Monday, 23 June 2025
Hard News Team

พรรคคอมมิวนิสต์จีนพบ “สร้างอนาคตไทย” แลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ

พรรคคอมมิวนิสต์จีนร่วมแสดงความยินดีกับการก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ “อุตตม” ชี้ ไทยควรกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน ร่วมแสวงหาโอกาสด้านการค้าการลงทุนรองรับอนาคตหลังโควิด

วานนี้ (9 พ.ค. 65) ที่ทำการพรรคสร้างอนาคตไทย  นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคฯ และทีมผู้บริหารพรรค อาทิ นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรคฯ นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรคฯ นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และนายบุญส่ง ชเลธร รองเลขาธิการพรรคฯ ให้การต้อนรับคุณ Peng Fei ที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับพรรคการเมืองไทย ที่เดินทางมาแสดงความยินดีในการก่อตั้งของพรรคสร้างอนาคตไทย

นายอุตตม กล่าวแสดงความขอบคุณต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน พร้อมเปิดเผยว่า พรรคสร้างอนาคตไทย มีเป้าหมายที่จะสร้างสรรค์เศรษฐกิจตั้งแต่ระดับฐานราก เพื่อดูแลประชาชนให้มีความสุข ซึ่งก็เป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่พรรคสร้างอนาคตไทย จะได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมทั้งความร่วมมือด้านต่างๆ ในอนาคต

“ประเทศจีนถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศและการดูแลประชาชน อีกทั้งโครงสร้างทางเศรษฐกิจจีนก็มีความคล้ายคลึงกับไทย คือเป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางเกษตรกรรม และขยายตัวขึ้นด้วยการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นประสบการณ์ของจีนจึงเป็นประโยชน์ต่อการที่ไทยจะนำมาเป็นต้นแบบในหลายๆ เรื่อง” นายอุตตม กล่าว

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนเองและนายอุตตม มีความคุ้นเคยกับประเทศจีนตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงที่บริหารกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าจีนเป็นมหามิตร พรรคสร้างอนาคตไทยจึงมีความยินดีที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมทั้งความร่วมมืออื่นๆ ในอนาคต เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ

“พรรคสร้างอนาคตไทยมีจุดยืนในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้นในอนาคตหากมีโอกาสร่วมบริหารประเทศ เชื่อว่าจะมีความร่วมมือกับประเทศจีนเกิดขึ้นในหลายๆ กรณี ทั้งนี้เพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของทั้งสองประเทศ” นายสนธิรัตน์ กล่าว

‘จีน’ แฉ!! ทุน NED ปั้นชาติ ปชต.จอมปลอม ก่อเหตุจลาจล เพื่อหนุนประโยชน์ให้มะกัน

เค้าลางการปะทะทางการทูตและเศรษฐกิจ ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ดูจะระอุมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสหรัฐฯ ปักหมุดรุกคืบในเอเชีย-แปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง เพื่อพุ่งเป้าปิดล้อมจีน รวมถึงโดดเดี่ยวรัสเซียอย่างออกนอกหน้าไม่ปิดบัง 

อย่างไรก็ตามทางการจีนได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วทั้งด้านเศรษฐกิจการเมืองและการทหาร โดยไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่ฝ่ายเดียว ผ่านท่าทีของเจ้าหน้าที่จีน และคำพูดของผู้นำที่ยกระดับเข้มข้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 

ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เผยแพร่รายงานเปิดโปงพฤติกรรมบ่อนเซาะ แทรกแซงของสหรัฐฯ ในโลกอย่างหมดเปลือกว่า แผนการร้ายทำลายประเทศอื่นๆ นั้นผ่านเข้ามาในฉากหน้าของประชาธิปไตยโดยหน่วยงานเอ็นจีโอหลักที่เรียกว่า NED 

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 65 สำนักข่าวโกลบอลไทมส์ รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยรายงาน การบริจาคเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ โดยองค์กร NED ของสหรัฐ หรือ The National Endowment for Democracy ซึ่งมีสถานะหนึ่งเหมือน ‘ทหารราบ’, ‘ถุงมือขาว’ และ ‘ครูเสดประชาธิปไตย’ ของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังการจลาจลแบ่งแยกดินแดน การปฏิวัติสี และวิกฤตทางการเมืองทั่วโลก โดยเอกสารข้อเท็จจริงที่เผยแพร่โดยกระทรวงการต่างประเทศจีน เมื่อวันเสาร์ที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า... 

รัฐบาลหุ่นเชิดในประเทศต่างๆ และการปลูกฝังกองกำลังหุ่นเชิดที่สนับสนุนสหรัฐฯ เกิดขึ้นภายใต้ข้ออ้างว่าส่งเสริมประชาธิปไตย

ประเทศจีนเป็นเป้าหมายหลักของกิจกรรมการแทรกซึมและการโค่นล้มของ NED มานานแล้ว NED ลงทุนมหาศาลในโครงการต่อต้านจีนที่มุ่งแบ่งเขตซินเจียง ทิเบต และฮ่องกงออกจากจีน 

อย่างไรก็ตาม จะสังเกตได้ว่าความพยายามใดๆ ที่จะเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆ ในนามของประชาธิปไตยนั้น ล้วนไม่เป็นที่นิยม และในที่สุดก็ประสบกับภาวะที่ล้มเหลว เฉกเช่นกรณีที่ฮ่องกง

ในรายงานดังกล่าว ยังระบุอีกว่า สหรัฐฯ ใช้ประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือและอาวุธมานานแล้ว เพื่อบ่อนทำลายประชาธิปไตยในนามของประชาธิปไตยจอมปลอม ยุยงให้เกิดความแตกแยกและการเผชิญหน้า และเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศอื่นๆ ซึ่งก่อให้เกิดผลร้ายตามมา คือ NED ได้ล้มล้างรัฐบาลที่ถูกกฎหมาย และปลูกฝังกองกำลังหุ่นเชิดของสหรัฐฯ ทั่วโลกภายใต้ข้ออ้างในการส่งเสริมประชาธิปไตย

“ซินหัว” ตีข่าว ชาวจีนเฝ้ารอทุเรียนไทยอย่างใจจดใจจ่อ แม้ราคาจะสูงกว่าปีที่แล้วแต่ขายหมดอย่างรวดเร็วทั้งตลาดออฟไลน์และออนไลน์

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ. และประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาผลไม้ล่วงหน้าในคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยวันนี้ (10 พ.ค) ว่า มีรายงานจากสำนักข่าวซินหัวของจีนว่าปีนี้ทุเรียนไทยเข้าสู่ตลาดจีนช้ากว่าปกติและมีราคาสูงขึ้น แต่ผู้บริโภคชาวจีนยังคงเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ

บรรดาซูเปอร์มาร์เก็ตและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน ทยอยวางจำหน่าย ‘ทุเรียนไทย’ กันแล้วและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ส่งสัญญาณว่า ‘ฤดูทุเรียน’ มาถึงแล้ว

ทุเรียนจากสวนในไทยจะถูกเก็บเกี่ยวและส่งออกด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ มุ่งสู่ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจว ไป๋อวิ๋น มณฑลกวางตุ้ง ทางใต้ของจีน จากนั้นจะกระจายไปยังทุกภูมิภาคของจีนอย่างรวดเร็ว

ร้านผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่เมืองกว่างซี บอกว่า ทางร้านได้รับทุเรียน 100 กล่อง ถูกกระจายสู่ร้านสะดวกซื้อ ขายให้ลูกค้าขาจร ทั้ง 100 กล่องหมดอย่างรวดเร็ว แม้ราคาจะสูงขึ้นกว่าปีก่อนก็ตาม

กก.ชายแดนไทย - กัมพูชา ประชุม RBC ครั้งที่ 28 พัฒนาความร่วมมือ เพื่อความผาสุกประชาชนทั้งสองประเทศ

วันนี้ (10 พ.ค.) การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 28 ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 กับภูมิภาคทหารที่ 5 หรือ RBC - 28 ณ สถานที่พักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก สวนสนประดิพัทธ์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพลโท สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 ฝ่ายไทย และพลเอก แอก ซอมโอน รองผู้บัญชาการทหารบกผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วม มีนายปริญญาโพธิสัตย์ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วคณะกรรมการคณะทำงานทั้งสองฝ่ายเข้าร่วม

ในการประชุมมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา ทบทวนถึงความก้าวหน้า และพัฒนาการในด้านต่างๆ ในพื้นที่ชายแดนส่งเสริมความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนเสริมสร้างความเจริญด้านเศรษฐกิจและสังคมเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ

ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันได้แก่ ความร่วมมือทวิภาคี ความร่วมมือการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก การสกัดกั้นการลักลอบสร้างสิ่งก่อสร้างที่ผิดกฎหมาย และการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงตามแนวลำคลองบริเวณชายแดน ไทย - กัมพูชา การประสานงานเรื่องปราบปรามการลักลอบตัดไม้ การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การกระทำผิดตามแนวชายแดน ปัญหายาเสพติด การลักลอบนำเข้าข้าวเปลือก การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติ โครงการร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน การจัดกิจกรรม การแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม และกีฬา ระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การส่งเสริมความร่วมมือด้านการแพทย์ทหารระหว่างกองทัพ 

“ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกับจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานต่างๆ บูรณาการฝึกซ้อมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล”

วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 เวลา 09.00 น. ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกับจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานต่างๆ บูรณาการฝึกซ้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล ณ บริเวณหน้าหาดอ่าวนาง (ลานประติมากรรมปลาใบ) ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมี พลเรือโท ก้องเกียรติ สัจวุฒิ รองเสนาธิการทหารเรือ / รองเสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ และพลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ / หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ นายกิตติพนธ์ วุฒิวงศ์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ร่วมชมการสาธิตในครั้งนี้

'ย้ง ทรงยศ' ประกาศยุติทุกบทบาท ‘นาดาว’ ชี้ ถึงเวลาแยกย้าย ปล่อยทุกคนเป็นอิสระ

หลังมีข่าวลือมาพักหนึ่งแล้วว่า บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด กำลังจะปิดค่าย ล่าสุด ‘ย้ง ทรงยศ’ ร่อนหนังสือประกาศยุติบทบาทของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยทางด้านของ "ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์" ผู้กำกับดังหนึ่งในผู้บริหารได้ออกหนังสือเผยว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยนานแล้วและการยุติบทบาทครั้งนี้ก็เพื่อให้แต่ละคนได้เติบโตในสิ่งที่แต่ละคนต้องการ โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า

“นาดาว บางกอก ขอแจ้งให้ทราบว่าทางบริษัทจะยุติบทบาทการเป็นบริษัทพัฒนาและดูแลศิลปิน รวมถึงการเป็นผู้ผลิตซีรีส์ ละคร หรือผลงานเพลงต่าง ๆ ตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้

"ตลอดระยะเวลา 12 ปีของ นาดาว บางกอก หน้าที่หลักของพวกเราคือ การพัฒนาและดูแลศิลปิน โดยมีความตั้งใจในการค้นหา พัฒนา และดูแลให้เกิด นักแสดง หรือศิลปิน ที่มีความสามารถ มีคุณภาพในทุกด้านเพื่อที่จะเป็นทางเลือกใหม่ ๆ และสร้างความหลากหลายให้อุตสาหกรรมบันเทิงไทย"

"โดยมีงานเสริมที่ตามมา คือ การผลิตซีรีส์ ละคร และผลงานเพลง ซึ่งเกิดขึ้นเพื่อสร้างงาน และสร้างโอกาสให้นักแสดง หรือศิลปินในสังกัดได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นพื้นที่ฝึกฝนฝีมือ และประสบการณ์ ในส่วนนี้ทำให้เราได้มีโอกาสสร้างคนทำงานเบื้องหลังรุ่นใหม่ ๆ ตามมาด้วย"

"พวกเราชาว นาดาว บางกอก รู้สึกขอบคุณ พี่ ๆ น้อง ๆ ในอุตสาหกรรมบันเทิง ผู้ใหญ่ที่เคารพทุกท่าน พาร์ตเนอร์ที่คอยสนับสนุน และอยู่เคียงข้างเรามาตลอด พี่ ๆ น้อง ๆ สื่อมวลชนที่ให้โอกาสศิลปิน นักแสดง และผลงาน นาดาว บางกอก ได้มีพื้นที่แนะนำตัว และประชาสัมพันธ์ รวมถึงแฟน ๆ ทุกคนที่ติดตาม และให้การสนับสนุนศิลปิน และผลงานนาดาวเสมอมา เราคงไม่สามารถดำเนินการมาจนถึงปีที่ 12 โดยขาดการสนับสนุนจากทุกคน"

‘บิ๊กตู่’ เตรียมพบ ‘โจ ไบเดน’ ถกความร่วมมือในภูมิภาค ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม มีกำหนดพบ โจ ไบเดนและผู้แทนระดับสูงของสหรัฐฯ เตรียมผลักดันความร่วมมือการขับเคลื่อนการฟื้นฟู และการเติบโตอย่างยั่งยืนของภูมิภาค ระหว่างเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2565 ตามคำเชิญของ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 โดยการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 2 นี้ สหรัฐฯ เป็นฝ่ายเสนอจัดขึ้น โดยเสนอทาบทามมาตั้งแต่ปลายปี 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และเพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน

‘ตระกูลมาร์กอส’ หวนกลับครองอำนาจอีกครั้ง หลัง ‘บองบอง’ คว้าชัยเลือกตั้งผู้นำฟิลิปปินส์ถล่มทลาย

เป็นไปตามคาด นายมาร์กอส จูเนียร์ หรือ บองบอง บุตรชายของอดีตผู้นำเผด็จการเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์อย่างถล่มทลาย พาตระกูลมาร์กอส กลับขึ้นมาครองอำนาจอีกครั้ง

เจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งฟิลิปปินส์ แถลงว่า ฟิลิปปินส์เริ่มนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีทันที หลังหน่วยเลือกตั้งปิด โดยผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการหลังนับคะแนนได้แล้ว 2 ใน 3 พบว่า นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายของอดีตผู้นำเผด็จการเฟอร์ดินานด์ มากอส ผู้ล่วงลับ มีคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งคนสำคัญเกินครึ่ง 

หน่วยเลือกตั้งปิดอย่างเป็นทางการในเวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งที่ยังต่อแถวรอหย่อนบัตรลงคะแนนได้จนหมด โดยชาวฟิลิปปินส์หลายล้านคนแห่หย่อนบัตรแน่นหน่วยเลือกตั้งเมื่อวันจันทร์ ซึ่งมีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงมากที่ตระกูลมาร์กอสจะกลับคืนสู่อำนาจ หลังเฟอร์ดินาน มาร์กอส ผู้พ่อ ถูกพลังประชาชนโค่นอำนาจเมื่อ 36 ปีก่อน 

ตั้งแต่ก่อนเช้ามืด ประชาชนที่ส่วนใหญ่สวมหน้ากากอนามัย พากันมาต่อแถวยาวเพื่อรอหย่อนบัตรเลือกตั้งตามหน่วยเลือกตั้งที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ 70,000 แห่ง โดยมีผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีถึง 10 คน ที่จะเข้ามารับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีโรดรโก ดูแตร์เต แต่มีเพียงมาร์กอส จูเนียร์ และเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดี คู่แข่งของเขาเท่านั้น ที่มีโอกาสเป็นผู้ชนะมากที่สุด

นอกจากเลือกตั้งประธานาธิบดีแล้ว ฟิลิปปินส์ยังจัดการเลือกตั้งอีกประมาณ 18,000 ตำแหน่งในคราวเดียวกันนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นรองประธานาธิบดี, สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, นายกเทศมนตรี, ผู้ว่าการจังหวัด และสมาชิกสภาท้องถิ่น

ผลการสำรวจความคิดเห็น ปรากฏว่า มาร์กอส จูเนียร์ หรือ “บงบง” วัย 64 ปี มีคะแนนนิยมนำคู่แข่งคนอื่น ๆ มากกว่า 30 จุด ถือว่าสูงที่สุดในปีนี้ ซึ่งนั่นหมายความว่า หากโรเบรโดจะเป็นผู้ชนะ เธอต้องได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นในช่วงสุดท้าย หรือไม่ก็มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์น้อย 

'มาครง' ชี้!! อีกหลายสิบปียูเครนถึงจะได้เข้าสหภาพยุโรป แนะตั้ง 'ประชาคมการเมืองยุโรป' รับรองแทนอียู

เมื่อวันจันทร์ (9 พ.ค.) ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ระบุว่า คงต้องใช้เวลา "นานหลายทศวรรษ" สำหรับผู้สมัครหนึ่งๆ อย่างเช่นยูเครน จะได้เข้าร่วมสหภาพยุโรป ดังนั้นแนะนำให้จัดตั้งประชาคมทางการเมืองที่ครอบคลุมและมีขอบเขตนอกเหนือจากกลุ่มอียูขึ้นมา ในนั้นอาจรวมถึงสหราชอาณาจักร

แนวคิดนี้ได้รับการขานรับในแง่บวกทันทีจาก โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ซึ่งระบุว่ามันเป็น "คำแนะนำที่น่าสนใจ" และบอกว่าเขา "มีความยินดียิ่ง" ที่จะหารือในเรื่องนี้กับผู้นำฝรั่งเศส

ยูเครน ซึ่งกำลังต่อสู้ต้านทานการรุกรานกับรัสเซีย กำลังหาทางเป็นสมาชิกอียู และทางคณะกรรมาธิการยุโรปบอกว่าจะตอบกลับคำร้องขอในเดือนหน้า ก้าวย่างสำคัญก่อนนำประเด็นนี้สู่การพิจารณาของบรรดารัฐสมาชิกต่อไป

อย่างไรก็ตาม มาครง กลบฝังความหวังของยูเครนในการรับเป็นสมาชิกอียูอย่างรวดเร็ว และแนะนำว่าการพิจารณาสร้างชมรมทางการเมืองนอกเหนืออียูอาจมีประสิทธิผลมากกว่า

"ผมขอพูดเรื่องนี้ด้วยความจริงใจ ด้วยความสัตย์จริงที่เรามีต่อชาวยูเครน" มาครงกล่าว "เราสามารถมีกระบวนการที่รวดเร็ว ในการตอบรับสถานะรัฐผู้สมัครของยูเครน แต่เรารู้ว่าด้วยมาตรฐานและบรรทัดฐานของเรา บางทีมันอาจใช้เวลาหลายทศวรรษสำหรับยูเครน ในการได้เข้าร่วมสหภาพยุโรปจริงๆ"

อย่างไรก็ตาม มาครง เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ยุโรปต้องความสำคัญกับยูเครนและผู้หวังเป็นสมาชิกอียูรายอื่นๆ อย่างเช่นมอลโดวาและจอร์เจีย โดยเขาเรียกร้องให้จัดตั้ง "ประชาคมการเมืองยุโรป" ขึ้นมา

มาครงกล่าวระหว่างต้อนรับการมาเยือนของโชลซ์ ว่าสหราชอาณาจักรก็อาจเข้าร่วมในประชาคมนี้เช่นกัน "สหราชอาณาจักรตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป แต่พวกเขาอาจมีที่ว่างในประชาคมทางการเมืองนี้"

'คนใกล้ชิดธนาธร' อัดกองทัพทำเรื่องบ้าบอกรณีลาซาด้า เพียงเพื่อความมั่นคงในตำแหน่งของตัวเอง

(10 พ.ค. 65) ธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน คนใกล้ชิดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanapol Eawsakul ว่าเห็นกองทัพทำอะไรบ้าๆ บอๆ เกี่ยวกับลาซาด้าแล้ว ชี้ชัดว่าสิ่งที่กองทัพทำนั้นไม่ได้เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชนแต่อย่างใด

แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นเป็นการแสดงเพื่อความมั่นคงในตำแหน่งของตัวเองเท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top