีฬาไทย ในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่าน แต่ทว่ากลับมีดราม่าประเด็นการนำงานออกแบบอักษรฟ้อนต์ "ไทยแลนด์" มาใช้โดยไม่ได้ขออนุญาต 

สุชาล ฉวีวรรณ เจ้าของงานออกแบบอักษร "ไทยแลนด์" ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก เนื่องจากสามารถอ่านได้ทั้งไทยและอังกฤษ ได้ออกมาโพสต์ผ่าน เฟซบุ๊ก ส่วนตัวที่ชื่อว่า Buk Babor ไต่ถามถึง ปันจักสีลัตทีมชาติไทย รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะมีการนำงานดังกล่าวไปใช้ในชุดแข่งกีฬา ซีเกมส์ ที่ชิงชัยกันอยู่ในขณะนี้ที่ประเทศเวียดนาม

วันนี้ผมได้รับข้อความจากเพื่อนๆ พี่ๆ มาหลายช่องทาง เป็นลิ้งค์ข่าวของงานแข่งขันกีฬา #seagamehanoi

#seagame2021 ซึ่งเริ่มแข่งขันวันนี้เป็นวันแรก และทีมนักกีฬาไทยของเราก็ได้เหรียญทองเหรียญแรกจากกีฬาประเภทนี้

โจรแสบย่องงัดเบนซ์ - รถไถ ‘ทวี ไกรคุปต์’ ฉกอะไหล่ พร้อมของในบ้านสูญร่วม 3 แสนบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ตรวจสอบเหตุคนร้ายบุกงัดรถเบนซ์ ‘ทวี ไกรคุปต์ เอาไปไม่ได้ แต่ขโมยเครื่องยนต์รถไถและผานรถไถ สูญเงินเกือบ 3 แสนบาท

เวลา 17.00 น. เมื่อวันที่11 พ.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.พงศกร กุศลอภิบาล ร้อยเวร สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี พร้อมชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน สภ.สวนผึ้ง เข้าตรวจสอบเหตุโจรขโมยของที่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นบ้านของนายทวี ไกรคุปต์ อายุ 84 ปี บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขับรถเดินทางเข้าไปบ้านหลังเกิดเหตุที่ปลูกกลางไร่พื้นที่เกือบ 1,000 ไร่ ใกล้กับภูเขา

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ พบร่องรอยของคนร้ายใช้อุปกรณ์งัดแงะพยายามจะเปิดฝากระโปรงรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ รุ่น E 300 สีบรอนซ์ ทะเบียน 6 กว 2384 กรุงเทพ จอดอยู่ใต้ถุนบ้านหลังดังกล่าว เพื่อพยายามจะถอดตัวเครื่องยนต์ซึ่งมีมูลค่าเฉพาะตัวเครื่องกว่าหลายแสนบาท แต่ไม่สามารถงัดเปิดฝากระโปรงรถได้ จนทำให้สภาพด้านหน้ารถมีชิ้นส่วนหลุดร่วงลงพื้น ขอบฝากระโปรงรถบิดเบี้ยวปิดไม่สนิท จนทำให้รถเสียหาย ขณะเดียวกัน ยังได้ไปถอดชิ้นส่วนรถไถยี่ห้อฟอร์ด รุ่น 6600 ฝาคลุมเครื่องออกแล้วได้ยกเครื่องเกียร์ใต้ที่นั่งคนขับ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ และผานรถไถ รวมทั้งปั๊มที่อยู่ใต้ที่นั่งคนขับไปด้วย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 280,000 บาท

EA ส่ง บ.ย่อย “กรีน เทคโนโลยี รีเสิร์ช” เซ็น MOU กับ สอวช. "โครงการ บพข. - GTR" ร่วมวิจัยพัฒนา "ปาล์มน้ำมัน" สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยเทคโนโลยีเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมสอดรับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม Bio-Circular-Green Economy ของไทย

วานนี้ 11 พฤษภาคม 2565 ณ ห้องประชุมหว้ากอ 2 ชั้น 114 อาคารจัสตุรัสจามจุรีสแควร์ บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ส่ง บจก.กรีน เทคโนโลยี รีเสิร์ช จำกัด (GTR) หรือบริษัทย่อย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) โดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมมือโครงการ บพข. - GTR  เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรม ภายใต้การนำองค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดรับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม Bio-Circular-Green Economy ของประเทศไทย

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ เปิดเผยว่า บจก. กรีน เทคโนโลยี รีเสิร์ช (GTR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เซ็นบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ สอวช. โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดสรรทุนวิจัยและสร้างนัวตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการ รวมถึงสนับสนุนถ่ายทอดเทคโนโลยี สร้างตลาดนวัตกรรม การส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ และพัฒนาแพลตฟอร์มทางนวัตกรรมในภาคการผลิตและภาคบริการทุน

โครงการแม่บ้านทหารอากาศ สานรัก ร่วมใจ ห่วงใยคนพิการ ประจำปี 2565

วันนี้ (วันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2565) เวลา 10.00 น. คุณปัญญดาว ธูปะเตมีย์ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ เป็นประธานในโครงการแม่บ้านทหารอากาศสานรัก ร่วมใจ ห่วงใยคนพิการ ประจำปี 2565 ณ ห้องไหมฟ้า ชั้น 1 สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ 

โครงการแม่บ้านทหารอากาศสานรัก ร่วมใจ ห่วงใยคนพิการ ประจำปี 2565 เกิดขึ้นจากเจตนารมณ์ของคุณปัญญดาว ธูปะเตมีย์ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ ที่มีความห่วงใย และตระหนักถึงความสำคัญของผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ที่เป็นข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ สังกัดกองทัพอากาศ รวมทั้งคู่สมรสและบุตร ให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ได้ดำเนินการสำรวจผู้พิการตามหน่วยงานของกองทัพอากาศ และกองบิน มีจำนวนทั้งสิ้น 108 คน แบ่งเป็นผู้พิการส่วนกลางจำนวน 72 คน และผู้พิการในกองบินจำนวน 36 คน

Al Jazeera ชี้!! นักข่าวถูกทหารอิสราเอลยิงดับ ระหว่างทำข่าวบุกค่ายผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์

สำนักข่าว Al Jazeera และ กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ ยืนยันว่า นางไชรีน อาบู อักเลห์ วัย 51 ปี นักข่าวอาวุโสหญิงของสำนักข่าว Al Jazeera ถูกทหารอิสราเอลยิงเสียชีวิต ระหว่างทำข่าวในเขตเวสต์แบงค์ โดยเธอกำลังติดตามทำข่าวการส่งทหารบุกค่ายผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ของกองทัพอิสราเอล ในเขตเวสต์แบงค์ 

ทั้งนี้ ทางกองทัพอิสราเอล ยืนยันว่า ได้ดำเนินปฏิบัติการดังกล่าวจริง ที่ค่ายผู้ลี้ภัยเจนิน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ทางเหนือของเขตเวสต์แบงค์ พร้อมแจงอีกว่า ได้เกิดการยิงต่อสู้ระหว่างทหารกับกลุ่มติดอาวุธ 

อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพฯ โต้ว่า นักข่าว Al Jazeera บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการถูกนักรบปาเลสไตน์ยิงไม่ใช่จากทหารอิสราเอล

จีนเซ็นเซอร์!! โซเชียลบ่นแนวทางคุมโรค หลัง WHO โหมโควิดเป็นศูนย์ ‘ไม่ยั่งยืน’

จีนใช้มาตรการเซ็นเซอร์เพื่อปิดกั้นการถกเถียงในหมู่ชาวเน็ตแดนมังกร หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาวิจารณ์นโยบายคุม ‘โควิดเป็นศูนย์’ ของปักกิ่งว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ ‘ไม่ยั่งยืน’

จีนถือเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจรายเดียวของโลกที่ยังคงยึดนโยบายลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้เหลือศูนย์ และใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเพื่อยับยั้งการระบาด

ยุทธศาสตร์ที่ว่านี้ส่งผลให้ประชากรส่วนใหญ่จากทั้งหมด 25 ล้านคนในนครเซี่ยงไฮ้ถูกบังคับกักตัวอยู่แต่ในที่พักอาศัยแบบไม่มีกำหนด ระหว่างที่รัฐบาลกำลังต่อสู้เพื่อยุติการระบาดครั้งใหญ่

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ออกมาเรียกร้องเมื่อ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ให้จีนปรับแนวทางการควบคุมโรคเสียใหม่ เนื่องจากการคุมโควิดให้เป็นศูนย์อยู่ตลอดเวลานั้น “ไม่ยั่งยืน” ท่ามกลางการอุบัติขึ้นของเชื้อสายพันธุ์ย่อยใหม่ๆ ที่แพร่กระจายได้เร็ว

การ “แทรกแซง” ของ WHO ในครั้งนี้ ทำให้จีนต้องระดมหน่วยเซ็นเซอร์ เพื่อเร่งปิดกั้นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ตามมาในสื่อออนไลน์

โดยแฮชแท็ก #Tedros และ #who ถูกปิดกั้นการค้นหาในไมโครบล็อกเวยปั๋ว ขณะที่ผู้ใช้แอปพลิเคชัน WeChat ก็ไม่สามารถแชร์บทความที่เผยแพร่ลงในบัญชีทางการขององค์การสหประชาชาติได้

อย่างไรก็ดี ก่อนที่แฮชแท็กและคำค้นหาเหล่านี้จะถูกปิดกั้นไปเมื่อช่วงเช้า ชาวเน็ตจีนจำนวนมากได้คอมเมนต์และตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายปลอดโควิดของรัฐบาลปักกิ่ง โดยมีคนหนึ่งบอกว่า “แม้แต่ ผอ.อนามัยโลกก็ยังเปลี่ยนจุดยืนแล้วเลย” ขณะที่อีกคนตั้งคำถามว่า “รัฐบาลของเราจะฟังคำแนะนำของผู้อำนวยการ WHO ไหม?”

ชาวจีนจำนวนไม่น้อยเริ่มเหลืออดกับมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดเกินไป และไม่พอใจที่ภาครัฐดูเหมือนจะสั่งล็อกดาวน์แบบไม่มีที่สิ้นสุด โดยที่เซี่ยงไฮ้ก็มีเหตุปะทะระหว่างตำรวจกับประชาชนเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ 

ทว่า ด้านพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็ให้เหตุผลว่า หัวใจของยุทธศาสตร์คุมโควิดเป็นศูนย์ คือ การถือ “ชีวิตคน” สำคัญกว่าความสะดวกสบายด้านวัตถุ และมันก็ช่วยให้จีนรอดพ้นจากวิกฤตด้านสาธารณสุขอย่างที่หลายๆ ประเทศเคยเจอกันมาแล้ว

หลวงพี่มึน! หลังเจอคตนนำถุงยางอนามัยใส่บาตร เผย รู้ความจริงตอนที่สามเณรเอามาเป่าเล่น

จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ชีวิตกับการเดินทางไกล” ที่พระชิงชัย อิทธิเตโช พระลูกวัดศรีเกิด อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นผู้โพสต์เรื่อง ที่สามเณรบิณฑบาตรได้ถุงยางอนามัยมานั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 ในช่วงเช้าได้มีสามเณร 2 รูป อายุ 14-15 ปี โดยบวชเรียนอยู่ที่วัด ได้ออกไปรับบิณฑบาตที่ตลาดสดเทศบาล หรือกาดหลวงเชียงราย โดยเมื่อบิณฑบาตไปถึงหน้าโรงรับจำนำ ได้มีชายร่างท้วม ท่าทางตุ้งติ้ง ได้ใส่บาตรกับข้าวและน่าจะมีถุงยางอนามัยปะปนมาด้วย

เมื่อมาถึงวัดก็ได้จัดการของในบาตร และพบว่ามีถุงยางอนามัยหลายชิ้นติดมาด้วย ด้วยความคึกคะนอง สามเณรก็เลยเอามาเป่าเล่นตามวัย จนพระชิงชัยมาพบ จึงได้สอบถาม จนทราบว่า ได้ถุงยางอนามัยมากับการรับบิณฑบาต ตอนแรกสามเณรก็นึกว่าซอสพริก แต่ดูเข้าจริงกลับเป็นถุงยางอนามัย จึงได้ขอเก็บทั้งหมด และถ่ายรูปเอาไว้ เพราะไม่สมควรที่สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในวัด จากนั้นก็ได้โพสต์และข้อความในเฟซบุ๊กดังกล่าว

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวได้สอนสามเณรด้วยว่า สิ่งของที่เขาให้มาในบาตรนั้นไม่ผิดแต่เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง จึงขอฝากญาติโยมที่จะทำบุญควรคิดก่อนให้ดี ว่าจะถวายอะไรอย่าดูว่าพระเหมือนกับในข่าว

ส่วนข้อความที่โพสต์ ดังนี้ 

'ยูเครน' ไฟเขียว!! ยึดทรัพย์สิน ‘รัสเซีย’ หวังใช้เป็นทุนหลักฟื้นฟูประเทศ

(11 พ.ค. 65) รายงานจากสำนักข่าวซินหัวเผย เดนิส ชมีฮัล นายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวว่า รัฐบาลยูเครนได้อนุมัติการยึดทรัพย์สินของรัสเซียในยูเครนแล้ว

“วันนี้คณะรัฐมนตรีอนุมัติเอกสารที่กำหนดการถ่ายโอนทรัพย์สินของรัสเซียในยูเครนมาเป็นของรัฐ หรือไปยัง ‘กองทุนเพื่อการลงทุนแห่งชาติ’ ของภาครัฐวิสาหกิจ” ชมีฮัล เผยผ่านเทเลแกรม

ชมีฮัล กล่าวว่า ทรัพย์สินของรัสเซียจะอยู่ภายใต้การจัดการโดยกองทุนเพื่อการลงทุนแห่งชาติยูเครน และจะถูกใช้เสริมความแข็งแกร่งให้กองทัพยูเครน สนับสนุนประชาชน และสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top