ชาวอุบลฯ มอบดอกไม้ขอบคุณเหล่าทหาร ที่ช่วยเหลือขับรถรับ-ส่ง ตลอดช่วงน้ำท่วม

ประชาชนที่ใช้บริการรถรับส่งข้ามเมืองคู่แฝดวารินชำราบกับอำเภอเมืองอุบลฯ ซึ่งถูกน้ำท่วมตัดขาดถนนสายหลัก รู้สึกใจหาย เมื่อรถทหารยกสูงที่แล่นรับส่ง ต้องหยุดวิ่ง หลังสถานการณ์น้ำท่วมลดลงเผยเห็นหน้าช่วยเหลือเกื้อกูลกันนานนับเดือนจนรู้สึกผูกพันเหมือนญาติพี่น้อง

สถานการณ์น้ำท่วมถนนสถิตนิมานกาล ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมระหว่างอำเภอวารินชำราบและอำเภอเมืองอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเมืองคู่แฝดลดลง จนรถทุกชนิดสามารถแล่นผ่านไปมาได้แล้ว ทหารและรถจากหน่วยงาน รวมทั้งจิตอาสา จึงประกาศหยุดวิ่งรับส่งประชาชนตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากให้บริการประชาชนตั้งแต่ 06.00-20.30 น. ทุกวันโดยไม่มีวันหยุด มานานร่วมเดือน

โดยทหารและจิตอาสาเหล่านี้ต้องเปลี่ยนภารกิจไปช่วยเหลือประชาชน ตามชุมชนที่ยังมีน้ำท่วมขัง ได้กลับเข้าไปอยู่ในบ้าน หลังน้ำลดลงกว่านี้ ตลอดช่วงเดือนพฤศจิกายนที่กำลังมาถึง ทำให้ประชาชนที่ใช้บริการของเหล่าทหารมานานร่วมหนึ่งเดือน นำดอกไม้มาแสดงความขอบคุณ และกล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับบริการจากบรรดาทหารของชาติ ซึ่งยังประทับใจในน้ำใจของเหล่าทหารที่มาช่วยเหลือ

นางวรรณี ศรีทา เจ้าหน้าที่วิสัญญีแพทย์ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่ามาใช้บริการรถทหารตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.จนถึงปัจจุบัน ตอนเช้าจะมาขึ้นรถตั้งแต่ 06.30 น. และกลับช่วง 16.00 น. ทุกวัน รู้สึกประทับใจทหารมีความเป็นกันเอง ช่วยเหลือเราทุกอย่าง วันนี้มาใช้บริการเป็นวันสุดท้าย ก็รู้สึกใจหาย เพราะมาใช้บริการเกือบเดือน ทำให้รู้สึกเป็นครอบครัว เพราะต้องไปด้วยกันทุกวัน จึงมีความผูกพัน ทำให้รู้สึกใจหายมาก เพราะต่อจากนี้ ก็ต้องขับรถไปเองแล้ว

ส่วนคนอื่นๆ ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน รวมทั้งฝ่ายทหารที่มาให้บริการก็บอกระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก็รู้สึกเหนื่อย แต่เมื่อเห็นรอยยิ้ม และคำขอบคุณจากประชาชนที่มาใช้บริการก็รู้สึกหายเหนื่อย ซึ่งการมาปฏิบัติหน้าที่ ทำให้น้ำหนักลดลงไปส่วนหนึ่งด้วย

จังหวัดอุบลราชธานี แม้ขณะนี้ ถนนสายหลัก 2 สายเชื่อมระหว่างเมืองคู่แฝด คือ ถนนสถิตนิมานกาล และถนนเลี่ยงเมือง 231 ฝั่งตะวันตก จะสามารถเปิดใช้เส้นทางได้แล้ว แต่ยังคงเหลืออีก 1 เส้นทางคือ ถนนสะพาน 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ยังมีน้ำท่วมสูง รถยังไม่สามารถสัญจรได้

สำหรับชุมชนตั้งอยู่ติดแม่น้ำมูล ทั้งฝั่งเทศบาลเมืองวารินชำราบและเทศบาลนครอุบลราชธานี ยังมีชุมชนถูกน้ำท่วมรวม 265 ชุมชน กว่า 18,700 คน ยังต้องอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพชั่วคราว