‘เพจดัง’ งัดหลักฐานแฉ ‘แอมเนสตี้’ หนุนม็อบประท้วงป่วนช่วง APEC 2022

(12 พ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ข้อความว่า #เรื่องใหญ่แล้วนะวิ สรุปพวกมรึงจะไม่ให้ประเทศสงบสุขบ้างเลยเลยใช่ไหม? ได้! งั้นเดี๋ยวจัดให้ หลังจากเก็บมือเก็บเท้า เจี๋ยมเจี๊ยมมาพักใหญ่ จนกระแสไล่แอมเนสตี้เริ่มซาลง นั่นล่ะฮะ คุณผู้ชม มันก็มากวนตีนเราอีกครั้ง

ล่าสุดแบบสด ๆ ร้อน ๆ มี เอกสารฉบับหนึ่ง ถูกเผยแพร่ออกมาโดยแอมเนสตี้เอง เอกสารนี้ชื่อว่า “PROTECT THE PROTEST - FLAGSHIP CAMPAIGN ON THE RIGHT TO PROTEST AND PEOPLE’S MOVEMENTS, OPERATIONAL PLAN JUNE 2022-DECEMBER 2023”

เอกสารนี้เกี่ยวกับอะไรน่ะเหรอ ข้อมูลชุดนี้คือ เอกสารที่แอมเนสตี้ได้กำหนดการแทรกแซงในหลายประเทศ โดยมีการกำหนดเป้าประสงค์ กำหนดวิธีการ และตั้งปฏิทินไทม์ไลน์ตั้งแต่กลางปี 2022 ไปจนถึงปลายปี 2023

และไทยก็เป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ตกเป็นเป้าหมาย ในการปฏิบัติการเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลไทยในทุกโอกาส โดยใช้ข้ออ้างเรื่อง ‘สิทธิเสรีภาพ’

นั่นหมายความว่า ทุกกลุ่มทุกก๊วนที่ออกมารวมตัวประท้วงช่วง APEC ก็อาจจะมีองค์กรอีแอบ หรือ แอมเนสตี้ ที่ช่วยสนับสนุนการเคลื่อนไหว เพราะตัวแอมเนสตี้ ร่างเป้าประสงค์ออกมาเองเลยว่า ต้องเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ทุกกลุ่มในการประท้วง แล้วพวก ‘เครือข่ายราษฎร’ และ ‘Amnesty International Thailand’ ก็ทำตามตำราของมันจริงๆ ด้วย

ฉะนั้น เครือข่ายคนรุ่นใหม่ กลุ่มทะลุแก๊ส ทะลุฟ้า ทะลุแก๊ซ เครือข่ายพีมงพีมู๊ฟ หรือราษฎรหยุด APEC 2022 ไม่ว่ามรึงจะใช้ชื่อบ้าบออะไรก็ตาม มาก่อม็อบป่วนการประชุม APEC ก็เชื่อได้ว่า มาจากการสนับสนุน จากองค์กรต่างชาติเหล่านี้แน่นวลจ้ะพี่จ๋า

นอกจากนั้นแล้ว เอกสารชุดนี้ยังระบุอีกด้วยว่า แอมเนสตี้มีเป้าประสงค์ในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎหมายต่างๆ ที่ขัดขวาง ‘สิทธิเสรีภาพในการชุมนุม’ และเมื่อแอมเนสตี้ ที่อยู่ในฐานะองค์กร NGO ต่างชาติ แล้วต้องการเปลี่ยนแปลงกฎหมายของไทย นั่นหมายความว่า องค์กรต่างชาติรายนี้ พยายามแทรกแซงกฎหมายของไทย และเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด

สิ่งสุดท้ายที่น่าสนใจก็คือ การที่แอมเนสตี้ปรับเปลี่ยนวิธีเคลื่อนไหว ด้วยการเชื่อมกับเครือข่ายม็อบกลุ่มน้อยใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นพวก NGOs แล้วมันก็ดูคล้ายกับว่า พวกเขากำลังกลัว ‘ #กฎหมายควบคุมNGOs ‘ ที่รัฐบาลนี้กำลังผลักดัน จึงต้องรวมตัวกับ NGOs องค์กรอื่นๆ ให้แน่นแฟ้นเข้าไว้ เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเขาจะต้องร่วมกันเคลื่อนไหวต่อต้าน ‘กฎหมายNGOs’ ไม่งั้น ทุกกลุ่ม จะโดนตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยง ว่ารับเงินมาจากไหน เอามาทำอะไร เอาเงินไปใช้ทำตามเป้าประสงค์จริงหรือเปล่า หรือ แอบเอาไปซื้อแก๊ดเจ็ต และถ้าการตรวจสอบมันเข้มข้นมาก ลุงแก่ใจดีสปอร์ตอาจจะตัดท่อน้ำเลี้ยงก็เป็นได้ มุแง้

ดังนั้น เราจึงต้องสนับสนุน ‘กฎหมายควบคุม NGOs’ ให้สุดซอย และ พวก NGOs ระยำที่รับเงินต่างชาติมาแทรกแซงไทย ก็ไม่ควรจะให้อยู่ในประเทศไทยอีกต่อไป


ที่มา : https://www.thaipost.net/x-cite-news/261359/