Wednesday, 25 June 2025
Hard News Team

ทูตสหรัฐฯ วอนรัสเซีย ‘อย่าเพิ่งสั่งปิดสถานทูตมะกัน’ ชี้!! 2 ชาติยังต้องคุยกัน แม้ความสัมพันธ์จะเลวร้าย

จอห์น เจ. ซัลลิแวน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมอสโก เรียกร้องรัฐบาลรัสเซียว่าอย่าได้สั่งปิดสถานทูตสหรัฐฯ เป็นอันขาด แม้วิกฤตการณ์ในยูเครนจะทำให้ความสัมพันธ์ย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม พร้อมย้ำว่าอย่างไรเสีย 2 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์รายใหญ่ที่สุดของโลกยังจำเป็นต้องพูดคุยกัน

ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน เอ่ยถึงการส่งทหารรุกรานยูเครนว่าเป็น 'จุดเปลี่ยน' ในประวัติศาสตร์รัสเซีย และเป็นการปฏิวัติต่อต้านการครองความเป็นใหญ่ (Hegemony) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้นำเครมลินบอกว่าใช้อิทธิพลข่มเหงรัสเซียมาตลอดตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลายเมื่อปี 1991

ฝ่ายยูเครน และบรรดารัฐตะวันตกที่ให้การสนับสนุนอ้างว่า นี่คือการต่อสู้เพื่อให้ยูเครนรอดพ้นจากแผนยึดดินแดนเยี่ยงนักล่าอาณานิคมซึ่งได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปแล้วนับพันคน ทำให้ชาวยูเครนอีกกว่า 10 ล้านต้องพลัดถิ่นฐาน และทำให้เมืองต่าง ๆ ของยูเครนกลายสภาพเป็นที่ดินรกร้าง (Wasteland)

ซัลลิแวน ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตที่ได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TASS ว่า วอชิงตันและมอสโกไม่ควรจะตัดสัมพันธ์ทางการทูตกันง่าย ๆ

“เราจะต้องคงไว้ซึ่งความสามารถในการพูดคุยกันเสมอ” เขากล่าว

ทูตอเมริกันผู้นี้ยังฝากเตือนไปยังชาติตะวันตกว่าไม่ควรที่จะถอดหนังสือของ เลโอ ตอลสตอย (Leo Tolstoy) นักเขียนชาวรัสเซียออกจากชั้นวาง และไม่จำเป็นที่จะต้องปฏิเสธการบรรเลงเพลงของ 'ปิออตร์ ไชคอฟสกี' (Pyotr Tchaikovsky) ด้วย

อย่างไรก็ดี รัสเซียประกาศแล้วว่า “การเล่นเอาเถิดเจ้าล่อ” กับตะวันตกในยุคหลังสหภาพโซเวียตได้จบสิ้นลงแล้ว และหลังจากนี้มอสโกจะหันไปขยายความร่วมมือกับมิตรประเทศในซีกโลกตะวันออก

‘สร้างอนาคตไทย’ ถอดรหัสเงินเฟ้อพุ่ง 7.10% ชี้!! ข้าวของที่เห็นว่าแพง ยังจะแพงต่อไปอีก

(7 มิ.ย.65) นายสันติ กีระนันทน์ ทีมเศรษฐกิจพรรคสร้างอนาคตไทย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม หนึ่งในคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า... 

ขอเขียนยาวหน่อยนะครับ ... ต้องอ่านให้จบครับ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นถึง 7.10% สูงสุดในรอบ 13 ปี !!! 

ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้ชี้แจงว่า เงินเฟ้อทั่วไป เดือน พ.ค. 2565 เท่ากับ 106.62 สูงขึ้น 7.10% สูงสุดในรอบ 13 ปี สาเหตุหลักมาจากราคาพลังงานและอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น และหากพิจารณากลุ่มอาหารกลุ่มเดียว ก็จะพบว่า ราคาสูงขึ้นถึง 6.18% และยังสรุปว่า เดือนมิถุนายน 2565 นี้ อัตราเงินเฟ้อก็ยังมีแนวโน้มขยายตัว 

แปลความง่าย ๆ ว่า ข้าวของที่เราเห็นว่าแพงในขณะนี้ ยังจะแพงต่อไปอีกครับ !!!

ในวันพุธที่ 8 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็จะมีการประชุม ซึ่งก็ต้องจับตาดูว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานั้น กนง. ได้พยายามชี้แจงว่า ภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นนั้น จะเป็นภาวะชั่วคราวเท่านั้น และจะปรับตัวดีขึ้น จึงจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยให้เหตุผลว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ในความเห็นข้างต้นของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ผมได้แสดงความไม่เห็นด้วยมาอย่างต่อเนื่อง (ย้ำครับว่า ผมไม่เห็นด้วย !!!) 

ด้วยเหตุผลสำคัญคือ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของคนในประเทศไทยที่อยู่ในระดับสูงนั้น อัตราเงินเฟ้อหรือพูดง่าย ๆ เป็นภาษาชาวบ้านว่า ข้าวของแพงขึ้นนั้น จะทำร้ายคนส่วนใหญ่ของประเทศอย่างรุนแรง เพราะความเหลื่อมล้ำในระดับสูงนั้น แสดงถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศยังยากจนอยู่มาก ข้าวของแพงขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ประกอบกับระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงมากเกือบ 100% ของ GDP 

อย่างในขณะนี้นั้น รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีการทำงานสอดประสานกันอย่างไรเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของคนกลุ่มนี้ ... คำถามนี้เป็นคำถามใหญ่ และเป็นสิ่งที่นโยบายการคลัง (โดยรัฐบาล คือ กระทรวงการคลัง) และนโยบายการเงิน (โดยธนาคารแห่งประเทศไทย) ต้องมีการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง มิฉะนั้นแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจะอยู่อย่างไร

‘สเตฟานี แมตโต’ สาวสวยผู้อัด ‘ตด’ ใส่โหลขาย เปิดไอเดียใหม่ ขายเหงื่อที่ไหลจากหน้าอก 

แม้จะฟันรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการขายตดขวดละ 1,000 ดอลลาร์ไปก่อนหน้านี้ แต่สาววัย 31 ปี จากรัฐคอนเนตทิคัต ก็จำต้องเลิกธุรกิจผายลมไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากที่เธอตั้งหน้าตั้งตากินอาหารจำพวกถั่วและไข่เพื่อผลิต ‘แก๊ส’ มากเกินไปจนเข้าโรงพยาบาล

แต่แฟนๆ ที่เป็นห่วง สเตฟานี ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะตอนนี้เธอ กลับมาแข็งแรงดีแล้ว แถมยังออกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น ‘เหงื่อ’ จากหน้าอกที่เธอลงทุนไปนั่งตากแดดวันละหลายชั่วโมงเพื่อผลิตมัน

สเตฟานี เล่าว่า ถ้าวันไหนแดดดีๆ เธอสามารถผลิตเหงื่อใส่ขวดโหลได้มากถึง 10 ขวด และขายในราคาขวดละ 500 ดอลลาร์ (ราว 17,300 บาท) ซึ่งทำให้เธอมีรายได้เหนาะๆ วันละเกือบ 2 แสนบาท

“ฉันชอบนั่งเล่นริมสระว่ายน้ำอยู่แล้ว แต่มันก็เป็นงานที่หนักนะ อย่าคิดว่าหมูๆ” เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อ Jam Press

“หน้าอกฉันใหญ่ขนาดนี้ ถ้าแฟนๆ ได้ดมกลิ่นหรือเลียเหงื่อของฉัน ก็จะทำให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดฉันมากขึ้น”

‘ครูปรีชา’ ไม่จบ! ลุยฟ้องแพ่ง ‘ลุงจรูญ’ ต่อ แม้ศาลฎีกาชี้ขาดแล้ว ลั่น ‘ความจริงก็คือความจริง’

‘ครูปรีชา’ เดินหน้าฟ้องคดีแพ่ง ‘หมวดจรูญ’ต่อ พร้อมเผยมีหลักฐานสำคัญ ที่ชี้ชัดว่าเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ย้ำวลีเดิม ‘ความจริงก็คือความจริง’

ภายหลังจากศาลฎีกา พิพากษายกฟ้อง คดีที่ครูปรีชา ใคร่ครวญ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ และรับของโจร คดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ที่ยื่นฟ้องร้องตั้งแต่ปี 2560 แล้วนั้น

ล่าสุด ครูปรีชา กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจใดๆ ที่ทีมทนายของหมวดจรูญ จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับตนและกลุ่มพยานของตน แม้คดีนี้ศาลจะมีคำพิพากษายกฟ้องหมวดจรูญ แต่ตนเองซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ก็ไม่ได้ถือว่าแพ้คดี เพราะคำพิพากษาศาล ก็ยังไม่ได้ระบุว่าสลากฯชุดที่ถูกรางวัลเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร ซึ่งตนก็จะพิสูจน์ความจริงต่อด้วยการฟ้องคดีแพ่ง เพื่อพิสูจน์สิทธิความเป็นเจ้าของของสลากฯชุดที่ถูกรางวัล เนื่องจากเป็นการต่อสู้และใช้สิทธิตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งตนยืนยันว่า ตนเองและทีมทนายความมีพยานหลักฐานอีกหลายชิ้นที่พบในภายหลัง และไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการต่อสู้พิจารณาคดีในชั้นศาลที่ผ่านมา ซึ่งก็จะนำมาใช้ในการฟ้องแพ่งเพื่อพิสูจน์สิทธิการครอบครองสลากฯชุดที่ถูกรางวัลดังกล่าวต่อไป

ครม.ไฟเขียว ชาวซาอุฯ เข้าไทยไม่ต้องขอวีซ่า ‘บิ๊กตู่’ โอ่ เป็นความสำเร็จต่อยอดฟื้นสัมพันธ์

ครม.ไฟเขียว นักท่องเที่ยวซาอุฯ เข้าไทยไม่ต้องขอวีซ่า ‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม ความสำเร็จต่อยอดฟื้นความสัมพันธ์

เมื่อเวลา13.50 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า วันนี้ครม.อนุมัติให้ผู้ถือหนังสือเดินทางจากราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้ 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า ถือเป็นการต่อยอดจากผลสำเร็จที่ตนได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบียขึ้นมาอยู่ในระดับปกติ จนนำไปสู่การต่อยอดความร่วมมือ ทั้งการส่งออกเรื่องอาหาร แรงงาน การเปิดเที่ยวบินจากกรุงเทพ- ริยาด เมืองหลวงประเทศซาอุดิอาระเบีย ก็จะทำให้ชาวซาอุดิอาระเบียเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก จะได้มีโอกาสให้ประชาชนทั้งภาคส่งออก แรงงาน และท่องเที่ยวได้รับประโยชน์ นี่เป็นผลงานความสำเร็จของเราที่ช่วยกันทำมาทั้งภาครัฐและเอกชน เราต้องภูมิใจร่วมกันที่มีการร่วมมือจนมีความสำเร็จมาได้ถึงวันนี้

ต่อมาเวลา น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.อนุมัติในหลักการการเพิ่มซาอุดีอาระเบียในรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และอยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 30 วัน ทั้งนี้เป็นผลจากการที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการและทั้งสองฝ่ายได้ประกาศปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้กลับสู่ระดับปกติอย่างสมบูรณ์ ผลการหารือที่สำคัญด้านหนึ่งคือ การส่งเสริมการติดต่อระหว่างภาคประชาชน โดยจะทำให้มีชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น จากเดิมรัฐบาลซาอุดีอาระเบียจะอนุญาตให้ชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมายังประเทศไทยปีละประมาณ 30,000 คน เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 100,000-150,000 คน

กองทัพบก ไม่ผ่า GT200 แล้ว เตรียมคืนงบ 2- 3 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2565  ที่สโมสรกองทัพบก วิภาวดี พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะ โฆษกกองทัพบก ได้เปิดเผยถึง กรณีที่มีการอภิปรายในการตั้งงบประมาณเพื่อการตรวจสอบเครื่องตรวจจับสารเสพติด อาวุธ และวัตถุระเบิด (GT 200 Detection Substances) ของกองทัพบกว่า  ขณะนี้สิ้นสุดแล้วไม่ต้องผ่าพิสูจน์

เมื่อถามว่าไม่ต้องผ่าไม่ต้องผ่าเครื่องGT200 แล้ว ใช่หรือไม่ พล.อ.สันติพงษ์ กล่าวว่า “ไม่ต้องผ่าแล้ว”

“ยืนยันว่างบประมาณปี 66 ไม่ได้ตั้ง ในส่วนงบประมาณปี2565 ก็ไม่ต้องใช้ เราก็ต้องคืน ประมาณ 2-3 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาเรามีการผ่าพิสูจน์ไปแล้ว 320 เครื่อง 

เมื่อถามว่าได้มีการทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อเพื่อเป็นลายลักษณ์อักษรว่าไม่ต้องผ่าเครื่องGT200 แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.สันติพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้รอหนังสือตอบรับจากอัยการสูงสุดอยู่

“ยืนยันกองทัพบกจะใช้งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ” พล.อ.สันติพงศ์ กล่าว 

รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ ยันไร้วีไอพีลัดคิวผ่าตัด แม้พ่อแม่เด็ก 12 ไส้ติ่งแตกตาย ยังคาใจ

จากกรณีน้องต้นน้ำ อายุ 12 ขวบ ซึ่งปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.1 เสียชีวิตจากอาการไส้ติ่งแตก และติดเชื้อในกระแสเลือด ขณะถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เพื่อรอการผ่าตัด ทำให้พ่อและแม่ ยังคงคาใจและออกมาร้องขอความเป็นธรรมนั้น

โดยพ่อของน้องต้นน้ำ ได้เล่าว่า ช่วงบ่ายของวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ลูกชายมีอาการปวดท้อง จึงพาไปที่โรงพยาบาลพุทไธสง แพทย์วินิจฉัยว่า เป็นไส้ติ่งอักเสบ และทำเรื่องส่งตัวไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ประมาณเที่ยงคืน เจ้าหน้าที่เวรเปลได้เข็นลูกชายเข้าไปในห้องผ่าตัด โดยที่ตัวเองนั่งรออยู่ด้านนอก แต่ไม่นาน เจ้าหน้าที่เวรเปลคนเดิมได้เข็นลูกชายออกมา จึงรู้สึกแปลกใจและเข้าไปสอบถาม ก็ได้รับคำตอบว่า แพทย์มีคนไข้พิเศษ 2 คน ซึ่งประโยคนี้เองที่ทำให้พ่อติดใจ กระทั่งน้องต้นน้ำ เข้ารับการผ่าตัดในวันที่ 30 พฤษภาคม และในคืนวันที่ 31 น้องต้นน้ำ ก็เสียชีวิตจากอาการไส้ติ่งแตก และติดเชื้อในกระแสเลือด

อย่างไรก็ตาม ด้าน นายแพทย์รักเกียรติ ประสงค์ดี รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ก็ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวนี้ว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า น้องต้นน้ำ มีอาการปวดท้องน้อยข้างขวามาประมาณ 1 วัน ก่อนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพุทไธสง และส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ แพทย์จึงผ่าตัดในช่วงเย็นวันที่ 29 พฤษภาคม แต่อาการของน้องเปลี่ยนแปลง หัวใจเต้นแรงมากขึ้น จึงต้องให้น้ำเกลือ ประกอบกับผู้ป่วยมีน้ำหนัก 83 กิโลกรัม อยู่ในสภาวะน้ำหนักมาก

'ชวน หลีกภัย' เข้ารับพระราชทาน ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ใบที่ 18

จากเฟซบุ๊กเพจ ‘ชวน หลีกภัย Chuan Leekpai’ ของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการโพสต์รูปภาพและข้อความว่า…

เมื่อ 4 มิถุนายน 2565 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้ารับพระราชทานปริญญานิเทศศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แขนงวิชานวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและการปกครองท้องถิ่น ในฐานะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถอย่างยิ่งในด้านการเมืองการปกครอง ณ อาคารอเนกนิทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นับเป็นปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ใบที่ 18

สำหรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ใบแรกจนถึงใบที่ 18 มีดังต่อไปนี้

1. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. 2528
2. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. 2530
3. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ พ.ศ. 2536
4. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. 2537
5. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล พ.ศ. 2541
6. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัย San Marcosสาธารณรัฐเปรู พ.ศ. 2542
7. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาปรัชญา การเมืองและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต พ.ศ. 2545
8. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้า พ.ศ. 2547
9. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2549

‘บอริส จอห์นสัน’ ได้นั่งเก้าอี้นายกฯผู้ดีต่อ หลังรอดมติไม่ไว้วางใจจากพรรคตัวเองฉิวเฉียด

นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสันของอังกฤษ รอดจากการลงมติไม่ไว้วางใจของ ส.ส.พรรคตัวเอง แต่คะแนนโหวตชี้ว่า เกือบครึ่งไม่สนับสนุนเขาต่อไปแล้ว

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ รอดพ้นมติไม่ไว้วางใจในพรรคอนุรักษ์นิยมของตนเองอย่างเฉียดฉิวเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวน 211 ลงมติไว้วางใจนายจอห์นสัน ขณะที่สมาชิกอีก 148 คนลงมติไม่ไว้วางใจ

นายจอห์นสัน จำเป็นต้องได้รับคะแนนไว้วางใจจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมอย่างน้อย 180 เสียง จากจำนวนทั้งหมด 359 เสียง โดยจำนวนเสียงไม่ไว้วางใจนี้มีเพียง 148 เสียง ซึ่งส่งผลให้นายจอห์นสันรอดพ้นการลงมติไม่ไว้วางใจในครั้งนี้

ทั้งนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมได้จัดการลงมติไม่ไว้วางใจนายจอห์นสันเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนและสมาชิกรัฐสภาต่อการที่รัฐบาลอังกฤษจัดงานเลี้ยงสังสรรค์หลายครั้งที่บ้านพักนายกรัฐมนตรีในช่วง 2 ปีที่อังกฤษมีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

หากนายจอห์นสันพ่ายแพ้ในการลงมติครั้งนี้ เขาจะต้องลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรค และตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมจะทำการเฟ้นหาผู้นำคนใหม่ โดยนายจอห์นสันจะไม่มีสิทธิ์ลงสมัครแข่งขันอีกครั้ง เพราะเขาเป็นผู้นำที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง


ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2022/205758

'เอ๋' แซะ!! ทำไม 'ชัชชาติ' ต้องปลุกเลขาฯ ตี5 โว!! ลูกน้องลุงตู่ตื่นเช้ามากทุกคนไม่ต้องเตือน

(7 มิ.ย.2565) หลังปรากฎข่าวนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากทม.ปลุกเลขาฯ ตื่นมาประชุมตอนตี 5 ล่าสุด นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า… 

เป็น #เรื่องปกติ ที่ผู้นำจะต้องตื่นเช้าเพื่อมาทำงานให้ประชาชน แต่.. #เรื่องไม่ปกติ คือทำไมต้องปลุกเลขา หรือทำไมต้องให้เจ้านายไลน์มาเตือนด้วย #ปารีณาสงสัย

ลูกน้องพลเอกประยุทธ..ตื่นเช้ามาก..ทุกคน ไม่ต้องตาม ไม่ต้องเตือนค่ะ


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=582889873198081&id=100044312192325 

https://www.thaipost.net/x-cite-news/156420/?fbclid=IwAR1S55Bpdrgag4kcOp3rcrg_xUvba5SGrqpWds-QXV-ODl_nsxkYfjErL9g


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top