Monday, 23 June 2025
Hard News Team

‘โฆษกสถานทูตจีน’ ลั่น โฆษณาลาซาด้า มีเนื้อหาที่ยอมรับไม่ได้

13 พ.ค. 65 - เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความระบุว่า โฆษกสถานทูตจีนประจำประเทศไทยตอบคำถามเกี่ยวกับคลิปโฆษณาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซบางแห่ง

Q: เมื่อเร็ว ๆ นี้ คลิปโฆษณาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Lazada ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในประเทศไทย สถานทูตจีนมีความรู้สึกอย่างไร

A: สถานทูตจีนประจำประเทศไทยรับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว คิดเหมือนกันว่าคลิปโฆษณาที่เกี่ยวข้องมีเนื้อหาที่ยอมรับไม่ได้

'นักเศรษฐศาสตร์' เตือนสติคนรุ่นใหม่เล่น 'คริปโต' ไม่ต่างจาก 'ชาวป่าบุชแมน' ที่คลั่งขวดน้ำอัดลม

'ดร.สุวินัย' เตือนสติคนรุ่นใหม่เล่นมือถือเทรด 'คริปโต' ไม่ต่างจาก 'ชาวป่าบุชแมน' ที่คลั่งขวดน้ำอัดลมเปล่าคิดว่าเป็น 'ของวิเศษ-ของขวัญจากฟ้า' คนที่มีปัญญามองเห็นเป็น 'วัตถุชั่วร้าย' ชี้อัลกอริทึมนี้สามารถดักราคาได้แบบกินรวบ

13 พ.ค. 65 - ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความ เรื่อง 'The Gods Must Be Crazy in 2022 : ตลกร้ายภาคเหรียญคริปโต' มีเนื้อหาดังนี้

ในหนังตลกเรื่อง "The Gods Must Be Crazy" (1980) เป็นหนังล้อเลียนชาวป่าบุชแมน ที่อยู่ดีๆ ก็มีขวดน้ำอัดลมเปล่าใบหนึ่งตกลงมาจากท้องฟ้า

ตอนแรกชาวป่าบุชแมนเชื่อว่าวัตถุประหลาดชิ้นนี้มันเป็น "ของวิเศษ" ที่พระเจ้าประทานมาให้พวกเขา

หลังจากนั้นไม่นานวัตถุประหลาดชิ้นนี้ได้กลายเป็นสิ่งกำหนดพฤติกรรมและเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกชาวป่าบุชแมนไปโดยไม่รู้ตัว จนทำให้แผ่นดินของชาวป่าบุชแมนไม่มีความสงบสุขเหมือนเช่นเดิมอีกต่อไป

คนที่มีปัญญาที่สุดในหมู่ชาวป่าบุชแมนเริ่มมองเห็น "ของวิเศษ" ชิ้นนี้ เป็น "วัตถุชั่วร้าย" และเอามันไปฝังดิน

แต่สุดท้ายก็มี "เด็กรุ่นใหม่" ไปพบมันเข้า และนำวัตถุประหลาดนี้กลับหมู่บ้านชาวป่าบุชแมนอีกครั้ง และทำให้แผ่นดินของชาวป่าบุชแมนวุ่นวายอีกครั้ง

ที่ผ่านมาคนรุ่นใหม่ทั่วโลกที่เปิดรับเหรียญคริปโตเข้ามาในชีวิต ล้วนมีความเชื่อร่วมกันว่า เหรียญคริปโต คือ "ของขวัญจากฟ้า" ที่สามารถพลิกชีวิตตัวเองให้กลายเป็นคนรวยในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ โดยแค่ "แห่เข้าไป" ซื้อเหรียญคริปโต...จากนั้นแค่รอให้มันราคาพุ่งขึ้นอย่างกับติดจรวด แล้วค่อยเทขายทำกำไรจำนวนมหาศาล

ตำนานความเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ของเหรียญคริปโต เป็น "เรื่องเล่า" (story) ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างแนบเนียน โดยเขียนบทให้สอดคล้องกับบริบทของยุคสมัยด้วยการใช้ชุดศัพท์ภาษาที่แปลกหูสำหรับคนทั่วไป เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ผู้คนทั่วโลกจะได้หลงเชื่อและแห่เข้าไปเล่น "เกมการเงินแห่งเหรียญคริปโต" นี้

ถ้าใครที่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ฟองสบู่ จะทราบเป็นอย่างดีว่า Story แบบนี้มันเคยเกิดกับดอกทิวลิปที่เรียกว่า "เหตุการณ์คลั่งทิวลิป" (Tulip mania) มาก่อนเมื่อปี ค.ศ. 1634 ก่อนที่จะล่มสลายในปี ค.ศ. 1637
ในช่วงนั้นชาวดัตช์ที่คลั่งทิวลิป ย่อมไม่ต่างอะไรกับชาวป่าบุชแมนที่คลั่งขวดน้ำอัดลมเปล่า เพราะคิดว่าเป็น "ของขวัญจากฟ้า"...แต่นี่คือเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงๆ มิใช่หนังตลกปี 1980 ที่สร้างขึ้นเพื่อล้อเลียนชาวป่าบุชแมน

ผ่านไปเกือบสี่ร้อยปี เหตุการณ์ "คลั่งคริปโต" ที่เหมือนรีเมค "เหตุการณ์คลั่งทิวลิป" ก็เกิดขึ้นมาอีกราวกับเป็นเรื่องตลกร้ายที่ "พระเจ้า" กำลังหยอกเย้าพวกมนุษย์ยุคนี้ ที่ยังคงโง่เขลาและไร้สติอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

‘รูเบิลรัสเซีย’ แข็งค่าสุดในรอบ 5 ปี แถมเป็นสกุลเงินผลงานดีสุดในปีนี้

สกุลเงินรูเบิลแข็งค่าขึ้นอีกในตลาดหลักทรัพย์มอสโกเมื่อวันพฤหัสบดี (12 พ.ค. 65) ข้ามผ่านระดับ 67 รูเบิลต่อยูโรเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี และมุ่งหน้าสู่ระดับ 64 รูเบิลต่อดอลลาร์ แม้ธนาคารต่างๆ จะเสนอซื้อรูเบิลในราคาที่อ่อนกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ รูเบิล กลายเป็นสกุลเงินที่มีผลงานดีที่สุดของโลกในปีนี้ ด้วยแรงหนุนเทียมจากมาตรการควบคุมเงินทุนที่รัสเซียกำหนดออกมาเพื่อปกป้องภาคการเงินของพวกเขาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากถูกตะวันตกคว่ำบาตร ตอบโต้กรณีที่มอสโกส่งทหารหลายแสนนายรุกรานยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค. 65) อ้างการแข็งค่าของรูเบิล ว่าเป็นตัวอย่างของผลงานที่พอใช้ของรัสเซียภายใต้มาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของตะวันตก

ช่วงหนึ่งของการซื้อขาย รูเบิลแข็งค่าขึ้น 4% เป็น 64.34 รูเบิลต่อดอลลาร์ เป็นระดับที่พบเห็นครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 ในขณะที่เมื่อเทียบกับยูโร มีอยู่ช่วงหนึ่งรูเบิลแข็งค่าขึ้นมากกว่า 5% อยู่ที่ระดับ 66.68 รูเบิลต่อยูโร

รูเบิลได้แรงหนุนจากการที่บรรดาบริษัทต่างๆ ที่มุ่งเน้นการส่งออก จำเป็นต้องขายรายได้เงินตราต่างประเทศและเข้าซื้อรูเบิล ขณะเดียวกันอุุปสงค์สำหรับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศก็ลดน้อยลง เนื่องจากยอดการนำเข้าที่ลดลงของรัสเซีย ท่ามกลางปัญหาความวุ่นวายทางโลจิสติกส์และมาตรการคว่ำบาตรอย่างกว้างขวางของตะวันตก

อย่างไรก็ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่ธนาคารต่างๆ ของรัสเซียนั้นต่างออกไป โดย สเบอร์แบงก์ ขายดอลลาร์และยูโรที่ราคา 71.24 และ 73.89 รูเบิลตามลำดับ ส่วนธนาคาร VTB ขายดอลลาร์ที่ 82.15 รูเบิลและขายยูโรที่ 85.15 รูเบิล

รูเบิลที่แข็งค่าอาจช่วยสยบภาวะเงินเฟ้อ แต่ก็เสี่ยงส่งผลกระทบต่อรายได้ของเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการส่งออก ซึ่งขายสินค้าโภคภัณฑ์ของพวกเขาไปยังต่างแดนเป็นสกุลเงินต่างประเทศ

🔎 เงื่อนไขและวิธีการซื้อ 'สลากดิจิทัล' 80 บาท

(13 พ.ค. 65) หลังจากสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีการประกาศ เรื่อง วิธีการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสลากดิจิทัล (Digital Lottery) ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางการจำหน่ายสำหรับตัวแทนจำหน่ายและการซื้อสลากของผู้ซื้อสลากดิจิทัลให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติ

โดยในประกาศฉบับดังกล่าว ได้ระบุถึงรายละเอียดการเปิดให้ซื้อขายสลากดิจิทัลบนแพลตฟอร์มในแต่ละงวด ทุกวัน จะเปิดตั้งแต่ เวลา 06.00 - 23.00 น. และในวันออกรางวัลจะเปิดให้ซื้อขายตั้งแต่เวลา 06.00-14.00 น. โดยตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัลต้องเป็นผู้ลงทะเบียนแอปพลิเคชันถุงเงินและแอปพลิเคชันเป๋าตัง รวมถึงชำระค่าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จัดพิมพ์โดยสำนักงานฯ และสำนักงานส่งมอบสลากดังกล่าวให้สำนักงาน เพื่อสแกนเป็นรูปภาพสลากและข้อมูลสลาก ก่อนนำเข้าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในแพลตฟอร์ม

📌 เงื่อนไขการซื้อ
1.) ผู้ซื้อต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
2.) ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง และพิสูจน์ตัวตน

📌 วิธีการซื้อ
1.) การค้นหาด้วยตัวเลขที่ต้องการ
2.) การค้นหาจากร้านค้าที่จำหน่าย
3.) เมื่อเลือกสลากที่ต้องการซื้อเรียบร้อยแล้วจะต้องชำระเงินค่าสลากที่เลือกภายในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อชำระค่าสลากเรียบร้อยแล้ว กรรมสิทธิ์ในสลากจะตกเป็นของผู้ซื้อทันที จะไม่สามารถนำไปซื้อขายได้อีก รวมทั้งจะปรากฏภาพสลากดิจิทัลในเมนู “สลากฯ ของฉัน”

'ฟินแลนด์' เฉย!! ข่าวลือสะพัด ถูกหมีตัดแก๊ส หลังประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมนาโต้

Iltalehti หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานอ้างแหล่งข่าวนักการเมืองคนสำคัญของฟินแลนด์ได้ออกโรงเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) ว่า รัสเซียอาจระงับจ่ายแก๊สที่ป้อนแก่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟินแลนด์ในวันศุกร์ (13 พ.ค.) หลังจากบรรดาผู้นำเฮลซิงกิประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรนาโต้

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไม่เจาะจงว่าคำเตือนนั้นมาจากนักการเมืองรายใด ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ก็ไม่ยืนยันข้อมูลดังกล่าวด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ หลังจาก ประธานาธิบดีเซาลี นีนิสโต และนายกรัฐมนตรี ซันนา มาริน ของฟินแลนด์ ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่งซึ่งออกเผยแพร่ในกรุงเฮลซิงกิ ว่าฟินแลนด์ จะเข้าร่วมพันธมิตรนาโต้ "โดยไม่มีการลังเล" ก็ดูจะกระตุ้นให้ทางรัสเซียออกมาประกาศว่าจะตอบโต้อย่างทันควัน

โดยโฆษกเครมลิน ดมิตริ เปสคอฟ เตือนว่า รัสเซียจะมองการเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ของฟินแลนด์ว่าเป็นภัยคุกคาม “อย่างแน่นอน”

‘บิ๊กตู่’ ร่ายยาวผลงานให้คนไทยในสหรัฐฯ ฟัง ลั่นทำเพื่อชาติ ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ‘ใครจะไล่ได้ก็ไล่ไป’

นายกฯ พบคนไทยในสหรัฐฯ ขอให้รักบ้านเกิด ลั่น ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ใครจะไล่ได้ก็ไล่ไป รับถูกจับตาเยือนสหรัฐฯ เลือกข้าง ยันยึดหลักไม่ขัดแย้งใคร ขออย่าไปฟังพวกไม่มีชาติ

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 65 ตามเวลา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พบปะชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน - สหรัฐฯ (สมัยพิเศษ) โดย นายกรัฐมนตรี ได้นำคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลมาเปิด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราอยู่ท่ามกลางคนไทยด้วยกัน คนไทยเรามีคติว่า ไม่ว่าจะอยู่ไหนคนไทยต้องรักกัน วันนี้อยากจะมาพบ มาพูดคุย สิ่งสำคัญที่สุดคือเป็นกำลังใจให้กับนายกรัฐมนตรี เพราะนายกฯ ต้องไปสู้อีกหลายการประชุมด้วยกัน จะไปร่วมพูดคุยว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยสามารถเดินไปข้างหน้าให้ได้ เพราะเป็นประเทศที่ค่อนข้างมีศักยภาพในอาเซียน และทุกคนก็มองว่าประเทศไทยเป็นแกนกลางของอาเซียน เพราะมีคน มีพื้นที่ มีความเจริญเติบโตต่างๆ ที่จะสามารถเติบโตได้เร็วขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งแรกที่ตนมาเจอกันวันนี้คือยินดี สิ่งที่สองตนอยากฝากไว้ด้วยว่า ท่านเป็นตัวแทนของคนไทยในต่างประเทศ เพราะฉะนั้นต้องทำหน้าที่เพื่อแผ่นดินเกิดของท่าน รวมไปถึงหน้าที่ที่สอง ที่มีหน้าที่ต่อประเทศของท่านในเวลานี้ ที่มาอยู่ที่นี่ อาจจะเป็นสัญชาติอะไรในทำนองนี้และสิ่งสำคัญคือลูกหลาน จะทำอย่างไรให้ไม่ลืมบ้านเกิดของเรา ไม่ลืมบ้านเกิดของต้นตระกูล วันนี้จะเห็นว่าหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะ โลกปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด การทำงานก็ไม่ได้ง่ายนัก สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการที่จะเสพหรืออ่านเชื่อหรืออะไรก็แล้วแต่ ตนเข้ามาทำงานอยู่หลายปี ผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาอย่างอดทน อดทนเพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่สุดแล้วแต่ว่าประชาชนจะว่าอย่างไร แต่ตนจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยจะต้องไม่ทุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่ทำอะไรที่ผิด นี่คือเป้าหมายของตน ว่าตนทำเพื่อใคร เพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง เพื่อตระกูลตน หรือเพื่อใครสักคนเลย ตนไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ตนรับราชการมาจนเกษียณอายุราชการด้วยความภาคภูมิใจ และหลังจากนั้นก็กลายมาเป็นนักการเมืองโดยจำเป็น

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่า การเดินทางมาประชุมอาเซียน - สหรัฐฯ (สมัยพิเศษ) ครั้งนี้ หลายคนก็จับตาว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีจะมาพูดอะไร จะไปอยู่ข้างไหน เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด ทำอย่างไรประเทศของเราจะไม่เสียหาย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเคารพกติกาของเขาด้วย นั่นคือหลักการของเรา ไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น ต้องว่าไปตามหลักการ นอกจากนี้ในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่เราเดินทางร่วมประชุมในเรื่องนี้ รวมไปถึงมีความสัมพันธ์ร่วมกันกว่า 200 กว่าปี ถือเป็นความสัมพันธ์พิเศษ ซึ่งประเทศไทยไม่เคยทำกับใครในโลกใบนี้ มีแต่ไทยกับสหรัฐฯ ที่ถือว่าได้สิทธิประโยชน์เท่าเทียมคนไทยทุกคน นั่นคือความเป็นมาของเรา โดยการประชุมจะมีการหารือในหลากหลายมิติ ทั้งเรื่องการค้าการลงทุน การฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เศรษฐกิจดิจิทัล และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะได้พบปะกับผู้นำอาเซียน และผู้นำสหรัฐรวมถึงอีกหลายหน่วยงาน

นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในประเทศก็ดีขึ้น ประเทศไทยได้รับความชื่นชมและเป็นลำดับต้นๆ ของโลก บางอย่างอันดับ 1 ของโลก แต่ในประเทศด่าตนเรื่อย ด่าทุกวัน ย้ำว่าไม่มีอะไรที่ทุกคนพอใจ แต่ทำให้มากที่สุดให้ดีที่สุด นั่นคือนโยบายของตน ซึ่งหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมนายกฯ ต้องประกาศเอง นายกฯ ไม่ใช่หมอ แต่นายกฯ เป็นผู้บริหารถ้าให้หมอทำคนเดียวเขาทำไม่ได้ทั้งหมด เพราะเขาสั่งทหารไม่ได้ สั่งเจ้าหน้าที่มหาดไทยไม่ได้ พอตนบูรณาการตรงนี้ก็หาว่าเผด็จการไปอีก ทั้งที่ทุกประเทศทำแบบนี้หมด อยากจะบอกว่าเขาเลียนแบบตนด้วยซ้ำไป

ทีม 'เชียร์ลุงตู่' ปลุกกระแสเลือก 'อัศวิน' ก่อนจะได้ผู้ว่าฯ อิสระปลอมๆ นำไปสู่แลนด์สไลด์ทั่วไทย

แอดมินกลุ่มเฟซบุ๊ก 'เชียร์ลุงตู่' ชูยุทธศาสตร์ ไม่เลือกเราเขามาแน่ ลั่นถ้าไม่เลือก 'อัศวิน' จะได้ผู้ว่าอิสระปลอมๆ นำไปสู่แลนด์สไลด์ทั่วไทย สู่หนทางกลับไทยแบบเท่ๆ ของ 'ทักษิณ'

13 พ.ค. 65 - วัชระ บุญหวาน แอดมิน กลุ่มเฟซบุ๊ก 'เชียร์ลุงตู่มาอยู่กลุ่มนี้1' ที่มีสมาชิก 2.5 แสนคน โพสต์ข้อความถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีเนื้อหาดังนี้

ถ้าไม่เลือกอัศวิน อะไรจะเกิดขึ้น

อันดับแรกเลย เราจะได้ผู้ว่าอิสระปลอมๆ ครับ แต่ไม่อิสระจริง
เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าครั้งนี้ มันวัดกันแค่ 2 ฝ่ายครับ
คือฝ่ายเอาทักษิณ กับ ไม่เอาทักษิณ
โดยที่ฝ่ายทักษิณต้องการใช้บันไดขั้นแรกของการเลือกตั้งผู้ว่าครั้งนี้
นำไปสู่โปรเจคแลนด์สไลด์ทั่วไทย
เพื่อหนุนลูกสาวก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สอง ต่อจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

โดยการใช้แคมเปญแลนด์สไลด์ทั่วไทย
เพื่อหนทางไปสู่การกลับไทยแบบเท่ๆ ของนักโทษหนีคดี อย่าง ทักษิณ ชินวัตร
เพราะเป็นหนทางสุดท้ายแล้วที่ทักษิณหวัง
ทักษิณจะใช้สนามเลือกตั้งหยั่งเสียง ว่าเขาจะมีโอกาสได้กลับไทยหรือไม่ ชาตินี้
ถ้าคนของฝ่ายเขาชนะ แผนสอง แผนสามก็จะตามมาทันที ตามนิสัยทักษิณ
ที่จะรุกคืบเมื่อมีโอกาส และรู้ว่าตัวเองเป็นต่อ
เหมือนเช่นเมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเคยทำเรื่องมิบังควรมาแล้ว

มันไม่เคยมีสัจจะสำหรับคนๆ นี้
เคยพร่ำว่าจะไม่ยุ่งการเมืองมากี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยเลิกรา

พวกเราจะปล่อยให้ทุกอย่างมันสายเกินจะแก้ไขไม่ได้ครับ
ถ้าปล่อยให้ฝ่ายทักษิณกลับมามีอำนาจได้ ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมาล้มเขาได้อีกครับ
จะให้เขาเข้ามาโกงกินทำความเสียหายให้ประเทศชาติไม่ได้อีกแล้วครับ
และจะไม่มีทหารคนไหนคิดยึดอำนาจรัฐประหารอีกครับ
หากเราคนไทยไม่คิดป้องกันเอาไว้

คำทำนายปีนี้ดี!! พระโคเสี่ยงทาย ‘กินถั่ว น้ำ หญ้า เหล้า’ ทายว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์ เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง

พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2565 พระยาแรกนาเสี่ยงทายได้ผ้านุ่ง 4 คืบ ส่วน ผลการเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง พระโค "กินถั่ว น้ำ หญ้า เหล้า" น้ำท่าจะบริบูรณ์ เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 65 เวลา 08.30 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จฯ ไปเป็นองค์ประธานในงานพระราชพิธีพืชมงคล จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปีพุทธศักราช 2565 ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

โดยผู้ทำหน้าที่เป็นพระยาแรกนาปี 2565 คือ นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนเทพีคู่หาบทอง ได้แก่ นางสาวณัฐชยา ศรีสุขสวัสดิ์ นักวิชาการปฏิรูปที่ดินชำนาญการพิเศษ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และนางสาวอาทิตยา ทองแกมแก้ว นักวิชาการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร เทพีคู่หาบเงิน ได้แก่ นางสาวกันยารัตน์ เศวตนันทิกุล นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางสาวชลธิชา ทองอ่อน นายสัตวแพทย์ชำนาญการ กรมปศุสัตว์ ส่วนพระโคแรกนา ได้แก่ พระโคพอ และพระโคเพียง พระโคสำรอง ได้แก่ พระโคเพิ่ม และพระโคพูล

“พม.” ร่วม “สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิต” จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 19

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย ประชุมเชิงปฏิบัติการ ส่งเสริมศักยภาพองค์กรเครือข่ายการเชื่อมโยงการทำงานช่วงสถานการณ์ การเกิดโรคระบาด และประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 19 ประจำปี 2564 พร้อมมอบโล่รางวัลเพื่อแสดงว่า บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นรายการสื่อดีเด่นที่ช่วยเหลือสังคมในภาวะยากลำบาก

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ที่ห้องประชุมชลพฤษ์ รีสอร์ท ตำบลบ้านพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ได้รับเกียรติจาก ท่านณฐอร อินทร์ดีศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการกระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิด ประชุมเชิงปฏิบัติการ การส่งเสริมศักยภาพองค์กรเครือข่ายและการเชื่อมโยงการทำงานช่วงสถานการณ์การเกิดโรคระบาด และการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 19 ประจำปี 2564  

นายกฯ พบภาคเอกชนสหรัฐฯ ผลักดัน 3R พา 'ศก.อาเซียน-สหรัฐฯ' ก้าวหน้ายุค Next Normal

'บิ๊กตู่' เผย ไทยเดินหน้า ผลักดัน ความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจดิจิทัล การเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับ การรักษาสิ่งแวดล้อม

(13 พ.ค. 65) ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2565 เวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา ณ โรงแรม Willard InterContinental กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมผู้นำและผู้แทนชาติสมาชิกอาเซียนพบปะผู้นำภาคเอกชนสหรัฐอเมริกา โดยมี นางจีน่า เรมอนโด (Gina M. Raimondo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา และนางแคทเธอรีน ไท่ (Katherine Tai) ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมด้วย 

นายธนกร สรุปคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี ไว้ดังนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้มาพบหารือ ซึ่งที่ผ่านมามีโอกาสพบปะและพูดคุยกับสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (USABC) ในหลายโอกาส พร้อมชื่นชมภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่สนับสนุน และมีส่วนร่วมที่แข็งขันในการเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียน โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน จึงทำให้ต้องกลับมาทบทวนเพื่อก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง โดยไทยให้ความสำคัญกับการสร้าง “พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต” เพื่อให้ภูมิภาคมีการเติบโตที่เข้มแข็งและยั่งยืนในยุค Next Normal ต่อไป ซึ่งประเด็นหลักที่อาเซียนกับสหรัฐฯ สามารถร่วมกันผลักดันมี 3 เรื่อง หรือ “3R” ได้แก่

“Reconnect” ส่งเสริมความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งภาคเอกชนสหรัฐฯ สามารถมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเชื่อมโยงนี้ ผ่านการลงทุนขยายฐานการผลิตในภูมิภาค โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่อาเซียนมีศักยภาพและทรัพยากรรองรับ ซึ่งไทยมีพื้นที่ EEC ที่พร้อมเปิดโอกาส ให้ภาคเอกชนสหรัฐฯ เข้ามาร่วมลงทุน เพื่อสร้างความหลากหลายให้แก่ห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ รวมถึงจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคในไทยเพื่อใช้เป็นฐานในการเชื่อมโยงธุรกิจกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค โดยสาขาอุตสาหกรรมที่สามารถร่วมมือกันได้ คือ อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และบริการทางการแพทย์ โลจิสติกส์อัจฉริยะ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ

สำหรับสาขาอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ไทยมีศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมกลางน้ำ และปลายน้ำที่แข็งแกร่ง และมีบริษัทเอกชนสหรัฐฯ เข้ามาลงทุนแล้วหลายราย จึงขอเชิญชวนให้ภาคเอกชนสหรัฐฯ พิจารณาลงทุนเพิ่มเติมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และมีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทาน อาทิ ต้นน้ำของเซมิคอนดัคเตอร์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งไทยมีนโยบายมุ่งสู่การเป็นฐานการผลิต EV ระดับโลก โดยการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ผลิต EV และผู้พัฒนาระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง อาทิ แบตเตอรี่ ชิ้นส่วนสำคัญ และสถานีชาร์จ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านและสร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯ ได้ด้วย

R ที่สอง คือ “Rebuild” ในยุค 4IR ควรมุ่งพัฒนาและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค ซึ่งมีศักยภาพในการขยายตัวได้ถึงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ค.ศ. 2030 พร้อมกล่าวเชิญชวนภาคเอกชนสหรัฐฯ ร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในอาเซียน เช่น โครงข่ายอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีคลาวด์ในอุตสาหกรรมการผลิต ดาต้าเซ็นเตอร์ และการให้บริการคอนเทนต์ ตลอดจนการสนับสนุนการพัฒนาและบ่มเพาะธุรกิจดิจิทัลสตาร์ตอัป ทั้งนี้ ไทยมีไทยแลนด์ดิจิทัลวัลเลย์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ EECi ที่ภาคเอกชนสหรัฐฯ สามารถเข้ามาร่วมพัฒนาธุรกิจดิจิทัล และขยายไปสู่ภูมิภาคได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top